เตรียมให้พร้อมก่อนไปเตรียมความพร้อม
อย่างที่แม่นกบอกไว้ อีกแค่เดือนนิดๆ นิ๊งหน่องก็จะต้องไปเป็นเด็กอนุบาลแล้ว แม่นกมั่นใจว่าการเป็นเด็กเนอร์สฯ ก็คงไม่ได้ช่วยให้นิ๊งหน่องสามารถเข้าโรงเรียนได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ก็อาจจะสามารถปรับตัวได้เร็วกว่าเด็กที่ไม่เคยเข้าเนอร์สฯมาก่อน ก็แค่นั้น เพราะสิ่งแวดล้อมทุกอย่าง ทั้งสถานที่ คุณครู เพื่อน ก็เปลี่ยนไปหมด โชคดีหน่อย ที่นิ๊งหน่องยังมี 2 เพื่อนซี้ อย่าง "เสฉวน" และ "น้องไนซ์" ตามมาอยู่ที่โรงเรียนนี้ด้วยกัน แม่นกเอง เริ่มบิวท์อารมณ์นิ๊งหน่องเกี่ยวกับเรื่องการไปโรงเรียนล่วงหน้านี้หลายเดือน เริ่มจากบอกว่านิ๊งหน่องเป็นพี่เด็กโตในเนอร์สฯแล้วน๊า ต่อไปนิ๊งหน่องก็จะต้องไปโรงเรียน ได้ใส่ชุดนักเรียนแล้ว นอกจากนั้น แม่นกก็เอา "บ้านบอล" ในโรงเรียนมาล่อ เพราะนิ๊งหน่องโปรดเล่นบ้านบอลพอสมควร บอกว่า บ้านบอลที่โรงเรียนนิ๊งหน่อง ใหญ่กว่าบ่อบอลที่เนอร์สฯอีกน๊า... อะ มัดใจเด็กชายนิ๊งหน่องไปได้อีก 1 อย่าง รวมถึงเรื่อง "รถตู้" เพราะแม่นกจะต้องให้นิ๊งหน่องนั่งรถตู้โรงเรียนรอบแรกตอนบ่าย 2 โมงครึ่ง มาลงที่สมายเนอร์สฯเหมือนเดิม เพื่อมาทำการบ้าน อาบน้ำ กินข้าวที่นี่ รอเวลาแม่นกมารับตอนเย็นๆอย่างทุกวันนี้ แม่นกลังเลอยู่นาน เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลังจากคิดหลายตลบ ถ้าแม่นกจะไปรับลูกเองที่โรงเรียนตอนเย็น นิ๊งหน่องเลิกเรียนตั้งแต่บ่าย 2 โมงนิดๆ แต่แม่นกเลิกงาน 5 โมง กว่าจะเดินทาง(ฝ่ารถติด)ไปโรงเรียน ก็คงไปรับนิ๊งหน่องได้ใกล้ๆ 6 โมง ซึ่งแทบจะไม่มีเด็กอยู่กันแล้วตอนนั้น เพราะเค้ากลับกันตั้งแต่ 4 โมงครึ่ง (รถตู้รอบ 2) แต่ถ้านิ๊งหน่องนั่งรถตู้มารอแม่นกที่เนอร์สฯ ถึงแม้แม่นกจะติดธุระ มารับนิ๊งหน่องได้ช้า แต่อย่างน้อย นิ๊งหน่องก็ยังได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคยมานาน แถมมีเพื่อนอยู่ด้วยอีกหลายคนแน่ๆ ดีที่นิ๊งหน่องเคยชินกับการเห็นเพื่อนๆลงจากรถตู้ เดินเข้ามาในเนอร์ส ทำให้แม่นกบิวท์อารมณ์นิ๊งหน่องในเรื่องนี้ไม่ยาก แม่นก - นิ๊งหน่องครับ พอไปเรียนอินเตอร์คิดส์แล้ว นิ๊งหน่องก็นั่งรถตู้มาหาครูมลที่เนอร์สฯนะครับ เหมือน อิ่มเอม เหมือนพี่ไออุ่น เหมือนพี่ข้าวตัง เหมือนพี่บอย ได้มั๊ยครับ นิ๊งหน่อง - นิ๊งหน่องอยากนั่งรถตู้ (เออออ แม่นกจะคอยดู๊...อิอิ) บิวท์เรื่องนู้นเรื่องนี้ไปเรื่อย จนตอนนี้ฮีเริ่มร่ำร้อง ถามแม่นกว่า "เมื่อไหร่หน่องจะได้ไป อินเตอคิ๊ด หล่ะแม่" เสร็จตรู 555+ หลังจากบิวท์อารมณ์เรื่องโรงเรียนได้แล้ว คราวนี้ก็ถึงคราวปรับพฤติกรรมบางอย่างของนิ๊งหน่องบ้าง
เรื่องอาบน้ำ ตื่นเช้ามาวันธรรมดา แม่นกไม่เคยอาบน้ำให้นิ๊งหน่องก่อนออกจากบ้านเลย ให้ไปอาบที่เนอร์สฯตลอด แต่ต่อไปนี้ จะไม่อาบก็ไม่ได้แล้ว แม่นกก็เริ่มบิวท์นิ๊งหน่องเรื่องอาบน้ำก่อนออกจากบ้านอีกเหมือนเดิม แม่นก - นิ๊งหน่องครับ เห็นพี่นักเรียนนั่นมั๊ย เค้าอาบน้ำแต่งชุดนักเรียนกันหล่อเลยเนาะ นิ๊งหน่อง - ทำไมอะแม่ แม่นก - อ้าว ก็พี่เค้าเป็นเด็กโตแล้วไงลูก เค้าต้องอาบน้ำ แต่งตัวให้เสร็จเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านนะ เดี๋ยวนิ๊งหน่องจะไปโรงเรียน นิ๊งหน่องก็ต้องให้แม่นกอาบน้ำแต่งตัวให้ก่อนออกจากบ้านนะครับ นิ๊งหน่อง - ได้ ได้ บิวท์ทำนองนี้ไปเรื่อย แต่ยังไม่ลงมือปฏิบัติ 555+ จนประมาณต้นเดือน ก.พ.นี้เอง แม่นกปรับเวลาตื่นนอนตอนเช้าของแม่นกให้เร็วขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่จะได้จัดการธุระตัวเองให้เสร็จก่อนที่นิ๊งหน่องจะตื่น ประมาณเกือบๆ 6 โมง ได้เวลาตื่นนอนของนิ๊งหน่อง แม่นกก็เตรียมเสื้อผ้าวางไว้ก่อนที่จะเดินขึ้นไปค่อยๆปลุกนิ๊งหน่องที่ห้องนอน โชคดีที่นิ๊งหน่องเป็นเด็กที่ไม่ค่อยงอแงเวลาโดนปลุกให้ตื่น หงุดหงิดก็มีบ้างแหล่ะ แต่แม่นกก็รับมือไหว หลอกล่อนิดๆหน่อยๆ เด็กก็หัวเราะร่าได้แล้ว เข้าห้องน้ำ แปรงฟัน อาบน้ำแต่งตัวก่อนออกจากบ้านได้สบายๆ ++ เมื่อก่อน ชุดนอน ++ ++ ตอนนี้ ชุดหล่อ ++ สรุปว่า เรื่องอาบน้ำแต่งตัวก่อนออกจากบ้าน ผ่านฉลุยไปเรียบร้อย
เรื่องมาส่ง & ทานข้าว ขอรวบยอดเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะมันเกี่ยวเนื่องกัน ฮี่ ฮี่ ด้วยความเคยชินจากเนอร์สฯอีกเช่นเคย ที่นิ๊งหน่องจะมากินข้าวเช้าที่เนอร์สฯทุกวัน ทำให้แม่นกไม่เคยต้องเตรียมอาหารเช้าให้นิ๊งหน่อง มาส่ง อยู่ป้อนข้าวจนหมดแล้วแม่นกค่อยไปทำงาน ไม่เคยมีซักทีที่แม่นกมาส่งแล้วจะกลับไปทำงานต่อเลย แม่นกเองขอยอมรับผิดว่าเป็นคนทำให้นิ๊งหน่องติดนิสัยแบบนี้ เพราะทำมาตั้งแต่นิ๊งหน่องเด็กๆ จนถึง ณ บัดนาว แต่กฎระเบียบของโรงเรียนเค้าก็มีแบบนี้ ซึ่งก็แปลว่า ถ้าแม่นกมาส่งนิ๊งหน่องแล้ว แม่นกจะต้องไปทำงานเลย
รวมถึงเรื่องอาหารเช้าด้วย โชคดีที่โรงเรียนมีโครงการอาหารเช้า แต่ก็มีข้อแม้แบบนี้เหมือนกัน ซึ่งแม่นกก็เห็นด้วยนะคะ โรงเรียนต้องมีกฏมีระเบียบที่แน่ชัด ไม่งั้นก็ลำบากในการดูแลถ้าทุกคนทำตามใจฉันกันหมด แม่นกขอยอมรับผิดอีกรอบ ที่ทำให้นิ๊งหน่องไม่ยอมกินข้าวเองตอนเช้าที่มีแม่อยู่ด้วย แม้จะถึงวัยที่ตักข้าวกินเองได้แล้ว นิ๊งหน่องก็ยังไม่ยอมกินเอง แม่นกเคยถามคุณครูว่าแล้วตอนกลางวัน กับตอนเย็น ต้องมีใครป้อนข้าวมั๊ย คุณครูก็จะบอกว่า นิ๊งหน่องสามารถตักข้าวกินเองได้สบายๆ เติมข้าวด้วยซ้ำ จะติดก็ตรงมัวแต่หันซ้ายหันขวาคุยกับเพื่อน เลยทำให้กินเสร็จช้า แต่ก็กินเองได้จนหมด สรุปคือ เป็นเพราะแม่นี่เอง ที่อยู่ด้วยแล้วทำให้นิ๊งหน่องไม่ยอมตักข้าวกินเอง เหอเหอ แม่นกเคยต่อรองนิ๊งหน่องว่าแม่จะป้อนแค่ 3 คำ แล้วแม่ไปทำงานนะ นิ๊งหน่องก็ไม่ยอม ยื้อให้แม่นกอยู่ป้อนจนหมด แม่มานก็ดั๊นใจอ่อน ยอมอยู่ป้อนจนหมดทุกวัน แถมบางวัน ไม่อยากให้แม่ไปเร็ว มานขอเติมข้าวซะอีก ^^" ในที่สุด แม่นกก็ตัดสินใจกับตัวเองอยู่เงียบๆว่า ต้นเดือน มี.ค. แม่นกจะหักดิบนิ๊งหน่องละ มาส่งแล้วแม่นกก็จะไปทำงานเลย ร้องเป็นร้อง เพราะแม่นกต้องการให้นิ๊งหน่องหัดกินเองในตอนเช้าให้ได้ ก่อนที่จะต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมใหม่ ไม่งั้นต้องลำบากแน่ๆ แต่แล้ว นิ๊งหน่องเอง กลับเป็นฝ่ายที่เปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยที่ไม่ทำให้แม่นกต้องลำบากใจและตัวเองก็ไม่ต้องเสียน้ำตา ซัก 2 อาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง อยู่ๆนิ๊งหน่องก็บอกแม่นกว่า "แม่นก เดี๋ยวแม่ไปส่งแล้วหน่องให้แม่ไปทำงานเลย หน่องเป็นเด็กโตแล้ว กินข้าวเองได้ เดี๋ยวตอนเย็นแม่ก็มารับ ไม่ต้องห่วงหรอก" ห๊า... นึกว่าหูฝาด ถามย้ำอีกรอบ "อะไรนะคะ" ฮียังยืนยันประโยคเดิม "หน่องให้แม่ไปทำงานเลย ไม่ต้องป้อนข้าว หน่องเป็นเด็กโตแล้ว เดี๋ยวตอนเย็นแม่ก็มารับ ไม่ต้องห่วงหรอก" กรี๊ดดดด ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังไม่เริ่มโครงการหักดิบ 555+ แล้วนิ๊งหน่องก็ทำได้จริงๆ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ พอแม่นกไปส่ง พาเดินเข้าเนอร์สฯ นิ๊งหน่องก็จะถอดรองเท้า เก็บที่ชั้นวาง แล้วก็เดินตามพี่เลี้ยงเข้าไปข้างในหาเพื่อนๆที่มาถึงกันก่อนหน้านั้นอย่างสงบ นับเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับแม่นก กับการค่อยๆเริ่มปรับเปลี่ยนชีวิตประจำวันของนิ๊งหน่องเพื่อเริ่มต้นรับสิ่งใหม่ๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 1 เดือนข้างหน้านี้ แล้วคอยมาติดตามกันนะคะ ว่าวันแรกของนิ๊งหน่องกับชีวิตเด็กอนุบาล จะเป็นยังไง แม่นกก็รอลุ้นอยู่เหมือนกัน ฮี่ ฮี่ รักนิ๊งหน่องของแม่ที่สุด แม่นก
Free TextEditor
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 6 พฤษภาคม 2552 21:11:01 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1131 Pageviews. |
|
|
ลูกบ้านนี้น่ารักจัง