. . .S k y M i L k Y w A y...
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
11 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
โหมด บันทึก ไดอะรี่การเดินทางและการหม่ำ & ปฏิบัติการกระชากไขมันจากยัยตัวอ้วน วันที่ 8-9 พ.ย. 51

วันที่ 8/11/2551 (ไม่ได้ชั่งน้ำหนักไปทอดกฐิน)

ออกต่างจังหวัดที่ไร กินกระจาย ไม่บันยะบันยังกันคร้าบพี่น้อง แบบว่า แฮปปี้ (เจ๊ใหญ่)ใจดี แจกขนม เถ้าแก่น้อยรสเผ็ด (ชอบมาก อิอิ นายกีกี้มีคู่แข่ง โฮะๆๆๆๆ แย่งเพื่อนกินมีความสุข ฮ่ะๆๆๆๆ) กินตั้งแต่ กรุงเทพฯ ยัน สกล ขากลับ อุดรธานี จนถึง กรุงเทพฯ ไม่ขาดสาย แวะปั้มไม่ได้ เจ๊ใหญ่ กลัวเราอด ซื้อทุกปั้มขนมได้ทุกปั้ม (แล้วมีการบอกให้น้องลดน้ำหนักด้วยนะ กินไปอ่านแคลอรี่ข้างซองไป หลัง ๆ หน้ามืด นับไม่ไหว ตัวเลขรวมแล้วมันเยอะ หุหุ) ขอบคุณมากนะ คร้าบ เจ๊ใหญ่


ก่อนมื้อเช้า หุหุ เวลา 1.30 น. กินมาม่ากระป๋องรถต้มยำน้ำข้นขนาด 42 กรัม กินเส้นไป 3 คำ นอกนั้นซดน้ำ

มื้อเช้าเป็นเด็กวัด 1 วัน กินข้าวที่สำนักสงฆ์พระบาทน้ำทิพย์ ไม่อยากจะบอกเลยว่า อาหารระรานตาเดี้ยนมากๆๆๆๆ เยอะอะ อยากกินมันทุกอย่างเลยหุหุ สรุปก็ตักใส่จาน เป็นอาหารจานเดียวที่มีกับข้าวเป็นสิบอย่าง (เว่อร์ไปงั้น) จริงๆ ก็มี
- ข้าว 1 ทัพพี + ผัดถั่วงอกใส่เลือดหมู + แกงป่าลูกชิ้นปลา+ผัดหน่อไม้ (มีเบิ้ล ผัดถั่วงอกนิดหน่อย ก็มันอร่อยอะ ) น้ำ เป็นแก้วอะ 1 แก้ว


ใช้พลังงานด้วยการล้างจาน ตอนแรกกะจะล้างเฉพาะของเพื่อน ๆ กะเรา พอไปล้าง ไงมาเป็นสิบก็ใม่รู้ แต่ว่าก็ล้างได้นะชอบ ช่วย ๆ กัน แต่ว่าช่วงนี้ล้างจานมีคนมาให้กำลังใจ บอกว่า ดีแล้วน้อง ล้างจานให้วัดเค้าว่า ชาติหน้าเกิดมาจะได้ผิวสวย ล้างกันอยู่ 3 -4 คน โห้ ล้างกันใหญ่เลย แย่งกันผิวสวย ฮ่ะๆๆๆ ซักพัก มี ถาด มา ถาดเบ้อเริ่มเลย เราก็รีบล้างเลยบอกเพื่อนว่า “แก รีบ ๆ ล้างถาดเลย รับรอง คราวนี้ ได้ “สวยอย่างถาด” แน่ ๆ แก” โฮะๆๆๆๆ สวยอย่างถาด สวยยังไงฟร่ะ *o* (เพื่อนแอบ งง คิคิ )

พอล้างจานเสร็จก็เดินไปที่พระบาทน้ำทิพย์กันเดินเข้าป่าไปใช้พลังงานมากมาย ออกมาก็มื้อเที่ยงต่อ (มีแต่กินและกิน)

มื้อเที่ยง ก็มีอาหารของวัดจัดไว้ให้แล้วก็มีชาวบ้านมาทำก๋วยเตี๋ยวแจก เราก็เลยไปกินก๋วยเตี๋ยวเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง มีดังนี้

- เส้นหมี่น้ำใสลูกชิ้นล้วน ๆ 1 ถ้วยโฟม อ่ะอ่ะยังไม่หมดค่ะ ของเค้าอร่อยจริงๆ เบิ้ลค่ะเบิ้ล
- ตามด้วย เกาเหลาลูกชิ้นต้มยำ 2 ถ้วยโฟม ลูกชิ้น รวมคราว ๆ เกิน 20 ลูก หุหุ


หลังจากข้าวเที่ยงเสร็จก็ไปถวายกฐิน (แต่ว่าเป็นการฝากกฐินไว้ก่อนนะเพราะว่าที่วัดเค้าจะมีงานในวันอาทิตย์ที่ 9 พ.ย.) รับศีลรับพร ก็เป็นอันเสร็จพิธี ยอดกฐินที่คณะเราจัดไป ได้ 105,711.- บาท (ยอดรวมทั้งหมดไม่แน่ใจจำได้ว่าประมาณนะ 1,004,776) จำได้แต่ 3 ตัวหลังเนี้ย ชัดเจนเลย หุหุ 3 ตัวงวดนี้ ฮ่ะๆๆๆๆ

จากนั้นก็เดินทางไปมุ่งหน้าไปที่วัด ถ้ำพวง ค่ะ เพราะว่าจะไปนอนค้างที่วัดถ้ำพวง ที่ อ.ส่องดาว จ.สกล

เคยได้ยินมาว่า บุญกฐิน เป็นบุญใหญ่ การเดินทางไปทำบุญย่อมมี มารผจญ เห็นจะจริงในทริปนี้ค่ะ เกิดการผจญภัยต่างมิติขึ้น หุหุ เริ่มด้วย แอร์เสีย โอ้ว! มายก๊อดๆ ร้อนโคตรๆ ค่ะ ก็ไม่เป็นไร ตระเวน หาร้านซ่อมแอร์ เพื่อเติมน้ำยาแอร์ (ไปรถโค้ช 2 ชั้น) นัดหลวงพ่อไว้ว่าประมาณ บ่าย 4 โมงครึ่งจะถึงที่หมาย ถึงจริงๆ ปาไป 4 ทุ่ม o_O
พอเจอร้านซ่อมแอร์ เติมน้ำยาแอร์เสร็จ ก็ประมาณ 4 โมงเย็นกว่า ๆ เห็นจะได้ สักพัก เกิดปัญหาอีกแล้วค่ะ ไดชาร์จไม่ทำงาน ไม่ยอม ชาร์จไฟเข้าแบตเตอร์รี่ พังกันไป ก็หาร้าน ซ่อมไดชาร์จกันอีก ถามหาร้านไปตลอดทางเลยกว่าจะเจอร้าน มืดตื้ดตื๋อ ค่ะ อาหารมือเย็นก็ตรงร้านซ่อมไดร์ชาร์จนั้นแหละ โชคดียังมีร้านค้าในนั้น ก็จัดมื้อเย็นกันไป

มื้อเย็น หม่ำอาหารฮ่องเต้ นั้นก็คือ ปลาซาร์ดีนกระป๋อง (ตราปลายิ้มสีส้มอ่ะ) จำชื่อรสชาติไม่ได้ จำได้ว่า หวาน ๆ ต้องถามนายกี้ (เพราะว่าเพื่อนเป็นคนแนะนำของอร่อย) ไม่มีข้าวนะค่ะ กินแต่ขนม กะ ปลากระป๋อง อ๋อมี ลาบปลากระป๋องด้วยนะ อร่อยดี ซ่อมไดชาร์จ

ยังค่ะเรื่องยังไม่จบ เหตุที่ไปถึง 4 ทุ่ม รถโค้ชไม่น่าสามารถขึ้นทางเขาได้เพราะว่า คลัชไหม้ เหตุที่ คลัชไหม้ ก็คือ “หลง” สาเหตุที่หลงก็มาจากความมืดและป้ายบอกทางมองหายากมาก ๆ จริงๆ ขึ้นไป เหมือนจะถึงแล้วนะ ก็ขับรถกลับลงมา ตรงทางแยกที่จะไปที่วัดถ้ำพวงอีก พี่ที่เป็นคนจัดก็เลยโทรไปบอกหลวงพ่อว่า หลงทางและรถโค้ชที่จะขึ้นไปคลัชไหม้ คงจะไปต่อไม่ได้ หลวงพ่อท่านเมตตาก็เลยมารับส่งรถและคนขับ รวมทั้งหลวงพ่อกับพระอีกหนึ่งรูปมารับคณะทอดกฐินเรา ระหว่างรอหลวงพ่อมารับ ก็ลงมารอข้างล่างกัน เพราะว่าอยู่ในรถไม่ไหว เป็นคลัชไหม้มาก ๆ จะเป็นลมเอา พอลงมาข้างล่าง รู้สึกสัมผัสกับธรรมชาติได้สุดๆ รู้สึกดีจัง อากาศตอนสามทุ่มกว่า ๆ ในฤดูหนาว ช่างเย็นสบายอะไรแบบนี้ แต่ว่าคนอื่นเค้าใส่เสื้อกันหนาวกันนะ เราไขมันเยอะ อากาศแบบนั้นกำลังดีเลย (แอบเศร้าในชีวิตไม่เคยได้ใส่เสื้อกันหนาวกับเค้าเลย) -_-‘

ลมหนาวพัดผ่านเบา ๆ พอให้เย็นๆ วิวสองข้างทางมีแต่นากับอ่างเก็บน้ำ ในความมืดเห็นแต่ว่ามีน้ำมันบ่อใหญ่มาก (ตอนเช้าถึงจะได้รู้ว่าแถวๆ นั้นเป็นอ่างเก็บน้ำ แต่ว่า สวยมากๆ เลย) ท้องฟ้าในคืนที่ใกล้จะถึงวันเพ็ญ มีพระจันทร์ ครึ่งดวงอยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับมีดาวในราศีต่าง ๆ ระยิบระยับ สวยงามมาก (ฉันชอบวิวและอากาศตอนนั้นจัง) มันโรแมนติก มาก ๆ ถ้ากงยูอยู่ตรงนี้ด้วยคงจะดีนะ ฮ่ะๆๆๆๆๆ (ไข้ขึ้นเลยเพ้อนิดหน่อยอย่าว่ากันนะ อิอิ)

ตรงสามแยกที่รถจอดนั้น มีบ้านอยู่หลังหนึ่ง เป็นบ้านที่ดูน่าอยู่มาก พอดีปวดฉิ่งฉ่องก็เลยไปขอลุงกับป้าเจ้าของบ้านเข้าห้องน้ำ แกก็ใจดีมาก ลงมาเปิดไฟ เปิดห้องน้ำให้ ขอบคุณมาก ๆ นะค่ะ ไม่งั้นหนูได้ยิงกระต่ายข้างทางแน่ๆ ไม่ใช่ซิ ต้องเรียกว่าเก็บดอกไม้ ถึงจะถูก หุหุ รอสักพักหนึ่ง ก็มีรถสองแถวมารับ ลุงคนขับใจดีมากๆ พอดีมากันเกือบ 40 คน รถไปเที่ยวเดียวก็ไม่หมด ก็ทยอย ใน พวก สว.(สูงวัย) ไปกันก่อน พวก สส.(สาวสวย)อย่างเราก็ต้อรอรอบหลัง รอสักพัก ก็มีรถตำรวจมา เพื่อนฉันเกิดอาการดีใจมากๆ ที่เห็นรถตำรวจ มันรีบวิ่งขึ้นไปเลยค่ะ “ฟู แกจะรีบไปไหนว่ะ” “แหม!! ไฝ่ฝันมาก ๆ เลยนะแก อยากขึ้นรถตำรวจขนาดหนัก” มันบอกว่า “ไฝ่ฝันมานานแหละ” ฮ่ะๆๆๆ อะไรจะดีใจขนาดนั้น วิ่งไปธรรมดาซะที่ไหน มีการยื่นมือให้ตำรวจจับด้วยนะ อารมณ์ประมาณให้ใส่กุญแจมือผมหน่อยครับอะ เป็นเอามากเพื่อนฉัน!!! ก็ให้เพื่อนไปกันก่อนฉันยื่นรอรถเที่ยวสุดท้ายพร้อมกับพี่สาว สุดท้ายก็ไปถึงวัดน่าจะ 4 ทุ่มกว่า ๆ ถ้าจำไม่ผิด ไปถึงก็อาบน้ำ หาข้าวรอบดึกกินแล้วก็นอน หมดไปอีกหนึ่งวัน (เป็นหนึ่งวันที่สนุกมากในชีวิตอีกวันหนึ่ง และก็จะจำวิวอารมณ์ความรู้สึกที่ไปยืนรอรถสองแถวตรงสามแยกนั้นได้อีกนานแสนนาน)
มื้อดึก ก็กินข้าวถาดหลุม ดีใจมากๆๆ ได้กินข้าวถาดหลุม อิอิ ก็เลย กินข้าว 1 ทัพพี + ผัดพริกแกงถั่วฝักยาว + ต้มซุปไก่(เย็นดี)

เล่าวันที่ 9 ต่อเลยแต่ว่า เอาเป็นรายการอาหารอย่างเดียวดีกว่า เดี๋ยวเพื่อน ๆ จะเบื่อซะก่อน หุหุ
วันที่ 9 พ.ย. 51 (ยังอยู่ระหว่างทอดกฐิน)

มื้อเช้า กินข้าวต้มหมูสับ + น้ำ 1 แก้ว

มื้อเที่ยง มีแต่อาหารอร่อยๆ ทั้งนั้น แต่ว่า เราไม่อยากกินหมู ก็เลย กินข้าว 1 ทัพพี , ข้าวเหนียว 1 ปั้นกำมือ + ไข่เจียว + ปลาทูทอด 2 ตัว +กล้วย 1 ลูก อิ่ม มากๆ

มื้อเย็น รีบกลับบ้าน แวะที่เซเว่นซื้อ โบโลน่า จำจำนวนไม่ได้รู้แต่ว่าเยอะ หุหุ เอามากินกับข้าวเหนียว (ชาวบ้านที่วัดขนอาหารมาให้เพียบ) แล้วก็มีลาบปลากระป๋องของเพื่อนกี้ เอาลาบปลากระป๋องมาทากับโบโลน่าแล้วห่อด้วยข้าวเหนียว อร่อยเหาะเลย ซัดไปหลายปั้นมาก อิอิ อิ่ม ก็หลับ จนถึงกรุงเทพประมาณ เกือบ ตีหนึ่ง เหนื่อยเพลียสุดๆ

ลืมบอกไประหว่างนั่งรถก็เม้าท์ ๆๆ กะ กินๆๆๆๆ ขนมอะ เศร้าจัง!!!

จบ.^^
แล้วเจอกันใหม่นะค่ะ
wayoflife
14.13 pm
11/11/08






Create Date : 11 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2551 14:49:51 น. 14 comments
Counter : 529 Pageviews.

 
emo


โดย: อู๋ (ฟ้าสีส้ม ) วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:41:16 น.  

 
โห้...คุณพี่สุดสวยค่ะ
กินน้อยไปมั้ยค่ะเนี้ย..อิอิ
(ไอ้มื้อสุดท้ายอ่ะ สุดยอด แค่นึกตามก็อิ่มแล้วอ่ะ 555)


โดย: น้องปุ๊กค่า... IP: 58.9.31.57 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:08:22 น.  

 
ทุกอย่างต้องมีการเริ่มต้นและต้องใช้เวลาค่ะ ถ้ามีความตั้งใจที่แน่วแน่ รับรองสำเร็จ...

ยายหนูก็เพิ่งผ่านขั้นตอนการปั้นกล้ามเนื้อให้ขึ้นรูป โดยเล่นตามซีดี เพราะถูกต้องและเห็นผลเร็วกว่าเราเล่นเอง...ใช้ดัมเบลตามกำลังแขนของเรา เล่นวันละ 60นาที วันเว้นวัน บางครั้งขี้เกียจมากๆความรู้สึกเหมือนไม่อยากไปโรงเรียน แต่พอนึกถึงผลที่จะตามมาก็ทำให้มีแรงฮึดสู้ ฝึกต่อจนสำเร็จ...

ขั้นตอนต่อไปก็เน้นเล่นเป็นส่วนๆค่ะ อยากให้ส่วนไหนใหญ่ก็เล่นหนักๆที่ส่วนนั้น แต่การเล่นเวทนี้ไม่สามารถทำให้ผู้หญิงเรานมใหญ่ได้นะคะ เพราะเต้านมคือไขมันล้วนๆ มีแต่ยิ่งเล่นยิ่งเล็กค่ะ แต่กล้ามเนื้อแผ่นหน้าอกใหญ่แน่นอน ซึ่งไม่ไช่เต้า....สนใจก็ปรึกษาคุรปลาทองซิคะ ขานั้นเขาโปรค่ะ....


โดย: ยายหนูAK วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:19:53 น.  

 
อยากกินขนมด้วย


โดย: pekei วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:07:51 น.  

 
การลดพุงต้องทำควบคู่กันทั้งสร้างกล้ามเนื้อท้องให้แข็งแรง แล้วก็เบิร์นไขมันออก ท่าลดพุงอยู่ในส่วนออกกำลังกายกับปลาทองฯ ครับ


โดย: ปลาทองพุงย้อย วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:53:58 น.  

 
เข้ามาอนุโมทนาสาธุบุญด้วยคนค๊า


โดย: jorjaejaa วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:28:23 น.  

 
อืมมม... เป็นเหมือนกันเลย เวลาออกต่างจังหวัดทีไรกินกระจายยยย

ใครจะไปอดละเนาะ ไปเที่ยวทั้งที อิอิ


โดย: kawa วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:11:56 น.  

 
อนุโมทนาบุญครับคุณเวย์

พรุ่งนี้ผมจะไปยริจาคสิ่งของที่โรงเรียนบ้านหลักปันเช่นกันครับ








โดย: กะก๋า ฮา 3 สายสะพาย (กะว่าก๋า ) วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:51:51 น.  

 
วู้ววว บล๊อคยาวมากมาย ทำเอาขี้เกียจอ่านไปเลย ... แต่ก็อ่านจบแล้วค่ะ 555+
ว่าแต่ ไปถึง 4 ทุ่ม ... ทางวัด เค้าไม่ว่าอะไรเหรอคะ แบบประมาณว่า แพลนเลื่อนหมดอะไรงี้อ่ะค่ะ

สู้ๆนะคะ ... เราจะเพรียว เราจะเพรียว เราจะเพรียว ~~~


โดย: Cype วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:05:31 น.  

 
พี่วารีมาโมทนาสาธุดะงๆสามครั้งค่ะ

สาธุ
สาธุ
สาธุ

ฝันดีนะคะเพื่อนเวย์


โดย: yoja วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:26:33 น.  

 
อุ้มลงไป 10 โลก็จิงค่ะ แต่ยังค้างเติ่งอยู่เรย แง


ปล.ข้าวถาดหลุม โอววว ไม่ได้กินมาเป็นสิบปีแล้น คิดถึงๆๆ ^^

สู้ๆนะค๊า ฮึบๆๆๆ


โดย: Aumbralla วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:53:13 น.  

 
หนุกทั้งบุญ อิ่มทั้งท้อง..แถมได้ผจญหมู่มาร
จำคำพระอาจารย์ทองที่พูดออกไมค์ได้ไหมเพื่อน..

"เอ้า แม่ครัวทำกับข้าวต้อนรับแขกหน่อย"
(อุเหม่!!พระอาจารย์ช่างรู้ใจ0ib'q..
สงสัยหมู่ญาติธรรมจะเก็บอาการกันไม่อยู่)

และประทับใจอัธยาศัยของบรรดาเจ้าบ้านทุกวัดที่ต้อนรับขับสู้เต็มที่
ผมสัมผัสได้ถึงจิตใจอันงดงาม

ไม่ว่าจะมาดึกขนาดไหนก็มีกับข้าวให้ทาน เตรียมที่นอนเครื่องห่มพร้อม

ไม่ว่าจะมาเช้าสาย..เวลาใดก็ยินดีต้อนรับพร้อมอาหารมากมาย
(จนผมพุ้งพรุ้ยกว่าเดิมแล้วก๊าบ)

ไปทำบุญครานี้..สุข..สดชื่นหัวใจจริงๆครับเพื่อนรัก

emoemo

ขอบคุณเพื่อนรักมากมายที่นำพาผมไปสู่ที่ดีๆ พบเจอแต่สิ่งดีๆ
ขออนุโมทนาบุญนี้ด้วยครับ
emoemo


โดย: KyBlueSky วันที่: 12 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:04:21 น.  

 
แก้ผด

0ib'q..==>จริงๆ

พุ้ง ==>พุง

ปล. แอบไปปั่นเม้นที่บ้านผมซะหายเหงาเลยนะคุณเพื่อน
emo


โดย: KyBlueSky วันที่: 12 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:09:42 น.  

 
ไปทำบุญ หอบบุญมาซะเต็มตัวเลยล่ะสิ
ขอให้กุศลผลบุญนั้นจงเกิดกับเจ้าของบล็อคให้สวยวันสวยคืนนะคะ


โดย: Enzember วันที่: 12 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:45:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wayoflife
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]










We should ask ourseves
That !
Why we were born,What we live for,
What is the best thing we should do and
have we do that yet?

--------------------------------
คำสอนของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรทำความผูกพัน
เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง
แม้กระทำความผูกพันและหมายมั่น
ให้สิ่งนั้นกลับมาเป็นปัจจุบัน ก็เป็นไปไม่ได้
ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้นเป็นทุกข์แต่ผู้เดียว
โดยความไม่สมหวังตลอดไป
อนาคตที่ยังมาไม่ถึงนั้น
เป็นสิ่งไม่ควรไปยึดเหนี่ยวเกี่ยวข้องเช่นกัน

อดีตปล่อยไว้ตามอดีต
อนาคตปล่อยไว้ตามกาลของมัน
ปัจจุบันเท่านั้นจะสำเร็จประโยชน์ได้
เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้ ไม่สุดวิสัย

Emo น้องลิง
Emo น้องเพนกวิน
Emo หมูน้อยร่าเริง
X
X
X
New Comments
Friends' blogs
[Add wayoflife's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.