ผลประกอบการกิจการห้องพัก ปี 2565 ผลประกอบการกิจการห้องพักหลังจากที่ดำเนินการมาในปี 2565 ซึ่งได้เริ่มกิจการมาตี้งแต่ เดือน กพ.2565 ทุกห้องพักมีคนเช่าเต็มตลอดทุกเดือน ยกเว้น ห้องที่ใช้ค้าขายด้านหน้าซึ่งยังว่างอยู่ตั้งแต่เริ่มแรก ผลประกอบการทั้ง 11 เดือน ดังนี้ รายรับที่ได้จากค่าเช่าห้องพัก ทั้งหมด 5 ห้อง และ ค่าซักผ้าหยอดเหรียญ 3 เครื่อง และ เครื่องอบผ้าอีก 1 เครื่อง ซึ่งถือว่าทำได้ดีทีเดียวกับเครื่่องซักผ้าและอบผ้า ที่ทำรายได้ 5000 - 6000 บาทต่อเดือน คิดแล้วจะมีกำไร หลังหักค่าใช้จ่าย ค่าน้ำค่าไฟแล้วทั้งหมด จะเหลือ ประมาณเดือนละ 3000 - 6000 บาท ขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนว่ามีมากน้อยเพียงใด ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้รวมถึงค่าผ่อนธนาคารที่เราจำเป็นต้องส่ง เดือนละ 8600 บาทแล้วด้วย (ซึ่งยังไงก็ต้องส่่งธนาคารอยู่แล้ว) ยอดรวมของกำไรทั้งปี 2565 อยู่ที่ 56,195 บาท ต้องถือว่าดีเลยนะ เพราะหักทุกอย่างแล้วยังมีเหลือเก็บ ถึงแม้จะเพียงนิดหน่อยก็เถอะ ในอนาคตหากผ่อนธนาคารหมดแล้วก็จะเป็นเงินเก็บที่พอเลี้ยงชีพได้ หากจะคำนวณเพื่อคิดหาจุดคุ้มทุนตอนที่ปรับปรุง เพื่อทำเป็นห้องเช่าแบบนี้ ก็ต้องรวมกำไรทั้งหมด และบวกค่าผ่อนธนาคารที่จำเป็นต้องส่งด้วย จะเป็นเงิน 56,195+(8,600x12) = 159,395 บาท ซึ่งเราลงทุนคราวนั้น ที่เล่าไว้ในนี้ ปรับเปลี่ยนอาคารพานิชเป็นห้องเช่า เป็นจำนวน 245,471 บาท เหลือต้นทุุนแค่อีก 8X,XXX บาท ก็จะคุ้มทุน ความคาดหวังที่เคยตั้งไว้ก็คงจะไม่ไกลมากนัก และถ้าหากจะคิดผลตอบแทนต่อราคาทรัพย์สิน ( Yield ) จากการลงทุนทั้งหมดของสินทรัพย์นี้ ที่เคยคิดไว้ในนี้ ให้เช่าอาคารพานิชย์ ก็ต้องเอามูลค่าการลงทุนปรับปรุงครั้งล่าสุดมาคำนวณด้วยดังนี้ 159,395 / (2,743,572+245,471) x100 จะได้ผลตอบแทนในการลงทุนของสินทรัพย์นี้ ( Yield ) = 5.33% และเรายังเอาเงินกำไร 56,195 บาท ส่วนนี้ไปโปะค่าผ่อนธนาคาร ในเดือน มค.2566 จำนวน 50,000 บาท เพื่อลดต้นเงินกู้ธนาคาร ดังกร้าฟนี้ ยอดกู้เหลือตอนนี้ (มค.2566 ) อยู่ที่ 1,156,671 บาท จะเห็นว่ายอดกู้จะเหลือต่ำกว่า 1 ล้านบาทในเดือน มีนาคม 2568 หรืออีกใน 2 ปีข้างหน้า |
บทความทั้งหมด
|
Yield ที่ควรจะเป็น เป็นดังนี้
ผลตอบแทนการลงทุน ( Yield ) =
( ค่าเช่าที่ได้ - ( ค่าใช้จ่าย+ค่าผ่อนธนาคารx12) / (เงินดาวน์ตึก+ค่าต่อเติม) x100
= 56,195 / ( 250,000+245,471 ) x100
= 11.34%