Lotus' daughter->lotus2b ซักวันหนึ่งเราจะเป็นดอกบัว
"จิตส่งออกนอกคือสมุทัย มีผลเป็นทุกข์ จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งเป็นมรรค มีผลเป็นนิโรธ"
"อย่า ส่ง จิต ออก นอก"
www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws

Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
1 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
ทำไมถึงต้องไปปฏิบัติธรรม


ครั้งนี้ถือว่าเป็นโชคดีที่ได้กลับบ้านถึงสองอาทิตย์ครึ่ง เพราะตอนนี้เราเริ่ม training แล้ว โปรแกรมที่เราอยู่นี้ไม่มี slot สำหรับวันลา คือปีนึงลาได้ 20 วัน ลาวันไหนก็ได้ แต่นั่นแหละมันก็มีหลาย rotation ที่ไม่ให้ลา แล้วก็ลาเดือนนึงได้ไม่เกินสองอาทิตย์ เราได้ rotation ที่ลาได้ติดกันสองเดือนเลยลาเค้าอย่างละอาทิตย์ เกือบมีปํญหาเหมือนกันเพราะรุ่นพี่ที่จะจบเค้าทำท่าจะไม่ยอมให้เราลา แต่อาจารย์บอกว่าไปเป็นไรก็เลยลาได้

คิดๆอยู่นานว่าจะไปปฏิบัติธรรมดีหรือเปล่า ก็มันมีเวลากลับบ้านน้อน อยากเจอคนโน้นคนนี้อยากทำอะไรหลายๆอย่าง ความจริงปีนี้เป็นปีที่ 8 แล้วที่เราปฏิบัติ และเราก็ปฏิบัติไป 7 ครั้งแล้ว ปีที่แล้วไม่ได้ปฏิบัติ ก็หมักหมมกิเลสไว้เยอะ มันไม่ไหวแล้วล่ะ รู้สึกตัวเลยว่าควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ เรากลายเป็นคนสุดโต่งอีกแล้ว คือ ดีใจก็ดีใจสุดๆ เสียใจก็เสียใจสุดๆ ใจที่เคยเป็นกลางๆมันไหวไปซะแล้ว ไม่ได้แล้วล่ะ ยังไงก็ต้องปฏิบัติ ยิ่งครั้งนี้พี่ต้นไม่ได้กลับด้วยเป็นโอกาสเหมาะมาก บอกแม่ไปแม่ก็บอกว่า ครั้งนี้ให้ไปปฏิบัติที่วัดมาบจันทร์แล้วกัน

ความจริงเราก็ได้ยินชื่อหลวงพ่อชามานานแล้ว แต่ไม่เคยศึกษาเรื่องและคำสอนของท่าน จนเมื่อปีที่แล้วก่อนเราสอบ license ตัวสุดท้าย ตอนนั้นเครียดมากๆเพราะไหนจะเตรียมสอบ ไหนจะต้องตระเวนสัมภาษณ์ residency training บังเอิญได้ไปฟังพระอาจารย์พรหมวังโส หรือ อาจารย์ Brahm ท่านมาบรรยายธรรมและโปรโมทหนังสือ Who Ordered This Truckload Of Dung? เราเลยเริ่มสนใจหลวงพ่อชา และไปได้หนังสือชีวประวัติของท่านที่ลูกศิษย์ชาวอเมริกันได้เขียนไว้ ตอนนั้นคือหยุดอ่านหนังสือเตรียมสอบไปเลย มาอ่านประวัติหลวงพ่อชาแทน และก็ไม่ได้กินได้นอน ตะลุยอ่านจนจบ..แหม..หนังสือเรียนยังไม่อ่านขนาดนี้เลยค่ะ ครั้งนี้เลยเป็นโอกาสดีที่จะได้ไปปฏิบัติวัดที่เป็นสาขาของวัดหนองป่าพง

ตอนแรกกะจะไป 7 วัน แต่วันวิสาขบูชา เราอยากไปพุทธวิหาร เลยลดเหลือแค่ 6 วัน ครั้งนี้ขับรถกับเป๊าะ(ลูกบัวคนที่สอง)ไปกันสองคน แล้วก็จะไปปฏิบัติทีไรก็มีมารมาขัดขวางทุกที อยู่ๆเป๊าะก็มีประชุมด่วนตอนเที่ยง แต่ผลสุดท้ายก็ cancel แต่กว่าเป๊าะจะกลับบ้าน และเราก็ออกเดินทางก็บ่ายสองครึ่งแล้ว

บอกตามตรงว่าไปปฏิบัติคราวนี้รู้สึกไม่มั่นใจเลย มันกลัวๆ เพราะที่นั่นไม่มีสอบอารมณ์ ยกเว้นจะออกไปสอบกับพระอาจารย์เองถ้าอยากทำ แล้วเราก็เว้นปฏิบัติมาปีนึงจะไปได้แค่ไหนก็ไม่รู้ แม่บอกว่ามีกุฏิสองหลังให้เลือก หลังนึงอยู่ใกล้โรงอาหาร อีกหลังอยู่ไกลออกไป อยู่บนเขา เราก็เลือกอันใกล้ แต่ไปๆมาๆ แม่ก็มัดมือชกให้เป๊าะอยู่หลังใกล้ ส่วนเราอยู่หลังไกล ไปถึงก็ค่ำแล้วนะ เอาของไปไว้ที่กุฏิเราไม่ได้ เพราะมันต้องเดินขึ้นเขา คือ ไม่มีไฟตามทางเดินนะคะ ต้องไต่ๆขึ้นเขาไป กุฏินั้นอยู่ไกลสุดเลย คืนแรกก็เลยนอนกับเป๊าะที่กุฏิใกล้ แล้วเช้าวันถัดไปถึงจะขนของและเริ่มปฏิบัติ

ด้วยความที่เพิ่งมาถึงเมืองไทย ปรับเวลายังไม่ได้ เราก็หลับไปตั้งกะสองทุ่ม ตื่นมากี่โมงไม่รู้ ตื่นมาก็ปฏิบัติเลยก็เห็นว่ามันยังมืดอยู่ เพิ่งมาเห็นทีหลังว่ามันห้าทุ่มเองอ่ะ เป๊าะก็งงๆ พี่ปุ้มตื่นมาเดินจงกรมดึกๆทำไม แต่แป๊บนึงเราก็นอนต่อ พอเช้าเราก็เข้ากุฏิของเรา เริ่มปฏิบัติการขังเดี่ยว..เอ๊ย..ไม่ช่าย ปฏิบัติเดี่ยวค่ะ

เวลาปฏิบัติธรรมเนี่ยมันเหมือนกับสอบไล่ คือ อะไรก็ตามที่เราทำก่อนๆมาในชีวิตประจำวันมันจะมาออกในกรรมฐาน เรารู้สึกว่า ช่วงสองปีที่ผ่านมาเราทำในชิวิตประจำวันได้ไม่ค่อยดีเลย คราวนี้ก็ตายแน่ๆ ปรากฎว่ามันไม่อย่างนั้นแฮะ..ครั้งนี้รู้สึกเห็นเกิดดับได้ชัดเจน เราปล่อยวางได้เร็วขึ้น ญาณขึ้นเร็วมากๆ(ทั้งๆที่เรากะว่าญาณคงไม่ค่อยขึ้นหรอก เพราะเรากำหนดอริยาบทย่อยได้ไม่ดีเท่าไหร่) ก่อนมาแม่ก็บอกว่าอย่าหวังญาณ ทำแค่เอาบุญ ..ครั้งนี้เราน่ะไม่ทำทั้งญาณไม่เอาทั้งบุญ คือ มีอะไรมาก็รับไปมีอะไรมาก็รับไป รับแล้วปล่อย รับแล้วปล่อย เกิดดับเลยเห็นชัดเจนมาก พอบ่ายๆเราก็ง่วงแล้ว พอหกโมงเย็นนี่ก็เริ่มเดินจงกรมแล้วหัวทิ่ม เราก็ไม่เอาแล้ว นอนดีกว่า วันแรกนอนไปตั้งแต่ 6 โมงเย็นแน่ะ ไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุก คือตื่นเมื่อไหร่ก็ปฏบัติเมื่อนั้น ปรากฎว่าตื่นมา 5 ทุ่มก็ปฏิบัติยาวถึงเช้าเลย ก็ได้ไป 7 บัลลังก์ เรานอนตั้งแต่เย็น แต่จะไปปฏิบัติดึกๆเป้ฯอย่างนี้ทุกวัน เนื่องจากแมลงเยอะ เราก็เปิดแค่ไฟในห้องน้ำให้พอมาเห็นทางเวลาเดินจมกรมเท่านั้น แปลกแฮะ..ไม่ยักกะกลัวผี

แล้วการที่ไม่มีสอบอารมณ์กลับเป็นผลดีกับเรา เพราะเราไม่ต้องคอยจำว่ามีอะไรเกิดขึ้นเพื่อที่จะไปส่งอารมณ์มันก็เลยไม่ต้องคิดอะไร สบายดีได้ปฏิบัติยาวๆ อีกอย่างตอนแรกเรานึกว่าเราจะกลัวเพราะกุฏินี่อยู่ไกลมากๆ ล้อมด้วยป่าเขา จะลงมากินข้าวที่โรงอาหารก็ไม่สะดวก เราก็ต้มมาม่ามันกินทุกมื้อ(สองมื้อต่อวัน เพราะถือศีล 8 ค่ะ) ก็ดีอีก ไม่ต้องคิดว่าจะกินอะไรเพราะมันเหมือนๆกันทุกวัน แถมยังได้กินมังสวิรัติด้วยได้ทำบุญอีก ไปครั้งนี้เพราะมันคิดอะไรก็กำหนด มันเลยคิดอะไรได้ไม่ไกล ลืมวันลืมคืนมาก จะรู้ว่าถึงวันกลับเมื่อไหร่ ใช้วิธีนับเสื้อที่แขวนอยู่เอา เพราะเราเปลี่ยนเสื้อวันละครั้ง เพราะฉะนั้นเสื้อมันก็จะหายไปเรื่อยๆตามจำนวนวัน

คืนวันผ่านไปเร็วมาก ปรากฎว่าประสบการณ์ในชีวิตที่เป็นอยู่นี้ทำให้เราปล่อยวางได้มากขึ้น เพราะพูดตามตรงที่เรียนอยู่นี่เครียดมากๆ ตัววิชาก็ยากอยู่แล้ว ยังมีผู้ร่วมงานที่ก่อปัญหาให้ปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน บางทีเรารู้สึกเหมือนหมาจนตรอกทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับมันแล้วก็ปล่อยวางไป ใช่แล้ว..ทุกสิ่งมันเป็นอย่างนี้แหละ รับรู้มันแล้วก็ปล่อยมันไป ในกรรมฐานครั้งนี้เวทนาทางใจของเราไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ เพราะเราปล่อยวางได้มากขึ้น เสียดายกำลังจะก้าวขึ้นไปอีกขั้นก็ต้องกลับบ้านเสียก่อน

ครั้งนี้เห็นชัดจริงๆ ว่าอาการปวดกับความรู้สึกปวดมันเป็นยังไง สิ่งที่มากวนหัวใจเรามากๆครั้งนี้คือสัญญา ครั้งนี้โดนมากกว่าทุกครั้ง เพราะมันเป็นจุดอ่อนของเรานั่นเอง แต่เราก็สามารถผ่านมันได้เพราะการวางใจ วันสุดท้ายมันก็ปิ๊งถึงคำจากพระโอษฐ์
“มโนปฺพพงคมา ธมมา มโนเสฏฐา มโนมยา
ธรรมทั้งหลายมีใจนำหน้า มีใจประเสริฐที่สุด
สำเร็จแล้วแต่ใจ” จริงๆด้วยนะ สำคัญอยู่ที่ใจ ความทุกข์มันมีของมันอยู่แล้ว แต่ใจของเราไปทุกข์กับมันด้วยหรือเปล่า ก็เท่านั้นแหละ
เช้าที่ออกจากกรรมฐานก็ได้ไปกวาดลานวัด รู้สึกมีความสุขจังเลย แต่ลานวัดกว้างมากๆ แถมยังพอกวาดสะอาดได้ชื่นใจแป๊บนึง ใบไม้ก็ร่วง มาอีกแล้ว ก็ได้ปล่อยวางกันอีกครั้งนึง..อือ..ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มากวาดใหม่ ยังไงเราก็ได้บทเรียนจากการปฏิบัติครั้งนี้คือ ธรรมทั้งหลายมีใจนำหน้า มีใจประเสริฐที่สุด
สำเร็จแล้วแต่ใจ

เมื่อกลับมาอเมริกา เราก็ต้องทำงานเลย รู้ล่ะว่าต้องทำงานหนัก เพราะรุ่นพี่ลากันไปหมดเหลือเราอยู่คนเดียว เราต้องทำงานแทนเค้าทุกอย่าง รู้สึกเซ็งมากๆ แล้วก็นึกขึ้นมาได้ถึงตอนที่เราปฏิบัติ ใช่แล้ว..มันอยู่ว่าเราจะวางใจที่ไหน เราก็ปรับวางใจซะใหม่ ช่างมันเหอะ มีอะไรมาก็ทำไป เรียกว่ารอดตัวไปอีกครั้งหนึ่ง จนกระทั่ง schedule ของปีหน้าออก เราก็อึ้งๆๆๆ เพราะเราได้อยู่ rotation ที่หนักที่สุดกับน้องใหม่สองคน แถมเดือนมิ.ย.เค้าให้เราอยู่เวรเสาร์อาทิตย์ไปสามอาทิตย์แล้ว ยังมาให้เราอยู่เวรวันหยุดเดือนก.ค.อีก เราก็ร้องเรียนไปถึงหัวหน้าทุกคน ไม่มีใครสนใจ ไม่มีคนแคร์..มันหนักมากเลย จนเราร้องไห้ ทำไมต้องเป็นเราทุกทีเลย บ่ายวันนั้น อยู่มันก็ปิ๊งขึ้นมา ก็ไม่เป็นไรนี่ มีอะไรมาก็ทำมันไป มีอะไรมาก็ทำมันไป คิดอะไรกันมากมาย แค่นั้นเองจิตใจของเราก็แจ่มใสขึ้น ทำงานได้อย่างมีความสุขทั้งๆที่เมื่อเช้าวันนั้นยังนั่งร้องไห้อยู่เลย

แม่กำลังจะไปปฏิบัติธรรมเหมือนกัน ก่อนแม่ไปเราโทรไปหาแม่เล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่าครั้งนี้เราได้คะแนนเต็ม ใช่แล้วค่ะ..เพราะเราไปฝึกมาในห้องกรรมฐานแล้วไงคะ บอกแล้วว่าไปปฏิบัติธรรมเหมือนกับสอบไล่ แต่ขณะเดียวกันก็เหมือนเป็นการชาร์ตไฟแบตเตอรี่ในใจเราที่ค่อยๆอ่อนลงไปให้กลับมาเข้มแข็งขึ้นใหม่
ใจของเราดวงเดียวกันนี้เอง ก่อนฝึกฝน กับหลังฝึกฝนมันต่างกันถึงเพียงนี้ นี่แหละค่ะเป็นเหตุผลที่ทำไมเราถึงต้องไปปฏิบัติธรรม คุณแม่สิริเคยสอนไว้ว่า “ไม่วางก็ไม่ว่าง”
เราก็ต้องวางเพื่อทำตัวให้ว่างเพื่อที่จะใช้เวลานั้นศึกษาใจของเรายังไงคะ

มาบอกข่าวให้อนุโมทนานะคะ..แม่ดอกบัวไปปฏิบัติธรรมที่วัดมาบจันทร์ 1 เดือนเต็มค่ะ วันที่ 30 มิ.ย. ถึงวันที่ 30 ก.ค. ส่วนน้องปิ๊ก(ลูกบัวคนสุดท้อง) ไปส่งแม่แล้วก็ไปปฏิบัติด้วยสามวัน หลังจากนั้นไปปฏิบัติที่พุทธวิหารสองอาทิตย์ค่ะ อนุโมทนากับแม่และน้องด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ


อันนี้เป็นรูปกุฏิที่เราไปอยู่นะคะ อยู่ท่ามกลางป่าเขา ชอบมากๆเลย ชาติหน้าขอให้ได้เกิดเป็นผู้ชายนะจะได้บวชแล้วก็ไปเดินธุดงค์

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

ดูกันชัดๆ
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

ส่วนนี่เป็นโบสถ์ที่วัดมาบจันทร์ค่ะ
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
งามดีนะคะ
ก่อนกลับได้กราบลาหลวงพ่ออนันต์ด้วย มีคนเคยอกว่าท่านมีญาณหยั่งรู้ ตอนไปกราบท่านก็เงียบไปนิดนึง ก่อนพูดออกมาว่า
มันก็อย่างนี้แหละเวลาปฏิบัติมันก็จะเกิดสัญญา ก็ต้องจัดการกับมันให้ได้

เราก็ปากไว ถามไปว่า แล้วหนูจะจัดการมันได้ไม๊คะเนี่ย
ท่านยิ้มแล้วก็ตอบว่า ได้สิ แต่ต้องใช้ปัญญานะถึงจะจัดการกับมันได้
แล้วเราก็ลาท่านเพราะรถตู้มารับท่านไปกุฏิแล้ว ไว้วันหลังจะมากราบท่านใหม่นะคะ


Create Date : 01 กรกฎาคม 2550
Last Update : 1 กรกฎาคม 2550 5:35:27 น. 23 comments
Counter : 1365 Pageviews.

 
ทำให้จิตใจสบาย


โดย: somnumberone วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:5:37:21 น.  

 
คุณปุ้มโชคดีจัง
อยากไปฝึกบ้างจังเลยค่ะ

มีความสุขในวันอาทิตย์นะคะ


โดย: the Vicky วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:6:43:30 น.  

 
อนุโมทนาบุญ ค่ะ คุณหมอปุ้ม ....

ขอบคุณที่มา แชร์เรื่องราว ของการไปปฏิบัติให้ เพื่อนๆ ฟัง

ที่จริง พิมเริ่มปฏิบัติเอง มานานมากจาก การไปเรียนพุทธศาสนา วันอาทิตย์
ไม่มีการส่งอารมณ์ สอบอารมณ์ อะไร ....ใจนิ่งไหม? ก็ยังไม่พบว่านิ่ง

เอ่อ พิมหมายถึงสมดุลย์ ด้วยการรู้ตัวทั่วพร้อมประมาณนั้นค่ะ
จริต คุณปุ้มอาจจะเม้งแตก แต่ของพิม ขี้แยที่สุดค่ะ ร้องไห้ คร่ำครวญ อยุ่นั่นแล้สว
วันหนึ่ง คุณยายนิศา ไป ลงชื่อให้ ที่ยุวพุทธ หลังจากที่พิมไปปรึกษา

เหตุผลที่ไม่บิดพริ้วเลยเพราะละอายใจ ไปเที่ยวไหน ลางานไปได้ บินไปดำน้ำ
ไป ผจญภัยต่างๆ ....เพื่อความบันเทิง ลุยแหลก แต่พอหาเวลาไป ปฏิบัติ บอกตัวเอง
ไม่ว่าง ไม่มีเวลา พิมอายขึ้นมาเลย เอาน่า ไป ...ไปตั้งแต่ที่ ว่องวาณิช ไปยุวพุทธ
แล้วก็ ไป บ้านที่มีจัดกรรมฐานทั้งหลาย ไปในคอส ของอาจารย์ จอห์น โควแมน
ก็ พบว่า ตัวเองไม่ได้ติดสุข ไปปฏิบัติ มาหลายที่ค่ะ ที่ประทับใจมากๆ น่าจะช่วงที่ไปวัดป่านานาชาติ ที่อุบล .....คุ้นเคยกับการกวาดวัด ไป ภาวนาไป การเดินจงกรมแบบธรรมชาติรอบๆ
ลานวัด การไปใกล้ชิดครูบาอาจารย์ ...

ตอนนี้ พิมมี ท่านอาจารย์ที่ ไปปรึกษา บ่อยๆ ก็คือ ท่านปราโมทย์ ปราโมชโช ที่สวนสันติธรรม ....ตามรู้ให้เท่าทัน รู้ตัวในทุกๆ กิจที่เราทำในชีวิตประจำวัน
พิมได้อะไรขึ้น จาก การจัดการกับวิธีดูใจตัวเอง พิมว่าพิมรับ ความกดดันต่างๆ ในชีวิตมากขึ้น
มีสติมากขึ้น มีความสุข เบิกบานมากขึ้น ไม่สุดโต่ง เท่าเดิม ....

ใจเย็นขึ้น มากๆๆ

เข้าใจ การเกิด การตาย มากขึ้น

พิมอนุโมทนา สาธุการกับ คุณหมอปุ้ม และ บ้านดอกบัว นะคะ
กราบคุณแม่ คุณหมอปุ้มด้วย



โดย: ประกายดาว วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:00:07 น.  

 
ถ้ามีธรรมะ อยู่ในใจบ้าง จะได้มีสติในการดำรงชีวิต


โดย: goodpeople วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:16:21 น.  

 
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะคุณปุ้ม
เราขออธิฐานจิตเช่นกัน ... หากมีบุญภพหน้า ได้เกิดมาเป็นคน เราก็อยากบวชเป็นพระเช่นกัน
จะได้เร่ง สร้างบุญ ชดใช้กรรมในอดีตชาติ เพื่อขอให้อโหสิกรรมให้เรา

..... คุณปุ้มมีบุญมากกว่าเรา ได้ปฏิบัติกรรมฐานหลายครั้งแล้ว .. ขออนุโมทนาบุญด้วยจากใจจริง


โดย: ป้ากิโล (Geerorogunso ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:56:24 น.  

 
ขอบคุณนะ ที่บอกว่า ...

ครั้งนี้เห็นชัดจริงๆ ว่าอาการปวดกับความรู้สึกปวดมันเป็นยังไง สิ่งที่มากวนหัวใจเรามากๆครั้งนี้คือสัญญา ครั้งนี้โดนมากกว่าทุกครั้ง เพราะมันเป็นจุดอ่อนของเรานั่นเอง แต่เราก็สามารถผ่านมันได้เพราะการวางใจ วันสุดท้ายมันก็ปิ๊งถึงคำจากพระโอษฐ์

“มโนปฺพพงคมา ธมมา มโนเสฏฐา มโนมยา
ธรรมทั้งหลายมีใจนำหน้า มีใจประเสริฐที่สุด
สำเร็จแล้วแต่ใจ”


จริงๆด้วยนะ สำคัญอยู่ที่ใจ ความทุกข์มันมีของมันอยู่แล้ว แต่ใจของเราไปทุกข์กับมันด้วยหรือเปล่า ก็เท่านั้นแหละ ......

ขอบคุณนะ ... ทำให้เรา หายทุกข์ไปมากโข เราอยากเร่งอธิฐานจิต ให้ปุ้มจัง เปิดโรงเรียนฝึก แล้วสิ เราอาจขอไปเป็นลูกศิษย์ด้วยคน


โดย: ป้ากิโล (Geerorogunso ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:03:22 น.  

 
เคยเหมือนกันนะคะ ที่อยากอยู่แบบสงบๆ แต่ไม่เคยมีโอกาสเลย คุณปุ้มโชคดีจัง


โดย: CinnamonGal วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:54:05 น.  

 


โดย: ตาทึ่ม IP: 202.190.133.2 วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:4:40:09 น.  

 
ร่วมอนุโมทนาบุญกับคุณแม่ดอกบัว คุณหมอปุ้ม และน้องสาวด้วยครับ

เรื่องความเจ็บปวด ปวดเมื่อย หรือทุกขเวทนาทางกายนี่ ตอนก่อนเป็นปัญหาใหญ่ของพี่เลย
ครูบาอาจารย์หลายท่านหลายองค์ ก็สอนว่าให้อดทน หรือไม่ก็บอกว่าถ้าปวดมากก็พักเสีย
แต่พี่ก็ยังไม่รู้สึกว่าตนเองทำได้ดีขึ้น หรือพัฒนาขึ้นเท่าใดนัก

จนวันหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ไปกราบครูบาอาจารย์ที่สกลนคร พี่เรียนถามท่านเรื่องนี้
พี่ถูกท่านดุว่า โขกสับอย่างแรง ให้ได้อับอาย ต่อหน้าผู้คนจำนวนมากมาย
แล้วในคืนนั้นเอง ขณะที่นั่งภาวนา และนึกถึงคำพูดที่เพิ่งถูกดุมาเมื่อตอนบ่าย .....
พี่ก็สอบผ่านทุกขเวทนาทางกายในรูปแบบนั้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ
พูดถึงวิธีการสอนของท่านแล้ว รู้สึกถึงความเมตตาอันสูงยิ่งที่ท่านมีต่อศิษย์จริงๆ เลยครับ



โดย: สะเทื้อน วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:27:46 น.  

 


โดย: ammataya วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:20:45 น.  

 
พี่ปุ้ม สวัสดีค่ะ...

มาบ้านนี้ทีไร เย็นสบายใจทุกที.....จริงๆน้า

มาชวนพี่ปุ้มไปเดินเล่นกันค่ะ ตลาด 100 ปีที่ อยู่ระหว่าง 2 จังหวัด มีคลองคั่นกลางเป็นตัวแบ่งจังหวัด

ข้างในมีของเล่นเก่าๆเยอะเลย เห็นก็พลอยนึกถึงตัวเองยามเยาว์วัย....อิอิ...ซึ่งผ่านมานานมากแล้ว ภาพมันดูเลือนลางสุดๆ

มาให้ได้นะพี่น้า


โดย: วิตามินโซดา วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:58:02 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะพี่ปุ้ม ไว้จะกลับมาอ่านอีกรอบ (อ่านยากจังเลยค่ะ ม่วง-ดำ) พี่ปุ้มสบายดีนะคะ


โดย: เป๋อเหวอ IP: 124.120.165.254 วันที่: 5 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:04:03 น.  

 
นุทเคยมีโอกาสไปปฏิบัติธรรมคล้าย ๆ กับคุณปุ้มเมื่อซัก 3-4 ปีที่แล้วค่ะ ทีสำนักแม่ชี จ.ปราจีนบุรี ใกล้แก่งหินเพลิง แม่ชีผู้ก่อตั้งเป็นอดีตวิศวกร ซ่อมเครื่องบินที่ อเมริกา

ทุก ๆ อย่างที่สำนัก เช่น ท่อน้ำ ท่อประปา ระบบไฟ ท่านดูแลเองได้หมดเลย

แต่อยู่แค่ 2 คืน

จำได้ว่า วันแรกทรมานมาก ๆ ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องสวดมนต์มันทั้งวี่ทั้งวัน ไม่ใช่สวดมนต์อย่างเดียวด้วย ต้องนั่งสมาธิ เดินจงกรม โห ทรมานสุด ๆ

วันที่ 2 เริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีนัก ง่วงมากมาก แถมเบื่อด้วย

วันที่ 3 เริ่มดีขึ้นกว่าวันที่สอง เริ่มสงบขึ้นนิดหน่อย และจำได้ว่า วันนั้นบอกกะตัวเองว่า จะหาโอกาสมาอีก

ง่า แต่จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ยังไม่เคยได้ไปอีกเลยค่ะ


โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:05:09 น.  

 
emo โหมงานหนัก .. มาทั้งอาทิตย์เลย ดีใจจังพรุ่งนี้ วันศุกร์แล้ว .. หวังว่า วันหยุด มะต้องเสียสละเพื่อนชาติอีกน๊า .... อยากเข้า pantip ใจจะขาด

ถ้าไม่มีธรรมมะ อยู่ก้นบึ้ง ... เราคงหวีนแตกไปแล้ว .. ดีจัง .. ต้องฝึกๆ
แล้ววันเสาร์อาทิตย์นี้ จะได้ไปทำบุญแล้วจ้า ...

คิดถึงค่ะ


โดย: ป้ากิโล (Geerorogunso ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:39:03 น.  

 
emo

โหมดบ้างาน แต่ก้อ มาส่ง
TAG หน้าไม่ให้...แต่ใจมันรักอ่ะ


โดย: ป้ากิโล (Geerorogunso ) วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:11:42 น.  

 
เข้ามาอ่านอย่างเดียวเลยจ๊ะ และได้ข้อคิดอะไรด้วย

ปล. เรื่องนั้น พี่ไปคิดดูแล้ว พี่คงยอมให้เค้าเจาะสะโพกแล้วล่ะ เพราะมันติดอยู่ในหัวหลายวัน คือ เหมือนคนกำลังจะตาย แล้วเราไม่ช่วยอ่ะจ๊ะ แล้วปล่อยให้เค้าตาย พี่คงเสียความรู้สึกไปตลอดชีวิตแน่ๆ เลย คิดหนักเหมือนกัน แต่คิดดีแล้วว่า คงแป้บเดียว แล้วคงจะขอยาสลบไปเลยดีกว่า ตื่นมา ก็แค่รักษาแผลเอา ตอนนี้พี่เลยรู้สึกว่า สบายใจมากขึ้นจ๊ะ วีคหน้าจะติดต่อที่ donor program เลยจ๊ะ



โดย: Second impact วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:31:24 น.  

 
มา ธรรมสวัสดีกับ คุณหมอปุ้มค่ะ


วันนี้ วันพระ แรม แปดค่ำ เดือนแปด ค่ะ

ที่คุณหมอปุ้มถาม ใช่ค่ะ
พิมก็หมายถึง คุณยายนิศา ค่ะ ...
ไม่ทราบคุณหมอปุ้มทราบ ทุกข์จากกายสังขาร ที่เกิดจากคุณยายไหมคะ
แต คุณยายก็ยังไป เรียนธรรมะ จากครูบาอาจารย์ ทุกวันพฤหัส
ยังมีโยนิโสมนสิการ เต็มหัวใจ ยังสอนลูกศิษย์ มากมาย...

พิมอธิบายไม่ถูก ค่ะ ....
แค่อยากบอกว่า พิมอ่านหนังสือ ที่คุณหมอปุ้มส่งมาอย่างมีความสุข
ขอบคุณมากๆ นะคะ

ขอให้คุณหมอ ปุ้ม หวานใจ
คุณแม่ และ บ้านดอกบังทุกดอก งดงามสง่า บรรลุมรรผลนิพพานโดยเร็ว
ทุกๆ ท่านนะคะ


โดย: ประกายดาว วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:33:13 น.  

 
"ชาติหน้าขอให้ได้เกิดเป็นผู้ชายนะจะได้บวชแล้วก็ไปเดินธุดงค์ "

สาธุ ขออนุโมทนาบุญปฏิบัติธรรม


ปล..คล้ายจะรุงรังกว่าเดิมค่ะ


โดย: ป่ามืด วันที่: 8 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:36:52 น.  

 
เอาบุญมาฝากจ๊ะ ปุ้มจังจ้า ~!
อนูโมทนาบุญด้วยนะ เราถือศีล 8 ด้วย (สองวัน ) 555 ทำได้แค่นี้ ประกอบกับ ตระเวณทำบุญด้วย แต่เราไปวัดนอกเกาะพระนครศรีอยุธยา ค่ะ ... (เรามีความคิดเป็นของตัวเองอีกแล้ว)
ได้ไปนั่ง สมาธิริมแม่น้ำมาด้วย สงบมาก และเหมือน ได้สติ และพลังในการทำงาน มาโข
เหมือนวิ่งมาเหนื่อยๆ พอดื่มกระทิงแดงเข้าไป ก้อ กระชุ่มกระชวยขึ้นมาทีเดียว
และอีกอย่าง เราได้ ปฏิบัติ การแผ่เมตตา ตามที่ได้รับหนังสือของคุณแม่ปุ้มด้วยค่ะ
เราอยาก รบกวนว่า ถ้าปุ้มจัง ~! ไม่ยุ่งเกินไป หัวข้อต่อไปน่าจะเขียนเรื่องนี้นะคะ เราว่า บางทีมันช่วยปลอบใจ ให้คนที่รู้สึกสับสนว้าวุ่น ให้สงบลงได้ในระดับหนึ่ง อาจจะเป็นเหมือนการเริ่มต้นของคนที่เค้ายังไม่ได้มาทางนี้ด้วยนะคะ เราว่า ถ้าปุ้มจัง .. สื่อออกมาน่าจะเขียนได้ดีกว่าเราค่ะ เพราะ เราก้อยังฝึก ตามหลังปุ้มจัง ~! อยู่ ยังคงต้อง ศึกษา และปฏิบัติตามอีกมาก เขียนยาวไป ปวดตาเปล่าเนี่ย 555


โดย: ป้ากิโล (Geerorogunso ) วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:47:45 น.  

 
อนุโมทนา สาธุนะคะ


โดย: แม่อ้วนคนสวย วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:21:34 น.  

 
เดือนนี้วันหยุดเยอะจริง ๆ ด้วยแหล่ะค่ะ ต่อให้ไม่หยุด บรรยากาศมันก็เหมือน
เพราะคนรอบตัวดี๊ด๊ากันเหลือเกิน ทำงานเพลิน ๆ นะคะ แป็บเดียวก็หมดเดือนแล้ว

ไว้จะเที่ยวเผื่อค่ะ


โดย: ชมพู่แก้มแหม่มของแม่ตุ๊กตา วันที่: 2 ธันวาคม 2550 เวลา:16:39:00 น.  

 
อย่าลืมเข้ามาเขียนเรื่องธรรมะอีกนะครับ จะรอติดตามอ่าน


ชอบมาก ๆ


เอ


โดย: Materko IP: 144.199.176.24 วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:12:37:55 น.  

 
ชอบมาก อยากได้บทความและอยากถามอะไรมากมายได้ไหม ผมฝากเมล์ไว้ด้วยนะครับ Boonsong_wanamethin@hotmail.com


โดย: ดีครับ IP: 58.9.145.63 วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:21:48:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกแม่ดอกบัว
Location :
Los Angeles United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สิ่งทั้งหลายเป็นไปตามเหตุ ตามปัจจัย
มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
ไม่มีสิ่งใดหลีกพ้นแห่งกฎของธรรมชาตินี้ไปได้


พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบมนุษย์กับดอกบัว4ประเภท
(บัวสี่เหล่า)คือ

1.ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงพระอาทิตย์ก็จะเบ่งบานทันที (อุคฆฏิตัญญู)
2.ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ ซึ่งจะบานในวันถัดไป (วิปัจจิตัญญู)
3.ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆโผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง (เนยยะ)
4.ดอกบัวที่จมอยู่โคลนตม ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบานได้อีก (ปทปรมะ)

ฉันกำลังก้าวไปข้างหน้าเพื่อที่จะเป็น"บัวพ้นน้ำ" นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเป็น lotus2b

มโนปฺพพงคมา ธมมา มโนเสฏฐา มโนมยา
ธรรมทั้งหลายมีใจนำหน้า มีใจประเสริฐที่สุด
สำเร็จแล้วแต่ใจ




Emo น้องลิง
Emo หัวหอม
Emo เหลืองดุ๊กดิ๊ก
X
X
X


MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add ลูกแม่ดอกบัว's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.