กลยุทธ์ลูกปืน กลยุทธ์ลูกปืน ![]() หมู่บ้านหนึ่งในแถบชานเมืองกรุงเทพ เป็นหมู่บ้านที่เพิ่งจัดสรรขึ้นประมาณ 10 ปีมาแล้วและมีคนอยู่อาศัยหลายร้อยครัวเรือนอยู่ ถึงหมู่บ้านนี้จะไม่หรูเท่าไหร่นัก แต่เชื่อได้ว่าแต่ล่ะครอบครัวน่าจะมีเงินอยู่พอสมควร สังเกตุจากรถยนต์ที่แต่ล่ะบ้านใช้ เป็นรถรุ่นใหม่ๆ และอย่างน้อยก็มีครอบครัวล่ะ 1 คันเสมอ ครอบครัวส่วนใหญ่เป็นครอบครัวรุ่นใหม่ อายุไม่เกิน 30 และอยู่กันแบบครอบครัวแยก กล่าวคือเป็นครอบครัวที่เพิ่งแยกตัวออกมาจากพ่อและแม่ บ้างก็มีลูกแล้ว บ้างก็มีคนสูงอายุอาศัยอยู่ด้วย เนื่องจากเป็นหมู่บ้านจัดสรรที่พร้อมทุกอย่าง หน้าหมู่บ้านมียามรักษาความปลอดภัย ระหว่างทางเข้ามีต้นไม้เกาะแนวขนาดกับถนน ตรงไปอีกจะพบกับสโมสรของหมู่บ้าน ที่ท้ายหมู่บ้านมีโรงเรียนอนุบาล ที่สโมสรมีกีฬาให้เล่นอยู่หลากหลายชนิด สนามฟุตบอล สนามบาส สนามเทนนิส และสระว่ายน้ำ ใครหิวก็มีอาหารบริการอยู่ด้วยเช่นกัน ผมกำลังมองวิถีชีวิตของผู้คนในหมู่บ้านนี่อยู่ ค่อยๆเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ จดเป็นข้อความบ้าง เป็นตัวเลขบ้าง จดทำไมหรอครับ ? ผมก็เป็นคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ตั้งแต่เด็กๆ และกำลังมองหาช่องทางที่จะทำธุรกิจอยู่ ช่องว่างทางการตลาดที่ผมเห็น ไม่ใช่ธุรกิจอื่นใดเลย มันคือร้านอาหารน่ะแหละ ทั้งหมู่บ้านมีครัวเรือนอยู่ประมาณ 500 ครอบครัว เฉลี่ยอยู่กันครอบครัวล่ะ 4 คนได้ ถ้าทุกคนต้องกินข้าวมื้อเย็นประมาณมื้อล่ะ 30 บาท จะมีมูลค่าอยู่ที่ 60000 บาทต่อวัน แม้จะไม่ใช่มูลค่าที่สูงนักแต่ก็น่าลอง ดีมานด์ที่ดูแล้วน่าสนใจไม่น้อย เพราะร้านอาหารที่เปิดอยู่ก็มีเพียงสโมสรซึ่งขายอาหารแพงมาก และก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆอยู่ประมาณ 2 - 3 ร้าน ดูแล้วขายไม่คอ่ยดีเท่าไหร่ เพราะดูสกปรกชอบกล จริงๆแล้วไม่ใช่ผมคนแรกหรอกที่จะเข้ามาทำธุรกิจอาหารนี้ ความจริงแล้วมีคนเปิดร้านอาหารก่อนผมแล้วน่ะ วันก่อนผมก็ไปซื้อกับข้าวที่ร้านของเขา คุณรู้หรือเปล่าว่าที่ร้านของเขาต้องแจกบัตรคิวให้กับลูกค้าเลยนะ มีคนมาซื้อกับข้าวที่ร้านเขาเยอะมาก ร้านนี้โชคดีที่มีทำเลติดกับถนนเลย โชคดีตอนที่พ่อผมซื้อบ้านที่นี่ พ่อผมก็ซื้อติดถนนเหมือนกัน และนั้นทำให้ผมเชื่อว่าเราจะแข่งขันกับเขาได้ แม้ผมจะเปิดร้านที่หลังเขาก็ตาม ผมเริ่มเขียนแผนธุรกิจ โดยเริ่มจากแนวคิดเล็กๆก่อนว่า จะขายกับข้าวเช่นกันเหมือนกับคู่แข่ง แต่จะปรับบางอย่างให้มีความแตกต่างจากเขา โดยเฉพาะเรื่องความสะอาด และความหลากหลายของสินค้า จากแผนการตลาด ไปแผนบุคคล จากแผนบุคคล ไปแผนการเงิน และจบด้วยแอคชั่นแพลนเล็กๆ เพื่อจะได้รู้ว่าต้องทำอะไรบ้างตลอดเวลาทั้งปี อีกทั้งผมยังเตรียมแผนสำรองไว้ด้วยว่า ถ้าไม่เป็นไปตามเป้าหมายจะทำอย่างไรต่อไป ตัดสินใจเปิดร้านวันที่ 1 มกราคมพอดี วันแรกที่เปิดร้านนั้นแม้ลูกค้าจะน้อยไปหน่อยแต่ก็มีนิมิตหมายที่ดีสำหรับการเริ่มต้น ตั้งใจว่าเดี๋ยวจะติดป้ายผ้าไว้ที่หน้าหมู่บ้าน เพื่อเป็นการสื่อสารอีกทางหนึ่ง 3 เดือนต่อมา ร้านของผมเริ่มมีลูกค้าประจำ ด้วยกลยุทธ์ที่ผมใช้อยู่ทำแย่งลูกค้าส่วนหนึ่งจากเขาได้ อีกประมาณ 3 เดือนต่อมา ระหว่างที่ผมกำลังขับรถออกไปธุระข้างนอก แวะเติมน้ำมันใกล้บ้าน ก็มีชาย 2 คนในชุดดำเดินมาหาผม ชายชุดดำคนแรกควักปืนและจ่อที่หัวผม ชายอีกคนพูดว่า "รับปากว่าจะปิดร้าน และจะปล่อยไป " วันต่อมาผมเลิกกิจการและขายเครื่องมือทิ้งทันที |
บทความทั้งหมด
|
โลกทั้งใบไม่ได้มีแค่ทำเลดีที่เดียว
แต่ถ้าทำเลดีต่างๆนั้นไม่มีแผนธุรกิจแผนการเงินแผนการดำเนินงานและเจ้าของร้านอย่างท่านก็คงไม่เกิดผลใดๆ เหอๆ