ของขวัญจากในหลวง


1.อย่าทำลายความหวังของใคร ... เพราะอาจเหลืออยู่แค่นั้น...

2.รู้จักฟังให้ดี ... โอกาสทองบางทีมันก็มาถึงแบบแว่วๆ เท่านั้น...

3.จะคิดการใด ... จงคิดการให้ใหญ่เข้าไว้ ...แต่เติมความสนุกสนานลงไปด้วยเล็กน้อย...

4.หัดทำสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่นจนเป้นนิสัย ..โดยไม่จำเป้นต้องให้เขารับรู้...

5.จำไว้ว่าข่าวทุกชนิดถูกบิดเบือนมาแล้วทั้งนั้น...

6.ใครจะวิจารณ์อย่างไรก็ช่าง... ไม่ต้องเสียเวลาโต้ตอบ...

7.ให้โอกาสผู้อื่นเป็นครั้งที่ "2" แต่อย่าให้ถึง"3"...

8.เราไม่ได้ต่อสู้กับ คนโหดร้าย แต่เราต่อสู้กับ ความโหดร้าย ในตัวคน...

9.เมื่อมีใครสวมกอดคุณ ... ให้เขาเป็นฝ่ายปล่อยก่อน...

10.อย่าไปหวังเลยว่าชีวิตนี้จะมีความยุติธรรม...

11.ประเมินตัวเองด้วยมาตรฐานของตัวเองไม่ใช่มาตรฐานของคนอื่น...

12.คงไว้ซึ่งความเป้นคนเปิดเผย ...อ่อนโยนและอยากรู้อยากเห็น...

13.ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้ายเพียงใดยสุขุมเยือกเย็นเข้าไว้...

14.อย่าวิจารณ์นายจ้าง ... ถ้าทำงานกับเขาแล้วไม่มีความสุข ก็ลาออกซะ...

15.คำนึงถึงการมีชีวิต "กว้างขวาง" มากกว่าการมีชีวิต "ยืนยาว"...

คงไม่มีข้อคิดไหนจะดีเท่าข้อคิดนี้แล้วแหละ

ที่มา :: //www.netcafethai.com/modules.php?op=modload&name=PNphpBB2&file=viewtopic&t=3736



Create Date : 27 มกราคม 2549
Last Update : 27 มกราคม 2549 7:15:17 น.
Counter : 794 Pageviews.

7 comments
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
  
คลุกวงใน
>
>พิษณุ นิลกลัด
>
>แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป
>
>สัปดาห์สุดท้ายของปี 2548 ผมไปงานสวดและงานเผาศพผู้ชายวัย 81
>ปีที่ผมรู้จักเขามายาวนาน 30 ปี
> ไม่ใช่ญาติ แต่สนิทนักรักใคร่เสมือนญาติ
>
>ก่อนเสียชีวิตไม่กี่วันเขาสั่งลูกและภรรยาแบบคนไม่ครั่นคร้ามความตายว่าสวดสาม
>วันแล้วเผา
>ไม่ต้อง
> บอก
>ใครให้วุ่นวาย อย่าเศร้า อย่าร้องไห้ ทุกคนต้องมีวันนี้
>เพียงแต่เขาอยู่หัวแถวเลยต้องไปก่อน
> แล้วลูกเมียก็ทำตามคำสั่ง สวดสามวันเผา งานสวด 3 คืนมีคนฟังพระสวดคืนละ 14
>คนคือเมีย ลูก
> หลาน เขย สะใภ้ และผมซึ่งเป็นคนนอก
>เป็นงานศพที่มีคนไปร่วมงานน้อยที่สุดเท่าที่ผมเคยไปฟังสวด
> วันเผามีเพิ่มเป็น 17 คน
>สามคนที่เพิ่มเป็นเพื่อนบ้านที่เคยคุยด้วยเกือบทุกเย็นคนหนึ่ง เป็นแม่ค้า
> ล็อตเตอรี่ที่เคยยืมเงินแล้วไม่มีสตังค์จ่าย
>เลยเอาล็อตเตอรี่ทยอยผ่อนใช้หนี้แทนเงินงวดละสองใบคน
> หนึ่ง
>และคนสุดท้ายเป็นหญิงที่ผู้ตายเคยผูกปิ่นโตทุกมื้อเย็น
>ทั้งสามคนบอกว่าเกือบมาไม่ทันเผา เคราะห์ดีที่
> แวะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่บอกว่าเสียชีวิตไปแล้ว 3 วัน
>
>หลังฌาปนกิจพระกระซิบถามเจ้าหน้าที่วัดว่าเจ้าของงานจ่ายเงินค่าศาลาสวดพระ
>อภิธรรมแล้วหรือยัง
> พระท่านคงไม่เคยเห็นงานศพที่มีคนน้อยแบบที่ผมก็รู้สึกตั้งแต่สวดคืนแรก
>จริงๆ แล้วผู้ตายเป็นคนค่อน
> ข้าง
>มีสตังค์ ทำงานธนาคารแห่งประเทศไทยจนเกษียณอายุที่ตำแหน่งหัวหน้าหน่วย
>แต่ด้วยความที่รักและ
> ศรัทธา อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตผู้ว่าการแบงค์ชาติ
>จึงดำเนินชีวิตแบบไม่ปรารถนาให้ใครเดือน
> ร้อน
>- แม้กระทั่งวันตาย
>
>ผมสนิทกับเขาเพราะเขามีความฝันในวัยเด็กอยากเป็นนักประพันธ์แบบ ไม้ เมืองเดิม
>ที่เขาเคยนั่ง
> เหลา
>ดินสอและวิ่งซื้อโอเลี้ยงให้ เมื่อตัวเองเป็นนักเขียนไม่ได้
>พอมาเจอะผมที่เป็นนักข่าวก็เลยถูกชะตา
> และให้ความเมตตา การมีโอกาสได้พูดได้คุยกับเขาตามวาระโอกาสตลอด 30
>ปีทำให้ได้แง่คิดดีๆ มา
> ใช้ในการดำรงชีวิต
>
>วันหนึ่งเขารู้ว่าขโมยยกชุดกอล์ฟของผมไปสองชุดราคา 4 แสนกว่าบาท เขาปลอบใจผมว่า
> "ของที่หายเป็นของฟุ่มเฟือยของเรา
>แต่มันอาจเป็นของจำเป็นสำหรับลูกเมียครอบครัวเขา คิดซะว่าได้
> ทำบุญ จะได้ไม่ทุกข์" เขามีวิธีคิด "เท่ๆ" แบบผมคิดไม่ได้มากมาย
>เป็นต้นว่าสุขและทุกข์อยู่รอบตัว
> เรา อยู่ที่ว่าเราจะเลือกหยิบเลือกคว้าอะไร
>
>คงเป็นเพราะเขาเลือกคว้าแต่ความสุข ช่วงปีสุดท้ายของชีวิตเขาต่อสู้กับโรคชรา
>เบาหวาน หัวใจ
> ความดัน เกาต์ และไตทำงานเพียง 5 เปอร์เซ็นต์โดยไม่ปริปากบ่น
>แถมยังสามารถให้ลูกชายขับรถพา
> เที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์โดยที่ตัวเองต้องหิ้วถุงปัสสาวะไปด้วยตลอดเวลาเนื่อง
>จากไตไม่ทำงาน
> ปัสสาวะเองไม่ได้
>
>6 เดือนสุดท้ายของชีวิตต้องนอนโรงพยาบาลสามวันนอนบ้านสี่วันสลับกันไป
>เวลาลูกหลานหรือเพื่อนของ
> ลูกรวมทั้งผมด้วยไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เขามีแรงพูดติดต่อกันไม่เกิน 10 นาที
>แต่ 10 นาทีที่พูดมีแต่
> เรื่องสนุกสนานเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคนไปเยี่ยมไข้ ทุกคนพูดตรงกันว่า
> "คุณตาไม่เห็นเหมือนคนป่วยเลย ตลกเหมือนเดิม" พอแขกกลับ
>ลูกหลานถามว่าทำไมคุยแต่เรื่องตลก
> เขาตอบว่า "ถ้าคุยแต่เรื่องเจ็บป่วย วันหลังใครเขาจะอยากมาเยี่ยมอีก"
>เขาเป็นคนชอบคุยกับผู้คน
> ไม่ว่าจะอยู่บนเตียงคนไข้หรืออยู่บนรถแท็กซี่
>บ่อยครั้งที่นั่งรถถึงหน้าบ้านแล้ว แต่สั่งให้โชเฟอร์ขับวน
> รอบ
>หมู่บ้านเพราะยังคุยไม่จบเรื่อง แล้วจ่ายเงินตามมิเตอร์ !
>
>4เดือนสุดท้ายของชีวิตแพทย์ที่รักษาโรคไตมาตั้งแต่สมัยเป็นแพทย์อินเทิร์นจน
>กระทั่งเป็นหัวหน้าแผนกแนะ
> นำให้พักรักษาตัวในโรงพยาบาลให้แข็งแรงแล้วค่อยกลับบ้าน แต่อยู่ได้ 4
>วันเขาวิงวอนหมอว่าขอกลับ
> บ้าน หมอซึ่งรักษากันมา 16 ปีไม่ยอม เขาพูดกับหมอด้วยความสุภาพว่า
>"ขอให้ผมกลับบ้านเถอะ ผม
> อยากฟังเสียงนกร้อง คุณหมอไม่รู้หรอกว่าคนคิดถึงบ้านมันเป็นอย่างไร
>เพราะพอเสร็จงานหมอก็กลับ
> บ้าน" หมอได้ฟังแล้วหมดทางสู้ ยอมให้คนไข้กลับบ้าน
>แต่กำชับให้มาตรวจตรงตามเวลานัดทุกครั้ง
>
>1 เดือนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
>เขาสูญเสียการควบคุมอวัยวะของร่างกายเกือบทั้งหมด เคลื่อนไหวได้
> อย่างเดียวคือกะพริบตา แต่แพทย์บอกว่าสมองของเขายังดีมาก
>เวลาลูกเมียพูดคุยด้วยต้องบอกว่า "ถ้า
> ได้ยินพ่อกะพริบตาสองที" เขากะพริบตาสองทีทุกครั้ง !
>เห็นแล้วทั้งดีใจและใจหาย เขายังรับรู้
> แต่
>พูดไม่ได้ นี่กระมังที่เรียกว่าถูกขังในร่างของตนเอง
>
>สิบวันก่อนพลัดพราก ภรรยากระซิบข้างหูว่า "พ่อสู้นะ"
>เขาไม่กะพริบตาซะแล้วทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้สอง
> เดือนเคยตอบว่า "สู้" เขาสู้กับสารพัดโรคด้วยความเข้าใจโรค
>สู้ชนิดที่หมอออกปากว่า
> "คุณลุงแกสู้จริงๆ"
>
>ตอนที่วางดอกไม้จันทน์ ผมนึกถึงประโยคที่แกพูดกับลูกเมื่อสี่เดือนก่อนว่า
>"โรคภัยมันเอาร่างกายของพ่อ
> ไปแล้ว อย่าให้มันเอาใจของเราไปด้วย"
โดย: naigod วันที่: 27 มกราคม 2549 เวลา:7:30:37 น.
  
พิริยะ Topic : ต้องการผู้บริจาคช่วยโรงเรียนไฟไหม้ ในจ.กาฬสินธุ์
.: Posted :.
Date : 27-01-2549
Time : 08:51:43 เกิดเหตุไฟไหม้อาคารเรียน โรงเรียนบ้านโนนชาด (สาขา 2) จ.กาฬสินธ์ ทำให้อาคารเรียนได้รับความเสียหายทั้งหลัง..ต้องการผู้บริจาคทุนทรัพย์ และอุปกรณ์การเรียนจำนวนมาก


สอบถามรายละเอียด
อาจารย์พิสิษฐ คำแสนโคตร โทร 01-729376 2
โรงเรียน บ้านโนนชาด (สาขา)2 ต. หนองแวง อ. สมเด็จ จ. กาฬสินธ์ 46150

//www.stopdrink.com/webboard/public/view.php?id=214
โดย: naigod IP: 202.142.216.254 วันที่: 27 มกราคม 2549 เวลา:9:28:11 น.
  
สวัสดีปีใหม่ จีน
โดย: เกดจัง วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:10:28:21 น.
  
นี่คือ ความจริง ที่ คนหนุ่ม สาว ทั้งหลาย ควรจะจดจำไว้

เมื่อคนชรานั่งอยู่คนเดียว และ
เริ่มต้นคิดถึงความหลัง

สิ่งที่เขาเสียใจมากที่สุด คือ
การที่เขาไม่กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง

นี่คือ ความจริง ที่ คนหนุ่ม สาว ทั้งหลายควรจะจดจำไว้
หากต้องการมี ความเสียใจ เพียงเล็กน้อย
ในบั้นปลายของชีวิต

เกดจัง

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kadejung&month=08-2005&date=10&group=4&blog=1
โดย: ืnaigod IP: 202.5.86.232 วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:11:19:02 น.
  
โดย: แ ม ง ป อ วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:23:18:10 น.
  
หวัดดีเพื่อน
//www.thaiwisdom.org/p_pum/move/move_news/klo.htm
โดย: e21fnw IP: 61.91.167.216 วันที่: 30 มกราคม 2549 เวลา:11:04:12 น.
  
โดย: naigod วันที่: 31 มกราคม 2549 เวลา:7:33:33 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Naigod.BlogGang.com

naigod
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด