สงสารประเทศไทย..สงสารนาย(ก)..เคยคิดไม๊ว่า..เราเกิดมาทำไม????
บอกตรงๆว่า..ในขณะที่เกิดความสงสารสภาพบ้านเมืองวันนี้...
ก็รู้สึกสงสารและสังเวชนาย(ก)อภิสิทธิไปด้วย...อย่างยิ่ง...
ผมคิดว่า..ด้วยความเป็นลูกผู้ดี...รูปหล่อ..เรียนสูง...
ชีวิตคงไม่เคยได้สัมผ้สว่า..คน(ไทย)ธรรมดาเค้าอยู่กันยังไง???
เรียกว่า..เท้าไม่ติดดิน ว่างั้นเถอะ...
และการได้เข้ามาเป็นคนระดับ นายกรัฐมนตรี ประเทศนี้...
ก็นับว่า เป็นเกียรติประวัติต่อตนเองและวงศ์ตระกูล...
แต่ประเด็นที่น่าเห็นใจอย่างยิ่ง..คือความไร้เดียงสา..
ก็เลยได้เป็นแค่หุ่น...หุ่นตัวหน่ึงที่แล้วแต่จะถูกเชิดไปไหน..??
ปัญหาการเมืองที่ประดังประเด เข้ามาสาระพัด..
ก็ได้แต่กรอกหน้ากรอกตาและอาศัยฝีปากเอาตัวรอดไปวันๆ...
ไม่สามารถแยกแยะ ถูกผิด..ได้ด้วยซ้ำว่า..อะไรถูกอะไรผิด..
นอกจาก..รับคำสั่งจากคนที่อยู่ข้างหลัง...
ยิ่งมาเจอเรื่องน้ำท่วม...คุณหนูยิ่งทำอะไรไม่ถูก...
ท่วมไป 2-3 วันจึงไปแบบกล้าๆกลัวๆ...
ไปครั้งแรกแต่งตัวซะหล่อเหลา..โบกไม้โบกมือ..คิดว่าให้มา(แค่)โชว์ตัว..
ไปครั้งที่สอง..เห็นน้ำแค่เมตร..กันดีกว่าแก้..ใส่ชูชีพดีกว่าเนอะ...
ครั้งที่สาม..คงมีคนบอกว่าควรไป(โชว์ว่า)ทำงานหนัก จึงไปกรอกถุงทราย..
และจะให้เท่..ควรมีชาวบ้านมาถือป้ายต้อนรับ และมอบดอกกุหลาบ...
ครั้นโดนวิจารณ์มากๆว่า สู้นักข่าวไม่ได้..ก็ชักงงว่า..จะเอาอะไรกะตรูว่ะ...
ไปก็โดนว่าให้..ไม่ไปก็โดนด่า...
เคราะห์ดี..มีผู้ว่าฯลิ้นหนามาเชลีย..ว่าเป็นถึง รัฐบุรุษ....
ได้ยินก็รู้สึก..ค่อยดีขึ้นมาหน่อย...เพราะมีคนเห็นความดีแล้ว(ซะที)....
หลังจากถูกรุมด่ามาเกือบเดือน...
แต่ที่ผมสงสารจับใจคือ..เกิดเป็น นาย(ก)อภิสิทธิ..
ทำไม..จึงไม่มีคนบอกว่า การเป็นผู้นำที่ดีเป็นยังไง...???
กลับมีแต่คนให้คำเยิ่นย้อป้อปั้น..จนเกินจริง...
เช่น..ว่าเป็นถึง อภิสิทธัตถะ...ถังไท่จง..รัฐบุรุษ...
ทำให้คิดถึง นิทาน ช่างตัดเสื้อกับพระเจ้าแผ่นดิน...
เพราะถูกคนรอบข้างเอาใจจนไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว เกิดมาเป็นคนควรทำอย่างไร????
ที่จะทำให้ตนนั้นเป็น"คนดี"เป็น"ผู้นำ"ที่ดี...
ไม่ใช่เป็นเหมือน"คนดี"แต่ถูกคนทั้งโลกหัวเราะขบขัน..
ในความไร้เดียงสา...อย่างที่เป็นอยู่อย่างนี้...
ผมจึงรู้สึก สงสารนาย(ก)อภิสิทธิ...จริงๆนะ...
และทำไให้สงสาร ประเทศไทย ที่มีผู้นำเช่นนี้....
ถึงวันนี้ น้ำที่แม่น้ำมูล จังหวัดอุบลราชธานีที่รักของผม...
ยังทรงๆเหมือน 10 วันที่แล้ว..แสดงว่าน้ำที่มากับน้ำที่ไปเกือบเท่าๆกัน...
แม้จะมีข่าวว่า น้ำก้อนใหญ่คงมาถึงหลังวันที่ 10 ...
แต่จากสภาพแม่น้ำมูลขณะนี้ก็สามารถรับน้ำได้อีกมาก...
คนอุบลส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยกังวลกับน้ำที่จะท่วม(อีกแล้ว)...
นับเป็นความโชคดีของชาวอุบลโดยแท้...
วันนี้..เดียวนี้..แม้จะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย...
แต่ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไป..น้ำมูลที่ไหลมาก็ยังไหลผ่านไปอย่างมากมาย..
ไหลสู่แม่น้ำโขง..ออกสู่ทะเล...แล้วไม่คืนหวนกลับ..
เค้าจึงบอกว่า.."สายน้ำและเวลาไปแล้วไม่กลับมา..."
เหมือนกับชีวิตคนที่ผ่านไปทุกล่วงเวลานาที...
เราเคยคิดบ้างไม๊ว่า...เราได้ทำอะไรให้ก่อเกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นบ้าง..
จนพระท่านถามว่า..."โยม..เวลาล่วงไปๆ ท่านทำอะไรอยู่..????"
เป็นคำถามแม้ดูเหมือนธรรมดาๆ..แต่ความหมายลึกซึ้งยิ่งนัก...
เพราะท่านบอกว่า..เราโชคดีนัก..ที่มีโอกาสได้เกิดมาเป็น"คน"..ในชาตินี้...
แต่....ไม่เพียงแต่ไม่สร้างคุณประโยชน์ให้กับตนเอง..
แต่บางคนยังสร้างบาปสร้างกรรมให้ติดตามตนเองไปในชาติต่อๆไป..
สิ่งนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย....????
ครับ..วันนี้เป็นวันหยุด..อากาศที่อุบลวันนี้ สดชื่นเย็นสบาย...
ตื่นมาเช้าจิบกาแฟ..ฟังเสียงนก..ก็มารำพึงถึงชีวิตผู้คน..ที่อยู่รอบตัว..
มีทั้งคนสุข คนทุกข์ คนสมหวัง คนไม่สมหวัง...คละเคล้ากันไป...
แต่จะมีกี่คนที่สุขอย่างแท้จริง...เพราะไม่มีใครหรอกครับที่ไม่เคยรับรู้ความทุกข์...
แต่ที่สำคัญเราจะบริหารใจบริหารจิตอย่างไร???
ไม่ให้ ทุกข์มาก...กว่าที่ควรจะเป็น..
และควรจะ"วาง"ทุกข์นั้นอย่างไร???? ใช่ไม๊ครับ...
ก็เหมือนผมได้เรียนท่านพระอาจารย์ผมว่า...
"แม้จะได้เกิดมาอยู่ในดินแดนสวรรค์แห่งนี้...
แต่ให้ทำใจให้เป็นสุขในขณะที่พี่น้องร่วมชาติกำลังเดือดร้อนนั้น..
บอกจริงๆว่า..ยากเหมือนกัน..."..
จริงไม๊ครับ..เพื่อนๆทุกๆท่าน..
สวัสดีครับ...
เราถึงพยายามส่งเสริมให้ลูกเป็นคนฉลาด..??อยากให้ลูกเรียนเก่งได้งานดีๆ ยกย่องคนที่มีเงินทองเยอะๆมีฐานะดี..มีอำนาจบารมี..??แต่ขาดปัญญา....
ไม่ต้องดูอื่นไกล..แค่นาย(ก)อภิสิทธิ..ได้ไปร่ำเรียนถึงฮาเวริด..ได้ชื่อว่าเป็นคนฉลาด...แต่แท้ที่จริงแล้ว ขาดซึ่ง"ปัญญา"
ปัญญา ที่จะแยกแยะว่า..อะไรคือ ความดี..อะไรคือ ความเลว..และอะไรถูกต้อง..อะไรไม่ถูกต้อง...
โชคดีที่ได้มีโอกาสเป็นถึงระดับนายกรัฐมนตรี...แทนที่จะเร่งสร้างบุญบารมี สร้างสิ่งดีๆให้กับสังคมให้กับโลกใบนี้...ถึงวันหนึ่งเมื่อจากโลกนี้ไป จะได้มีคนกล่าวถึงด้วยความชื่นชมศรัทธา...หรือเพราะเพียงผลประโยชน์จึงทำให้ตาบอดมองไม่เห็นความจริงนี้..อย่างน่าเสียดาย...
"ปัญญา" คือ ความรอบรู้...รู้สรรพสิ่งตามความเป็นจริง..ว่า สรรพสิ่งล้วนไม่เที่ยง..เกิดมาแล้วดับไป..มีแล้วหายไป...ดังนั้นผู้ที่ยังยึดมั่นถือมั่นว่า ทุกสิ่งที่เป็นเราของเราต้องอยู่แบบนี้ตลอดไป...เมื่อถึงเวลาต้องสูญเสียสิ่งเหล่านั้นที่ยึดมั่นถือมั่น..จึงมีแต่ความทุกข์ความเศร้าโศรก ปิ้มว่าใจจะแตกสลาย..ถึงบางคนแทบฆ่าตัวตาย....
ท่านจึงกล่าวว่า.."ผู้มีปัญญา ย่อมมีทางออกของปัญหามากกว่า 1 ทางเสมอ...."
ครับ..อากาศดีๆความคิดคำนึงไปไกลแสนไหล..กับโลกใบนี้...จึงเอามาแชร์กับเพื่อนๆ...