bloggang.com mainmenu search


ถ้าบ่อยครั้งที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้าเพลียไปหมดทั้งกายและใจ
รู้สึกท้อแท้ด้วยสารพัดเรื่องคิดมากจนปวดหัว
หน้าตาหม่นหมองเหมือนโดนของหรือผีเข้า ไปทางไหน
ก็มีแต่คนทัก "เอ๊ะ!เธอเป็นอะไรหรือเปล่า" ก็ยิ่งทำให้
เรารู้สึกกังวลเข้าไปใหญ่ ใครมีปัญหาแบบนี้
เตรียมเฮได้แล้วเพราะเรามีวิธีเติมพลังกายและใจ
ให้กับตัวเองแบบง่ายๆ มาฝากกัน ดังนี้จ้า

เริ่มจาก

emoemoemoemoemo

1.นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับจะช่วยชดเชยพลังงานที่คุณใช้ไป
ในช่วงกลางวันอีกทั้งยังช่วยเติมพลังให้กับร่างกาย
และสมอง ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
ดังนั้นจึงควรนอนหลับให้เต็มอิ่ม (จะมากหรือน้อย
แค่ไหนแล้วแต่บุคคล) เพื่อเวลาคุณตื่น
จะได้รู้สึกสดชื่นและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

2. เติมพลังด้วยอาหารมื้อเช้า
แม้ว่าช่วงเช้าจะเป็นเวลาที่เร่งรีบที่สุด แต่การ
อดมื้อเช้าแล้วไปรวบยอดเป็นมื้อกลางวัน (เผลอๆ
บางคนเลยไปเป็นบ่ายกว่าๆ) ปล่อยให้ท้องว่าง
อยู่หลายชั่วโมง นานวันเข้าอาจมีผลต่อประสิทธิภาพ
ในการทำงานของสมอง ทำให้ความจำเสื่อมสมองตื้อ
คิดอะไรไม่ออก ร่างกายเฉื่อยชาและเป็นโรคกระเพาะในที่สุด
ซึ่งถ้าใครอยากทำงานอย่างคล่องแคล่วและกระตือรือล้น
ตลอดทั้งวัน จึงควรเติมพลังด้วยอาหารมื้อเช้าจะดีที่สุด

emoemoemoemoemo

3. เลี่ยงมื้อเที่ยงที่หนักหน่วง
อาหารมื้อเที่ยงมื้อใหญ่ จะทำให้คุณรู้สึกหนังท้องตึง
หนังตาหย่อนได้ก่อให้เกิดการง่วงเหงาหาวนอนอย่าง
หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงควรทานอาหารมื้อเที่ยงแต่พออิ่ม
เท่านั้น แล้วค่อยไปหนักเอามื้อเย็นกับคนรู้ใจก็แล้วกันนะ

4. ลดอาหารไขมันสูงและอาหารที่มีสารกระตุ้น
อาหารประเภทของหวาน อย่าง ช็อคโกแลต ชาและกาแฟ
อาจทำให้คุณรู้สึกสดชื่นก็จริงอยู่ แต่ก็ทำได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น
พอหมดฤทธิ์คาเฟอีน ก็จะทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยหน่าย
จนถึงปวดหัวได้ ส่วนอาหารที่มีไขมันสูง จะทำให้คุณอืดอาด
ขาดชีวิตชีวา ดังนั้นถ้าอยากรักษาความกระฉับกระเฉง
ไว้ตลอดทั้งวัน ควรเปลี่ยนอาหารมื้อว่างของคุณเป็นจำพวก
ผลไม้หรือน้ำผลไม้ จะดีกว่าเพราะทำได้ทั้งคุณค่าอาหาร
และความสดชื่น แถมยังมีเอนไซน์ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค
และช่วยรักษาความอ่อนเยาว์ให้กับ เซลล์ผิวอีกด้วย

emoemoemoemoemo

5. ดื่มน้ำมากๆ
น้ำช่วยขจัดอาการอ่อนล้าได้และหากคุณทำงานหนัก
มาตลอดวัน คุณย่อมต้องการน้ำมากกว่าปกติโดยปริยาย

6. คิดถึงความรัก
เมื่อไรรู้สึกท้อแท้หรือหมดกำลังใจ ขอให้คุณนึกถึง
คนที่คุณรักและรักคุณ จะเป็นพ่อ แม่ เพื่อนสนิทที่รู้ใจ
หรือเขาคนนั้นที่เป็นหวานใจ (แต่อย่าเผลอไปคิดถึง
คนที่เขาเคยรักคุณเข้าล่ะ จะพาลท้อแท้หมดหวังเข้าไปอีก)
เพราะความรู้สึกดีๆ ช่วยเพิ่มพลังใจให้เราได้ดีที่สุด

emoemoemoemoemo

7. ยืดเส้นยืดสาย
การได้ยืดเส้นยืดสายจะช่วยขจัดอาการเหนื่อยล้าได้
เนื่องจากเวลาที่ได้เคลื่อนไหวร่ายกาย จิตใจจะได้
เคลื่อนไหวไปด้วยทำให้ช่วยลดอาการซึมเศร้าเหนื่อยหน่าย
ก่อให้เกิดความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวาขึ้น

8. หากิจกรรมเพื่อผ่อนคลาย
ถ้าคุณรู้สึกว่าเครียดหรือเหนื่อยกับงานมากเหลือเกิน
จงอย่าปล่อยตัวเองให้ต้องสูญเสียพลังงานไปกับสิ่งเหล่านี้
หาช่วงพักในตอนกลางวัน ออกไปเดินเล่นบ้าง
เพราะแสงธรรมชาติจะช่วยกระตุ้นให้คุณมีเรี่ยวแรง
ที่จะทำอะไรต่อมิอะไรไปได้ตลอดวัน หรือบางที
ในช่วงเย็นหลังเลิกงาน ให้หาเวลาทำกิจกรรมที่คุณชอบ
อย่างดูหนัง ฟังเพลง หรืออ่านหนังสือตลกขบขัน เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้สมองปลอดโปร่งขึ้น
และในช่วงวันหยุดก็ควรเลือกกิจกรรมวันหยุดสุดสัปดาห์
ให้อยู่ใกล้ๆ กับธรรมชาติมากที่สุด เช่น ไปสูดอากาศ
บริสุทธิ์นอกเมือง ชมพระอาทิตย์ตกเดินป่าชมความงาม
ของทุ่งดอกไม้ เพราะจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา
และยังช่วยเติมพลังชีวิตให้กับคุณอีกด้วย

emoemoemoemoemo

9. ฝึกหายใจเพิ่มพลัง
ภายใน 5 นาที ลองหายใจเข้าให้ลึกที่สุดและเร็วที่สุด
เท่าที่จะทำได้การหายใจลึกๆ จะทำให้ปอดอัดแน่น
ด้วยออกซิเจนจะช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้า
และเติมพลังให้คุณกลับมากระปรี้กระเปร่าได้อีกครั้ง

10. เติมพลังด้วยจินตนาการ
การจินตนาการถึงสิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝันหวาน
ถึงการได้เลื่อนตำแหน่งหรือการคิดถึงหวานใจ
(แม้เขาจะเป็นอดีตไปแล้วก็ตาม) รวมทั้งการ
คิดถึงตัวเองในแง่ดี พูดและชมตัวเอง
จะช่วยเติมกำลังใจเติมพลังให้กับชีวิตได้

emoemoemoemoemo

11. สีแดงหรือสีส้มจะช่วยเพิ่มพลัง
เวลาออกมาทำงานหรือไปไหนก็ตาม อย่ามัวแต่ใส่
ชุดสีทึมๆ อยู่ทุกวี่ทุกวันเพราะถึงจะทำให้คุณดูสวยคลาสสิค
แต่ก็ทำให้ไม่สดชื่น ดังนั้นลองเปลี่ยนมาเป็นชุดสีส้ม
หรือแดงดูบ้างเถอะเพราะเสื้อผ้าสีสันสดใสพวกนี้
จะช่วยให้คุณเริงร่าและมีพลังตลอดทั้งวัน

12. อย่าฝืนสังขาร
หัดเชื่อสัญญาณของร่างกายเสียบ้าง เมื่อรู้สึกเหนื่อยล้า
อ่อนเพลียก็อย่าไปฝืนสังขาร ในเมื่อร่างกายต้องการพักก็ควร
พักเถอะ นอนให้เต็มอิ่มจะช่วยเรียกความสดใสกลับคืนมาได้

emoemoemoemoemo

จะเห็นว่าทั้ง 12 วิธีที่กล่าวมาข้างต้น เป็นวิธีที่ง่ายนิดเดียว
เพียงแต่ว่าคุณจะมีกำลังใจในการทำหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง
แต่ถ้าบังเอิญใครเกิดมีอุบัติเหตุทางจิตใจ เช่น อกหัก
เพื่อนทิ้งงานไม่ก้าวหน้า เป็นต้น ถ้าอยากเศร้าก็เศร้าซะ
ให้เต็มที่อย่ากั๊กไว้ เพราะเมื่อเศร้าจนพอใจแล้วคุณจะมีกำลังใจ
ในการลุกขึ้นมาต่อสู้อีกครั้งขึ้นเองโดยอัตโนมัติ…ง่ายๆ
เพียงเท่านี้ แล้วคุณจะมีพลังชีวิตที่โชติช่วงไปตลอดทั้งวัน



บทความโดย: คุณ kookkai
ที่มา : "www.expert2you.com"

เป็นเรื่องง่ายๆ ทำไม่ยากที่เห็นว่าดี เลยนำมาฝากกันค่ะ
เพราะบางครั้งเรามักมองข้ามเรื่องง่ายๆ เหล่านี้กันนะคะ

Create Date :02 กรกฎาคม 2552 Last Update :2 กรกฎาคม 2552 6:24:04 น. Counter : Pageviews. Comments :45