สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย (สิ่งทั้งหลายทั้งปวงในโลก มิควรยึดมั่นถือมั่น)

<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
30 กันยายน 2552
 

Daddy's_Death_Acts

...











สวัสดีครับ





หมู่นี้นอกจากเวลาจะตันแล้ว มุขยังตันอีกต่างหาก
เลยไม่มีอะไรมาให้อัพบล็อก
จึงจะลองระบายอารมณ์ไปเรื่อยเปื่อยดู
เสร็จเมื่อไร... อัพเมื่อนั้น อิอิ

อาจจะไม่มีสาระนักนะครับ
(ทำยังกะปกติ บล็อกแกมีสาระนักหนิ )




หมายเหตุ: บล็อกนี้ไม่น่าจะมีคำหยาบ
แต่แนะนำให้ ผู้ปกครอง ตักเตือน บุตรหลานและคนใกล้ชิด
ไม่ให้กระทำพฤติกรรมเยี่ยงที่จะเอ่ยอ้าง
เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของ ผู้ปกครอง เอง








...







ภาษาไทยคำละบล็อก
เพลานี้ขอเสนอคำว่า “พฤติกรรมบิดาอาสัญ”

พฤติกรรมบิดาอาสัญ – (คำนาม)

หมายถึง การกระทำใดๆก็ตามของ บุคคลหนึ่ง
ที่ส่งผลให้บุคคลรอบข้าง ผู้ได้รับรู้รับทราบรับฟัง เกิดส่งจิตปรารถนาอันแรงกล้า
ให้ บุพการี ของ บุคคลหนึ่งนั้น... เสียชีวิต!!!


บางกรณีอาจใช้ มารดาอาสัญ
แต่ด้วยการเปล่งเสียง บิดาอาสัญ จะได้อารมณ์กว่า
และมักจะไม่นิยมใช้คู่กันทั้ง บิดา+มารดา เป็น บิดามารดาอาสัญ
บล็อกนี้จึงจะใช้ บิดาอาสัญ ละกัน







...







ณ โอกาสบัดนี้
นัท-คุง ก็จะขอยกตัวอย่าง พฤติกรรมบิดาอาสัญ
มาให้ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ได้รับทราบกันสัก 3 ลำดับก่อน
เพื่อประกอบกับ คำ ที่ยกมาแจงความหมาย
และเพื่อการเรียนรู้ถึงความโหดร้ายของโลกใบน้อย



ส่วนจะมีลำดับอื่นๆตามมาอีกหรือไม่
อันนี้ก็ไม่ทราบได้ครับ แล้วแต่ชีวิตจะไปเจอะเจออะไรมาอีก
แม้จะหวังเป็นที่ยิ่งเสมอว่าจะไม่ได้เจอะไอ้พวกนี้... ไอ้พวกบิดาอาสัญ!







...








1. แซงคิว

พฤติกรรมนี้เจอมาสดๆร้อนๆมิช้ามินาน ตอนกลับบ้านหลังเลิกงาน
คือ นัท-คุง มีปกติกลับบ้านด้วยการโดยสาร รถบีทีเอส + รถตู้
ซึ่งก็ต้องข้องเกี่ยวกับ การเข้าคิว อยู่เนืองๆบ่อยๆประจำๆ
ในที่นี้จะขอโฟกัสไปที่ คิวรถตู้ อันหมาดๆละกันครับ เพื่อความสดใหม่


(นัท-คุง จะพยายามบรรยายให้เห็นภาพละกันนะครับ
(ค่อนข้างยาวเอาการเสียด้วย )


คิวรถตู้ ที่ นัท-คุง ไปใช้บริการกลับบ้านนี่วางตัวอยู่ริมถนนแห่งหนึ่ง ณ บริเวณ
สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแห่งหนึ่งใน ฝั่งธนบุรี
ซึ่งเป็นปกติของ คิวรถตู้ระยะทางไกลในชั่วโมงเร่งด่วน
ที่จะมีลักษณะเด่นคือ คนตรึม และรอรถสักพักใหญ่

โดยในอาณาที่คนยืนรอรถตู้กันเนี่ย มันค่อนข้างแคบอยู่
เพราะมันไม่ใช่ที่ที่จัดไว้ให้รอรถ ก็ต้องยืนแถวรอกันไปแบบตามมีตามเกิด
แต่เป็นแถวให้รู้กันชัดๆว่าใครอยู่แถวไหน? ใครมาก่อน?
และด้วย ลักษณะถนน มันแบ่งออกเป็น “เลนใน” กับ “เลนนอก”
คล้ายๆกับ ถนนวิภาวดีรังสิต ประมาณนั้น
แต่ถนนเส้นที่ นัท-คุง เอ่ยถึงนี่จะแคบกว่าและจัดว่ารถน้อยกว่า

ในวันเกิดเหตุการณ์นั้น ผู้จัดการคิวรถตู้ ก็ได้แบ่งแถวคิวออกเป็นสองส่วน
คือแถวที่อยู่ริมถนนเลนนอก (เลนที่ติดกับอาคารของฝั่งนั้นๆ) กับ
แถวที่อยู่ริมถนนเลนใน (เลนที่อยู่ถัดมา)

โดยจัดให้ ผู้โดยสารที่ใช้บริการที่เป็นคิวของ รถคันที่ 1 และ 2 ที่กำลังจะมา
(ส่วนจะอีกนานช้าเท่าไรอันนี้ ไม่สามารถทราบได้)
ยืนรอแถวอยู่ริมถนนเลนใน
ส่วน ผู้โดยสารที่ใช้บริการเป็นคิวถัดๆไปนั้น
ยืนรอแถวอยู่ริมถนนเลนนอก
พอ แถวคิวเลนใน ขึ้นรถไปแล้ว
ก็ค่อยขยับ แถวคิวเลนนอก ไปเป็น แถวคิวเลนใน ต่อไป

และ สะพานลอย ที่เชื่อมกันกับ สถานีรถบีทีเอส นั้น
มีบันไดทางลงที่สามารถเลือกลงไปยัง ทางเท้า
ของทั้ง ถนนเลนนอก และ ถนนเลนใน ได้

และ (อีกเช่นกัน) ที่โดยปกติ แถวของคิวรถ
ก็อาจจะอยู่ที่ ริมถนนเลนนอก หรือ ริมถนนเลนใน ฝั่งใดฝั่งหนึ่งฝั่งเดียว
จึงอาจจะมี ผู้โดยสารผู้ใช้บริการบางคน นึกไปว่า
แถวคิวที่อยู่ริมถนนเลนนอก เป็นแถวหลักที่ควรจะมาต่อคิว
แต่เมื่อพบว่าต้องไปยืนต่อคิวใน แถวคิวริมถนนเลนใน
เขาเหล่านั้นก็ไปต่อคิวที่ถูกที่ควรแต่โดยดี

ยกเว้น ชนเผ่าบิดาอาสัญ สองรายที่ นัท-คุง กำลังจะเอ่ยถึง



อันดับแรก เพศหญิง อายุประมาณ 50 เศษ
ขอเรียกว่า หญิงบิดาอาสัญ

ทำมั่วนิ่มเดินมาคุยกะ ผู้ช่วยผู้จัดการคิวรถตู้ ที่ดูเชิงอยู่ ริมถนนเลนนอก
“อ่าว มีสองแถว (ฝั่ง) เหรอ? แล้วต้องไปรอแถวข้างหลังเหรอ?”
“ขอรอตรงนี้ละกันนะ” ก่อนจะนั่งแหมะที่ ม้านั่ง แถวนั้น
(ในบริเวณแถวคิว มี ม้านั่ง ของ กทม. อยู่แห่งละหนึ่ง
(ซึ่งปกติ ผู้โดยสารฯ ก็จะยืนรอ ไม่มีใครไปนั่งที่ ม้านั่ง
(เว้นแต่ สตรีมีครรภ์)

ผช.ผจก. ก็ทำท่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ถ้าให้ นัท-คุง เดา เขาคงคิดในใจประมาณว่า
“เมออ้าง! คุณคนนี้ด้อยปัญญาอ่ะ มาทีหลังแล้วมาแซงคนอื่นได้ไงฟะ?
“แต่คุณคนนี้ดันแก่กว่ามารดาเราอีก ทำเป็นลืมๆมันไปละกัน”

ก่อนที่ หญิงบิดาอาสัญ จะทำเนียนอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครสนใจโดยสิ้นเชิง
(มีก็แต่แกอ่ะแหละ นัท-คุง ที่เหล่เขาอยู่)
ทำเนียนไปยืนต่อแถวในคิวที่ รถตู้หนึ่งคัน กำลังแล่นเข้ามาหา
แล้วก็ขึ้นไปแบบลอยหน้าลอยตาอย่างนั้น

นัท-คุง พยายามเป็นที่ยิ่งที่จะเมียงมองเอาใบหน้ากับสายตาตัวเอง
หันไปปะกะ หญิงบิดาอาสัญ ผู้นี้
แต่ สายตานัท-คุง อาจจะไม่สร้างความกระดากใจแก่ผู้พบเห็นพอ
เพราะ หญิงบิดาอาสัญ ทำเฉยเมยประมาณว่า...
เรามารอรถตั้งแต่ตีสองแล้วนะ
เรามีสิทธิอันชอบธรรมทั้งหลายทั้งปวงที่จะได้ขึ้นรถก่อน

โดยไม่คำนึงถึงเลยว่า มีผู้คนอีกหลายสิบคนที่มาก่อนหน้า
และมีความมุ่งมาดปรารถนาจะรีบกลับบ้านเหมือนกัน




คนที่สอง เป็นเพศชาย อายุสัก 30 ปลายๆถึง 40 ปี
ขอเรียกเขาว่า ชายบิดาอาสัญ

ชายบิดาอาสัญ เดินมานั่งตรงม้านั่งแล้วก็แหมะลงไปเฉยๆ
พอ ผช.ผจก. เดินมาแจ้งว่า แถวคิวอยู่ด้านหลังริมถนนเลนในนะเอย
ชายบิดาอาสัญ ก็บอกว่า... ไม่เป็นไรครับ ผมขอนั่งตรงนี้ ช้าหน่อยไม่เป็นไร
แล้วก็ยิ้มร่าแบบโปร่งใสไร้มลทิน

โห... แมนมากนะเมอเอิง!!!
คิดบ้างไหมว่ามีคนมาเข้าแถวรอก่อนหน้าหลายสิบคนอ่ะ
แล้วไอ้ช้าหน่อยไม่เป็นไรนี่ เมอเอิงคิดจะไปเสียบแถวไหนไม่ทราบ
ในเมื่อไม่ได้ไปอยู่ในคิวอย่างเป็น กิด-จะ-ลัก-สะ-หนะ

และในเวลาไม่ช้าไม่นาน หลังจากรถตู้หนึ่งคันวิ่งเข้ามารับผู้โดยสาร
ชายบิดาอาสัญ ก็ทำเนียนไปต่อแถวคิวที่อยู่ใกล้ๆกันนั้น
และได้ขึ้นรถตู้ในเวลาอีกไม่ช้านาน เมื่ออีกคันแล่นมา
ทิ้ง ผู้โดยสารในแถวคิวเลนนอก ให้ลอยคอรอคอยต่อไป
ทั้งที่พวกเขาเหล่านั้นมารอรถก่อน ชายบิดาอาสัญ
นับได้ a few of สิบนาที



ขออนุญาต สาดดด...น้ำ แก่ ชายหญิงบิดาอาสัญแซงคิว ทั้งสองมา ณ ที่นี้ครับ







...






2. ถีบเบาะ

พฤติกรรมนี้พบได้บ่อยใน โรงภาพยนตร์ และ รถประจำทาง
ประดาบิดาอาสัญ จะไม่สามารถนั่งเก้าอี้หรือเบาะนั่งได้เหมือน วิญญูชน ทั่วไป
ด้วย สันขวาน ของ ประดาบิดาอาสัญ ที่ไม่เคยคำนึงถึงคนอื่น
จึงมักจะเอาฝ่าเท้าถีบยันพนักพิงของเบาะที่นั่งด้านหน้าอย่างแรง (กรณีโรงภาพยนตร์)
หรือนั่งหลังงอให้ก้นปริ่มๆขอบที่นั่ง แล้วเอาเข่าสองข้างยันเบาะหน้า (กรณีรถประจำทาง)
เพื่อสนอง สันขวาน อันบิ่นทื่อของตัวเอง

โดยมิได้คำนึงถึงว่า เพื่อนผู้เกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน ซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าของพวกเมอเอิง
จะได้รับความไม่สะดวกสบายและบางครั้งเป็นความลำบากเอาเสียเลย
คิดเอาแต่ว่า อูสบายไว้ก่อน คนอื่นช่างหัวมัน

ก็มิเข้าใจเหมือนกันว่า สิ่งใดหล่อหลอม ประดาบิดาอาสัญ มาเช่นนี้
บางครา ผู้นั่งเบาะหน้า สู้อุตส่าห์เหลียวหลังไปเหล่ให้เห็นว่า
“เมอเอิงถีบเบาะอูอยู่ หยุดเหอะนะ อูนั่งไม่สบาย”
ประดาบิดาอาสัญ ก็จะยังคงนิ่งเฉยไม่สนใจ อาจจะคิดในใจไปว่า
“อูทำอะไรผิดฤา? อูอยากนั่งสบายๆเหยียดแข้งขาผิดตรงไหน”



ขออนุญาต สาดดด...น้ำ แก่ ประดาบิดาอาสัญถีบเบาะ มา ณ ที่นี้







...







3. สูบบุหรี่ในที่ชุมชน

การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุของโรคภัยร้ายแรงหลายประการ
ไม่ว่าจะ มะเร็ง หรือโรคถุงลมโป่งพอง
แต่ก็เข้าใจอยู่บ้างว่าบางคนอาจจะเห็นว่า การไม่บั่นทอนชีวิตด้วยบุหรี่
อาจจะทำให้เขาต้องได้ใกล้ชิดกับ บุคคลอันเป็นที่รักของเขา มากเกินไป
เขาอาจรับไม่ได้ และเลือกที่จะลดทอนช่วงเวลาการอยู่ร่วมดังกล่าวลง
อันนั้นก็เป็น สิทธิ อันพึงมีพึงบั่นทอนชีวิตตัวเองของเขา

แต่.. การสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ นั้น
นอกจากจะเป็นการบั่นทอนผู้สูบแล้ว
ควันที่เกิดจากกิจกรรมสูบบุหรี่ดังกล่าวที่ลอยล่องล่องลอยไปทั่วบริเวณ
ยังจะทำร้ายทำลายและบั่นทอน เวลาอันมีค่าของคนอื่น
ที่คนอื่นเหล่านั้นอาจจะสามารถใช้มันสร้างคุณค่าให้กับสังคมโลก
และคนที่รักได้อย่างมหาศาล

พฤติกรรมของ ประดาบิดาอาสัญสูบบุหรี่ในที่ชุมชน จะอยู่ในรูปของ
การไม่สนใจว่า ควันบุหรี่ที่อูสูบอยู่เนี่ย มันจะสามารถลอยไปเข้าจมูกใครได้บ้าง
ก็อูจะสูบอ่ะ ไม่ได้เอาบุหรี่ไปยัดปากใครให้สูบสักหน่อย จะทำไม?!

หลายครั้งที่เราอาจพบ ประดาบิดาอาสัญ ในที่ชุมชน
บนถนนทางเดินแคบๆแค่พอเดินสวนกันได้
ตามสถานที่ท่องเที่ยว ป้ายรถเมล์ ฯลฯ
สูบบุหรี่อย่างสุขสมอารมณ์ที่สามารถย่นเวลาในชีวิตให้เหลือน้อยลง
และคิดว่ามันเป็นสิ่งวิเศษที่ผู้คนรอบข้างน่าจะได้รับมัน
หรือถ้าไม่อยากรับ ก็อย่าสูดมันเข้าไปสิ ใครไปบังคับเมอเอิงล่ะ



ขออนุญาต สาดดด...น้ำ แก่ ประดาบิดาอาสัญสูบบุหรี่ในที่ชุมชน มา ณ ที่นี้







...






พฤติกรรมบิดาอาสัญ ทั้งสามประเภทที่ยกมา
เป็นสิ่งรบกวนจิตใจ ผู้ถูกกระทำทั้งหลายทั้งปวง เหลือแสน

แต่ว่า ... การปล่อยตัวปล่อยใจไปตามแรงเหวี่ยงของการรบกวนดังกล่าว
ด้วย ความโกรธแค้น (อันจะทำให้ใจหมองเศร้าและร้อนรนเอง)
หรือด้วย การตอบโต้กลับอย่างรุนแรง
(อันอาจนำมาซึ่งความสูญเสียของ ผู้ถูกกระทำ เพราะ บิดาอาสัญ อาจพกปืนมา
(ตาต่อตา-ฟันต่อฟัน จะเวิร์กต่อเมื่อเราอยู่เหนือกว่าเท่านั้นแล)
ก็เป็นเรื่องอันไม่บังควร เพื่อสวัสดิภาพของตัวเราเองและผู้เป็นที่รัก

ก็ด้วยความปรารถนาดีนะครับ
นัท-คุง ก็ขอให้คุณความดีที่ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ทุกคนได้กระทำมา
และที่จะกระทำต่อๆไปในอนาคตอันใกล้ไกล
นำพาให้ทุกคนสามารถหลีกหนี ประดาบิดาอาสัญทุกประเภท ให้ไกล
และไกลที่สุดแบบไม่พบเจอให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เพื่อคุณภาพของชีวิตที่ดีมากมายมหาศาลกว่าการปะกับ พวกมาน ครับ









...













-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --











 

Create Date : 30 กันยายน 2552
13 comments
Last Update : 30 กันยายน 2552 11:24:11 น.
Counter : 581 Pageviews.

 
 
 
 
เอิ่ม...บล็อกบิดาอาสัญ (อันนี้ไม่ใช่คำด่า แต่ทวนชื่อบล็อก)

เรื่องแซงคิว เป็นเรื่องที่ทำให้พี่หงุดหงิดอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน บางครั้งถึงกับมีโทสะจริต และอาจแสดงความก้าวร้าวได้ เหอๆ

ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังพออดทนได้อยู่นะ



เรื่องดอกไม้ อะนะ ความแพง-ไม่แพง ก็แล้วแต่แหละ ถ้าถามถึงเหตุอันควร โดยลักษณะสังคมและรายได้ของที่นั่น เขาก็คงคิดว่าสมเหตุสมผลแล้วล่ะมั้งนะ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:12:43:01 น.  

 
 
 
สวัสดีค่ะ ...


พี่เองเจอพวก 1-2 บ่อยเลยคะ .. แรกๆ จำได้ว่า
เป็นพวกเขิลล์อายไม่กล้าบอกเล่า เพราะกลัวจะได้รับ
สายตาพิฆาต ... เนื่องจากยังดูหน้าไม่ด้านพอ
แต่ว่าหลังๆ นี้ด้วยเพราะเจอบ่อยและถ้าเกิดแว๊บตา
มองแบบเตือนแล้วว่า "ฉันรู้นะ" ไปแล้ว 1 รอบ
ถ้าหากว่าหยุดก็โอเคถือว่าเป็นโชคดีของเราเลยนะ
แต่ว่าถ้าส่งสายตาไปแล้วแต่ว่ามันไม่หยุดพฤติกรรม
นั่นล่ะคะ ถึงจะเอ่ยปากกันไป ... พูดดังๆ หน่อย
ให้คนอื่นในละแวกนั้นได้ยินกันด้วยเลยล่ะคะ จะได้อาย
 
 

โดย: JewNid วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:20:27:04 น.  

 
 
 
55555+++ ชอบบล็อคนี้มาก ให้ไปเลย A+++++++++++++

ปกติเห็นดูธรรมะธรรมโม แต่บทจะประชดประชันเหน็บแนมขึ้นมาก็แสบเอาเรื่องเหมือนกันนะครับ เล่นเอาฮาไปหลายหึๆ ทีเดียว

เมื่อก่อนถ้าเจอก็โวยแหลก เดี๋ยวนี้เริ่มใจเย็นขึ้น เพราะเคยโวยวายไปแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นผู้ร้ายซะเอง คนรอบข้างก็ไม่เห็นจะช่วยเราด่าไอ้ตัวปัญหานั่น แถมบางทีคนที่ไปกับเรายังบ่นเราอีกต่างหาก หาว่าทำให้อับอาย...

เห็นด้วยว่าตาต่อตา ฟันต่อฟันมันเวิร์คก็ต่อเมื่อเราเหนือกว่าเท่านั้น
 
 

โดย: แฟนผมฯ IP: 142.103.23.32, 202.134.119.218 วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:15:55:22 น.  

 
 
 
เวลาโดนกับตัวเอง..โกรธมั๊กๆ แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร..นัท คุง เขียนได้เจ็บลึกๆดั..

เป็นไงมั่ง สำบายดีเปล่าอ่ะ
 
 

โดย: Why England วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:18:09:37 น.  

 
 
 
เปลี่ยนเป็นพ่องเมิ..ตายเป็น "ถูบ้อเอ็ง" ก็ได้นะ
ตายเยอะดี 555555555

ปล. ไปงานหนังสือวันไหนไปสะกิดด้วยนะ เผื่อข้อยจิแวะไปโด้ย

ปล2. ให้ป๋าเจียดเงินค่าตัวนังโด้มาช่วยซื้อเลว่ามั้ย?

=)
 
 

โดย: hunjang วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:8:18:57 น.  

 
 
 
...





-- สาวไกด์ใจซื่อ / ไรเหนียะ? มีทวนชื่อบล็อกด้วย

+ อยากเห็นพี่มีโทสะกะ ชายหญิงคู่นั้น จัง
(ล้อเล่นนะครับ อย่ามีโมโหเลยดีก่า ใจหมอง)

+ อ่าครับ คงเป็นอย่างนั้น




-- JewNid / สายตาพิฆาต อิอิ
อ่านแล้วนึกถึงชื่อการ์ตูนที่ว่า เนตรสยบมาร เลยครับ




-- แฟนผมฯ / ยินดีที่เขียนให้พี่ "หึหึ" ได้ครับ หุหุ

+ ซะงั้นนะพี่ แทนที่จะรวมหัวกันเขม่นไอ้พวกนั้น ดันมาเขม่นเราแทน




-- Why England / โกรธบ่อยๆผิวไม่สวยนะครับ อ ิอิ

+ 'บายดีครับผม




-- hunjang / เอิ่มมม... ไม่เก็ทมุขอ่า อารายคือ "ถูบ้อเอ็ง"?

+ น่าจะเป็นช่วง วันปิยะฯ นะค้าบ เจ๊ฮันฯ ว่าไงอ่า?

+ เพิ่งรู้ว่าเป็นคนอีสาน

+ เด็กกะลังโต ไม่ขายหรอก









-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --







 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:16:21:52 น.  

 
 
 
จอมยุทธ์นัทไม่รู้จักถูบ้อเอ็ง "ถล่มบรรพบุรษเจ้า" ได้เยี่ยงไร

=)
 
 

โดย: hunjang วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:16:37:34 น.  

 
 
 
ดีจ้านัท-คุง

เป็นยังไงเอ่ย วันหยุดได้ออกไปดูหนังที่ไหนหรือเปล่า
ช่วงนี้เห็นพี่บลูเค้าไปดูงานเทศกาลเยอะมากจนเวลาที่มีมัน
หดหายไปหมดเลยอ่ะค่ะ ... เสียดายไม่ได้อยู่
เมืองกรุง เรื่องดูหนังก็เลยต้องโหลดมาอย่างเดียวเลย
เอ้อ นี่ล่ะนอ คนอยู่ ตจว. มันแย่ก็ตรงนี้ล่ะคะ
 
 

โดย: JewNid วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:20:24:11 น.  

 
 
 

อ่านไปก็นั่งอมยิ้ม

คนบางคนมีวิธีคิดที่เราไม่เข้าใจมั้งนุทคุง มีคนเคยโทรมาที่ร้านหมอเพื่อ "ล็อกคิว" เวลาพาหมามาตรวจ ราวกับเธอนัดจะพาหมามาวีซ่า ทำไงก็ไม่เข้าใจ แล้วมาถึงตามเวลาด้วยนะ แซงคิวเข้าไปเลย มั่นใจว่าดิฮั้นทำถูก ผลคือคนที่มาก่อนตามปกติเขาก็โวยวาย ป้าแกก็ร้องว่า "โฮ่ยย แล้วตูจะมาก่อนไปเพื่ออะไรค๊าคู้ณณณ" แต่.. เธอผู้นั้นก็หาสะดุ้งไม่

พี่ว่าพูดดังๆ แบบป้าคนที่โดนลัดคิว เป็นการระบายความเครียดได้ด้วยนะ เอิ๊กกกก ไม่งั้นก็เอาหลังดันเบาะกลับไป ทำไมล่ะ ชั้นทำไรผิดเหรอ แล้วทำหน้าเชิ๊บๆๆ

แต่จะว่าไป ทำอย่างนี้เราจะถูกมองว่าเป็นยายขี้วีน จอมเหวี่ยง ทั้งที่จริงเราแค่แสดงออกถึงสิทธิ์เท่าน้านเอง
 
 

โดย: อั๊งอังอา วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:11:45:04 น.  

 
 
 
สวัสดีอีกรอบ

เห็นที่ไปเม้นท์เลยต้องมาถามว่า เล่นฟาร์มวิลล์ด้วยเหรอ?

แอดกันมะ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:18:51:50 น.  

 
 
 
ปากร้ายใช่ย่อยนะคุณนัท-คุงเนี่ย ๕๕๕ แต่ก็แอบเข้าใจอะ เคยอยู่ในโหมดยัวะเพราะเหล่าบิดาอาสัญนี้เหมือนกัน

ขอบคุณที่เอาคลื่นไปแจ้ง พร้อมกับแนะนำช่วงเวลานะคะ เดี๋ยวจะลองเปิดดูค่ะ
 
 

โดย: Kitsunegari วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:0:28:06 น.  

 
 
 
+ อะจ๊ากกกก! เพิ่งรู้ตัวว่าพี่ไม่ได้มาเยือนบล็อกนัท-คุงนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

+ อ้าว! นัท-คุงไม่มีเนื้อหาได้ไงฮับ ก็เห็นไปทริปมาตั้ง ๑๐๘๑๐๐๙ แห่ง แถมดูหนังอีกพะเรอ แล้วก็ร้านกินอีกอ่า

+ เรื่องแซงคิวนี่ ไม่ได้เลยนะครับ เห็นพี่เหมือนหงิมๆ ยังงี้ก็เหอะ ถ้าพี่เห็นต่อหน้าต่อตา พี่จะหลุดปากด่าออกมาตรงนั้นทันทีให้ได้อายกันไปเลย (เหมือนเคยเล่าแล้วว่า เคยทำมาแล้วที่แบงค์ (สีน้ำเงิน ที่ช้าๆ นั่นแหละ) ... ปรากฏว่าหน้าแหก เพราะคนนั้นเค้าเคยอยู่ในคิวก่อนแล้ว แต่ทำอะไรผิดพลาดไม่รู้ จนต้องออกจากคิวไปชั่วคราว ... ก็ใครมานจะไปรู้ฟระ )

+ เรื่องถีบเบาะ พี่เคยเจอแบบตรงกันข้ามอ่ะครับ (เหมือนเคยเล่าแล้ว) คือพี่ไม่ได้ถีบ แต่มันดันหาว่าพี่ถีบ (กรูยังไม่ได้แตะโดนเบาะมรึงเลยด้วยซ้ำ) ... พี่เลยเข้าใจว่าเก้าอี้เก่าๆ ของโรงหนังบางโรงเนี่ย ถ้าตัวเราหรือคนข้างๆ ขยับเขยื้อน มันจะทำให้แกนกลางกระเทือน แล้วเหมือนมีคนมาถีบอยู่ข้างหลังได้

... พี่เลยแก้ปัญหานั้นด้วยการย้ายหนีมันไปอยู่เยื้องๆ ห่างกันสัก 3 เก้าอี้ซะเลย (พอดีเรื่องนั้นไม่มีคน) ... แล้วก็เห็นมันหันกลับมาเตรียมจะด่าอีกรอบ แต่กลับไม่พบใครเพราะพี่ย้ายหนีไปแล้ว สะจายสุดๆ อ่า

+ แต่เคยมีเหมือนกันนะ ที่รู้สึกว่าตัวเองโดนถีบเบาะอยู่ (ไม่รู้โดนจริงหรือเป็นแบบตาคนนั้นที่รู้สึกไปเอง) พี่ก็จะใช้วิธีดันเบาะกลับคืนไปให้เค้ารู้ตัว หรือมากหน่อยก็จะทำหน้าเบือนๆ หันกลับไปเหล่ ประมาณนั้นอ่ะครับ

+ อืม ... เรื่องสูบบุหรี่นี่ ไม่รู้จะทำไงเหมือนกันครับ พวกนั้นก็อ้างว่าเป็นสิทธิ์ของเค้า แค่นี้ก็โดนจำกัดสิทธิ์ไปหลายที่แล้ว พี่ก็เลยถ้าต้องเดินผ่าน ก็จะปิดจมูกเอา (มันเป็นสัญชาตญาณ ยกมือขึ้นมาปิดเอง ไม่ได้แกล้งปิด) แล้วก็รีบจ้ำพรวดๆ ให้พ้นไปอ่ะครับผม

+ เฮ่ออออ ... บางทีการดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับ "คนอื่น" นี่มันก็ยากเย็นเหลือทน ก็ต้องปรับๆ ตัวกันไปให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เราพอทนอยู่ได้ให้มากที่สุดเนอะครับ
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:16:40:43 น.  

 
 
 
...





-- hunjang // เรื่องไรอ่า?




-- JewNid // ก็แลกกันอ่าครับ อยู่ ตจว. ก็ได้อยู่กับธรรมชาติ สดใสๆ
ตอนไปเที่ยว แม่แจ่ม เมื่อเร็วๆนี้ยังแอบอิจฉา (ไม่กล้าอิจฉาโจ่งแจ้ง ) คนที่นั่น
ได้อยู่ในที่ที่วิวสวยๆฟ้าใสๆทุกวัน




-- อั๊งอังอา // โห... คนเรา
จัดเข้ากลุ่ม บิดาอาสัญ เลยดีมั้ยครับ... ผู้หญิงคนนั้น?




-- สาวไกด์ใจซื่อ // ด้วยความยินดีครับ เดี๋ยวหลังไมค์ไปหาพี่เน้อ




-- Kitsunegari // อ๊ะๆ หัวเราะเป็นตัวเลขไทยด้วย




-- บลูยอชท์ // พี่วิน ก็ใช้ "เลขไทย" แฮะ

+ แบงก์สีน้ำเงิน... คุ้นๆนะครับ

+ ช่วงที่ผมไม่ได้เข้าโรงหนังนานๆ เหตุหนึ่งก็เพราะรำคาญเรื่อง ถีบเบาะ อ่าครับ

+ การปรับตัวเป็น Evolution ครับ









-- ขอบคุณที่แ่วะมาครับผม --








 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:10:34:21 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

The Legendary Midfielder
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




...
" เพราะเหตุนี้มี ผลนี้จึงมี, เพราะเหตุนี้เกิด ผลนี้จึงเกิด, เพราะเหตุนี้ดับ ผลนี้จึงดับ
" หากปรารถนาผลอันดี พึงสร้างเหตุสร้างปัจจัยอันดี "


...
" ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ "


...
" ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต
กลับใจจะพบฟากฝั่ง "


...
"หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น
"ทำกรรมดีย่อมได้รับผลของกรรมดี ทำกรรมชั่วก็ย่อมได้รับผลของกรรมชั่ว"



...
"...กฎแห่งกรรมไม่เคยผิดพลาดมาก่อน
"ไม่ว่าเราจะประสบพบกับคราวเคราะห์หนักหนาสาหัสแค่ไหน
"ให้ระลึกไว้ว่านั่นเป็นสิ่งที่สมควรและสาสมแก่เราแล้ว
"เป็นเพราะเราได้สร้างเหตุนั้นๆมาก่อน
"ผลเช่นนี้จึงตามมา..."

[Add The Legendary Midfielder's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com