การ์ตูนนักข่าว สืบโอซาก้า : อากิฮิโระ โอทานิ & ยาสึอิจิ โอชิมะ "นักข่าว จะไม่มีความจำเป็นเลยในเวลาที่สังคมอยู่เย็น เป็นสุข แต่ในเวลาที่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นในสังคมหรือใน ยามที่เกิดปัญหาซึ่งไม่รู้จะจัดการยังไง เวลานั้นแหละที่ พลังของนักข่าวมีความจำเป็น" (คุณมะซึโน่) . . สืบโอซาก้า การ์ตูนที่จะพาเราเข้าไปคลุกวงในอาชีพนักข่าวหนังสือพิมพ์ ในช่วงก่อนเข้าสู่ยุคมิลเลนเนียม ในสมัยที่สิ่งพิมพ์ทั้งหลายยังเฟื่องฟู และเทคโนโลยีการสื่อสารยังไม่ก้าวล้ำอย่างทุกวันนี้ นักข่าวหนังสือพิมพ์คืออาชีพหนึ่งที่ทำงานไม่เป็นเวลา ต้องขยัน ทุ่มเทและกระตือรือร้นตลอด วันเพื่อไล่ล่าข่าวให้ทันเวลาทันเหตุการณ์ ทั้งยังต้องชิงความได้เปรียบกับหนังสือพิมพ์หัวอื่นๆ เพื่อให้ข่าวของตน “เหนือชั้น” กว่าใคร และหัวใจสำคัญของความเป็นนักข่าวที่ดีจะขาดไม่ได้ นั่นคือการเขียนข่าวอย่างมี “จรรยาบรรณ” (ทานิ อิปเป ภาพจากอินเตอร์เน็ต) . ทานิ อิปเป นักข่าวหนังสือพิมพ์นิซเซ ลูกหม้อเก่าจากสาขาโตเกียวย้ายมาเป็น เลือดใหม่ของฝ่ายข่าวอาชญากรรมที่สาขาโอซาก้า ภายในสิบหกวันผลงานข่าวชิ้นแรก ของหนุ่มไฟแรงอย่างเขาก็ได้รับรางวัลจากหัวหน้าฝ่ายข่าว ด้วยงานข่าวที่ถูกต้องและ เขียนข่าวอย่างมีมนุษยธรรม แม้จะไม่ได้ลงพาดหัวอย่างที่เจ้าตัวหมายมั่นไว้ก็ตามแต่นี่ถือเป็น ขวัญและกำลังใจแรกที่ประเดิมกับการทำงานในสาขาโอซาก้าแห่งนี้แล้ว (ตัวละครบางส่วนจากสืบโอซาก้า // ภาพจากเวป y-oshima.jp) . ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในแหล่งข่าวสำคัญของนักข่าวนั่นคือสถานีตำรวจ และในท้องที่นี้คือ สถานีตำรวจกลางนิชินาริ ทุกเช้าวันใหม่การทำงานได้เริ่มต้นที่นี่ จากมูลข่าวของเจ้า หน้าที่บ้างและจากในสมุดบันทึกคดีประจำวันบ้าง ภายในสน.จัดสรรพื้นที่ให้สำหรับเป็นบล็อก ข่าวของทุกหนังสือพิมพ์ เรียกได้ว่าเป็นทั้งออฟฟิสย่อยๆและที่หลับที่นอนไปในตัว หลายคดีที่ ได้เห็นใน สืบโอซาก้า เป็นเรื่องที่ทั้งสามารถเกิด และเกิดขึ้นจริงในสังคมได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น คดีฆาตกรรม คดีชู้สาว ชิงทรัพย์ ลักพาตัว คดโกงธุรกิจ การเมือง ฯลฯ ซึ่งบางคดีนั้นคือ base on true story จากคดีที่เกิดขึ้นจริงอีกด้วย . สืบโอซาก้า เขียนโดย อ.อากิฮิโระ โอทานิ อดีตนักข่าวตัวจริง และสร้างสรรค์ภาพโดย อ.ยาสึอิจิ โอชิมะ เจ้าของผลงานสุดคลาสสิค Batsu & Terry สองสิงห์เจ้าสำอางค์ (1982) อาจารย์ทั้งสองให้ความเห็นที่เป็นต้นทางความคิดในการสร้างสรรค์การ์ตูนสืบโอซาก้านี้ว่า "เพราะเราอยู่ร่วมกันในสังคมจึงต้องรู้จักสังคมในทุกๆด้าน อาชญากรรมคือกระจกสะท้อนสังคม และนักข่าวคือสื่อสารมวลชน แต่จะมีสักกี่คนที่ทุ่มเทให้กับสังคมอย่างเต็มที่ ซึ่งทานิคือตัวแทนของสิ่งนี้ ที่นอกเหนือจากการเป็นนักข่าวธรรมดาแล้ว เขาคือมนุษย์ที่มีความห่วงใยในมนุษย์ด้วยกัน" . ตั้งแต่เริ่มเรื่องจนถึงตอนจบเราจะได้เห็นพัฒนาการการทำงานของทานิ จากการเริ่มต้นทำข่าว คดีเล็กๆ ไปจนกระทั่งคดีใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ในหลายเมืองของญี่ปุ่น ความยากลำบากกว่าจะ ได้สกู้ปข่าวแต่ละชิ้น ได้ร่วมงานกับคนที่เข้าขาง่ายก็มี และคนที่เข้าใจยากก็เยอะ ซึ่งทานิต้อง ผ่านไปให้ได้ . . . 17 มกราคม 1995 (ตรงกับปี พ.ศ.2538) เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 7.2ริกเตอร์ ที่ โอซาก้า ภัยพิบัติครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปกว่าห้าพันราย ในตอนนั้น ทานิ (พระเอกของเรื่อง ใน ภาคนี้ทานิแต่งงานมีครอบครัวแล้ว) นักข่าวอาชญากรรมจากหนังสือพิมพ์นิซเซ เดินทางมาร่วม ฉลองงานปีใหม่ของสาขาโกเบ ทำให้เค้าได้เห็นเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า ทั้งความ พังพินาศของอาคารบ้านเรือน ความสูญเสียของหลายครอบครัว และคนรู้จักที่รวมอยู่ในนั้น ภาพความทุกข์ยากลำบากในการใช้ชีวิตของผู้ประสบเคราะห์กรรม การกู้ภัย ช่วยเหลือ และ ปัญหาความขัดแย้งในการจัดการ สิ่งเหล่านี้คือเรื่องราวในในภาคสอง โอซาก้าวิปโยค . แม้การ์ตูนเรื่องนี้จะแสดงให้เห็นถึงภาพความสูญเสียอันประเมินค่ามิได้ แต่อีกด้านหนึ่งก็แสดง ให้เห็นถึงความช่วยเหลือเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันอันเต็มไปด้วยไมตรีจิตดังที่ทานิรับรู้ได้ ไม่ว่าจะ ระหว่างผู้สูญเสียด้วยกันเองการช่วยเหลืออาสาสมัคร ของภาครัฐ รวมไปถึงการช่วยเหลือผู้ เดือดร้อนชาวต่างชาติสิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้สูญเสียได้อย่างเห็นได้ชัด . เมื่อฝันร้ายผ่านพ้นไป โกเบ เมืองที่พวกเขารักก็ได้กลับมามีชีวิตสดใสขึ้นมาใหม่ ด้วยแรงกาย แรงใจของทุกคนที่ช่วยเหลือกันในยามตกทุกข์ได้ยากโดยไม่เกี่ยงเชื้อชาติ อาชีพ และสถานะ นี่แหละ " Re-Kobe" . . “สิ่งที่มีค่าไม่ใช่สิ่งที่พังทลายสูญสิ้นไป แต่เป็นคุณค่าของความเป็นคน” -คุณโชโกะ- (คุณโชโกะ : นักเปียโนสาวผู้สูญเสียน้องชายในเหตุการณ์ และแมนชั่นที่ทำห้องเก็บ เสียงเพื่อไว้สำหรับซ้อมเปียโนก็พังทลายหมด เหลือแต่หนี้สินที่เธอต้องจัดการต่อไป) . . . สืบโอซาก้า こちら大阪社会部 Kochira Osaka Shakaibu (1992-1995) เรื่อง : อากิฮิโระ โอทานิ ภาพ : ยาสึอิจิ โอชิมะ ความยาว : 9 เล่มจบ +ภาคพิเศษ โอซาก้าวิปโยค (เล่มเดียวจบ) สนพ. : วิบูลย์กิจ ลิขสิทธิ์จาก โคดันฉะ . . และเรื่องนี้เหมือนจะมีภาคอื่นนอกเหนือจาก 10 เล่มนี้ด้วย แต่บ้านเราไม่ได้นำมาตีพิมพ์ ดูจากปกและชื่อเรื่องแล้ว ไม่แน่ใจว่าเป็นภาคก่อนที่ทานิจะย้ายมาโอซาก้า หรือหลังจากโอซาก้าแล้วไปทำที่เขตอื่นก็ไม่รู้แฮะ (ภาพจากภาคอื่น // ภาพจากเวป y-oshima.jp) . note : วันนักข่าว หรือวันสื่อสารมวลชนแห่งชาติ ในประเทศไทย ตรงกับวันที่ 5 มีนาคม ก่อตั้งโดย สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2498 (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย) . ชวนอ่าน x สืบโอซาก้า https://www.facebook.com/comeonreading สองสิงห์เจ้าสำอางค์ เคยอ่านสมัยเป็นเด็กครับ
เรื่องนี้สนุกดี สืบโอซาก้าก็เหมือนจะเคยอ่านด้วยล่ะครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มีนาคม 2564 เวลา:23:02:43 น.
สวัสดีครับ น่าสนุกมากเลยครับ อาชญากรรมคือกระจกสะท้อนสังคม มันจริงที่สุด อาชีพนักข่าวผมว่ายังไงก็ต้องคงอยู่ในสังคมต่อไป อีกนานเท่านาน ไม่งั้น เรื่องราวลึกลับ ปม สิ่งที่ควรเปิดเผยต่อสังคม จะไม่มีวันปรากฏแก่สาธารณะได้ง่ายๆ นักข่าวอาจจะไม่มีความจำเป็น ก็ต่อเมื่อ วันที่สังคมนั้น เป็นสังคมในอุดมคติ ซึ่งผมคิดว่า คงไม่ได้มีง่ายๆ ในโลกที่กำลังจะเป็นไปต่อจากนี้ สืบโอซาก้า ทั้ง 9 เล่ม รวมภาคพิเศษ ถ้าได้อ่านคงวางไม่ลง ต้องอ่านต่อเนื่องไปจนจบแน่นอนครับ โดย: สีเมจิก (สมาชิกหมายเลข 5106714 ) วันที่: 20 มีนาคม 2564 เวลา:23:06:47 น.
มาส่งกำลังใจค่ะ ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือการ์ตูนเลย สมัยเด็กๆอ่านแต่หนังสือตุ้กตา ***** จากบล็อก ค่าจอดรถ กับค่าปรับในเมืองนิวยอร์กซิตี้ ไม่ค่อยกล้าเข้าไปในเมืองถ้าไม่จำเป็นหรือ มีเพื่อนมาเที่ยวพาไปดูบอร์ดเวย์โชว์นานๆที่ค่ะ แต่ก็ไปรถเมล์ รถใต้ดินได้ สว.ก็เดินทางแบบลุยๆไม่ไหวค่ะ โดย: newyorknurse วันที่: 21 มีนาคม 2564 เวลา:0:14:51 น.
บางครั้งนักข่าวก็ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงจากการลงข่าวเหมือนกันครับ
การ์ตูนเก่าเอาเรื่องเลย แต่สมัยนั้นการทำข่าว การเข้าถึงข่าวสารมันยากลำบากจริงๆ ต่อให้เราบ้าติดตามข่าวแค่ไหนก็ตาม แต่ช่องทางการนำเสนอมันน้อย สมัยประถมครูจะสอนว่า หนังสือพิมพ์เป็นสือที่เชื่อถือได้ต่ำที่สุด โทรทัศน์เชื่อถือได้มากที่สุด เพราะมีทั้งภาพและเสียง แต่ถ้าเป็นยุคปัจจุบัน ในยุคที่ภาพสามารถตัดต่อได้ เสียงสามารถสังเคราะห์ได้ เราจะพึ่งพาอะไรได้ล่ะในการเชื่อถือสื่อ วันก่อนผมไปฟังในคลับเฮาท์พวกนักข่าวมาคุยกัน มันก็ทำให้เราเห็นถึงมุมมองความยากลำบากของนักข่าวในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลเช่นกัน โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 21 มีนาคม 2564 เวลา:17:23:26 น.
เรื่องการเอาใจใส่ทางสังคม
จรรยาบรรณของผู้สื่อข่าว สะท้อนออกมาผ่านการ์ตูนชุดนี้ ถือเป็นการ์ตูนน้ำดี การช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ของชาวอาทิตย์อุทัยนี่.. พาลนึกถึง หนังรางวัลหรือหนังเครื่องเยี่ยม สมัยเพิ่งสร้าง Tokyo Tower เสร็จ เรื่องอะไรน้า!! คนญี่ปุ่นแนะนำให้ดู ให้อ่านค่ะ โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 21 มีนาคม 2564 เวลา:18:49:37 น.
สวัสดีครับ จากบล็อก - "การได้รู้จักใครสักคน เป็นวาสนาจริงๆ นะครับ" บางครั้งเป็นวาสนา บางคราก็เป็นเคราะห์กรรมครับ โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 21 มีนาคม 2564 เวลา:19:12:50 น.
ไออิ กับมาโกโตะ
ผมเคยอ่านครับ แต่จำเนื้อหาไม่ได้แล้ว เพราะอ่านตอนยังเป็นเด็กประถมอยู่เลยล่ะครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มีนาคม 2564 เวลา:22:05:05 น.
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 22 มีนาคม 2564 เวลา:0:09:03 น.
ในความสูญเสียได้เห็นน้ำใจ การช่วยเหลือเกื้อกูลให้กำลังใจกันนะคะ
เป็นการ์ตูนที่น่าอ่านและให้ข้อคิดดีจังค่ะ โดย: Sweet_pills วันที่: 22 มีนาคม 2564 เวลา:0:14:41 น.
หนังสือเล่มแรก นักสืบโอซาก้า คุ้นๆว่าเคยอ่านค่ะ
โดย: Sai Eeuu วันที่: 22 มีนาคม 2564 เวลา:0:45:25 น.
ชอบตรงที่เขาเอาวิชาชีพนักข่าวนักหนังสือพิมพ์มาทำเป็นการ์ตูน
แน่นอนว่าจะต้องมีเรื่องเล่าไมซ้ำกัน คิดถึงยุคที่มีแผงหนังสือทุกหัวมุมและผมเคยเป็นแฟนประจำในนิตยสารบางฉบับ สืบโอซาก้า ก็น่าสนใจเช่นกันครับ โดย: Insignia_Museum วันที่: 22 มีนาคม 2564 เวลา:2:22:17 น.
จันทรสวัสดีครับ ภาพการ์ตูนคล้าย ๆ ซิตี้ฮันเตอร์ การ์ตูนโปรดของผม โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 22 มีนาคม 2564 เวลา:9:41:49 น.
ขอบคุณค่ะ
รอดูพวงครามออกดอก คงอีกนานเลยค่ะ อิอิ โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 22 มีนาคม 2564 เวลา:10:28:06 น.
ชอบที่อาจารย์ผู้เขียนเป็นอดีตนักข่าวจังเลยครับ
งี้ก็คงสามารถเอาประสบการณ์ตัวเองมาเขียนได้สนุก สมจิง สมเวรสมผลเลยละครับ จรรยาบรรณ นี่เป็นสิ่งสำคัญของทุกอาชีพเลยละครับ โดยเฉพาะนักข่าว เพราะจะเสนอข่าวมาเป็นแนวไหน กลางหรือไม่กลาง หรือสื่อออกมายังไงก็อยู่ที่มือของนักข่าวนี่แหละครับ จากบล๊อก ผมเป็นคน....ขี้เกียจครับ 5555555 ถ้าไม่อยากทำคือไม่ทำ นอน..... แหม่.....ชอบจังตรงที่บอกว่า "เฟรนด์ลี่ และมีลูกเล่น" ดีกว่าคำอื่นที่มีความหมายคล้ายกันเยอะเลยครับ 5555555555555 แหะๆ โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 22 มีนาคม 2564 เวลา:11:25:58 น.
อรุณสวัสดิ์ครับ
ตอนนี้ที่อยากทำให้ได้ คือเอางานที่ทำ มเาปลี่ยนเป็นรายได้บ้างนี่ล่ะครับ 555 มาดามแซวผมตลอด ว่างานที่ผมทำอยู่ สนองความชอบตัวเองล้วนๆ ไม่ค่อยสร้างรายได้ สร้างแต่ความสุขครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มีนาคม 2564 เวลา:6:00:57 น.
สวัสดีครับ
แวะมาทักทายยามเย็น มาอ่านรีวิวการ์ตูนด้วยครับ การ์ตูนวาดสวย เป็นเรื่องราวของนักข่าว พล็อตเรื่องน่าสนุกครับ โดย: Sleepless Sea วันที่: 23 มีนาคม 2564 เวลา:17:45:14 น.
สวัสดียามเช้าครับ เงินเดือนผมก็ไม่เยอะนะครับ เพียงแต่มันเป็นงานของที่บ้าน ก็เลยได้นู่นนี่มาโปะด้วย ถ้าเงินเดือนอย่างเดียว บอกไปเพื่อนไม่มีใครเชื่อหรอกครับ ว่าผมจะได้เงินเดือนน้อยขนาดนี้ 5555 โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มีนาคม 2564 เวลา:6:09:56 น.
สวัสดีครับ ซิตี้ฮันเตอร์ ผมก็อาจจาก ซีโร่ ครับสมัยเรียน ม.ปลาย แล้วก็คลั่งไคล้ถึงขนาดว่า จนเข้าสู่วงการไซเบอร์แรก ๆ ผมใช้ชื่อแทนตัวเองว่า ซาเอบะ_เรียว รวมถึงใช้อีเมล์ว่า saeba_raey@ เลยแหละครับ โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 24 มีนาคม 2564 เวลา:8:17:46 น.
ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจที่บล็อก - ร้านปลาทู เรสตัวรองค์ ชะอำ ด้วยนะครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 24 มีนาคม 2564 เวลา:12:07:38 น.
คุ้น ๆ ว่าเคยอ่านเหมือนกันนะครับ แต่ผมยืมของเพื่อนอ่านครับ อ่านติดงอมแงมเหมือนกัน
โดย: The Kop Civil วันที่: 25 มีนาคม 2564 เวลา:14:14:38 น.
สวัสดีตอนค่ำวันพฤหัสคราบ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่บล็อก - The Baguette (เดอะ บักเก็ต) หัวหิน สาขา 3 บ่อฝ้าย นะคราบ โดย: ทนายอ้วน วันที่: 25 มีนาคม 2564 เวลา:19:50:37 น.
ชามอาหารแมว ถ้าเป็นอาหารเม็ดที่ตั้งให้กินทั้งวัน เราจะมีจานหล่อน้ำกันมดไว้ค่ะ
แต่ถ้าเป็นอาหารเปียก ตั้งให้กินพักหนึ่ง หมดไม่หมดก็เก็บค่ะ มดยังไม่ทันรู้ตัว 555 เรื่องอาบน้ำแมว ยังไม่เคยอาบเองเลยค่ะ เอาไปให้เขาอาบให้ตลอด นี่ก็ไม่ได้อาบนานแล้ว แต่เนื้อตัวเขาก็สะอาด ไม่เหม็นเลย 555 ไม่ได้ปล่อยไปซนที่ไหน เลี้ยงในบ้านตลอดจ้า โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 26 มีนาคม 2564 เวลา:9:31:39 น.
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
คุณชายเป็นบอสใหญ่ของบอลครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ โดย: ทนายอ้วน วันที่: 26 มีนาคม 2564 เวลา:11:57:14 น.
|
บทความทั้งหมด
|
พวกชาวบ้านนี่แหละค่ะ ส่งข่าวส่งคลิปให้
จากบล็อก ...
ต้นพวงคราม ยังไม่เคยปลูกจริง ๆ ซักทีจ้า
เคยปลูกแต่ในบล็อก 555
ดอกก็ดูแข็งแรงพอ ๆ กับต้น เห็นว่าบานอยู่ได้สัก 3 วันค่ะ
https://pantip.com/topic/36032179