bloggang.com mainmenu search
สวัสดีวันจันทร์ค่ะ เริ่มแรกวันทำงานอันสดใสของสัปดาห์
ด้วยคติพจน์แห่งการประพฤติตนในสถานทำงานกันหน่อย
ข้อมูลนี้มีที่มาจาก //www.nidambe11.net ค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะเจ้าคะ
เรามาเริ่มกันเลยค่ะ

เคล็ดลับความสำเร็จในสถานที่ทำงานนั้นขึ้นอยู่กับ
ความเข้าใจ "วัฒนธรรมของการทำงาน"

ก.ข้อเตือนสติห้าประการ

1.อย่าพูดหรือฟังเรื่องไร้สาระระหว่างทำงาน
ซึ่งจะทำให้คนอื่นเข้าใจไปว่าทั้งผู้พูดและผู้ฟังต่างว่าง ไม่มีงานทำ

2.อย่าเกียจคร้าน โดยต่อหน้าผู้บังคับบัญชาก็ทำเสมือนขยัน
หมั่นเพียร แต่ลับหลังกลับกลายเป็นคนละคน
ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ย่อมจะถูกจับได้ ไม่ช้าก็เร็ว

3.อย่านำเอาทรัพย์สินของบริษัทติดตัวกลับบ้านไป
ไม่ว่าสิ่งของนั้นจะใหญ่หรือเล็กเพียงใดก็ตาม
การไม่ยักยอกสิ่งของเล็กน้อยเป็นการสร้างชื่อเสียง
ที่ดีให้แก่ตนเอง(ซึ่งจะได้รับการตอบแทนจากบริษัท
อย่างสมเกียรติในที่สุด) และไม่เสี่ยงต่อการเสียชื่อเสียง
หรือเกียรติประวัติของตน

4.อย่าแต่งตัวแต่งกายนอกรูปแบบ
การที่สุภาพสตรีแต่งกางเกงยีนส์ หรือสุภาพบุรุษรวบผมหางม้า
เท่ากับสร้างบรรยากาศที่ไม่เข้ากับสถานที่ทำงาน
หรือสร้างบรรยากาศที่แจ่มใสงดงาม
แต่ทำลายเอกภาพของที่ทำงานด้วย

5.อย่าใช้เวลาทำงานไปทำเรื่องส่วนตัว
เช่น ไปซื้อเสื้อผ้า เสริมสวย ตัดผม เป็นต้น

ข.อาวุธประจำตัวห้าชนิด

1.กล้ารับผิดชอบ พนักงานส่วนมากคิดแค่รับผิดชอบ
เฉพาะในสิ่งที่ถูกสั่งให้ปฏิบัติ โดยหารู้ไม่ว่าทรรศนะดังกล่าว
ไม่ช่วยให้ตนได้รับการพิจารณาในตำแหน่งรับผิดชอบที่สูงขึ้น
"ความกล้าในการรับผิดชอบ" ไม่ใช่ "การรับผิดชอบที่ไร้สติ"
แต่เป็นการเข้าใจเกี่ยวกับ "การรับผิดชอบต่อตัวเอง"

2.สามารถค้นพบความสุขในการทำงาน ซึ่งเป็นเคล็ดลับ
ที่มาจากประสบการณ์ในการทำงาน พนักงานต้องไม่ทำ
หน้าเศร้าหมองในการปฏิบัติ ซึ่งมีผลทางลบต่อตนเอง
และเพื่อนร่วมงาน ทั้งนี้ การเข้าใจความหมายของงาน
ที่ได้รับมอบหมายจะช่วยทำให้รู้ซึ้งถึงความเหมาะสมของตน
ต่องานนั้นๆ ซึ่งจะนำไปสู่ความสุขได้

3.แม้งานที่ตนชอบทำอาจยากลำบาก
แต่ทรรศนะของตนต่องานนั้นจะช่วยการต่อสู้หรือเผชิญหน้ากับ
ความยากดังกล่าว นี่ก็คือการพัฒนาทัศนคติที่สร้างสรรค์เพื่อ
เผชิญหน้ากับการท้าทายต่างๆ ทัศนคติดังกล่าวจะนำไปสู่การเรียนรู้
แนวทางการแก้ปัญหาและความไม่หวาดผวาต่อการท้าทายต่างๆ

4.สร้างจิตสำนึกแห่งเอกภาพที่เข้มแข็ง
อันนี้ไม่รู้เป็นยังไง แหล่งที่มาไม่ได้ขยายความไว้เสียด้วยค่ะ
ใครรู้! อย่าลืมมาเพิ่มเติมไว้ใน comment ด้วยแล้วกันค่ะ

5.ปลูกฝังนิสัยการแสวงหาความรู้ตลอดชีวิต
บางบริษัทได้ออกคำเตือนถึงพนักงานว่า
"หากไม่เปลี่ยนสมอง ก็ต้องเปลี่ยนคน"
ดังนั้นในยุคโลกาภิวัตน์แห่งการแข่งขันที่รุนแรงยิ่งขึ้นนั้น
"ตลาดสามารถทอดทิ้งบริษัท และบริษัทก็
สามารถทอดทิ้งพนักงาน"
ดังนั้น เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
พนักงานจึงต้องปรับปรุงเรียนวิชาการใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

ค.การจัดการกับประเภทบุคคลปัญหาในที่ทำงาน

1.พวกที่ชอบซุบซิบนินทาใส่ความ สร้างความเดือดร้อน
ให้แก่ผู้อื่น
ในกรณีนี้จะต้องพยายามปิดปาก (ตนเอง) คือไม่ไปตั้งวงนินทากับเขา
และไม่ให้ความสำคัญ ความน่าเชื่อถือต่อคำพูดในหมู่เพื่อนร่วมงานค่ะ

2.พวกช่างบ่น ชอบแสดงความไม่พอใจ
ในสภาพการณ์เช่นนี้ พนักงานต้องปรับจิตใจของตน
รับฟังคำบ่นบ้าง แต่พยายามอย่าทำตัวเป็นคนขี้บ่น
หรือสร้างความรำคาญให้กับคนอื่นเสียเอง

3.พวกชอบแสดงตนว่าเป็นผู้รู้ทั้งๆ ที่ตนเองรู้เพียงผิวๆ เผินๆ
(พวก "น้ำส้มสายชูครึ่งขวด") บุคคลเหล่านี้พยายามสร้าง
ความประทับใจโดยแทรกตัวเองเข้าไปทุกเรื่อง
วิธีแก้คือพยายามหุบปาก และใช้เวลาไปแสวงหาข้อเท็จจริงแทน
การค้นพบความจริงโดยเอาเวลาจากการไปพูดแทรกที่อื่น
จะทำให้เกิดการวางตัวที่ดีขึ้น บุคคลจำพวกนี้ต้องตระหนักว่า
การไม่แสดงว่าตนรู้ (ทั้งๆ ที่ไม่รู้แท้จริง) ไม่ได้หมายความว่า
จะสูญเสีย ความเคารพหรือความเชื่อถือไป

4.พวกที่เอาใจเบื้องบนแต่ดูถูกรังแกเบื้องล่าง
(พวก "ตบตูดม้า") สุภาษิตโบราณกล่าวไว้ว่า
"คนจริงไม่เปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริง"
ต้องหัดมองและปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมงานในระดับเท่าเทียมกัน
ส่วนนี้เขาไม่ได้บอกว่าให้จัดการอย่างไร
แต่ จขบ. คิดเอาเองว่าอย่าไปยุ่งกับคนอย่างนี้ น่าจะดีที่สุด

5.พวก "นางสุนัขจิ้งจอก" มารยาสาไถย
สถานที่ทำงานไม่ควรเป็นสถานที่แสดงมารยาร้อยเล่มเกวียน
ส่วนนี้ก็ไม่ได้บอกว่าวิธีการจัดการไว้เหมือนกัน
จขบ. เลยคิดเองว่าน่าจะหมายถึงให้เรารู้เท่าทันมารยาของคนเหล่านี้

ปิดท้ายด้วยประสบการณ์จริงในที่ทำงานของ จขบ. ค่ะ
เป็นประสบการณ์สำหรับคนที่ทำงานแล้ว
มันมีมากกว่า 5 จำพวกนี้นะคะ
เอ! หรือว่าจะพบเฉพาะในระบบราชการกันนะเนี่ย
คือว่าพวกนี้เขาจะเข้าเกียร์ว่างไม่ทำงานเต็มประสิทธิภาพกันค่ะ
(ช่างสอดคล้องกับที่ปรากฏเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์เสียจริงๆ)
ครั้นผู้บังคับบัญชาจำจี้จำไชมากก็อาจจะเสียผู้ใหญ่ได้
หรือไม่ก็อาจถูกกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งผู้ใต้บังคับบัญชา
โดยเฉพาะกับคนที่เป็นผู้ใหญ่วัยใกล้เกษียณ เงินเดือนใกล้จะตันเนี่ย
รู้สึกว่าจะเป็นกันมาก เฮ้อ กลุ้มใจแทนผู้บังคับบัญชาค่ะ

บ่นแค่นี้พอดีกว่า เดี๋ยวคนอื่นจะพลอยมูดดี้กันทั้งอาทิตย์ไปด้วย
เดี๋ยวไปนั่งคิดหาวิธีจัดการกับคนประเภทนี้ดีกว่า อิอิ

Create Date :11 มิถุนายน 2550 Last Update :11 มิถุนายน 2550 16:26:07 น. Counter : Pageviews. Comments :15