เครื่องมือช่วยจับจังหวะลงทุนแบบง่ายๆ ตอนที่ 1.. การหาจังหวะการลงทุน(ซื้อหุ้น) มีหลากหลายมากมาย ตั้งแต่ ไม่มีเทคนิคอะไรเลย อยากซื้อก็ซื้อ จนถึง มีขบวนการซับซ้อน เทคนิคผสมผสานกันมากมาย วันนี้เลยนึกถึงประโยคหนึ่งที่คุ้นหูกันมาก สูงสุด คืนสู่สามัญ อย่ากระนั้นเลย ลองหาไรง่ายๆไม่ต้องยุ่งยาก ....มาช่วยในการตัดสินใจ ปล. ขอออกตัวก่อนว่า ที่เขียน ก็แค่ตัวช่วยในการตัดสินใจ วิธีง่ายๆแบบหนึ่ง ย่อมมีจุดบอด ข้อเสีย ของมันเสมอ (ถ้าไม่มีเลย ทุกคนเอามาใช้ก็คงรวยกันหมด) ........... ตัวแรกที่นึกถึง ในการช่วยตัดสินใจ คงจะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองตลาดแบบภาพรวมและลงทุนระยะยาวสักหน่อย ใครนิสัยใจร้อน ชอบเล่นสั้น เก็งกำไร คงอึดอัด ก็คงไม่น่าสนใจนักสำหรับเครื่องมือนี้ ข้อมูลก็หาไม่ยาก คลิกไปที่นี้เลย //www.set.or.th/en/market/market_statistics.html แล้วก็เลือก P/E of set ...... ถูกแล้วครับ P/E ratio ของตลาดนั้นเอง... เอาคร่าวๆคือ เมือตลาดหุ้นเป็นตลาดกระทิง ก็จะพาราคาหุ้นขึ้นไปสูงโดยเฉลี่ย ดัชนี ที่จะปรับตัวสูงขึ้นตามก็คือ P/E ratio ของตลาด และอัตราผลตอบแทนจากการปันผลโดยเฉลี่ยของตลาดก็จะลดลง ถ้าตลาดหมี ก็จะเป็นตรงข้าม พูดง่ายๆคือ P/E ratio สูงขึ้น ก็บ่งบอกว่า ตลาดโดยเฉลี่ยตอนนี้ แพง ถ้า P/E ratio น้อยลง ก็บ่งบอกว่า ตลาดโดยเฉลี่ย ตอนนี้ถูกลง (รายละเอียดว่า ค่า P/E ratio จะน้อยหรือมากขึ้นกับอะไรไว้มีโอกาสว่างๆอารมณ์ดีๆจะมาเล่าให้ฟังนะครับ) ดังนั้น ค่า P/E ratio เราก็เอามาเป็นสัญญาณ ว่าเราควรเข้าซื้อหุ้นในตลาดได้หรือยัง (ในกลุ่มที่มีประสบการณ์ อาจจะเถียงว่า หุ้นบางตัวก็ถูกแม้ว่า P/E ratioของตลาดจะ สูงๆก็ตามก็เอาว่าเป็นข้อยกเว้นบางกรณีครับ) .. ในนักลงทุนที่ไม่ชอบเฝ้าจอดูตัวแปรมากมาย เงินเย็นถือยาวๆอย่างน้อยสามสี่ห้าเดือนขึ้นไป ก็ดู ว่า ถึงเวลา จะซื้อ หรือขาย ได้หรือยัง ถ้า P/E ratio สูงๆ ก็น่าจะถึงเวลาขายทิ้งแล้ว หรือ P/E ratio ต่ำๆ ก็น่าจะถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นได้ แค่นั้นแระ ไม่ยาก เหมาะสำหรับการมองหาจังหวะจะเข้าซื้อหุ้น ...... เพื่อให้เห็นภาพ Real time ก็ขอcopy มาไว้นิดหนึ่ง Month-Year ........... P/E ratioSET Apr-10 ............ 13.79 Mar-10 ........... 14.27 Feb-10 ........... 16.35 Jan-10 ............ 24.22 Dec-09 ........... 25.56 Nov-09 ............ 23.95 จะเห็นว่า ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา P/E ratio ค่อนข้างมากกว่า 20 มาติดต่อกัน ถือว่า ตลาดเราค่อนข้างแพง แต่พอหลังเดือนกพ 53 ตลาดเรามีค่า P/E ratio ลดลงเรื่อย ..... ลองดูข้อมูลการซื้อและขายของต่างชาติในสิ้นเดือนแต่ละเดือนพิจารณาดู Foreign Trading (million Baht) : SET Month-Year ......BUY ......... SELL Apr-10 .........108,195.68 ...... 112,289.71 Mar-10 ........ 138,785.14 ....... 94,184.86 Feb-10 ......... 69,916.29 ....... 64,494.56 Jan-10 ........ 79,704.48 ........ 87,189.42 ข้อสังเกต ที่ผู้เขียนสังเกตเองว่า สิ้นเดือนกพ. ตลาดเราได้มีการคำนวณ P/E ratioลดลงอย่างมาก พอหลังจากนั้นเดือนมีนาคม ก็เป็นช่วงเวลาที่ต่างชาติมีการเข้าซื้อสุทธิในตลาดไทยมากมาย เป็นไปได้ไหมที่ต่างชาติก็มองตัวแปรนี้เป็นตัวหนึ่งในการเข้าซื้อหุ้นเช่นกัน ....... ณ ตอนนี้ P/E ratio ของเรา ถูกไหม คงต้องไปดูสถิติย้อนหลัง เราเคย เหลือแค่ 6 เท่า และเคยสูงสูดประมาณ 31 เท่า ดังนั้น ก็ต้องแล้วแต่การพิจารณาของแต่ละคนว่า ณ. P/E ratio เท่าไรดีที่เราคิดว่า ถูกหรือแพง (จริงๆต้องไปศึกษาปัจจัยต่างๆด้วย จะช่วยตอบได้ว่า ณ ปัจจุบัน P/E ratio จะลดลงอีกไหม หรือจะขึ้นต่อ) แต่ ตามความคิดของผม P/E ratio ณ สิ้นเดือนเมษายน ถือว่า ไม่ถูกและไม่แพงเท่าไร แต่อย่าลืมว่า ปัจจัยการเมืองที่ผ่านมากระทบต่อเศรษฐกิจเราสมควร ดังนั้น ก็น่าติดตามว่า สิ้นเดือนพค.นี้ เราจะมีค่า P/E ratio เปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน ขอจบแบบง่ายๆ ไว้มีโอกาส จะมาหาตัวแปรอื่นๆมาแนะนำกันใหม่ครับผม ....... แนวคิดในการพิจารณา p/e ratio ของตลา มาจากหนังสือ นักลงทุนผู้ชาญฉลาด ของ วิกรม เกษมวุฒิ เป็นหนังสือในเครือ ตลท. ครับผม
โดย: kunjoja วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:35:51 น.
ขอบคุณครับ
แต่ควรดูแนวโน้ว และภาวะตลาดโดยรวม ประกอบด้วยครับ โดย: set2000 วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:5:06:05 น.
ผมวิเคราะห์ ตัวไหน ก็มักจะหาเหตุผลต่างๆนานามาสนับสนุนให้ "ซื้อ" แก้ยังงัยดีครับ พี่โจ้ T T
โดย: แมน IP: 58.8.154.242 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:17:16 น.
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะครับ
โดย: พื้นเมือง IP: 115.87.186.239 วันที่: 21 ธันวาคม 2553 เวลา:12:55:45 น.
thank you
โดย: ิิิbb IP: 118.174.81.111 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2555 เวลา:21:03:25 น.
|
บทความทั้งหมด
|