"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
2 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
หม่อมคัทริน ณ พิศณุโลก


หม่อมคัทริน ณ พิศณุโลก มีชื่อเต็มว่า เยกาเทรินา อิวาโนวา เดสนิตสกายา (รัสเซีย: Екатерина Ивановна Десницкая) เป็นพระชายาชาวรัสเซียของ สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ

มีพระโอรสหนึ่งพระองค์ คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์

หม่อมคัทริน (แคทยา) เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2431 ถึงอนิจกรรมเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2503 บิดาชื่ออิวาน สเตปาโนวิช เดสนิตสกี มารดาชื่อ มาเรีย มิลไฮลอฟวา เดสนิตสกี

รัชกาลที่ 6 ได้ทรงพระราชทานนามสกุล ณ พิศณุโลก ซึ่งมีผู้ใช้นามสกุลนี้เพียงท่านเดียว คือ หม่อมคัทริน


ประวัติ
ชีวิตช่วงแรก

คัทริน เดสนิตสกี (Desnitski) เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2431 เป็นลูกสาวของอิวาน สเตปาโนวิช เดสนิตสกี รับราชการในกระทรวงยุติธรรมและได้เป็นประธานผู้พิพากษาสูงสุดของแคว้นลุตซ์ ในเขตยูเครน มียศในราชการพลเรือนเทียบเท่าชั้นพลตรีในไทย

ส่วนมารดาของเธอ มาเรีย มิลไฮลอฟวา เกิดในตระกูล คิชเนียคอฟฟ (Khijniakoff) อันเป็นตระกูลที่มีที่ดินเพื่อหาผลประโยชน์มาหลายชั่วอายุคน ด้วยเหตุที่ทั้งบิดา และมารดาต่างผ่านการสมรสและเป็นหม้ายมาก่อน จึงมีพี่น้องชายหญิงต่างบิดามารดาถึง 7 คน

แต่มีพี่ชายแท้ ๆ เพียงคนเดียวคือ อิวาน อายุห่างกัน 2 ปี ซึ่งได้เข้ารับราชการต่างประเทศและเมื่อปฏิวัติใหญ่เกิดขึ้นในรัสเซีย เป็นเลขานุการเอกอยู่สถานทูตรุสเซีย ณ กรุงปักกิ่ง

พ่อของคัทรินได้เสียตั้งแต่เธออายุได้เดือนเศษ คัทรินจึงอยู่กับแม่ ได้เลี้ยงดูอยู่ที่เมืองเคียฟและได้รับการศึกษาตามสมควรแก่ฐานะ คือมีพี่เลี้ยงเป็นฝรั่งเศสเพื่อสอนภาษาและภายหลังก็ไปโรงเรียน ต่อมาได้เกิดสงครามระหว่างรัสเซียและญี่ปุ่นตอนเธออายุ 16 ปี

ซึ่งเธอได้สูญเสียแม่ไปจากโรคมะเร็ง เธอจึงตัดสินใจแสวงหาโชคและอนาคตที่ดีกว่า โดยการยืมเงินจากลุงมาก้อนหนึ่งไปที่กรุงเซนต์ปีเตอร์ส เบิร์ก ไปอยู่กับพี่ชายอิวานซึ่งเป็นนักเรียนมหาวิทยาลัย และแคทยาได้เรียนเป็นนางพยาบาลสำหรับการรบ มิใช่นางพยาบาลอาชีพธรรมดา

โดยอาศัยอยู่กับลูกพี่ลูกน้องของมารดาเธอคือ น้าโซเฟีย ซึ่งแต่งงานอยู่กับนายแพทย์ที่ชื่อ โบโรดิน จนกระทั่งได้พบกับเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาภ ที่บ้านของนางคราโปวิตซกี ที่เธอมักจัดงานเลี้ยงและเชิญหนุ่ม ๆ สาว ๆ มาเสมอ

ฤดูหนาว พ.ศ. 2447 ต่อ พ.ศ. 2448 เกิดเหตุการณ์ภายในรัสเซีย นำไปสู่ภาวะวิกฤติมากขึ้น แคทยาได้ออกเดินทางไปไซบีเรียในเดือนเมษายน พ.ศ. 2448 โดยเข้าประจำโรงพยาบาลสนาม ทำหน้าที่เป็นพยาบาล ด้วยความสามารถและความขยันขันแข็ง

ในปีต่อมาเธอได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ถึง 3 ตระกูล รวมถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่มีเกียรติสูงอย่างตราเซนต์ยอร์ช ในขณะเดียวกันเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ ซึ่งไม่สามารถขอลาราชการจากโรงเรียนเสนาธิการเพื่อเดินทางไปยังไซบีเรียได้ ยังมีลายพระหัตถ์และโทรเลขส่งถึงเธอเกือบทุกวัน

ต่อมาสงครามก็ได้ยุติลงในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2448 จากสนธิสัญญาปอร์ตสมัต แต่ก็ไม่ทำให้เหตุการณ์ที่เสื่อมทรามดีขึ้นได้ แคทยาเดินทางกลับกรุงเซนต์ปีเตอร์เบอร์กในปีเดียวกันนั้น หลังจากพบปะกับเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ ครั้งแรกหลังที่พระองค์ต้องทนทุกข์ทรมานมานานที่เธอต้องจากไปทำงานที่ไซบีเรีย พระองค์ขอแต่งงานและขอให้เธอติดตามอยู่ที่เมืองไทย


เสกสมรส เจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ

หม่อมคัทรินเสกสมรสกับสมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ที่เมืองคอนสแตนติโนเปิล ตามพิธีการทางศาสนาตามแบบนิกายออร์โธดอกซ์ของรัสเซีย ที่โบสต์เซนต์ทรินิตี บนถนนเปรา โดยมิได้กราบทูลให้พระราชบิดา และจักรพรรดิซาร์ทรงทราบ

เจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานาถเสด็จกลับสยาม เมื่อ พ.ศ. 2449 เมื่อสำเร็จการศึกษา ที่ไม่ได้ทรงกราบทูลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงทราบแต่ประการใด กับได้ทรงพาหม่อมคัทรินฯ กลับเมืองไทยในปีเดียวกันนั้นเอง ในชั้นแรกทรงให้หม่อมคัทรินฯ พักอยู่ที่เมืองสิงคโปร์เป็นการชั่วคราวก่อน

โดยพักกับเอลินา นิโคไลเยฟนา ภรรยาของพระยาสุรยุทธโยธาหาร นายทหารคนสนิทของเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ ส่วนพระองค์ฯ ได้เสด็จกลับกรุงเทพฯ แต่พระองค์เดียว ในไม่นานก็มีข่าวลือมายังกรุงเทพฯ ว่ามี มาดามเดอ พิษณุโลก อยู่ที่สิงคโปร์

เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนารถทราบ ทรงกริ้วเป็นที่สุด และเมื่อข่าวเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้ว พระองค์ฯ ก็จัดให้หม่อมคัทรินฯ เดินทางมายังกรุงเทพฯ

เมื่อหม่อมคัทรินเข้ามาในสยามอย่างไม่ปิดบังอีกว่าเป็นชายา จัดให้พักที่วังปารุสกวันร่วมกัน ในฐานะเจ้าของวังร่วมกันกับพระองค์ แต่ปีทั้งปี หม่อมคัทรินก็แทบจะไม่ได้ย่างเท้าออกจากวัง เว้นแต่ไปนั่งรถยนต์เล่นในตอนค่ำคืน

เธอไม่มีโอกาสเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถอย่างสะใภ้หลวง ทั้งสองพระองค์มิได้ทรงยอมรับเธอ แต่ก็มิได้พระทัยร้ายถึงกับขับไล่ไสส่งหรือยื่นคำขาดให้พระราชโอรสทรงละทิ้งหม่อม

ชีวิตในวังปารุสกวันผ่านไปด้วยความราบรื่น เจ้าฟ้าชายเห็นพระทัยหม่อมคัทริน ก็ทรงทำทุกอย่างที่จะให้เธออยู่อย่างเป็นสุขและสะดวกสบายที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผู้ที่ช่วยเป็นกำลังใจสนับสนุนอีกแรงหนึ่งคือสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ

แคทยาเคารพและมองพระองค์ท่านด้วยความเชื่อมั่นในหลาย ๆ ด้าน และถึงแม้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะไม่ทรงโปรด รับหม่อมคัทรินเป็นสะใภ้หลวง แต่ก็เป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ซึ่งได้ทรงพระราชทานเครื่องเพชรล้ำค่าแก่หม่อมคัทรินอยู่เสมอ

หม่อมคัทรินปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมไทยทั้งในเรื่องกิริยามารยาท การแสดงออกที่สุภาพอ่อนโยนในสายตาชาววังซึ่งเป็นชนชั้นสูง และเรียนรู้ภาษาไทยจนถึงขั้นอ่านออกเขียนได้

ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุติยจุลจอมเกล้าฝ่ายในแด่หม่อมคัทริน ในปลายปี พ.ศ. 2450 หม่อมคัทรินพระชายาของพระองค์ได้ประสูติโอรสเป็นชายพระองค์แรกและพระองค์เดียวคือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์

ความสุขของแคทยาดำเนินต่อไปอยู่หลายปี จนกระทั่งเหตุการณ์ภายนอกเข้ามากระทบเธออย่างหนัก เริ่มด้วยการล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟ ที่ทำให้เจ้านายและขุนนางในรัสเซียต้องหลบลี้หนีภัยการเมืองออกนอกประเทศ ความหวังของแคทยาที่จะได้กลับไปเยี่ยมบ้านเดิมก็จบสิ้นลง

บ้านเกิดเมืองนอนกลายเป็นดินแดนต้องห้ามสำหรับเธอไปเสียแล้ว สิ่งที่ตามมาคือสงครามโลกครั้งที่ 1 พระเจ้าอยู่หัวตัดสินพระทัยประกาศสงครามกับฝ่ายเยอรมัน ผู้นำทางการทหารของสยามก็คือเจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ทรงรับภารกิจด้านนี้ไว้เต็มมืออีกครั้ง ทำให้แคทยาหมดโอกาสจะเดินทางไปแม้แต่ประเทศใดประเทศหนึ่งในยุโรป

ชีวิตสมรสดำเนินมาถึง 12 ปี ใต้ความกดดันเพิ่มขึ้นทีละน้อยในปีหลัง ๆ สุขภาพของแคทยาก็เสื่อมโทรมลง เธอแท้งติดต่อกันถึง 2 ครั้ง ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเดินทางไกล เพื่อรักษาสุขภาพกายและใจให้ดีขึ้น ด้วยการไปเยี่ยมพี่ชายที่อยู่ในปักกิ่ง เลยไปญี่ปุ่นและเดินทางต่อไปถึงแคนาดา

เมื่อไม่มีแคทยาอยู่ด้วย เจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานาถทรงมีเวลาว่างพอจะได้คุ้นเคยกับพระญาติสตรีจากวังอื่น ๆ มากขึ้น คือพระธิดาของพระ องค์ เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ผู้เป็นพระเชษฐาต่างชนนีกันนั่นเอง คือ หม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาศ รพีพัฒน์

ในปี พ.ศ. 2462 แคทยาได้หย่าขาดกับ สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ

หลังการหย่าและการแต่งงานใหม่

หลังแยกทางเดินกับเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถแล้ว นับแต่เธอเดินทางออกจากสยาม แคทยาก็ไปหาพี่ชายที่ปักกิ่ง พักอยู่ด้วยไม่นาน ก็ย้ายไปพำนักอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ เธอกลับไปใช้นามสกุลเดิม

ใช้ชื่อว่า มาดามเดสนิทสกี้ อาศัยค่าเลี้ยงดูเดือนละ 100 ปอนด์อันน้อยนิดที่เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถประทานให้เป็นค่าเลี้ยงดูหลังหย่าร้าง เช่าบ้านเล็ก ๆได้หลังหนึ่ง แล้วใช้ชีวิตตามลำพังด้วยความเข้มแข็งเท่าที่ผู้หญิงสาวตัวคนเดียวจะทำได้

แคทยาไม่ได้ปล่อยชีวิตตัวเองให้หมกมุ่นน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา เธอใช้เวลาให้หมดไปกับการบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคม ด้วยเข้าไปช่วยงานของสมาคมการกุศลของชาวรัสเซียเพื่อช่วยเหลือผู้อพยพ เพราะแคทยาเคยฝึกงานเป็นนางพยาบาลมาก่อน จึงช่วยงานได้มาก ทำให้วัน ๆ ผ่านไปรวดเร็ว

แต่พอกลับมาบ้านในตอนกลางคืน ความเปล่าเปลี่ยวเศร้าหมองก็กลับมาอีกสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว พี่ชายแนะนำว่าหญิงสาวอย่างเธอไม่ควรอยู่คนเดียว จะอันตรายเกินไป ควรมีคนอยู่ด้วยเป็นเพื่อนในบ้าน จะมีรายได้เพิ่มด้วย

เธอก็เลยแบ่งห้องชั้นบนในบ้านให้คนเช่า หนึ่งในคนเช่าห้องชั้นบนเป็นวิศวกรชาวอเมริกันชื่อแฮรี่ คลินตัน สโตน ซึ่งต่อมาเขาขอแต่งงานกับเธอ แต่ว่าแคทยาขอผัดผ่อนคำตอบไว้ก่อน

ต่อมาเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถเสด็จทิวงคต เธอจึงเดินทางกลับมาร่วมงาน พระศพในกรุงเทพมหานคร เมื่อกลับมาเธอพบว่าโอรสของเธออยู่ในความดูแลของ "ทูลกระหม่อมลุง" (รัชกาลที่ 6)

เธอได้รับเงินส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมจากมรดกของเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ ด้วยพระเมตตาของพระเจ้าอยู่หัว แคทยาเดินทางกลับไปแต่งงานกับแฮรี่สโตน แล้วเดินทางไปอเมริกากับเขา ทิ้งอดีตทุกอย่างในสยามให้จบสิ้นไปพร้อมกับการเสด็จทิวงคตของเจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลก

แคทยาเข้ากับชีวิตในอเมริกาไม่ดีนัก ยิ่งกว่านั้นเธอเข้ากับพ่อผัวแม่ผัวอเมริกัน ไม่ได้ ความสุขของเธอมีอย่างเดียวคือได้เดินทางไปอังกฤษ พบโอรสซึ่งย่างเข้าวัยรุ่นหนุ่ม ในที่สุดเธอกับสโตนก็ตัดสินใจอพยพโยกย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่ปารีส

เพื่อจะได้พบพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ซึ่งข้ามจากอังกฤษมาพักด้วยตอนปิดเทอม แคทยาเองก็อบอุ่นจากการได้รวมญาติชาวรัสเซียซึ่งลี้ภัยมาอยู่ในฝรั่งเศสอีกครั้ง แคทยากลับไปอเมริกาในช่วงอังกฤษเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง จนกระทั่งเธอถึงแก่กรรมอย่างสงบ เมื่ออายุ 72 ปี

สู่งานประพันธ์

ทั้งนี้เนื่องจากมีลูกและหลานเป็นนักเขียน จึงมีผู้ถ่ายทอดชีวประวัติ สู่งานประพันธ์ หนังสือที่ให้รายละเอียดของหม่อมคัทรินหรือแคทยาดีที่สุดคือ แคทยาและเจ้าฟ้าสยาม หรือ KATYA & THE PRINCE OF SIAM เขียนโดยสองป้าหลานคือไอลีน ฮันเตอร์ (Eileen Hunter)

พี่สาวของหม่อมเอลิสะเบธชายาของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์และ หม่อมราชวงศ์นริศรา จักรพงษ์ ธิดาคนเดียวของพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์

นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้ยังสร้างความบันดาลใจให้คณะบัลเล่ต์รัสเซียนำไปแสดงบัลเล่ต์ในชื่อเดียวกับหนังสือ Katya and the Prince of Siam "แคทยา และเจ้าฟ้าสยาม" ซึ่งเปิดแสดงรอบปฐมทัศน์ของโลกที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2546


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


สิริสวัสดิ์วุธวาร กมลมานปรีดิ์เขษม ที่มาอ่านค่ะ


Create Date : 02 ธันวาคม 2552
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 19:37:05 น. 0 comments
Counter : 3313 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.