ถนนสายนี้...มีตะพาบ กม.ที่ 269 "หน้ากาก" จากโจทย์ของคุณtoor36 ในหัวข้อ "หน้ากาก" คิตะจิมะ มายะ ใน หน้ากากแก้ว คืนส่งท้ายปีเก่า 1975 , โยโกฮาม่า เรือบรรทุกจะเปิดหวูดพร้อมกันในเวลาเที่ยงคืนแทนเสียงระฆังรับปีใหม่และยังเป็นค่ำคืน ที่ ร้านราเม็งมันปุกุเคน แห่งนี้จะมีงานหนักที่สุดในรอบปี . มายะต้องจะส่งโทชิโคชิโซบะทั้ง 120ที่แทนซึงิโกะให้ทันก่อนสิ้นเสียงหวูดเรือ โดยมี ตั๋วละครเวทีเรื่อง เจ้าหญิงคาเมลเลีย ที่โรงละครไดโตะ ในวันที่ 2 มกราคม เป็นเดิมพัน . ตั๋วเป็นดังความหวังของมายะ เพราะลำพังลูกเป็ดขี้เหร่ซ้ำร้ายฐานะยังยากจนอย่างเธอ ไม่มีทางได้สัมผัสกับอะไรเช่นนี้แน่ . มายะชอบดูละคร มายะรักการแสดง เธออาศัยอยู่กับแม่ชั้นบนของร้านราเม็งที่แม่เธอ ทำงานอยู่ มายะมักแอบดูทีวีตามบ้านลูกค้าที่ไปส่งอาหาร หรือไม่ก็ที่บ้านเจ้าของร้าน ในยามที่ได้จดจ่อกับละครทีวีตรงหน้า ทำให้เธอลืมความกังวลหมดทุกอย่าง . ปู้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน. สิ้นสุดเสียงหวูด เข็มนาฬิกาหยุดที่เลข 12 มายะ ทำสำเร็จ! . ซึงิโกะ รู้สึกเสียหน้าจึงแกล้งทำตั๋วปลิวตกแม่น้ำ แต่มายะยอมกระโดดลงทะเลที่เย็น ยะเยือกเพื่อตั๋วใบนั้น ในที่สุดเธอก็เป็นเจ้าของตั๋วใบนั้น และเธอจะได้ดูเจ้าหญิงดอกคาเมลเลียสมใจแล้ว! . . ฉันอยากเป็นดารา! ฉันอยากแสดงละคร! หลังจากวันที่มายะได้ชมเจ้าหญิงดอกคาเมลเลีย สมองของเธอก็มีแต่คำว่าการแสดง ส่งผลเสียต่อการทำงานในร้าน และการเรียนหนังสือ ในวันหนึ่งมายะก็ได้รู้จักกับ อ.สึกิคาเงะ หญิงลึกลับ และเป็นอาจารย์สอนการแสดงซึ่ง เป็นคนที่เห็นเพชรในตัวเธอ (อ.สึกิคาเงะ cr. ภาพ : Google) (มายะ และอายูมิ คู่แข่งแห่งเวทีการแสดงตลอดกาล cr. ภาพ : Google) . . ไฟแห่งความมุ่งมั่นอยากเป็นนักแสดงนั้นลุกโชนอยู่ในใจอย่างไม่มีวันมอดไหม้ แต่แม่ของมายะคือปราการอันแข็งแกร่งที่เธอไม่สามารถฝ่าทะลุไปได้ ในที่สุดมายะจึง ตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพื่อทำตามฝัน จากโยโกฮามะสู่โตเกียวด้วยรถเที่ยวแรก มายะเข้ามาเป็นนักเรียนการแสดงของคณะ ละครสึกิคาเงะตามคำชักชวนของ อ.สึกิคาเงะ ไม่ว่าจะได้รับบทบาทไหนเด็กสาวก็น้อม รับและขยันฝึกซ้อมจนลืมวันลืมคืน . และแล้วแม่ของมายะมาตามหาลูกสาวจนเจอ มายะยืนกรานว่าจะไม่กลับไปเด็ดขาด เมื่อ เริ่มมีปากเสียงกัน อ.สึกิคาเงะได้ออกมาช่วยเหลือ และเอาตัวกำบังมายะไว้ในขณะที่แม่ ของมายะสาดน้ำร้อนจากกาต้มน้ำใส่ ทำให้แม่ของมายะนิ่งอี้ง และคิดไม่ถึงว่าเหตุการณ์ จะเลยเถิดขนาดนี้ ในที่สุดแม่ก็กลับไปพร้อมกับยื่นคำขาดตัดแม่ตัดลูกกับมายะ! . . . จากนั้น อ.สึกิคาเงะได้พามายะเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง บนผนังมีหน้ากากแขวนอยู่สามอัน หน้ากากคนโกรธ หน้ากากหัวเราะ หน้ากากร้องไห้ อ.สึกิคาเงะได้เปรียบเทียบไว้ว่า แม่ของมายะ เป็นผู้สวม หน้ากากคนโกรธ มายะ เป็นผู้สวม หน้ากากร้องไห้ พวกที่แอบดูตรงประตู เป็นผู้สวม หน้ากากหัวเราะ อาจารย์ยังพูดต่ออีกว่า แต่จริงๆ แล้วอารมณ์ของคนเราไม่ได้มีแค่สามอย่าง ยังมีอิจฉา ดีใจ แค้นใจ ชอบ และเกลียด ซึ่งจะมีหน้ากากต้องสวมอีกนับไม่ถ้วนทีเดียว และประสบ- การณ์ที่พบเจอในชีวิตแต่ละครั้ง สามารถนำมาเกี่ยวโยงกับการแสดงได้ ซึ่งเธอเขื่อ ว่าลูกศิษย์ของเธอคนนี้คือ หญิงสาวผู้มีหน้ากากพันหน้า . “คนที่ไม่มีอะไรพิเศษอย่างเธอ สิ่งนี้คือสิ่งพิเศษสิ่งหนึ่ง ซึ่งแสนจะยิ่งใหญ่เสียด้วย” แม้นาทีนั้นมายะจะยังไม่เข้าใจความหมายของคำพูดนั้น แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดเธอจะเชื่อ มั่นในตัวเองและพร้อมก้าวขึ้นบันไดแห่งดาว ทีละขึ้นๆ... . นี่คือจุดเริ่มต้นของ "หญิงสาวผู้มีหน้ากากพันหน้า" . แล้วในชีวิตของเราล่ะ...ได้สวมหน้ากากถึงพันหน้าแล้วหรือยัง!?. หน้ากากแก้ว (นักรักโลกมายา) Garasu no Kamen (Glass Mask) 1976 เรื่องและภาพ : อ.มิอุจิ ซึสึเอะ แปล : อลิสา สนพ. : สยามอินเตอร์คอมิกส์ ความยาว : 49เล่ม(ยังไม่จบ) . ชอบลายเส้นการเขียนการ์ตูนค่ะ ในชีวิตจริงของคนเราก็สวมหน้ากากนับไม่ถ้วนเหมือนกันนะคะ
โดย: zungzaa วันที่: 19 มกราคม 2564 เวลา:10:08:53 น.
ในชีวิตจริงก็ต้องสวมหน้ากากอยู่แล้ว ทั้งหน้ากากอนามัยและหน้ากากอื่น ๆ
ตามมารยาทแล้วแต่กาลเทศะและกับใครด้วยนะคะ อิอิ ------------------ จากบล็อก ... "ผมคุ้นๆ ว่าเต้าหู้คินุ นี้เค้ามีฉลากสองสีใช่ไหมครับ แต่ไม่ทันได้สังเกตว่าต่างกันอย่างไร" ไม่ได้สังเกตเหมือนกันค่ะ 555 อันนี้จะตอบคำถามได้หรือเปล่าคะ https://today.line.me/th/v2/article/lYxl10 โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 19 มกราคม 2564 เวลา:10:14:15 น.
ทันซื้อหนังสือการ์ตูน
เล่มนี้ด้วยนะคะ เช็คอายุคนที่รู้จักได้เลยนะคะเนี่ย อิอิอิ เทคแคร์ โดย: อุ้มสี วันที่: 19 มกราคม 2564 เวลา:10:18:27 น.
เป็นการ์ตูนเรื่องเดียวที่ซื้อและติดตามอ่าน
มี มายะ "นักรักโลกมายา" เกือบครบ ค่ะ พอเปลี่ยนชื่อเรื่อง ช่วงหลังแต่งงาน ย้ายบ้านไม่ได้ติดตาม แม่ก็เก็บหนังสือไว้ให้(เก็บไปไหนไม่รู้ ตู้ก็หายไป) โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 19 มกราคม 2564 เวลา:10:18:38 น.
ส่วนตัวแล้วคิดว่า "หน้ากากแก้ว" วาดตาหวานได้สวยที่สุดครับ เด็กๆพยายามวาดตาการ์ตูนหวานๆแบบนี้แต่ไม่มีฝีมือเลยจริงๆ อิอิ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 19 มกราคม 2564 เวลา:12:54:29 น.
แทนที่มายะได้จะใส่หน้ากากเป็นนักแสดงสาวสุดสวย
มาเจอแม่ใส่หน้ากากยักษ์ เอ้ยยยย หน้ากากโกรธ จนเทอต้องใส่หน้ากากร้องไห้เลยหรอครับ 555555 และที่อาจารย์พูดถูกคือ "ผู้หญิง" นี่แหละมีหน้ากากเป็นพันหน้า ทีแรกก็ยิ้มๆ ถามว่าใส่ชุดนี้สวยไหม พอตอบไม่ถูกใจ ก็ใส่หน้ากากยักษ์ใส่อย่างไวเลยละครับ 555555 โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 19 มกราคม 2564 เวลา:14:42:52 น.
สวัสดีครับ
มาอ่านรีวิวหนังสือการ์ตูนด้วยครับ ขอบคุณที่แวะไปทักทาย...สวัสดีปีใหม่เช่นกันครับ โดย: Sleepless Sea วันที่: 19 มกราคม 2564 เวลา:17:29:28 น.
แม้ผมจะไม่เคยอ่านงานของ อ.มิอุจิ ซึสึเอะ
แต่ลายเส้นนี้ หน้าตาตัวละครแบบนี้ คุ้นตามากๆเลยครับ ในชีวิตผม ไม่น่ามีหน้ากากถึงพันครับ 555 การ์ตูนเรื่องนี้เค้าเข้าใจเปรียบเทียบนะครับ หน้ากากแต่ละอันก็ตรงกับบุคลิกของแต่ละตัวละครเลย โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มกราคม 2564 เวลา:22:02:22 น.
คนที่ติดตามรออย่างเดียวเลยล่ะครับ พอดีผมไม่ได้ตามเรื่องนี้แค่รู้จักเท่านั้นเอง ถ้าพูดถึงการ์ตูนตาหวานเรื่องนี้แหละที่หลายๆ คนจะนึกถึงเป็นเรื่องแรกๆ ผมคุ้นๆ ว่ามีเป็นอนิเมะด้วยนะเรื่องนี้
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 มกราคม 2564 เวลา:6:50:38 น.
จากบล็อก
เคยไปถ่ายรูปโบสถ์เก่าที่วัดหน่อพุทธางกูร สุพรรณ เค้ามีผ้าขนาดใหญ่ห้อยไว้กับเพดานโบสถ์ มีเชือกให้ชักแล้วจะสามารถโบกไปมาได้ อิอิอิ วันนี้มาชวนไปชิมอาหารจีนยูนนานที่ร้าน "หยิงปิงยูนนาน แม่สาย เชียงราย" ครับ โดย: ทนายอ้วน วันที่: 20 มกราคม 2564 เวลา:14:48:22 น.
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
ความจริงแมวชอบนอนเบียดแซะกัน คงเพราะมันอุ่นดี โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 20 มกราคม 2564 เวลา:15:48:19 น.
ที่ไปคุย
เรื่องนีั้เอาเข้าจริงแม้จะไม่ได้เลือดสาด แต่ผมว่าเนื้อเรื่องมันโหดร้ายต่อความรู้สึกเหมือนกันนะ โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 มกราคม 2564 เวลา:20:31:36 น.
สวัสดีค่ะ รีวิวเรื่องราวของ "หน้ากากแก้ว" หนังสือการ์ตูนได้น่าสนใจมากๆค่ะ
เราไม่ใช่คนชอบอ่านการ์ตูนเลยค่ะ เพิ่งรู้จักกับเล่มนี้ น่าชวนให้คิดนะคะ คนเราสวมหน้ากากถึงพันหน้ากันรึยัง!!! ขอบคุณมากๆนะคะที่แวะมาเยี่ยมชมที่บล็อกเราค่ะ โดย: Tui Laksi วันที่: 20 มกราคม 2564 เวลา:21:08:31 น.
กาลามสูตรของพระพุทธเจ้า
เป็นหลักธรรมที่ดีมากในการพิสูจน์ความเชื่อเลยครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มกราคม 2564 เวลา:22:24:08 น.
สุดยอดแห่งความโด่งดังเลยคัรบหน้ากากแก้ว และผมไม่ได้อ่าน แหะๆ แต่คอโชโจเชื่อว่าได้อ่านกันถ้วนหน้าแน่ๆ
ถ้าผมเขียนเกี่ยวกับการ์ตูนคงเป็นหน้ากากศิลาจากโจโจ้ละมั้ง เพิ่งได้อ่านเนื้อเรื่องของหน้ากากแก้วนี่แหละ อ.สึกิคาเงะ รู้สึกจะกลายเป็นมีมบ่อยนะครับ หน้ากากคู่กับการแสดงมาหลายวัฒนธรรมเลยนะครับ แต่หน้ากากพันหน้านี่ชวนให้คิดถึงระบำเปลี่ยนหน้ากากของจีน 555 โดย: ชีริว วันที่: 20 มกราคม 2564 เวลา:22:34:02 น.
มอร์นิ่งค่ะ
อากาศเย็นเวียนมาอีกครา รักษาสุขภาพกันค่ะ มายะ นี่ น่ารักพอๆกับอีกเรื่อง "นานะ" นะคะ แต่นานะ ไม่เคยอ่าน เคยแต่ดูหนัง ดูการ์ตูน โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 21 มกราคม 2564 เวลา:9:51:33 น.
เมื่อก่อนอ่านค่ะ ตอนนี้คงต้องตามอะนิเมะแล้ว
โดย: mariabamboo วันที่: 21 มกราคม 2564 เวลา:12:26:28 น.
โหยยยยยย ไม่อยากจะบอกว่า หน้ากากน้อยมาก ไม่ใช่ว่าอะไร
เป็นคนขี้ลืม พอเสแสร้งทีไร แม่มโป๊ะแตกทุกที เพราะงัน้เลิกๆ ไม่รุ่ง.. ว่าแต่ทำไมเราเพิ่งเห้นโพสนี้.. โหวตหมดเป๋าแล้วด้วย ขอแปะใจไว้ก่องนะ เดี๋ยวแวะมาใหม่ ปล.ขอบคุณที่แวะไปทักทายสามเหมียวนะคะ รูปน้องพิงพี่พี่ทับน้องน้องฟัดพี่นี่มีเยอะมาก เพราะมันเล่นกันทั้งวัน 5555+ โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 21 มกราคม 2564 เวลา:15:52:11 น.
ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะ
ในชีวิตคงต้องสวมหน้ากากหลายหน้าอยู่นะคะ แต่คิดว่าคงมีไม่ถึงพันหน้าค่ะ 555 ในเรื่องเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ชัดเจนค่ะ โดย: เนินน้ำ วันที่: 21 มกราคม 2564 เวลา:18:31:32 น.
จากบล็อก
หมั่นโถวทอดกินเปล่าๆแทนขนมได้เลยครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจในบล็อก "ร้านหยิงปิง ยูนนาน แม่สาย เชียงราย" ครับ โดย: ทนายอ้วน วันที่: 21 มกราคม 2564 เวลา:19:55:09 น.
ผมไม่ได้ติดตามเรื่อง หน้ากากแก้ว เท่าไหร่ครับ
อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง แล้วแต่จะยืมอ่านได้จากไหน แต่ตอนที่ช่อง 9 เอาอนิเมะที่ฉาย ผมติดตามดูตลอดเลยครับ ตอนนั้นฮือฮาพอสมควรเลย ถึงขนาดว่า...ในพันทิปมีกระทู้รายงานสดด้วยครับ >_< ป.ล. หลัง ๆ รู้สึกมีคนเชียร์อายูมิไม่น้อยเหมือนกัน ล่าสุดกลับมามองเห็นยังครับ หรือว่ามองไม่เห็นแล้วยิ่งเทพ (เหมือนชิริว ^^") โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 21 มกราคม 2564 เวลา:21:54:46 น.
ขอบคุณ คุณคนผ่านทางมาเจอ , คุณฟ้าใสวันใหม่ , คุณzungzaa , คุณอ้อ เริงฤดีนะ , คุณอุ้มสี , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ , คุณทนายอ้วน , คุณhaiku , คุณปริ๊นซ์ จันทราน็อคเทิร์น , คุณSleepless Sea , คุณSai Eeuu , คุณก๋า , คุณต่อ toor36 , คุณTui Laksi , คุณชีริว , คุณmariabamboo , คุณเนินน้ำ, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณสองแผ่นดิน และคุณnonnoiGiwGiw ที่มาพูดคุยและส่งกำลังใจให้นะครับ
โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 22 มกราคม 2564 เวลา:9:02:19 น.
วันนี้ชวนไปชิมต้มจืดน้ำซุปหวานๆ หอมๆ บำรุงกำลังกันครับ "ต้มมะระใส่ไก่บำรุงกำลัง"
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 22 มกราคม 2564 เวลา:13:40:00 น.
ข้าวแช่ ถือเป็นไฮไลท์ของโรงแรมหัวช้างเฮอริเทจเลยค่ะ สถานที่และบรรยากาศถือว่าใช้ได้เลยสำหรับใจกลางเมืองแบบนี้
โดย: zungzaa วันที่: 22 มกราคม 2564 เวลา:16:22:30 น.
ด้วยความยินดีครับ คุณnonnoiGiwGiw
ขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยครับ สวัสดีคุณInsignia_Museum และ คุณออโอนะครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 22 มกราคม 2564 เวลา:22:15:54 น.
เล่มที่ผมชอบมากที่สุดของคาลิล ยิบราน
คือ ปรัชญาชีวิต ครับ อ่านซ้ำหลายรอบแล้ว เป็นหนังสือที่ยอดเยี่ยมจริงๆครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มกราคม 2564 เวลา:22:42:58 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ชอบมายะ..ในหน้ากากแก้วมานานล่ะ..
อ่านทั้งหนัสือและซื้อวีดีโอ...
แต่เสียดาย ผู้เขียนเสียชีวิตไปก่อน..
เลยเขียนไม่จบ..หรือนักเขียนคนอื่นมาเขียนแทนก็ไม่ทราบได้
มาช้ายังดีกว่าไม่มานะคะ...อิอิ