Bait Marketing เคยโดนแจ้งราคาใหม่หรือเปล่าครับ ? ผมเชื่อว่าหลายคน ต้องมีคนที่เคยเอารถยนต์เข้าอู่เพื่อซ่อมและบำรุงรถยนต์ของตัวเอง ทันใดที่ขับรถจอดนิ่ง เปิดกระโปรงรถ ช่าง(ซ่อม)ฉลาดแสนรู้ จะพรรณาถึงปัญหาของตัวรถ ตั้งแต่สตาร์รถไม่ติดไปจนถึงรถระเบิดระหว่างใช้งาน การอธิบายจะใช้ศัพท์เทคนิค ก็เพื่อให้เจ้าของรถงง ไม่เข้าใจ จนเจ้าของรถจำเป็นต้องเออออตามไป (เพราะไม่รู้เรื่อง) หลังจากกนั้น ช่างแสนรู้ จะเสนอราคาของอะไหล่ให้เราทราบ " 1,200 ครับพี่ ตอนเย็นพี่มาเอารถได้เลย" เจ้าของรถตกคำรับปาก และจะมารับรถในตอนเย็น ผ่านไป 2 ชม. ช่าง(ซ่อม) แสนรู้โทรมาแจ้งราคาใหม่กับเจ้าของรถ " 2,000 นะพี่ อะไหล่ชิ้นนี้หายาก" เจ้าของรถผู้ไม่ประสีประสาในเรื่องรถยนต์ ถูกมัดมือชก ด้วยการแจ้งราคาทางโทรศัพท์มือถือ จะปฏิเสธอะไหล่ชิ้นนั้นแล้วตระเวนหาอู่ใหม่ ก็ดูเหมือนจะเสียเวลามากไป ทางเดียวที่ ณ เวลานั้นทำได้ คือ ตอบตกลงและจ่ายเงินเพิ่มให้กับช่าง(ซ่อม)แสนรู้ ไม่เพียงแต่บริการซ่อมรถยนต์เสมอไปนะครับ ที่ใช้วิธีการแจ้งราคาใหม่ วิธีการนี้ ยังแพร่หลายเหมือนไวรัส ไปยังธุรกิจแขนงอื่นๆ ตัวอย่างเช่น บริการซ่อมเครื่องปรับอากาศ เมื่อช่างเข้ามาดูแอร์ของคุณ เขาจะแจ้งราคา แต่เมื่อซ่อมเสร็จแล้ว เข้าก็ส่งใบราคาใหม่มา อีกตัวอย่างหนึ่ง คือ บริการเสริมสวย พวกเขาจะแปะราคาไว้ที่หน้าร้าน "สระซอย 60.- แต่เมื่อท่านเข้าไป ช่างอาจจะฉีดน้ำยาบางอย่างใส่หัวของท่าน และเพิ่มค่าน้ำยานั้นอีก 40.- วิธีการข้างต้นที่กล่าวมา ในทางการตลาดเรียกว่า Bait Marketing หรือเรียกอีกอย่างว่า "การตลาดหยอกล้อ" ที่เรียกว่า "การตลาดหยอกล้อ" เพราะครั้งแรกที่แจ้งราคานั้น จะเป็นราคา "ขำๆ" แต่การแจ้งราคาครั้งถัดไป หรือการเก็บค่าบริการนั้น "เป็นของจริง" ในภายหลัง กลยุทธ์นี้ ไม่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ถึงกลยุทธ์นี้ไม่ได้รับการยอมรับ แต่ไม่ได้แปลว่าจะใช้กลยุทธ์นี้ไม่ได้เสมอไป หลายธุรกิจนำกลยุทธ์นี้มาใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในสังคมไทยเราที่กฏหมายคุ้มครองผู้บริโภคยังอ่อนนัก Bait Marketing จึงเป็นที่นิยมสำหรับเจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจเก่าแก่เสียด้วย เห็นด้วยเลยละค่ะ
โดย: fordear วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:17:01:37 น.
|
บทความทั้งหมด
|