พันธุฆาต (genocide) หรือ "การทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์"
พันธุฆาต (genocide) หรือ "การทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์" (รัฐศาสตร์), "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" (ประชากรศาสตร์), "การล้างชาติ" หรือ "การล้างพันธุ์" (นิติศาสตร์) คือ การกระทำอย่างเป็นระบบและไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อทำลายกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มเชื้อชาติ กลุ่มชนในชาติ หรือกลุ่มชนทางศาสนาทั้งกลุ่มหรือส่วนใหญ่
ถึงแม้จะมีผู้ให้นิยามของ "พันธุฆาต" ไว้มากมาย และบางทีก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ทางนิติศาสตร์นั้น สหประชาชาติได้กำหนดนิยามของพฤติการณ์นี้ในข้อ 2 แห่ง
"อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันและการลงโทษอาชญากรรมการล้างชาติ พ.ศ. 2491" (1948 United Nations Convention on the Prevention and Punishment of the Crime of Genocide) ว่า
พันธุฆาต หมายถึง "การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มเชื้อชาติ กลุ่มชนในชาติ หรือกลุ่มชนทางศาสนาทั้งกลุ่มหรือส่วนใหญ่ เป็นต้นว่า ฆ่าสมาชิกของกลุ่ม
กระทำให้สมาชิกของกลุ่มถึงแก่พิกลพิการอย่างหนัก ทางกายภาพหรือจิตภาวะ กระทำโดยไตร่ตรองหรือโดยคาดการณ์ไว้แล้ว เพื่อให้เกิดแก่หรือนำพามาสู่สมาชิกของกลุ่มซึ่งทุกขเวทนา ในสภาพความเป็นอยู่ กระทำโดยมาตรการใด ๆ เพื่อกันมิให้มีการถือกำเนิดของทารกภายในกลุ่ม หรือใช้กำลังนำพาผู้เยาว์ในกลุ่มไปยังอีกกลุ่มหนึ่ง"
โดยในคำปรารภแห่งอนุสัญญาดังกล่าว ว่าได้เกิดกรณีตัวอย่างสำหรับพันธุฆาตขึ้นแล้ว หลายครั้งหลายคราในประวัติศาสตร์โลก แต่ที่จริงแล้วคำว่า "genocide" นั้นเพิ่งได้รับการประดิษฐ์โดยนายราฟาเอล เลมคิน (Raphael Lemkin) นักนิติศาสตร์ลูกครึ่งโปแลนด์และยิว และประชาคมโลกเพิ่งยอมรับนิยามของ "พันธุฆาต" อย่างเป็นทางการภายหลังความหายนะที่นูเรมเบิร์ก
ปัจจุบัน ความผิดฐานกระทำพันธุฆาต เป็นอำนาจหน้าที่ของศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่จะดำเนินกระบวนยุติธรรม แต่ก่อนหน้านี้ระหว่างที่ประชาคมโลก กำลังช่วยกันประดิษฐ์ศาลดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะตุลาการเฉพาะกิจระหว่างประเทศ จนกระทั่งธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2545
นอกจากนี้ นับแต่อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกัน และการลงโทษอาชญากรรมพันธุฆาต พ.ศ. 2491 มีผลใช้บังคับในเดือนมกราคม พ.ศ. 2491 เป็นต้นมา รัฐภาคีแห่งอนุสัญญาฯ ราว ๆ แปดสิบประเทศได้ประกาศใช้ และปรับปรุงกฎหมายภายในเพื่ออนุวัติอนุสัญญาดังกล่าว
และผู้กระทำความผิดฐานพันธุฆาตบางรายก็ได้รับการลงโทษตามเทศบัญญัติก็มี เช่น ศาลเยอรมันได้พิพากษาว่านายนิโกลา จอร์จิก (Nikola Jorgic) กระทำความผิดดังกล่าวจริงตามเทศบัญญัติฉบับหนึ่ง
มีการวิพากษ์วิจารณ์อนุสัญญาดังกล่าวว่า ให้นิยาม "พันธุฆาต" แคบเกินไป โดยมิได้ให้ความคุ้มครองแก่กลุ่มทางการเมืองด้วย นอกจากนี้ การกระทำตามที่อนุสัญญาฯ บัญญัติไว้ว่าเป็นพันธุฆาต ยังไม่เคยได้รับการไต่สวนจากศาลมาก่อนเลย จนกว่าพนักงานอัยการจะได้ยื่นฟ้องเป็นราย ๆ ไป
และยังไม่มีมาตรการเพียงพอที่จะ "กันไว้ดีกว่าแก้" ซึ่งเปรียบเหมือนว่า "วัวหายแล้วจึงค่อยล้อมคอก" กับทั้งยังมีปัญหาในการตีความอนุสัญญาฯ อีกด้วย เช่น ที่ว่า "การกระทำใดเพื่อทำลายทั้งกลุ่มหรือ ส่วนใหญ่" ส่วนใหญ่นี้จะหมายเอาจำนวนเท่าไร เป็นต้น
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สิริสวัสดิ์จันทรวาร สิริมานรมเยศค่ะ
Create Date : 02 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 3 สิงหาคม 2553 1:00:48 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1395 Pageviews. |
|
|
|
|
|