สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย (สิ่งทั้งหลายทั้งปวงในโลก มิควรยึดมั่นถือมั่น)

<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
29 มกราคม 2552
 

Movies_Diary_02

...















สวัสดีครับ














เข้าสู่พุทธศักราชใหม่จาก 2551 เป็น 2552 ปุ๊ป

นัท-คุง ก็งานตรึมในบัดดล

ซึ่งจริงๆมันก็ไม่ใช่ว่างานท่วมหัวอะไรนักหนาหรอกครับ

เพียงแต่มันหาเวลายาวๆแบบ "เซ็นจูรี่ เบรก" มาอัพบล็อกไม่ได้เท่านั้น

ครั้นจะอัพแบบทีละจึ๋งนึง เนื้อหาและอารมณ์มันก็จะไม่ต่อเนื่องได้

ทำให้ มิตรรักแฟนบล็อก ผู้อ่านไม่ได้รับอรรถรสอันพึงมีพึงได้ไปเปล่าๆ

(ทำยังกะบล็อกเจ้ามีอรรถรสตายล่ะ นัท-คุง )





นิ่งนึกดูว่ายังมีเนื้อหาอะไรที่จะอัพแล้วยังไม่ได้ดำเนินการอีก

ก็มีเรื่อง หนังสือที่อ่านไปในไตรมาส 3 และ 4

ซึ่งของ ไตรมาส 3 นี่เตรียมการไปได้เกือบลุล่วงแล้ว

เหลือแค่ให้มีเวลายาวๆเท่านั้น

(ไม่น่าหาเรื่องตั้งปณิธานเรื่อง What I read ให้เป็นภาระเล้ยยยยย... )

อีกทั้งเรื่องเที่ยวอีก ยังเหลือตกค้างอยู่อีก 2 ทริป (ของปี 2551)

ซึ่งหากเอามาอัพแบบแจกแจงคงจะได้สัก 10 บล็อก

วัตถุดิบล้นเหลือมาก

รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับ "ภาพยนตร์" ที่ได้ไปรับชมมาอย่างบล็อกนี้ล่ะครับ

ส่วนบล็อกอื่นๆคงจะทยอยเร็วๆนี้ มีเรื่องให้อัพเยอะดีกว่าหมดมุข















...











20 พ.ย. 2551







นัท-คุง เห็นตัวอย่างหนังเรื่องนี้ตอนไปดู son of rambow

ซึ่งไม่ค่อยได้ตั้งใจดูมันเท่าไร แต่จำได้ว่ามันแสดงออกถึงเรื่องราววุ่นๆของหลายๆคน

ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายนัก คิดว่าให้พอดูได้เพลินๆก็โอเคแล้ว

หนังฉายที่ สกาล่า (ได้ฉายโรงใหญ่ซะด้วย )

ชวน พี่ปีเตอร์ กับ ลีโอ-คุง ไปดูด้วยกันในรอบ 18.30 น.




หนังฮามากกกกกกกกกกกก...

ฮาแตกได้ใจเลย

ไม่ค่อยได้ขำสุดๆจัดๆจ้านๆแบบนี้ในโรงภาพยนตร์มานานหลายนานแล้ว

(ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าไปดูหนังในโรงน้อยด้วยแหละ )

ไม่ถือเป็นหนังดีเลิศแสนวิเศษ แต่ดูสนุกแบบสุดๆ

นักแสดงแต่ละคนนี่เทพมาก เหมือนจบมาจาก "คุโรมาตี้ สกูล" กันทุกคน

ขอคารวะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนเลย

ผู้ที่เคร่งเครียดกับสิ่งใดๆรอบข้างทั้งหลายทั้งปวงสมควรเป็นที่ยิ่งที่จะได้รับชม ยืนยัน!!!










ดูหนังจบออกจาก สกาล่า ตอนสองทุ่มครึ่งโดยประมาณ

เมียงมองไปรอบข้างก็ออกแนวคนซาและร้านรวงใกล้ปิดกัน

(สภาพเศรษฐกิจดีหรือไม่ดีนี่ก็วัดกันตรงนี้เลยนะครับเนี่ย

(เวลาเปิดปิดของร้านรวงและห้างสรรพสินค้าน่ะ)

เลยคิดว่ากินอะไรแบบขำๆใช้เวลาไม่นานดีกว่า

ด้วยการข้ามฝั่งไป สยามเซ็นเตอร์ กิน ฮะจิบัง ราเมน

จำชื่อเมนูที่กินไปไม่ได้แล้ว แต่ก็อร่อยดีเหมือนทุกครั้ง














...











22 พ.ย. 2551







ก่อนไปดูนี่ออกแนว "ไหวหวั่น" และ "หวั่นไหว" เล็กน้อย

เพราะการนำเอา นิยาย หรือ การ์ตูน หรือ สิ่งใดๆก็ตาม

ที่มีเนื้อหายาวเหยียดโยงใยไปมาเหมือนเถาวัลย์พันเกียวที่เลี้ยวลด

มาทำเป็นภาพยนตร์ที่มีความยาวตั้งแต่ 90 - 180 นาทีโดยประมาณนั้น

มันยากเย็นยิ่งที่จะทำให้ออกมาแบบ ... ดูแล้วเก็ท ดูแล้วสนุก

แต่ก็อ่ะนะ จากที่ นัท-คุง ได้อ่านโน่นอ่านนี่อันเกี่ยวโยงกันหนังมาบ้าง

และไหนๆก็ชอบการ์ตูนเรื่องนี้อยู่แล้ว ถือว่าไม่มีเหตุผลอันใดที่จะไม่ไปดู



หนังถูกเลื่อนกำหนดการฉายจากต้นๆเดือนตุลาคมมาเป็นเกือบท้ายๆเดือนพฤศจิกายน

ซึ่งช่วง กันยายน นั้น นัท-คุง ก็ขุดเอาฉบับการ์ตูนมาอ่านอย่างเร่งรีบใหม่หมด

หลังจากที่เคยอ่านค้างไว้ถึง 2 เล่มสุดท้ายของภาค 20th

พอรู้ว่าเลื่อนฉายก็เลยค่อยๆอ่านค่อยๆละเลียดไปแบบไม่รีบร้อน



ไปดูที่ เซ็นทรัลเวิลด์ กับ อัน-อัน และ ลีโอ-คุง

ซึ่งทีแรกก็ทำท่าว่าจะไม่ได้ดูกันแล้ว

เพราะ นัท-คุง อยากดูแบบเสียงญี่ปุ่นซึ่งรู้ว่ามีอยู่ที่ สกาล่า

ส่วน อัน-อัน ไม่รู้จักการ์ตูนเรื่องนี้เลยไม่อยากดูเท่าไร

แต่พอไม่มีเรื่องอื่นที่น่าดูกว่านี้ และที่นี่มีเสียงญี่ปุ่น

ก็เลยโอเชซื้อตั๋วกันได้



มองในมุมของ นัท-คุง *ซึ่งอ่านเวอร์ชั่นการ์ตูนมาแล้ว*

รู้เรื่องหมดแล้วว่าตรงไหนเป็นไง? ใครเป็นใคร? จะมีอะไรเกิดขึ้น?

พอดูหนังจบก็รู้สึกว่าทำได้ดีนะครับ เก็บรายละเอียดสำคัญๆมาใส่ได้ดี

การตัดไปตัดมาระหว่างอดีตกับปัจจุบันก็ไม่น่าจะทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องงงเท่าใด

(จะมีก็คงเป็น "พระเจ้า" นั่นแหละที่หลายๆคนอาจงุนงงกันว่าเป็นใครฟะ?)

และพอหนังเล่าเรื่องปูพื้นมายาวๆ ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายก็ตื่นเต้นเร้าใจดีพอสมควร

มีติหน่อยก็ตรงที่ฉายให้เห็นความยิ่งใหญ่ของ "เพื่อน" ได้ไม่ดีนัก










ก่อนดูหนังมีภารกิจให้ปฏิบัติการแถวสามย่าน

พอปฏิบัติการเสร็จสิ้นจึงหามื้อเที่ยงกินกันก่อน ณ โอโตยะ

ไปกัน 4 คนคือ พี่ปีเตอร์ อัน-อัน ลีโอ-คุง และ นัท-คุง

โดย พี่ปีเตอร์ มีภารกิจตกค้างภาคบ่ายเลยไม่ได้ดูหนังรอบบ่ายสองด้วยกัน

จากภาพบนนี่ของ นัท-คุง เป็น เซ็ทข้าวห่อไข่ ด้านขวาล่างครับ








จานนี้สั่งมากินเล่นขำๆด้วยกัน













...










28 พ.ย. 2551









ตั้งแต่เห็นตัวอย่างหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์สักพักใหญ่

ว่าเป็นหนังที่มีคนไปค้นหาข้อมูลใน imdb มากที่สุด

จนกระทั่งยิงหนังตัวอย่างบน บีทีเอส ช่วงหนังใกล้เข้าฉาย

นัท-คุง ก็ไม่ได้มีความรู้สึกสนใจหรืออยากจะไปดูหนังเรื่องนี้เล้ยยยยย...

แม้ อัน-อัน จะทำกรี๊ดกร๊าดว่า ... พระเอกหล่อมากกกกกกกกกกก...

ก็ไม่ได้ทำให้ นัท-คุง นึกอยากดูขึ้นมาเลย (ก็แหงดิ! )

พี่ปีเตอร์ ก็ชวนๆอยู่ว่าไปดูเรื่องนี้กันเถิดเอย

แต่ นัท-คุง ก็ไม่คิดจะไปดูเอาอย่างที่เคยคิดนั่นแล



กระทั่ง น้องทายนี่-จัง มาบอกว่าอยากดู ทไวไลท์

นัท-คุง จึงกลับลำเครื่องบินรบกลางอากาศ 360 องศาซะงั้น

(มุขนะครับมุข ความจริงคือเสียงเกินกึ่งนึงนั่นเอง )



คณะผู้ร่วมทางประกอบด้วย พี่ปีเตอร์, พี่เบิร์ด (ผู้ไม่ได้รับเชิญแต่แรกแต่แอบตามมา )

ลีโอ-คุง, น้องทายนี่-จัง และ นัท-คุง

ไปดูกันที่ มาบุญครอง ซึ่งขณะไปเป็นเวลาก่อนหนังฉายราว 40 นาที

คนไปดูกันอุ่นหนาฝาคั่งมาก ทำให้ได้ที่นั่งแถวหน้าๆจอซะงั้น



นัท-คุง เข้าโรงไปด้วยไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายนัก (อีกแล้ว)

คือเท่าที่ไล่อ่านความคิดเห็นต่างๆเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ ก็ทำให้ทราบได้ในระดับหนึ่งว่า

มันไม่ใช่หนังแอ๊คชั่น เป็นหนังแนวๆฉันรักเธอ-เธอรักฉันอะไรประมาณนั้นมากกว่า

แต่พอดูจบก็ให้รู้สึกว่า ... อืม หนุกดีอ่ะ ดูขำๆเพลินๆไม่น่าเบื่อจนเกินไปอย่างที่คิด










ด้วยความที่มีเวลาเหลือน้อย (ราวครึ่งชั่วโมง)

ก็เลยเหลียวมองไปรอบตัวว่ากินอะไรกันดี

ก่อนจะพบร้าน เชสเตอร์กริลล์ และมาสุมหัวกินกันก่อนที่นี่

จานซูชิ ที่เห็นนี่ น้องทายนี่-จัง ได้รับการอภินันทนาการมาจากต้นสังกัด














...











4 ธ.ค. 2551







ตอนเห็นโปสเตอร์หนังเรื่องนี้ครั้งแรก (ซึ่งไม่ใช่รูปที่มาแปะบนนี้)

นัท-คุง นึกไปว่าหนังเรื่องนี้คงเป็นเรื่องของครอบครัวที่อบอุ่น

ซึ่งร่วมมือกันเผชิญหน้ากับเรื่องราวต่างๆที่ถาโถมมาสู่สมาชิกแต่ละคนในครอบครัว

(เคยรู้อะไรกับเขาบ้างมั้ยเนี่ย? )



ไปดูหนังเรื่องนี้ที่ สยาม

อันเป็นวันเดียวกันกับที่ผู้คนเรือนพันเรือนหมื่นเคลื่อนตัวออกจากกรุงเทพมหานครฯ

คนในโรงไม่เยอะนัก เพราะหนังแนวนี้เรียกคนดูไม่ได้มากอยู่แล้ว

หนังเริ่มไปได้ a few นาที พี่วิน-บลูยอทช์ ให้เกียรติโทรมาหา

แต่อยู่ในโรงอ่า เลยไม่ได้รับสายและส่งข้อความไปแจ้งสาเหตุของการดังกล่าว



ถ้าใครหวังจะได้เห็น "ความสนุก" จากหนัง

ก็คงไม่เหมาะกับหนังเรื่องนี้นัก

เพราะมันเป็นหนังที่ "เล่าเรื่อง", "เล่าเรื่อง" และ "เล่าเรื่อง"

ซึ่งหากคนดูนิ่งพอที่จะนั่งมองเรื่องเล่าต่างๆเหล่านั้นไปได้จนสุดท้าย

ก็จะสามารถเพลินไปได้ (ในระดับหนึ่ง) กับหนังจนจบเรื่องครับ



หลังดูหนังจบโทรไปหา พี่วิน แต่ พี่วิน กดตัดสาย!!!


.


.


.


.


.


.


.


.


.




แล้วก็ใช้เบอร์ออฟฟิศ (ทรัพยากรอันทรงคุณค่า) โทรกลับมาครับ อิอิ

คุยเรื่องหนังกันอยู่พักนึงก่อนจะได้ฤกษ์กลับบ้าน






เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับ Tokyo Sonata (เหรอ? ):


ระหว่างดูหนังเรื่องนี้อยู่ นัท-คุง เกิดความรู้สึกอยากไปตัดผม

หลังจากไม่ได้ตัดมาราวๆ 7 เดือน

โดยการไปตัดผมครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2551

ก่อนการเดินทางไกลไปเชียงใหม่กับ แก๊งก์จตุรเทพทั้งสาม

นับรวมเวลาก็ประมาณ 7 เดือนเศษๆแล้ว

ทีแรกตั้งใจไว้ว่าจะทำสถิติให้ปี 2551 นี้ นัท-คุง เข้าร้านตัดผมแค่ครั้งเดียว

ซึ่งที่ผ่านมาแต่แรกเกิดจนอายุยี่สิบเศษๆ () อย่างปัจจุบัน

เคยเข้าร้านตัดผมน้อยครั้งที่สุดก็แค่ปีละสามครั้ง

จึงพยายามยื้อยุดฉุดกระชากตัวเองจากการไปตัดผมมาตลอดในช่วงเวลาดังกล่าว

แม้จะโดนผู้คนรอบข้างกดดันอย่างหนักหน่วงก็ตาม


แต่ในที่สุด หลังจากดูหนังเรื่องนี้

วันรุ่งขึ้น 5 ธ.ค. 2551 นัท-คุง ก็เข้าร้านตัดผมไปตัดผมแต่โดยดีซะงั้น






เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากการไปตัดผมครั้งที่สองในปี 2551:


นอกจาก น้องทายนี่-จัง ที่สังเกตเห็นในแว่บแรกที่ปะกันว่า นัท-คุง ไปตัดผมมาแล้ว

คนอื่นๆนี่ไม่คิดงั้นเลยอ่ะ มีถามกลับด้วยว่า ... อย่างเนี้ยนะเรียกว่าไปตัดแล้ว?

น้องชายของ นัท-คุง เพิ่งรับรู้รับทราบหลังจากพิศในระยะห่างสองศอกเป็นครั้งที่สาม

ส่วน ปาป๊า กับ มาม๊า ยังไม่ค่อยเชื่อจนบัดนี้ว่าไปตัดผมมาแล้ว















...



















-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --














 

Create Date : 29 มกราคม 2552
25 comments
Last Update : 29 มกราคม 2552 13:47:38 น.
Counter : 603 Pageviews.

 
 
 
 
+ มีลงวันที่ดู กับบรรยากาศ (เน้นการกิน) ไว้ด้วยแฮะ ละเอียดดีครับ ชอบๆ

+ ใช่ครับ ... ดูแล้วก็ไม่น่าเชื่อว่า Burn คือผลงานเรื่องถัดมาของ ผกก. ดูโอพี่น้อง ที่เพิ่งจะได้ออสการ์หมาดๆ จากหนังฆาตกรโรคจิตสุดเข้มอย่าง No country for old men ... แต่ถ้าย้อนกลับไปถึงงานเก่าๆ ก่อนหน้า เรื่องนี้นับว่าเค้ากลับคืนสู่ "รากเหง้า" ของเค้าเองจริงๆ (พี่ติดใจพวกเค้า มาตั้งแต่ Fargo แล้วอ่ะครับ)

+ อีกอย่าง เพิ่งทำหนังมีสาระไปหมาดๆ ก็ต้องพักสมองด้วยหนังเบาๆ ขำหึๆ เสียดสี ตลกร้าย แถมตอนจบ ยังบอกประมาณะว่า "อย่ามาหาสาระอะไรจากหนังเรื่องนี้ ในโลกนี้ยังมีเรื่อง absurd กว่านี้อีกเยอะแยะไป ... สะใจพอๆ กับตอนจบเรื่อง Wanted เลยอ่ะครับ เหอๆ "

+ รู้สึก 20th ภาค 2 จะเข้าเดือนหน้านี้แล้วนะครับ (เห็นในตารางเฉลิมไทย) พี่ว่าเดือนหน้าได้ดูหนังตาแฉะแน่ มีแต่หนังรางวัลทั้งนั้น แถมยังมีหนังปกติมาแจมอีกอ่า

+ ของ "กินเล่นขำๆ" นี่ดูยิ่งใหญ่ดีนะครับ เป็นพี่ต้อง กินจริงๆ เลยนะนั่น เหอๆ

+ Twilight ถ้าเป็นคนชอบหนังแอ๊คชั่น ไม่ชอบหนังโรแมนติค คงเบื่อตายเลยแหละครับ แต่ถ้าดูโรแมนติคหรือดราม่าได้ พี่ว่าก็โอนะ ดูได้เพลินๆ เรื่อยๆ ถึงแม้จะไม่มีปมที่ขมวดเข้มๆ สักเท่าไหร่ก็ตามที

+ ดู Tokyo sonata เสร็จ แล้วอยากตัดผม ... ตามลูกชายคนโต ที่ตัดออกมาแล้วหน้าเปลี่ยน ใสกิ๊ง เลยรึเปล่าอ่ะครับ?

+ ขอบคุณด้วยเน้อ ที่ขนาดตัดสายแล้วยังอุตส่าห์ส่ง sms มาบอก จริงๆ ถ้าไม่ว่าง ดูจบค่อยโทรมาก็ได้ ถ้าตัดสายก็รู้อยู่แล้วว่าติดธุระอยู่ ... ช่างเป็นคนดีซะจริงๆ ... ว่าแต่ Tokyo sonata ดูคนเดียว แปลว่าไม่มีคนอยากดูเรื่องนี้ด้วยเหรอฮับ?

+ ต่อไปนอกจากบล็อกหนังสือ, บล็อกทริป แล้วนัท-คุงก็คงต้องมีบล็อกหนังมาแซมเรื่อยๆ แบบนี้ด้วยแล้วมั้งเนี่ย เพราะพักหลังเหมือนจะได้ดูหนังบ่อยขึ้นนี่นาครับ
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:14:57:10 น.  

 
 
 

ข้องใจ โตเกียวโซนาต้าทำให้อยากไปตัดผมได้ยังไง

เอ็กเวิร์ดในหนังไม่หล่ออออ ไม่ชอบ ชอบตอนเป็นเซดริกมากกว่า ถ้าเปลี่ยนพระเอก อาจไปดูก็ได้นะ

ตอนดูเบิร์น ผ่านไปเกือบครึ่งแรกไม่มีใครหัวเราะเลยอ่า จนครึ่งหลังมีเสียงหึๆๆ เล็ดรอดเป็นระยะ แต่ "ฮ่าๆ" เสียงหนึ่งตั้งแต่ต้นจนจบ เดาได้นะว่าเป็นเสียงใคร เง๊าเหงา หัวเราะอยู่คนเดียว
 
 

โดย: อั๊งอังอา วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:15:01:55 น.  

 
 
 
ู^
อ้อ นั่นคือเหตุดลใจให้ไปตัดผม
 
 

โดย: อั๊งอังอา วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:15:04:45 น.  

 
 
 

แหมๆๆ ก็พระเอกแวมไพร์นี่เค้าก็ ล้ออออ หล่ออออ จริงๆนี่น้า ดูหนังไปก็ดูแต่หน้าพระเอกอะ

เฮ้อ นี่เค้าเรียกว่า"หงส์คืนฟอร์ม" แล้วจริงๆเหรอฟระเนี่ย
 
 

โดย: juriojung วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:23:09:35 น.  

 
 
 
นัทคุงคิดจะตัดผมปีละครั้งจริงๆหรอคะ
เสียดายไม่ได้ไปดู son of rambo เห็นโฆษณาแล้วน่ารักดี

แต่เราดูยังไงเอ็ดเวิร์ดในหนังก็ไม่หล่ออ่ะ กรามใหญ่
 
 

โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:4:17:22 น.  

 
 
 
กร๊ากกกกกกกกกก

แต่ก็ยังดีที่น้องทายนี่-จังเห็นนะ ถ้าไม่เห็นแสดงว่าเค้าไม่ได้ใส่ใจเราเลย ละเอียดอ่อนใช้ได้นะนี่

ทุกเรื่องที่เจ้าดู เราไม่ได้ดูสักเรื่อง เราดูหนังน้อยมากๆ อ้ะ




จะพยายามรู้เท่าทัน "กองไฟ" แล้วกันเน้อ


อ้าว..เหรอ..แหะๆ งั้นเอาไว้สักวันคงได้เจอแบบไดร์ผมนะ (เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ฟร่ะ เหอๆ)

จะรออ่านแท็กนะ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:9:16:24 น.  

 
 
 

นัท-คุง ดีกว่าผม

ผมไม่ค่อยจะได้ดูหนังบ่อย ดูเพียงเรื่องที่สอง ที่ลิโด้ เรื่องเดียว

แต่ตัดผมบ่อยกว่า เพราะ 14 วันตัดครั้ง

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ซาดิสต์กว่า



 
 

โดย: yyswim วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:13:30:22 น.  

 
 
 
ทราบจากคุณวินว่านัท-คุงอัพบล็อคแล้ว เลยรีบเข้ามาชม

หนังที่นัท-คุงว่ามาพี่ได้ดู Twilight เรื่องเดียว แต่ไม่ชอบอ้ะ ขนาดเตรียมใจมาแล้วว่าหนังมันจะไม่แอคชั่นก็ยังไม่สนุกอยู่ดี ไปดูกับแฟนสองคนเกือบหลับคาโรง

ส่วน Burn นี่อยากดูมาก แต่โรงหนังแถวนี้ไม่เอามาฉาย แผ่นผีที่ได้มาก็เป็นแผ่นซับนรก (สมน้ำหน้า) ดูไปได้หน่อยเดียวก็ต้องปิด เซ็งจริงๆ

ปีนึงตัดผมครั้งเดียว ทำได้งัยอ้ะ ของพี่แค่สามอาทิตย์สารรูปก็ไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว (แสดงว่านัท-คุงคงเป็นคนหน้าตาดีมาก ทรงผมไม่มีผลต่อใบหน้า)

แล้วได้ดูสามก๊กรึยัง?
 
 

โดย: แฟนผมฯ IP: 117.47.31.80 วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:13:37:29 น.  

 
 
 
อาหารญี่ปุ่นน่ากินท๊างน๊าน
เป็นอีกหนึ่งปีที่พี่ไม่ได้เข้าโรงหนัง
อยากเห็นทรงผมที่เหมือนไม่ตัดนั่นจัง
 
 

โดย: คุณย่า วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:13:57:10 น.  

 
 
 
...






-- บลูยอชท์ / ผมชอบช็อตที่ หัวหน้าสูงสุด แกบอกให้จ่ายเงินให้เจ๊โรงยิมอ่ะครับ...ขำแทบตาย

+ อ่าวเหรอครับ? จะเข้าเครือลิโด้ป่าวเนี่ย? ไม่เห็นโปสเตอร์เลย

+ ~แง้ว ... ไม่เกี่ยวไรกะ ลูกชายคนโต นั่นเลยอ่าพี่
คือระหว่างดูนี่รู้สึกว่าชีวิตมันเบาหวิวอะไรประมาณนี้อ่ะครับ นึกภาพดูว่าถ้าไปตกที่นั่งเป็น คนพ่อ จะทำไงดี?
แล้วอย่างไรสักอย่าง ... ก็นึกตัดผมซะงั้นครับ





-- อั๊งอังอา / นั่นดิครับ พี่นิก ผมก็ว่าหน้าตางั้นๆ

+ ตอบเหมือนข้อสุดท้ายของ พี่วิน ด้านบนเน้อ





-- juriojung / มองไกลแบบลูกเสือสามัญฯไป ยุโรป ดีกว่าครับ





-- Kai-Au / ดูในโรงฯ รู้สึกเป็น เจบิ๊คส์ อ่ะนะครับที่ได้ลิขสิทธิ์ไป เดี๋ยวก็มีดีวีดี





-- สาวไกด์ใจซื่อ / เหะเหะ

+ เมื่อสัก 1.5 ปีก่อนผมก็ดูหนังน้อยยิ่งกว่าน้อยครับ (ในโรงฯนะ)
หลังๆแบบว่าอ่านโน่นอ่านนี่มีที่เกียวโยงกับหนังเยอะ ก็เลยหาเวลาไปดูเป็นเรื่องเป็นราวดีกว่า

เพราะของแบบนี้นี่ถ้าแหย่เท้าเข้าไปแล้วมันจะแบบ "ได้ฤกษ์" ต้องเข้าไปบ่อยๆครับ





-- yyswim / โห...งี้ ลุค ก็คงเดิมตลอดเลยจิครับ
ยิ่งพี่ออกกำลังกายบ่อยๆด้วย





-- แฟนผมฯ / แปลว่าชีวิตพี่เลยช่วงพีคกุ๊กกิ๊กมาแล้วครับ อิอิ

+ เดี๋ยวก็มีแผ่นออกครับผม เจบิ๊คส์ นะครับรู้สึกว่างั้น
เมื่อวานอ่าน เอนเตอร์เทน ฉบับรายปี เรื่องนี้ติดอันดับ 1 ใน 40 หนังทำเงินสูงสุดทั่วโลกด้วยครับ

+ แสดงว่านัท-คุงคงเป็นคนหน้าตาดีมาก ทรงผมไม่มีผลต่อใบหน้า
นี่ล่ะครับอย่างที่ผมเคยว่าไว้ ... ผมกะ พี่โอ๊ต น่าจะคบหากันได้ยาวๆแน่นอน

+ ดูมาแล้วครับ สุดยอดดดดดดดดดดดด...!!!





-- คุณย่า / เหะเหะ ไม่เห็นดีกว่าครับ จะได้จินตนาการไปในทางที่ดี














-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --







 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:14:31:51 น.  

 
 
 
เอ๊ะ เราว่าเราเห็นแต่บล็อกของกินอะ


พี่พูห์จะเอาไปทำมะ TAG นั่นอะ 5 5
 
 

โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:16:26:28 น.  

 
 
 
บล็อกหนังหรือกินกันแน่ 555
เออ พรุ่งนี้ไปบุฟเฟต์กันป่ะ ไงโทรหาหมีด้วยนะ

ปล. ได้มาจากไหนเล่มละ 100
บอกมาเดี๋ยวเน้ๆๆๆๆ ไม่งั้นแช่งให้เสมออีก

=)
 
 

โดย: hunjang วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:16:58:03 น.  

 
 
 
...




ตอบสักหน่อยก่อนกลับบ้าน




-- แพนด้ามหาภัย / ได้แล้วค้าบ พี่วิน มอบหมายมา อิอิ





-- hunjang / เจซี.สาส์น อ่าครับ ยังอยู่ เตาปูน เหมือนเดิมป่าวอ่า? ค่อนข้างไปสะดวกเลยนะครับ ตั่วเจ้ อ่ะ

+ ~แง้ว มีอีกแล้วเหรอ

คราวก่อนก็ไม่ได้ไป โออิชิ ทีแล้ว

วันพรุ่งไปฟังธรรมบ่ายอ่าครับ พระอาจารย์สุเมโธ มาบรรยายที่ยุวพุทธฯ









-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --






 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:17:08:48 น.  

 
 
 
อะนะ..ตลาดก็มีของขายดิ..คิดได้งายยยเนี่ย..

หนังเรื่องที่สองอยากดู..เห็นโปสเตอร์แบบนี้ไม่ได้ชอบๆ..ว่าแต่กินแต่อาหารญี่ปุ่น ขนาดเชสเตอร์ยังถ่ายออกมาได้เหมือนอาหารญี่ปุ่นเลย..

มีความสุขมากๆจ๊า
 
 

โดย: Why England วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:18:33:37 น.  

 
 
 
ดีจ้านัท-คุง

เรื่อง Burn After Read มีอยู่ในมือแล้ว เปิดดูได้
ประมาณ 10 นาทีก็ต้องปิดเพราะว่าคนข้างๆ ดันอยากดู
อย่างอื่นก่อน เลยยังไม่ได้ดูเลยอ่ะ สงสัยว่าวันหยุดนี้
อาจจะต้องเปิดดูแล้วล่ะ เพราะว่าหลายๆ คนบอกมา
ว่าสนุก ก็ต้องดูกันล่ะ ...


ส่วนเรื่อง Tokyo Sonata เป็นเรื่องเล่าครอบครัวที่ฟังดูแล้ว
น่าดูเชียวล่ะ เรื่องความเบื่อของหนังดราม่าอาจจะ
ต้องทำใจ อยากดูภาพสวยๆ การเล่าเรื่องดีๆ บางทีก็ต้องยอม
กันบ้างอ่ะเน๊าะ ... อยากดูจัง แต่ว่ากว่าจะต้องรอแผ่น
อาจจะนานสักนิดก็ได้มั้งเนี่ย ... เพราะตอนนี้บ่มีแผ่น
บ่มีอะไรเลย อยากดูมากๆ


สงสัยเพราะว่าหมดไฟกับการเป้นวัยร่นไปแล้วแหงๆ
เพราะหนังเรื่อง Twillight ที่เค้าบอกว่าพระเอกหล่อนักหนา
พี่เองก็ไม่ได้ตั้งความหวังว่าต้องดูเหมือนกัน ... สงสัยว่า
หล่อกินไม่ได้ เลยเอาไว้ก่อ่น ฮ่าๆๆๆๆ น่านนน คนเรา
 
 

โดย: JewNid วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:6:45:52 น.  

 
 
 
ฺีิBurn นี่อย่างฮาเลยครับโดยเฉพาะเฮียแบรด พิตต์ ฉากที่โทรศัพท์แบล็คเมล์ซีไอเอ มิสเตอร์ ออสสสสบอร์นนนน

ส่วน Tokyo sonata นี่ผมชอบเอามากเลยนะ แรกๆนึกว่ากำลังนั่งดูภูเขาไฟที่รอวันปะทุตอนท้าย แต่กลายเป็นผมนั่งดูยามมืดที่สุดก่อนตะวันจะขึ้นซะนี่ สุดยอดๆ
 
 

โดย: jonykeano วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:15:06:55 น.  

 
 
 
อยากฮา ๆ แบบคุณนัทตอนดูเรื่องแรกม่างแล้วสิ

แต่ว่าืัที่อยากกว่าคือ ฮาจิบัง เรเมน น่ะ

สบายดีนะคุณนัท-คุง
 
 

โดย: Envi_NY วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:15:11:21 น.  

 
 
 
ทั่นเทพตอร์กลับมาแล้วเว้ยยย
 
 

โดย: juriojung วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:01:09 น.  

 
 
 
^
^
แล้วตอนเสมอติดๆ กันหลายนัด หายศีระษะไปไหนมิทราบ

แต๊งค์กิ้วนะนัทคุง .. สงสัยต้องรอซื้อ lot ใหญ่แล้วค่อยไปทีเดียว
ไม่งั้นรวมค่ารถแล้วคิดว่าคงมะคุ้ม อิอิ

-- ปล. ตกลงนี่น้องสะตอเรสเสร่อเหรอนี่

=)
 
 

โดย: hunjang วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:7:30:47 น.  

 
 
 
...






ว่าจะอัพบล็อกสักหน่อย

แต่งานยังครีเอทไม่เสร็จ ไม่กล้าคิดการใหญ่










-- Why England // ที่ภาพเชสเตอร์เหมือนอาหารญี่ปุ่นนี่ คงเพราะมีจานซูชิวางตรงกลางมั้งครับ?

+ ขอบคุณครับผม ขอให้มีสุขมากๆเช่นกัน




-- JewNid // ได้ดูรึยังครับพี่?

+ ส่วน Tokyo Sonata ก็คงออกมาในอีกไม่ช้านานอ่าครับพี่
เพราะเมื่อวานไปร้านดีวีดีก็เห็น Son of rambow มีขายแล้ว




-- jonykeano // แต่ฮาสุดๆสำหรับผมก็ต้องเป็นฉากสุดท้ายที่ หัวหน้าหน่วยฯ แกอนุมัติจ่ายเงิน คุณป้าโรงยิม ไปทำศัลยกรรมอ่าครับ




-- Envi_NY // กิน ราเม็ง วันละนิดจิตแจ่มใส




-- juriojung // ราฟา เวอร์ชั่นแชมป์ยุโรป กลับมาด้วยก็ดีนะครับ




-- hunjang // อ่าฮะ ของผมพอดีมีเรื่องอื่นๆด้วยไงก็เลยคุ้ม ใช้บัตรบีทีเอสเที่ยวไป (เที่ยวกลับไม่คิด) 20 บาทเอง

+ คิดว่าถ้ายังเสมออีกอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากก้นบึ้งของ ราฟา บ้างอ่าครับ แต่ชนะก็ ...












-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --









 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:11:02 น.  

 
 
 
มือลื่นเรอะ ทำถ้วยหล่นอีกแระ

ลูคัส สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด



=)
 
 

โดย: hunjang วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:09:50 น.  

 
 
 
เข้ามาสรรเสริญลูคัส เลว่าอีกคนครับ

ลูกรักของป๋า สุดยอดดดดดดดดดดดด
 
 

โดย: jonykeano วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:35:18 น.  

 
 
 
^
^
โอววว ... 2 คนข้างบน ทับถมกันเห็นๆ (ขอให้ปืนพี่อย่าตามรอยหงส์ไปอีกทีมล่ะ แหะๆ)
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:55:50 น.  

 
 
 
บล๊อกนี้คงไม่ใช่ Movie diary อย่างเดียวแล้วหล่ะคับ

Movie and food diary

ps. ชอบอาหารญี่ปุ่นเหมือนกันเลย
 
 

โดย: foscarnet วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:49:03 น.  

 
 
 
...









-- hunjang ///




-- jonykeano ///




-- บลูยอชท์ ///




-- foscarnet ///












-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --




 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:02:43 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

The Legendary Midfielder
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




...
" เพราะเหตุนี้มี ผลนี้จึงมี, เพราะเหตุนี้เกิด ผลนี้จึงเกิด, เพราะเหตุนี้ดับ ผลนี้จึงดับ
" หากปรารถนาผลอันดี พึงสร้างเหตุสร้างปัจจัยอันดี "


...
" ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ "


...
" ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต
กลับใจจะพบฟากฝั่ง "


...
"หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น
"ทำกรรมดีย่อมได้รับผลของกรรมดี ทำกรรมชั่วก็ย่อมได้รับผลของกรรมชั่ว"



...
"...กฎแห่งกรรมไม่เคยผิดพลาดมาก่อน
"ไม่ว่าเราจะประสบพบกับคราวเคราะห์หนักหนาสาหัสแค่ไหน
"ให้ระลึกไว้ว่านั่นเป็นสิ่งที่สมควรและสาสมแก่เราแล้ว
"เป็นเพราะเราได้สร้างเหตุนั้นๆมาก่อน
"ผลเช่นนี้จึงตามมา..."

[Add The Legendary Midfielder's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com