วันนี้เราเปลี่ยนแผนกันอีกแล้วค่ะ จากเดิมที่จะไปเที่ยว Bern เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์กัน ก็ต้องเปลี่ยนใจกระทันหัน ด้วยขาเรายังคงเจ็บไม่หาย ถ้ายังฝืนสังขารไปเดินตะลอนเที่ยว ทริป 5 วันที่เหลือที่ Paris เราต้องตายแน่ๆ เพราะเป็นทริปเดินหนักๆทั้ง 5 วัน

เลยตัดสินใจนั่งๆนอนๆอยู่บ้านดีกว่า เผอิญวันนี้ป้าปุ๊กก็ไม่ต้องไปเรียนด้วย เพราะเป็นวันหยุดชดเชยวันแม่ ตอนสายๆป้าปุ๊ก เลยชวนไปกินอาหารไทยเจ้าอร่อยที่ Zurich กัน พอตกลงก็เริ่มออกเดินทางกันเลยค่ะ

วันนี้ก็โดยสารรถไฟเช่นเดิมค่ะ นั่งรถไฟจาก สถานี Duggingen เปลี่ยนรถ 3 ต่อเพื่อไปลงที่สถานี Zürich Flughafen








จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเมล์ต่อค่ะ กว่าจะได้กินของอร่อย ก็ต้องอดทนหน่อย วันนี้มีฝนตกโปรยปรายมาเป็นระยะค่ะ รู้สึกโชคดีที่ไม่ได้ตัดสินใจไป Bern ไม่งั้นคงเซ็งแย่ที่ต้องเจอฝน พอลงจากรถเมล์ก็เดินอีกซักพักก็ถึงร้านอาหารไทยเจ้าอร่อยแล้วค่ะ

พอเข้าไปในร้าน เจอคนนั่งกันเต็มร้านเลยค่ะ เพราะเป็นช่วงเวลาเที่ยงๆพอดี แสดงว่าอาหารเค้าต้องอร่อยแน่ๆ ตอนที่เข้าไปน้ำลายแทบหกแหน่ะค่ะ กลิ่นหอมมากๆ เห็นแล้วอยากกินไปหมด แต่พอเห็นราคาแล้วคูณกลับเป็นเงินไทยก็สะดุ้งเล็กน้อย -_-"

เราสั่งแกงหน่อไม้ราดข้าว ส่วนคุณแฟนกับป้าปุ๊กสั่งก๋วยเตียวน้ำหมูค่ะ พอเค้าเอาอาหารมาเสริฟ ด้วยความอยากกินมาก เลยโซ้ยซะลืมถ่ายรูปค่ะ นึกได้อีกทีก็กินไปหลายคำแล้ว





ขอคอนเฟิร์มว่าอร่อยใช้ได้ สมกับที่ป้าปุ๊กโฆษณาไว้ว่า "อร่อยและไม่แพงค่ะ" (สำหรับคนที่อาศัยอยู่ที่นั่นนะคะ) ถ้าสำหรับเราเองนี่ก็ต้องปาดเหงื่อล่ะค่ะ พออิ่มแล้วก็เรียกเก็บเงินค่ะ ตอนแรกป้าปุ๊กจะเลี้ยง แต่เรากับคุณแฟนไม่ยอม เบ็ดเสร็จ ก๋วยเตี๋ยวน้ำหมู 2 ชาม + ข้าวแกง 1 จาน + น้ำเปล่า เบ็ดเสร็จ 43 CHF ค่ะ ถ้าให้คูณกลับแบบไม่คิดอะไรมากก็แค่ 1,333 บาทเท่านั้นเองค่ะ (ตอนนั้นเรทแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 CHF = 31 บาท)


พอจ่ายเงินก็มีทักทายกันตามประสาคนไทยด้วยกันค่ะ เลยขอถ่ายรูปพี่ๆแม่ครัวมาด้วย





ออกมานอกร้าน ฝนยังตกอยู่เลยค่ะ เลยแวะเข้าห้องน้ำในห้างแถวนั้น น้องเพลงดี๊ด๊ามากมาย... จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถไฟ เพื่อกลับ Basel กันค่ะ





มาถึงสถานีรถไฟ Basel แล้วค่ะ ท้องฟ้าครึ้มมากมาย





เราตัดสินใจกันว่าจะแวะซื้อของฝาก ก่อนที่จะแพ็คกระเป๋าไปปารีส ป้าปุ๊กเลยพานั่งรถรางเข้าไปซื้อของในเมืองค่ะ ดีใจสุดๆที่ได้นั่งรถรางซักที ถ้ามากันเอง 3 คนคงไม่ได้นั่งแน่ๆค่ะ





ข่วงเวลานั้นคนยังไม่เยอะมาก เลยได้นั่งสบายเลยค่ะ





นั่งแป๊บเดียวก็ถึงแล้วค่ะ เดินไปเรื่อยๆมาเจอร้าน Lush เป็นร้านขายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ ไม่ใส่สารกันบูด พวกเครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สบู่ แชมพู จริงๆต้นตำรับ brand นี้น่าจะเป็นของอังกฤษนะคะ ถ้าจำไม่ผิดเลยตัดสินใจแวะซื้อของที่ร้านนี้แหล่ะ ขี้เกียจเดินหาแล้ว พอเข้าไปก็ได้กลิ่นหอมแตะจมูกเลยค่ะ เห็นสินค้าแล้วตระการตามากๆ เลือกแทบไม่ถูกเลยค่ะ








สบู่ที่นี้เค้าจะแบ่งขายตามน้ำหนัก และมีบอกวันหมดอายุด้วยค่ะ เพราะเค้าไม่ได้ใส่สารกันบูด ตอนช็อปของฝาก ช็อปจนลืมนึกไปเลยค่ะ ว่าต้องแพ็คกระเป๋า ไปเที่ยว Paris ต่อด้วย ^_^" ตอนเก็บกระเป๋าเดินทาง แพ็กกันเกือบตายแหน่ะค่ะ เพราะต้องระวังไม่ให้มันเสียหรือละลายด้วย

หลังจากช็อปของฝากเสร็จ เดินเที่ยวอีกนิดหน่อย ก็นั่งรถรางกลับสถานีรถไฟ Basel ค่ะ





พอถึงสถานีรถไฟก็แวะ Migros ซื้อนมกล่องให้น้องเพลงเพิ่ม เพราะนมชงที่เตรียมมาใกล้จะหมดแล้วค่ะ เลยต้องเก็บไว้เผื่อไปชงกินบนเครื่องตอนขากลับแทน

จากนั้นก็ขึ้นรถไฟกลับสถานี Duggingen ค่ะ ตอนที่ลงรถไฟ เห็นท้องฟ้าแล้วเจ็บใจจริงๆ ท้องฟ้าสดใสมาก ผิดกับเมื่อกลางวันเลยค่ะ





พอกลับถึงบ้านก็แพ็กกระเป๋า และเข้าครัวทำอาหารเย็นกันค่ะ วันนี้เรากับป้าปุ๊กลงมือทำต้มยำกุ้ง กับผัดผักเองเลยค่ะ วันนี้กินอาหารไทยเปรมจริงๆ จากนั้นก็ตบท้ายด้วยของหวาน สตรอเบอรี่กับวิปครีมของโปรด





คิดๆแล้วก็ใจหาย 10 วันผ่านไปเร็วมากๆ วันนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่จะต้องอยู่ที่นี่แล้ว เลยอยู่นั่งคุยกับป้าปุ๊กจนดึก

จากนั้นก็รีบเข้านอน พรุ่งนี้ต้องรีบออกจากบ้านแต่เช้า เพราะจะติดรถลุงปีเตอร์ไปลงที่สถานีรถไฟเพื่อขึ้น TGV ไป Paris กันต่อ

ก่อนนอน แฟนเข้ามาขอบคุณที่เราตัดสินใจเปลี่ยนแผน เค้าบอกว่าวันนี้เค้ามีความสุขมากที่ได้เที่ยวกับพี่สาวทั้งวัน เพราะเค้าไม่ได้เที่ยวกับพี่สาวแบบนี้มานานมากแล้ว เราเองก็พลอยมีความสุขที่เห็นเค้ามีความสุขไปด้วย ^_^