ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
2 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
เพลงดวงดาว ตอนที่ 13

“ขอบคุณทุกคนที่มาประชุมพร้อมกัน แม้จะเป็นเวลาเช้าขนาดนี้...”

มีใครบางคนส่งเสียงแสดงความไม่พอใจ แต่โนอาทำเป็นไม่ได้ยิน

“...ผมขอเปิดประชุมสภานวโลกาวาระพิเศษในวันนี้ เพื่อลงมติปลด ไอมานเด้ รอนโนวิช ออกจากตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักวิทยาศาสตร์ทันที”

มีเสียงฮือฮาดังขึ้นจากเหล่าผู้ที่นั่งร่วมประชุมทั้งสิบสองคน แม้จะมีอยู่หลายคนที่พอจะคาดเดาเรื่องนี้ได้ตั้งแต่แรกแล้วก็ตาม

“ในเมื่อคุณไม่ได้ทำการขอเปิดประชุมใหญ่อย่างเต็มรูปแบบ นั่นหมายความว่าคุณต้องได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากพวกเรา”

“ผมทราบเรื่องนั้นดีครับคุณ ยูดา”

ยูมิน คิม ดาอิล ซึ่งมีตาชั้นเดียว กับผมที่เถิกขึ้นไปเกือบถึงครึ่งศีรษะผู้นี้ เป็นพันธมิตรคนสำคัญของไอรอนมาอย่างยาวนาน

“ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่ต้องประชุมต่อแล้ว...”

โนอาพยายามยิ้มอย่างใจเย็น เขาเองก็คาดอยู่แล้วว่าต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

“...ผมไม่พอใจตั้งแต่วิธีการเชิญประชุมของคุณแล้ว ท่านประธานสภา ทำไมคุณถึงไม่ให้ประชุมผ่านไอพี”

“เพราะมติในครั้งนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้อำนวยการสำนักวิทยาศาสตร์ ผมไม่คิดว่าการทำอะไรผ่านไอพีจะเป็นความคิดที่ดีนัก”

'และคุณก็รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ยังมาแกล้งถามกันอีก' ซึ่งส่วนนี้เขาได้แต่เก็บเอาไว้ในใจ

“แล้วเรื่องเจ้าหน้าที่ของคุณ กับอาวุธประหลาดของพวกเขาอีกล่ะ คุณจะอธิบายอย่างไร”

ภายในห้องนี้นอกจากสมาชิกสภาทั้งสิบสองคน กับตัวเขาเองแล้ว ก็ยังมีเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง ยืนประจำอยู่ตามจุดต่างๆ รวมถึงเฝ้าคุมประตูทางเข้าออกเอาไว้ด้วย ที่เอวของพวกเขาต่างคาดสิ่งที่ดูคล้ายกับดาบญี่ปุ่น เหมือนกับ มาสะมุเนะ ดาบโบราณที่ตอนนี้โดดเด่นอยู่ที่เอวของเขา

โนอายิ้มพร้อมกับล้วงของสิ่งหนึ่งออกมา มันมีรูปร่างเป็นแท่งทรงกระบอกขนาดเหมาะมือ และเมื่อเขากดปุ่มที่จัดวางไว้ตรงตำแหน่งนิ้วหัวแม่มือพอดี ความยาวของมันก็ยืดออกมาจนพอๆ กับดาบเล่มหนึ่ง เขากวักมือเรียกเจ้าหน้าที่ ซึ่งเดินเข้ามาหาอย่างไม่ลังเล ก่อนจะฟันสิ่งที่อยู่ในมือเข้าใส่อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่คนนั้นยืนนิ่ง แม้แต่ตาก็ยังไม่กระพริบ

เมื่อแท่งวัตถุนั้นสัมผัสถูกร่างของเจ้าหน้าที่ ก็มีเสียงฮัมเบาๆ ดังขึ้น พร้อมกันนั้นร่างของผู้โชคร้ายก็ร่วงลงไปกองกับพื้น เพราะคำสั่งจากระบบประสาทส่วนกลาง ที่ส่งไปสู่กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย ได้ถูกกระแสไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาอย่างฉับพลันจาก 'กระบองไฟฟ้า' ปิดกั้นเอาไว้ทั้งหมด แม้จะยังคงรู้ตัว แต่เขาจะไม่สามารถสั่งการใดๆ กับร่างกายของตนเองได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

อาวุธที่มีอานุภาพสามารถทำให้ถึงตายได้นั้น ไม่มีการถูกค้นพบ หรือไม่ก็ถูกสำนักวิทยาศาสตร์ซุกเก็บเอาไว้จนหมด คงมีเพียงแค่กระบองไฟฟ้าที่ใช้หยุดการเคลื่อนไหวได้ในทันทีนี้เท่านั้น

สมาชิกสภาทุกคนที่นั่งอยู่ต่างมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเฉยชา เพราะพวกเขารู้ดีอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นเช่นนี้ โนอายิ้มก่อนที่จะลงมือจู่โจมเข้าใส่ยูดา ด้วยกระบวนท่าดาบที่รวดเร็วเหลือเชื่อยิ่งกว่าเมื่อครู่ ฟันเข้าใส่หัวไหล่ของเขาอย่างจัง

แต่เมื่อกระบองไฟฟ้าสัมผัสถูกร่าง ยูดากลับยังคงนั่งอยู่เป็นปกติ เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น แม้ตัวเขา กับสมาชิกสภาที่เหลือจะตกใจกับการกระทำนี้อยู่บ้าง แต่เขาก็ยังยิ้มอย่างใจเย็น

“...คุณพยายามจะบอกอะไรกันแน่”

“ก็อย่างที่พวกคุณรู้ดีอยู่แล้ว สมาชิกสภาอย่างพวกคุณได้รับการปกป้องให้ปลอดภัยจากกระบองไฟฟ้าพวกนี้ ด้วยความเอื้อเฟื้อของสำนักวิทยาศาสตร์ พวกมันจึงไม่สามารถใช้กับพวกคุณได้ในทุกกรณี...แต่อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น ผมยังเชื่อว่ามันอาจจะใช้ได้ ถ้าผู้ใช้พวกมันเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษของทางสำนักวิทยาศาสตร์เอง”

เขากวักมือเรียกเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งเข้ามา พร้อมกับโยนกระบองไฟฟ้าให้แล้วพยักหน้า เจ้าหน้าที่คนนั้นก็ลงมือจู่โจมใส่เขาด้วยท่าดาบที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน

สมาชิกสภาทั้งสิบสองคนมองเห็นเพียงประกายแวบขึ้นภายในห้อง ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะหยุดนิ่ง ปลายที่แหลมคมของมาสะมุเนะจ่ออยู่ที่คอของเจ้าหน้าที่ ในขณะที่ในมือของเขาเหลือเพียงด้ามจับของกระบองไฟฟ้า ส่วนที่เหลือของมันถูกตัดขาดหล่นอยู่ที่พื้น

“คุณพยายามจะขู่พวกเราอย่างนั้นหรือ ท่านประธานสภา”

ยูดาถามเสียงเครียด ในขณะที่สมาชิกสภาคนอื่นๆ ตอนนี้ก็ดูจะมีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก

“อย่าคิดอย่างนั้น ผมแค่ตอบคำถามของคุณเท่านั้นเอง เจ้าหน้าที่เหล่านี้ทั้งหมด ผมได้ทำการฝึกฝนขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่ผมมีเหตุผล และความจำเป็นที่จะอธิบายให้พวกคุณฟัง ก่อนจะขอให้มีการลงมติ”

“...คุณไม่มีทางหาอาวุธพวกนี้มาได้เองแน่ คุณแอบติดต่อกับทางศาสนจักรใช่ไหม มันเป็นอาวุธของผู้พเนจร ของพวกคนเถื่อนเหล่านั้น”

โนอาพยายามควบคุมตัวเองให้เยือกเย็น

“ผมจะยังไม่ตอบคำถามของคุณในตอนนี้ หากการประชุมในวันนี้จบลง และคุณยังอยากรู้เรื่องพวกนี้เพิ่มเติม คุณก็สามารถตั้งกระทู้ถามผม ในการประชุมสภาครั้งถัดไปได้...”

'แต่เมื่อถึงตอนนั้น ดุลอำนาจทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว คุณคงไม่อยากถามอะไรที่กวนใจผมอีก' โนอาเดินกลับมาที่ตำแหน่งหัวโต๊ะ เมื่อเขากำลังจะนั่งลง ก็มีเจ้าหน้าที่อีกสองคน เข้ามาหอบหิ้วร่างของเพื่อนที่ยังไม่อาจขยับเคลื่อนไหวได้ออกไปจากห้อง

“...ผมขอเปิดประชุม ณ บัดนี้”

โนอาเปลี่ยนมาใช้ท่าที และน้ำเสียงที่จริงใจ ตามที่เขาถนัด

“ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าตอนนี้เรากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ ถ้ามีใครในพวกคุณที่ยังไม่รู้ พวกเรากำลังใช้พลังงานสำรองกันอยู่ ซึ่งจากข้อมูล ผมคาดว่าจะหมดลงในอีกไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมงข้างหน้า หรือน้อยกว่านั้น”

เขาแอบลดตัวเลขของมันลงเล็กน้อยเพื่อให้น่าตื่นเต้นมากขึ้น สมาชิกสภาส่วนใหญ่ดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ยกเว้นเพียงสองสามคน ที่ไม่อาจปกปิดท่าทีแตกตื่นเอาไว้ได้

“และคุณไอรอนก็กำลังทำหน้าที่ของเธออย่างแข็งขันเพื่อแก้ปัญหานี้”

ยูดาประหลาดใจ ไม่คิดว่าเขาจะใช้คำพูดแบบนี้

“นั่นฟังดูไม่เป็นเหตุผลอันควรในการขอปลดเธอออกจากตำแหน่งในครั้งนี้เลยใช่ไหมครับ แต่ผมยังมีความจริงบางอย่างที่อยากเสนอให้พวกคุณได้รับรู้เอาไว้ด้วย”

“เรื่องแรกก็คือ ผมคิดว่าเธอรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ที่เราประสบกับปัญหาพลังงานไม่เสถียรอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ผมได้ทำการสอบถามถึงเรื่องนั้น ซึ่งเธอก็ได้ส่งข้อมูลเบื้องต้นให้กับผมในทันที”

“ข้อมูลอย่างดีที่มีการเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า ข้อมูลอย่างดีที่ดูเหมือนจะมีสิ่งต่างๆ มากมาย แต่กลับไม่สามารถตอบคำถามอะไรได้เลยสักนิด ข้อมูลที่จะทำให้เธอซื้อเวลาไปได้ชั่วคราว”

ทุกคนต่างได้รับข้อมูลที่เขาพูดถึง มีหลายคนที่พิจารณาดูข้อมูลดังกล่าว แต่ยูดากลับไม่สนใจ

“แม้จะเผชิญหน้ากับปัญหาที่มีความร้ายแรงขนาดนี้ เธอก็ยังไม่คิดจะรายงานให้พวกเราได้รับรู้เลย หลายคนอาจคิดว่ามันคงเป็น ความลับ ของสำนักวิทยาศาสตร์ที่พวกเรามักได้ยินเธออ้างถึงอยู่บ่อยๆ ความลับที่แม้แต่ผมซึ่งเป็นประธานสภาก็ยังไม่เคยได้รับรู้”

หลายคนเงยหน้าจากข้อมูลขึ้นมาสบตากับเขา

“แม้จะเผชิญหน้ากับปัญหาที่มีความร้ายแรง แต่กลับมีบุคคลากรของสำนักวิทยาศาสตร์เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหานี้...ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผมได้รับการยืนยันมาจากเจ้าหน้าที่ของผมเอง”

หลายคนเริ่มขมวดคิ้ว

“ผมไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ผมยังคงมีทัศนะคติที่ดีต่อหญิงเหล็กของเรา เธอได้ทำสิ่งที่ถูกต้องมามากมาย และจนถึงตอนนี้เธอก็ยังคงพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น...”

ตอนนี้ทุกคนต่างพุ่งความสนใจมายังตัวเขา แม้แต่ยูดาเองก็ยังอยากรู้ว่าเขาจะพูดอะไรกันแน่

“...แต่ผมคิดว่าการแก้ปัญหาของเธอในครั้งนี้ยังคงไม่เพียงพอ ปัญหานี้ใหญ่เกินไป และเราควรจะระดมกำลังที่มีอยู่ทั้งหมดให้เข้ามาช่วย เพื่อที่จะทำอย่างนั้น ผมจึงจำเป็นต้องขอปลดเธอออกจากตำแหน่งเพื่อเข้าถึงข้อมูลทั้งหมด และทำการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วที่สุด”

“เธอยังคงเป็นบุคคลากรที่สำคัญ ยังคงต้องเป็นส่วนหนึ่งของทีมต่อไป ผมไม่มีความต้องการที่จะกำจัดเธอ แต่ผมคิดว่าเธอไม่เหมาะที่จะเป็นผู้ควบคุมสำนักวิทยาศาสตร์อีกต่อไปแล้ว...”

เขาเว้นจังหวะนิดหนึ่ง เพื่อให้ข้อความสุดท้ายที่เขาต้องการเน้นเด่นชัดที่สุด

“...ในความเห็นส่วนตัวของผม ปัญหาทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของเธอเอง และเธอพยายามที่จะปกปิดมันเอาไว้อย่างสุดความสามารถ เธอกำลังเอาอนาคตของพวกเราทั้งหมดเข้าไปเสี่ยงโดยไม่จำเป็น ผมจึงต้องขอมติเพื่อปลดเธอออกจากตำแหน่งในทันที”

ยูดาถามอย่างใจเย็น

“ดูเหมือนว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะตั้งอยู่บนการคาดเดามากเกินไป มีข้อมูลที่เป็นจริงอยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้น”

“นั่นเป็นเพราะเธอไม่ยอมให้ข้อมูลกับผม และมันอาจเป็นการคาดเดาอย่างที่คุณพูด แต่เรากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาที่อาจนำมาซึ่งการล่มสลายของอารยธรรมมนุษย์อีกครั้ง ผมหมายถึงยุคมืดที่สุดรอบใหม่ เพียงเพราะเธอไม่ต้องการให้เรารับรู้ถึงความผิดพลาดที่เธอได้ก่อขึ้น...”

โนอาทำสีหน้าเคร่งเครียด

“...แม้แต่คุณเองก็ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องเหล่านี้มาก่อน เธอพยายามปกปิดทุกคน เธอมีการตัดสินใจที่ไม่เหมาะสม คุณคงเข้าใจถึงความจำเป็นในครั้งนี้”

ยูดาก้มหน้าลงขบคิด ในขณะที่โนอาลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

“อย่างที่พวกคุณเห็นอยู่แล้ว ผมอาจใช้กำลังบังคับเพื่อให้พวกคุณลงมติเห็นชอบในครั้งนี้ แต่ผมต้องการทำทุกอย่างให้ถูกต้อง มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เพื่อความอยู่รอดของพวกเราทุกคน”

สมาชิกสภาหลายคนหันหน้าไปกระซิบกันเบาๆ มีเพียงยูดาเท่านั้นที่ยังคงนั่งก้มหน้าอยู่คนเดียว โนอาปล่อยเวลาให้ผ่านไปอีกครู่หนึ่งก่อนเอ่ยขึ้นเรียบๆ

“ผมขอรับทราบมติด้วยครับ”

สมาชิกสภาแต่ละคนผลัดกันลุกขึ้นเพื่อขานมติของตนเอง คำว่า 'เห็นชอบ' ถูกกล่าวออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนมาถึงยูดาซึ่งเป็นคนที่สิบสอง

“ผมไม่คิดว่าคุณจะพูดความจริงออกมาทั้งหมด ท่านประธานสภา...”

ทั้งสองคนจ้องหน้ากันนิ่ง สมาชิกสภาที่เหลือต่างรู้สึกได้ถึงความกดดันที่แผ่ออกมา ความเงียบที่เกิดขึ้น ถูกทำลายลงด้วยเสียงถอนหายใจของยูดา ก่อนที่เขาจะหลบสายตา

“...แต่ผมก็เข้าใจถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้ และคุณพูดถูก เราไม่อาจเอาอนาคตของทุกคนเข้ามาเสี่ยงได้ ผมเห็นด้วยกับคุณ...”

เขาเงยหน้าขึ้นจ้องตาฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง

“...เฉพาะในเรื่องนี้เท่านั้น เมื่อปัญหาทุกอย่างจบลง คุณยังคงต้องอธิบายถึงที่มาของอาวุธพวกนี้อยู่ดี”

'แล้วคอยดูกันต่อไป' โนอานึกในใจ

“ผมเองก็เห็นชอบเช่นกัน ดังนั้นมติในการขอปลด ไอมานเด้ รอนโนวิช ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักวิทยาศาสตร์จะมีผลในทันที และผมขอปิดการ...”

คำพูดของเขาถูกขัดด้วยเสียงประกาศเยียบเย็นของทรีด

“ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจากสำนักวิทยาศาสตร์ นับตั้งแต่บัดนี้พื้นที่ของสำนักงานวิทยาศาสตร์ให้ถือเป็นเขตควบคุมพิเศษ ห้ามมิให้มีการเข้าออกอย่างเด็ดขาด และให้มีผลไปจนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลงจากทางสำนักงาน ขอประกาศซ้ำอีกครั้ง...”

มีข้อความเดียวกันนี้ปรากฏขึ้นบนไอพีของทุกคนด้วย ทั้งหมดต่างมองหน้ากันอย่างงุนงง 'ดูเหมือนเธอจะรู้ตัวก่อน' โนอาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แผนขั้นต่อไปของเขาคงไม่ง่ายเสียแล้ว และหากเธอสามารถแก้ปัญหาทั้งหมดได้ก่อนที่เขาจะยื่นมือเข้าไปถึง คำสั่งปลดในครั้งนี้คงต้องตกไปอย่างไม่ต้องสงสัย

“รีบสั่งเคลื่อนกำลังในทันที เราจะบุกเข้าไปในสำนักวิทยาศาสตร์ให้ได้”

สมาชิกสภาที่เหลือต่างนั่งงง ในขณะที่โนอา กับเจ้าหน้าที่ของเขา รวมถึงยูดารีบเร่งรุดออกไปจากห้อง ยูดามองดูกองกำลังที่มาเตรียมพร้อมอยู่ทางด้านนอกด้วยความตกใจ พวกเขามีจำนวนมากมาย และทุกคนต่างพกพาดาบทั้งสิ้น

โนอารีบถ่ายทอดคำสั่งอย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้อุปกรณ์สื่อสารอย่างอื่นในการติดต่อ ยูดาพึ่งเห็นว่าเจ้าหน้าที่เหล่านี้ต่างไม่มีไอพีติดตั้งอยู่บนชุด แขนเสื้อของพวกเขาล้วนว่างเปล่า

มีเพียงสองสามคนที่ยืนใกล้ๆ กับโนอาที่มีไอพี พวกเขาไม่ได้พกดาบเหมือนกับคนอื่นๆ และจากรูปร่างท่าทางทำให้เข้าใจได้ว่า น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคมากกว่าอย่างอื่น

'เตรียมมาพร้อมเชียวนะ คงเป็นพวกนักเจาะระบบ' โนอาต้องเตรียมการมานานแล้ว เพียงแต่รอคอยจังหวะลงมือที่เหมาะสมเท่านั้น 'ขอโทษด้วยนะไอรอน ฉันไม่รู้ว่าเธอมีเหตุผลอะไรกันแน่ แต่เพื่อความอยู่รอดของทุกคน ฉันจึงต้องทำเช่นนี้' เขาตัดสินใจติดตามทั้งหมดไปด้วย ซึ่งโนอาก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด

#####

“ที่เห็นอยู่นั่นคือฟาร์ม ที่ทำงานของพวกเราส่วนใหญ่...”

ซูฟีชี้ให้คีย์ดูหมู่หลังคากระโจมที่มองเห็นอยู่ไกลๆ

“...ส่วนใหญ่พวกมันจะอยู่รายล้อมที่ตั้งของศาสนจักรทั้งเจ็ดแห่ง แต่ก็ยังมีกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปด้วย เท่าที่ระบบส่งพลังงานจะไปถึง”

“ส่วนที่เหลือ ก็เป็นเหมือนอย่างพวกฉัน เป็นพวกพเนจรที่ร่อนเร่ไปทั่ว ทำทุกอย่างเพื่อหาเลี้ยงชีวิต”

เขามองดูสิ่งต่างๆ ด้วยความตื่นตา เมื่อมีเพื่อนร่วมเดินทางที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย เขาก็หันกลับมาสนใจในสิ่งรอบกาย เป็นครั้งแรกที่เขาได้ออกมาสู่โลกภายนอก ได้สัมผัสกับความเป็นจริงที่ไม่ใช่แค่ข้อมูลให้ศึกษา ซึ่งเขาพบว่าค่อนข้างจะแตกต่างกันพอสมควร พวกมันไม่ได้เลวร้ายมากมายอย่างที่เคยคิด

“แล้วพวกคุณเลี้ยงอะไรกันครับ”

“แมลง แมลงมากมายหลากหลายชนิด”

คีย์ไม่รู้สึกแปลกใจกับคำตอบนั้น เพราะเป็นสิ่งที่เขาคาดเดาเอาไว้ก่อนแล้ว เนื้อแห้งที่เห็นพวกเขากินกันก่อนหน้านี้ก็คงเป็นการแปรรูปพวกมันเพื่อใช้เป็นอาหาร แมลงเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของมนุษย์มาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สาม และเคยเป็นมาตั้งแต่สมัยในยุคดึกดำบรรพ์แล้ว

มีแมลงนับพันชนิดที่สามารถใช้เป็นอาหารได้ ทั้งที่เป็น ไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย รวมถึงพวก แมง อย่าง แมงมุม บึ้ง และแมงป่องด้วย

แมลงไม่ได้เป็นเพียงแหล่งของโปรตีนเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วย วิตามิน เกลือแร่ และไขมัน พวกมันสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว แพร่พันธุ์ได้ในปริมาณมหาศาล และต้องการปัจจัยพื้นฐานเพียงน้อยนิด ที่สำคัญคือพวกมันทนทานต่อรังสีที่ยังตกค้างอยู่บนผิวโลกได้เป็นอย่างดี

เขาเริ่มมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มของผู้คนที่หลงเหลืออยู่บนโลกใบนี้ สภานวโลกามีเทคโนโลยี และแหล่งพลังงาน ในขณะที่ผู้พเนจรมีแรงงานที่ใช้ในการผลิตอาหาร โดยมีศาสนจักรเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงทั้งสองฝ่ายเข้าหากัน เขาไม่เคยพบเห็นข้อมูลพวกนี้มาก่อน และทำให้เขารู้สึกสงสัยในใจอยู่เรื่อยมา

“คุณคะ...”

แก้วตาเดินมากระตุกแขนเสื้อเบาๆ เขาจึงก้มลงไปหาเธอพร้อมรอยยิ้ม

“...ยกโทษให้พ่อของหนูด้วยนะคะ”

เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกระซิบบอกนี้เลยสักนิด แต่ในขณะที่กำลังจะซักถามเพิ่มเติม ดวงใจก็รีบตรงเข้ามาอุ้มเธอ ให้ขึ้นไปเกาะอยู่ทางด้านหน้าลำตัว ซึ่งทำเป็นเชือกคล้องเอาไว้

“มันมากันแล้ว ตามปกติพวกมันจะไม่เข้ามาหากินใกล้ที่อยู่ของมนุษย์มากขนาดนี้ ให้เดินไปเรื่อยๆ อย่าวิ่ง อย่าแสดงว่ากลัวพวกมันเด็ดขาด”

พอซูฟีพูดจบก็รีบชักมีดออกมาถือไว้ ในมือของดวงใจเองก็มีมีดอีกเล่มหนึ่งเช่นกัน ทั้งสองหนึ่งอยู่หน้า หนึ่งอยู่หลัง โดยให้คีย์อยู่ตรงกลาง เขาเดินตามไปเรื่อยๆ และแอบมองไปรอบๆ จนสามารถเห็นพวกมันได้ในที่สุด

หมาเลี้ยงถึงแม้จะมีรูปร่างหน้าตาที่หลากหลายซึ่งเกิดจากการผสมสายพันธุ์ แต่เมื่อกลับคืนสู่ธรรมชาติ พวกมันก็หวนคืนสู่ความเป็นหมาป่าอีกครั้ง ครอบครัวนี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมดสี่ตัว พวกมันมีขนหนา ยาว สีน้ำตาลอ่อนแซมด้วยสีครีม เขาได้สบตากับตัวหนึ่ง เห็นเขี้ยวขาวในปากกว้าง และเพียงแค่นั้นก็ทำให้เขารับรู้ได้ถึงความอันตรายของพวกมันแล้ว

“หวังว่าพวกมันจะลังเล แล้วตัดสินใจจากไป”

ซูฟีพูดเบาๆ อย่างมีความหวัง ก่อนที่เส้นทางข้างหน้าจะมีหมาตัวใหญ่อีกสองตัวยืนแยกเขี้ยวขวางทางพวกเขาเอาไว้ นั่นทำให้พวกมันรวมเป็นหกตัว

“อย่าแยกกันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเสร็จมันแน่”

ซูฟีตะโกนบอกก่อนที่ความสับสนวุ่นวายจะเริ่มต้นขึ้น


Create Date : 02 ตุลาคม 2554
Last Update : 2 ตุลาคม 2554 0:07:14 น. 4 comments
Counter : 502 Pageviews.

 
ติดตามๆๆ
.
.
.
ขอบคุณครับ


โดย: aodblo22 วันที่: 6 ตุลาคม 2554 เวลา:3:35:13 น.  

 
ติดตามๆๆๆ
.
.
.


โดย: aodblo22 วันที่: 6 ตุลาคม 2554 เวลา:19:52:38 น.  

 
ติดตามๆๆ
.


โดย: aodblo22 วันที่: 6 ตุลาคม 2554 เวลา:22:39:12 น.  

 
ขอบคุณครับ ติดตามๆๆๆ
........................................


โดย: aodblo22 วันที่: 12 ตุลาคม 2554 เวลา:3:11:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.