"The single best way to grow a better brain is through challenging problem solving." - Eric Jensen (1998), Teaching with the Brain in Mind
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
30 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
สัมมนาที่สเปน วันที่ 2

วันจันทร์ที่ 6 พ.ย. 2549



เริ่มสัมมนาวันแรก หน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพ คือ CIEMAT เป็นสถาบันวิจัยและพัฒนาด้านพลังงานของสเปน (Research Center in Energy, Environment, and Technology) สังกัดกระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์ (Ministry of Education and Science) ที่ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อว่า Complutense ซึ่งเขาบอกว่าเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่เก่าแก่ที่สุดและเป็นมหาวิทยาลัยหลักของประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดของสเปนอีกด้วยถ้านับจากจำนวนนักศึกษาที่มีมากถึง 97,000 คน ตามที่เจ้าหน้าที่เขาบอก (อีกคนหนึ่งบอกว่ามี 75,000 คน ซึ่งแม้ว่าจะไม่ตรงกันแต่ก็ยังมากอยู่ดี)

วันนี้เป็นการพูดถึงภาพรวมของพลังงานหมุนเวียนของสเปนและสหภาพยุโรป (EU) โดยรวม เพิ่งรู้ว่าสเปนเก่งเรื่องนี้เหมือนกัน เก่งขนาดที่ว่าเป็นประเทศที่มีสัดส่วนในการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนเพื่อผลิตไฟฟ้าติด 1 ใน 5 ของโลก ของเอเชียที่ติดอันดับกับเขาก็คือ จีน ตามมาด้วย ญี่ปุ่น กับ อินเดีย แต่ก็เป็นเฉพาะพลังงานหมุนเวียนบางชนิดเท่านั้น

ที่สเปนเน้นมากๆ ก็จะเป็นพลังงานลม ซึ่งเบียดมาเป็นที่หนึ่งที่สองใน EU แข่งกับเยอรมนี รองลงไปก็จะไปเน้นที่พลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งที่เอามาใช้ในรูปของความร้อน และในรูปของเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้า (PV)

มาเรื่องสภาพอากาศ ช่วงนี้เป็นช่วงเข้าสู่หน้าหนาวซึ่งกลางวันจะสั้นกว่ากลางคืน ยิ่งเป็นที่ที่ละติจูดสูงประมาณ 40 องศาเหนือแบบนี้ (ประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 15 องศาเหนือ) กลางวันก็จะสั้นอย่างเห็นได้ชัด ตอน 8 โมงเช้ายังมืดเหมือนตอน 6 โมงเช้าบ้านเรา พอ 6 โมงเย็นก็เริ่มมืดอีกแล้ว

เห็นเจ้าหน้าที่เขาบอกว่า ที่มาดริดฝนตกติดๆ กันมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว มาเว้นเอาเมื่อวานกับวันนี้นี่เอง แต่พยากรณ์อากาศว่าพรุ่งนี้ฝนจะตกอีก

อุณหภูมิก็อยู่แถวๆ 13-15 C ใส่เสื้อสองชั้นกับแจ็คเก็ตอีกตัวกำลังดี

เรื่องอาหาร มื้อเช้ากินที่โรงแรม เป็นบุฟเฟ่ต์แบบที่เห็นได้ตามโรงแรมบ้านเรา อาหารก็คล้ายๆ กัน พวกไข่ดาว ไข่กวน ไส้กรอก แฮม เบคอน สลัด ฯลฯ ที่ไม่ค่อยเห็นก็จะเป็นพวกขนมปังแข็งๆ แข็งขนาดที่ต้องพึ่งมีดช่วยผ่าออก แล้วก็ชีสหรือเนยแข็งสารพัดชนิดซึ่งไม่รู้จักสักอย่าง ชีสแบบที่เป็นชิ้นแข็งๆ สีเหลืองๆ ก็ยังพอเคยเห็นบ้าง แต่ที่ไม่เคยเห็นเลยก็จะเป็นเนยที่หน้าตาเหมือนเต้าหู้เป๊ะ คือ เป็นชิ้นสีขาว เนื้อนิ่มๆ ใส่ไว้ในชามที่ใส่น้ำแข็งเอาไว้ รสชาติก็แปลกดีเพราะเพิ่งเคยกินครั้งแรก ตอนแรกนึกว่าเป็นเต้าหู้หรือเจลลี่ เลยตักใส่กับฟรุ้ตสลัด ยังคิดในใจว่าสเปนเขามีเต้าฮวยฟรุ้ตสลัดเหมือนบ้านเรา ที่ไหนได้ เต้าหู้กลับกลายเป็นเนย

ส่วนมื้อกลางวัน เขาจัดไว้ในห้องอาหารใกล้ๆ ห้องสัมมนา มีขนมปังชนิดแข็งโป๊ก 1 ชิ้นให้อุ่นเครื่องพร้อมกับไวน์แดง (รสดีเหมือนกัน วิจารณ์บนพื้นฐานของคนที่กินไวน์ไม่เป็น) จานแรกเป็นถั่วที่หน้าตาเหมือนถั่วลันเตาต้มกับมันเทศ นิ่มๆ แต่ยังไม่ถึงกับเละ รสชาติก็กินได้ น่าจะดีต่อระบบทางเดินอาหารซึ่งมักจะมีอาการท้องผูกเล็กน้อยเวลาต้องเดินทางแปลกที่แบบนี้ จานหลักเป็นปลาย่างหนึ่งตัวย่อมๆ กับมันฝรั่งทอด (เฟรนช์ฟราย) จานนี้อร่อยดี ตบท้ายด้วยผลไม้ คือ ส้ม 2 ลูก กับกล้วยหอม 1 ใบ ซึ่งกินส้มไปแค่ลูกเดียวเท่านั้นเพราะอิ่มมากแล้ว

มื้อเย็นไปฝากท้องไว้ที่ร้านที่ชื่อว่า VIPS นัยว่ามีหลายสาขา เป็นร้านอาหารที่เปิดให้ลูกค้าเข้าไปกินได้ตลอดเวลา เพราะเขาบอกว่า ปกติคนสเปนเขาจะกินมื้อเย็น (จริงๆ ควรเรียกว่า มื้อค่ำ) ตอนสามสี่ทุ่ม พวกร้านอาหารต่างๆ อาจจะยังไม่เปิดรับลูกค้าตอน 6 โมงเย็นหรือ 1 ทุ่ม

เรื่องเวลาทำงานและเวลากินของที่นี่ก็แปลกดี ถ้าดูตามโปรแกรมสัมมนา มื้อเช้าจะกินกันประมาณเกือบ 8 โมง เริ่มสัมมนา 9 โมง มีพักกินน้ำชากาแฟตอนใกล้ๆ เที่ยง ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง สัมมนาต่อจนถึงประมาณบ่ายสองค่อยกินมื้อเที่ยง ใช้เวลาสักชั่วโมงครึ่ง (นานดี!) จากนั้นก็สัมมนาต่อตั้งแต่บ่ายสามกว่าๆ จนถึง 5 โมงเย็น

เรื่องอื่นๆ ก็มีเช่น คนสเปนสูบบุหรี่กันเยอะพอสมควรและไม่ค่อยเลือกสถานที่ อย่างตามถนนหนทางก็พอทำเนา แต่ในอาคารหรืออย่างห้องพักโรงแรมเขาก็สูบกันด้วย สูบกันอย่างไม่ต้องสนใจว่าที่นั้นจะมีอากาศถ่ายเทได้สะดวกหรือไม่ แค่ในห้องพักของโรงแรมที่พักอยู่นี้ก็มีที่เขี่ยบุหรี่ 3 อันแล้ว

เต้าเสียบปลั๊กไฟที่นี่เป็นแบบสองรูกลม ไม่มีรูที่สามที่เป็นสายดิน แถมเต้าเสียบบางอันยังทำเป็นหลุมกลมลึกเข้าไปในผนังอีกต่างหาก ปลั๊กไฟที่นี่จะเป็นปลั๊กแบบก้านกลมเท่านั้น เข้าใจว่ายุโรปเขาใช้กันแบบนี้เป็นมาตรฐาน เดือดร้อนต้องเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเพื่อหาซื้อตัวแปลงหัวปลั๊กที่ให้เสียบปลั๊กก้านแบนแล้วออกเป็นปลั๊กก้านกลม เพราะโน้ตบุ๊คที่ใช้อยู่เป็นปลั๊กก้านแบน ตอนที่ซื้อก็ต้องอาศัยภาษามือเยอะหน่อย เพราะเราพูดภาษาอังกฤษกับเขา ส่วนเขาพูดภาษาสเปนกับเรา

สิ่งที่อึดอัดที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องที่คนสเปนไม่พูดภาษาอังกฤษกันเลย ทำให้ไม่รู้ว่าจะไปเดินเที่ยวที่ไหนดี เพราะคุยอะไรกับใครก็ไม่รู้เรื่อง เรื่องที่จะไปดูบ้านเมืองที่แตกต่างก็หมดสนุกไปเลย เพราะถามใครก็คงจะไม่ได้อะไร ต้องไปหาหนังสือมาอ่านเอง ซึ่งก็จนปัญญาในตอนนี้ เพราะอยู่ในระหว่างการสัมมนา



สถานที่ตั้งของ CIEMAT
อยู่ในมหาวิทยาลัย Complutense




ถนนหน้าโรงแรม




ประตูชัยของนายพลฟรังโก้ที่ต้องผ่านทุกวัน




ถนนหนทางในกรุงมาดริด




อีกรูป




อีกรูป




และอีกรูป เรียกชื่อว่าอะไรก็จำไม่ได้แล้ว




Create Date : 30 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2549 18:33:43 น. 9 comments
Counter : 566 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะรีบมาอ่านคนแรด เอ้ย คนแรกเลยค่ะอิอิอิขอบคุณค่ะที่เก็บรูปมาฝากจะมาอ่านอีกเรื่อยๆนะคะ


โดย: oryzaja วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:54:20 น.  

 
ตามมาเก็บความรู้เพิ่มค่ะ ... เรื่องภาษาเป็นปัญหาจริงๆ ค่ะเวลาจะไปไหน ไปไหนนี่ถ้าเจอแบบพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยก็คงจะลำบากเล็กๆ เคยเจอตอนคนข้างๆ ทิ้ง แล้วเราต้องไปสั่งอาหาร โอ้ยยยย ลำบากลำบน ต้องเล่นภาษามือกันจนเมื่อยคะ


โดย: JewNid วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:30:16 น.  

 
เพิ่งจะทราบว่า สเปนก็ผลิตพลังงานจากธรรมชาติมากเบียดๆ กันกะด๋อยแลนด์ ขอบคุณอาจารย์สำหรับ ความรู้ใหม่นะคะ

เรื่องรณรงค์เลิกสูบบุหรี่นี่ ดิฉันว่าบ้านเราดีที่สุด ในยุโรปคนสูบบุหรี่เยอะมาก ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย แม่กะลูกแบ่งกันซึบควันที่ป้ายรถเมล์ ดิฉันยังเคยเจอ คนไม่สูบเองต้องกลายเป็น secondhand smoker ก็ซวยไป

รูปสุดท้ายเป็นที่ Plaza de la indepencia ประตูที่เห็นคือ La puerta de Alcala’

ปล. ไวน์แดงของสเปนก็รสดีจริงค่ะ โดยเฉพาะ Rioja นะคะ ระดับรับรองแขกสัมนาต้องดีอยู่แล้วล่ะค่ะ ส่วนของเยอรมันต้องไวน์ขาวนะคะ (ไม่ได้เป็นผู้รู้ แต่เป็นนางเมรีขี้เมาค่ะ) แล้วจะมาติดตามตอนที่ 3 นะคะ


โดย: ปอกุ (O_Sole_mio ) วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:5:00:09 น.  

 
สวัสดีจ๊าอาจารย์ เพลงเพราะ รูปสวย บรรยายเก่ง
ครบสูตรเลยจ๊า
ขอให้อาจารย์มีความสุขมากๆๆ


โดย: บ้านโคกโจด (my_oom ) วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:8:30:27 น.  

 
พลังงานหมุนเวียนบ้านเรา มีเยอะมั๊ยเนี่ย จากปุ๋ย เห็นว่าทำบางอย่างได้บ้าง

บ้านเมืองของเขาสวยครับ ต้นไม้ที่มองเห็นจากรูป ก็ยังเขียว ที่แปลกมากก็เรื่องช่วงพักเที่ยง กะ มื้อค่ำ แบบนี้ เวลาไปออกกำลังกายกลางแจ้ง ก้อ โฮะโฮะ....

ขอบคุณ ที่ช่วยไปสะกิด ขอช่วยสะกิดอีกนะครับ จะรีบเหาะมาอ่าน


โดย: yyswim วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:9:01:12 น.  

 
ตามมาอ่านครับ สเปนปีหน้ากำลังจะไปเลยราวๆเดือน4เดือน5 ที่นั่นไม่พูดอังกฤษเลยนี้ผมลำบากแหงมๆ


โดย: นายเบียร์ วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:9:17:27 น.  

 
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาอุดหนุน เอ้ย... แวะมาเยี่ยมชมนะครับ

เพิ่งรู้ไม่นานนี่เองว่าอัพบล็อกนี่ เขาเซฟเป็นดราฟท์เอาไว้ได้ก่อน วันไหนเน็ตแรงๆ จะได้อัพขึ้นไปเก็บไว้ก่อน แล้วค่อยๆ ทยอยปล่อยของออกมา


คุณปอกุ...
ขอบคุณที่บอกว่าเป็นประตูอัลคาลานะครับ

ส่วนเรื่องไวน์นี่ แนะนำเหมือนคุณเอ็นริเก้ พ่องานสัมมนาเลย เขาบอกว่าให้ดูว่ามาจาก Rioja ก็นับว่ารับประกันไปได้พอสมควรแล้วว่ารสชาติไม่ขี้เหร่แน่นอน


โดย: คนทับแก้ว วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:17:00:18 น.  

 
มาดริด เมืองเค้าดูไฮโซๆ เนอะ สมกะที่มีแต่คนดังๆ ไปอยู่


โดย: Malee30 วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:0:30:39 น.  

 
เพิ่งรู้นะคะว่าสเปนเขาพัฒนาด้านพลังงานไปไกล
เคยรู้แต่ว่าเยอรมนีเป็นประเทศพัฒนามากๆ ประเทศหนึ่งของยุโรป
อาจารย์ไปครั้งนี้คิดว่าจะนำความรู้ดีๆ มาพัฒนาบ้านเราให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นนะคะ
ส่วนเรื่องคนสเปนไม่พูดภาษาอังกฤษ เขาคงจะชาตินิยมเหมือนญี่ปุ่นมั้งคะ
คนไทยเรากลมกลืนเก่งกว่า ภาษาไหนมาเรารับได้หมด

นี่รอจะดูวัวกระทิงของสเปนค่ะ เขาว่าดุนัก จริงหรือเปล่าคะอาจารย์


โดย: ซออู้ วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:14:30:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนทับแก้ว
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






ศิลปิน: เฉลียง
เพลง: หวาน
ชุด: ปรากฏการณ์ฝน
ปี: 2525



Friends' blogs
[Add คนทับแก้ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.