"The single best way to grow a better brain is through challenging problem solving." -
Eric Jensen (1998), Teaching with the Brain in Mind
Group Blog
Welcome!
ที่ปรึกษา
ชวนคุย ชวนคิด
615231 Thermodynamics I
615301 Numerical Methods
บันทึกการไปสเปน
Lite English
พฤศจิกายน 2549
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
30 พฤศจิกายน 2549
สัมมนาที่สเปน วันที่ 4
สัมมนาที่สเปน วันที่ 3
สัมมนาที่สเปน วันที่ 2
All Blogs
สัมมนาที่สเปน วันที่ 14
สัมมนาที่สเปน วันที่ 13
สัมมนาที่สเปน วันที่ 12
สัมมนาที่สเปน วันที่ 11
สัมมนาที่สเปน วันที่ 10
สัมมนาที่สเปน วันที่ 9
สัมมนาที่สเปน วันที่ 8
สัมมนาที่สเปน วันที่ 7
สัมมนาที่สเปน วันที่ 6
สัมมนาที่สเปน วันที่ 5
สัมมนาที่สเปน วันที่ 4
สัมมนาที่สเปน วันที่ 3
สัมมนาที่สเปน วันที่ 2
สัมมนาที่สเปน วันที่ 1
สัมมนาที่สเปน วันที่ 4
วันพุธที่ 8 พ.ย. 2549
สัมมนาวันที่สามที่ CIEMAT เป็นเรื่องพลังงานลมซึ่งสเปนมีความรู้ดีที่สุดในบรรดาพลังงานหมุนเวียนรูปแบบต่างๆ
ใน EU เยอรมนีผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมเป็นที่หนึ่ง คือ มีกำลังการผลิตประมาณ 19,000 MW สเปนมาเป็นที่สอง คือ มีกำลังการผลิตประมาณ 10,000 MW แค่พลังงานลมจากสองประเทศนี้ก็เลี้ยงประเทศไทยทั้งประเทศได้แล้ว (ประเทศไทยต้องการกำลังไฟฟ้าประมาณ 26,000-27,000 MW) ส่วนประเทศที่มาเป็นที่สาม คือ เดนมาร์ก ทั้งสามประเทศนี้เป็นผู้นำเทคโนโลยีด้านพลังงานลม
แถบที่เป็นย่านพลังงานลมของสเปนจะเป็นแถบครึ่งบนของประเทศ ทั้งฟาร์มกังหันลม ทั้งผู้ผลิต ทั้งสถาบันวิจัย จะอยู่แถบบนทั้งหมด อย่างโรงงานที่เขาจะพาไปดูพรุ่งนี้ก็อยู่ที่เมืองโซเรีย (Soria) ซึ่งอยู่เหนือมาดริดไปประมาณ 500 กิโลเมตร
สิ่งที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งก็คือ ผู้บรรยายคนหนึ่งบอกว่า การสร้างฟาร์มกังหันลมในทะเลทำได้ง่ายกว่าการสร้างบนบก เขาพูดถึงในแง่ของการขนส่งที่ง่ายกว่า ระดับของพื้นที่ติดตั้งที่ไม่สูงๆ ต่ำๆ เหมือนบนบกเพราะราบเรียบไปตามระดับผิวน้ำทะเล และยังมีเทคโนโลยีการก่อสร้างแท่นขุดเจาะน้ำมันรองรับอยู่ ก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจดี บ้านเราซึ่งมีศักยภาพพลังงานลมตามแถบชายทะเลภาคใต้น่าจะลองศึกษาความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ดู
สังเกตจากผู้บรรยายทั้งหมดที่ผ่านมาในแต่ละวัน เขาจะรู้ภาพรวมเหมือนกันหมดว่า นโยบาย เป้าหมาย แผนงาน และกำหนดการ ของงานพลังงานหมุนเวียนในประเทศเขาเป็นอย่างไร แล้วแต่ละคนซึ่งถนัดกันคนละอย่างก็จะรับผิดชอบงานของตัวเองไป เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายรวมขององค์กรหรือของประเทศ ใครที่ถนัดพลังงานลมก็ทำไปเฉพาะด้าน ใครถนัดชีวมวลก็ทำไป ใครถนัดงานประสานงานประสานประโยชน์ก็ทำไป ใครถนัดงานเศรษฐศาสตร์ก็ทำไป
ดูแล้วก็กลับมานึกถึงเมืองไทย มีหน่วยงานหลักๆ ที่ดูแลด้านพลังงานของประเทศ คือ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) หน้าที่คร่าวๆ ก็คือ คนแรกเป็นฝ่ายบุ๋นคอยวางแนวทาง คนหลังเป็นฝ่ายบู๊ที่จะทำให้มันเกิดขึ้น ฟังดูก็น่าจะลงตัวดี แต่ปรากฏว่า แทนที่แต่ละคนจะทำหน้าที่ของตัวเองแล้วประสานงานกับอีกคนหนึ่งให้ดี กลายเป็นว่าทั้งสองคนกลับแข่งกันทำผลงาน บางจังหวะก็ถึงกับแย่งงานกันทำก็มี ฝ่ายบุ๋นก็ลงมาบู๊เอง ฝ่ายบู๊ก็อยากจะมีเอี่ยวในงานบุ๋นด้วย
นี่ยังไม่นับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่เป็นผู้ผลิตพลังงานหลักของประเทศและเป็นแหล่งความรู้เรื่องแหล่งพลังงานชนิดต่างๆ ซึ่งก็มีโครงการต่างๆ เกี่ยวกับพลังงานเป็นของตัวเองอยู่หลายโครงการ กระทรวงอุตสาหกรรมเองก็มีโครงการอนุรักษ์พลังงานในโรงงานซึ่งตัวเองเป็นคนดูแล ไม่รู้จะอีกกี่หน่วยงานที่อยากจะมีเอี่ยวในงานพลังงาน และจริงๆ แล้วก็มีศักยภาพที่จะทำได้ดีด้วย แต่กลายเป็นว่าหาเอกภาพไม่เจอ ต่างคนต่างทำ
อาหารกลางวันวันนี้ มีขนมปังอย่างแข็งกับไวน์แดงเหมือนเดิม จานเรียกน้ำย่อยมีหน้าตาเหมือนลาซานญ่า มีไส้เป็นผักอย่างหนึ่งที่เขาบอกว่าเหมือนแตงกวาแต่ไม่ใช่แตงกวา ดูแล้วไม่เห็นแววแตงกวาแม้แต่น้อย เหมือนผักขมมากกว่าเพียงแต่รสชาติไม่ใช่ จานหลักเป็นอาหารทะเลในน้ำเครื่องแกงขลุกขลิกสีเหลือง ไม่เผ็ด แต่เค็มๆ มันๆ ดี มีปลาชิ้นใหญ่ 2 ชิ้น กับหอยตัวเล็กตัวน้อย และกุ้งอีกสองตัว รสชาติไม่เลว ส่วนของหวานเป็นฟรุ้ตสลัด ไม่มีอะไรแปลก
ส่วนอาหารเย็น เดินไปกินที่ร้านเบอร์เกอร์คิงใกล้ๆ ร้านแม็คโดนัลด์ที่กินวันแรก เพราะเพื่อนเริ่มเบื่อร้าน VIPS แล้ว (ไม่เหมือนกัน เพราะยังไม่เบื่อ ร้านนี้มีอาหารหลากหลาย ยังกินได้อีกหลายวัน)
ขากลับ เดินกลับมาตามถนน ก็เห็นว่ารถติดมากกว่าวันอื่นๆ สงสัยจะเป็นเพราะว่าวันพรุ่งนี้เป็นวันหยุดราชการ คนก็เลยพากันเอารถออกมาเที่ยวกันเหมือนที่เมืองไทย พวกนี้ก็แปลกดี รถข้างหน้าไปไหนไม่ได้ก็กดแตรกันเสียงดังสนั่น ไม่รู้ว่ามันจะช่วยให้รถเคลื่อนไปได้อย่างไร
ผ่านไปสามวันเพิ่งคิดได้ว่า แทนที่จะมานั่งเบื่อว่าทำไมคนสเปนถึงไม่พูดภาษาอังกฤษ ที่จริงต้องคิดว่าที่นี่มันประเทศเขา ทำไมเขาถึงต้องพูดภาษาอังกฤษเพื่อเอาใจใครด้วย (ได้ยินว่าคนฝรั่งเศสเองก็ไม่ชอบพูดภาษาอังกฤษเหมือนกัน สงสัยจะหยิ่งในเชื้อชาติกันน่าดู) เราเสียอีกที่ควรจะหัดเรียนภาษาของเขาเพราะมาอยู่บ้านเขา
หมายเหตุ:
ข้อมูลในบันทึกส่วนตัวนี้ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงอย่างเป็นจริงเป็นจังได้ เพราะมาจากการจดและจำเอาจากการบรรยายของไกด์ท่านต่างๆ และบางส่วนมาจากการคิดเอาเองเสียด้วยซ้ำ ไม่ได้มีการตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งแต่อย่างใด กรุณาอ่านเล่นเพื่อความเพลิดเพลินเท่านั้น...
ป้ายรถเมล์ในเมือง จะมีตัวเลขบอกอุณหภูมิ
และเวลาสลับกันไป
ผมเรียกเอาเองว่า รถครึ่งคัน
พบเห็นได้ทั่วไป
เหมาะกับเมืองที่ถนนเล็ก
และมีซอกเล็กซอยน้อยอย่างมาดริด
กรุงเทพฯ ก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 4 ธันวาคม 2549 8:22:24 น.
10 comments
Counter : 513 Pageviews.
Share
Tweet
hola
สวัสดีค่ะเย้ๆๆมาคนแรกเลยค่ะรถน่ารักมากๆๆๆเลยค่ะเหมือนรถนางเอกใน รหัสลับบันทึกโลกอ่ะคะ น่ารักดี
อิอิ ขอบคุณนะคะที่เอามาฝากจะมาตามทุกรอบเลยค่ะอิอิสวัสดีค่ะพรุ่งนี้ไปเที่ยวไหนดีคะ ขอให้มีความสุขนะคะ
โดย:
oryzaja
วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:14:08:34 น.
ตามมาอ่านทริปสเปนต่อค่ะ ติดใจที่อาจารย์เขียน ได้ความรู้ ความคิด และความเพลิดเพลินสลับกันไป
เยอรมนี สเปน เดนมาร์ก เพิ่งรู้ว่าเขาให้ความสำคัญกับการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลมมากมายขนาดนี้
อยากให้บ้านเรานำสิ่งดีๆ จากประเทศเหล่านี้มาใช้จังเลย แล้วแบ่งงานกันทำเพื่อให้ได้โปรเจคใหญ่ ๆ ที่เกิดประโยชน์กับประเทศจริงๆ
คงต้องหวังพึ่งความรู้ ความสามารถและความคิดจากอาจารย์และทีมงานละค่ะ
ลืมบอกค่ะ ชอบรถครึ่งคันมาก ๆ อูยว์...น่ารัก....น่าใช้
อาจารย์หาข้อมูลมาเขียนหน่อยได้ไหมคะ ยี่ห้อ ราคา เครื่องยนต์ สมรรถนะ
สนใจค่ะ น่าจะเหมาะกับซออู้นะคะ อยากได้ไว้ใช้สักคัน อิ อิ ...สวย.......ชอบใจ.........
โดย:
ซออู้
วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:16:03:21 น.
ลมในทะเล น่าจะแรงจริงๆด้วย มันไม่มีภูเขา ไม่มีต้นไม้ เออ แต่บ้านเรา แดด ก็น่าจะเวิร์ค
เรื่องกิน เขาไม่ค่อยกินเผ็ดกันเนาะ ผลไม้สเปนที่ส่งมาขายเมืองไทย ส่งเข้ามาทางใต้ ผมเห็นมี ผลทับทิม หวานอร่อยดี
โดย:
yyswim
วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:19:14:15 น.
เจ๊ว่า เป็นเพราะ ระบบการศึกษา และ นิสัย "เอาดีเข้าใส่ตัว" ของคนไทยด้วยหรือเปล่าคะ ที่ทำให้การทำงานเป็นทีมเวิร์คของคนไทยไม่ค่อยได้ผล
อีกอย่าง เรามีค่านิยมที่ยึดติดตัวบุคคลมากเกินไปด้วยมั้งคะ
ปล.เจ๊ก็พูดไปตาม สติปัญญาอันน้อยนิดของตัวเอง ผิดถูกอย่างไรให้อภัยด้วยนะคะ
โดย:
นางกอแบกเป้
วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:7:39:28 น.
ยังคิดถึงกันอยู่นะคะ ทะยอยอ่านด้วยความล้าๆ ชอบกล
โดย: ju IP: 125.24.133.116 วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:9:52:59 น.
บรรยากาศดีจัง รถสวยด้วยอ่ะ
แถมได้ความรู้จากอาจารย์ด้านพลังงานลม ด้วยครับ
สุดยอด. . .ครับ
โดย: nong_neth IP: 203.113.67.38 วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:15:19:17 น.
ตามมาวันที่ 4 เรื่องการประสานงา เอ๊ยประสานงานหรือร่วมกันทำงานระหว่างหน่วยงานของบ้านเรา เป็นเรื่องที่เป็นปัญหาจริงค่ะ ทำไมมันยากนักไม่รู้ พองานมันออกมา "ม่ายล่ายหลั่งจาย" ก็โทษว่าการประสานงานระหว่างแต่ละหน่วยไม่ดี อีกอย่างงานเมืองไทยขั้นตอนมันเยอะ ยิ่งข้ามหน่วยงานนี่ ยิ่งจัดการลำบาก กว่าหนังสือจะออก กว่าจะจัดประชุม สรุป เริ่มงาน นานมากๆ เลยจัดการ one man shows ดีกว่า แล้วแบบว่าบ้านเราเห่อเป็นช่วงๆ จะมีหัวข้อ hot hit ทำวิจัยกันทั้งประเทศ ใครๆ ก็ทำเรื่องเดียวกัน เลยแข่งกัน มากกว่าจะร่วมมือกัน บ่นพอแล้วไปเมาท์เรื่องการจัดการพลังงานต่อดีกว่า
เรื่องใช้พลังงานลม อาทิตย์และการดูแลสิ่งแวดล้อมนี้น่าสนใจมากๆ เท่าที่ปัญญาหางอึ่งรู้มาและประสบการณ์การใช้ชีวิตในด๋อยแลนด์ ดิฉันรู้สึกประทับใจมากที่ในด๋อยแลนด์เขาตื่นตัวกันเรื่องนี้ มีการแยกขยะ แก้วสีต่างๆ กระดาษ ขยะชีวภาพ พลาสติก และส่วนที่เหลือ มีการรีไซเคิล ลดปริมาณขยะพลาสติกด้วยการมี refund ขวดน้ำพลาสติก (เป็นปัญหาของดิฉันเหมือนกัน เพราะบางทีจำไม่ได้ ว่าซื้อมาจากร้านไหน) คนไปจ่ายตลาดจะถือถุงผ้าไป ถือตระกร้าไม้ไป เพราะไม่มีถุงพลาสติกบริการฟรีเหมือนบ้านเรา อยากได้ต้องซื้อ ผู้ชายถ้ากลัวว่าจะดูไม่แมน เขาก็สะพายเป้ ขนาดชัวิตนี้มันมีหน้าหนาวมากกว่าหน้าร้อน พี่แกยังพยายามใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เจอทั่วไปตามตู้บัตรจอดรถ บ้านเราน่าจะลองทำดูบ้างแต่เห็นเพื่อนบอกว่ามันลงทุนสูงและต้องการความสม่ำเสมอของแสงตกกระทบ บ้านเราแดดดีแต่ก็มีเยอะ เลยอาจจะผลิตได้กำลังไมมาก (อันนี้จำขี้ปากคุณเพื่อนมา)
ส่วนรถยนต์ที่นี่ ถ้าใช้เชื้อเพลิงแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็จะเสียภาษีราคาต่ำกว่า คนที่นี่เขาจะใช้รถเล็กๆ อย่างเจ้ารถครึงคันนี่เขาก็ใช้กันเยอะ เห็นเพื่อนเรียกว่า smart car เพราะสะดวก หาที่จอดง่ายประหยัด ถนนในยุโรปเมืองเก่าๆ ก็เป็นถนนปูหินแคบๆ เจ้ารถน้อยมันก็ไปได้สะดวก พูดภาษาเยอรมันก็จะต้องบอกว่า ganz practisch แปลว่า so practical แอบเหล่รถเป็นงานอดิเรกที่ชอบมาก เพราะชอบรถเล็กๆ กระทัดรัด ที่นี่มีเยอะ ทั้งเฟาเว (VW = Volkswagen) โอเปิล เฟี้ยตพุงโต (Fiat punto) ฉะโกดา (skoda) รถญี่ปุ่นก็มีเยอะ นิยมสุดตอนนี้ก็ฮอนด้า แจ๊ดแจ๋ (jazz) บี้กันมาติดๆกะ toyota yaris แต่ที่ดูเพลินที่สุดคือ รถฝรั่งเศสเพราะบ้านเราไม่ค่อยมี ทั้ง ซีตรอง เปอโยต์ที่ชอบที่สุดคือ เรโนลท์ รุ่น clio น่ารักมากๆ ....
แต่ที่ดีทีสุด การคมนาคมขนส่งสาธารณะค่ะ อยากไปไหนก็ไปถึง จะบ้านโคกอีโด่ย โนนหมาบ้ามันก็มีรถพาไปอย่างตรงเวลา ทั้งรถไฟและรถบัส เมื่อไหร่การรถไฟบ้านเราจะได้เท่า ด๋อยบาน (Deutsche Bahn = การรถไฟเยอรมัน) จะตายก่อนได้เห็นไหมเนี่ย
โอ้ มันน์ มาพล่ามเป็นบ้าในบล็อกของท่าอาจารย์แบบกู่ไม่กลับซะแล้วเรา อ่านผ่านๆ ไปแล้วกันนะคะ อย่าใส่ใจมาก วัยทองค่ะ บ่นมากเป็นธรรมดา แล้วจะมาติดตามตอนต่อไปนะคะ
โดย:
O_Sole_mio
วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:17:15:17 น.
สวัสดีตอนค่ำของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า
อยากเขียนคำว่า "รัก" ใส่ท้องฟ้า
เขียนคำว่า "คิดถึง" ต่อเอาไว้
คำที่สามคือคำว่า "ห่วงใย"
ฝากเอาไว้บนฟ้า...ไว้ให้เธอ
ยามใดที่เธอมองบนท้องฟ้า
ไม่ว่าจะวัน..เวลา..ไหน
จะได้เก็บเอาไว้เป็นกำลังใจ
รัก..คิดถึง..ห่วงใย..มีให้เธอ
** มีความสุขกับคนที่คุณรักเสมอนะจ้า **
ชอบรถรุ่นเนี่ยอะจ้า น่ารักดี ไปใหนก็สะดวกอะจ้า
โดย:
จอมแก่นแสนซน
วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:3:24:01 น.
ทุกท่าน...
เดี๋ยวจะหาเวลาแวะไปหาที่บล็อกนะครับ
คุณจุ...
ทำอย่างไรถึงจะส่งหลังไมค์ไปได้ล่ะครับ ปิดทั้งบล็อก ปิดทั้งหลังไมค์เลยแฮะ...
โดย:
คนทับแก้ว
วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:16:21:14 น.
สวัสดีตอนค่ำของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า
ขอแค่คิดถึง เพียงเสี้ยวหนึ่งของหัวใจ
ขอแค่ความห่วงใย ยามที่เราต้องห่างไกลกัน
ขอแค่ความห่วงหา ตลอดเวลาอย่าได้แปรผัน
ขอแค่ความผูกพัน มีให้แก่กันเท่านั้นพอ
** มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงเสมอนะจ้า **
โดย:
จอมแก่นแสนซน
วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:2:23:38 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
คนทับแก้ว
Location :
นครปฐม Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ศิลปิน: เฉลียง
เพลง: หวาน
ชุด: ปรากฏการณ์ฝน
ปี: 2525
Friends' blogs
Liverpool Forever
ซออู้
BigNose
ป้ามด
รำเพย
กุมภีน
POL_US
สาวไกด์ใจซื่อ
Angel Tanya
พ่อน้องโจ
rebel
keyzer
tongdigy
กระจ้อน
Batgirl 2001
คุณย่า
โอน่าจอมซ่าส์
อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ
mungkood
yyswim
erol
นายเบียร์
เฉลียงหน้าบ้าน
grappa
I will see U in the next life.
Star in the Sky
P.Ta
ตงเหลงฉ่า
นางกอแบกเป้
JewNid
นัท305
Tinglish
แพนด้ามหาภัย
bamboolerther
โสมรัศมี
จอมแก่นแสนซน
Malee30
wbj
Petit Patty
เสือจ้ะ
beebah
คนรักน้ำมัน
ShadowServant
O_Sole_mio
oryzaja
เจ้าชายไร้เงา
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ
Johann sebastian Bach
somnumberone
พลอยสีรุ้ง
กะได
คนขับช้า
กระต่ายลงพุง
A_Mong
อาคุงกล่อง
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
ฟ้าดิน
ไม้โทไม้เท้า
kanapo
roundfinger2547
ต่อตระกูล
ยิปซีสีน้ำเงิน
<Strawberry Milk Shake>
ELiiCA
mrs.postman
DAN_KRAB
merveillesxx
nanoguy
บลูยอชท์
กริชครับผม
Webmaster - BlogGang
[Add คนทับแก้ว's blog to your web]
Links
มหาวิทยาลัยศิลปากร
Google
Merriam-Webster Online Dictionary
OneLook Dictionary Search
World Wide Words
Lexitron Dictionary
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
HowStuffWorks
Wikipedia
วิชาการ ดอท คอม
The Radiolive by The Radio
Thosapon
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
สวัสดีค่ะเย้ๆๆมาคนแรกเลยค่ะรถน่ารักมากๆๆๆเลยค่ะเหมือนรถนางเอกใน รหัสลับบันทึกโลกอ่ะคะ น่ารักดี
อิอิ ขอบคุณนะคะที่เอามาฝากจะมาตามทุกรอบเลยค่ะอิอิสวัสดีค่ะพรุ่งนี้ไปเที่ยวไหนดีคะ ขอให้มีความสุขนะคะ