bloggang.com mainmenu search


emoemoemoemoemo

หลายคนคงเคยรู้สึกว่า ทำไมชีวิตช่างจำเจไม่มีอะไรตื่นเต้น
เผลอๆ พาลเซ็งเอาง่าย ที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นไปได้ว่าเรา
ไม่เคยทำอะไรผิดไปจากเดิม กลายเป็นทาสของเวลา ไม่ว่า
จะนอน จะตื่น จะกิน จะทำงาน หรือจะพักผ่อน หากทำอะไร
นอกเหนือจากเคย กลับรู้สึกผิดอีก เลยไม่สบายใจ บางคน
กลัวเสียเวลา กลัวงานไม่เสร็จ ไม่ว่าจะเป็นงานประจำหรือ
งานบ้าน ทำให้ชีวิตหมกมุ่นแต่เรื่องที่จำเจนั่นแหละ


ลองมาดูกลยุทธ์หาความสุขที่แนะนำไว้ในนิตยสารผาสุก
ปีที่ 29 ฉบับที่ 157 ตุลาคม-ธันวาคม 2549
บทความโดย รศ.สุพัตรา สุภาพ กันค่ะ เขาแนะนำไว้ดังนี้


emoemoemoemoemo

1.หาสิ่งที่ชอบทำ
เด็ก หนุ่มสาว และผู้ใหญ่ หาความสุขต่างกันได้ ไม่มีใครถูก
ใครผิด เช่น ความสุขของเด็กคือ การได้เที่ยว ได้กินขนม
อยากให้ผู้ใหญ่รัก อยากเล่น วัยรุ่นหรือหนุ่มสาว ความสุขคือ
การให้ผู้ใหญ่เข้าใจ การได้รวมกลุ่มกับเพื่อน อยากรัก
อยากถูกรัก อยากจะมีความก้าวหน้าในการงาน อยากมีอนาคต
เป็นต้น ส่วนผู้ใหญ่จะเป็นสุข ถ้าลูกหลานได้ดี ชีวิตคู่
มีความสุข ลูกหลานไม่ทอดทิ้ง อยากทำอะไรๆ ให้ลูกหลาน

2. มุ่งงานแต่อย่าบ้างาน
มีคนไม่น้อยบ้างาน ทำงานแบบไม่หยุด บางครั้งถึงขนาด
ป่วยไข้ ก็ยังไม่ยอมหยุด บางคนมุ่งกับงานจนครอบครัวขาด
ความรักความอบอุ่น ลูกๆ ของเขาต้องการได้รับความอบอุ่น
จากพ่อแม่มากกว่า แม้พ่อแม่จะอ้างว่าทำงานเพื่อพวกเขาก็ตาม

emoemoemoemoemo

3. รักผู้คน
ถ้าเรามีจิตเมตตาต่อผู้คนรอบข้าง เราจะปราศจากโมหะอิจฉาริษยา
มีแต่อยากเป็นมิตร อยากจะทำงานหรืออยู่ด้วย มีความหวังดี
และจะทำทุกอย่างด้วยความรัก เป็นการทำทุกอย่างด้วยใจ

4. อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับใคร
เวนดี แมคครีดดี ให้ข้อคิดไว้ว่า ที่เราเป็นทุกข์ทุกวันนี้
เพราะเราไม่ยอมรับความจริงว่าเราคือเรา เขาคือเขา
หากเราเปรียบเทียบตัวเรากับคนอื่น เราจะมีแต่ความทุกข์
เช่น ทำไมบ้านเขาใหญ่กว่าบ้านเรา ตำแหน่งสูงกว่า
ลูกดีกว่า รถยนต์ก็มีใช้ เป็นต้น เขาจะมีมากน้อยแค่ไหน
ก็เรื่องของเขา เราทำทุกวันนี้ให้ดีกว่าวันวานก็พอแล้ว

emoemoemoemoemo

5. อย่าผลัดผ่อนเลื่อนเวลา
สิ่งใดที่ต้องทำให้รีบทำ อย่าเอาแต่คิด ไม่ว่าจะเป็นงานง่าย
หรืองานยาก ไม่คอยเวลาจนเป็นดินพอกหางหมู ทำให้งาน
ไม่เสร็จทันกำหนด แล้วจะกังวลหาความสุขไม่ได้ ด้วยการ
เริ่มต้นทำทีละอย่าง ในที่สุดงานทุกอย่างก็จะเสร็จตามที่ตั้งใจ

6. มีอารมณ์ขันและหัวเราะบ้าง
อาจดูภาพยนตร์ตลกหรืออ่านหนังสือ เมื่อจะทำอะไรก็อย่า
เคร่งเครียดนัก หัดมองโลกในแง่ดี อารมณ์ขันจะทำให้ทุกสิ่ง
ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด แถมทำให้บรรยากาศไม่เครียด
เวลายิ้มจะทำให้มีเลือดหมุนเวียนมากขึ้น จิตใจสดชื่น
อารมณ์แจ่มใส หน้าตาก็สดชื่นมีความสุข ทำให้อายุยืน

emoemoemoemoemo

7. สูดอากาศบริสุทธิ์
เพื่อจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นถ่ายเท ไม่สะสมอากาศเสีย
จนทำให้เราเกิดอาการป่วยไข้ หรือเกิดความเครียดได้

8. บอกรักกับคนที่เรารัก
เป็นการทำให้ผู้อื่นเป็นสุข แลเราก็เป็นสุขด้วย เพราะได้
ระบายความในใจให้คนที่เรารักรับรู้ โดยเฉพาะคนใกล้ตัว
ไม่ว่าจะเป็นสามีภรรยา ลูก ปู่ย่าตายาย ญาติสนิทมิตรสหาย
เพราะพวกเขาเหล่านั้นจะรู้สึกปลื้มใจเมื่อเราบอกรัก

emoemoemoemoemo

9. ทำอะไรพอเหมาะ ไม่เร็วเกินไปหรือช้าเกินไป
หากทำอะไรเร็วๆ รีบๆ จะเกิดอาการเครียดโดยไม่รู้ตัว เช่น
กินอาหารจานด่วน กินอาหารเร็วๆ ทำอะไรเร่งรีบเกินไป

10. ไปเที่ยวเตร่หรือพักผ่อนบ้าง หาเวลาสถานที่ที่ชอบ
เช่น สวนสาธารณะ สวนสัตว์ ศูนย์การค้า ดูประกวดนางงาม
หรือดูการแสดงดนตรี เพื่อจะได้พ้นเสียจากสิ่งจำเจ แถมยัง
ทำให้ครอบครัวมีความสุข ถ้าไม่มีโอกาสไปเที่ยวไกลๆ ก็
หาที่ใกล้ๆ บ้านเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ หรือหาโอกาส
พักตาพักใจสัก 10 นาที หรือจัดให้มีงานปาร์ตี้ในบ้านก็ได้

emoemoemoemoemo

11. ออกกำลังกายเป็นคลายเครียด
เป็นการคลายเครียดที่ดีที่สุด แล้วยังทำให้รูปร่างดีกว่าเก่า
ที่เคยเป็นน้องๆ ช้าง จะได้เหลือแค่หลานหรือเหลนช้างบ้าง
ส่วนคนผอมแห้งแรงน้อย ก็จะมีน้ำมีนวล ร่างกายสดชื่น

12. ดูสิ่งเขียวๆ เพราะสิ่งเขียวจะทำให้จิตใจสดชื่น
สังเกตได้ว่าแพทย์จะใช้สีเขียวตอนผ่าตัดเพื่อไม่ให้คนไข้เครียด
หรือตกใจที่ต้องเจอมีดหมอ หากเราทำอะไรแล้วเป็นสุข
ไม่เดือดร้อนใคร ไม่ผิดกฎหมาย ก็ทำไปเถิด ดีกว่าต้องเป็นทุกข์
(อันนี้ จขบ. ขอแถมนิดนึงว่าต้องไม่ผิดศีลธรรมด้วยจ้า
จะได้ไม่เป็นทุกข์ทั้งในโลกนี้ ไปจนถึงในโลกหน้าเลยจ้า)

emoemoemoemoemoemoemo

ลองทำดูนะคะ จขบ. ว่าเราไม่ต้องทำได้ครบทั้ง 12 ข้อหรอก
เพียงแค่ได้เริ่มทำข้อใดข้อหนึ่ง ความสุขก็คงมาเยือนเราแล้วหละ




Create Date :19 มิถุนายน 2552 Last Update :19 มิถุนายน 2552 16:20:25 น. Counter : Pageviews. Comments :60