เททอง "พระเจ้ามหาสุทัสสนะ" ประดิษฐานวัดไทยกุสินาราฯ
| ผู้แสวงบุญจะรู้จักเมืองกุสินารา เฉพาะในด้านที่เป็นสถานที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จดับขันธปรินิพพานเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว เมืองนี้ในอดีตยังเคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมีพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพระมหาจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ พระนามว่า "พระเจ้ามหาสุทัสสนะจักรพรรดิราช"
ดังมีปรากฏในพระไตรปิฎก เล่มที่ 10 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 2 ทีฆนิกาย มหาวรรค ที่พระพุทธเจ้าตรัสก่อนเสด็จปรินิพพาน ว่าด้วย "มหาสุทัสสนสูตร" อธิบายว่า พระองค์ประสงค์จะแสดงมหาสุทัสสนสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรที่รวบรวมหลักธรรมสำคัญและความเป็นผู้มีชีวิตอันสมบูรณ์ของพระมหากษัตริย์ (ซึ่งพระพุทธองค์เคยเสวยพระชาติ) นามว่า "พระเจ้ามหาสุทัสสนะจักรพรรดิราช" และทรงครองราชสมบัติ ณ กรุงกุสาวดี อันได้แก่ กรุงกุสินาราในบัดนี้
พระเจ้ามหาสุทัสสนะทรงได้ชื่อว่ามีฤทธิ์ (ความสำเร็จ) 4 ประการคือ เป็นผู้มีพระ รูปงาม เป็นผู้มีพระชนม์ยืนยาว เป็นผู้มีพระโรคาพาธน้อย และเป็นที่รักใคร่ของพราหมณ์ คฤหบดี และประชาชน
พระพุทธองค์จึงทรงโปรดเลือกเมืองกุสินาราให้เป็นสถานที่ปรินิพพาน และถวายพระเพลิง ทำให้เมืองนี้กลายเป็นสังเวชนียสถานที่สำคัญ และ เป็นที่ก่อกำเนิดพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ทั่วโลก
พระครูปลัดคุณวัฒน์ (สมพงศ์ ญาณธีโร) เจ้าอาวาสวัดป่ากุสินาราบรมธาตุสถิตย์ และพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล ในฐานะเลขานุการเจ้าอาวาสวัดไทยกุสินารา เฉลิมราชย์ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งชาติเนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา วันที่ 11-17 พ.ค. 2557 จะมีกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นหลายกิจกรรม รวมถึงพิธีการเททองหล่อพระเจ้ามหาสุทัสสนะจักรพรรดิราช ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันที่ 16 พ.ค. เวลา 16.16 น. เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ประเทศอินเดีย
โครงการดังกล่าว เป็นดำริของ พระเทพโพธิวิเทศ (วีรยุทธ์ วีรยุทโธ) เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา และหัวหน้าพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล ด้วยท่านพิจารณาเห็นว่า ในปัจจุบันผู้แสวงบุญจะรู้จักเมืองกุสินารา เฉพาะในด้านที่เป็นสถานที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว เมืองนี้ในอดีตยังเคยเป็นเมืองที่รุ่งเรือง และมีพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นพระมหาจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ พระนามว่า "พระเจ้ามหาสุทัสสนะจักรพรรดิราช"
พระครูปลัดคุณวัฒน์กล่าวต่อว่า พระเทพโพธิวิเทศพิจารณาเห็นว่า การหล่อรูปประติมากรรมของพระเจ้ามหาสุทัสสนะ และนำไปประดิษฐานที่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ณ ด้านหลังของพระอุโบสถ โดยจะหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก ในขณะที่พระพุทธสยัมภูญาณ พระประธาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ประดิษฐานภายในพระอุโบสถหันพระพักตร์ไปด้านทิศตะวันออก จึงเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของความสูงสุดทั้งทางโลกและทางธรรม
สำหรับประธานเททองในพิธี คือ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ และ พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม เป็นประธานดำเนินงานฝ่ายฆราวาส ทั้งนี้ ได้มีการเจิมแผ่นทองมงคลเพื่อนำมาร่วมหล่อ ในพิธี โดยพระเถรานุเถระ อาทิ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช, สมเด็จพระวันรัต รักษาการเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต, สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม, สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม เป็นต้น
พระเทพโพธิวิเทศกล่าวว่า เนื่องจากพระมหาสุทัสสนะไม่มีใครตั้งรูปขึ้นมาก่อน จึงอาศัยรูปปั้นพระโพธิสัตว์เจ้า ซึ่งมีพระพักตร์และมีพระรูป เป็นองค์ผู้ทรงไว้ซึ่งความเมตตา ศิลปะคันธาระ ได้ภาพและรูปปั้นเป็นตัวอย่าง เมื่อคราวเดินทางไปที่ปากีสถาน ไปพบพระพุทธรูปปางนี้ และพบพระโพธิสัตว์อยู่ที่ปากีสถาน จึงให้มาค้นคว้าเพิ่มเติม จากนั้นให้นายช่างตั้งยกหุ่นจำลองขึ้น จนได้ลักษณะที่สมบูรณ์งดงาม เป็นพระโพธิสัตว์ในความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ คือ ความเป็นราชาของพระราชา
จึงขอชวนเชิญร่วมกันเททองหล่อพระปฏิมาพระเจ้ามหาสุทัสสนะจักรพรรดิราช โดยร่วมบูชาแผ่นทองได้ในราคาแผ่นละ 99 บาท หรือนำเครื่องเงินเครื่องทองมาร่วมหล่อได้ในวันพิธี
ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่พระเมธีวรญาณ โทร.08-1448-6759
หน้า 28
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ
Create Date : 29 เมษายน 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 29 เมษายน 2557 12:52:54 น. |
Counter : 1398 Pageviews. |
|
|
|