หอพักมีแต่ปัญหางานเข้า หลังจากที่เราปรับปรุงอาคารพานิชย์ 3 ชั้นของเรา ให้กลายเป็นหอพักเพื่อให้นักศึกษาเช่าอยู่อาศัยเป็นรายเดือน ซึ่งได้เล่าไว้ในนี้ ปรับเปลี่ยนอาคารพานิชเป็นห้องเช่า จากนั้นก็มีคนมาเช่าเต็มทุกห้องตั้งแต่เริ่มเปิดในเดือน มีนาคม 2565 ตอนนี้จะครบ 9 เดือนแล้ว ซึ่งผลประกอบการก็ดี สามารถเลี้ยงตัวมันเองได้ แต่อาจจะคืนทุนได้ไม่เร็วนัก เนื่องจากห้องด้านหน้า(ค้าขาย)ยังหาคนเช่าไม่ได้ และมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่เกิดขึ้นตลอดเดือนที่มีการอยู่อาศัย ที่จะมาเล่าในวันนี้ 1) เริ่มตั้งแต่ตอนแรกเลย หอพักยังไม่ทันเปิดด้วยซ้ำ (กพ.-65) ท่อระบายน้ำจากเครื่องซักผ้าที่เราเจาะถนนและฝังท่อ PVC ไว้ ไม่ทันข้ามวัน ถูกรถยนต์ทับแตก ต้องแก้ไขหาท่ออ่อนมาใส่ งานที่เจาะไปตอนแรก รูที่ยัดท่อลงไป แตกจากโดนล้อรถยนต์ทับ งานแก้ไข 2) แอร์ชั้น 3 ห้องฝั่งตะวันตกที่เป็นแอร์ตัวเก่าที่ผู้เช่าเก่าทิ้งไว้ (มี.ค-65) พอมีคนมาอยู่ก็ใช้งานไม่ได้ จะซ่อมก็ไม่ไหว เลยต้องซื้อใหม่อีกตัว ราคา 7,000 บาท รวมเทิร์นตัวเก่าและติดตั้งใหม่ ตัวนี้ 3) ติดตั้ง Wifi Internet บ้านแล้ว (มี.ค-65) แต่สัญญาณไปไม่ถึงชั้น 3 ต้องหาซื้ออุปกรณ์ขยายสัญญาณมาช่วย ในราคา 590 บาท โดยหาจุดติดตั้งที่รับจาก Main Wifi แล้วส่งถึงชั้น 3 ได้ และจุดนั้นต้องมีปลั้กไฟด้วยนะ หาจุดติดตั้งแล้วต่อปลั้กไฟเข้าไปหา ตำแหน่งนี้อยู่หน้าห้องเก็บของชั้น 2 4)แก้ไขงานแสงสว่างห้องด้านหลัง (เม.ย-65) ที่ไว้ตากผ้าและปั้มน้ำ ที่หลอดไฟแสงสว่างเดิมถูกช่างแอร์ติดตั้งคอมเพรสเซอร์บัง ย้ายออกมาก็ไม่ได้จึงต่อสายออกมาแล้วซื้อหลอดไฟติดใหม่ (ประมาณ 200 บาท) ของเดิมที่ถูกบัง 5) จากนั้นเราหาเรื่องทำงานเข้าอีก (เม.ย-65) ดันไปทำท่อน้ำตรงเครื่องกรองน้ำหัก ต้องแก้ไขชั่วคราวเพื่อให้ลูกบ้านใช้น้ำได้ แล้วจึงติดระบบกรองเข้าไปใหม่ (จุดกรองมาจากผู้เช่าเก่าทิ้งไว้ ใช้งานได้แต่ติดตั้งไม่ดีขวางประตูห้องเก็บของจึงถูกชนหัก) ทำหัก เพราะต้องการเปิดประตูห้องเก็บของ ติดชั่วคราวโดยไม่ใช้ชุดกรอง ติดตั้งใหม่ งานนี้หมดเงินหลายร้อยเหมือนกัน 6)แอร์ชั้น 2 ห้องฝั่งตะวันออก (เม.ย-65) เกิดมีปัญหา ไม่เย็น พบปัญหาน้ำยาแอร์รั่วซึม จึงจ้างช่างแอร์มาซ่อม จ่ายไป 1340 บาท 7) เครื่องซักผ้าน้ำไหลค่อย ไม่แรง (มิ.ย-65) อันนี้ถือว่าผิดพลาดจริง ๆ เราไม่ตัดสินใจเดินระบบน้ำของเครื่องซักผ้าที่อยู่ด้านหน้าบ้านผ่านระบบปั๊มตั้งแต่แรก ทั้ง ๆ ที่จ้างช่างมาทำงานไฟฟ้า+ประปา นี้ไว้แล้ว รวมถึงงานตามข้อ 3 และ 5 ด้วย ไม่บอกเค้าทำให้แต่แรก จึงต้องมาทำเอง งานนี้เสียเงินซื้อของเกือบ 2 พัน ต้องลงแรงทำเองอีกจนเหนื่อย ต่อน้ำจากระบบปั๊มหลังบ้าน เอาขึ้นบนฝ้า แล้วย้อนกลับไปหน้าบ้าน ต้องเจาะฝ้า เดินท่อด้านบน อุปสรรคด้านบนเยอะมาก แล้วต้องเจาะผนังเอาท่อออกด้านหน้าอีก เหนื่อยมาก แต่ก็จบงานได ยังดีกว่าที่จะติดปั๊มตัวใหม่ด้านหน้าอีกตัว ซึ่งวิธีนั้น อาจมีปัญหายุ่งยากใจอื่น ๆ ตามมา 8) ชักโครกห้องน้ำชั้น 1 น้ำไหลลงตลอด (ส.ค-65) ให้ช่างทำให้แล้ว ก็มาเป็นอีก เราจึงจะทำเอง แต่ปรากฎว่าถอดน้อตถังพักน้ำออกไม่ได้เพราะเป็นสนิม ทำไปทำมาทำชักโครกแตกตรงจุดร้อยน้อต ก็ให้คนใช้เค้าเปิด-ปิดวาล์ว อยู่พักนึง สุดท้ายก็ต้องหาซื้อชักโครกมาเปลี่ยนใหม่ ได้มาราคาตัวละ 1880 บาท + จ้างช่างมาเปลี่ยนให้ 1000 บาท ซื้อที่ไทวัสดุ 9) ประตูลูกบิดห้องชั้น 1 (ก.ย-65) เกิดปัญหาตัวล็อกหลุด เจ้าของห้องเข้าห้องไม่ได้ ต้องใช้ค้อนตีออกจนรูล็อกเยิน เพื่อถอดแกนล็อกออก ให้เค้าใช้โดยไม่มีลูกบิดล็อคอยู่พักนึง หลังจากนั้นจึงใส่แกนล็อคที่เรามีอยู่แล้วที่บ้านมาใส่ใหม่ (ใช้ลูกบิดอันเดิม) 10) แอร์ห้องชั้น 3 ห้องฝั่งตะวันออก(ต.ค-65) จู่ ๆ ก็มีปัญหาเปิดไม่ติด เหมือนไฟไม่เข้า เราเช็คเองเบื้องต้นแล้วระบบไฟไม่มีปัญหา จึงหาคนในโรงงานไปช่วยดู พบว่าแผงวงจรช๊อต จึงถอดออกมาซ่อม โดยหาอะไหล่อิเลคโทรนิกส์ แล้วให้คนในโรงงานซ่อมให้ (เกือบต้องซื้อบอร์ดหรือเปลี่ยนคอร์ยเย็นใหม่ซะแล้ว งานนนี้เสียเงินซื้อของประมาณ 200 บาท และพาไปเลี้ยงข้าวอีกนิดหน่อย แผงวงจร หรือ บอร์ดควบคุมการทำงานของแอร์ 11) น้ำรั่วลงมาที่ฝ้าทางเดินชั้น 1 (ดีนะไม่ลงตรงห้องนอนชั้น 1 ) (พ.ย-65) ซึ่งมาจากห้องน้ำชั้นไหนไม่แน่ใจ(ชั้น 2 หรือ 3) แต่ชั้น 3 มีคราบที่ผนังอีกด้านของห้องน้ำ ซึ่งคาดว่ามาจากยาแนวที่เสื่อมสภาพทำให้น้ำจากการชะล้างในห้องน้ำรั่วซึมได้ น้ำซึมออกมาจากผนังห้องน้ำชั้น 3 น้ำซึมลงมาที่ฝ้าชั้น 1 น้ำซึมลงมาที่ฝ้าชั้น 1 ปัญหา 2 อย่างนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และพบเห็นมาก่อนหน้านี้แล้ว ตอนแรกปัญหาน้ำซึมลงมาที่ฝ้าชั้น 1 นึกว่ามาจากท่อที่ทำต่อไปที่เครื่องซักผ้าตามข้อ 7 รั่ว เพราะตำแหน่งท่ออยู่ตรงกันพอดี จึงหาวาล์วมาดักน้ำก่อนขึ้นบนฝ้า แต่จริง ๆ ไม่ใช่ เพราะน้ำบนฝ้ามีแรงดันอยู่ตลอดไม่น่ารั่วเป็นครั้งคราวแบบนี้ มาสังเกตจะมารั่วตอนมีคนอาบน้ำชั้นบน แต่ยังไม่เคลียร์นักเพราะว่าไม่เป็นตลอด พยายามพิสูจน์จากการขังน้ำในห้องน้ำเป็นเวลานานก็ไม่พบปัญหารั่ว แต่ตรงผนังชั้น 3 น่าจะมาจากยาแนวที่เสื่อมสภาพทำให้น้ำจากการชะล้างในห้องน้ำรั่วซึม เพราะว่าจุดรั่วตรงระดับกับพื้นห้องน้ำพอดี เราจึงหากาวที่ใช้กันรั่วที่โฆษณาใน net มาใช้ดู และก็เททับยาแนวห้องน้ำทั้งชั้น 2 และ 3 เพื่อลองแก้ปัญหาดู ซื้อมา 3 กระป๋องจากใน net เมื่อทำเสร็จ ใหม่ ๆ แต่แห้งแล้วจะไม่ทิ้งคราบ 12) ปลวกกินวงกบประตูห้องชั้น 2 ที่กั้นใหม่ ยังกลุ้มใจอยู่เลย ยังไม่ได้แก้ไขอะไร ปัญหาทำไมมันเยอะจังเลย |
บทความทั้งหมด
|