ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 

เพลงดวงดาว ตอนที่ 24

เจ้าหญิงผู้เฉลียวฉลาดซึ่งปกครองมหาอาณาจักรอันมีขอบเขตกว้างไกลเกือบทั่วทั้งโลก กำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่บีบคั้นทุกชีวิตภายใต้ความรับผิดชอบของเธอ ความพยายามใดๆ ที่ทุ่มเทลงไปก็ไม่อาจจะหยุดยั้งมันได้ ผู้คนได้แต่ใช้ชีวิตไปวันๆ ท่ามกลางความสิ้นหวัง รอคอยความตายที่จะต้องมาถึง

ภายในปราสาท การประชุมครั้งสำคัญได้เริ่มต้นขึ้น เธอเอ่ยปากถามออกไปด้วยความหวัง

“เราจะทำอย่างไรดี”

เหล่าผู้ทรงความรู้จากทั่วทั้งมหาอาณาจักรต่างตกอยู่ในความเงียบงัน หรือว่าจะไม่มีคำตอบสำหรับคำถามที่แสนหนักหนานี้ ในที่สุดใครคนหนึ่งก็ยืนขึ้น นางเป็นผู้เฒ่าซึ่งมีอายุมากที่สุด และอาจจะเฉลียวฉลาดที่สุดด้วย

“ข้าแต่เจ้าหญิง ภัยในครั้งนี้ยิ่งใหญ่เกินไป มนุษย์อย่างเราไม่อาจเอาชนะได้”

ทุกคนต่างก้มหน้าลง สุดท้ายการประชุมก็สิ้นสุดลงโดยไม่มีผลสรุปอันใด เจ้าหญิงผู้หมองเศร้านั่งจมอยู่ในความทุกข์ จนกระทั่งได้ยินเสียงทอดถอนใจของใครคนหนึ่ง ผู้อื่นได้จากไปหมดแล้ว หลงเหลือนางเฒ่ายืนอยู่เพียงลำพัง

“ยังมีหนทางสุดท้ายเหลืออยู่”

นางเฒ่ากระซิบ เจ้าหญิงรับฟังด้วยความหวาดระแวง เธอเป็นคนฉลาด จึงรู้ว่าต้องมีเหตุผลที่ทำให้นางไม่พูดออกมาในท่ามกลางที่ประชุม

นางเฒ่าหยิบแท่งวัตถุขนาดประมาณนิ้วมือที่มีปลายด้านหนึ่งเป็นเข็มแหลมออกมา

“มันจะช่วยรักษามหาอาณาจักรแห่งนี้เอาไว้ ให้สามารถฟื้นคืนชีวิตได้ใหม่อีกครั้ง ถึงแม้ว่ามนุษย์อย่างเราจะไม่อาจเอาชนะภัยพิบัติ แต่มันเองก็ไม่อาจคงอยู่ได้ตลอดกาล สักวันมันจะสิ้นสุดลง”

เธอรับเข็มเล็กๆ นั้นมาด้วยมือที่สั่นเทา

“มันใช้อย่างไร”

“แค่ฉีดของเหลวนั้นเข้าไปภายในร่างก็เรียบร้อยแล้ว”

“แล้วจะเกิดอะไรขึ้น”

“ผู้ที่ถูกฉีดด้วยสิ่งนี้ จะหลับไหลไปนานแสนนาน ในระหว่างนั้นจะไม่มีสิ่งใดสามารถทำลายคนผู้นั้นได้เลย เมื่อโลกกลับเป็นปกติอีกครั้ง คนผู้นั้นก็จะตื่นขึ้น และสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้เช่นเดิม”

ทั้งสองจ้องหน้ากันเนิ่นนาน ก่อนที่เจ้าหญิงจะเอ่ยปากถามปัญหาสำคัญออกมา

“มันใช้ได้กี่คน”

“...สองคน แค่สองคนเท่านั้น”

“ไม่...เราทำไม่ได้ เราไม่อาจปล่อยให้ผู้คนทั้งหมด ต้องตายไปอย่างไร้ความหมายเช่นนี้”

“แต่ท่านต้องทำ ท่านต้องเลือกใครอีกคนที่มีความเหมาะสมที่สุด คนที่จะร่วมกันสร้างมหาอาณาจักรแห่งนี้ขึ้นใหม่พร้อมกับท่านในอนาคตข้างหน้า”

คีย์รับฟังอย่างสนใจ ดูเหมือนว่ามันจะแตกต่างไปจากข้อมูลของนิทานเจ้าหญิงนิททราที่เขาเคยพบ แต่มันมักจะเป็นแบบนี้อยู่เสมอ รายละเอียดในนิทานอาจแตกต่างไปจากเดิมเมื่อผ่านการบอกเล่าสืบต่อกันมา ในบางครั้งก็เป็นการดัดแปลงอย่างจงใจเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง

นักเล่านิทานกวาดตามองไปในหมู่เด็กๆ ที่กำลังนั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อ พวกเขาทุกคนต่างกำลังติดอยู่ในนิทาน และต้องการรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เขาเป็นนักเล่านิทานที่ไม่มีใครเหมือน เขาจึงยังไม่เล่าตอนจบตามที่นักเล่านิทานทั่วไปทำกัน

“แล้วจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าหญิงจะเลือกเจ้าชายที่เหมาะสมเพื่อนอนหลับไหลไปด้วยกันหรือไม่ หรือว่าเธอจะเลือกใช้มันกับใครคนอื่น หรือว่า...เธออาจเลือกที่จะไม่ใช้มันก็เป็นได้”

เสียงซุบซิบค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ เด็กหลายคนหันไปถกเถียงกัน เขามองดูด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เขามักคิดอยู่เสมอว่านี่คือหน้าที่อันแท้จริงของนิทาน เขาเคาะไม้เท้าอีกครั้งให้ลูกกลมที่ห้อยไว้ส่งเสียง ความเงียบจึงกลับคืนมา

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนแปลกขนาดไหน แต่นักเล่านิทานก็ยังต้องเล่าไปให้ถึงตอนจบทุกครั้ง ไม่ว่าตอนจบนั้นจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าตอนจบนั้นจะถูกใจคนเล่า คนฟังหรือไม่ นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

ในที่สุด เจ้าหญิงก็ต้องเลือกเจ้าชายรูปงาม และแข็งแรง เพื่อที่จะนอนหลับไหลไปด้วยกัน น้ำตาของเธอรินไหลเมื่อนิททราได้ปกป้องร่างของทั้งสองเอาไว้จากทุกสิ่ง ผู้คนที่เหลือค่อยๆ ล้มตายลงจนหมด โลกของมนุษย์สิ้นสุดลง

กาลเวลาเป็นศัตรูร้ายของชีวิต แต่ก็คือมิตรแท้ของมันเช่นกัน ทั้งสองได้นอนหลับข้ามผ่านกาลเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป จนกระทั่งโลกได้กลับมาสู่สภาพที่เหมาะสมอีกครั้ง แล้วทั้งสองก็ตื่นขึ้นจากความฝันอันแสนนาน

อาณาจักรแห่งมนุษย์ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง นับแต่บัดนั้น ทั้งสองต่างมีความสุขร่วมกันไปตลอด กาลเวลาผ่านเลยไป จนในที่สุด มหาอาณาจักรที่ได้เคยล่มสลายลงไปครั้งหนึ่ง ก็กลับคืนมาเป็นดังเดิม

“...นั่นเป็นตอนจบของนิทานเรื่องนี้”

นักเล่านิทานเคาะไม้เท้าของตนเป็นครั้งสุดท้าย เด็กๆ หลายคนตบมือ มีบางคนยิ้ม บางคนทำท่าครุ่นคิด บางคนหันไปถกเถียงกัน นิทานของพวกเขาอาจจะยังไม่จบ หรือไม่จบลงแบบนี้ นั่นเป็นสิ่งที่เขาพอใจ

“สนุกมากค่ะ เราพึ่งเคยได้ยินการเล่านิทานที่น่าติดตามแบบนี้เป็นครั้งแรก”

แพรดาวกล่าวชม นักเล่านิทานค้อมศีรษะพร้อมรอยยิ้ม แต่ในตอนนั้นเองรอยยิ้มของเธอก็สะดุดหยุดลงอย่างฉับพลัน เธอยกมือขึ้นแนบอกพร้อมใบหน้าขาวซีด แล้วใครคนหนึ่งก็แทรกเข้ามา

“ขออภัยด้วยครับท่านจักรวาลตาร มีเรื่องเร่งด่วนเกิดขึ้นครับ”

“...เรารู้...เวลานั้นมาถึงแล้ว”

คีย์มองดูใบหน้าของทั้งคู่ และสามารถรับรู้ถึงความร้ายแรงของมันได้ในทันที ผู้ที่ชุมนุมอยู่ต่างรีบแยกย้ายไปด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน เขาตัดสินใจติดตามกลุ่มของเธอไปด้วย และครั้งนี้อวตารไม่ได้พยายามที่จะห้ามปรามแต่อย่างใด

#####

หลังจากที่หล่งทำความตกลงกับโนอาเรียบร้อย เขาก็เริ่มลงมือทันที ชายคนนี้ต้องการรู้เบื้องลึกทุกอย่างเกี่ยวกับปัญหาพลังงานที่พึ่งผ่านพ้นไป การกระทำของไอรอน รวมถึงช่วงเวลาของแต่ละเหตุการณ์ เพื่อนำไปใช้เล่นงานเธอในสภา ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องการเช่นกัน

“...แล้วผมจะได้อะไร”

“ยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมด ทั้งตัวเธอ และเพื่อนๆ รวมถึงการมีอนาคตที่ดีในสภานวโลกาแห่งนี้รออยู่”

เขายิ้ม 'ผมคงทำใจเชื่อคุณทั้งหมดนั้นไม่ได้' แต่เขาคิดว่าข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านประธานสภาคนปัจจุบัน ที่คงจะพบเจอไปด้วยในระหว่างนี้ คงช่วยให้คำสัญญาดังกล่าวมั่นคงมากยิ่งขึ้น

จูเลียตไล่เจ้าของห้องตัวจริงให้ออกไปอยู่ข้างนอกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นเขามองเธอ ทำหน้าเหมือนกับกำลังจะร้องไห้

“...จะให้ฉันไปอยู่ที่ไหนกัน”

“ที่ไหนก็ได้ และห้ามบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด จำไว้ว่าฉันรู้จักชื่อนายแล้ว และเพื่อนของฉันก็สามารถหาตัวนายพบได้เสมอ แค่นั้นแหละ”

เธอยิ้มกว้าง และประตูก็เลื่อนปิดลง

“ได้อะไรบ้างหรือยัง”

เธอถามเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ ในขณะที่นอนแหงนหน้ามองเพดาน รู้สึกเบื่อเป็นที่สุดเมื่อไม่มีอะไรที่เธอจะทำได้เลย เงียบ ดูเหมือนเขาเองก็คงจะเบื่อ ที่ต้องคอยตอบคำถามซ้ำๆ จากเธอมาหลายรอบแล้ว แต่เธอกำลังหงุดหงิด และเขาควรจะตอบ เพราะเมื่อไม่มีอะไรจะทำ เธอก็ได้แต่หาเรื่องกับเขาเท่านั้น

“นี่ ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง”

เธอพุ่งออกจากเตียง พร้อมกับคว้าลงไปที่หัวไหล่ของเขา แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เขาเอี้ยวตัวหลบการโจมตีของเธอไปได้อย่างหวุดหวิด 'ไม่มีทาง'

“...ฉัน จะ เจอ อะไรเข้าแล้ว”

เขาเสียงสั่น ตัวสั่น หน้าซีด แต่เธอไม่ค่อยแปลกใจเท่าไร เพราะดูเหมือนว่าแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจทำให้เขาเป็นแบบนี้ได้

“นี่มันบ้าสิ้นดี เธอกำลังจะทำอะไร นี่มันหายนะ นี่มัน...”

คำพูดพร่ำของเขาชักทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมา

“ช่วยพูดอะไรที่มันเป็นภาษามนุษย์หน่อยได้ไหม”

เขารีบติดต่อหาโนอา สูดลมหายใจเข้าลึกสองสามรอบ ก่อนเริ่มอธิบายสิ่งที่ถูกเรียบเรียงขึ้นใหม่ภายในหัวของเขาออกมาให้ทั้งสองฟังไปพร้อมๆ กัน

“เมื่อสามวันก่อนการเชื่อมต่อระหว่างฐานดวงจันทร์ กับสำนักวิทย์ได้ถูกตัดขาด อันเป็นเหตุให้เกิดปัญหาเรื่องพลังงานติดตามมา”

โนอารู้เรื่องนี้ และหวังว่าจะได้ข้อมูลใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้

“คนที่ทำเรื่องนี้คือ ศาสตราจารย์ จันทร์ ดุริยดารา พ่อของเพื่อนผม ซึ่งเสียชีวิตไม่นานหลังจากนั้น เขาปิดมันโดยใช้รหัสบางอย่าง คำถามสำคัญคือ ทำไม เขาควรจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุด ถึงผลของการกระทำนั้น”

“ไอรอนกับผู้ช่วยอีกไม่กี่คนได้พยายามเปิดการเชื่อมต่อ และรักษาดุลยภาพของพลังงานเอาไว้ โดยไม่เปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นออกไป ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะปัญหานั้น เกิดจากการกระทำของคนภายในสำนักงานเองก็เป็นได้”

“จนถึงวันนี้ ที่เธอสามารถเปิดการเชื่อมต่อได้อีกครั้ง ปัญหาพลังงานก็จบลง”

ความอดทนของโนอาก็หมดลง

“นั่นฟังดูน่าประทับใจ หากต้องการจะทำให้เธอกลายเป็นฮีโร่หญิงของพวกเรา”

“ไม่ เรื่องนี้ยังไม่จบ คุณต้องดูไปที่จุดเริ่มต้น สิ่งสำคัญคือ อะไรที่ทำให้พ่อของคีย์ต้องตัดการเชื่อมต่อตั้งแต่แรกต่างหาก”

โนอาเริ่มมีความหวังอีกครั้ง ในขณะที่หล่งมาถึงจุดที่เขาหวาดกลัว

“ผมเข้าไปในระบบของสำนักวิทย์ โดยคาดว่าจะได้พบกับการต้อนรับจากโปรแกรมของเธอ แต่มันไม่อยู่ที่นั่น และที่สำคัญ ภายในระบบของสำนักวิทยาศาสตร์...ไม่เหมือนเดิมเลยสักนิด มันเปลี่ยนไปในชั่วเวลาเพียงไม่นาน”

“เธออาจทำระบบใหม่ นั่นเป็นงานที่เธอถนัด”

หล่งส่ายหน้า

“ไม่ ผมไม่ได้หมายถึงความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ มันไม่มีอะไรที่คล้ายของเดิมเลยสักนิด คุณไม่มีทางทำแบบนั้นได้...คุณรู้หรือเปล่าว่าบนฐานดวงจันทร์นั้นมีอะไรอยู่”

“...ปัญญาประดิษฐ์ คางูยะ”

“ใช่ คางูยะ มีองค์ประกอบของมันกระจายอยู่ทั่วทั้งระบบ คางูยะยึดครองระบบทั้งหมดเอาไว้ได้แล้ว มันได้พบเจอกับข้อมูลสำคัญ ที่พวกเราไม่เคยรู้ ข้อมูลที่ไม่ควรมีใครได้รู้”

เขาหลับตาลง

“ยังคงมีคลังเก็บจรวดพวกนั้นหลงเหลืออยู่บนพื้นโลก มากพอที่จะทำลายพวกเราทั้งหมดอีกครั้ง และคางูยะกำลังพยายามที่จะควบคุมพวกมัน ผมไม่รู้ว่าโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์จากยุคเก่านี้จะทำอะไรได้บ้าง ผมไม่อยากคิด ผม...”

โนอาติดตามคำพูดของเขาไปอย่างรวดเร็ว

“จรวดพวกนั้น...เธอหมายถึงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ใช่ไหม มันไม่น่าจะมีหลงเหลืออยู่อีกแล้ว และ...ถึงอย่างนั้น คางูยะเองก็เป็นโปรแกรมรูปแบบหนึ่ง มันต้องอยู่ภายใต้กฏสามข้อ ก็ไม่น่าจะทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อพวกเราได้...ว่าแต่ เธอรู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้อย่างไร มันเป็นความจริงหรือเปล่า”

โนอาเริ่มสงสัยในตัวเขา เพราะเรื่องราวนั้นฟังดูไม่น่าเชื่อถือเลยแม้แต่น้อย

“ใช่ เธอบ้าไปแล้วใช่ไหม”

จูเลียตส่งเสียงสนับสนุน ถึงแม้เธอจะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดเลยก็ตาม

“ให้ตาย เชื่อฉันสิ มันเป็นเรื่องจริง”

หล่งลนลาน

“ที่พ่อของคีย์ต้องตัดการเชื่อมต่อจากฐานดวงจันทร์ตั้งแต่แรก ก็เพราะไม่ต้องการให้คางูยะเข้าสู่ระบบได้อีกต่อไป เขารู้ดีว่ามันกำลังจะทำอะไร เขารู้ว่ามันอันตรายยิ่งกว่าการไม่มีพลังงานให้ใช้ เขารู้ดียิ่งกว่าใคร มันตั้งใจที่จะฆ่าพวกเราทั้งหมด”

“...เธอบ้าไปแล้ว”

โนอา กับจูเลียตประสานเสียงพูดออกมาพร้อมๆ กัน

“เชื่อฉันสิ”

หล่งตะโกนลั่น ถึงจะพูดออกไปอย่างนั้น แต่ตัวเขาเองก็ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่พบเจอนี้เหมือนกัน เมื่อลองเข้าไปในระบบของสำนักวิทย์อีกครั้ง โดยใช้ พราย กับ พิก เส้นทางในระดับต่ำที่สุดซึ่งเขาพบยังคงใช้งานได้ เขาคาดว่า ยูไล คงรอเขาอยู่ เขาเพียงหวังว่าจะสามารถหลุดรอดมันไปได้สักโปรแกรม แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น เขาไม่พบกับมัน

สิ่งที่ไอรอนทำก่อนที่คางูยะจะดึงความสนใจทั้งหมดของเธอไป คือการปิดโปรแกรมยูไลนั่นเอง ตอนนั้นตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงต้องทำเช่นนั้น เธอเพียงแค่รู้สึกว่ามันเป็นการกระทำที่ถูกต้อง

ลิงหินของเขาเป็นอิสระอีกครั้ง เขาจึงรวมโปรแกรมทั้งสามเข้าด้วยกัน เขาเขียนมันขึ้นมาอย่างนั้น เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน คำสั่งของทั้งสามซ้อนกันเข้าจนกลายเป็นโปรแกรมที่สมบูรณ์เพียงหนึ่งเดียว โปรแกรมนีโอ

เขาออกสำรวจไปในระบบของสำนักวิทยาศาสตร์ด้วยความประหลาดใจ สถาปัตยกรรม โครงสร้างของมันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง มันซับซ้อน มีประสิทธิภาพ และเขาไม่ชอบมันเลยสักนิด

ด้วยความสามารถของนีโอ เขาจึงสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว เขาค่อยๆ จำกัดการค้นหาให้แคบลงเรื่อยๆ ระมัดระวัง และยิ่งรู้สึกถึงตัวตนของคางูยะได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่สนใจโปรแกรมของเขา มันไม่พยายามที่จะขัดขวางเลยด้วยซ้ำ

เขาพบเจอข้อมูลกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ข้อมูลเกี่ยวกับคลังเก็บขีปนาวุธนิวเคลียร์พวกนั้นก็เช่นกัน สิ่งที่ไม่น่าจะมีหลงเหลืออยู่อีกแล้ว อีกทั้งยังมีการคาดถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น หากมีการโจมตีไปยังตำแหน่งต่างๆ บนพื้นโลก เป็นการหาตำแหน่งที่จะสามารถทำลายมนุษย์ที่เหลืออยู่ในปัจจุบันได้ในคราวเดียว

เขาขนลุก 'ใครต้องการจะทำแบบนี้กัน' ระบบทั้งหมดคล้ายกับสะท้อนคำตอบให้เขา 'ฉันเอง' นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความรู้สึกแบบนี้เมื่ออยู่ในระบบ 'ฉันเอง' เสียงกระซิบนั้นดังขึ้นอีก

เขาได้พบเจอกับข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงข้อมูลของโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ที่เรียกว่าคางูยะด้วย เขาต่อภาพทั้งหมดเข้าด้วยกันในรูปแบบต่างๆ แต่สิ่งที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด คือข้อสรุปที่น่ากลัวนั้น

'มันกำลังรอ รอให้ฉันพบเห็นความลับของมัน' ความรู้สึกบอกกับเขาอย่างนั้น 'มันจะได้มีข้ออ้าง ข้ออ้างที่จะฆ่าฉัน' เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ

“เชื่อฉันสิ”

เขาตะโกนอีกครั้ง และคล้ายกับจะเป็นการตอบสนอง จอของไอพีภายในห้องของทั้งสองฝ่ายกระพริบพร่า ก่อนที่จะมีใบหน้าของหญิงสาวสวยคนหนึ่งปรากฎขึ้น หล่งรู้ได้ในทันทีว่ามันเป็นใคร

#####

เมื่อก้าวเข้าไปในห้องเดียว ภายในอาคารของศาสนจักรแห่งนี้ ที่มีไอพีติดตั้งอยู่ คีย์ก็จดจำใบหน้าบนจอนั้นได้ในทันที เธอคือผู้หญิงคนนั้น หญิงสาวลึกลับที่มาพร้อมกับพินัยกรรมของบิดา หญิงสาวที่ไม่ใช่ร่างจำลองในแบบที่เขารู้จัก กับจดหมายที่หายไปได้เองอย่างลึกลับ

“เราคือคางูยะ ผู้นำหนทางรอดมาสู่มวลมนุษย์”




 

Create Date : 12 มีนาคม 2555
1 comments
Last Update : 12 มีนาคม 2555 8:14:59 น.
Counter : 572 Pageviews.

 

 

โดย: new pek 12 มีนาคม 2555 8:22:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.