Lotus' daughter->lotus2b ซักวันหนึ่งเราจะเป็นดอกบัว
"จิตส่งออกนอกคือสมุทัย มีผลเป็นทุกข์ จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งเป็นมรรค มีผลเป็นนิโรธ"
"อย่า ส่ง จิต ออก นอก"
www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws

Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
5 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
เมื่อใดเห็นทุกข์เมื่อนั้นเห็นธรรม



แต่ก่อนมานั้นเราไม่ชอบเลย ใครเมื่อมีความทุกข์ก็หันหน้าเข้าหาธรรมะ ไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อมีความทุกข์ถึงต้องเข้าวัด ตอนที่มีความสุขทำไมไม่เข้าวัดบ้าง เหมือนกับวัดเป็นเพื่อนตาย เวลามีความสุขไม่เคยคิดถึง แต่เมื่อมีความทุกข์อย่างน้อยก็มีสิ่งหนึ่งที่คอยเป็นเพื่อน ..จนกระทั่งได้มาเจอกับตัวเอง..

การศึกษาธรรมะของเราก็เหมือนกับคนทั่วไป ด้วยความที่เป็นเด็กโรงเรียนวัดสมัยประถม ก็ได้ใกล้วัดมากกว่าหลายๆคน สามารถท่องบทสวดมนต์ได้หลายๆบท ถือเป็นผลพลอยได้จากการเป็นเด็กวัด แต่การศึกษาธรรมของเราก็ไม่ได้ไปไกลกว่านั้น ทั้งๆที่ตั้งแต่เด็กๆมาแล้วนั้น จิตใจสงสัยมาตลอดว่าทำไมต้องเกิดมา ทำไมต้องตาย

จนแม่ พ่อและน้องได้ไปปฏิบัติธรรม เราเป็นคนสุดท้ายในบ้านที่ได้ปฏิบัติธรรม ในหน้าที่การงานที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี ก็อ้างได้อยู่เรื่อยๆ แม่ก็ขอร้องแกมบังคับอยู่ตลอดเราก็ไม่ได้ใส่ใจจนพ่อเข้าไปปฏิบัติ ตอนนั้นน่ะคิดว่า เอาล่ะวะ พ่อทำได้ เราก็ต้องทำได้ เพราะเราน่ะนิสัยคล้ายๆพ่อไง

ปฏิบัติธรรมครั้งแรกก็ได้รับความอิ่มใจ เริ่มเห็นคำตอบที่ค้นหามานาน แต่แล้วความวุ่นวายของโลกก็พัดพาเราให้หลงอยู่ในวังวน ทำให้เราลืมการปฏิบัติไปอีกครั้งหนึ่ง จนแต่งงานและต้องย้ายบ้านมาอยู่อีกซีกโลกหนึ่ง มีความสุขอยู่ได้ไม่กี่เดือนก็มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ความทุกข์ถาโถม มองไปทางไหนไม่เห็นใคร ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีครอบครัวหรือเพื่อนให้เป็นกำลังใจ มีแต่ตัวเอง ครั้งนั้นเราได้กลับมาเป็นเพื่อนกับ “สติ” อีกครั้งหนึ่ง

จากนั้นก็มีความเปลี่ยนแปลงในชีวิตอยู่เรื่อยๆ ความทุกข์ที่ถาโถมเข้ามาก็บรรเทาลงไปได้ เพราะมี “สติ” เป็นเพื่อน มีธรรมะเป็นผู้นำทาง ชีวิตของเราก็อยู่สบายๆมาเรื่อยๆ จนเมื่อสักอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ได้ทราบข่าวว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วเป็นเรื่องที่เตรียมใจไว้แล้ว ก็ยังอดหวั่นไหวไปไม่ได้ และเป็นครั้งแรกที่เพื่อนแท้ คือ สติของเรา เค้าไม่ได้อยู่กับเรา
เรารู้เรื่องเย็นวันศุกร์ เช้าวันเสาร์โทรหาแม่ บอกกับแม่ว่า “แม่จ๋า..ทำยังไงดี ปุ้มไม่รู้เลยว่าปุ้มรู้สึกยังไง ไม่รู้ว่าจะตามรู้อะไร ไม่รู้ว่าจะกำหนดอะไร” พูดได้เท่านั้นเราก็ร้องไห้โฮ ที่สำคํญ “ดอกบัว” ของเราที่กำลังเป็นรูปเป็นร่างจะหายไปจากเราแล้วเหรอ

“ไม่หายหรอกลูก ..ถ้าอยากร้องไห้ก็ร้องซะนะ ร้องซะให้พอ”

ไม่บ่อยนักที่แม่บอกให้เราร้องไห้ ตลอดเวลาแม่บอกให้มีสติ คอยตั้งสติ ตามรู้ ทุกข์ครั้งนี้มันเป็นอีกครั้งที่อาจจะต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตของเรา
เราเสียสติไปสองวัน นอนซม ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ร้องไห้ ทำไมถึงต้องเป็นตัวเรา ทำไมต้องเกิดอะไรอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ได้ตามรู้ ไม่กำหนด

เวลาผ่านไป..เราก็ไม่ได้ร้องไห้แล้ว เพื่อน “สติ” ก็กลับมาแล้ว เราตามรู้อย่างที่มันเป็นได้แล้ว พร้อมที่จะสู้กับปัญหาต่อไป
เราได้รู้แล้วว่า เมื่อมีความทุกข์ มันแล้วแต่เราเลือกที่จะทำ 1. ฟูมฟาย จมดิ่งอยู่กับปัญหาและความทุกข์ หาทางออกไม่เจอ หรือ 2. มองปัญหาที่มี รู้ว่ามีปัญหา แล้วก็ตามแก้ทีละเปลาะ อะไรที่แก้ไม่ได้ ก็รับรู้และมองเห็นมันตามความจริง

วันนี้เวลานี้ จิตใจของเราสงบดี ไม่ได้ฟูมฟาย ทุรนทุราย ความทุกข์มันมีของมันอยู่ แต่จิตของเราไม่ได้ไป “รู้สึก” ทุกข์กับมันอีกแล้ว
ปัญหามีมาให้แก้ แก้ไม่ได้ก็ต้องวาง ทำได้เท่านี้ค่ะ

เกิดมาความทุกข์ก็มีอยู่แล้ว เพราะขันธ์ 5 (กาย เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) หรือกองทั้ง 5 เป็นทุกข์ แต่เราจะเป็นทุกข์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าจิตของเราไป “รับรู้” ความทุกข์นั้นหรือไม่ พระอริยเจ้าแตกต่างกับสามัญชนตรงที่จิตของท่านไม่ส่งออกไปรับความทุกข์นั่นแล้ว
เหตุนี้เอง “ทุกข์” จึงเป็นข้อแรกในอริยสัจจ์ 4 หรือความจริงทั้งสี่
ถ้าไม่เห็นทุกข์ เราจะไม่เคยหาว่าอะไรเป็นสาเหตุแห่งทุกข์ ไม่เคยที่จะหาทางพ้นทุกข์ จึงไม่มีทางที่จะพ้นทุกข์ไปได้

แต่เมื่อเราเห็นทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ จากการเกิด การแก่ การตาย การไม่ได้ในสิ่งที่อยากได้ การได้ในสิ่งที่ไม่อยากได้ หรือการพลัดพรากจากสิ่งที่รัก เรารู้สาเหตุแห่งทุกข์ (คือการที่จิตไปรับทุกข์) หาทางที่จะพ้นทุกข์(มรรค) และปฏิบัติจนพ้นจากทุกข์(นิโรธ)

นั่นเป็นเหตุผลว่า เมื่อใดเห็นทุกข์ เมื่อนั้นเห็นธรรม

วันนี้เวลานี้ เราไม่แปลกใจแล้วที่เห็นคนที่มีความทุกข์ หันหน้าเข้าหาวัด หันหน้าเข้าหาธรรมะ ได้แต่หวังว่า เขาเหล่านั้นจะใช้ความทุกข์นั้นเป็นทางไปสู่ “ธรรม”

ขออนุโมทนากับผู้ที่พยายาม “เห็นธรรมทุกท่านค่ะ”






Create Date : 05 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2550 8:37:43 น. 19 comments
Counter : 810 Pageviews.

 
สาธุ อนุโมทนาด้วยค่ะ
ดีใจด้วยค่ะที่ทั้งบ้านปฏิบัติธรรม น่าภูมิใจ น่ายินดีมากๆ

เราคนนึงที่ได้ใช้คำว่า ไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม จนวันนี้ต้องขอบคุณธรรมะที่นำสิ่งดีดีเข้ามาสู่ชีวิต

หลายต่อหลายหนที่เราเองก็เผลอ ไม่มีสติ แต่พอนึกได้ จริงๆแล้วมันไม่ยากหรอก

ทำบ้านเราให้เป็นวัดนะคะ


โดย: kaoim วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:59:03 น.  

 
ขอบใจมากจ้ะ ปุ้ม

พวกเราเรียนมาทางด้านวิทยาศาตร์ ต้องหาสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาที่ว่านั่นให้ได้ใช่ไหม

เอ้า ไฟท์โตะ จ้ะ สู้ ๆ สู้ นะคะ

ป.ล. ลองอ่านหลังไมค์ดูนะคะ เราก็ไม่รู้ว่า ไอ้สาเหตุที่ว่านั่นน่ะ เราจะแก้ได้ยังไง


โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:36:56 น.  

 
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ เมื่อปุ้มได้เห็นธรรมะแท้ๆ ที่พระพุทธเจ้าท่านทรงค้นพบ และบอกทางให้พุทธศาสนิกชนได้ปฏิบัติตาม การที่เห็นตามจริง นั่นแหละคือธรรมะ

คุณลูกแม่ดอกบัว ควรที่ยินดีที่ได้เห็นไตรลักษณ์ คือ ที่ได้เห็นทุกข์และสุข
คิดว่า การที่คุณลูกแม่ดอกบัว เป็นผู้ที่โชคดี ได้รับความสำเร็จทั้งในด้าน
การเรียน อาชีพการงาน ฐานะครอบครัว และความรักจากคนรอบข้าง.. ฯลฯ

แต่ บางจังหวะ ของชีวิต ทำให้ สะดุดหลุมอากาศ จึงทำให้เห็นไตรลักษณ์

แต่โชคดีที่ชีวิตป้ากิโล ที่ผ่านมาเห็นแต่ทุกข์ ทุกข์ล้วนๆ ทั้งตัวเราก็เป็นทุกข์ และใจเราก็เป็นทุกข์
ไม่ว่าทั้งกาย และใจ ป้ากิโลเห็นแต่ว่าเป็นทุกข์ อาจเพราะในความโชคดีนี้หรือเปล่า
เราก็ไม่ทราบได้ .... ทำให้เราขนขวายอยากจะสงบ
แต่ แม้เราสงบ จากการนั่งสมาธิแล้วก็ตาม ในความเป็นจริง ไม่ว่าเราจะหนีไปที่สงบเพียงใด
..... แต่มันไม่สงบเลย ...ความคิดที่ตามเราไปทุกที่นั่นแหละ ที่ไปกระทบในทางดีร้ายกับใจเรา
ทำให้ เราหาทางอีกเส้นทางหนึ่ง ....
ทางที่ให้เราดักสังเกตปฏิกิริยาที่เกิดกระทบใจ
เป็นอะไรอย่างหนึ่งที่เป็นต่างหากจากใจ
เป็นแค่ภาวะหนึ่งที่ปรากฏให้รู้ ไม่มีภาวะไหนที่เป็นตัวเรา
ซึ่งเห็นว่า เป็นของชั่วคราว
เกิดแล้วดับเป็นธรรมดา บังคับบัญชาให้อยู่หรือไปทันใจไม่ได้
มันไม่ใช่สมบัติของเรา...

อ่าน blog หน้านี้ ของคุณลูกแม่ดอกบัว .. อย่าเคืองเรานะ
ที่เรายินดี ที่คุณลูกแม่ดอกบัว ได้ก้าวหน้านำเราไปอีกครั้ง
คุณลูกแม่ดอกบัวได้เห็นธรรมะ ที่อยู่ต่อหน้าต่อตาเรา
...................................... ตามรู้ นะคะ ....
.....................เผลอตามไม่ทัน..... ก็รู้...ว่าเผลอ...




โดย: ป้ากิโล (Geerorogunso ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:59:49 น.  

 
สาธุด้วยคนค่ะ


โดย: นะฐา วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:20:01 น.  

 
แวะมาอ่านข้อคิดดีๆจากธรรมะค่ะ สาธุ


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:47:40 น.  

 
CLICK มอบให้จากใจ

ยังจำได้ไหมจ๊ะปุ้ม ... เมื่อครั้งที่เรา ต้องล้มลุกคลุกคลานในวัยทีนเอจ
(เรา ผ่านมาได้ และยิ้มด้วยน้ำตาทุกทีสิน่า .. เมื่อได้ยินเพลงนี้)

แต่เราก็ผ่านสิ่งต่างๆ มาได้อยากงดงาม ...
.... จะเป็นไรไป ล้มอีก แล้วเราก็ผ่านได้ ไงล่ะจ๊ะ.....


โดย: อากี้... ส่งแรงใจไม่มีหมด (Geerorogunso ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:52:50 น.  

 


โดย: ammataya วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:3:04:40 น.  

 
อนุโมทนาสาธุ
น่าชื่นชมและยินดียิ่งกับครอบครัวดอกบัว ที่ก้าวมาในทางธรรม และมีความก้าวหน้าเจริญในธรรมขึ้นเรื่อยๆ

จุดเริ่มของการสนใจธรรมะของพี่เอง ไม่ได้อยู่ที่การได้เผชิญกับทุกข์เลย
พี่สนใจธรรมะ เพราะได้ไปอ่านไปศึกษา แล้วเกิดความสงสัยใคร่รู้ ก็เลยศึกษาเรื่อยมา
จากนั้น ... จากเดิมที่สุขกายสบายดี ก็เหมือนจะเห็นทุกข์มากขึ้นเรื่อยๆๆๆ
แล้วก็เลยศึกษาและปฏิบัติมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกข์มันก็เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
แปลกจัง (หรือเปล่าหนอ) พี่ยิ่งปฏิบัติ เหมือนมันจะยิ่งมีทุกข์ ยิ่งเห็นทุกข์
แต่ในขณะเดียวกัน พอมีทุกข์เห็นทุกข์แล้ว เรากลับวางทุกข์ได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
ตอนแรกคิดไปว่า ... เรามีความต้านทาน ทนทุกข์ได้มากขึ้น
หลังๆ มาคิดดู เราก็ไม่ได้ทนอยู่กับทุกข์นะ แต่เราปล่อยวางมันได้
เพราะคิดไปว่า ... ชีวิตทุกชีวิตมันก็คือตัวทุกข์ทั้งนั้นแหละ

ขอให้หมอปุ้มและครอบครัวดอกบัว มีความเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป สาธุ


โดย: สะเทื้อน วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:13:32 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะพี่หนุ่ม พี่หนุ่มเก่งจัง ไม่ต้องมีทุกข์ก็เห็นธรรมได้
เพลงเพราะจังค่ะ แบคกราวด์หน้านี้ก็สวย ชอบมากๆเลยค่ะ

โดย: ลูกแม่ดอกบัว


เอ่ ... เห็นธรรมหมายความว่าอะไรเนี่ย
ความจริงพี่ไม่เชิงว่า "เห็นทุกข์แล้วจึงเห็นธรรม" หรือ "ไม่ต้องมีทุกข์ก็เห็นธรรมได้"
แต่มันมีขั้นตอนสองขั้นเกิดต่อเนื่องซ้อนกันอยู่ คือ ...
"ศึกษาธรรมแล้วจึงเห็นทุกข์" จากนั้นพอ "เห็นทุกข์แล้วจึงเห็นธรรม"
ตอนแรกที่ยังไม่เห็นทุกข์ ความจริงมันก็มีทุกข์อยู่บ้างแหละครับ
แต่ด้วยความประมาท หลงระเริงไปกับโลกียสุขทั้งหลาย
ก็เลยหลงคิดไปว่า นั่นคือความสุข ไม่เห็นจะทุกข์ตรงไหนสักเท่าไหร่เลย
พอมาเรียนรู้ธรรมมากขึ้น ถึงได้ทราบว่าเรามีอวิชชา มีมิจฉาทิฏฐิ มากมาย
ก็เลยเสมือนว่าได้ธรรมนี่แหละ ที่เป็นราวไม้ให้เกาะ ประคับประคองเดินไปในทางที่ถูกที่ควรได้

ขอคุณนะครับหมอปุ้ม


โดย: สะเทื้อน วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:48:27 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:25:40 น.  

 


โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:41:30 น.  

 
อนุโมทนาสาธุด้วยคนจ้าปุ้ม เราเองนะเริ่มสนใจนานมาแล้ว แต่ก็รู้งูๆปลาๆแล้วก็หลงทางอีกด้วยนะ คืออ่านไม่ทะลุแล้วก็คิดเอาเองว่าน่าจะเป็นอย่างนี้ แล้วก็จบที่ไม่ค่อยเชื่อแล้วก็ห่างหาย จนล่าสุดพี่สาวสามีมาเล่าว่าที่บ้านสามีเดี๋ยวเข้าวัดเข้าวา ไอ้เราก็ เฮ้อ ลุ่มหลงจัง จนคุยกับแกบ่อยๆ แกก็คงเห็นว่าแม่นี่หลงทางอย่างจัง แกก็เลยบอกให้ไปอ่านดังตฤณซะก่อนจะเถียงเรื่องที่พระพุทธเจ้าสอน (ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าเจ๊แกกลัวเราบาปหนักน่ะ ที่ไปเถียงสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนมา) นั่นเป็นจุดเริ่มต้นจริงๆ ก็เริ่ม อ๋อ เราหลงทางจริงๆแฮะ เข้าใจเรื่องของกรรมผิดๆ เข้าใจเรื่องคำสอนท่านผิดๆ

แล้วก็เริ่มสนใจหนักขึ้นเมื่อทุกข์เรื่องเรียนเรื่องลูกมันถาโถมอย่างที่ปุ้มบอกน่ะ คราวนี้หละมานั่งอ่านลานธรรมเสวนาบ้าง อ่านห้องศาสนาบ้าง อ่านๆๆแต่ก็ยังงงๆ จนได้ปุ้มกับกี้น่ะที่มาคอยกันทางไม่ให้หลง ต้องขอบคุณทั้งปุ้มและกี้อีกรอบ และก็จะขอบคุณไปอีกหลายต่อหลายรอบด้วย เหมือนฉุดขึ้นจากบ่อตรมเหม็นเน่าที่เราเคยคิดมองว่ามันเป็นสระน้ำแสนสวย

ขอบคุณมากๆเรื่องหนังสือนะปุ้ม เราเกรงใจจริงๆ ปุ้มไม่ค่อยมีเวลา ถ้าไม่ว่างไม่เป็นไรเลยจริงๆนะ เกรงใจๆ


โดย: ป้อมkanu_memphis IP: 74.185.165.26 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2550 เวลา:3:26:57 น.  

 
.........
สมกะเป็นอาจารย์เก่าจริงๆ ตรวจการบ้านไวมากๆ
กะจะส่ง TAG ให้สวยๆ นะเนี่ย
(ไหนๆ ก้อทำแล้ว ขอส่งแบบเป็นทางการน๊ะ)

TAG 31 Q (ส่งรักให้เต็มๆ)


โดย: กี้โระน้อยVS.ไดโนซอ (Geerorogunso ) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:43:01 น.  

 

แวะมาเยี่ยมชมบล็อครับ

แบบว่าตามมาจากบล็อคของป้ากิโลครับ

อิอิ

แวะเอาบุญมาฝากครับ ...

โปรดคลิกไปอ่านที่ ...



กฐินอิ่มบุญ ... กฐินชาวบล็อคแก๊งค์



อย่าลืมแวะเข้าไปอ่านนะครับ จะได้รับบุญกันถ้วนหน้าครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:20:07 น.  

 
ปุ้ม เราได้หนังสือกับซีดีแล้วนะ ขอบคุณมากๆเลย นี่ชักจะกดดันแล้วนะเนี่ย กลัวจะลืมปฏิบัติ หรือทำผิดๆถูกๆ เพราะกี้กับปุ้มมาช่วยดึงจากตรมเต็มสองแขน ถ้าเรายังทำไม่ได้นี่คงทำกี้กับปุ้มผิดหวังเลยนะเนี่ย เราลองเริ่มอ่านดูแล้ว พยายามตามรู้ เพิ่งบอกกี้ไปว่า เราทำตึงเกินไปแน่ๆ เพราะมันกลายเป็นหนักๆ เพ่งๆ แล้วก็ท้อในที่สุด คิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงลองสาย ว่าสายไหนเป็นสายกลางอยู่ จะพยายามต่อไปนะปุ้ม กี้ก็ดี๊ดี รีบตอบทันที กำลังทำให้มันเบาๆอยู่ เดี๋ยวต้องตามไปขอบคุณกี้อีก

ขอให้อานิสงฆ์นี้ช่วยให้ปุ้มกับครอบครัวอยู่ในธรรมตลอดไปเทอญ สาธุๆ



โดย: ป้อมkanu_memphis IP: 74.185.165.26 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:42:04 น.  

 
ว้ายๆๆ คุณลูกแม่ดอกบัว เลี้ยงปลาด้วย .. เราชอบเลี้ยงปลาทองที่สุดเลย

อนุโมทนาบุญด้วยนะจ๊ะ .. เช้าวันนี้ไปฟังธรรมะ จากหลวงพ่อปราโมทย์มาจ๊ะ



โดย: ป้ากี้ (Geerorogunso ) วันที่: 18 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:12:08 น.  

 
คุงนู๋ปุ้ม

มะคืนเราดูรายการเชิงสารคดีเทิดพระเกียรติ "ประพาสต้นบนดอย" จ้ะ น้ำหูน้ำตาไหลท่วมตาเลย ยิ่งแก่ยิ่ง Sensitive ค่ะ

เมื่อวานไปร้าน ภูฟ้า กะพี่สาวมา สอยเสื้อโปโลมาหลายสีเลยค่ะ ฝากญาติ ๆ พี่น้องด้วย กระเป๋าเสื้อมีลายฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพด้วย

อ่า เรากลับบ้านที่ ตจว มา นั่งมองรูปถ่ายรับปริญญาของพี่ชายเราจ้ะ พี่ชายเราก็จบศิริราชเหมือนปุ้มนะ แต่จบตั้งกะปี 30 เห็นรูปท่านแล้วสุขใจจังค่ะ

ช่วงนี้เป็นไรไม่รู้ อยากดูแต่อะไร ๆ ที่เกี่ยวกะในหลวง บอกไม่ถูกหน่ะ


โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) วันที่: 18 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:14:26 น.  

 
รูปสวยมาก ไว้จะมาหยิบยืมนะครับ




โดย: ณธีร์ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:57:24 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณปุ้ม(ขออนุญาตเรียกตาม คคห.อื่นค่ะ) อ่านแล้วสบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ
ธรรมะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและจำเป็นต่อชีวิตมนุษย์อย่างเราๆมากเลย คุณปุ้มว่าไหมคะ


โดย: Brunnett วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:3:53:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกแม่ดอกบัว
Location :
Los Angeles United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สิ่งทั้งหลายเป็นไปตามเหตุ ตามปัจจัย
มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
ไม่มีสิ่งใดหลีกพ้นแห่งกฎของธรรมชาตินี้ไปได้


พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบมนุษย์กับดอกบัว4ประเภท
(บัวสี่เหล่า)คือ

1.ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงพระอาทิตย์ก็จะเบ่งบานทันที (อุคฆฏิตัญญู)
2.ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ ซึ่งจะบานในวันถัดไป (วิปัจจิตัญญู)
3.ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆโผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง (เนยยะ)
4.ดอกบัวที่จมอยู่โคลนตม ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบานได้อีก (ปทปรมะ)

ฉันกำลังก้าวไปข้างหน้าเพื่อที่จะเป็น"บัวพ้นน้ำ" นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเป็น lotus2b

มโนปฺพพงคมา ธมมา มโนเสฏฐา มโนมยา
ธรรมทั้งหลายมีใจนำหน้า มีใจประเสริฐที่สุด
สำเร็จแล้วแต่ใจ




Emo น้องลิง
Emo หัวหอม
Emo เหลืองดุ๊กดิ๊ก
X
X
X


MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add ลูกแม่ดอกบัว's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.