ชวนอ่าน : ยามเมื่อลมพัดหวน : วาณิช จรุงกิจอนันต์ เนื่องในวันแห่งความรัก นิยายรัก และลมแห่งรัก ย า ม เ มื่ อ ล ม พั ด ห ว น . ณ ชุมทางรถไฟสายใต้ ประเทศฝรั่งเศส ชง ถูกไหว้วานจาก พาที รุ่นน้องคนสนิทให้มารับ การบูร พี่สาวที่เดินทางมาจากมาดริด และพาไปพักบ้านพี่อ้วนพี่แสด หนึ่งคืน ก่อนจะ มาหาพาทีที่ลอนดอนในเช้าวันถัดไป เหตุเพราะวันก่อนเจ้าตัวขับรถชนบาดเจ็บจนต้องนอน หยอดน้ำข้าวต้มอยู่ในบ้านพักที่ลอนดอน และด้วยความที่พาทีไม่ไว้ใจชง และกลัวว่าพี่สาว จะติดกับเสือผู้หญิงอย่างชง จึงวางแผนกันท่าด้วยการเตี๊ยมให้พี่สาวสวมรอยเป็นคนที่แต่ง งานมีครอบครัวแล้ว ซึ่งพาทีก็โกหกชงไว้เช่นกัน . . เมื่อแรกพบกัน การบูรออกอาการประหม่าต่อชงอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงต้องแสดงความ บริสุทธิ์ใจต่อเธอ การบูรแอบรู้สึกผิด และขอให้เขาพาไปเที่ยวในระหว่างที่พี่อ้วนและ พี่แสดยังไม่กลับมาถึงที่พัก . เดทแรกของทั้งสองคือ การเที่ยวชมพระราชวังแวร์ซายส์ ลงรถไฟใต้ดินไปพิพิธภัณฑ์ ลูฟร์ ลัดเลาะถนนชองป์เซลีเซ่ และขึ้นไปชมทิวทัศน์ของเมืองบนหอไอเฟล ในระหว่าง ทางหนุ่มสาวทั้งสองได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนทัศนคติจนกำแพงน้ำแข็งถูกทำลายลงที ละน้อย แต่เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ เพราะวันรุ่งขึ้นการบูรต้องไปหาน้องชาย ที่ลอนดอนแล้ว (cr.ภาพ : เวป eurofollowme) . คงเป็นเพราะพรหมลิขิตที่ทำให้ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกที่ลอนดอน พาทีดูออกว่าพี่สาว ของตนเริ่มสนใจชง แต่การบูรก็แสร้งว่าตนแค่อยากเปิดใจศึกษาดูเท่านั้นเพราะจริงๆ แล้ว เธอก็ยังเป็นสาวโสด แต่การที่ต้องแบกสถานภาพแม่ของลูกอย่างปลอมๆ บังหน้า จึงไม่ อาจเปิดเผยความในใจที่แท้จริงออกไปได้ เช่นเดียวกับชงที่ทำได้เพียงหน้าที่คนนำเที่ยว และคนรู้จักเท่านั้น แม้ใจจะไม่คิดเช่นนั้นก็ตาม... . . นอกจากนี้ ยามเมื่อลมพัดหวน ยังไม่ได้เหป็นแค่นิยายรักเพียงอย่างเดียว แต่บทสนทนา แลกเปลี่ยนทัศนคติของสองหนุ่มสาวในช่วงที่เดินเที่ยวกันตามลำพังนั้น ยังสะท้อนมุมมอง ในเรื่องความสุขในชีวิต และความรู้สึกต่อถิ่นฐานบ้านเกิด ที่น่าสนใจไม่น้อย . . ยามเมื่อลมพัดหวน ผลงานจากปลายปากกาของคุณวาณิช จรุงกิจอนันต์ ตีพิมพ์ ครั้งแรกเมื่อปี 2529 สังเกตจากบทสนทนาที่บางคำยังคงเป็นคำที่ใช้ในสมัยนั้น เช่น ดอก (หรอก) . หากมองในแง่ของนักเรียนศิลปะจะรู้สึกชอบฉบับนิยายเพราะในบทสนทนาช่วงที่ชงและ การบูรเดินเที่ยวแวร์ซายส์และลูฟร์ มีการบรรยายรายละเอียดของภาพเขียนและศิลปะ หลายๆชิ้นอย่างเข้าใจ ชวนให้นึกถึงคาบเรียนวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะเมื่อตอนเป็นนัก ศึกษาทีเดียว . “ภาพผู้หญิงสองคนในชุดขาวบนระเบียง คนหนึ่งนั่ง คนหนึ่งยืน มีผู้ชายอยู่ ในภาพ และมีพนักงานบรการอีกคนหนึ่งอยู่ในรูป” คือฉากที่บรรยายถึงภาพเขียน ของ มาเน่ต์ ซึ่งชงบอกว่าหญิงสาวคนหนึ่งในภาพมีส่วนคล้ายการบูร ( ภาพดังกล่าวคือ The Balcony, 1869 By Édouard Manet) ( cr.ภาพ : เวป artnews) . . ปี พ.ศ.2536 นิยายเล่มเล็กเล่มนี้ ถูกนำไปผลิตเป็นละครโทรทัศน์ขนาดยาวโดยค่าย เอ็กแซ็กท์ นำแสดงโดย เจ เจตริน และ หมิว ลลิตา กำกับการแสดงโดย คุณถกลเกียรติ วีรวรรณ ฉายทางช่อง ททบ.5 เสาร์-อาทิตย์ . นิยายนั้นจบที่ชงมาส่งการบูรซึ่งจะเดินทางกลับเมืองไทย โดยหย่อนปมให้นักอ่านได้ขบ คิดถึงสิ่งที่ชงจะตัดสินใจในอนาคต แต่ในละครขยายเนื้อเรื่องจากทริปสี่วัน เพิ่มออกไป มากพอควร ซึ่งบทโทรทัศน์ก็ดัดแปลงเนื้อหานิยายบางส่วนให้เหมาะกับการเป็นละคร โรแมนติกที่ชวนติดตาม (เราเองก็ติดมาก) เพราะทำให้ได้ดูวิวสวยๆ ของเมืองนอกเมือง นาอีกถึง 3ประเทศ นั่นคือ ฝรั่งเศส อังกฤษ และ สวิตเซอร์แลนด์ . ( ละครยามเมื่อลมพัดหวน ภาพปกซีดี cr. ภาพ : google) ในภาคละคร การบูร หนีจากความวุ่นวายของสองหนุ่มที่มาตามตื้อ คนหนึ่งก็เจ้านาย อีก คนก็นักธุรกิจ เธอจึงขอพักสมองที่ต่างประเทศและให้น้องชายเป็นไกด์พาเที่ยว แต่เพราะ เกิดเรื่องฉุกเฉินจึงทำให้ได้เจอกับชง . พอมาถึงปารีส ผู้ชมก็จะเริ่มได้ดูอาหารตาจากสถานที่ท่องเที่ยวมากมายอย่าง หอไอเฟล พระราชวังแวร์ซายส์ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ซึ่งในละครตัดดีเทลเรื่องภาพเขียนออกไป เพราะคน ที่ไม่ได้สนใจเป็นพิเศษอาจดูไม่สนุก นอกนั้นก็มีประตูชัย มงมาร์ต ยูโรดีสนีย์ , สถานที่เด่นๆ อื่นๆ เช่น ยอดเขาพิลาตุสที่สวิตเซอร์แลนด์ และจัตุรัสทราฟัลการ์ ที่ลอนดอน . ในภาคละครก็เพิ่มเติมตัวละครมากมาย ได้แก่ ก๊วนเพื่อนน้องชาย, ดาวิน หนุ่มที่มาตามจีบ การบูร , เฮเลน สาวที่มาเกาะแกะชง ส่วนเนื้อหาหลังจากการบูรกลับถึงเมืองไทย พ่อของ เธอก็คะยั้นคะยอเรื่องการแต่งงาน ระหว่างที่ยื้อกันไปยื้อกันมา คุณชงก็กลับมาเมืองไทย แต่แหม ก็ละครน่ะนะจะปล่อยให้แฮปปี้เอนดิ้งง่ายๆ ได้ไง ทีมงานก็ส่งแฟนเก่าของชงเข้า มาในชีวิตอีก เนื้อเรื่องก็ยิ่งดราม่าไปใหญ่ ก็แอบรู้สึกยืดเกินไปหน่อยเหมือนกัน แต่ก็เลิกไม่ ได้นะตามดูจนจบเรื่องนั่นแหละ ^^ . . นิยายเล่มเล็กที่อัดแน่นด้วยความรู้สึกรัก ย า ม เ มื่ อ ล ม พั ด ห ว น ผู้เขียน : วาณิช จรุงกิจอนันต์ ฉบับพิมพ์ครั้งที่สี่ โดย แพรวสำนักพิมพ์ . . เพลงที่ปรากฏขึ้นในคืนที่การบูรพักค้างคืนที่บ้านพี่อ้วนพี่แสดและชงได้อยู่ร่วมโต๊ะอาหาร ด้วย (ทั้งนิยายและละครมีซีนนี้เหมือนกัน) เป็นเพลงร้องที่พี่แสดชอบ เพราะฟังแล้วคิดถึง เมืองไทย เนื้อเพลงเริ่มต้นด้วยท่อน ยามเมื่อลมพัดหวน…นั่นก็คือ เพลงลาวคำหอม เพลงลาวคำหอม จากเวอร์ชั่น Ost.สี่แผ่นดิน 2546 ชอบนะ เพราะ ฟังสบาย Cr. : youtube : Triyaraj Champ . . เพลงประกอบละคร ยามเมื่อลมพัดหวน : เจ เจตริน เสียดายที่ในวิดีโอไม่ใช่เวอร์ชั่นเดียวกับไตเติ้ลละคร Cr. : youtube GMM Grammy . . ชวนอ่าน x ยามเมื่อลมพัดหวน https://www.facebook.com/comeonreading แค่อ่านที่รีวิวแล้วก็อยากไปหาอ่านหรือดูให้จบซะเลย
น่าสนุกนะคะเนี่ย โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:21:20:38 น.
ตอนเป็นละคร ชื่อเรื่องนี้ ผุดขึ้นมาเลย นานมากพอสมควรค่ะ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:1:20:34 น.
ใช่เลย เราคุ้นกับเพลงประกอบทั้งสองเพลง ชอบมากๆ
แต่ไม่ได้ติดละครทีวีสักเท่ารัย ยุคนั้นเราไม่ค่อยชอบนั่งดูละครทีวีเลยค่ะ และก็ไม่ได้ชอบอ่านหนังสือนวนิยายสักเท่ารัย แต่อ่านรีวิวนี้ เขียนไว้ให้น่าสนใจน่าตามไปอ่านจัง Happy Valentines Day ... ขอบคุณค่ะ ที่นำหนังสือแนวรักหวานๆมารีวิวตรงวันแห่งความรักเลย โดย: Tui Laksi วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:5:17:42 น.
อรุณสวัสดิ์ครับ ตัวนิยายผมไม่เคยอ่าน ละครก็ไม่เคยดู แต่ชอบเพลงครับ ตอนนั้นเพลงนี้ดังมากจริงๆ จำได้ว่าช่วงนึงผมชอบอ่านงานเขียนของคุณวาณิชมาก โดยเฉพาะคอลัมน์ในมติชน นิยายจำได้ว่าได้อ่านแค่แม่เบี้ยครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:5:45:17 น.
สวัสดีครับ
มาอ่านรีวิวหนังสือรักด้วยครับ น่าอ่านครับ อ่านแล้วคงนึกถึงตอนเรียนเหมือนกัน โดย: Sleepless Sea วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:12:33:11 น.
ผมก็เป็นแฟนหนังสือของคุณวาณิช
ชอบที่ท่านเขียนเกี่ยวกับการท่องยุโรป เล่มหนาๆ และนิยายอีกหลายเรื่อง ผู้ประพันธ์มีความรู้ทางศิลปะ เมื่อเห็นชื่อเรื่องนี้แล้วก็หวลคิดถึงตัวละครในนั้นครับ โดย: Insignia_Museum วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:13:42:33 น.
ยามเมื่อลมพัดหวนดูในภาคละครไปค่ะ
อ่านหนังสือน่าจะได้จินตนาการมากกว่า ชอบเพลงลาวคำหอมด้วยค่ะ น่าหามาอ่าน มาดู และมาฟังอีกครั้งจัง ขอบคุณสำหรับรีวิวและกำลังใจนะคะ โดย: Sweet_pills วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:0:07:52 น.
ผมเคยฟังแต่ที่เป็นเพลง ละครกับนิยายไม่ได้ตามเลยครับ เก่ามากแล้วด้วยล่ะนะ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:0:09:01 น.
อรุณสวัสดิ์ครับ เคหาสน์ดาว ก็ได้ยินแต่ชื่อครับ ผมดูละครน้อยมาก จนเกือบจะพูดได้ว่าไม่ดูละครเลยครับ ทุกวันนี้ผมดูทีวีน้อยมากครับ อ่านหนังสือเป็นส่วนใหญ่ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:5:54:39 น.
หนังสือเล่มนั้นเป็นสารคดีครับ
ชื่อ ท่องยุโรปใต้ เล่าเรื่องการเดินทางและเพื่อนร่วมทัวร์ที่มีนิสัยต่างๆกัน โดย: Insignia_Museum วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:11:39:44 น.
ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจที่บล็อก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงแสน ด้วยนะครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:19:53:26 น.
สวัสดีมีสุขค่ะ
เป็นแฟนคลับคุณวานิช ค่ะ ดังนั้นอ่านเกือบทุกเล่ม รวมถึงเล่มนี้ด้วยค่ะ ชอบชื่อ นางเอก การบูรมากๆ ขอบคุณกำลังใจที่ให้วุ้นกะทิด้วยนะคะ โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:20:01:57 น.
ผมเคยดูละครด้วยครับ ตอนนั้นติดกันทั้งหอเลยครับ ละครของเอ็กแซกตอนนั้นดูแทบทุกเรื่อง เพลงก็ฮิตติดลมบนด้วย ฉบับเป็นหนังสือยังไม่เคยอ่าน แต่ชอบอ่านคอลัมน์ของคุณวาณิช แบบเดียวกับคุณก๋าเลยครับ
เพลงเพราะมาก ๆ ครับ พรุ่งนี้มาใหม่นะครับ โดย: The Kop Civil วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:22:58:29 น.
ผมไม่เคยอ่านหนังสือของคุณวาณิช จรุงกิจอนันต์ เลยครับ
แต่ก็รู้จักจากละครของ Exact ช่อง 5 นะ เพราะดังมาก แต่ผมก็ไม่ได้ดู เพราะที่บ้านดูละครช่อง 7 ^^" ผมก็ชอบพวกศิลปะเหมือนกันครับ แต่ยังไม่มีปัญญาไปยุโรปเลย (แถมโควิดยังอยู่กับในโลกอีกนาน ชาตินี้ไม่รู้จะได้ไปมั้ย ^^") เรื่องการเพิ่มตัวละครที่ไม่มีในต้นฉบับผมเข้าใจนะ Exact เค้ามีดาราในสังกัดเยอะเลยต้องดัน ๆ กันหน่อยเนอะ :D โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:23:28:22 น.
เพลงมยุราภิรมย์เฉพาะชื่อเพลงก็ไพเราะมาก
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ โดย: Sweet_pills วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:23:47:19 น.
อรุณสวัสดิ์ครับ เรื่องชายหนุ่มกับหญิงสาวในบล็อกเมื่อวาน ผมนึกถึงนักบวช ที่คิดว่าจะสละโลกหวังนิพพาน แต่สุดท้ายก็ไม่รอดครับ เมื่อเจอกิเลสทดสอบ 555 โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:6:01:13 น.
Wow!!
ทันๆๆค่ะ ละคร ยามเมื่อลมพัดหวล ทันอ่านนิยายคุณวานิชฯ ด้วย ละครเรื่องนี้..คู่จิ้น สมัยก่อน เจ -หมิว คนติดตามทั้่งเมือง ทำให้เกิดประเด็น..เป็นแฟนอย่าเล่นคู่กัน เพราะในชีวิตจริง จะไม่ได้แต่งกัน โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:49:08 น.
สวัสดีตอนมืดๆครับ
ชวนไปชิมเค้กที่ร้าน ชนบทคาเฟ่ เขาใหญ่ครับ โดย: ทนายอ้วน วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:19:44:23 น.
ขอบคุณคุณทนายอ้วน, คุณฟ้าใสวันใหม่, โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:20:37:34 น.
งานของผม
เจอคนเยอะมาก มักจะมีคำถามแปลกๆที่ไม่อยากตอบ นั่นล่ะครับ ผมยิ้มอย่างเดียวเลย 555 โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:22:33:25 น.
หนังสือเลิฟ ๆ ในเดือนแห่งความรักสินะครับ อิอิ
ผมก็ว่าทำไมชื่อหนังสือมันคุ้นๆ การบุนก็คุ้นๆ อ๋อ เคยเป็นละครนี่เอง แต่เพลงลาวคำหอม นี่ ผมเคยตีขิมเพลงนีด้วยนะครับ หลายคนคงงงว่าผมเล่นขิมด้วยหรอ เล่นได้ครับ เป็นดนตรีไทยอย่างเดียวที่เล่นได้เพราะพ่อส่งไปเรียนพร้อมพี่สาว อ๋อ เล่นเพลงที่อังสุมาลินตีได้ด้วย แต่ไม่ค่อยเล่นให้ใครเห็นอ่ะครับ ใครเห็นก็ตกใจ 555555 โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:17:31:32 น.
จากที่บล็อก
ชอบสุ่มปลาที่เอามาทำเป็นโป๊ะๆไฟประดับเพดานเหมือนกันครับ ตอนแรกก็คิดว่าจะตกแต่งเพดานห้องกินข้าวที่บ้านแบบนี้เลย แต่มีคนเตือนเรื่องการทำความสะอาด หยากไย่ ฝุ่น เลยเลิกคิดครับ ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่บล็อก - ชนบท เขาใหญ่ด้วยนะครับ โดย: ทนายอ้วน วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:19:50:09 น.
ได้อ่านนิยายด้วย ได้เที่ยวฝรั่งเศสด้วย
ผมยังไม่เคยไปเลย แต่ถ้าไปก็คงปักหมุดไปแวร์ซาย ลูฟร์ แซงเดอนี และหอไอเฟล ถ้ามีคนแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสน่าจะขายดีที่นั่นนะครับ ส่วนลอนดอนอยากไปบริทิชมิวเซียมกับบิ๊กเบน เคยเป็นละครมาแล้วด้วย ปี 36 ผมยังดูแต่หนังแปลงร่างอยู่เลยครับ ลาวคำหอมใช้ในหลายเรื่องจริงๆ ล่าสุดเท่าที่รู้จักก็แม่เบี้ย โดย: ชีริว วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:21:52:09 น.
จากบล๊อก
เอาจริงๆ ผมกับพี่ ผจก ก็สนิทกันนะครับ แต่บางทีผมก็ต้องระวังเค้าน่ะ 55555 อาจจะด้วยอายุที่ห่างกัน 8 ปี แต่ความรับผิดชอบเท่าๆ กัน แล้วโดนแซะบ่อยเหมือนกัน แซะมาก็แซะกลับเหมือนกันฮะ ไม่โกงกัน 55555 โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:13:58:11 น.
ประตูแมวติดตั้งไม่ยากค่ะ ผู้หญิงยังทำได้เลย
มีคลิปมาฝากด้วยค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=BqD0NYf_o3Q ประตูแมว เปิดปิดได้ 4 แบบค่ะ เข้าออกได้ตลอด ... ที่บ้านเปิดฟรีเลย 555 เข้าอย่างเดียว ออกอย่างเดียว ล็อคไม่ให้เข้า/ออก ขอบคุณกำลังใจด้วยนะคะ โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:21:03:56 น.
less is more
เป็นปรัชญาในการออกแบบ สมัยผมเรียนถาปัตย์เลยครับ ยุคนี้ก็ยังคงใช้แนวคิดนี้ในการใช้ชีวิต และการออกแบบได้อยู่เสมอนะครับ เป็นแนวคิดที่ร่วมสมัยมากๆเลย โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:23:11:04 น.
|
BlogGang Popular Award#20
มาช้ายังดีกว่าไม่มา
บทความทั้งหมด
|
ชอบเพลงลาวคำหอมด้วยครับ ชอบเวอร์ชั่นนี้ เพราะมากๆ