หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล
อริยะโลกที่ 6
"พระธรรมมงคลญาณ" หรือ "หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร" พระราชาคณะชั้นธรรม (ฝ่ายวิปัสสนาธุระ) พระเถระผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาวัย 94 ปี พรรษา 73
ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
มีนามเดิมว่า วิริยังค์ บุณฑีย์กุล เป็นบุตรนางมั่น บุญฑีย์กุล บิดาคือขุนเพ็ญภาษชนารมย์ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 7 ม.ค.2463 ณ สถานีรถไฟปากเพรียว จ.สระบุรี
ต่อมาย้ายมาตั้งหลักฐานที่บ้านใหม่สำโรง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
ช่วงวัยเด็กได้ใช้ชีวิตอย่างเด็กชนบททั่วไป แต่อยู่มาวันหนึ่งขณะอายุ 13 ปี เพื่อนคนหนึ่งได้ชวนให้ไปเป็นเพื่อนเพื่อต่อมนต์ (ท่องบทสวดมนต์) กับพระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ ที่วัดทั้งๆ ที่ใจไม่อยากไปเลยแต่ก็จำใจต้องไป แต่ในระหว่างที่นั่งคอยเพื่อนต่อมนต์อยู่นั้นได้เกิดเหตุอัศจรรย์คือ จิตเกิดสมาธิขึ้นกับตัวเอง ทั้งๆ ที่ยังมิได้มีอาจารย์องค์ใดสอนสมาธิให้มาก่อน นับจากนั้นจึงได้เรียนรู้การทำสมาธิกับพระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ ซึ่งเป็นอาจารย์องค์แรก เป็นต้นมา
กระทั่งอายุ 15 ปี บรรพชาเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2477 ที่วัดสุทธจินดา ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมีพระธรรมฐิติญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์
หลังจากบรรพชาได้เพียง 10 วัน ติดตามพระอาจารย์กงมาออกธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพรเพื่อแสวงหาที่วิเวก เมื่อพบที่สงบก็จะหยุดอยู่เพื่อทำความเพียร แม้บางครั้งอดอาหารกันอยู่หลายวัน
อายุ 21 ปี อุปสมบท เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2484 ที่วัดทรายงาม บ้านหนองบัว อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยมีพระปัญญาพิศาลเถระ (หนู) เจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาทองสุข สุจิตโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ท่านเดินธุดงค์ติดตามพระอาจารย์กงมาไปในที่ต่างๆ อยู่เป็นเวลา 8 ปี กระทั่งวันหนึ่ง พระอาจารย์กงมาก็พาท่านเดินธุดงค์จากจังหวัดจันทบุรีไปยังจังหวัดสกลนคร เพื่อไปพบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และ ณ ที่นั่นเอง ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น และได้รับเลือกให้เป็นผู้อุปัฏฐากอยู่ 4 ปี
ระหว่างนั้นเดินธุดงค์ร่วมกับหลวงปู่มั่น ได้เรียนรู้ธรรมะและการปฏิบัติสมาธิอันลึกซึ้ง อีกทั้งได้จดคำสอนของหลวงปู่มั่นบางตอนไว้ด้วย (ปกติหลวงปู่มั่นจะห้ามผู้ใดจดเด็ดขาด แต่เมื่อได้อ่านให้ท่านฟังในภายหลัง ท่านกลับรับรองว่าใช้ได้ ซึ่งต่อมาหลวงพ่อวิริยังค์ได้เผยแผ่คำสอนแก่สาธารณชนในหนังสือชื่อ "มุตโตทัย")
สำหรับด้านการศึกษานั้น เรียนจบนักธรรมชั้นตรี หลังจากนั้นอุทิศเวลาส่วนใหญ่ไปกับการปฏิบัติกรรมฐาน เดินธุดงค์ตลอดระยะเวลาบรรพชาและอุปสมบท
ท่านทุ่มเทพัฒนาถาวรวัตถุและพัฒนาการศึกษาทุกด้านมาโดยตลอด ที่เห็นประจักษ์เป็นคุณูปการต่างๆ พอจะยกตัวอย่างมาพอสังเขปได้ดังนี้
สร้างวัดในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เช่น พ.ศ.2486 สร้างวัดบ้านห้วยแคน ต.หนองเทียน อ.เมือง จ.สกลนคร พ.ศ.2506 สร้างวัดธรรมมงคล ซึ่งเป็นวัดแรกในกรุงเทพฯ พ.ศ.2512 สร้างวัดผ่องพลอยวิริยาราม และวัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) กรุงเทพมหานคร เป็นต้น
สร้างโรงพยาบาลจอมทอง สร้างสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ที่จังหวัดนครราชสีมา สร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายที่ 7,000 แห่ง
สร้างวัดไทยในประเทศแคนาดา 7 แห่ง
ที่สำคัญคือ ได้สร้างสถาบันพลังจิตตานุภาพ (ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดธรรมมงคล) เพื่อเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่วิชาสมาธิทั้งในประเทศไทยและประเทศแคนาดา เริ่มเปิดดำเนินการสอนสมาธิมาตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2540 เป็นต้นมา ปัจจุบันหลักสูตรการปฏิบัติสมาธิของสถาบันพลังจิตตานุภาพ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักสูตรครูสมาธิ) ได้รับความนิยมและมีผู้สนใจมาสมัครเข้าเรียนเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบัน สถาบันพลังจิตตานุภาพได้มีการขยายสาขาออกไปทั่วประเทศแล้วกว่า 75 สาขา
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2510 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระญาณวิริยาจารย์ (ฝ่ายธรรมยุต) พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชธรรมเจติยาจารย์ (ฝ่ายธรรมยุต)
พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพเจติยาจารย์ (ฝ่ายธรรมยุต)
พ.ศ.2554 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมมงคลญาณ (ฝ่ายธรรมยุต)
หลวงพ่อวิริยังค์เป็นพระเถระผู้ทรงคุณวุฒิ มีคุณธรรมและจริยธรรมเป็นที่ยอมรับของสังคมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
หน้า 27
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ อริยะโลกที่ 6
สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ
Create Date : 10 ธันวาคม 2557 |
Last Update : 10 ธันวาคม 2557 9:39:49 น. |
|
0 comments
|
Counter : 946 Pageviews. |
|
|