น้ำจะท่วมอุบลหรือไม่????? หลวงพ่อสอนการปล่อยวาง....
วันนี้เข้ามาเขียนกระทู้ช้า..เพราะงานยุ่งและเหนื่อยหน่ายใจ...
หัวสมองตื้อตัน..คิดไรไม่ค่อยออก..ดูข่าวก็มีแต่เรื่องน้ำท่วม..
พี่น้องที่อยู่อยุธยา..นานนับเดือน นอกจากน้ำจะไม่ลดยังท่วมเพิ่มอีกต่างหาก..
ประเด็นจึงมาอยู่ว่า...ไม่อยากให้น้ำเข้ากรุงงเทพชั้นใน...ก็ต้องทนเอาหน่อยนะพี่น้อง....
เมื่อวานนี้ใครก็พูดถึงแต่อุบล..
เพราะจากโคราช เป้าหมายต่อไปก็ต้องเป็นอุบล...
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..น้ำจากทั้งอีสานเหนือ กลาง ใต้..ถ้าจะะไหลออกสู่แม่น้ำโขง..
ก็ต้องมาออกที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลที่เดียว...
พรรคพวกเลยเป็นห่วงกันใหญ่...ว่าจะมีสภาพเหมือนโคราชไม๊?????
แบบที่ผมเล่าให้ฟังครับ..
อุบลถูกน้ำท่วมบ่อยๆเรียกว่า แทบจะทุกปี...
ในชีวิตผมเห็นน้ำท่วมอุบลใหญ่ๆเลยก็สัก 3 ครั้ง..ส่วนท่วมเล็กท่วมน้อยนี่ก็นับไม่ถ้วน..
แต่ทุกครั้งน้ำก็ไม่ได้ท่วมเขตเทศบาลอุบล..ท่วมเฉพาะริมแม่น้ำมูล..
และท่วมเส้นทางจากอุบลไปวาริน..ทำให้เดินทางลำบาก..เพราะอำเภอวารินเป็นด่านหน้า...
วันนี้สิ่งที่ภาครัฐเตรียมตัวรับมือน้ำท่วมที่อุบล..
ก็คือเร่งระบายน้ำมูลออกไปยังแม่น้ำโขงให้มากที่สุด..
โดยไปตั้งเครื่องสูบน้ำที่เขื่อนปากมูลทางออกสู่แม่น้ำโขงกว่า 200 เครื่อง..
โชคดีที่ปีนี้น้ำในแม่น้ำโขงไม่มากนักเพราะยังสามารถรับน้ำได้อีกมากมาย..
ถ้าเป็นเช่นนั้นอาจะทำให้น้ำที่มาถึงอุบลอาจจะไม่ท่วมมากเกินไป...
ปัญหาของน้ำท่วมในเมืองไหญ่ๆนั้น..
โดยเฉพาะโคราช อุดร ขอนแก่น รวมทั้งอุบล..
คือเรามักสร้างทางเลี่ยงเมืองเหมือนเขื่อนรอบตัวเมือง..
ซึ่งทำให้เวลาน้ำไหลทะลักเข้ามาแล้วออกไม่ได้...
เหมือนปี 2543 ที่น้ำท่วมอุบลมากจนต้องไปทุบทางเลี่ยงเมืองออกส่วนหน่ึง..
ซึ่งก็เกิดที่จังหวัดอุดรเช่นกัน..
วันนี้อุทกภัยได้เกิดกับพี่น้องชาวไทยอย่างรุนแรง..
สิ่งที่จะทำได้ขณะนี้คือการร่วมกันเช็ดน้ำตาให้กับพี่น้องเหล่านั้น..
ควรที่ทุกฝ่ายจะต้องหันเข้ามาร่วมไม้ร่วมมือเพื่อช่วยกันบรรเทาความทุกข์เหล่านั้น...
ดังนั้น..ผมจะพยายามเจียดพื้นที่ส่วนนี้รายงานสภาพน้ำของจ.อุบล..
อาจจะคุยเรื่องการเมืองน้อยลง..
เพื่อเอาเวลาไปดูแลพี่น้องที่ประสบกับความทุกข์ในขณะนี้...
โดยบ่ายนี้ผมจะไปนำรูปปัจจุบันมาลงให้ดูก่อน...
และจะรายงานความคืบหน้าทุกวัน...
เพื่อท่านที่สนใจเรื่องน้ำที่จะมาจังหวัดอุบล.....
วันนี้ก่อนจากกัน..ขอยกคำสอนของหลวงพ่อชา..มาให้ทุกท่านได้พิจารณา..
"ที่พระพุทธองค์ ตรัสว่า ไม่มีภพ ไม่มีชาติ คือ ไม่มีอุปาทานนั่นเอง
อุปาทาน เป็นเหตุให้ทุกข์เกิด ถ้าอุปาทานนั้น เราปล่อยไม่ได้
เราอยากสงบมันก็ไม่สงบ คนเราอยู่กับภพ ถ้าไม่มีภพ คิดไม่ได้
เพราะนิสัยของคนมันเป็นอย่างนั้น กิเลสของคนมันเป็นอย่างนั้น
พระนิพพาน ที่พระพุทธองค์ท่านว่า พ้นจากภพชาติฟังไม่ได้ ไม่เข้าใจ
มันเข้าใจแต่ว่า ต้องมีภพชาติ ถ้าไม่มีภพ ถ้าไม่มีที่อยู่ ฉันจะอยู่อย่างไร
ยิ่งคนธรรมดา ๆ อย่างเราแล้วนี่ ฉันจะอยู่อย่างนี้ ไม่ดีกว่ารึ
อยากจะเกิดอีก แต่ก็ไม่อยากตาย มันขัดกันซะอย่างนี้
ฉันอยากเกิด แต่ฉันไม่อยากตาย มันพูดเอาคนเดียว ตามประสาคน
แต่การเกิดแล้วไม่ตายนั้น มีมั้ยในโลกนี้ เมื่อคนอยากเกิด ก็คือคนนั้นอยากตายนั่นเอง
แต่เขาพูดว่า ฉันอยากเกิด แต่ไม่อยากตาย มันคิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
เขาก็ไปคิดให้มันเป็นทุกข์ ทำไมเขาคิดไปอย่างนั้น เพราะเขาไม่รู้จักทุกข์
เขาจึงคิดไปอย่างนั้น พระพุทธองค์ ท่านว่า ตายนี้มาจากความเกิด ถ้าไม่อยากตาย อย่าเกิดสิ
แต่นี่อยากเกิดอีกแต่ไม่อยากตาย พูดกับกิเลส ตัณหานี่มันยาก มันลำบาก
มันถึงมีการปล่อยวางได้ยาก"
:: อ้างอิงจากคลิปธรรมเทศนา เรื่องการปล่อยวาง นาทีที่ 32:12
เอามาฝากเพื่อนร่วมทุกข์ทั้งหลาย....อ่านหลายๆครั้งแล้วพิจารณาว่า..
หลวงพ่อสอนอะไร???แก่เรา ทำให้เราเกิดปัญญาได้แค่ไหน????
ด้วยความปรารถนาดี...
สวัสดีครับ...
เพื่อนอยู่อยุธยาก็ประสบปัญหาน้ำท่วมเหมือนกัน
และได้ติดต่อเพื่อนที่เรียน ให้ช่วยเหลือกันไปคะ