สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย (สิ่งทั้งหลายทั้งปวงในโลก มิควรยึดมั่นถือมั่น)

<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
9 มิถุนายน 2552
 

nut-kung_handbook

...

















สวัสดีครับ















เมื่อสักหลายเดือนก่อน หรืออาจจะสักต้นๆปี

ที่ พี่โอ๊ต- แฟนผมตัวดำ ผู้เป็นเหมือนกับ "ต้นธาร" แห่งแถ่กสมัครใจนี้กลายๆ

ได้นำ "ตัวตน" ของพี่เขาเองก่อนได้รับการอบรมจากภรรยา (อันนี้ quote ใจความมา )

มาเปิดเผยต่อสาธารณชน ทำให้เกิดเป็นกระแสอันเชี่ยวกราก

และเกิดบล็อก "ตัวตน" เผยแพร่สู่โลกไซเบอร์นับล้านบล็อก





นัท-คุง ซึ่งเห็นน้ำเชี่ยวก็ไม่เอาเรือไปขวาง และนึกอยากจะ "เล่นกะเขาด้วย"

แต่โดนมรสุมรุมเร้าทำให้ เลื่อนไป-เลื่อนมา หลายเพลา

จนเมื่อสักสัปดาห์ก่อน เจียดเวลาว่างๆระหว่างงาน

ค่อยๆเก็บเล็ก ผสมน้อย จนสำเร็จเสร็จสิ้น






ยินดีที่ได้รู้จักกันครับ
















...


















(หมายเหตุ: บล็อกนี้มีแต่ตัวหนังสือ โดยไม่มีภาพประกอบ)













นัท-คุง แฮนด์บุ๊ค




1. นัท-คุง ไม่ดื่มเหล้าและเบียร์โดยสิ้นเชิง
เพราะนอกจากมันจะไม่มีความอร่อยใดๆแล้ว มันยังผิดศีลข้อห้า
ซึ่ง นัท-คุง คิด (เอาเอง) ว่ามันช่างละเว้นได้ง่ายดายที่สุดแล้วในห้าข้ออย่างโต้งๆ



2. นัท-คุง มีสุขภาพร่างกายอ่อนแอโดยธรรมชาติ
และพยายามขวนขวายกระเสือกกระสน (จนบางคราก็ใกล้เคียงกับคำว่า “หักโหม”)
ทำให้สุขภาพดีขึ้นมาหน่อยด้วยการออกกำลังกาย



3. นัท-คุง เชื่อว่า “ผล” เกิดแต่ “เหตุ” ไม่มีอะไรเกิดขึ้นลอยๆหรือบังเอิญเป็นไปเฉยๆ



4. นัท-คุง มักจะคำนึงถึงว่าจะกินอาหารกับใครมากกว่าจะกินอาหารอะไร



5. นัท-คุง ชอบอ่านหนังสือ ชอบดูหนัง และชอบฟังเพลง
แต่ถ้าให้เลือกอย่างเดียวจะเลือก อ่านหนังสือ





6. กระนั้นก็ตาม นัท-คุง ก็คิดหนักถ้าจะต้องเลือก อ่านหน้งสือ กับ ออกกำลังกาย
เพราะมันจำเป็นต่อชีวิตมากๆทั้งคู่



7. นัท-คุง จะซื้อหนังสือ นิตยสาร และการ์ตูน ที่ตัวเองชอบ
และคิดว่าน่าจะชอบมาไว้ก่อน
โดยไม่ได้คำนึงถึงว่าจะได้อ่านมันเมื่อไร



8. นัท-คุง จะรำคาญและหงุดหงิดถ้ามีใครมา ignore ใส่
และถือว่าการ ignore กันเป็นอาชญากรรมประเภทหนึ่ง
เพราะมันทำร้ายจิตใจมากกกกกกก...



9. นัท-คุง เป็นคน Sensitive และ Vulnerable ผิดปกติ โดยเฉพาะกับบางคน
(กำลังพยายามเจือจางมันอยู่เพื่อชีวิตที่มีความสุขสดชื่น)



10. นัท-คุง มีความเชื่อในระดับหนึ่งว่า
ถ้าคนเราไม่คุยกันบ่อยๆแล้วอาจจะทำให้ความสนิทสนมที่มีอยู่จางลงไป






11. นัท-คุง ค่อนข้างเชื่อมั่นในตัวเองระดับหนึ่งว่า
ไม่เคยชวนใครไปทำอะไรยากๆอย่าง
เปิดโต๊ะเจรจากับ UN เพื่อหาที่อยู่อาศัยแก่ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา
บุกไปช่วยผู้ถูกลักพาตัวชาวญี่ปุ่นในเกาหลีเหนือกลับบ้าน
หรือสร้างยานอวกาศไปดาวพลูโตแบบ DIY

และไม่เคยชวนใครแบบขำๆ ชวนไปงั้นๆ หรือว่าไม่ตั้งใจชวน



12. ฉะนั้น ถ้า นัท-คุง ชวนใครไปไหนหรือทำอะไรสักอย่าง
แล้วถูกปฏิเสธสัก 2-3 ครั้ง in a row นัท-คุง ก็จะเลิกชวนบุคคลนั้นๆซะ
จนกว่าจะมีอะไรมาดลใจให้ นัท-คุง ล้างไพ่นับหนึ่งใหม่



13. ที่ผ่านๆมา นัท-คุง มักเอาตัวรอด
และทำตัวเองให้ผ่านพ้นจากปัญหาและอุปสรรคในชีวิต
ด้วยการลงมือแบบ “เอาเท้าเขี่ยๆ” ซึ่งไม่ได้แปลว่าเก่งหรือสามารถอะไรมากมาย
แต่เพราะมักจะมีสิ่งที่เรียกว่า “ทำบุญมาดี” มาช่วยอยู่บ้างเสมอๆ



14. ซึ่งนั่นทำให้ นัท-คุง ติดนิสัยอยู่ในระดับหนึ่งว่า
เอาเท้าเขี่ยๆแล้วก็ผ่านพ้นไปได้
อันเป็นข้อเสียอันร้ายกาจที่ต้องปรับปรุง
เพราะแม้จะทำบุญมาดีแต่มันก็มีวันหมดไปได้



15. นอกจาก ลัคกี้-คุง หมาน้อยที่น่ารักที่สุดในโลก
ที่ นัท-คุง ถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อนรักหนึ่งเดียว
นัท-คุง ไม่ใคร่จะสนใจไปแตะต้องกายาสัตว์อื่นใดทุกประเภทนัก








16. นัท-คุง ค่อนข้างหวั่นกลัวเกรงการถูกปฏิเสธในระดับหนึ่ง
บางครั้งจึงหาทางออกด้วยการไม่ร้องขอ
(ซึ่งนี่คงเป็นปัจจัยหนึ่งในหลายปัจจัยอันเป็นที่มาของ ข้อ 12)



17. บางคนที่มองโลกในแง่ดีมากๆๆๆๆ...
มักจะเข้าใจผิดว่า นัท-คุง นั่นเก่งหรือฉลาด ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่



18. หลังจากไปยืนอ่านหนังสือทำนายบุคลิกจากราศี
ในร้านหนังสือดอกหญ้า สาขาคลองสาน กับเพื่อนๆสมัย ม.ปลาย
และในร้านแพร่พิทยา สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว กับเพื่อนๆสมัย ป.ตรี
เมื่อหลายปีก่อน นัท-คุง ก็เชื่อแบบฝังหุ่นว่า
ตัวเองเป็นมีความสามารถในสาขา “Put the right man on the right job”



19. ความสุขยามค่ำคืนในวัยเด็กของ นัท-คุง คือ
การลงมาเปิดตู้เย็นแล้วหยิบหมูทอดที่กินเหลือแช่ไว้เอามาใส่ปาก
ก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนห้องนอนอีกครั้ง ห่มผ้าแล้วเคี้ยวหมูไปเรื่อย
(มิน่า.. สุขภาพฟันถึง Low แบบนี้!!! )



20. นัท-คุง เคยใฝ่ฝันอยากพบเห็นการซื้อขายยาเสพติด
อันจะทำให้ตัวเองต้องหลบหนีการตามล่าฆ่าปิดปากเอามากๆตอน ม.ปลาย
โดยคิดว่ามันเป็นความตื่นเต้นและมีรสชาติของชีวิต
จึงพยายามเดินกลับบ้านหลังเลิกเรียนโดยใช้เส้นทางบริเวณชุมชนแออัดใกล้ๆโรงเรียน
(คนบ้าไรฟะเนี่ย?!!! )








21. แต่ทุกวันนี้ตระหนักได้ในระดับหนึ่งแล้วว่า
ชีวิตอันแสนสุขแท้จริงนั้นคือชีวิตที่สงบ เรียบง่าย ไม่หวือหวา
และดำเนินไปอย่างสอดคล้องกับธรรมชาติ



22. ตอนเด็กๆ นัท-คุง เป็นพวกขี้เขิน
(ทุกวันนี้ก็ยังเป็นนะ... แต่หน้าด้านขึ้นนิดนึง )
มักจะไม่กล้าแสดงออกหรือเล่นกีฬาในที่ชุมชนที่มีคนมามุง



23. การท่องเที่ยวในอุดมคติของ นัท-คุง
คือการพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันธรรมชาติ



24. นัท-คุง เชื่อว่าความรักที่แท้จริงรับรู้ได้ด้วยใจเท่านั้น
และมันเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้ใครรับรู้ความรู้สึกจริงๆของเราได้
(ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หนังญี่ปุ่นเรื่อง Love Letter มันจี๊ดดดดดดด... )



25. นัท-คุง ไม่ค่อยชอบอยู่ในที่ชุมชนที่มีการเบียดเสียดกันอย่างแรง
ซึ่งทำให้เซ็งรถไฟฟ้าสายสีลม (หลังจากทดลองเดินรถส่วนตัวขยายอีกสองสถานี)
ทุกเช้า-เย็นอย่างจับจิต








26. นัท-คุง มักจะไม่แก้ความเข้าใจผิดของผู้อื่นที่มีต่อตัวเอง
เว้นแต่ความดังกล่าวมันจะโยงใยไปกระทบถึงบุคคลที่สาม
เพราะถือ (เอาเอง) ว่าเข้าใจผิดเองก็ต้องปรับเปลี่ยนความเข้าใจให้มันถูกต้องเอง



27. นัท-คุง ถือว่าการ ignore หรือทำลาย/ปฏิเสธ “น้ำใจ”
และ “ความปรารถนาดีอย่างสุดซึ้ง” ของผู้อื่นเป็นความผิดขั้นอุกฤษฏ์



28. เวลามีคนเข้าใจผิดว่า นัท-คุง ทำความผิดอะไรสักอย่าง
นอกจาก นัท-คุง จะทำไม่ใส่ใจแล้ว ก็จะแอบลุ้นระทึกด้วยความระทึกในดวงหทัยพลัน
ให้ใครผู้นั้น “ด่าทอ” นัท-คุง มาแรงๆท่ามกลางฝูงชน
เพื่อว่าเมื่อความจริงเฉลยผู้โชคดีคนนั้นจะได้ “หน้าม้าน”



29. นัท-คุง ไม่ค่อยไว้ใจใครง่ายๆ แต่ขณะเดียวกันก็ไว้ใจคนอื่นง่ายมาก
(อ่าว ... อารายของเมิง?)



30. นัท-คุง ชอบให้พูดอะไรตรงๆ ถ้าไม่โอเคก็บอกมา
ไม่ใช่ว่าทำแบ่งรับแบ่งสู้ไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธก่อนจะนิ่งๆ
แล้วปล่อยมันไปกับสายลม หรือทำปากไม่ตรงกับใจ (ซึ่งนั่นคือการโกหก)







31. นัท-คุง เชื่อว่า การอ่านหนังสือการ์ตูน (Manga)
เป็นรากฐานที่สำคัญประการหนึ่งของการอ่านหนังสือ



32. นัท-คุง ไม่ชอบให้ตัวเปียกน้ำขณะใส่เสื้อผ้าถ้าไม่จำเป็น



33. นัท-คุง ศรัทธาในพุทธดำรัสที่ว่า
“...ในวัฏฏสงสารอันยาวนาน เราทุกคนเป็นพี่น้องกัน”
แต่บางทีก็รู้สึกอยากโดดถีบพี่น้องในภพชาติที่ผ่านๆมาเหลือแสน



34. นัท-คุง ไม่ดื่มกาแฟ เพราะว่ามันขม
(เคยซด โอเลี้ยง เวอร์ชั่นที่ยังไม่ได้ใส่น้ำตาลไปสองโฮก
(ผลคือ ... ผะอืดผะอมเหมือนคนป่วยอยู่ราวครึ่งวัน)



35. นัท-คุง กินผลไม้อยู่ไม่กี่อย่างซึ่งส่วนมากเป็นประเภทไม่มีกลิ่น
อาทิ ชมพู่ กล้วยหอม มันแกว แตงโม และแอ๊พพึ่ล








36. นัท-คุง พยายามละเว้นการทำไม่ดีโดยพยายามยึดมั่นในศีลห้าข้อ
ด้วยศรัทธาว่ามันคือสิ่งที่ทำให้คนเรามีจิตใจสมกับความเป็น “มนุษย์”
อันเป็นบาทฐานไปสู่ความมีใจสูงต่อไป
แต่การดังกล่าวมันคนละหมายความกันกับการจะตีความว่า
นัท-คุง เป็นคนดีและเคร่งศีลธรรม



37. นัท-คุง ไม่ชอบเด็กงี่เง่า
และจัดกลุ่มไว้อยู่ในประเภทเดียวกับพวกผู้ใหญ่งี่เง่าอย่างเท่าเทียม



38. นัท-คุง ไม่ชอบควันบุหรี่
และไม่เต็มใจที่จะได้กลิ่นมันในทุกกรณี



39. นัท-คุง ชอบห้องน้ำสะอาด และรังเกียจห้องน้ำสกปรก



40. นัท-คุง ไม่เชื่อถือโชคลาง (ยกเว้นเอาไว้เล่นขำๆ)
และฤกษ์งามยามดีใดๆ ด้วยไม่เชื่อว่า
มันจะลิขิตชีวิตคนเราได้สะดวกดายอย่างเชื่อกัน
ด้วยศรัทธาในพุทธดำรัสที่ว่า

"เมื่อใดประพฤติดีทั้งกาย วาจา และใจ
"เมื่อนั้นก็คือ ฤกษ์ดี"








41. ถ้า นัท-คุง กินข้าวคนเดียว
จะต้องขวนขวายหาหนังสืออ่านระหว่างกินเกือบทุกครั้ง



42. ตอนเด็กๆ นัท-คุง ไม่กินผักอื่นใดนอกจาก ผักชีและต้นหอม
แต่หลังจากเรียนวิชา สปช. กับ คุณครูอัจฉรา คงสกุล
เรื่องระบบย่อยอาหารและความสำคัญของอาหาร 5 หมู่ อะไรประมาณนี้
ความคิดอ่านก็เปลี่ยนไป ขอขอบพระคุณคุณครูมา ณ ที่นี้



43. ดูเหมือน นัท-คุง จะเป็นพวกขี้งอน



44. นัท-คุง ไม่ค่อยชอบสวนสัตว์เท่าใดนัก
เพราะคิดว่าคนเราไปสะเหร่ออะไรที่ต้องอยากเห็นสัตว์จากแดนไกล
ขนาดต้องฉุดกระชากมันข้ามน้ำข้ามทะเลพลัดถิ่นฐานบ้านเกิด
มาอยู่ในสภาพแวดล้อมปลอมๆมาดูด้วย



45. นัท-คุง ไม่คุยกับคนที่ไม่รู้จัก (แล้วมันมีเพื่อนกะคนอื่นเขาได้ไงเนี่ย?!)








46. ซึ่ง นัท-คุง ใช้พฤติกรรมนั้น (ข้อ 45)
เป็นเครื่องมือสกรีนคนที่เข้ามาข้องแวะกับตัวเองในระดับหนึ่ง
ด้วยปกติผู้คนที่มีนิสัยอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยหรือต่ำกว่านั้น
น่าจะรำคาญและหมั่นไส้พฤติกรรมดังกล่าวอยู่ไม่น้อย



47. นัท-คุง เห็น(เอาเอง)ว่า การจีบแฟนคนอื่นเป็นบาป
และการเอา "ความรัก" มาเป็นข้ออ้างบดบัง "ความถูกต้อง" นั้น
เป็นเรื่องรับฟังไม่ได้ในทุกกรณี



48. หนังสือที่เปลี่ยนชีวิตของ นัท-คุง มีอยู่สองอันดับ
1) โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง/หมอหัวเราะ
และ 2) คู่มือมนุษย์



49. นัท-คุง เป็นพวกรักสบายตามสมควรและเกินสมควรแก่อัตภาพ
และชอบความสมบุกสมบันเกินอัตภาพนิดหน่อย



50. พระพุทธเจ้า, พุทธทาสภิกขุ, หลวงปู่ชา, ปัญญานันทภิกขุ,
พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิเถระ), พระอาจารย์บราห์ม, ว.วชิรเมธี,
คุณแม่สิริ กรินชัย, พ.อ.(พิเศษ) ทองคำ ศรีโยธิน, ดังตฤณ, ... ,
ปาป๊า กะ มาม๊า, ... , ฯลฯ



51. บรู๊ซ ลี, โนริมากิ อาราเล่, ดราก้อนบอลล์, เซ็นต์เซย่า,
โดราเอมอน, L, เคิร์ท โคเบน, วินทร์ เลียววาริณ, ชาติ กอบจิตติ,
กิมย้ง, โกวเล้ง, อุนสุยอัน, หวงอี้, สเตฟาน เอฟเฟนแบร์ก,
มาริโอ บาสเลอร์, สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด, โลธ่าร์ มัทเธอุส,
โฮเซ่ มูริญโญ่, มาโนช พุฒตาล, ... ฯลฯ



52. ทุกรายชื่อทั้งที่เอ่ยนามและไม่เอ่ยนามในลำดับที่ 50 และ 51
รวมถึงทุกคนที่อ่านมาถึงข้อนี้ด้วย
ทุกรายชื่อดังกล่าวจัดเป็นผู้มีอิทธิพลทางความคิดแก่ นัท-คุง
ไม่มากก็น้อย ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ทั้งแง่งามเพื่อการดำเนินรอยตามและแง่ร้ายเพื่อการเรียนรู้
ขอบคุณมั่กๆครับ
















...

















-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --












Create Date : 09 มิถุนายน 2552
Last Update : 10 มิถุนายน 2552 8:12:05 น. 26 comments
Counter : 470 Pageviews.  
 
 
 
 
อ่าน 1 แล้วเหวอ ถึงรู้ว่านัทคุงน่าจะรักษาศีล 5 ได้ แต่ไม่คิดว่าจะรักษาข้อ 5 ได้จริงๆ (คือ..ในวัยนัทคุง หาน้อยคนน่ะที่จะรักษาศีลข้อนี้ได้น่ะนะ)

อ่านข้อ 20 แล้วขำมากมาย

เห็นด้วยกับ 37 และ 47 แบบสุดๆ




โดนัท โอกาสคว่ำยากนะ เพราะลักษณะการนั่งแบบว่าติดพื้น โอกาสเสียศูนย์ถ่วงจนคว่ำเนี่ย ยากมากๆ

ส่วนไส้ของปลา น่าจะถั่วแดงแหละ แต่พี่ไม่ได้ชิม เลยไม่ขอคอนเฟิร์มเน้อ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:9:57:19 น.  

 
 
 
+ พอดีพี่เพิ่งอัพหน้าใหม่ไปนะครับ (เรื่องหนังเดือนที่แล้ว)

+ สำหรับของมึนเมา พี่มักมีข้ออ้างกับตนเองว่าที่มีข้อห้ามไว้ น่าจะเป็นเพราะมันทำให้ขาดสติ ... ดังนั้นเวลาดื่ม พี่จึงมักดื่มแค่พอเป็นกระสัย สำหรับการเข้าสังคม แต่จะพยายามครองสติไว้ตลอดเวลาอ่ะครับ เลยถือว่าศีลขาดแค่ครึ่งข้อก็แล้วกัน (... ช่างหาข้อแก้ตัว )

+ เรื่อง sensitive พี่ก็สัมผัสได้จากการที่ได้เคยมีปฏิสัมพันธ์กับนัท-คุงอ่ะครับ เพราะพี่ก็เป็นมนุษย์เผ่าพันธุ์นี้ด้วยเช่นกัน (โอ๊ต-คุงก็ด้วยอีกคน) และข้อที่กลัวการถูกปฏิเสธก็รู้สึกจะเป็นเหมือนกันหมดเลยอ่ะครับ

+ กร๊ากกก ของพี่ตอนเดะๆ ชอบจกกะปิ - กุ้งแห้ง - น้ำตาลปี๊บ จากตู้กับข้าวมากินเล่นอ่ะครับ ... แต่ก่อนนอนพี่ก็ยังแปรงฟัน (เกือบ) ทุกครั้งนะเออ

+ แอบขำข้อ 20. ด้วยคนอ่ะครับ เอิ๊กๆ

+ ยังงี้ข้อ 32. ก็แปลว่าหนังหรือเพลงจำพวก Singin' in the rain, Cryin' in the rain, Walkin' in the rain ... เทือกๆ นี้ นัท-คุงก็ไม่อินจิครับเนี่ย (... แซวเล่นเน้อ เอิ๊กๆ )

+ พออ่านมาถึงชุดข้อสุดท้าย แล้วสะดุดกับชื่อ มูรินโญ่ ... แต่พอได้อ่านบทสรุป แล้วมีคำว่า "แง่ร้าย" ก็เลยถึงบางอ้ออ่ะครับ เหอๆๆ
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:12:00:54 น.  

 
 
 
ข้อ 20 นี่สุดยอดแห่งความบ้า (เราว่าสมัยเด็กๆเราเคยคิดอะไรบ้าๆมาเยอะนะ เจอข้อนี้เข้าไปต้องขอยอมเลย)

อ่านแล้วก็พบว่ามีหลายๆข้อที่คล้ายๆกันนะครับ เช่นข้อ 7 - 14 ข้อ 16 ข้อ 28 ข้อ 30 - 31 ข้อ 37 และข้อ 43 - 46 (เฮ้ย เยอะไปมั้ยเนี่ย?) แต่ข้อที่ไม่เห็นด้วยสุดๆคือข้อ 47

ก็ได้รู้จักนัทคุงเพิ่มขึ้นมาอีกเยอะเลย จากนี้ไปภาพของนัท-คุงในหัวพี่ก็จะเปลี่ยนไปเล็กน้อย (แต่ก็ยังใส่เสื้อบอลอยู่นะ) ยินดีและดีใจที่ได้รู้จักน้องบล็อคคนนี้ครับ

ปล. ขอบคุณที่ให้เครดิตเน้อ
 
 

โดย: แฟนผมฯ IP: 202.134.119.218 วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:17:08:26 น.  

 
 
 
สวัสดีครับ นัทคุง

ตามมาอ่านความลับครับ

ถ้าให้ผมเปลี่ยนข้อ 50 เป็นของผมคงเป็นดังนี้


พระพุทธเจ้า พระเยซู พุทธทาสภิกขุ ประภาส ชลศรานนท์
วินทร์เลียววาริณ จางอวี้โหมว แฮร์ริสันฟอร์ด รอยคีน
เอนนิโอ่ มอร์ริโคเน่ สตีเว่น สปีลเบิร์ก และพ่อของผมครับ
 
 

โดย: jonykeano วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:22:54:25 น.  

 
 
 
เข้ามา /ขยี้ตาอ่านข้อ 9
เซ้นสิน่าถีบมากฝ่า

ปล. ขี้งอนโด้ยยยยย โอ้ววววว ก๊าก

=)
 
 

โดย: hunjang วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:23:03:03 น.  

 
 
 
กร๊ากกกกก

ทำไมเราอ่านจบแล้วทำให้นึกอยากมอบผ้าคลุมซุปเปอร์แมนให้พี่พูห์อะ
 
 

โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:23:08:59 น.  

 
 
 
อ่านหมดแล้วนะคับ

# เรื่องเหล้า ละเว้นง่าย แต่เลิกยากนะคับสำหรับคนที่ติดมาแล้ว
ปล. รู้สึกเซ็งมากกับผู้ป่วย Alcohol Withdrawal และ Alcohol intoxication

# ผมชอบที่ไปกินข้าวกับคนอื่น และมักตามมาด้วยคำถาม "กินที่ไหน ?"

# หนังสือที่ผมชอบและซื้อมักเป็นหนังสือ Sale
แต่หนังสือเรียนมักไม่ Sale นี่สิ จำใจต้องซื้อหรือไม่ก็ร้านถ่ายเอกสาร หึๆ
สำหรับการ์ตูน ผมชอบเช่ามาอ่านคับ

# Ignore ของผมรวมถึงการถามแล้วเค้าทำหูทวนลม ทำเป็นไม่ได้ยิน ทั้งๆที่ได้ยิน เสียความรู้สึกนะเนี่ย (คนถาม)

# เห็นด้วยคับ ถ้าไม่ได้พูดคุยกันก็มักจะเหินห่างออกไปเรื่อยๆ
รุ่นพี่ที่จบม.6 ไป ตอนนี้ผมยังไม่ค่อยกล้าคุยใน MSN เลย อายๆยังไงไม่รู้ บอกไม่ถูก

# หลายๆอย่างผมก็พึ่งดวงเสมอมา และมักดวงดีอยู่เสมอๆ

# ความใฝ่ฝันข้อ 20 ... ชีวิตคงมีสีสันต์ขึ้นเยอะนะคับ

# ความเข้าใจผิดสำหรับตัวเรา ผมเกรงว่านอกจากเค้าจะไม่ว่า เค้าจะไปโพนทนาไปทั่วจนเราถูกตีตราว่าผิดนี่ดิ

# กลิ่นกาแฟ หอมนะคับ แต่ผมไม่ชอบดื่มเหมือนกันเพราะมันขม

อ่านครบแล้วนะคับ ^^
 
 

โดย: foscarnet วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:11:07:44 น.  

 
 
 
...





-- สาวไกด์ใจซื่อ / อย่างที่บอกอ่ะครับพี่ ผมว่ามันง่ายเป็นบ้าเลยอ่ะ คงแล้วแต่คนมั้งครับ
แต่ผมว่าน่าจะมีอีกเยอะล่ะครับที่รักษาศีลข้อนี้ได้ เพราะขนาด "ก๊องแก๊งๆ" อย่างผมยังทำได้เลยหนิ

+ นั่นดิเนอะพี่? ข้อ 20 นี่ นัท-คุง มันคิดไปได้ไงหว่า?

+ โดนัท นี่คือผมนึกถึงทางที่มันไถลๆขรุขระๆ (บนหิมะ) แบบสุดๆอ่ะครับ ว่าอาจล้มได้ แต่คงมีเกลี่ยทางไว้เนอะ?




-- บลูยอชท์ / เหล้าล่วงเข้าปากศีลก็ขาดผึงแล้วพี่

+ ของผมเด็กๆไม่กินกะปิเลย เพราะเคยได้ยินหรือได้อ่านมาว่า ... ลิงเกลียดกะปิ (เป็นเหตุเป็นผลมั้ยเนี่ย? )

+ เคยอ่าน จีเอ็ม คอลัมน์กีฬา ว่า ... จริงๆแล้ว เฮียมูฯ เป็นคนนิสัยดีมากเลยนะครับ แต่ทำแอ๊คท์และแสดงออกแรงๆเพื่อลดแรงกดดันให้ลูกทีม

ซึ่งผมค่อนข้างเชื่อ (ลำเอียงเพราะชอบ ) อยู่มิน้อย คนที่เก่งและประสบความสำเร็จระดับนี้ ไม่น่าจะชั่วร้ายอย่างที่พยายามสื่อให้เห็นอ่ะครับ




-- แฟนผมฯ / นั่นดิครับพี่ ดีนะไม่ไปเจอจริงๆ มีตายตั้งแต่ตอนเห็นแล้วล่ะ
แต่ก็ดีครับที่มันเป็นความรู้สึกคะนองบ้าๆไม่ช้านาน

+ พี่พอจะให้เหตุผลประกอบกับการเห็นแย้ง ข้อ 47 ได้อ๊ะป่าวเอ่ย? แบบว่าอยากลองฟังดูอ่าครับ

+ สองทริปล่าสุด ผมก็ใส่เสื้อบอลมันตลอดเวลาเลยอ่าครับ




-- jonykeano / ประภาส ก็อยู่ในข้อ 50 เหมือนกันครับ แต่ว่าอยู่ใน ฯลฯ เหะเหะ




-- hunjang / เจ๊ ไม่ เซ้นสิถีฟ กับเรื่องแบบนี้หร่อก

+ เด็กๆก็ขี้งอนทุกคนแหละ




-- แพนด้ามหาภัย / ขอเป็น ชุดแบทแมน ละกันครับ




-- foscarnet / ขอบคุณที่อ่านจบค้าบ

+ ข้อ 20 ถ้าเป็นจริงนี่ ชีวิตผมคงแดงเถือกไปด้วยเลือดอ่ะครับ

+ ใช่ครับ กลัวๆอยู่เรื่องโพนทะนา แต่ทองแท้ต้องไม่กลัวไฟครับ อิอิ

+ ชอบบรรยากาศร้านกาแฟเหมือนกันครับ อยากไปนั่งชิลๆ แต่ดันไม่ชอบกาแฟนี่จิ









-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --













 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:14:51:03 น.  

 
 
 
สวัสดีอีกรอบ

เรื่องคูปอง ในหนังสือเล่มนี้เค้าเป็นเหมือนๆ ประมาณว่า ให้คูปองเด็ก แล้วให้เด็กได้ไปเลือกหนังสือเองเลยน่ะจ้ะ ให้เค้าได้เลือก ได้ตัดสินใจเอง (โดยไม่ต้องมีผู้ใหญ่มาสกรีนให้ก่อนว่าอะไรที่ "เหมาะ" กับเขา) ซึ่งพี่ก็ว่าดีนะ


เออ..เรื่องข้อห้า สำหรับชีวิตพี่ตอนนี้ ก็รักษาง่ายกว่าข้อมุสาเช่นกัน
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:17:27:21 น.  

 
 
 
Ennio Morricone นักประพันธ์เพลง ตำนานคนหนึ่งของวงการภาพยนตร์และศิลปะทางเสียงครับ

Soundtrack ที่แกเคยแต่งก็อย่างเช่น The Mission , Cinema paradiso เรื่องหลังนี่เคลิ้มสุดๆ

พูดแล้วก็นึกขึ้นได้ ยังมีนักประพันธ์อีกคนที่ผมชื่นชอบ นั่นคือ John Barry ครับ ( ไม่ได้เป็นอะไรกับอีก Barry ที่หักอกเป็ดไปซบเรือใบนะเออ )
 
 

โดย: jonykeano วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:19:30:54 น.  

 
 
 
เรื่องข้อ 47 นั้น อืม... ตอบสั้นๆแล้วกันนะครับ (ตอบยาวไปกลัวว่าจะเวิ่นเว้อ)

พี่เชื่อว่าการยึดถือความถูกต้องจนยอมเก็บกดความรักเอาไว้ก็เป็นเรื่องผิดเหมือนกันครับ และความถูกต้องของคนๆหนึ่ง อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องของคนอื่นก็ได้

ถ้าจะถกกันจริงๆอาจต้องยกตัวอย่างประกอบ แต่เดี๋ยวจะยาว เอาเป็นว่าไว้เราเจอกันที่เกะใดเกะหนึ่ง เราค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกทีดีมั๊ยครับ
 
 

โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:21:59:52 น.  

 
 
 
...




-- สาวไกด์ใจซื่อ // เหมือน "เช็คเงินสด" แต่ซื้อได้เฉพาะหนังสืองี้เหรอครับพี่?
อืมมมม... ถ้าในภาคปฏิบัติจริง งั้นก็คล้ายๆกับให้เด็กดูแคตตาล็อกรึป่าวเอ่ย?

+ ไม่ว่าจะผิดศีลข้อไหน ผิดมันก็คือผิดอ่ะเนาะพี่ อิอิ





-- jonykeano // ชอบทั้งเพลงกะตัวหนังของ ซีเนม่า พาราดิสโซ่ เหมือนกันครับ ขอบคุณที่มาเฉลย

+ เดอะค็อป อย่าง นัท-คุง และผองเพื่อน ไม่เคยรู้สึกอยากได้ แบร์รี่ เลยครับ





-- แฟนผมตัวดำ // ต้องเจอกันที่ 'เกะ ด้วยเหรอครับพี่?











-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --









 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:16:25:56 น.  

 
 
 
เข้ามารู้จักนัทคุงจ้า...

ข้อ 7 เหมือนกันเลย...แม่แต่หนังสือที่ซื้อมาเมื่อสองปีก่อน ยังอ่านไม่จบ แล้วก็ซื้อๆๆๆ เฉลี่ยเดือนละ 4-5 เล่ม!!

ข้อ 48 อ่านโต๊ะโตะเหมือนกันค่ะ คู่มือมนุษย์ก็มีเหมือนกัน แต่หยิบมาอ่านทีไรไม่ยักกะถึงหน้าสิบ จนกระทั่งบัดนี้ เฮ้อ!!

ปล. 1 ถึงฤดูกาล(หนูนา)อัพบล๊อกแล้วจ้า

ปล. 2 ฝนตกทุกวัน รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
 
 

โดย: My name is h-n-u-n-a วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:16:56:26 น.  

 
 
 
จากเสียงร่ำลือที่ได้ยินมา เห็นว่าพลังเสียงนัท-คุงนี่สุดยอดดดด อยากได้ยินเป็นบุญหูซักครั้ง 5555+++
 
 

โดย: แฟนผมฯ IP: 202.134.119.218 วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:17:06:36 น.  

 
 
 
สวัสดีอีกรอบเด้อ

อ่า..พี่คิดว่ามันเป็นคล้ายๆ อย่างนั้นอะจ้า เป็นคูปองที่เด็กใช้ซื้อหนังสือได้อย่างเดียว

แต่โครงการที่พี่จะทำนี่ จะพาเด็กเร่ร่อนเค้าไปที่ร้านหนังสือเลยแหละจ้า แล้วก็ให้เค้าไปเลือกที่ร้านหนังสือเลย หลังจากพาเค้าไปเที่ยวท้องฟ้าจำลองแล้วก็จะพานั่ง BTS มาที่พารากอน พาเค้าไปคิโนฯ แล้วก็ให้เค้าเลือกหนังสือน่ะจ้ะ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:17:26:00 น.  

 
 
 
27 กับ 8 ซ้ำ..

อ่านแล้วได้รู้จักกันเพิ่มขึ้น...มีความสุขมากๆนะจ๊ะ
 
 

โดย: Why England วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:20:04:47 น.  

 
 
 
ไม่ชอบพวกที่ชอบพูดว่า "ก็ดี (หรือ ไม่เลว) นะ แต่......." เหมือนกันเลย บอกมาเลยว่า ไม่ดียังไง จะดีใจกว่า

ได้รู้จักคุณนัท คุง ในอีกหลาย ๆ เรื่องเลยนะเนี่ย

เป็น life style ที่น่าชื่นชม
 
 

โดย: Envi_NY วันที่: 15 มิถุนายน 2552 เวลา:20:00:25 น.  

 
 
 
...





-- My name is h-n-u-n-a /// ที่ กรุงเทพฯ หลังจากหยุดไปพักใหญ่ๆ เมื่อวานฟ้าก็เลยรั่วซะช่วงเลิกงานครับ




-- แฟนผมฯ /// แง้ว~ พี่อย่าไปคิดอย่างนั้น มิตรรักแฟนบล็อก เขาก็ชมกันเกินปายยยย...




-- สาวไกด์ใจซื่อ /// อ๊ะๆ งานใหญ่เลยนะครับเนี่ย ต้องหาทางมีส่วนร่วมซะแล้ว อิอิ




-- Why England /// จริงๆมันก็ไม่ซ้ำกันโดยสิ้นเชิงนะครับ แค่มีบางส่วนคาบเกี่ยวอ่า เหะเหะ




-- Envi_NY /// เขินเลย มีคนชื่นชม Life Style งุงิๆ












-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --











 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:8:50:27 น.  

 
 
 
ร้านนี้ ถ้านัท คุงมาคงจะชอบ..เพราะเดินไปอีกหน่อยก็จะเป็นชายทะเล..มองไปข้างหน้าก็มีเนินเขาสูงๆแบบนี้แหล่ะ..ดอกไม้ก็แยะ..

อาหารอร่อยมากกกกก อันนี้สำคัญสุด
 
 

โดย: Why England วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:3:09:48 น.  

 
 
 
กลับมาแล้วเด้อ

มาคุยเรื่องพาเด็กไปซื้อหนังสือนะ เดี๋ยวถ้าโอเค ลงตัวแล้วจะมาแจ้งอีกทีหละ


ส่วนเรื่องหนังสือ ยังไงพี่ก็อยากให้เขาเลือกเองน่ะ

แบบว่า..ไม่อยากให้เราไปตีกรอบว่าอะไร "ดี" หรือ "ไม่ดี" สำหรับเขา

บางอย่าง..ถ้าเขาได้เรียนรู้เองก็โอเคอยู่นะ

เพราะสิ่งที่เขาเลือก จะกลายเป็น "สมบัติ" ที่จะอยู่กับเขาน่ะ ถ้าเขาเลือกอะไร เขาก็จะต้องอยู่กับมันไปตลอดน่ะแหละ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:9:08:08 น.  

 
 
 
ขอบคุณสำหรับข้อความที่เอาไปให้อ่านนะ

เห็นด้วยกับประโยคเหล่านี้

ทางเดียวที่จะเป็นไปได้
คือแนะนำให้เด็กรู้จักธรรมะ
ซึ่งหมายถึงความเป็นเหตุเป็นผลของโลกความจริง
ควบคู่ไปกับการเล่านิทาน
และการติดตามข่าวสาร


แต่ก็..ไม่คิดว่าตัวเองจะมีสถานะที่รู้ได้เท่าข้างบนน่ะนะ
(คงเป็นผู้ใหญ่อีกคนที่ยังสับสนงงงวยอยู่ เหอๆ)




พี่เชื่ออยู่อย่างว่า เด็กคนไหนจะเกิดมาอย่างไร ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่จะหล่อหลอมเขาให้เป็นอย่างไร

มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่ติดตัวเขามา (เรียกว่า กรรม ก็ได้มั้ง)

แต่ไม่ได้หมายความว่า ทุกสิ่งมันจะต้องเป็นไปตามกรรมเก่าเสมอไปหรอก

แต่อย่างไร พี่ก็อยากให้เขาเลือกด้วยตัวเอง ขีดชีวิตตัวเองมากกว่า เมื่อเขามีโอกาสที่จะเลือกน่ะ



เอ่อ..อ่านที่ตัวเองพิมพ์แล้วก็ยังงงๆ ฟร่ะ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 19 มิถุนายน 2552 เวลา:8:50:34 น.  

 
 
 
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ซัมโปะ
นึกว่าจะโดนลอยแพซะระ 55

แต๊งค์กิ้วที่ไปแจ้ง

=)
 
 

โดย: hunjang วันที่: 19 มิถุนายน 2552 เวลา:10:47:53 น.  

 
 
 
+ อ่านที่นัท-คุง และครูเต้ยคิดเห็นไม่ตรงกันแล้วก็มันส์ดีนะครับ เพราะแต่ละฝ่ายต่างก็มีจุดยืนและเหตุผลที่สนับสนุนแนวคิดของตนเอง

... ของพี่ แต่เดิมได้เขียนไว้ว่าค่อนข้างเห็นด้วยกับนัท-คุง อาจเป็นเพราะจุดยืนของพี่ก็คือ พี่มองว่า "เด็ก" เหล่านั้น (ยังไม่ทราบอายุ และยังไม่เคยพบปะ เลยไม่รู้จะประเมินได้อย่างไร) ยังเป็นเด็ก ยังไม่แน่ใจว่าจะมีวิจารณญาณเพียงพอที่จะเลือกหนังสือ (ที่ผู้ใหญ่อย่างเรามองว่าเหมาะสม) ได้เองหรือไม่ (ซึ่งจริงๆ แล้วก็อาจเป็นการคิดแทนเค้ามากเกินไปเช่นกัน)

... ดังนั้น สุดท้ายแล้ว น่าจะต้องมีการประเมินในหมู่คนทำงานกันก่อนรึเปล่าครับ (เพราะว่าวิธีการเดียวกัน แต่เมื่อนำไปใช้กับเด็กที่ต่างกลุ่มกัน อาจดูไม่เหมาะสมก็เป็นได้) ... ว่าเด็กที่เราจะมอบสิ่งดีๆ ให้เค้านั้น อายุเท่าใด อยู่ในสภาพแวดล้อมเยี่ยงไร มีวิจารณญาณในการเลือกหนังสือได้เองขนาดไหน ฯลฯ

... และเมื่อตัดสินใจเลือกวิธีการ (เลือกให้เค้า / ให้เค้าเลือกเอง) ที่คิดว่าเหมาะสมไปแล้ว ก็อาจต้องลองจดสถิติการเลือกของพวกเค้า แล้วนำมาประเมินเพื่อนำไปปรับใช้ในคราวต่อๆ ไป (ที่อาจมีขึ้นได้อีก) อ่ะครับผม
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 19 มิถุนายน 2552 เวลา:11:46:22 น.  

 
 
 
[ลืมเขียนไป] อยากดู Departures มากมายเลยครับ (ได้ยินมาว่าคล้าย The village album - เลยคิดว่าน่าจะเข้าทางพี่ กับมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความตายด้วย ซึ่งก็เข้าทางพี่อีกเช่นกัน) ... คาดว่าคงจะได้ชมไม่วันเสาร์ก็วันอาทิตย์นี้
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 19 มิถุนายน 2552 เวลา:11:49:48 น.  

 
 
 
อยากดูเหมือนกัน (จากแผ่นแน่นอน ในโรงนี่เลิกหวังได้เลย) ไว้ได้ดูแล้วค่อยมาคุยกันนะ

ขอบคุณที่แนะนำ
 
 

โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 21 มิถุนายน 2552 เวลา:22:10:52 น.  

 
 
 
...






-- Why England IV อยากไปร้านแบบนี้บ้างจัง




-- สาวไกด์ใจซื่อ IV ไปตอบที่บล็อก พี่เต้ย แล้ว ไม่ลงซ้ำละกานนนน...




-- hunjang IV เป็นความหวั่นวิตกแบบฝังอยู่ในโครโมโซมของ นักอ่านการ์ตูนไม่ฮิต เลยนะครับ




-- บลูยอชท์ IV คุยกันทางโทรศัพท์แล้ว ไม่ตอบคอมเม้นท์ไว้ ณ ที่นี้ละกันนะครับ




-- แฟนผมตัวดำ IV ไม่เป็นไรมิได้ครับ











-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --













 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 22 มิถุนายน 2552 เวลา:9:55:49 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

The Legendary Midfielder
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




...
" เพราะเหตุนี้มี ผลนี้จึงมี, เพราะเหตุนี้เกิด ผลนี้จึงเกิด, เพราะเหตุนี้ดับ ผลนี้จึงดับ
" หากปรารถนาผลอันดี พึงสร้างเหตุสร้างปัจจัยอันดี "


...
" ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ "


...
" ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต
กลับใจจะพบฟากฝั่ง "


...
"หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น
"ทำกรรมดีย่อมได้รับผลของกรรมดี ทำกรรมชั่วก็ย่อมได้รับผลของกรรมชั่ว"



...
"...กฎแห่งกรรมไม่เคยผิดพลาดมาก่อน
"ไม่ว่าเราจะประสบพบกับคราวเคราะห์หนักหนาสาหัสแค่ไหน
"ให้ระลึกไว้ว่านั่นเป็นสิ่งที่สมควรและสาสมแก่เราแล้ว
"เป็นเพราะเราได้สร้างเหตุนั้นๆมาก่อน
"ผลเช่นนี้จึงตามมา..."

[Add The Legendary Midfielder's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com