แบร์แนแด็ท....น่ารัก....น่ารัก ขี้ลืม.....ขี้ลืม ...... หนังปายหนายหว่า buy แล้ววbuyอีก......... faith, hope and charity เฟศบุ๊ค http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
20 เมษายน 2551
 
All Blogs
 

The Biblical World: An Illustrated Atlas No.5

CHAPTER EIGHT

เอเสเคียล 37:26
37:26 เราจะกระทำพันธสัญญาสันติภาพกับเขา จะเป็นพันธสัญญานิรันดร์แก่เขา และเราจะตั้งเขาไว้และให้เขาทวีขึ้น และเราจะวางสถานบริสุทธิ์ของเราไว้ท่ามกลางเขาเป็นนิตย์


Ezekiel 37:26
26
I will make with them a covenant of peace; it shall be an everlasting covenant with them, and I will multiply them, and put my sanctuary among them forever.



Ezekiel 37: 15-22
2เอเซเคียล บทที่ 15-22 เป็นสัญญาลักษณ์แสดงถึง การรวมกันจงรักภักดี ในความหมายที่สำคัญ ในอนาคต การรวมตัวของอิสราเอลกะยูดาห์ ภายใต้การปกครองหนึ่งเดียวของพระเมสิอาห์ พระผู้ช่วยให้รอด

[15-22] The symbolic action of joining two sticks into one signifies the future union of Israel and Judah under one messianic King.

พระเมสิอาห์
The Greek form Messias is a transliteration of the Hebrew, Messiah, "the anointed". The word appears only twice of the promised prince (Daniel 9:26; Psalm 2:2); yet, when a name was wanted for the promised one, who was to be at once King and Saviour,
Source ://www.newadvent.org/cathen/10212c.htm
ภาษากรีก Messias ถ่ายทอดตัวอักษรมาจากภาษาฮิบรูMessiah "การเจิมด้วยน้ำมัน" คำนี้ปรากฎ 2 ครั้ง ในพันธสัญญาเดิม แดเนียล Daniel 9:26; บทเพลงสดุดีPsalm 2:2 บัดนี้ เมื่อชื่อนี้คือพันธสัญญาของผู้หนึ่ง ผู้ซึ่งเป็นกษัตริย์ และพระผู้ช่วยให้รอด



ขอแสกนแหละ ยาวเจงเจง





15
2 Thus the word of the LORD came to me:
16
Now, son of man, take a single stick, and write on it: Judah and those Israelites who are associated with him. Then take another stick and write on it: Joseph (the stick of Ephraim) and all the house of Israel associated with him.
17
Then join the two sticks together, so that they form one stick in your hand.
18
When your countrymen ask you, "Will you not tell us what you mean by all this?",
19
answer them: Thus says the Lord GOD: (I will take the stick of Joseph, which is in the hand of Ephraim, and of the tribes of Israel associated with him, and I will join to it the stick of Judah, making them a single stick; they shall be one in my hand.
20
The sticks on which you write you shall hold up before them to see.
21
Tell them: Thus speaks the Lord GOD:) I will take the Israelites from among the nations to which they have come, and gather them from all sides to bring them back to their land.
22
I will make them one nation upon the land, in the mountains of Israel, and there shall be one prince for them all. Never again shall they be two nations, and never again shall they be divided into two kingdoms.

เอเสเคียล 37:15-22
ขอยืม KJVไบเบิ้ลอะ
37:15 พระวจนะของพระยาห์เวห์มายังข้าพเจ้าอีกว่า
37:16 "เจ้า บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงเอาไม้มาอันหนึ่งเขียนลงว่า `สำหรับยูดาห์ และสำหรับชนอิสราเอลที่สังคมกับยูดาห์' จงเอาไม้มาอีกอันหนึ่งเขียนลงว่า `สำหรับโยเซฟ ไม้ของเอฟราอิม และวงศ์วานอิสราเอลทั้งสิ้นที่สังคมกับโยเซฟ'
37:17 เอาไม้ทั้งสองมารวมกันเข้าเป็นอันเดียว เพื่อเป็นไม้อันเดียวในมือของเจ้า
37:18 และเมื่อชนชาติของเจ้ากล่าวแก่เจ้าว่า `ท่านจะไม่สำแดงให้เราทราบหรือว่า ไม้นี้หมายความว่ากระไร'
37:19 จงกล่าวแก่เขาว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะเอาไม้ของโยเซฟ ซึ่งอยู่ในมือของเอฟราอิม และตระกูลอิสราเอลที่สังคมกับเขา และเราจะเอาไม้ของยูดาห์มารวมเข้าด้วย และกระทำให้เป็นไม้อันเดียวกัน เพื่อให้เป็นไม้อันเดียวในมือของเรา
37:20 และไม้ซึ่งเจ้าเขียนไว้นั้นจะอยู่ในมือของเจ้าต่อหน้าต่อตาเขา
37:21 แล้วจงกล่าวแก่เขาว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะนำคนอิสราเอลมาจากท่ามกลางประชาชาติ ซึ่งเขาได้เข้าไปอยู่ด้วยนั้น และจะรวบรวมเขามาจากทุกด้านและนำเขามายังแผ่นดินของเขาเอง
37:22 และเราจะกระทำให้เขาเป็นประชาชาติเดียวในแผ่นดินนั้นที่บนภูเขาทั้งหลายแห่งอิสราเอล และจะมีกษัตริย์แต่พระองค์เดียวปกครองอยู่เหนือเขาทั้งสิ้น เขาจะไม่เป็นสองประชาชาติอีกต่อไป และจะไม่แยกเป็นสองราชอาณาจักรอีกต่อไป



ดาเนียล 2:36-45
2:36 นี่เป็นพระสุบิน พระเจ้าข้า บัดนี้เหล่าข้าพระองค์ขอกราบทูลคำแก้พระสุบินต่อพระพักตร์กษัตริย์

กรุงบาบิโลนของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ คืออาณาจักรโลกแห่งแรก

2:37 โอ ข้าแต่กษัตริย์ กษัตริย์จอมกษัตริย์ทั้งหลาย ซึ่งพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ได้ทรงประทานราชอาณาจักร อานุภาพ ฤทธิ์เดชและสง่าราศี
2:38 และได้ทรงมอบไว้ในหัตถ์พระองค์ท่านซึ่งบุตรทั้งหลายของมนุษย์ สัตว์ในทุ่งนาและนกในอากาศไม่ว่ามันจะอาศัยอยู่ ณ ที่ใดๆให้แก่พระองค์ กระทำให้พระองค์ปกครองมันได้ทั้งหมด เศียรทองคำนั้นคือพระองค์เอง

อาณาจักรโลกแห่งที่สองและสาม คือมีเดียเปอร์เซียและกรีก

2:39 ต่อจากพระองค์ไปจะมีราชอาณาจักรด้อยกว่าพระองค์ และยังมีราชอาณาจักรที่สาม เป็นทองเหลือง ซึ่งจะปกครองอยู่ทั่วพิภพ

อาณาจักรโลกแห่งที่สี่ คือโรม

2:40 และจะมีราชอาณาจักรที่สี่แข็งแรงดั่งเหล็ก เพราะเหล็กตีสิ่งทั้งหลายให้หักเป็นชิ้นๆและปราบสิ่งทั้งปวงลงได้ ราชอาณาจักรนั้นจะหัก และทุบสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ดังเหล็กซึ่งทุบให้แหลก
2:41 ดั่งที่พระองค์ทอดพระเนตรเท้าและนิ้วเท้า เท้าเป็นดินช่างหม้อบ้าง เหล็กบ้าง จะเป็นราชอาณาจักรประสม แต่ความแข็งแกร่งของเหล็กจะยังอยู่ในนั้นบ้าง ดังที่พระองค์ทอดพระเนตรเหล็กปนดินเหนียว
2:42 และนิ้วเท้าเป็นเหล็กปนดินฉันใด ราชอาณาจักรนั้นจึงแข็งแรงบ้างเปราะบ้างฉันนั้น
2:43 ดังที่พระองค์ทอดพระเนตรเหล็กปนดินเหนียว ราชอาณาจักรจะปนกันด้วยเชื้อสายของมนุษย์ แต่จะไม่ยึดกันแน่นไว้ได้อย่างเดียวกับที่เหล็กไม่ประสมเข้ากับดิน

หลังจากอาณาจักรโรมคืนมาใหม่แล้ว อาณาจักรของพระคริสต์จะตั้งขึ้น

2:44 และในสมัยของกษัตริย์เหล่านั้น พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์จะทรงสถาปนาราชอาณาจักรหนึ่ง ซึ่งไม่มีวันทำลายเสียได้ หรือราชอาณาจักรนั้นจะไม่ตกไปแก่ชนชาติอื่น ราชอาณาจักรนั้นจะกระทำให้บรรดาราชอาณาจักรเหล่านี้แตกเป็นชิ้นๆถึงอวสาน และราชอาณาจักรนั้นจะตั้งมั่นอยู่เป็นนิตย์
2:45 ดังที่พระองค์ทอดพระเนตรก้อนหินถูกตัดออกจากภูเขามิใช่ด้วยมือ และก้อนหินนั้นได้กระทำให้เหล็ก ทองเหลือง ดิน เงิน และทองคำแตกเป็นชิ้นๆ พระเจ้ายิ่งใหญ่ได้ทรงให้กษัตริย์รู้ว่าอะไรจะบังเกิดมาภายหลังนี้
พระสุบินนั้นเที่ยงแท้และคำแก้พระสุบินก็แน่นอน"

ดาเนียล ข้อที่ 36-45 อาณาจักรทั้งสี่ประสบความสำเร็จ ในทัศนคติมุมมองของการ บันทึกทางศาสนาของยิวหรือคริสเตียน (ระหว่างช่วง 200 ปี ก่อนคริสตศักราชถึงปีคริสตศักราชที่ 300)กะคือ the Babylonian (gold)บาบิโลนเปรียบเทียบกะทองคำ, the Median (silver) มีเดียน เปรียบกะเงิน, the Persian (bronze)เปอร์เซียเปรียบกะทองเหลือง, and the Hellenistic วัฒนธรรมกรีกเคยถูกอเล็กซานเดอร์พิชิตต่อมาเป็นของโรมัน(iron)โรม=เหล็ก.

และในที่สุดหลังจากพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชสิ้นพระชมน์ คือความแบ่งแยกโดยปรกติ ดูแดเนียล (Daniel 2:41-42). ผลคือทำให้สองอาณาจักรซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจชาวยิวมากที่สุด คือ ราชวงค์Ptolemies แห่งอียิปต์ และ The Seleucids แห่งซีเรียผู้ซึ่งพยายาม เห่อเหิม จากสงครมและการไปสู่การแต่งงานระหว่างหญิงชายที่มีชนชาติศาสนาหรือเผ่าพันธุ์ต่างกัน เพื่อฟื้นฟูกลับให้สู่สภาพเดิมของอาณาจักรอเล็กซานเดอร์ ดู แดเนียล (Daniel 2:43).

ก้อนหินถูกตัดออกจากภูเขา คือ อาณาจักรของพระเมสิอาห์ อาณาจักรแห่งความรอด ที่ชาวยิวรอคอย ดู แดเนียล (Daniel 2:44-45)
พระเจ้าของเราทรงสะท้อนให้เห็นมโนภาพ เกี่ยวกับรูปลัษณ์ภายนอกเพื่อแสดงให้เห็นถึงพระองค์เอง ดู ลูกา cf Luke 20:17-18.

ลูกา 20:17-18
20:17 ฝ่ายพระองค์ทรงเพ่งดูเขาและตรัสว่า "เหตุฉะนั้นพระวจนะซึ่งเขียนไว้นั้นหมายความอย่างไรกันซึ่งว่า `ศิลาซึ่งช่างก่อได้ปฏิเสธเสีย ได้กลับกลายเป็นศิลามุมเอกแล้ว'
20:18 ผู้ใดล้มทับศิลานั้น ผู้นั้นจะต้องแตกหักไป แต่ศิลานั้นจะตกทับผู้ใด ก็จะบดขยี้ผู้นั้นจนแหลกเป็นผุยผง"


Luke 20:17-18

17
But he looked at them and asked, "What then does this scripture passage mean: 'The stone which the builders rejected has become the cornerstone'?
18
Everyone who falls on that stone will be dashed to pieces; and it will crush anyone on whom it falls."




ดาเนียล 9:27
9:27 ท่านจะยืนยันพันธสัญญากับคนเป็นอันมากอยู่หนึ่งสัปดาห์ และในระหว่างกลางสัปดาห์นั้นท่านจะกระทำให้การถวายสัตวบูชา และเครื่องบูชาอื่นๆหยุดไป และเพราะเหตุมีความสะอิดสะเอียนแพร่กระจายไปทั่ว ท่านจะกระทำให้มันร้างเปล่าจนสำเร็จเสร็จสิ้น และสิ่งที่กำหนดไว้จะถูกเทลงเหนือผู้ที่ร้างเปล่านั้น"


ดาเนียล บทที่ 9 ข้อ 27 1 อาทิตย์ คือ มุมมองมิติที่มองเห็ฯในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ของ king Antochus ปกครอง the Hellenistic ได้เบียดเบียน ในทัศนะของพระองค์ ความศรัทธาของชาวยิว ผู้ซึ่งเป็นพันธมิตร์กับคนนอกศาสนา ดู มัคคาบี cf 1 Macc 1:11-13

ครึ่งอาทิตย์ต่อมา 3วันครึ่งดู มัคคาบี Macc 7:25. พระวิหารถูกทำลายโดย King Antiochus จากปี 167 -165 B.C.E. ความหน้ากลัวสยดสยอง ดูดาเนียล Daniel 8:13 บางทีข้อความจารึก ในประตูของพระวิหารเขียนสดุดีที่วิหารของชาวกรีก Olympian Zeus รูปปั้นของเทซุสที่กษัตริย์อันทิโอคัส เอปิฟาเนสได้ตั้งขึ้นในวิหารเยรูซาเล็ม

พระเจ้าของเรากล่าวถึงข้อความการพยากรณ์ของการล่มสลายของเยรูซาเล็ม ดู มัทธิว (Matthew 24:15).

ความทุกขเวทยาอย่างใหญ่หลวงของกรุงเยรูซาเล็ม
มัทธิว 24:15
15 เมื่อใดที่ท่านทั้งหลายเห็นผู้ทำลายที่น่ารังเกียจยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามี่ประกาศกดาเนียลกล่าวไว้


เชิงอรรถ
ประกาศกดาเนียลกล่าวถึงผู้ทำลายที่น่ารังเกียจ ซึ่งอาจหมายถึงรูปปั้นของเทซุสที่กษัตริย์อันทิโอคัส เอปิฟาเนสได้ตั้งขึ้นในวิหารเยรูซาเล็มในปี 167ก่อนคริสตกาล ดู 1 มคบ 1:54 ข้อความนี้นำมาใช้กล่าวถึงก่องทัพโรมันมาล้อมและยึดกรุงเยรูซาเล็ม เทียบ ลก 21-20


Crucifixion by Matthias Grünewald


ดาเนียล 12-2-3
การเป็นขึ้นมาจากความตาย
12:2 และคนเป็นอันมากในพวกที่หลับในผงคลีแห่งแผ่นดินโลกจะตื่นขึ้น บ้างก็จะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ บ้างก็เข้าสู่ความอับอายและความขายหน้านิรันดร์
12:3 และบรรดาคนที่ฉลาดจะส่องแสงเหมือนแสงฟ้า และบรรดาผู้ที่ได้ให้คนเป็นอันมากมาสู่ความชอบธรรมจะส่องแสงเหมือนอย่างดาวเป็นนิตย์นิรันดร์

ข้อความนี้เป็นข้อความสำคัญในพันธสัญญาเดิมที่ยืนยันความเชื่อเรื่องการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตาย เทียบ 2มคบ 7:9 เชิงอรรถ C

ชาวอิสราเอลซึ่งถูกทำลายครั้งแรกดู ดาเนียล (Daniel 11:33-35)จะตื่นขึ้น นั้นคือ การกำเนิดของชีวิตนิรันดร การฟื้นคืนชีพ ในภายหลัง

เรื่องที่สอนของ ชาวคริสเตียน คือ ยอร์น (John 5:28-29)
28 ท่านทั้งหลายอย่าแปลกใจในเรื่องนี้เลย เพราะถึงเวลาแล้วที่ทุกคนในหลุมศพจะได้ยิน พระสุรเสียงของพระบุตรและจะออกมา
29 ผู้ที่ได้ทำความดีและกลับคืนชีวิตมารับชีวิตนิรันดร

เชิงอรรถ เป็นการกล่าวถึงการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตายในวันสุดท้าย เทียบ มธ 22:29-32

คือมีความหมายว่า ถ้าข้อสรุปหลายๆๆอัน แต่ อีกอัน อิสยาห์
Isaiah 66:24

พระพรแห่งอาณาจักรของพระเจ้า
66:24 และเขาจะออกไปมองดูซากศพของคนที่ได้ละเมิดต่อเรา เพราะว่าหนอนของคนเหล่านี้จะไม่ตายไป ไฟของเขาจะไม่ดับ และเขาจะเป็นที่น่าสะอิดสะเอียนต่อเนื้อหนังทั้งสิ้น"
Isaiah 66:24
24
4 They shall go out and see the corpses of the men who rebelled against me; Their worm shall not die, nor their fire be extinguished; and they shall be abhorrent to all mankind.

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible




 

Create Date : 20 เมษายน 2551
26 comments
Last Update : 20 เมษายน 2551 19:04:25 น.
Counter : 5425 Pageviews.

 

 

โดย: shame_of_sins 20 เมษายน 2551 15:36:33 น.  

 

From Exile TO Restoration


A colossal head of Zeus marks the funerary complex of Antiochus I of Commagene at the sanctuary of Nemrut Dagi, Turkey
History records that the kingdom of Commagene was situated on the border of the Seleucid Empire (which followed the empire of Alexander the Great in Anatolia) and the Parthian Empire. In 80 BC, with the Seleucid Empire weakening, the governor of Commagene declared his kingdom's independence. Soon thereafter, a Roman ally named Mithridates I Callinicus proclaimed himself king, set up his capital at Arsameia, and began the short-lived Commagene dynasty. Mithridates died in 64 BC and was succeeded by his son Antiochus I Epiphanes who ruled for 26 years. Commagene was thereafter ruled from Rome or by puppet kings until 72 AD when it was fully incorporated in the Roman Empire.



กับการมาถึง (ของสิ่งสำคัญหรือคนสำคัญ)ในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล ประชากรอิสราเอล ยุคสมัยประชากรอิสราเอลเข้าเข้าไปในการถูกกำจัดหมดสิ้นถูกลบออก กลุ่มประชากรที่แยกออกเป็นส่วนๆที่สำคัญของอาณาจักรยูดาห์ที่เคยต่อสู้ถูกเนรเทศเข้าไปในบาบิโลน และเยรูซาเล็ม ลงรากถึงไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ มันคือกำแพงที่แตกจากการทำลายและรวมถึงพระวิหารของโซโลมอน

อย่างไรกะตาม ประกาศก ได้แก่ เอเซเคียล และ 'Second Isaiah' or 'Deutero-Isaiah' is the name of the chapters 40-55 of the Biblical book of Isaiah, which were added to the 'real' text of Isaiah.

The second prophet predicts the coming of king Cyrus, who will liberate the Jews from their Babylonian Exile and will bring them to the Promised Land.จรรโลง ประชากรให้มีความหวัง ว่าวันหนึ่งประชากรอิสราเอลจะฟื้นฟูอีกครั้ง ขณะเดียวกัน การเป็ฯเชลยของอาณาจักรบาบิโลน ให้แรงผลักดันใหม่ทั้งหมดในการการจัดระเบียบหมวดหมู่กฎหมายหรือกฎเกณฑ์ต่างๆของพระคัมภีร์ ฮิบรู (ซึ่งหลังจากนั้นจะเริ่มว่าเป็ฯพันธสัญญาเก่าของพี่น้องคริสเตียน Old testament) งานที่กำลังถูกประมวลผลอยู่ ยังไม่เสร็จสิ้นจนกระทั้ง ศตวรรษที่ 1 หรือ 2 ของคริสตกาล

ในปี533 B.C.E.อาณาจักรบาบิโลนคงตกอยู่ใน น้ำมือ King of Persia Cyrus the Great ผู้ซึ่งนำการควบคุมพื้นที่ทั้งหมดในดินแดนเมโสโปรเตเมีย ซีเรีย ยูดาห์ และอียิปต์

King Cyrus อนุญาติให้เชลยชาวฮิบรู กลับไปยังดินแดนของพวกเขา ที่ซึ่งในไม่ช้าอย่างสังเกตเห็นได้ชัด มี ข้าหลวง รวมถึง Ezra และ Nehemiah พยายามต่อสู้ ฟื้นฟู และเอาใจใส่เคร่งครัด ในสังคมวิถีของชาวยิว 200ร้อยปี ในภายหลัง เจ้าชายผู้ทรงยังหนุ่ม จาก Macedonพระองค์ทรงเกิดในแผ่นดิน Greece ไขว์ไปทาง Asia และ มีอำนาจอิทธิพล กองทัพที่แน่วแน่ระหว่างทั้งตะวันออกและตะวันออก การพิชิตชัยชนะของพระเจ้า The Alexander th Great จะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดการ พวกเขามองตรงไปยังยูดาห์ภายใต้ช่วงเวลาใหม่ในการเป็นประเพณีนับถือพระเจ้านอกศาสนาพระเจ้าหลายองค์ รู้กันว่า คือ อาณาจักร Hellenism ที่มีอารยธรรม เจริญ ศิวิไลซ์ และประชากรของชาว Hellenes พบหลักฐานทางโบราณคดี ที่ประเทศ กรีก Grecce



During the reign of Antiochus, the naturally occurring mountain top of Nemrut Dagi was extensively contoured, capped with a soaring conical peak, and graced with two temple compounds and many beautiful stone sculptures. The conical tumulus rises 50 meters above the temples, is 150 meters in diameter and is composed of countless thousand fist-sized pieces of white limestone. Archaeologists, assuming the tumulus enshrines the burial remains of Antiochus, have tunneled into the great cone of rocks but found nothing to substantiate their assumptions. The purpose of this massive undertaking remains a mystery.


Apollo - Mithra - Helios - Hermes
Tyche, or the fertility goddess of the Commagene's
Zeus - Oromasdes (Ahuramazda)
Antiochus
Herakles - Artagnes - Ares
Source ://www.sacredsites.com/
Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible


 

โดย: Bernadette 20 เมษายน 2551 19:51:11 น.  

 

สวัสดีคร้าบบบ




โดย: shame_of_sins วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:15:36:33 น.

ตอบ God bless you ka

 

โดย: Bernadette 20 เมษายน 2551 20:02:55 น.  

 

Out of Exile

Source://web.bryant.edu
The Khabur River flows Turkey through Syria to the Euphrates. Some associate it with the Chebar along which the exiled Israelites settled according to th Bible


ในสมัยไม่น้อยกว่า 20ปี ยูดาห์ ทนทุกข์ทรมาน จากการเนรเทศออกจากประเทศ ด้วยน้ำมือของ King Nebuchadnezzar ระหว่างรัชสมัย ของ King Jehoiakimของยูดาห์ในปี 598B.C.E.,King Jehoiachin ในปี 597,King Zedekiah ในปี 586 ฺ และสุดท้ายของการเนรเทศ ในปี 582

พวกเขาเหล่านั้นตกค้างหลองอยู่ เป็นชาวนา และคนเลี้ยงแกะ และทหาร ผู้ซึ่งหลบหนี จากบาบิโลนด้วยความแค้น ทำให้พวกเขาเหล่านั้นเป็นรัฐบาลพลัดถิ่น จาก การปกครองพิเศษ ของเมือง Mizpah ทางตอนเหนือของกรุงเยรูซาเล็ม

ในไบเบิ้ลชาวบาบิโลนสถาปณา Gedliah ครอบครัวของ Shaphan เพื่อปกครองในภูมิภาคของยูดาห์
2 พงศ์กษัตริย์ 25:22
ขอยืมKJVไบเบิ้ลอะ
เกดาลิยาห์ได้รับการตั้งให้เป็นเจ้าเมือง
25:22 พระองค์ทรงตั้งเกดาลิยาห์บุตรชายอาหิคัมบุตรชายชาฟานให้เป็นเจ้าเมืองเหนือประชาชนผู้เหลืออยู่ในแผ่นดินยูดาห์ ผู้ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์บาบิโลนได้ทรงเหลือไว้

2 Kings 25:22

25:22 As for the people who were left in the land of Judah, whom Nebuchadnezzar king of Babylon had left, even over them he made Gedaliah the son of Ahikam, the son of Shaphan, governor.

และความหลากหลายของเจ้าหน้าที่ และทหารที่พ่ายแพ้จากศตรูของชาวยูดาห์ กะปรากฎออกมา จากการซ่อนตัว เจ้าเมืองGedaliah แนะนำพวกเขาให้อยู่อย่างสงบสุข ปราศจากการก่อกบฎ
2 พงศ์กษัตริย์ 25:24
25:24 และเกดาลิยาห์ก็กระทำสัตย์ปฏิญาณแก่เขาและคนของเขาว่า "อย่ากลัวที่จะเป็นผู้รับใช้ของคนเคลเดียเลย จงอาศัยในแผ่นดินและปรนนิบัติกษัตริย์แห่งบาบิโลน แล้วท่านก็จะอยู่เย็นเป็นสุข"
2 Kings 25:24
25:24 Gedaliah swore to them and to their men, and said to them, Don't be afraid because of the servants of the Chaldeans: dwell in the land, and serve the king of Babylon, and it shall be well with you.

เจ้าเมืองแนะนำไม่ให้ฝักใฝ่เจ้าหน้าที่รัฐบาล การตีตัวออกห่างของเจ้าเมือง Gedaliahเป็นการสมรู้ร่วมคิดไส้ศึกทางด้านการเมืองคือ ลอบสังหารเจ้าเมือง ระหว่าง 7เดือนของการปกครอง ต่อจากนั้น เจ้าเมืองกะหลบหนีไปอียิปต์ เป็นไปได้ที่การบอกกล่าวของประกาศก เยเรมีย์ กับพวกเขาเหล่านั้นเกี่ยวกับ ในหนังสือเยเรมีย์ พวกเค้าเหล่านั้น อาจจะเนรเทศออกนอกประเทศหนึ่งในสี่ของการจับกุมโดยแม่ทัพเนรเทศไปภูมิภาคบาบิโลน

king Nebuzaradan ผู้ซึ่ง ส่ง ประชากร 745คน เนรเทศ
เยเรมีย์ 52:30
คนยูดาห์ถูกนำไปเป็นเชลย
52:30 ในปีที่ยี่สิบสามแห่งรัชกาลเนบูคัดเนสซาร์ เนบูซาระดานผู้บังคับบัญชาทหารรักษาพระองค์จับยิวเป็นเชลยเจ็ดร้อยสี่สิบห้าคน รวมคนทั้งหมดเป็นสี่พันกับหกร้อยคน

Jeremiah 52 :30
52:30 in the three and twentieth year of Nebuchadrezzar Nebuzaradan the captain of the guard carried away captive of the Jews seven hundred forty-five persons: all the persons were four thousand and six hundred.

ขณะนี้ การบรรยายถึง 2 พงค์กษัตริย์ ได้จบลงแล้ว และกับ กลุ่มหนังสือที่เรารู้กันเรียกว่า ประวัติศาสตร์ The Deuteronomistic เหมือนกับทางอาณาจักรตอนเหนือ อาณาจักรยูดาห์เคยถูกทำลายด้วยกองกำลังของชาวต่างชาติ นี้คือเหตุผลจาก TheDeuteronomistic จุดประสงค์เพื่อให้เห็ฯมุมมองหรือมิติที่มองเห็น คือ การเพิกเฉยต่อพระบัญญัติของพันธสัญญาของพระเป็นเจ้า YHWH

king Manasseh ในปี 698-643 B.C.E. ได้แนะนำอีกว่า

2 พงศ์กษัตริย์ 21:7
มนัสเสห์ได้ครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พศด 33:1-9)
21:7 ส่วนรูปเคารพสลักจากเสารูปเคารพที่พระองค์ทรงสร้างนั้น พระองค์ทรงตั้งไว้ในพระนิเวศ คือพระนิเวศที่พระยาห์เวห์ตรัสกับดาวิดและซาโลมอนโอรสของพระองค์ว่า "ในนิเวศนี้และในเยรูซาเล็ม ซึ่งเราได้เลือกออกจากตระกูลทั้งสิ้นของอิสราเอล เราจะบรรจุนามของเราไว้เป็นนิตย์
2 พงศ์กษัตริย์ 21:13-14
พระเจ้าทรงเตือนเรื่องความชั่วร้ายของมนัสเสห์
21:13 และเราจะเอาเชือกอย่างที่วัดกรุงสะมาเรียขึงเหนือกรุงเยรูซาเล็ม และใช้ลูกดิ่งอย่างที่วัดราชวงศ์อาหับ และเราจะล้างเยรูซาเล็มอย่างเขาล้างชาม ล้างและพลิกคว่ำ
21:14 และเราจะทอดทิ้งมรดกส่วนที่เหลือของเรา และมอบเขาไว้ในมือศัตรูของเขา และเขาทั้งหลายจะเป็นเหยื่อ และเป็นของริบของศัตรูทั้งสิ้นของเขา
2 Kings 21:7
21:7 He set the engraved image of Asherah, that he had made, in the house of which Yahweh said to David and to Solomon his son, In this house, and in Jerusalem, which I have chosen out of all the tribes of Israel, will I put my name forever;
2 Kings 21:13-14
21:13 I will stretch over Jerusalem the line of Samaria, and the plummet of the house of Ahab; and I will wipe Jerusalem as a man wipes a dish, wiping it and turning it upside down.

21:14 I will cast off the remnant of my inheritance, and deliver them into the hand of their enemies; and they shall become a prey and a spoil to all their enemies;

ตอนนี้ นี้คือ ความน่ากลัว การลงโทษ ของการมาถึงที่ผ่านไป และ เมืองเยรูซาเล็ม ได้ถูกทำลายอย่างพินาศ " ความโดดเดี่ยวของเมืองเป็นไปได้อย่างไรที่ครั้งหนึ่งเมืองนี้เต็มไปด้วยประชากร"

ในตอนหนึ่งของหนังสือ บทเพลงคร่ำครวญ บทเพลงร้องทุกข์ของยิระมะยา Lamentations ในบทกวีร้องคร่ำครวญ ถึงชะตากรรมของเมืองที่พวกเขา

เพลงคร่ำครวญ 1:1-2
เพลงคร่ำครวญบทแรก
1:1 กรุงที่คับคั่งด้วยพลเมืองมาอ้างว้างอยู่ได้หนอ กรุงที่รุ่งเรืองอยู่ท่ามกลางประชาชาติมากลายเป็นดั่งหญิงม่ายหนอ กรุงที่เป็นดั่งเจ้าหญิงท่ามกลางเมืองทั้งหลายก็กลับเป็นเมืองขึ้นเขาไป
1:2 กรุงนั้นร่ำไห้สะอื้นในราตรีกาล และน้ำตาของเธอก็อาบแก้ม เธอจะหาใครท่ามกลางคนที่รักเธอให้มาปลอบเธอก็หาไม่พบ บรรดาพวกเพื่อนของเธอสิ้นทุกคนได้ทรยศต่อเธอ เขาทั้งปวงกลับเป็นศัตรูของเธอ

Lamentations 1:1-2
1:1 How does the city sit solitary, that was full of people! She has become as a widow, who was great among the nations! She who was a princess among the provinces is become tributary!

1:2 She weeps sore in the night, and her tears are on her cheeks; Among all her lovers she has none to comfort her: All her friends have dealt treacherously with her; they are become her enemies.


บทเพลงคร่ำครวญ บทเพลงร้องทุกข์ของยิระมะยา Lamentations
ในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล เป็นยุคสมัยแห่งวิกฤต ในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล กับการถูกทำลายของพระวิหาร และภาวะที่ถูกขัดขวางทางพิธีศาสนา การเนรเทศของผู้นำประเทศและการสูญหายของชนชาติ และยุคสมัยได้ถูกลบล้างจนหมดสิ้น ในระยะไม่ยาวนานหลังจาก
เยรูซาเล็มตกเป็นเมืองขึ้น ปี 587 B.C.E.และผู้เห็นเหตุการณ์ประจักษ์พยานเห็นชนชาติได้รับความอัปยศอดสู นักแต่งเพลง แต่งเพลงแห่งความโศกเศร้าเสียใจ ห้าบท พวกเขานำมารวมกับการสารภาพบาป ,ความเศร้าโศก การได้รับความทุกข์ทรมาร ความอัปยศอดสูของชาวยิว(Zion) การยอมจำนน ต่อคุณความดี การลงโทษ การสั่งสอน และ ความศรัทธาที่มั่นคง ในความจงรักภักดีต่อพระยาห์เวห์ YHWH ผู้ทรงรักเรา และให้พละกำลังฟื้นฟูทำให้พวกเรากลับคืนสู่สภาพเดิม

การรวมกันสามัคคีกันด้วยความขมขื่นเศร้าโศกเสียใจและ ไม่สามารถเอาชนะได้ โดยหวังว่า สะท้อนให้เห็น ความซื่อสัตย์ ของผู้ทำนายในการมองเห็นถึงความอ่อนแอ ของมนุษย์ และพละกำลังของพระเจ้าผู้ทรงรักเรา "ชาวอิสราเอลแสดงให้เห็นถึงว่าศรัทธาพระเป็นเจ้าอย่างไร
พระเจ้าทรงช่วยเราให้รอด จากประสบการณ์ของชนชาติที่พินาศ

และเกี่ยวกะวรรณกรรม บทเพลงบทเพลงคร่ำครวญ ที่ระมัดระวังใน หลักในใจแบบแผนโครงสร้างที่คุ้นเคย บทแรกของ สี่บทกวี เป็นโคลงกระทู้ ในที่ซึ่งของความแบ่งแยกบทหนึ่งของกวี (โคลงกลอนฉันท์กาพย์) ซึ่งโดยมากมีอย่างน้อย4บรรทัด เริ่มในจดหมายของชาวฮิบรูอักษร อัลฟาเบท จากบันทัดแรกไปบันทัดสุดท้าย

ความเนิ่นนายจาการถูกทำลายซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ อารมณ์ของเพลง เกี่ยวกับการประพันธ์เค้าโคลง เห็นพ้องกับสัญญาลักษณ์ และอธิบายถึง สำนวนการแสดงออกถึงความโศกเศร้าอย่างลึกซึ๊ง ความรับผิดชอบของ ความชั่วร้ายมีบาป และมีความอดทนต่อความทุกข์ทรมานและหวังจะเป็นชุมชนสังคมอีก โครงสร้างของอิสราเอล ที่มาจากพระยาห์เวห์ ความคุ้นเคยจากประกาศก ปรากฎต่อพวกเขาอีกครั้ง

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 21 เมษายน 2551 10:21:35 น.  

 

Visions of Ezekiel

Italian Renaissance artist Raphael 1483-1520 created his version of The Vision of the Prophet Ezekiel just tow years before his death

ในขณะเดียวกัน ในบาบิโลน ผู้ลี้ภัยได้มาถึง พวกเขาเหล่านั้นหลายๆคนได้ค้นหาที่ตั้งถิ่นฐาน ที่แม่น้ำ Chebar River ร่วมอยู่กับ ประกาศกเอเซเคียลในปี 598 B.C.E. ผู้ซึ่ง
เอเสเคียล 1 :1
ขอยืมKJVไบเบิ้ลอะ
นิมิตถึงสิ่งที่มีชีวิตอยู่สี่ตัวแห่งสวรรค์
1:1 อยู่มา ในวันที่ห้าเดือนที่สี่ปีที่สามสิบ ขณะเมื่อข้าพเจ้าอยู่ที่ริมแม่น้ำเคบาร์ในหมู่พวกเชลย ท้องฟ้าเบิกออก และข้าพเจ้าได้เห็นนิมิตจากพระเจ้า
Ezekiel 1:1
คาทอลิกใช้New Jersulam Bible //www.catholic.org/bible
1:1 Now it happened in the thirtieth year, in the fourth month, in the fifth day of the month, as I was among the captives by the river Chebar, that the heavens were opened, and I saw visions of God.

ปีที่30 ซึ่งสอดคล้องกันกับปีที่ห้าของการเนรเทศ ดู

Ezekiel 1:2
:2 เมื่อวันที่ห้าเดือนนั้น คือในปีที่ห้าที่กษัตริย์เยโฮยาคีนต้องเป็นเชลย
:2 In the fifth day of the month, which was the fifth year of king Jehoiachin's captivity,

และไม่เคยอธิบายอย่างน่าพอใจ เป็นไปได้ที่ กล่าวถึงยุคสมัยของประกาศก แม่น้ำ เคบาร์เป็นไปได้ที่เป็นคลองใกล้ๆ Nipper ทางตอนใต้ของบาบิโลน หนึ่งในสถานที่ซึ่งชายิวเนรเทศมาตั้งถิ่นฐานแม่น้ำเคบาร์ เคยเป็นระบุว่าเป็ฯ คลอง Kabar กับ the Nahr Maleha คลองนี้นั้นคือ King Nebuchadnezzar สั่งให้ขุดระหว่าง ยูเฟรตีส และ ไทกริส และกับ แม่น้ำ Khabur river ซึ่งไหลจากทางใต้ของตุรกี ตรงไปสู่ ซีเรีย ไปรวมกับแม่น้ำ ยูเฟรตีสในวันนี้คือ Busayarhในดินแดนใหม่ ประกาศกเอเซเคียล เสนอ ความช่วยเหลือ และนำทางในด้านจิตวิญญาณกับความโศกเศร้าเสียใจของผู้ถูกเนรเทศเชลยประกาศกเอเซเคียล อย่างยากที่จะอธิบายการใช้อุปมาอุปมัย เกี่ยวกับในไบเบิ้ล เอเซเคียลเป็นทั้งพระสมณะด้วย และเป็นสมาชิกในพระวิหาร ในการก่อตั้งเกี่ยวกับ พิธีกรรมทางศาสนาอย่างไม่มีมลทิล และสิ่งที่เข้าใจยาก หัวใจ ภายใน
ของเขาที่ในความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า และประกาศก
เอเสเคียล 3:17
พระเจ้าทรงตั้งเอเสเคียลให้เป็นยามเฝ้าจิตวิญญาณแห่งวงศ์วานอิสราเอล
3:17 "บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย เราได้กระทำให้เจ้าเป็นยามเฝ้าวงศ์วานอิสราเอล เจ้าได้ยินถ้อยคำจากปากของเราเมื่อไร เจ้าจงกล่าวคำตักเตือนเขาจากเรา
Ezekiel 3:17
3:17 Son of man, I have made you a watchman to the house of Israel: therefore hear the word at my mouth, and give them warning from me.

นี้คือการกล่าวถึงหนึ่งลักษณะของประกาศก มันเป็นที่ซึ่งผู้เรียบเรียง ในภายหลังที่เอเซเคียลทำหน้าที่ หน้าที่ของยามเฝ้าจิตวิญญาณ คือจงตักเตือนคนชั่วดู เอเสเคียล cf Ezekial 33.

เอเซเคียลพยายามตักเตือนชาวยูดาห์ ในช่วงเวลาระหว่างที่พระเจ้าทรงลงโทษ

พวกเขา
เอเสเคียล 5:7-10
การที่เอเสเคียลตัดผมเปรียบได้กับโทษสามอย่าง
5:7 เพราะฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เพราะเหตุว่าเจ้าดันทุรังยิ่งกว่าประชาชาติที่อยู่รอบเจ้า และมิได้ดำเนินตามกฎเกณฑ์ หรือรักษาคำตัดสินของเรา แต่ได้ประพฤติตามคำตัดสินของประชาชาติที่อยู่รอบเจ้า
5:8 เพราะฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เรา แม้ว่าเรานี่แหละเป็นปฏิปักษ์กับเจ้า เราจะพิพากษาลงโทษท่ามกลางเจ้าท่ามกลางสายตาของประชาชาติทั้งหลาย
5:9 และเพราะการอันน่าสะอิดสะเอียนทั้งสิ้นของเจ้า เราจะกระทำท่ามกลางเจ้าอย่างที่เราไม่เคยกระทำมาก่อนเลย และเราจะไม่กระทำอย่างนั้นอีกต่อไป
5:10 เพราะฉะนั้นบิดาจะกินบุตรชายของตนท่ามกลางเจ้าทั้งหลาย และบรรดาบุตรชายจะกินบรรดาบิดาของเขาทั้งหลาย และเราจะพิพากษาลงโทษเจ้า ผู้ใดในพวกเจ้าที่เหลืออยู่ เราจะให้กระจัดกระจายไปตามลมทุกทิศานุทิศ
Ezekiel 5:7-10
5:7 Therefore thus says the Lord Yahweh: Because you are turbulent more than the nations that are round about you, and have not walked in my statutes, neither have kept my ordinances, neither have done after the ordinances of the nations that are round about you;
5:8 therefore thus says the Lord Yahweh: Behold, I, even I, am against you; and I will execute judgments in the midst of you in the sight of the nations.
5:9 I will do in you that which I have not done, and
whereunto I will not do any more the like, because of all your abominations.
5:10 Therefore the fathers shall eat the sons in the midst of you, and the sons shall eat their fathers; and I will execute judgments on you; and the whole remnant of you will I scatter to all the winds.

หลังจากกรุงเยรูซาเล็มถูกทำลาย สารที่เอเซเคียลได้รับคือหนึ่งในความหวัง ท่ามกลางความดีใจอย่างเหลือล้นในมุมมองมิติที่เห็ฯ เอเซเคียล ยอมรับว่านั้นคือ พันธสัญญาของชนชาติพระYHWH ที่หลายไป มันคือพละกำลัง เอกลักษณ์ (ทางปรัชญา)ของพลเมือง ถ้าความรอดของอิสราเอล และยูดาห์ ยังอยู่ต่อเนื่องความแตกต่างอย่างชัดเจนของประชากร พวกเขา
เอเสเคียล 37:7-10
หว่างเขาที่มีกระดูกแห้ง
37:7 ข้าพเจ้าก็พยากรณ์ดังที่ข้าพเจ้าได้รับบัญชา เมื่อข้าพเจ้าพยากรณ์อยู่นั้นก็มีเสียง และดูเถิด เป็นเสียงกรุกกริก กระดูกเหล่านั้นก็เข้ามาหากันตามที่ของมัน
37:8 และเมื่อข้าพเจ้ามองดู ดูเถิด ก็เห็นมีเอ็นบนมัน และเนื้อก็มาที่กระดูก และหนังก็มาหุ้มกระดูกไว้ แต่ไม่มีลมหายใจในนั้น
37:9 แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า "จงพยากรณ์แก่ลมหายใจ บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงพยากรณ์เถิด จงกล่าวแก่ลมหายใจว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า โอ ลมหายใจเอ๋ย จงมาจากลมทั้งสี่มาหายใจเข้าไปในคนที่ถูกฆ่า
เหล่านี้เพื่อให้เขามีชีวิต"
37:10 ข้าพเจ้าก็พยากรณ์ดังที่ทรงบัญชาแก่ข้าพเจ้า และลมหายใจก็เข้ามาในกระดูกและกระดูกก็มีชีวิต แล้วก็ยืนขึ้น เป็นกองทัพใหญ่โตจริงๆ
Ezekiel 5:7-10
37:7 So I prophesied as I was commanded: and as
prophesied, there was a noise, and, behold, an earthquake; and the bones came together, bone to its bone.
37:8 I saw, and, behold, there were sinews on them, and flesh came up, and skin covered them above; but there was no breath in them.
37:9 Then said he to me, Prophesy to the wind, prophesy, son of man, and tell the wind, Thus says the Lord Yahweh: Come from the four winds, breath, and breathe on these slain, that they may live.
37:10 So I prophesied as he commanded me, and the breath came into them, and they lived, and stood up on their feet, an exceeding great army.



Written in Babylonian cuneiform, the clay,sixth century B.C.E. Cyrus Cylinder documents Cyrus the Great's conquest of Babylon.

อีกหนึ่งประกาศกซึ่งไม่มีใครรู้จักชื่อของเค้า มีส่วนเชื่อมต่อกับสารที่ได้รับไม่แตกต่างกันในเรื่องของความหวัง เขาพูดในชื่อว่า อิสยาห์Isaiahแม้ว่าอิสยาห์ตายไปก่อนหน้านี้แล้ว นักวิจัยบางคนอ้างถึงเขา ที่เรียกว่า Second Isaiah หรือ Deutero-Isaiah คำพูดของเขาบรรเทา ปลอบประโลม ประชากรที่ยังคงโศกเศร้า สำหรับการสูญเสียบ้าน และดินแดน

อิสยาห์ 40:1-2
จงเล้าโลมชนชาติของพระเจ้า
40:1 พระเจ้าของเจ้าตรัสว่า "จงเล้าโลม จงเล้าโลมชนชาติของเรา
40:2 จงพูดกับเยรูซาเล็มอย่างเห็นใจ และจงประกาศแก่เมืองนั้นว่า การสงครามของเธอสิ้นสุดลงแล้ว และความชั่วช้าของเธอก็อภัยเสียแล้ว เพราะเธอได้รับโทษจากพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์แล้ว เป็นสองเท่าของความบาปผิดของเธอ"
เชิงอรรถ Service: servitude and exile. ความเป็นทาสและ การเนรเทศ
Isaiah 40:1-2
40:1 Comfort you, comfort you my people, says your God.
40:2 Speak comfortably to Jerusalem; and cry to her, that her warfare is accomplished, that her iniquity is pardoned, that she has received of Yahweh's hand double for all her sins.
อิสยาห์ 40:6-11
ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าและความอ่อนแอของมนุษย์ (อสย 40:6--41:29)

40:6 เสียงหนึ่งร้องว่า "ร้องซิ" และเขาว่า "ข้าจะร้องว่ากระไร" บรรดาเนื้อหนังก็เป็นเสมือนต้นหญ้า และความงามทั้งสิ้นของมันก็เป็นเสมือนดอกไม้แห่งทุ่งนา
40:7 ต้นหญ้าเหี่ยวแห้งไป ดอกไม้นั้นก็ร่วงโรยไป เพราะพระวิญญาณของพระเยโฮวาห์เป่ามาถูกมัน มนุษยชาติเป็นหญ้าแน่ทีเดียว
40:8 ต้นหญ้าเหี่ยวแห้งไป ดอกไม้นั้นก็ร่วงโรยไป แต่พระวจนะของพระเจ้าของเราจะยั่งยืนอยู่เป็นนิตย์
40:9 โอ ศิโยนเอ๋ย ผู้นำข่าวดี เจ้าจงขึ้นไปบนภูเขาสูง โอ เยรูซาเล็มเอ๋ย ผู้นำข่าวดี จงเปล่งเสียงของเจ้าด้วยเต็มกำลัง จงเปล่งเสียงเถิด อย่ากลัวเลย จงกล่าว แก่หัวเมืองแห่งยูดาห์ว่า "ดูเถิด นี่พระเจ้าของเจ้า"
40:10 ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าจะเสด็จมาด้วยพระหัตถ์อันเข้มแข็ง และพระกรของพระองค์จะครอบครองเพื่อพระองค์ ดูเถิด รางวัลของพระองค์ก็อยู่กับพระองค์ และพระราชกิจของพระองค์ก็อยู่ต่อพระพักตร์พระองค์
40:11 พระองค์จะทรงเลี้ยงฝูงแพะแกะของพระองค์อย่างผู้เลี้ยงแกะ พระองค์จะทรงรวบรวมลูกแกะไว้ในพระกรของพระองค์ พระองค์จะทรงอุ้มไว้ที่พระทรวง และทรงค่อยๆนำบรรดาที่มีลูกอ่อนไป
Isaiah 40:6-11
40:6 The voice of one saying, Cry. One said, What shall I cry? All flesh is grass, and all the glory of it is as the flower of the field.

40:7 The grass withers, the flower fades, because the breath of Yahweh blows on it; surely the people is grass.

40:8 The grass withers, the flower fades; but the word of our God shall stand forever.

40:9 You who tell good news to Zion, go up on a high mountain; you who tell good news to Jerusalem, lift up your voice with strength; lift it up, don't be afraid; say to the cities of Judah, Behold, your God!

40:10 Behold, the Lord Yahweh will come as a mighty one, and his arm will rule for him: Behold, his reward is with him, and his recompense before him.

40:11 He will feed his flock like a shepherd, he will gather the lambs in his arm, and carry them in his bosom, and will gently lead those who have their young.

การนมัสการพระยาห์เวห์YHWH เป็ฯทางให้ประชากรที่ถูกเนรเทศพระองค์ทรงปกป้องพวกเขาเหล่านั้นที่เป็ฯลักษณะเฉพาะ เป็ฯเครื่องยึดเหนี่ยวพวกเขาเหล่านั้น ผู้ลี้ภัยรู้สึกต้องการเพิ่มจำนวนแพร่เผ่าพันธ์ชาวยิว ในวัฒนธรรมชีวิต ของพวกเขา นี้คือการจัดเตรียมเริ่มต้นใหม่อีกครั้งผลักดันส่งเสริมโดยสมบรูณ์เริ่มจากKing Josiahก่อนหน้านี้ รวบรวม ในสภาพไม่ได้รับการช่วยเหลือ อย่างที่แตกต่างกันอย่างมาก ในประวัติศาสตรของชาวยิว กฎพิธีกรรมทางศาสนา และ ธรรมเนียมปฏิบัติการโภชนาการ ที่เนื้อหาครอบคลุมไปถึง ในพระคัมภีร์ นั้นคือการเริ่มต้นของหนังสือคู่มือสำหรับชนชาติยิว ในการเนรเทศไปจนถึง ไบไบิ้ล ข้อความจากพระคัมภีร์ จะทำให้ชาวอิสราเอลที่กระจัดกระจายในบาบิโลน และยังที่อยู่ไกลออกไป เฉลิมฉลองความศรัทธาของพวกเขาซึ่งประกอบไปด้วย รูปแบบของการเตือนใจ จากเวลาไปข้างหน้า

นักวิจัย พูดภาษาชนชาติฮิบรู เช่น "Jew" (or Yehudim,ที่เป็นไปได้ กลายมาจาก (ทางภาษาศาสตร์) "Judean") และกล่าวถึง "Judaism"แยกกันชัดเจน ทางสังคม และทางศาสนา ในคำศัพย์ ไม่นานความสนิทสนมที่เป็นพิเศษเฉพาะของพลเมือง เอกลักษณ์ (ทางปรัชญา) หรือเกี่ยวกับที่ตั้งทางภูมิศาสตร์

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 21 เมษายน 2551 21:01:09 น.  

 

Cyrus the Great

Source :www.keyway.ca
การเริ่มต้นของอาณาจักรใหม่ตั้งขึ้นในคำพยากรณ์ของเอเซเคียลและSecond Isaiah ในปี 614 B.C.E. King Cyaxares 625-585B.C.E., King of Media (ภูมิภาคพอสังเขปมีเท่าๆกับModern Iran)การต่อต้านบาบิโลนทางตอนเหนือได้รุดหน้าและควบคุมประชิดกับ พื้นที่ใน Anatolia ในทางตะวันออกเฉียงใต้ของmodern Turkey ใกล้ๆ เขาต่อสู้ในสงครามและอ่อนแอลงกับ Lydia ทางตะวันตกเฉียงเหนือของวันนี้คือตุรกี แต่ด้วยตัวของมันเอง อาณาจักรมีเดียคุกคามเขาไปในเป้าหมายรัฐข้าราชบริพาร ทั้งหมดรอบๆๆอาณาจักร Anshan เป็นที่รู้กันว่าคือ Fars หรือ Persia อาณาจักร Anshan เคยเป็นผู้นำจากประมาณ 700 B.C.E.โดยการปกครอง ผู้ซึ่ง ซึ่งสืบทอดบรรพบุรุษมาจาก ตำนาน Achaemenes (ในภายหลังราชวงค์ที่มีส่วนสำคัญนี้ได้กล่าวถึง) ในปี 533 B.C.E. King Cyrus II 559-529 B.C.E.เป็นที่มีชื่อเสียงอย่างม๊ากที่เรียกว่า "Cyrus the Great" พระองค์ต่อสู้กับ ชาวMedes และพ่ายแพ้พวกเขา ต่อจากนั้นพระองค์ได้ยึดและควบคุม
อาณาจักรมีเดียที่กว้างขวางใหญ่โตมาก และพระองค์แผ่ขยายออกไปถึง อ่าวเปอร์เซีย และทะเลดำ


A four-winged guardian figure incribed with "I Cyrus the Achaemenid,King" wad found in the ruin of Cyrus's palace in Pasargadae, Iran


ในความยิ่งใหญ่ของอาณาจักร วัฒนธรรม ประเพณีปฎิบัติ ดูเหมือนว่าขัดแย้งกันซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ ชาวมีเดียภายใต้การปกครองของ King Astyages พระองค์เริ่มมีศาสนาเป็นศูนย์กลาง สำหรับ monotheismความเชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียว ที่เรียกว่า Zoroastrianism ในทางตรงกันข้าม สภา ของKing Croesus of Lydia เป็นที่รู้จักกันดีว่า มีความโน้มเอียง ไปทาง ชาว Hellenistic แม้ว่าการบูชาทางศาสนา สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นของพวกกรีกที่ลี้ภัย เมื่อKing Cyrus ไม่ชอบ ผู้นำเมโสเปเตรเมีย พระองค์ให้ความจำกัดการสั่งสอน อนุญาติให้ ประชากรแต่ละคน นับถือศาสนาใดๆๆก็ได้ พระองค์เชื่อว่านั้นคือ การปฎิบัติตาม กฎหรือหลักเกณฑ์ทางศาสนา สามารถทำให้มีกำลังและเสถียรภาพ ในกองทัพและการต่อสู้ ด้วยความเคารพ ในภาวะแวดล้อมทางการเมือง



King Cyrus ระดมกำลัง ต่อต้าน อาณาจักรบาบิโลน ปกครองโดยKing Nabonidus 556-539 B.C.E. ประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข น่าสนใจมากกว่า การเมือง,รัฐศาสตร์,การใช้เล่ห์กระเทห์ในการแสวงหาตำแหน่งหรืออำนาจ ในช่วงเวลาในประวัติศาสตร์

สองสามปีในการครองราชย์พระโอรสของพระองค์ Bel-shar-usur ปกครองร่วมกับพระองค์ด้วย เป็นผู้สำเร็จราชการ ในช่วงปี 533-540B.C.E. บุคคล น่าจะเป็นจริงว่า (โดยมีเหตุผล และหลักฐานสนับสนุน) "Belshazzar" ในหนังสือประกาศกดาเนียล ซึ่งอธิบายในทัศนวิสัย ของชาวฮิบรูที่เนรเทศ ในสภาบาบิโลน เพราะ ประกาศกเหล่านี้มีความสามารถในการรับรู้หรือเข้าใจด้วยการคาดการณ์การเผยแสดงความหลากหลายที่ใกล้จะมาถึงวิกฤตในอาณาจักรยูดาห์หนังสือกล่าวถึงบ่อยๆการเผยแสดง (ภาษากรีก apokalypisis ความหมาย revelationการเปิดเผย, การเปิดเผยของพระเจ้า)แม้ว่า หนังสือดาเนียลในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล นักวิจัยเชื่อว่า มันคือความสมบรูณ์แบบในศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล สำหรับเนื้อหากล่าวถึงแม้ว่าเกิดขึ้นระหว่างการครองราชย์ของ King Antiochus IV Epiphanes 175-164 B.C.E.เกี่ยวกับหนังสือดาเนียล Belshazzar มีการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่มาก เข้าประจำการ เรือเดินสมุทธปล้นสะดม จากวิหารโซโลมอนในวิหารเยรูซาเล็มโดยKing Nebuchadnezzar และ Belshazzar มีนางบำเรอ และแขกเหรื่อ เริ่มเฉลิมฉลอง
ดาเนียล 5:5
ขอยืมKJVอะ
พระเจ้าทรงเขียนที่ผนังของพระราชวัง
5:5 ในทันใดนั้น นิ้วมือคนได้ปรากฏขึ้น และเขียนลงที่ผนังของพระราชวังของกษัตริย์ตรงข้ามกับคันประทีป และกษัตริย์ก็ทอดพระเนตรมือที่เขียนนั้น
คาทอลิกใช้New Jersulam Bible //www.catholic.org/bible
Daniel 5:5
5:5 In the same hour came forth the fingers of a man's hand, and wrote over against the lampstand on the plaster of the wall of the king's palace: and the king saw the part of the hand that wrote.
ดาเนียล 5:25
ดาเนียลกราบทูลพระวจนะของพระเจ้าถวายกษัตริย์
5:25 ต่อไปนี้เป็นข้อเขียนที่จารึกไว้ คือ เมเน เมเน เทเคล และ ฟารสิน
Daniel 5:25
5:25 This is the writing that was inscribed: MENE, MENE, TEKEL, UPHARSIN.

เมเน เมเน เทเคล และ ฟารสิน Mene, Tekel, and Peresเป็นภาษาอาราเมอิก ชื่อของ น้ำหนักและ คุณค่าของเงินตรา the mina, the shekel (the sixtieth part of a mina), and the parsu (a half-mina)

ผู้เผยแสดงไม่ได้รับผลกระทบต่อการถอดระหัสเนื้อหาในการแปลความหมาย (ภาษาโบราณ)แต่ ราชินีBelshazzar แน่ใจว่า นั้นคือปลุกเร้าให้ตื่นโดยแดเนียล ผู้ซึ่งศึกษาที่บาบิโลน

แดเนียลตีความในคำพูดอธิบายว่า
ดาเนียล 5:26:28
"mene God
5:26 ต่อไปนี้เป็นคำไขเรื่องราวนั้น เมเน พระเจ้าได้ทรงคำนวณวาระแห่งราชอาณาจักรของพระองค์ไว้แล้ว และทรงนำราชอาณาจักรนั้นมาถึงสิ้นสุด
:tekel,
5:27 เทเคล พระองค์ได้ถูกชั่งในตราชู ทรงเห็นว่ายังขาดอยู่
" Peres,
5:28 เปเรส ราชอาณาจักรของพระองค์ถูกแบ่งออกให้แก่คนมีเดีย และคนเปอร์เซีย


Daniel 5:26
5:26 This is the interpretation of the thing: MENE; God has numbered your kingdom, and brought it to an end;
5:27 TEKEL; you are weighed in the balances, and are found wanting.
5:28 PERES; your kingdom is divided, and given to the Medes and Persians.

แดเนียลตีความ 3 คำเหล่านี้ คือ Meneเกี่ยวโยงกับ ความหมายคือการคำนวน

Tekelความหมายคือ ชั่งน้ำหนัก Peresความหมายคือ การแตกแยก

There is also a play on the last term with the word for Persians.

ตัวอักษรเป็นอารามาอีก บนกำแพง มันปรากฎขึ้น mm, tql, prs,ประกาศกดาเนียล ปฎิบัติภาระกิจทำนาย ในตัวอักษรไบเบิ้ลบอกว่า นั้นคือ Belshazzar คือการถูกลอบสังหาร ในตอนกลางคืน

ดาเนียล 5:30
5:30 ในคืนวันนั้นเอง เบลชัสซาร์กษัตริย์คนเคลเดียก็ทรงถูกประหาร
Daniel 5:26
5:30 In that night Belshazzar the Chaldean King was slain

แม้ว่าชาวเปอร์เซีย บันทึกชี้ให้เห็นถึงนั้นคือ Bel-shar-usur อยู่ปกป้องบาบิโลนหลังจาก king Cyrus เริ่มปฎิบัติการการโจมตีและผู้นำกองทัพของชาวเปอร์เซีย โดย King Cyrus จำนวนมากบนชายแดน ในปี 540 B.C.E. Nabonidus โจมตีกลับอ้างสิทธิ์อำนาจทางราชการ เขาต้องการยกเลิกเทศกาลเฉลิมฉลองประจำปีใหม่ของบาบิโลน สำหรับ ประสบการณ์ที่ไม่ดี ความโกรธเคืองกับพระสมณะ จากเดือนตุลาคม ปี 539 B.C.E. King Cyrusครอบงำบาบิโลน

เกี่ยวกับบทกวีของ Nabonidus ในหินจารึกบาบิโลน ค้นพบในปี 1924 ประชากรบาบิโลน เพิ่งเปิดประตูเมือง ชาวเปอร์เซีย อย่างมีชัย จากจดหมายเหตุบันทึกประวัติศาสตร์ King Cyrus ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวบาบิโลน ได้ให้ความเชื่อถือ Marduk พระเจ้าของบาบิโลน สำหรับชัยชนะ คำอธิบายนี้แสดงให้รู้ถึง ความหลักแหลม ที่ใช้ในยุคอ้างสิทธิ์เกี่ยวกับพระเจ้าทรงเป็นผู้อุปถัม การทำผิดกฎหมายในชัยชนะของพระองค์ เป็นกิจวัตรและสะท้อนกลับไป



ในไบเบิ้ลให้เห็นภาพอธิบายว่า
อิสยาห์ 44:21
พระยาห์เวห์คือผู้ไถ่ของอิสราเอล
44:21 โอ ยาโคบและอิสราเอลเอ๋ย จงจำสิ่งเหล่านี้ เพราะเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เราได้ปั้นเจ้า เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา โอ อิสราเอลเอ๋ย เราจะไม่ลืมเจ้า
Isaiah 44:21
44:21 Remember these things, Jacob, and Israel; for you are my servant: I have formed you; you are my servant: Israel, you shall not be forgotten by me

King Cyrusจะนับถือ และคือ พระเจ้า Marduk ในบาบิโลน และ หลานชายDarius จะได้รับการต้อนรับ ในอียิปต์ในไม่ช้า ในชื่อใหม่ "son of Ra"ในหนังสือเอสรา Ezra King Cyrus นับถือพระยาห์เวห์เป็ฯพิเศษ สำหรับความประสบความสำเร็จของพระองค์ พระองค์เพิ่งยอมรับ พระเจ้าMarduk ในบาบิโลน
เอสรา 1:4
กษัตริย์ไซรัสทรงประกาศให้สร้างพระวิหารของพระเจ้าใหม่
1:1 ในปีแรกแห่งรัชกาลไซรัสกษัตริย์ของเปอร์เซีย เพื่อพระวจนะของพระยาห์เวห์ทางปากของเยเรมีย์จะสำเร็จ พระยาห์เวห์ทรงรบเร้าจิตใจของไซรัสกษัตริย์ของเปอร์เซีย กษัตริย์จึงทรงมีประกาศตลอดราชอาณาจักรของพระองค์ และบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรลงด้วยว่า
1:2 "ไซรัสกษัตริย์แห่งเปอร์เซียตรัสดังนี้ว่า `พระยาห์เวห์พระเจ้าของฟ้าสวรรค์ได้พระราชทานบรรดาราชอาณาจักรแห่งแผ่นดินโลกแก่เรา และพระองค์ทรงกำชับให้เราสร้างพระนิเวศให้พระองค์ที่เยรูซาเล็ม ซึ่งอยู่ในยูดาห์
1:3 มีผู้ใดในท่ามกลางท่านทั้งหลายที่เป็นประชาชนของพระองค์ ขอพระเจ้าของเขาสถิตกับเขา และขอให้เขาขึ้นไปยังเยรูซาเล็มซึ่งอยู่ในยูดาห์และสร้างพระนิเวศของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล (คือพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า)ซึ่งอยู่ในเยรูซาเล็ม

1:4 และคนใดก็ตามที่เหลืออยู่ ไม่ว่าเขาจะอาศัยอยู่ ณ ที่ใด ขอให้คนซึ่งอยู่ในที่ของเขาช่วยเขาด้วยเงินและด้วยทองคำ ด้วยข้าวของและสัตว์ นอกเหนือจาก เครื่องบูชาตามใจสมัครสำหรับพระนิเวศของพระเจ้าซึ่งอยู่ในเยรูซาเล็ม'"ในปีแรกของKing Cyrus พระองค์มีอำนาจเหนือโลกอาณาจักรของพระองค์ และพระองค์พิชิตบาบิโลน ในปี 538 B.C.E.



Ezra 1:1-4
1:1 Now in the first year of Cyrus king of Persia, that the word of Yahweh by the mouth of Jeremiah might be accomplished, Yahweh stirred up the spirit of Cyrus king of Persia, so that he made a proclamation throughout all his kingdom, and put it also in writing, saying,

1:2 Thus says Cyrus king of Persia, All the kingdoms of the earth has Yahweh, the God of heaven, given me; and he has charged me to build him a house in Jerusalem, which is in Judah.

1:3 Whoever there is among you of all his people, his God be with him, and let him go up to Jerusalem, which is in Judah, and build the house of Yahweh, the God of Israel (he is God), which is in Jerusalem.

1:4 Whoever is left, in any place where he sojourns, let the men of his place help him with silver, and with gold, and with goods, and with animals, besides the freewill-offering for the house of God which is in Jerusalem.

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 22 เมษายน 2551 20:42:22 น.  

 

By the rivers of Babylon

Psalms 137 1:9
1
1 By the rivers of Babylon we sat mourning and weeping when we remembered Zion.
2
2 On the poplars of that land we hung up our harps.
3
There our captors asked us for the words of a song; Our tormentors, for a joyful song: "Sing for us a song of Zion!"
4
But how could we sing a song of the LORD in a foreign land?
5
If I forget you, Jerusalem, may my right hand wither.
6
May my tongue stick to my palate if I do not remember you, If I do not exalt Jerusalem beyond all my delights.
7
Remember, LORD, against Edom that day at Jerusalem. They said: "Level it, level it down to its foundations!"
8
Fair Babylon, you destroyer, happy those who pay you back the evil you have done us!
9
3 Happy those who seize your children and smash them against a rock.


เชิงอรรถ
1 [Psalm 137] A temple singer refuses to sing the people's sacred songs in an alien land despite demands from Babylonian captors (Psalm 137:1-4). The singer swears an oath by what is most dear to a musician--hands and tongue--to exalt Jerusalem always (Psalm 137:5-6). The psalm ends with a prayer that the old enemies of Jerusalem, Edom and Babylon, be destroyed (Psalm 137:7-9).

2 [2] Poplars: sometimes incorrectly translated "willow." The Euphrates poplar is a high tree common on riverbanks in the Orient.

3 [9] Happy those who seize your children and smash them against a rock: the infants represent the future generations, and so must be destroyed if the enemy is truly to be eradicated.

RSong.. By the rivers of babylon...this song refer Exile of Israel to Babylon ...trick how to remember Exile of Eisrael to Babylon history can image the second temple, please forgive me..........how to remember gospel
เพลง River of babylon พูดถึงพี่น้องอิสราเอลเนรเทศไปบาบิโลน จำง่ายดีอ่า.... อ่านอกลู่นอกทางขอภัย กะมานจำง่ายดีอะ

The Return to Judah

King Cyrus เข้าใจว่านั้นคือการครองอำนาจประชากร โดยสัญชาตญาณการถ่ายเท หมู่คณะ ความทะเยอทะยาน ในชนชาติที่มีความเชื่อในศาสนา เพื่อที่จะ สำหรับความเชื่อที่เจริญงอกงามของพวกเขาเหล่านั้น พวกเขาต้องการผู้นำศาสนา และสถานที่ศูนย์กลางนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โชคไม่ดีเลย และชาวยูดาห์ มีความสัมพันธ์กับศาสนาที่เลือกสรรไว้แล้วของความเป็นอยู่ของชาวอิสราเอล ซึ่งอยู่ข้างๆๆกับที่ตื้นเขินแม่น้ำของบาบิโลน ที่นี้อาลักษณ์ ผู้คัดลอกกฎหมายยิว คือพระสมณะ และนักวิชาการ วุ่นอยู่กับ การ รวบรวมบันทึกประวัติศาสตร์ Deuteronomistic ของชาวยิวให้เสร็จสิ้น และในที่สุดประพันธ์เป็นหนังสือ Pentateuch

King Cyrus ตัดสินใจปล่อยผู้เนรเทศที่บาบิโลน อนุญาติอย่างเป็นทางการให้ฟื้นฟูพระวิหารใหม่
คาทอลิกใช้New Jersulam Bible //www.catholic.org/bible
Ezra 1:2
1:2 Thus says Cyrus king of Persia, All the kingdoms of the earth has Yahweh, the God of heaven, given me; and he has charged me to build him a house in Jerusalem, which

is in Judah.
เอสรา 1:2
ขอยืม KJVอะ
กษัตริย์ไซรัสทรงประกาศให้สร้างพระวิหารของพระเจ้าใหม่
1:2 "ไซรัสกษัตริย์แห่งเปอร์เซียตรัสดังนี้ว่า `พระเยโฮวาห์พระเจ้าของฟ้าสวรรค์ได้พระราชทานบรรดาราชอาณาจักรแห่งแผ่นดินโลกแก่เรา และพระองค์ทรงกำชับให้เราสร้างพระนิเวศให้พระองค์ที่เยรูซาเล็ม ซึ่งอยู่ในยูดาห์ต่อจากนั้นการคาดว่าจะเกิดขึ้น (โดยใช้ข้อมูลเท่าที่มีอยู่)ของพลเมือนที่ย้ายถิ่น

ฐาน เกี่ยวกับเนื้อหาใจความKing Cyrus Cylinder the Persian king พระองค์ทรงกลับไปหา พระเจ้า Sumer และพระเจ้า Akkad และโดยสมัครใจ พระองค์ทรงจ่าย ค่า ซ่อมแซมที่พำนักเหล่านั้น

ผู้ถูกเนรเทศได้เป็นอิสระภาพที่ได้กลับไปสู่ดินแดนบ้านเกิด เป็นครั้งแรกของกองคาราวานเริ่มออกเดินทางตามกำหนด แม้ว่า ชาวยิวหลายๆๆคนที่ยังคงเหลืออยู่ เลือกที่อาศัยอยู่ในบาบิโลน เกี่ยวกับ Flavius Josephus ในศตวรรษที่ 1 C.E.E. ประวัติศาสตร์ของชาวยิว ชาวยิวผู้ที่ถูกเนรเทศ คือ"จำยอม ปล่อยทรัพย์สมบัติหรือดินแดนที่ครอบครองของพวกเขาเหล่านั้นทิ้งไว้ "

ชมชนหรือสังคมของผู้ถูกเนรเทศยังคงซื่อสัตย์กับกฎพระบัญญัติแห่งพันธสัญญาและนมัสการพระYHWHแต่ผู้เดียวเหมือนเดิม ในศตวรรษที่จะมาถึง การพัฒนาเพื่อนำไปสู่ความสำคัญในศูนย์กลางสำหรับศึกษากฎหมายยิว

ในไบเบิ้ลไม่ได้บอกว่าผู้ถูกเนรเทศกลับมาถึงอาณาจักรยูดาห์เมื่อไหร่ หนึ่งในทางที่เป็ฯไปได้ ระยะทาง600 ไมล์ ร่องรอยได้เปิดเผย ทางผ่าน ทะเลทรายซีเรีย แวะที่ Tadmor และ Damascus มันเต็มไปด้วยอันตราย อย่างไรกะตามกองคาราวานชาวฮิบรู ผ่านไปตามเส้นทางค้าขาย ข้างๆๆแม่น้ำยูเฟรติส

ไปที่เมือง Aleppo ก่อนที่กลับมาทางตอนใต้ ไป Qatna, Riblah, Damascus และ ในที่สุดถึงเยรูซาเล็ม 1,000 ไมล์ของการเดินทางนักวิจัยบางคน ลงความเห็นว่าจากหนังสือเอสราEzra นั้นคือผู้เนรเทศ ได้ มาคนเดียวคือ เจ้าชายแห่งยูดาห์ ชื่อ Sheshbazzar เป็นไปได้ที่ผู้สืบทอด

รัชทายาท King Jehoiachin และต่อจากนั้นเป็นราชสกุล ราชวงค์ดาวิดชาวเปอร์เซียน สถาปณาพระองค์ในรัฐบาลของอาณาจักรยูดาห์ ตอนนี้รู้กันว่าเป็นจังหวัด Yehud หนึ่งในห้า ข้าหลวงเปอร์เซีย ที่รู้กันคือ Abar nahare (เหนือแม่น้ำยูเฟรติส)ซึ่งปกครองจาก Mizpah, Sheshbazzar จัดตั้งการเข้ามาถึงของผู้เนรเทศ และส่งกลับภูมิลำเนาเดิม ซึ่งเป็นที่สักการะทางศาสนาทำด้วยเงินสมบัติที่นำมาจากพระวิหาร จาก King Nebuchadnezzar
เอสรา 5:13-16
พวกศัตรูเขียนถึงกษัตริย์ดาริอัส
5:13 ถึงอย่างไรก็ดีในปีต้นแห่งรัชกาลไซรัสกษัตริย์แห่งบาบิโลน กษัตริย์ไซรัสได้ทรงออกกฤษฎีกาให้สร้างพระนิเวศหลังนี้ของพระเจ้าขึ้นใหม่
5:14 และเครื่องใช้ทองคำและเงินของพระนิเวศของพระเจ้า ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงกวาดไปจากพระวิหารซึ่งอยู่ในเยรูซาเล็มนั้น และทรงนำไปยังวิหารของบาบิโลน สิ่งเหล่านี้กษัตริย์ไซรัสทรงนำออกมาจากวิหารของบาบิโลน และทรงมอบไว้กับคนหนึ่งชื่อเชชบัสซาร์ ผู้ซึ่งพระองค์ทรงตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการเมือง
5:15 และพระองค์ตรัสกับท่านดังนี้ว่า "จงรับเครื่องใช้เหล่านี้ไปเก็บไว้ในพระวิหารซึ่งอยู่ในเยรูซาเล็ม และจงสร้างพระนิเวศของพระเจ้าขึ้นใหม่ในที่เดิมนั้น"
5:16 แล้วเชชบัสซาร์คนนี้ได้มาวางรากฐานพระนิเวศของพระเจ้าซึ่งอยู่ในเยรูซาเล็ม และตั้งแต่เวลานั้นจนบัดนี้ก็กำลังสร้างอยู่และยังไม่สำเร็จ'
Ezra 5:13-16
5:13 But in the first year of Cyrus king of Babylon, Cyrus the king made a decree to build this house of God.

5:14 The gold and silver vessels also of the house of God, which Nebuchadnezzar took out of the temple that was in Jerusalem, and brought into the temple of Babylon, those did Cyrus the king take out of the temple of Babylon, and they were delivered to one whose name was Sheshbazzar, whom he had made governor;

5:15 and he said to him, Take these vessels, go, put them in the temple that is in Jerusalem, and let the house of God be built in its place.

5:16 Then came the same Sheshbazzar, and laid the foundations of the house of God which is in Jerusalem: and since that time even until now has it been in building, and yet it is not completed.

พระองค์เป็นผู้นำในการสร้างพระวิหารใหม่ในเยรูซาเล็ม ตามความเป็นจริงอยู่ในอาณาเขตของSheshbazzar อย่างไรกะตาม กะยังเล็กว่า อาณาจักรยูดา

ห์เก่า Yehud ตอนนี้ชายแดนติดกับทางตอนเหนือของ Bethel ไปทางตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน (รวมถึงเยริโคJericho)และชายแดนทางตอนทางใต้ในระยะสั้นๆๆกะถึง Hebronการถอดถอนมณทลย่อยๆจาก อิสราเอลอดีตเมืองหัวหน้าครอบครัวศูนย์กลาง

เกี่ยวกับหนังสือเอสรา Ezra อีกผู้หนึ่งJehoiachin ผู้กล่าวหา หลาน Zerubbabel ผู้ทำหน้าที่แทน Sheshbazzar (แม้ว่านักวิจัยบางคนเชื่อว่าบางทีอาจเป็นใครคนหนึ่ง)การถกเถียง ความชักช้า และความอิจฉา อย่างน่าสังเกตเกี่ยวพันถึง ชาวสะมาเรียซึ่ง โกรธจากการที่พวกเขาเหล่านั้นแยกออกไปจากการก่อสร้างพระวิหารหลังที่สอง Zerubbabel ดำเนินต่อไป กับการสร้างใหม่ กับการสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และในที่สุดได้รับการสนับสนุนจากking องค์ใหม่ของเปอร์เซีย คือ King Darius I ในปี 522-486 B.C.E.

แต่ 20 ปีหลังจากการที่ผู้เนรเทศกลับ พระวิหารยังคงสร้างไม่เสร็จ เร่งให้ประกาศก อักกัย Haggai ผู้ซึ๊งในหนังสือเป็นไปได้ที่อยู่ในระหว่างรัชสมัย King Darius ครองราชย์ ประเด็นของขาดแคลน การเก็บเกี่ยวและความแห้งแล้ง เป็นสัญญาณของความพิโรศของพระเจ้า ประกาศกได้ถาม

ฮักกัย 1:4
ประชาชนเริ่มสร้างพระวิหารใหม่
1:4 "โอ เจ้าทั้งหลาย ถึงเวลาแล้วหรือที่ตัวเจ้าเองอาศัยอยู่ในบ้านที่มีไม้บุ แต่ส่วนพระนิเวศนี้ทิ้งให้พังทลาย

พระนิเวศที่สวยงามกับบ้านไม้เปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่าง ความโศกเศร้ากับ ความพินาศการทำลาย ของ การบอกกล่าวพระนิเวศของพระเจ้า

Haggai 1:4
1:4 "Is it a time for you yourselves to dwell in your paneled houses, while this house lies waste?

ยุคสมัยในช่วงเดียวกันของช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ ในหนังสือเศคาริยาห์ Zechariah เรียกร้องให้พระวิหารสร้างเสร็จสมบรูณ์แบบเช่นกัน ในวิศัยทัศน์มิติมุมมองเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาซึ่งเตือนให้ระลึกถึง ประกาศกดาเนียล เศคาริยาห์ เห็นความสับสนอลม่านอย่างยิ่งใหญ่ในอนาคต แต่กลับรุ่งโรจน์ที่อาณาจักรของชาวยิว
เศคาริยาห์ 8:3
บรรดาพระสัญญาของพระเจ้าต่ออิสราเอลไม่เปลี่ยนแปลง
8:3 พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า เรากลับไปยังศิโยน และจะอยู่ท่ามกลางเยรูซาเล็ม และเขาจะเรียกเยรูซาเล็มว่าเมืองแห่งความจริง และเรียกภูเขาของพระยาห์เวห์จอมโยธาว่าภูเขาบริสุทธิ์
Zechariah 8:3
8:3 Thus says Yahweh: "I have returned to Zion, and will dwell in the midst of Jerusalem. Jerusalem shall be called 'The City of Truth;' and the mountain of Yahweh of Hosts, 'The Holy Mountain.'"

ภายใต้ความกดดันจากประกาศก พระวิหารสร้างเสร็จสมบรูณ์ ในปี 515 หรือ 516 ฺB.C.E.ด้วยฝีมือประชากร ชาวYehud ที่อุทิศตัวถวาย พระวิหารใหม่ใน เยรูซาเล็ม เริ่มยุคสมัย Second Temple Judaism ในปี 515 B.C.E. CE 70

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 23 เมษายน 2551 21:19:06 น.  

 

King Sargon I of Assyria



Sign Up | Help Login Username: Password:


Forgot Username | Forgot Password
Login with your Google account CloseSign Up QuickList (0) Help Log In Site:
Home Videos Channels Community Upload Videos Channels settings
advanced searchLoading...
CloseSearch settings Filter videos that may not be suitable for minors

Note: some videos not suitable for minors may still appear in search results.

Ancient Empires


In Search Of Cyrus The Great - by //www.spentaproductions.com


Babylon Exile




 

โดย: Bernadette 23 เมษายน 2551 21:33:18 น.  

 

Ezra and Nehemiah

Source://content.answers.com
The Persian's might would last until Alexander the Great defeated Darius III above in a mosaic from the House of the Faun in Pompei in 333 B.C.E.

ารฟื้นฟูของอาณาจักยูดาห์ อย่างไรกะตาม อุปสรรคปัญหาในการแทรกแทรงในทศวรรษที่สืบต่อมาจากบรรพบุรุษ ได้ครอบครองโดยชาวอัสซีเรียและการหนีภัยการเนรเทศ การกลับมาของผู้ลี้ภัยเริ่มเป็นผู้บุกรุกด้วยพวกเขาเหล่านั้นเอง

ระหว่างในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ประกาศก 2 คน ที่เป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูกฎหรือหลักเกณฑ์ทางศาสนา ของกฎพระบัญญัติแห่งพันธสัญญาเอสรา Ezra และเนหะมีย์ Nehemiahการเรียงลำดับเหตุการณ์ของลักษณะการดำเนินการ ในจุดสำคัญที่เป็นประเด็นถกเถียงกัน แม้ว่าในไบเบิ้ลแน่ใจว่า เอสรา มาก่อน แต่นักวิจัยบางคนเชื่อว่าเนหะมีย์นำหน้ามาก่อนเอสรา

เกี่ยวกับในไบเบิ้ล เอสรา(458-428 B.C.E.) ได้รับการศึกษาด้านวิชาการที่สูงและเป็นพระสมณะผู้ซึ่งพูดถึงในบาบิโลน และศาสนา เขาตกใจมากที่เรียนรู้นั้นถึงอย่างไรกะตาม การเริ่มต้นใหม่ของการอุทิศตนในพระวิหาร ประชากรจำนวนเล็กน้อยใน Yehud ตามความเป็นจริง นำกฎของโมเสสนำมาใช้ (โดยเฉพาะความเชื่อ) เมื่อไม่นานมานี้หลายๆๆคนมาถึงบาบิโลนแต่งงานและตั้งถิ่นฐาน บางคนไม่ใช่ยิวทั้งหมด ดินแดนของผู้ถูกเนรเทศที่อยู่ในYehud ได้ถูกคุกคาม สถานที่หรือสถานการณ์ที่คน ความคิดหรือสิ่งต่างๆ มารวมกัน ในลักษณะของชาวยิวคงจะเจือจางไปอย่างช้า

Artaxerxes I 465-425 B.C.E.ทรงปกครองเปอร์เซีย อนุญาติให้เอสราไปเยรูซาเล็ม และอนุญาติให้ ทรัพย์สมบัติของบางพระวิหารที่ยังคงถือครองโดยชาวบาบิโลนด้วย Kingเคยก่อกบฎในอียิปต์ ครั้งแรกในปี 488 และต่อมา ในปี461 B.C.E. ซึ่งทำให้ Yehud มีเสถียรภาพ ในเรื่องของยุทธศาสตร์

ที่สำคัญ ใหนังสือ เอสรา บอกว่า
เอสรา 7:11-16
อารทาเซอร์ซีสบัญชาให้เอสราได้รับความช่วยเหลือ
7:11 ต่อไปนี้เป็นสำเนาจดหมายซึ่งกษัตริย์อารทาเซอร์ซีสพระราชทานแก่เอสราปุโรหิตผู้เป็นธรรมาจารย์ ผู้เป็นธรรมาจารย์แห่งเรื่องราวของพระบัญญัติของพระยาห์เวห์และกฎเกณฑ์ของพระองค์เพื่ออิสราเอลว่า
7:12 "อารทาเซอร์ซีส พระมหากษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย ถึงเอสราปุโรหิต ธรรมาจารย์ของพระราชบัญญัติแห่งพระเจ้าของฟ้าสวรรค์ ขอให้อยู่เย็นเป็นสุขอย่างสมบูรณ์เถิด เป็นต้น
7:13 บัดนี้เราออกกฤษฎีกาว่า ประชาชนอิสราเอลผู้หนึ่งผู้ใด หรือปุโรหิตของเขาทั้งหลาย หรือคนเลวีในราชอาณาจักรของเรา ผู้ซึ่งสมัครใจที่จะไปยังเยรูซาเล็ม ก็ให้ไปกับเจ้าได้
7:14 เพราะกษัตริย์และที่ปรึกษาทั้งเจ็ดได้ใช้เจ้าไป ให้ถามถึงยูดาห์และเยรูซาเล็ม ตามพระราชบัญญัติของพระเจ้าของเจ้าซึ่งอยู่ในมือเจ้านั้น
7:15 และให้นำเงินและทองคำซึ่งกษัตริย์และที่ปรึกษาของพระองค์สมัครใจถวายแด่พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ประทับในเยรูซาเล็ม
7:16 พร้อมทั้งเงินและทองคำทั้งสิ้นซึ่งเจ้าจะหาได้ทั่วไปในมณฑลบาบิโลน พร้อมกับของถวายด้วยใจสมัครของประชาชนและปุโรหิต เต็มใจถวายแด่พระนิเวศของพระเจ้าของเขา ซึ่งอยู่ในเยรูซาเล็ม

Ezra 7:11-16
7:11 Now this is the copy of the letter that the king
Artaxerxes gave to Ezra the priest, the scribe, even the scribe of the words of the commandments of Yahweh, and of his statutes to Israel:

7:12 Artaxerxes, king of kings, to Ezra the priest, the scribe of the law of the God of heaven, perfect and so forth.

7:13 I make a decree, that all those of the people of Israel, and their priests and the Levites, in my realm, who are minded of their own free will to go to Jerusalem, go with you.

7:14 Because you are sent of the king and his seven counselors, to inquire concerning Judah and Jerusalem, according to the law of your God which is in your hand,

7:15 and to carry the silver and gold, which the king and his counselors have freely offered to the God of Israel, whose habitation is in Jerusalem,

7:16 and all the silver and gold that you shall find in all the province of Babylon, with the freewill-offering of the people, and of the priests, offering willingly for the house of their God which is in Jerusalem;

ในไบเบิ้ลอธิบายการมาถึงเยรูซาเล็มอย่างไร ในปี 458B.C.E.
เอสรา 10:11
คนของพระเจ้าแยกออกจากชาวโลก
10:11 เหตุฉะนั้นบัดนี้ จงสารภาพต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่าน และกระทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ จงแยกตัวท่านออกเสียจากชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินและจากภรรยาต่างชาติ"
Ezra 10:11
10:11 Now therefore make confession to Yahweh, the God of your fathers, and do his pleasure; and separate yourselves from the peoples of the land, and from the foreign women.

เขากำหนดให้มีความเคร่งครัดกฎหรือหลักเกณฑ์พิธีกรรมทางศาสนา สำหรับภาระกิจทั้งหมดของพระสมณะเนหะมีย์ Nehemiah (ในปี 445-420B.C.E.) กล่าวถึง King Artaxerxes ผู้ซึ่งอนุญาติ พระสมณะออกกฎดำเนินการ และพิธีกรรมทางศาสนา พระบัญญัติแห่งพันธสัญญา ในเมือง Yehud เขาได้รับสารจากพระเป็นเจ้า หลังจาก ภาวะอดหยากข้าวยากหมากแพงทำให้ประชากรส่วนมากยากจนลง และผู้ตกเป็นทาสเกือบทั้งหมด ซึ่งจำนำที่ดินกรรมสิทธิ์ของพวกเขาเหล่านั้น เนหะมีย์เร่งเร้าคนชั้นสูง และข้าราชการ

Source:Seventy-century B.C.E. silver scroll from Ketef Hinnom containing the "Priestly Blessing" one of the earliest fragments of biblical text found.


คนยิวมั่งมีบางคนเอาพี่น้องที่เป็นหนี้เขามาเป็นทาส
เนหะมีย์ 5:10-11
5:10 ยิ่งกว่านั้นอีก ข้าพเจ้ากับพี่น้องของข้าพเจ้าและคนใช้ของข้าพเจ้าให้เขายืมเงินและยืมข้าว ให้เราเลิกการให้ยืมโดยคิดดอกเบี้ยนั้นเสียเถิด
5:11 ในวันนี้ ขอจงคืนมา ไร่นา สวนองุ่น สวนมะกอกเทศ และเรือนของเขา และส่วนร้อยของเงิน ข้าว น้ำองุ่น และน้ำมัน ซึ่งท่านได้รีดเอาจากเขานั้นเสีย"
Nehemiah 5:10-11
5:10 I likewise, my brothers and my servants, do lend them money and grain. Please let us leave off this usury.

5:11 Please restore to them, even this day, their fields, their vineyards, their olive groves, and their houses, also the hundredth part of the money, and of the grain, the new wine, and the oil, that you exact of them.

เขายัง ควบคุมดูแลจัดการ การก่อสร้างกำแพงขึ้นใหม่ในเมือง ซึ่งสามารถพร้อมที่จะป้องกัน ชาวสะมาเรีย และชาว Ammon ผู้ซึ่งไม่ต้อนรับผู้ลี้ภัยกองกำลังเยรูซาเล็ม

Yahud ในตอนนี้ สำหรับตามความเป็นจริงทั้งหมด จุดประสงค์ปกครอง โดยพระสมณะซึ่งจำกัดไว้ให้เฉพาะทางศาสนาคนที่มีอภิสิทธิ์ ชาวยิวซึ่งยึดถือระบบการปกครองที่ยึดถือพระเจ้า เป็นหลัก กับ อำนาจรากฐานในระบบการบูชาเสียสละ อุทิศตัว และการฟื้นฟูพระวิหารใหม่ ซึ่งต้นแบบมาจากราชวงค์ดาวิดความคิดระบบธรรมเนียมประเพณีนี้ ที่น่าสนใจแทนที่ความต้องการสำหรับระบบการเมืองที่จะเริ่มมีอำนาจปกครองเหนือกว่า ประเด็นหลักของช่วงเวลาประวัติศาสตร์ the Second Temple เอสรา และ เนหะมีย์ ประสบความสำเร็จ ในการอนุรักษ์ ชาวยูดาห์ และการฟื้นฟูการนมัสการพระYHWHในเยรูซาเล็ม แต่กองกำลังใหม่ที่คุกคามเห็นรางๆๆอยู่ข้างหน้า ในอนาคต

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 24 เมษายน 2551 18:46:13 น.  

 


Rising over modern Athens, Greece, The Acropolis is crowned by the Parthenon, a temple deicated to the goddness Pallas athena and built in the fifth century B.C.E.

สำหรับหลายๆๆศตวรรษ กรีกและเปอร์เซีย ในสายตาต่างระมัดระวังซึ่งกันและกัน ในการข้ามทะเลอีเจียน Aegean แม้ว่า การแบ่งแยกรัฐเมืองของกรีก ที่ซับซ้อนในสงครามกลางเมืองบ่อยๆ พวกเขามาด้วยกัน และเป็นหนึ่งเดียวเมื่อ King เปอร์เซีย Darius I ปรากฎที่แนวชายฝั่งของทะเลอีเจียน พวกเขาประสบความสำเร็จในกันขับกองทัพของKing Darius ออกไป ที่ Marathon ในปี 490 ฺB.C.E. แต่ความขัดแย้ง ระหว่าง 2 วัฒนธรรม ธรรมเนียมปฎิบัติเป็นอยู่อย่างต่อเนื่องไม่ลดน้อยลง

Xerxes I พระโอรสของ King Darius พยายามอีกครั้ง และประสบความสำเร็จ ในการปล้นสะดมเอเธน ในปี 480 B.C.E. เพียงแค่พ่ายแพ้ต่อแม่ทัพกองทัพเรือชาวกรีก หลังจากนั้น หลายๆๆปี The Persian Artaxerxes I หันเหความสนใจ ในชาวอียิปต์ การปฎิวัติ ก่อกบฎ จลาจล เป็นสัญญาลักษณ์ ของ สันติภาพ Persian-Grek Peace Treaty of Gallias ในปี 449 B.C.E. ซึ่ง ระงับไว้ชั่วคราวของการเป็นศตรู แต่ยังไม่สิ้นสุด และความไม่ไว้วางใจของซึ่งกันและกัน ทั้งคู่ไม่ว่า กรีก และเปอร์เซีย ยังคงแข่งขันทางด้านการควบคุมทางเศรษฐกิจ ของทางตะวันออกเมดิเตอเรเนียน Basin รวมถึง ภูมิภาคของ เอเซียไมเนอร์ Hellenic โดยส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นประสบการณ์การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ในเวลานั้น

ขณะเดียวกัน วัฒนธรรม ธรรมเนียมประเพณีของชาวกรีก สถาปัตยกรรม โรงละคร วรรณกรรม ปรัชญา และ รัฐศาสตร์ มโนภาพความคิด ได้แก่ "ประชาธิปไตย Democracy" (งานเขียน กฎหมายของประชาชน) ยังใช้อย่างต่อเนื่องจนไปถึง อาณาเขตของเปอร์เซีย พวกเขาเหล่านั้นไม่ใช่ทหารเปอรืเซียเดี่ยวๆ ผู้ซึ่งหยุดมัน ไม่เว้นแต่ชาวยูดาห์ วัฒนธรรมประเพณีของชาว Hellenistic นำไปสู่เมือง Yehud โดยชาว Phoenicia ผู้ซึ่ง มีวัฒนธรรม และเศรษฐกิจ มีอิทธิพล ทั้งสองอย่างที่ขยายออกไป ควบคู่ไปกับ ชายฝั่งของเมดิเตอเรเนียน และข้ามไปถึงกาลิลี

โดยตลอดของภูมิภาคนี้ เครื่องปั้นดินเผา กับ การตกแต่งสไตล์กรีก เริ่มปรากฎ ที่แสดงให้เห็ฯบ่อยๆ คือ เทพเจ้าเปลือย เรียกว่า nude demigod (ความหมาย : ผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์ แต่ต้อยต่ำกว่าพระเจ้า หรือ ผู้ที่ถูกเคารพบูชาเหมือนเป็นพระเจ้า)กีฬา หรือ ความมึนเมา และการเที่ยวหาความสนุกสนาน เป็นที่แทบช๊อคของชาวยิวที่มีใจศรัทธา ในภูมิภาคนั้น พวกเขายังคงศรัทธา กฎของโมเสส ต่อต้าน (รูปสลักเอาไว้บูชา,เทวรูป , รูปเคารพ) และไม่เห็นด้วยที่พวกนั้น พรรณา วาดภาพของมนุษย์ในรูปแบบนั้น

เพราะต้นกำเนิดซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความขัดแย้งระหว่าง ชาวยูดาห์และ ชาวกรีกนับถือเทพเจ้าหลายองค์ เคยให้แพร่หลายมาก่อน นักรบในสงครามซึ่งยังหนุ่ม ชื่อ อเล็กซานเดอร์ Alexander พระโอรสของ Philip ที่ปรากฎในเหตุการณ์ เมืองเอเธน เป็นไปได้ที่โครงสร้างรูปแบบความคิด และวัฒนธรรมของกรีก และอเล็กซานเดอร์เป็นผู้ซึ่งจะแนะนำมันโครงสร้างรูปแบบความคิด และวัฒนธรรมของกรีก เหล่านี้ ใน ดินแดน ตะวันออกกลาง

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible


 

โดย: Bernadette 25 เมษายน 2551 13:02:17 น.  

 

Alexander the Great

Alexander the Great - Encyclopedia channel



1 มัคคาบี 1:3

เชิงอรรถ



1 Maccabees 1:1-3
1
1 After Alexander the Macedonian, Philip's son, who came from the land of Kittim, had defeated Darius, king of the Persians and Medes, he became king in his place, having first ruled in Greece.
2
He fought many campaigns, captured fortresses, and put kings to death.
3
He advanced to the ends of the earth, gathering plunder from many nations; the earth fell silent before him, and his heart became proud and arrogant.
เชิงอรรถ
Land of Kittim: Greece. The name referred originally to inhabitants of Kiti, capital of the isle of Cyprus, then to any Cypriots (Isaiah 23:1; Jeremiah 2:10), later to Greeks in general, and finally even to Romans. See note on Daniel 11:30. Darius: Darius III, Codoman (336-331 B.C.).

พระบิดาของ Alexander คือ Philip IIใน Macedon ปี 382-336 B.C.E. ต้องการเอาชนะเปอร์เซีย กับความช่วยเหลือของ กรีกซึ่งเป็นศตรูพระองค์ ประสบความสำเร็จ 1ในศึกครั้งยิ่งใหญ่นี้ คือเมื่อพระองค์พิชิต กรีก และแบ่งแยกเมืองและรัฐ ในปี 338 ฺB.C.E.

ในครั้งที่สอง ความฝันของพระองค์ไม่ตระหนักใจว่า สำหรับ มือมีดลอบสังหารจะนำมาสู่ชีวิตของ Phillip แค่ สองปีหลังจากนั้น หลังจาก Phillip สิ้นพระชนม์ ในปี 336 B.C.E. พระโอรส พระชมน์มายุ 20 พรรษา อเล็กซานเดอร์ เป็นKing และปกครอง Macedonia

อะไร เป็นแรงบันดาลใจ ให้อเล็กซานเดอร์ผู้ยังหนุ่ม ในปี 336-323 B.C.E.อุตสาหะ กับกองทัพที่ยิ่งใหญ่และ มีชื่อเสียงกิติศัพย์เลื่องลือ ไม่เคยแพ้ใคร ในประวัติศาสตร์ของกรีก Plutarch เขียน ใน ปลายๆๆคริสศตวรรษที่ 1 ความมีชื่อเสียงของอเล็กซานเดอร์ บรรพบุรุษเชื้อสายเทพเจ้า สำหรับในความทะเยอทะยานของพระองค์ นั้นคือ พระบิดาของพระองค์ไม่ใช้ Philip แต่ที่แท้จริงคือ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของกรีก ซีอุส Zeus

นักวิจัยบางคนเชื่อว่า ความทะเยอทะยานของอเล็กซานเดอร์ ได้รับการอบรมเลี้ยงดูจากพระมารดา Olympias คนพื้นเมืองของ Epirus ในภูมิภาคตะวันออก ของเมสิโดเนีย ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ของ ทะเลอีเจียน

ในการประกาศสงคราม ต่อต้านชาวเปอร์เซีย
อเล็กซานเดอร์ นำกองทัพทหาร 40,000 คน และ ข้ามไป Hellespont ในปี 334 B.C.E. กับผู้ช่วยกองทหารม้า และความแข็งแรง Phalanxes of Macedonian พลทหารราบ อเล็กซานเดอร์จัดสรร ตีบดขยี้กองทัพของKing Darius III พ่ายแพ้ ที่ Issus ในปี 333 ฺB.C.E. ต่อจากนั้น อเล็กซานเดอร์ ดำเนินการ ขั้นต่อไป ตีลึกเข้าไปอีก ในอาณาจักรเปอร์เซีย อ้างสิทธิ์ดินแดนเปอร์เซีย และปล้มสะดม สำหรับพระองค์และกองทัพ

ทะยอย ตี ซีเรีย,Phoenicia , Judah, และอียิปต์ ดินแดนนี้เป็นของจักรพรรดิ เมซิโดเนียน ซึ่งยังหนุ่ม ต่อด้วย Tyre, Gazaและ หลังจากนั้น สะมาเรีย
การต่อต้านที่มีความสำคัญ แต่พวกเขาในไม่ช้า เริ่มเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร ต่อจากนั้นกองทัพอเล็กซานเดอร์ กลับไปทางตะวันออก ครอบครอ ดินแดนที่ยิ่งใหญ่ของเมโสโปรเตเมีย คือ บาบิโลน Susa และ Persepolis ก่อนที่ยึด Upper Indus River Valley หลายๆๆเมืองเคยสถาปณาโดย ชาวกรีก ผู้ที่ไปอาศัยในอาณานิคมก่อนอเล็กซานเดอร์มากอบกู้อิสระภาพ และพระองค์ย้าย พระบิดา ไปทางภูมิภาคตะวันออก ประมาณพันไมล์จากบ้านของพระองค์ อเล็กซานเดอร์จำได้ว่าการค้นหาและ อย่างเอาจริงเอาจัง ความซื่อสัตย์ จงรักภักดี ของประชากรท้องถิ่น พระองค์นมัสการ และเคารพ พระเจ้าของพวกเขาเหล่านั้นไปด้วย

 

โดย: Bernadette 25 เมษายน 2551 14:08:06 น.  

 


Source ://content.answers.com

King ยังหนุ่มอเล็กซานเดอร์มีอำนาจปกครองประเทศ ประเด็น ของชาว Hellenish และ ค้นพบ เมืองเคยวางรากฐานอยู่บน Greekใหม่ ผู้นำมีอำนาจสูงสุดท่ามกลางพวกเขาคือ อเล็กซานเดอร์ ค้นพบในปี อียิปต์และชายฝั่งเมดิเตอเรเนียน ในปี 331 B.C.E. มันเริ่มซึ่งประกอบด้วยศูนย์กลางการเรียนรู้หลายชนชาติหลายวัฒนธรรม ในศตวรรษ คนกรีกเป็ฯพันพันคน มาแสวงหา อนาคตของพวกเขาเหล่านั้น และเริ่ม ค้าขาย และ ดำเนินกิจการ และพวกเขาย้ายที่ตั้งอยู่ในเมืองใหม่ พวกเขา Hellenistic แพร่หลายกระจัดกระจาย และวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีผ่านไปสู่ เมดิเตอเรเนียน Basin และไปทางตะวันตกของเอเซียอเล็กซานเดอร์ไม่ได้อยู่ในอาณาจักรของพระองค์อย่างยาวนาน ประมาณ 10 ปีหลังจาก สมรภูมิรบ ใน Issus ในเดือน June 323 B.C.E. อเล็กซานเดอร์สิ้นพระชมน์ จากการเจ็บป่วยเป็น จากการเป็นไข้ นั้นคือมันเต็มไปด้วยการ ไม่มีหลักฐาน พระองค์สิ้นพระชมน์มายุ 32 พรรษา ความยุ่งเหยิงความสับสน อลม่านเข้ามาในอาณาจักรของพระองค์ หลังจากพระองค์สิ้นพระชมน์ กองกำลังพยายามดิ้นรนต่อสู้ มีผลมาจาก ในหมู่พวกแม่ทัพ นายพลของพระองค์

พวกเขาต่อสู้ควบคุมเหนือ อาณาจักรใหม่ Macedonian และพิชิตภูมิภาคนี้ จุดประสงค์ของ Cassander สำหรับควบคุม Greece และ Macedonia

Ptolemy หนึ่งในนายพลแม่ทัพผู้มีความสามารถมากที่สุดของอเล็กซานเดอร์ ต้องการ อียิปต์ Antignonus นำกองทัพควบคุม เอเซียไมเนอร์ ขณะที่ Seleucus ได้รางวัลใจดินแดนใจกลางสำคัญของบาบิโลน นี้คือเนื้อหาการจัดสรรดินแดนเล็กน้อยของเหล่านายพลแม่ทัพเหล่านั้น อย่างไรกะตาม สงคราม ได้ประทุ ท่ามกลางพวกนายพลแม่ทัพเหล่านั้น ระหว่างปี 315 และ 312 B.C.E. Antigonus และ Seleucus I ในปี 312 -280 B.C.E. ผู้ซึ่ง ประกาศสนับสนุนเป็นพวกเดียวกัน อย่างชั่วคราว กับ Ptolemy I กลับไปยูดาห์ในสมรภูมิรบ


Source :www.livius.org
ในปี 301 B.C.E. Antigonus ปราบปราม ในศึกที่ Ipus Ptotemy I Soter ในปี 301-285 B.C.E. ต่อจากนั้นตั้งเป็นราชวงค์ Ptolemaic อาณาจักรของพระองค์ตอนนี้ จากอียิปต์ ไป Phoenicia และ ซีเรีย รวมถึงยูดาห์ ยูดาห์ตอนนี้เป็นเขตรัฐกันชน ต่อต้านการบุกรุก คู่ต่อสู้ในอนาคต พระองค์ทรงย้ายเมืองหลวงของอาณาจักรอียิปต์ จาก Memphis ไปที่ Alexandria เมืองที่ อเล็กซานเดอร์ค้นพบ เป็นการระลึกถึงอเล็กซานเดอร์ และเมืองนี้เป็ฯกุณแจสำคัญในด้านการค้าขายขออาณาจักร

การเมืองการปกครองของอาณาจักร อเล็กซานเดอร์ โดนยึดอำนาจหลังจากพระองค์สิ้นพระชมน์ แต่วัฒนธรรมประเพณี ได้เข้าไป และยังคงยิ่งใหญ่อยู่ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่า ภาษาอาราเมอิก Aramaic ยังพูดอยู่ต่อเนื่อง ภาษากรีก Greek (พูดในภาษาท้องถิ่น เช่น know คือ Koine) ตอนนี้ เริ่มมีอำนาจเหนือกว่า ใน สังเวียนของนานาชาติไม่ว่า การค้าขาย การเมือง และศิลปะเมืองใหม่ตอนนี้เกิดขึ้น ใน Greek model ใช้ในรูปแบบพัฒนามาจาก Hippodamus of Miletus กับ หลังจาก หอสมุด พระวิหาร และ สถานศึกษา ทั้งหมดออกแบบในสไตล์ Hellenistic วรรณกรรมของกรีก โรงละคร และปรัชญา ได้เรียนใน สถาบัน ทุกหนทุกแห่งตั้งแต่ต้นจนจบ ใน Mediterranean Basin ความสามารถในการอ่านและเขียน รู้หนังสือ ได้เบ่งบาน โดยเฉพาะ ในแถบชายฝั่งทะเล


Source ://www.fleur-de-coin.com/currency This fourth-centuray B.C.E. Athenian silver tetradrachm (meaning "four drachmas") coin bears an owl, symbol of Athena, goddess ow wisdom.

ระบบอัตราการแลกเปลี่ยน ได้แนะนำการใช้เหรียญกษาปณ์ มีส่วนสำคัญ the Attic owl เหรียญโดยปรกติ ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศ การค้าขายเฟื่องฟู ในการแลกเปลี่ยน ทำให้การค้าขายในเส้นทางทางทะเล ขยายตัว และถนนเส้นใหม่ได้สร้างขึ้นด้วย ขณะที่มีอยู่ได้รับการฟื้นฟู และเจริญรุ่งเรือง สนับสนุน ให้ภาวะเศรษฐกิจเติบโตขึ้นลักษณะการดำเนินการทั้งหมด มีผลกระทบต่อชาวยูดาห์ มันเริ่มเป็ฯที่รู้กันว่า ระหว่างยุดสมัยของ Ptolemaic ชาว Hellenistic มีอิทธิพล ไม่ยาวนานโดยเล็กน้อย มันเริ่มมากกว่า และ ล่วงล้ำ บุกรุก ไม่ว่า ด้านภาษา เหรียญของอาณาจักร

สำหรับ 300 ปีต่อไป ในทางปฎิบัติของชาวยิว จะพยายาม ต่อต้านต่อสู้ ในวัฒนธรรมประเพณีของ ลัทธิจักรวรรดินิยม พวกเขาจะเปลี่ยนแปลงระหว่าง ความแตกต่าง ในความสำเร็จ จนกระทั้ง การมาถึง ของการล่าของอาณาจักร จักรวรรดินิยม ที่โหดร้ายทารุณ ในรัชสมัยของ โรมัน ซีาร์ และอาณาจักรของพวกเขา

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 26 เมษายน 2551 9:35:21 น.  

 

The Diaspora
Diaspora \\Di*as"po*ra\\, n. [Gr. ?. See {Diaspore}.]
Lit., "Dispersion." -- applied collectively: (a) To those Jews who, after the Exile, were scattered through the Old World, and afterwards to Jewish Christians living among heathen. Cf. --James i. 1. (b) By extension, to Christians isolated from their own communion, as among the Moravians to those living, usually as missionaries, outside of the parent
congregation.
[Webster 1913 Suppl.]

From WordNet (r) 2.0 (August 2003) [wn]:

diaspora
n 1: the body of Jews (or Jewish communities) outside Palestine or modern Israel
2: the dispersion of the Jews outside Israel; from the destruction of the temple in Jerusalem in 587-86 BC when they were exiled to Babylonia up to the present time [syn: {Diaspora}]
3: the dispersion or spreading of something that was originally localized (as a people or language or culture)

อย่างไรกะตาม พวกเขาเหล่านั้นในยูดาห์ผู้ซึ่ง ต้อนรับสนธิสัญญาในดินแดนและสันติภาพใน อาณาจักรเครือจักรภพของอเล็กซานเดอร์ The Ptolemiesขะมักเขม้น ฟื้นฟูภูมิภาคแคว้น เขตปกครองของพระองค์ ก่อนหน้านี้การกสิกรรมปริมาณมาก ตั้งแต่อียิปต์ และยูดาห์ ตอนนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล การเพิ่มกองกำลังทหารระหว่างดินแดนสองแห่งที่เพิ่มขึ้น และจำนวนสมาชิกเครือจักรภพในนั้นคือชาวยิว กระตือรือร้นร่วมมือในการได้ประโยชน์จากดินแดนภูมิภาคนั้นของการฟื้นฟูใหม่ ตัดสินใจ เดินทางและไปตั้งถิ่นฐานในเมือง Alexandria พวกเขาเหล่านั้นเคยเป็นชาวยิวที่มีอยู่จริงนสังคมชุมชนอียิปต์ เป็นส่วนหนึ่งของการเนรเทศ ส่วนมากพวกนี้มาถึงหลังจาก เมืองเยรูซาเล็มล่มสลาย ในปี 586 B.C.E. บันทึกกระดาษปาปิรุสของชาวอียิปต์เผยปรากฎให้เห็น การดำรงค์อยู่ของชาวยิว เป็นอาณาณิคม ทางตอนใต้ ของAswan

King Ptolemaic ใช้จ่ายเกินขอบเขตฟุ้มเฟือย ในเมืองหลวงใหม่ของพระองค์นั้นคือ เมือง Alexandria เริ่มเป็นแม่เหล็กดึงดูดความสนใจสำหรับพ่อค้าวาณิชชาวยิว การบริหารราชการ และนักวิชาการ และอพยพ จากทุกหนทุกแห่งเข้าไปในอาณาจักรของ เปโตรเลมี ศตวรรษต่อมา เมือง Alexandria เริ่มเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมประเพณี ในตะวันออกกลาง กับมหาวิทยาลัย และดาราศาสตร์ การพยากรณ์อากาศที่ดูจากอาการของสัตว์ ส่วนพฤษศาสตร์ และทั้งหมด ห้องสมุดที่โอฬาร บรรจุหนังสือที่มีเนื้อหามากกว่า 400,000 เล่ม และเป็นไปได้ที่ เป็นสถานที่ศูนย์กลางการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

Alexandria Library


ชาวยิวอีกส่วน เป็นเกษตรกร และช่างฝีมือ หลบหนีไปอยู่ชนบทตามหมู่บ้านของยูดาห์ และแสวงหาอนาคตของพวกเขาเหล่านั้น ท่ามกลาง เมืองที่สร้างโดยชาว Ionian (ชนชาติกรีก) ชายฝั่งตะวันตกของGreece สังคมชาวยิวที่ถูกนรเทศที่กระจัดกระจาย อยู่ตาม นานาชาติ เริ่มสมัครใจเนรเทศ ไม่สงเสริมสงคราม แต่เปิดโอกาศทางเศรษฐกิจ

ชาวยิวที่ถูกเนรเทศ เผชิญหน้ากับมัน และแบ่งปันกับปัญหา ที่ใกล้ กับการเปลี่ยนแปลงทุกขณะของชาวยิวที่เนรเทศกับการเผชิญหน้า กับ อารยธรรมประเพณีความเจริญของชาว Hellenistic อย่างไรกะตามผลของความตึงเครียด คือผู้นำที่เข้มแข็งยึดมั่นในกฎของโมเสส ผู้เนรเทศดำเนินอย่างต่อเนื่องต่อการยินยอมทำตามกฎพิธีสุหนัดของชาวยิว และการอดอาหาร เพื่อเป็ฯเกียรติย์ถวายแด่พระYHWH จากการอ่านหนังสือ Torahระหว่างชุมชนของสังคมชาวยิว

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 27 เมษายน 2551 9:12:52 น.  

 


Source : //holyland-pictures.com/category/judea/herodion/
The Synagogue
The Zealots, who built a synagogue and ritual baths (Mikve) on the site, held Herodion for four years, until they were defeated by the Romans.
The Jewish War (67/8 A.D.)

ชาวยิวที่เนรเทศเริ่มต้นสร้างชุมชนเล็กๆๆ สร้างกลุ่มของชาวยิวที่เข้าร่วมทำพิธีทางศาสนา คำว่า "synagogues ภาษากรีก ความหมาย House of assembly หรือภาษาฮิบรู Beit knesset" บันทึกกระดาษปาปิรุสของชาวอียิปต์กล่าวถึงเรื่องนี้ ในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล แต่เป็นไปได้นั้นคือ สถานที่การชุมนุม เคยใช้มาก่อน กลุ่มชาวยิวที่เข้าร่วมพิธีทางศาสนา สถานที่ชุมนุมประกอบด้วย ซึ่งเป็ฯสี่เหลี่ยมมุมฉาก บริเวณข้างเป็นพื้นที่ยาวมีม้านั่งไปสิ้นสุดที่กำแพง ซึ่งอยู่ตรงข้ามเยรูซาเล็ม สถานที่ ช่องหรือโพรงบนผนังกำแพงที่ทำไว้เพื่อวางสิ่งบูชา เรียกว่า The Ark บรรจุไปด้วย ม้วนหนังสือที่ใช้เขียนกันในสมัยโบราณ (ทำจากหนัง/กระดาษ)พระคัมภีร์ โตราห์ สถานที่ของชุมชนชาวยิวใช้ในทางพิธีทางศาสนา ซึ่งเหลือรอดเก่าที่สุด และมีเพียงที่เดียวค้นพบ จาก The Second Temple ในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ พบที่ส่วนหนึ่งทางตะวันตกเฉียงเหนือ กำแพงรอบๆๆ ภูเขา Herodian ซึ่งมีชื่อเสียงว่า Masda นี้คือ สถานที่ชุมชนชาวยิวใช้ทำพิธีทางศาสนา สร้างประมาณ ปีที่ 31 ก่อนคริสตกาล สามารถบรรจุคนได้ 250 คน ที่ดังเดิมแบ่งออกเป็นสองส่วนโดยใช้กำแพง และ รูปพรรณสัฯฐานคือหิน ที่วางเป็นหลังคา The Zealots ผู้ซึ่งควบคุม ที่มั่นป้อมปราการ Masadaของสงครามชาวยิว ระหว่าง 66-67 ก่อนคริสตกาล ปูนฉาบผนังแนวหินที่นูนขึ้น ซึ่งต่อเนื่องกันเป็นที่นั่งที่ทำลดหลั่นลงมา สามตำแหน่ง ชั้นพื้นผิวภายนอก ของกำแพง มีช่องหรือโพรงบนผนังกำแพงที่ทำไว้เพื่อวางสิ่งบูชา ของหนังสือม้วนพระคัมภีร์ โตราห์ พวกเขายังสร้างห้องผู้ดูแลอยู่ข้างหลัง ผนังกำแพงที่ทำไว้เพื่อวางสิ่งบูชา สถานที่ขุดค้นโดยเฉพาะเกี่ยวกับวัตถุโบราณ ค้นพบ ม้วนหนังสือที่ใช้เขียนกันในสมัยโบราณ (ทำจากหนัง/กระดาษ)ส่วนที่แตกออกมา เป็นชิ้นๆๆ บรรจุเนื้อหาของประกาศก เอเซเคียล Ezekiel และ Deuteronomy การค้นพบที่เพิ่มขึ้นเศษหม้อแตก (โดยเฉพาะที่เป็นวัตถุโบราณ) สลัก จารึก ในโวหาร "me'aser kohen นั้นคือ Priest's Tithe ค่าภาษีที่หักออกไปหนึ่งในสิบ) แน่ใจว่าในการอยู่ในสถานที่หนึ่ง (ของบุคคล)พระสมณะอยู่ที่นี้ และ สถานที่ชาวยิวที่เข้าร่วมทำพิธีทางศาสนา ไม่เหมือนกับโบส์ถ ไม่มีปฎิบัติพิธีกรรม แต่ค่อนข้างจะ เป็นที่สำหรับศูนย์กลางพระสมณะ ใช้สำหรับซึ่งใช้ในการอ่าน และ แสดงข้อคิดเห็น อธิบายพระคัมภีร์โตราห์ และไม่เว้นแต่เรื่องของสังคมด้านอื่นๆ

ภาษาที่เป็นอุปสรรคเริ่มแสดงให้เห็นถึงปัญหา ในการอ่านพระคัมภีร์โตราห์ ในการนมัสการ สักการะ ม้วนหนังสือที่ใช้เขียนกันในสมัยโบราณ (ทำจากหนัง/กระดาษ) เขียนด้วยภาษาฮิบรู แต่ระหว่างนั้นหลังจาก เนรเทศไปบาบิโลน และ แปลข้อความจากพระคัมภีร์เป็ฯภาษาอาราเมอิก (ที่รู้จักกันคือ Targum) เริ่ม แผ่ ส่งต่อๆๆไป และภาษา อาราเมอิก มีบทบาทสำคัญ ทั้งในบาบิโลน และยูดาห์

ใน อาณาจักรของ King Ptolemaic พบหลักฐานทางโบราณคดีในที่อื่นๆในโลก ประชากร แนวโน้ม พูดภาษากรีก จากศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล ชาวยิวเล็กน้อยที่ย้ายภูมิลำเนาด้วยพวกเขาเอง สามารถ เข้าใจ อักษรโบราณ และอ่านในที่ กลุ่มของชาวยิวที่เข้าร่วมทำพิธีทางศาสนา นี้คือ เกี่ยวกับภาษา นิรุกติศาสตร์ ที่เกี่ยวเนื่องกับการแบ่งแยก สำหรับการถกเถียงของพวกเขาเหล่านั้น บุคคลซึ่งเดินทางไปทั่วโลก ชาวยิวหลายๆๆคนในอเล็กซานเดรีย ยังคง มี ความแน่วแน่ ไม่เปลี่ยนแปลง ซื่อสัตว์ต่อกฎของโมเสส ที่พวกเขาเหล่านั้นศรัทธา

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 27 เมษายน 2551 21:10:08 น.  

 

Origins of the Septuagint


จริงๆแล้ว การอธิบายเกี่ยวกับ การแปลความหมายของข้อความจากพระคัมภีร์ฮิบรูกลายเป็ฯภาษากรีก และต่อจากนั้น เป็ฯภาระหน้าที่ ที่สิ้นเปลืองเกี่ยวกับจดหมายเหตุของ Aristeas,เอกสารเป็นไปได้ที่เขียนในกลางศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล ในมุมมองของไบเบิ้ล เขียนในภาษากรีกเป็นครั้งแรก King Ptolemy II Philadelphus ในปี 285-246 ก่อนคริสตกาล พระองค์ทรงเลื่อมใสศรัทธา โดยบรรณารักษ์ ชื่อ Demetrius of Phalerum Demetrius ผู้ซึ่ง มีพรสวรรค์ เชิญชวน ราชสำนัก สนับสนุน ให้เหตุผลกับking นั้นคือ "กฎของชาวยิวที่ถ่ายทอดเป็นต่ออักษรมีคุณค่า และ ควรค่าแก่การได้รับ บรรจุไว้ในห้องสมุดของKing"

ต่อจากนั้น King Ptolemy II Philadelphus ทรงจำได้ว่า ชาวยิวหลายร้อยคนยังคงเป็นเชลย และอ่อนกำลังในที่กักขัง ผลจากการรณรงค์กองทัพทหาร ที่มีมาก่อนสิบปี King Ptolemy II ส่ง นัการทูต ไปหาพระสมณะชั้นสูง Eleazar ในเยรูซาเล็ม เจราจาการยุติโจมตี เขาเสนอ ให้จัดตั้งเกี่ยวกับการปกครองของผู้ต้องหาทางการเมือง เป็นอิสระ ถ้าพระสมณะชั้นสูง ส่ง นักวิชาการ 72 คนมาให้เขา (6 คนของแต่ละเผ่า ที่มีพี่น้องชนเผ่า 12 ตะกูล) เพื่อจะได้แปลพระคัมภีร์ฮิบรูได้อย่างสมบรูณ์ การเจรจายุติ และทันเวลา เพราะ นักวิชาการเพื่อแปลพระคัมภีร์ ยุ่งกับการ แปลอักษรฮิบรูเป็ฯภาษากรีก ผลของการทำงานนั้นคือ Septuagint พระคัมภีร์ไบเบิลฉบับเก่า, (แปลเป็นภาษากรีกในช่วงศตวรรษที่ 2 และ 3 ก่อนคริสตกาล) เป็ฯชื่อภาษาลาติน ความหมายคือ "Seventy" Septuaginta

มันเป็นเรื่องที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ แต่ประวัติศาสตร์ ความแม่นยำถูกต้อง คือปัญหาโดยเนื้อหาความเป็ฯจริง ของ Septuagint เต็มไปด้วยความสงสัยเปรียบเหมือนกับ ภาษาพื้นเมืองของ Alexandrian ในความเป็นจริง ประวัติศาสตร์ที่ทันสมัยที่สุด เชื่อว่านั้นคือ อาลักษณ์ เจ้าหน้าที่คัดลอก ใน Alexandrian ที่แปลภาษามากที่สุด กับ การอนุญาติให้ตีพิมพ์ในเยรูซาเล็ม มีทุนการศึกษาสนับสนุน ช่วยเหลือ ใน เมืองและชานเมือง ผู้ที่รอบรู้ทางด้านศาสนา ในการแปลภาษาออกมา Septuagint ดั้งเดิม รวมถึงภาษากรีก แปลออกมาเป็ฯPentateuch หนังสือ 5 เล่มแรกของพระคัมภีร์ แต่ ศตวรรษต่อมา แปลเล่มอื่นๆและเพิ่มหนังสือเล่มนี้เข้าไปด้วย แม้ว่า Septuagint จะมารวมกันทั้งหมดใน พระคัมภีร์ฮิบรู

จำนวนวันของราชวงค์Ptolemaic ปกครองยูดาห์ ชาวต่างขาติเริ่มคุกคาม ปรากฎออกมา ประมาณ 200 B.C.E. ก่อนคริสตกาล King Ptolemy V Epiphanes 203-181 B.C.E. เริ่ม สงครามที่ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของ (สิ่งที่ไม่น่ายินดี) อาณาจักร Seleucid ซึ่ง ปกครองโดย สืบทอดมาจาก ก่อน Alexandrian คือ Seleucus I, King Ptolemy V ได้ต่อสู้พ่ายแพ้ไม่เป็นท่า ในปี 200 B.C.E. ระหว่าง สมรภูมิรบ ที่ Paneion ชัยชนะป็นของ Antiochus III 223-187 B.C.E. โดย ตัดสินให้ดินแดน Palestine ทั้งหมด ยึดครองเป็นของ อาณาจัก Seleucid emprie.

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 28 เมษายน 2551 11:23:42 น.  

 

The Seleucids

Nemrut Dag, East Turkey



Nemrut Dag, East Turkey
mountain lies 40km north of Kahta, near Adıyaman. In 62 BC, King Antiochus I Theos of Commagene built on the mountain top a tomb-sanctuary flanked A trip around Turkey. July 2005.
The mountain lies 40km north of Kahta, near Adıyaman. In 62 BC, King Antiochus I Theos of Commagene built on the mountain top a tomb-sanctuary flanked by huge statues (8-9 meters high) of himself, two lions, two eagles and various Armenian, Greek and Persian gods, such as Hercules, Zeus-Oromasdes (associated with the Persian god Ahura Mazda),
ดาเนียล 11:30-31

เชิงอรรถ

Daniel 11:30-32
30
4 When ships of the Kittim confront him, he shall lose heart and retreat. Then he shall direct his rage and energy against the holy covenant; those who forsake it he shall once more single out.
31
Armed forces shall move at his command and defile the sanctuary stronghold, abolishing the daily sacrifice and setting up the horrible abomination.
32
By his deceit he shall make some who were disloyal to the covenant apostatize; but those who remain loyal to their God shall take strong action.
เชิงอรรถ
[30] Kittim: originally this word meant Cypriots or other island dwellers. Here it means the Romans, who forced Antiochus to withdraw from Egypt during his second campaign there.



ยุคสมัย Seleucid หนึ่งในอาณาจักรเริ่มระส่ำระส่าย ปั่นป่วน ผันผวนที่สุด ในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ของชาวยูดาห์ กองกำลังที่ต่อเนื่องติดต่อกันพยายามต่อสู้ ขึ้นครองบัลลังก์ ใน Antioch สะท้อนให้เห็นถึง ในการแข่งขันระหว่างชาวยิวผู้สนับสนุน และฝ่ายตรงข้าม Seleucid ซึ่งปกครองชาวยูดาห์ การเพิ่มขึ้นของชาว Hellenization ในยูดาห์ รวมถึง การก่อสร้างเมืองสไตล์กรีก ซึ่งนำไปสู่การเติบโตของประชากรก่อนสังคมชาวยิวที่มีความน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ระหว่างพวกเขาเหล่านั้นซึ่งแสวงหา การปรับตัว กับวัฒนธรรมกรีก และพวกเขาเหล่านั้น ทำตรงกันข้ามกับมัน การรวมกันผสมกันเริ่มเป็นปัญหา และเศรษฐกิจที่เอาเปรียบหาผลประโยชน์ใส่ตัว ของ ระบอบการปกครอง Seleucidที่เพิ่มมากขึ้น การแบ่งแยกของชนชาติยิว ระหว่าง ความร่ำรวยกับความยากจน นั้นคือยิ่งลึกมากขึ้นหลังจาก โรมันพิชิต ยูดาห์ หนึ่งในครอบครัวชาวยิว the Tobiads ใช้ระบบผูกขาดการเก็บรวบรวมภาษี (tax Farming)ใน Transjordan เข้าด้วยกัน ได้แก่ในอนาคตพวกเขามีอิทธิพลทางการเมือง พัฒนาใน เยรูซาเล็ม ที่ซึ่งไม่เคยสิ้นสุดของการ ดิ้นรน ต่อสู้ มีผลตามาคือมีตำแหน่งเหนือ พระสมณะชั้นสูง กับ ความหลากหลายของ การต่อสู้ภายในหมู่ (เหล่า,ก๊ก,พวก,ฝ่าย) พยายามซื้อ ทางพวกเขาเหล่านั้นเพื่อตรงไปยังหน่วยงานของรัฐ ปัจจัยต่างๆๆของพวกเขาเหล่านั้นทั้หมด มีผล ในการแตกแยกของชนชาติยิว และในอนาคตการสร้างพัฒนา กับกลุ่มของชาวยิวที่ไม่เห็ฯด้วย รวมถึงชาว Pharisees, Essenes, และ Zealots ซึ่งมีอิทธิพลกระจายเข้าไปในยุคสมัย The New Testament พันธสัญญาใหม่ ความสับสนอลม่าน ของ อาณาจักร Seleucid ส่งผลไปอย่างรวดเร็ว โดย King Antiochus III ผลลัพย์ คือ การปะทะต่อสู้กันใน กรีก ต่อจากนั้น ระบบศักดินาเจ้าหลวง ปรากฎออกมา กองกำลังใหม่ที่เรียกว่า "Rome โรม" การพ่ายแพ้ของ กองทัพ King Antiochus ต้อง ส่งเงินชดเชยให้แก่โรม โดยในเวลานั้นพระโอรสของ Seleucus IV 187-175 ฺB.C.E. ขึ้นครองราชย์ อาณาจักร Seleucid ที่ใกล้ๆๆล้มละลาย พี่ชายของ Seleucus, Antiochus IV Epiphanes 175-164 B.C.E.โต้ตอบ ทางวิกฤิตระบบการเงิน โดยปล้นสะดม พระวิหาร อาณาจักรของพระองค์ทุกหนทุกแห่ง ผู้บริหารราชการแผ่นดิน Seleucidชั้นสูง Heliodorus ส่งคนออกไป เยรูซาเล็ม ยึดทรัพย์สมบัติ ภายในพระวิหาร ของพระYHWH เกี่ยวกับหนังสือ มัคคาบี Maccabees, Heliodorus ใช้อำนาจมิชอบ ในพระวิหาร เมื่อพระเจ้าเผยแสดงเกิดขึ้นปรากฎให้เห็นเด่นชัด

พระเจ้าทรงลงโทษเฮลิโอโดรัส
2 ,มคบ 3:24-25
24:เฮลิโอโดรัสมาถึงห้องคลังของพระวิหารพร้อมกับทหารคุ้มกัน พระเจ้าจอมจักรวาลผู้ทรงฤทธานุภาพทรงสำแดงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ทรงบันดาลให้ผู้ที่กล้าเข้าไปต้องตกตะลึงเมื่อเห็ฯพระอานุภาพของพระเจ้า และเป็นลมหมดสติ ไปด้วยความกลัว
25:บรุษผู้หนึ่งหน้าตาน่ากลัวปรากฎมา เขาขี่ม้าที่มีเครื่องประดับงดงาม ม้าตัวนี้พุ่งปราดเข้ามใช้กีบเท้าหน้าโขกเฮลิโอโดรัส คนขี่ม้าประหนึ่งสมเกราะทองคำ

2 Maccabees 3:24-25
24
But just as he was approaching the treasury with his bodyguards, the Lord of spirits who holds all power manifested himself in so striking a way that those who had been bold enough to follow Heliodorus were panic-stricken at God's power and fainted away in terror.
25
There appeared to them a richly caparisoned horse, mounted by a dreadful rider. Charging furiously, the horse attacked Heliodorus with its front hoofs. The rider was seen to be wearing golden armor.

การขโมยทรัพย์สมบัติในพระวิหารได้ถูกขัดขวาง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเยรูซาเล็มกับ Antioch นำกลับไปสู่สิ่งที่แย่กว่ากองกำลังพยายามต่อสู้ เริ่ม ประทุระเบิดขึ้น ผู้ซึ่งมีตำแหน่งพระสมณะสูง หนึ่งในคู่ต่อสู้คือ Yeshua หรือ Jesus ผู้ซึ่งเปลี่ยนชื่อ ใน Hellenized "Jason"ผู้ซึ่งมีสิทธิ์ก่อนผู้อื่นที่เป็นฝ่ายตรงข้ามของเขา โดยเสนอสินบนต่อking ต่อจากนั้นเขารวมตัวกันเป็นปึกแผ่น ในตำแหน่ง โดยถวายฎีกา ร้องเรียน king กลับไปเยรูซาเล็ม ตรงไปยังที่เมือง Greek polis รวมถึงการสร้าง สนามกีฬา และสถาบัน ที่ไม่ชอบโดยชาวยิวที่เคร่งครัดทางศาสนา King Antiochus ผู้ซึ่ง เข้มแข็งเชื่อว่า นั้นคือ ความละเอียดรอบคอบของ Hellenization จะรวมเข้าด้วยกัน กับส่วนที่แตกแยกออกมาของอาณาจักรพระองค์ ทรงเห็นด้วย และ ยืนยัน ให้พระสมณะ ชั้นสูง Jason อยู่ในพระวิหาร ภายในไม่กี่ปี พระสมณะผู้อื่น กับ ชาว Hellenized ชื่อ Menelasu เสนอ King Antiouchus IV แม้ว่าการติดสินบนที่สูงกว่า เป็นกำไรต่อเขา ที่ละโมบในกรรมสิทธิ์ นี้คือผู้ที่ได้รับตำแหน่ง สร้างความเสียหาย ในอนาคต ทำลาย ความเคารพนบนอบ ในระบบการปกครองของพระสมณะชั้นสูง ตั้งแต่ Menelaus (ไม่เหมือน Jason) ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกในครอบครัวของ Zadokite มันเป็นกุญแจ ความเชื่อทางศาสนาหรือการเมือง ของชาวยิว ที่เชื่อว่า มีผู้หนึ่งผู้ซึ่ง มีวี่แวว มีความสามารถในวงค์ตะกูล บรรพบุรุษ กลับไปที่ Zodok พระสมณะของโซโลมอนผู้มีตำแหน่งความสามารถสูงสุด Menelaus ลงทุนเพื่อหากำไร และJasonหนีไป Transjordan ร้องของครอบครัวที่ร่ำรวย Tobiad ให้ช่วย เพราะกองกำลังพยายามต่อสู้อย่างต่อเนื่องในเยรูซาเล็ม

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 28 เมษายน 2551 20:16:10 น.  

 


The Hasmonean Dynasty
Source :www.answers.com/

และมันเกิดเหตุการณ์ขึ้น King Antiochus IV หลังจากเกิดการขับไล่ โดยชาวอียิปต์ ที่กองกำลังกองทัพได้รับการช่วยเหลือโดย Rome ความกระหายซึ่งยากที่จะควบคุม ได้กำจัดความเสียหายต่อจิตใจความรู้สึกหรือชื่อเสียงแห่งความทะนงตน King Antiochus ได้ย้อนกลับไป และ เดินแถวสวนสนาม มาที่เยรูซาเล็ม เพื่อต่อสู้กัน ยุคThe Pro-Greek ฝ่ายหรือกลุ่มที่มีเสียงส่วนน้อย ได้ตอนรับพระองค์อย่างเป็นมิตร แต่ King Seleucid ใช้จ่ายงบประมาณของพระองค์ ด้วยความโกรธแค้น โดยรวมตัวกันไล่ต้อนบัญชีหนี้สินของผู้คัดค้านไม่เห็นด้วย


Illustration of Antiochus and the seven Maccabee brothers from a late 15th-century illuminated manuscript of Flavius Josephus's the Jewish War.

เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาวยิว Josephus เขียนในศตวรรษที่ 1 ของคริสตกาล King Antiochus IV ได้ออกพระราชกฤษฎีกา ข้อบังคับ นั้นคือ นับแต่นี้ไป ที่ไม่ใช่วัฒนธรรม ประเพณีของกรีกและทำเป็นกิจวัตร ห้าม(ตามกฎหมาย)ภายใต้ความเจ็บปวดและความตาย โดยทั้งหมด รัฐมีจุดประสงค์บังคับให้ปฎิบัติิิเป็นไปตามกฎหมาย ในขนบธรรเนียมประเพณี ภาษา และ ศาสนาในยูดาห์ นักวิจัย ได้ถกเถียงนั้นคือ การผลักดันโดยความเป็นปรปักษ์ ต่อต้านพระเจ้าของชาวยิว แต่ King Antiochus เชื่อมั่นอย่างแรงกล้า นั้นเป็นเพียงแค่ความเข้มงวดบังคับใช้ตามกฎหมาย ของรัฐศาสนาซึ่งเป็นรัฐเดี่ยว สามารถนำสันติภาพในการปกครอง และผลที่ตามมา การนมัสการพระYHWH เป็นสิ่งต้องห้าม

การนมัสการเทพเจ้าของกรีก ได้แก่ เทพเจ้า Dionysus เทพเจ้าของไวน์ ซึ่งสถาปนาขึ้น เกี่ยวกับ Josephus ผู้ซึ่งต่อต้านพวกเขาเหล่านั้น " การเฆี่ยน โบยด้วยไม้ และร่างกายของพวกเข้าเหล่านั้นเป็นรอยฉีกออก เป็นชิ้นๆ และฆ่าโดยการตรึงกางเขน ขณะที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่และมีลมหายใจ"

ความหน้ากลัวหน้าขนลุก โดยระบบการปกครอง ความน่ากลัว สยองขวัญ พระสมณะชื่อ Mattathias จาก Modein ประมาณ 20 ไมล์ทางตะวันตกของเยรูซาเล็ม ตัดสินใจ แสดงให้เห็น และมันได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นข้าราชการของ Seleucid มาในหมู่บ้าน ใช้กำลังให้ปฎิบัติตาม นมัสการประเจ้านอกศาสนาของเค้า Mattathias ปฎิเสธการนมัสการพระเจ้าอื่น และเขาได้ฆ่าชาวยิวผู้เลิกศรัทธาละทิ้งศาสนา หลบหลีกทางกลับไปสนับสนุน เสนอหน้าในสถานที่นี้ Mattathias ได้ฆ่าข้าราชการชาว Seleucid พระสมณะได้ต่อสู้หลบหนีและปลอดภัยในภูเขายูดาห์ แต่ความน่าทึ่งของการกระทำเร่งเร้าให้ชาวยิวก่อกบฎต่อต้านกฎหมายของSeleucid Mattathias และลูกชายของเค้าสามคน Judas,Jonathan และSimon ผู้นำการปฎิวัติ และท้ายสุด สถาปนา ราชาวงค์ Hasmonean ชื่อนี้มาจาก Mattathias ปู่ของเขาที่ยิ่งใหญ่ Asamonaios หลังจาก Mattathisสิ้นใจลูกชายของเขา Juda Maccabeus 166-160 B.C.E. เริ่มต้นจุดไฟการจลาจล ชาวยิวผู้ที่มีทักษะดี ทุกหนทุกแห่งในภูมิภาครวมตัวอยู่กับเขาทั้งหมด

เชื่อว่าในหนังสือดาเนียล รวบรวมในวันต่อต้านที่ยุ่งยากของชนชาติของพวกเขาเหล่านั้น และจับกุมยึดครอบครองจิตวิญญาณของชาวยูดาห์ที่โอบล้อมด้วยศตรู หนึ่งในหกบทบรรยายความยากลำบากในการเนรเทศที่บาบิโลน ทำให้ผู้อ่านพระคัมภีร์นึกถึงความรอดของชนชาติชาวยิว โดย คุณความดีมีศีลธรรมปฎิบัติตามกฎแห่งพันธสัญญาพระบัญญัติพระเป็นเจ้า และศรัทธาพระYHWHครึ่งหนึ่งของส่วนหลังในหนังสือ อธิบายถึง"evil"ปีศาจ รัชกาล King Antiochus IV ในสัญญาลักษณ์นี้ ในรูปแบบของการมองเห็นที่ดาเนียลได้รับ และคาดการณ์ล่วงหน้าใกล้เข้ามาของการล้มสลาย ของอาณาจักร Seleucid ในหนังสือเนื้อหาส่วนที่สำคัญมากกว่าอย่างอื่น นั้นคือ ถ้าชาวยิว มีศรัทธาแน่วแน่ พระเจ้าผู้มีอำนาจสูงสุดจอมกษัตริย์แห่งจักรวาลจะให้พวกเขาเหล่านั้นได้รับชัยชนะ(ในความรอด)ในตอนสิ้นสุด

2มัคคาบี 7:9
9 เมื่อใกล้จะตาย เขาพูดว่า "พระองค์ทรงโหดร้าย ทรงทำลายชีวิตปัจจุบันของพวกเราได้ แต่พระเจ้า กษัตริย์จอมจักรวาลจะทรงบันดาล ให้เรากลับคืนชีพมีชีวิตตลอดไป
เชิงอรรถ

2 Maccabees 7:9
9
1 At the point of death he said: "You accursed fiend, you are depriving us of this present life, but the King of the world will raise us up to live again forever. It is for his laws that we are dying."

เชิงอรรถ
1 [9] The King of the world will raise us up: here, and in 2 Macc 7:11, 14, 23, 29, 36, belief in the future resurrection of the body, at least for the just, is clearly stated; cf also 2 Macc 12:44; 14:46; Daniel 12:2.
ผู้เขียนหนังสือดาเนียล กับกลุ่มหนังสือที่เป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า "the wise"สติปัญญา(เดาว่าปรีชาญาณอะปะอะ) อธิบายในหนังสือเป็ฯไปได้ว่า กลุ่มผู้เคร่งครัดในศาสนาของชาวยิว (บางครั้งสมาคมร่วมกับ กลุ่มHasidim)ผู้ซึ่งพยายามยกตัวอย่างการปฎิบัติตามของศาสนา ในด้านมุมมองของการโดนเบียดเบียนข่มเหงรังแก

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 29 เมษายน 2551 13:40:46 น.  

 



Source ://wdtprs.com/blog/2006/08/1-august-the-seven-maccabees/

Credit :Slavishly accurate liturgical translations & frank commentary on Catholic issues - by Fr. John Zuhlsdorf

Among the many saints we commemorate today we find in the Martyrologium Romanum the Seven Maccabee brothers. Here is their entry:
You remember the Maccabees? The Maccabees were Jews who rebelled against the Hellenic Seleucid dynasty in the time of Antiochus V Eupator. The Maccabees founded the Hasmonean dynasty and fought for Jewish independence in Israel from 165-63 BC. In 167 BC, Mattathias revolted against the Greek occupiers by refusing to worship the Greek gods. He killed a Hellenizing Jew who was willing to offer a sacrifice to the Greek gods. Mattathias and his five sons fled to the wilderness of Judea. Later Mattathias’s son Judas Maccabaeus led an army against the Seleucids and won. He entered Jerusalem, cleansed the Temple, and reestablished Jewish worship. Hanukkah commemorates this victory. In the period 167-164 BC Antiochus IV Epiphanes (175-163) killed and sold thousands of Jews into slavery. He violated the Jewish holy sites and set up an altar to Zeus in the Holy of Holies (1 Maccabees 1:54; Daniel 11:31). The people revolted and Antiochus responded with slaughter. He required under penalty of death that Jews sacrifice to the gods and abandon kosher laws. "Others were tortured, not accepting deliverance, that they might obtain a better resurrection. Still others had trial of mockings and scourgings, yes, and of chains and imprisonment" (Hebrews 11:35-36). A chief of the scribes, Eleazar, an old man, did not flee. Pork was forced on him, into his mouth, he spat it out and was then condemned to death.

St. Ambrose, in his work On Jacob and the blessed life recounts Eleazar’s death along with the deaths of seven sons of a mother. The work is filled with Neo-platonic and Stoic themes, especially about virtue theory. Ambrose goes through all their deaths in detail, making commentary on them for what they meant.


การปฎิวัติของ Maccabees ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมายทั้งหมด ในปี164ก่อนคริสตกาล Judas ยึดJerusalem ทำความสะอาดชำระพระวิหารและการอุทิศถวายตัวอีกครั้งของชาวยิวในการนมัสการ แม้ว่า การฉลองเพื่อเป็นการระลึกถึง โดยเทศกาล Hanukkah

การทำสงครามกับ King Antiochus IVดำเนินอย่างต่อเนื่องแต่Judas ไม่ให้เขตแดน ในปี161 B.C.E. เขาประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจในชัยชนะเหนือกองกำลังแม่ทัพซีเรีย Nicanot Judas สังหารเค้าในสมรภูมิรบ Elasa ในปี 160 B.C.E. หลังจากที่ Jonathan ในปี 160-142 B.C.E. เป็นผู้นำปฎิวัติ Jonathan ตี ศตรู The Seleucidกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง อย่างรุนแรง นั้นคือ King Demetrius I ในปี 162-150 B.C.E. ในที่สุดร้องขอพักรบสงบศึกชั่วคราว ภายใต้ข้อตกลงเงื่อนไข ในปี152 B.C.E. ข้อตกลงสนธิสัญญาสันติภาพร่วมกัน Jonathanแต่งตั้งรัฐบาลปกครองตนเองSeleucidขึ้นเป็ฯแคว้นกับ Judea ประชาชนชาวยิว ปิติยินดี เป็นครั้งแรกของแสงระยิบในอิสระภาพที่ปรากฎ 2ปีต่อจากนั้น หลังจาก Alexander Balas ในปี 150-145 B.C.E. สมาชิกในกลุ่มของ Jonathan โค่นล้มอำนาจ Demetrius และ king องค์ใหม่ของSeleucid Jonathan ยืนยันการเข้ารับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของพระสมณะ นี้คือความเร่งรีบของการแสดงออก อย่างไรกะตาม ความเจ็บปวดของผู้เคร่งครัดศาสนาของชาวยิว จุดประสงค์การปฎิวัติของ Maccabbesเคยฟื้นฟู กฎหรือหลักเกณฑ์ทางศาสนา ของพระบัญญัติแห่งพันธสัญญาตลอดเวลา รวมถึงกฎซึ่งมีสิทธิการปกครองการแต่งตั้งพระสมณะชั้นสูง อย่างไรกะตาม Jonathan ไม่ใช่ ชาว Zadokite ผู้สืบสกุลเชื้อสายโซโลมอนของพระสมณชั้นสูง ชาวยิวหลายๆๆคน โกรธอย่างรุนแรงถอนตัวจากพวกเขาเหล่านั้นที่สนับสนุน Maccabeesหลังจากปีนั้นความตรึงเครียดระหว่าง อาณาจักรSeleucid และ Ptolemaic Egypt ได้เพิ่มมากขึ้น และ Jonathan เห็ฯโอกาสของเขา เจ้าหน้าที่ชั้นสูงในราชสำนักผู้ซึ่งมีคุณวุติประสบการณ์กับกองทัพ และยึด Ashdod, Joppa และ Gaza และส่วนหนึ่งของ สะมาเรีย และ กาลิลี Alexander Balas หันเหความสนใจเข้ามาแทรกแทรง กองกำลังใหม่ ต่อสู้สนับสนุน King Seleucid ที่มีอารมณ์รุนแรง Jonathan ถูกลอบฆ่าโดยการต่อสู้ภายในหมู่ (เหล่า,ก๊ก,พวก,ฝ่าย) โดยTryphon ในปี 143 B.C.E. 1ปีหลังจากนั้น Tryphon ประสบความสำเร็จแย่งชิงอำนาจขึ้นครองบันลังก์ใน Antioch Simon ในปี 142-143 B.C.E. เขาสลัดทิ้งสนับสนุนเบื้องหลัง Tryphon อย่างทันทีทันการที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับ Demetrius II ในปี 145-140 B.C.E. และ 129-124 B.C.E. เป็นตัวอย่างของความรุดหน้าการเติบโตของพันธมิตร การปลดตำแหน่งเนรเทศking ก่อนที่ยอมรับ Judea ประกาศเป็นอาณาจักรไม่เป็นเมืองขึ้นใคร

ในปี 142 B.C.E. ความรุ่งเรืองและเวลาสำคัญมาถึง ประมาณ 445ปี หลังจาก เยรูซาเล็มถูกทำลาย โดย Nebuchadnezzar ชาวยิวเป็นอิสระในการนมัสการ และอิสระในการบูชาอุทิศตัว อิสระในความเป็ฯอยู่ เกี่ยวกับกฎของโมเสสเป็นที่รู้กัน ในอาณาจักรดาวิด และ โซโลมอน เคยฟื้นฟูใหม่เช่นกัน

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 30 เมษายน 2551 19:02:04 น.  

 

Dead Sea Scrolls - a documentary overview



ภายใต้ความ ความปิติยินดีของประชาชนปรีดาที่มีค่าเพียงผิวเผิน อย่างไรกะตาม ความหมดความเชื่อถือ กับ ราชวงค์ Hasmonean การแย่งชิงอำนาจของตำแหน่งพระสมณะชั้นสูง เป็นเชื้อร้ายที่เป็นหนองอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า
ความประสบความสำเร็จของJonathan และ Simon อย่างยิ่งใหญ่ในJudea ในขอบเขตชายแดน อาณาจักรดาวิด จาก Neger ไปถึง Galilee จาก Transjordan ไป ชายฝั่งเมดิเตอเรเนียน ตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ของประชากร

Source The Dead sea Scrolls were found in 1947 in this group of caves just outside the ancient settlement of Qumran Close to the Dead Sea.
ชาวยิว ทำให้รู้ความจริงว่าความผิดหวังเมื่อรู้ว่าบางสิ่งไม่ได้ดีอย่างที่คิดหรือหวังไว้ คือหายนะ พวกเขารู้สึกความประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ Maccabees เกิดขึ้นจากการถือสิทธิ์ โดยพละการ และได้แก่ ชะตากรรม
ความหายนะที่ล้มเหลวนี้คืออารมณ์ของผู้ทำงานด้านศาสนาทั้งหมดในยุดสมัยของการจับกุมเชลย

โดยชาวยิวเป็นผู้เขียน สำหรับความหลายหลายของเหตุผล ไม่รวมถึง ในตอนจบบทสรุปของ Hebrew Scripture ของหลัการพระคัมภีร์ เรียกว่า
Apocrypa กลุ่ม บทหนังสือของพระคัมภีร์เก่า Old Testment โดยพี่น้องคริสเตียนเป็นผู้เขียน หนังสือเหล่านี้ รวมถึง Wisdom ปรีชาญาณ พูดถึงเกี่ยวกับ สุภาษิต คติพจน์ คำบอกเล่า การสวดอธิฐาน และประวัติศาสตร์ นั้นรวมถึง ใน Septuagint Greek ที่แปลมาจาก Hebrew ข้อความจากพระคัมภีร์ ของพี่น้องคริสชนใน Old testament
นั้นคือหนังสือ อธิบายถึงการมาถึง ระยะเวลาของ ชนชาติของทุกชีวิตที่มีการดิ้นรนแสวงหากับขนบธรรมเนียม ประเพณีอื่นๆ อย่างน่าสังเกต ความโดดเด่นของ Hellenism(วัฒนธรรมหรือความเจริญรุ่งเรืองของกรีกโบราณ) เตือนความจำ ความแตกต่างหลากหลาย ของความคิด และ เชื่อในความเป็นตัวของตัวเองของชาวยิว

หนังสือ 1 Maccabees สำหรับตัวอย่าง บันทึกเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ตามลำดับเวลา ของราชวงค์ asmonean ที่ประสบความสำเร็จ ในทางตรงกันข้าม 2 Maccabees ซึ่งรวมถึง ประวัติศาสตร์บางส่วนที่สำคัญเกี่ยวกับ
การฟื้นฟู ของ การนมัสการ สักการะ พระวิหารในเยรูซาเร็ม

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 1 พฤษภาคม 2551 11:14:23 น.  

 

Deuteronomical(Apocrypha) Books



ผู้เขียน The Wisdom of Solomon ระบุอย่างคร่าวๆของศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล การตำหนิวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ต่อต้านพวกHellenism(วัฒนธรรมหรือความเจริญรุ่งเรืองของกรีกโบราณ) การถกเถียงกับคนนอก
ศาสนา ผู้แสวงหาแต่ความหรูหราและความสุขสำราญ ความหลงระเริงสำมะเรเทเมา

ปรีชาญาณ 2:7
7จงเดิมเหล้าองุ่นราคาแพง จงใส่น้ำหอมให้หอมฟุ้ง
อย่าปล่อยให้ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ บานโดยเปล่าประโยชน์

เชิงอรรถ "ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ สำเนาโบราณบางฉบับว่า ดอกไม้ของอากาศ เช่นเดียวกับสำนวนแปลโบราณภาษาซีเรียคและอาร์มาเนียน

The Book of Wisdom 2:7-8
7
Let us have our fill of costly wine and perfumes, and let no springtime blossom pass us by;
8
let us crown ourselves with rosebuds ere they wither.

แม้ว่าผู้เขียนยอมรับความคิดของชาวกรีก นั้นคือจิตวิญญาณในหัวใจซึ่งไม่ตายเป็นนิรันดร์ "ความชอบธรรมอยู่เป็นนิรันดร์ตลอดกาล และพระเจ้าประธานรางวัลให้กับพวกเขาเหล่านั้น "

ปรีชาญาณ 3:15
15 เพราะผลของกิจการดีคือเกียรติ์รุ่งโรจน์
และรากของความรอบรู้ จะไม่มีวันเสื่อมสลาย

The Book of Wisdom 3:15
15
For the fruit of noble struggles is a glorious one; and unfailing is the root of understanding

เชิงอรรถ
"ความรอบรู้"หมายถึง การรู้จักวินิจฉัยคุณค่าแท้จริงของชีวิตและสิ่งสร้างต่างๆ

เพื่อช่วยให้ดำเนินชีวิตได้ตามพระประสงค์ของพระเจ้า (เทียบ ปชญ 4:9,6:15,7:7, 8:8)"รากของความรู้นี้มั่นคง" เทียบ สภษ12-3และเกิดผลสำหรับชีวิตนิรันดร ปชญ 1:15 2:23

ปรีชาญาณ 4:9
9 ความรอบรู้เป็นเสมือนกับผมหงอกสำหรับมนุษย์
ชีวิตไร้มลทินเป็นเสมือนวัยชราที่ยืนยาว

The Book of Wisdom 4:9
9
Rather, understanding is the hoary crown for men, and an unsullied life, the attainment of old age.

ปรีชาญาณ 6:15
15 การไตร่ตรองถึงปรีชาญาณเป็นความรอบรู้อย่างสมบรูณ์ ผู้ตั้งตาคอยปรีชาญาณจะพ้นความกังวลโดยเร็ว

The Book of Wisdom 6:15
15
For taking thought of her is the perfection of prudence, and he who for her sake keeps vigil shall quickly be free from care;
ปรีชาญาณ 7:7
กษัตริย์โซโลมอนอธิฐานขอปรีชาญาณ
7 ข้าพเจ้าอธิฐานขอความรอบรู้แล้วพระเจ้าก็ประทาน
ข้าพเจ้าวอนขอ แล้วจิตแห่งปรีชาญาณก็มาหาข้าพเจ้า

The Book of Wisdom 7:7
Therefore I prayed, and prudence was given me; I pleaded and the spirit of Wisdom came to me.

ปรีชาญาณ 8:8
กษัตริย์โซโลมอนทรงรักปรีชาญาณ
8 ถ้าผู้ใดปรารถนาจะมีประสบการณ์หลากหลาย
ปรีชาญาณก็รู้อดีตและเห็นล่วงหน้าถึงอนาคต
ปรีชาญาณเข้าใตคำคมและไขปริศนาต่างๆ
ปรีชาญาณรู้ล่วงหน้าถึงเครื่องหมายอัศจรรย์และปฎิหาริย์ต่างๆ
รวมทั้งเหตุการณ์ตามยุคตามสมัย

เชิงอรรถ
"คำคมปริศนา" หมายถึงความคิดทางศีลธรรมที่จงใจใช้คำพูดคลุมเครือเข้าใจ

ยาก(เทียบ วนฉ 14:12 สภษ 1:6 บสร 39:2-3 อสค 17:2)กษัตริย์โซโลมอนทรงมีความสามารถพิเศษในการแก้ปัญหาต่างๆ (1 พกษ 5:12 10:1-3 ปญจ 12:9 บสร 47:15-17)ส่วน "เครื่องหมายอัศจรรย์ปฎิหาริย์"หมายถึงอัศจรรย์ต่างๆในสมัยอพยพ ดูอพยพ 10:6


The Book of Wisdom 8:8
8
Or again, if one yearns for copious learning, she knows the things of old, and infers those yet to come. She understands the turns of phrases and the solutions of riddles; signs and wonders she knows in advance and the outcome of times and ages.

"รากของความรู้นี้มั่นคง" เทียบ สภษ12-3
สุภาษิต 12:3
ความชอบธรรมเปรียบกับความชั่วร้าย
12:3 คนจะตั้งอยู่ด้วยความชั่วร้ายไม่ได้ แต่รากของคนชอบธรรมจะไม่รู้จักเคลื่อนย้าย

Proverbs:12-3
3
No man is built up by wickedness, but the root of the just will never be disturbed.

และเกิดผลสำหรับชีวิตนิรันดร ปชญ 1:15 2:23

ปรีชาญาณ 1:15
15 เพราะความชอบธรรมเป็นอมตะ
The Book of Wisdom The Book of Wisdom 1:5
15
For justice is undying.

เชิงอรรถ
"ความชอบธรรมเป็นอมตะ "ทุกคนที่ปฎิบัติความชอบธรรมจะได้รับชีวิตอมตะ

-สำเนาโบราณภาษาลาตินบางฉบับเสริมว่า "แต่ความอธรรมนำความตายมาให้" แต่ข้อความความเพิ่มเตอมนี้ไม่น่าจะเป็นคำแปลจากต้นฉบับภาษากรีก

ปรีชาญาณ 2:23
23 โดยแท้จริงแล้ว พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นอมตะ
พระองค์ทรงสร้างเขาตามภาพลักษณ์แห่งพระธรรมชาติของพระองค์

The Book of Wisdom 2:23
23
For God formed man to be imperishable; the image of his own nature he made him.

เชิงอรรถ
"ภาพลักษณ์แห่งพระธรรมชาติ" แปลตามตัวอักษรว่า "คุณสมบัติเฉพาะของพระองค์"-สำเนาโบราณบางฉบับว่า "นิรันดรภาพของพระองค์"-ผู้เขียนคงคิดถึงการเนรมิตสร้างมนุษย์"ตามภาพลักษณ์ของพระเจ้า" ในปฐก1:26และเน้นว่าพระเจ้าทรงมีพระธรรมชาติเป็นนิรันดร


และกรอบความคิดมโนคติของกรีก ความคิดริเริ่มของพละกำลังนี้เป็นของ Logos : the divine word of God; the second person in the Trinity (incarnate in Jesus พระธรรมชาติมนุษย์ในสภาวะที่2 ของพระตรีเอกภาพ พระบิดาพระบุตร พระจิต สามรวมเป็นหนึ่ง ) ความหมายคือ Word หรือ Reason คติพจน์ คำสัญญา หรือ ความสำนึก สติสัมปชัญญะ

ปรีชาญาณ 18:15
15 พระวาจาทรงอานุภาพของพระองค์กระโจนลงมาจากพระบัลลังก์บนสวรรค์ดุจนักรบห้าวหาญกระโจนลงสู่กลางแผ่นดินที่จะต้องพินาศถือพระบัญชาเด็ดขาดของพระองค์ไว้เหมือนดาบคม

The Book of Wisdom 18:15
15
Your all-powerful word from heaven's royal throne bounded, a fierce warrior, into the doomed land

เชิงอรรถ ยาวของแสกนอ่า



ความคิดที่เหมือนๆกันกับใน New Testament พันธสัญญาใหม่ ความความคิด "การฟื้นคืนชีพจากความตาย" เป็นครั้งแรกที่มีการให้เหตุผลใน 2 Maccabees จะเริ่มเป็นหัวใจของพระบัญญัติความเชื่อของพี่น้องคริสเตียน


ความไม่พอใจอย่างต่อเนื่องกับพระสมณะทำให้เตือนความทรงจำถึง กลุ่มหนึ่งที่พูดถึงคือ "Essenes" โดย Josephus ออกจาเมืองค้นหาความสันโดษในทะเลทราย พวกเขาเหล่านั้นอยู่ร่วมกันเป็นสังคมเดียวกันโดยคร่าวๆ การอาศัยอยู่เกี่ยวกับการบำเพ็ญตนอย่างเคร่งครัด ในวิถีชีวิตจุดประสงค์ คือ ติดตามแสวงหากฎพระบัญญัติแห่งพันธสัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเคร่งครัดของกฎพิธีกรรมทางศาสนาที่บริสุทธิ์พวกเขาแต่งกายด้วยเสื้อคลุมยาว สวดเป็นกิจวัตรหยุดพักเป็นช่วงๆ แลทำงาน
เตรียมดินที่เพาะปลูกกับดินทะเลทรายที่แห้งแล้ง เกี่ยวกับรูปธรรมร่างกาย และจิตวิญญาณ ใสสะอาดรวมเป็นหนึ่ง พวกเขา ขุดที่เก็บน้ำขนาดใหญ่อย่างปราณีตประสานซึ่งกันและกัน เพื่อรอรับฝนที่ตก และขุดเป็นร่องน้ำจาก ใกล้ๆแหล่งน้ำพุ เพื่อที่จะใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาโดยการ จุ่มเป็นประจำของทุกวัน จุดประสงค์ของวิถีชีวิตแบบนี้ คือการปฎิบัติที่ใช้ได้จริงความสามัคคีสัมพันธ์กัน
ภายใต้ผู้นำคนที่อยู่ร่วมกันเป็นสังคมเดียวกัน"Teacher of
Righteousness"(significantly a Zodokite) คือนำพวกเขาได้ใกล้ชิดพระเจ้า ผู้มีตำแหน่งสูงสุดของ สังคม Essene ให้อำนาจแต่ละคนในกลุ่มอุทิศตัวเขาเองอย่างสุดจิตใจ เพื่อศึกษา Hebrew Scriptures โดยปราศจากสิ่งรบกวนจากภายนอก เกี่ยวกับ กฎของสังคม the Essene ทุกๆๆเย็นหลังจากการร่วมกันเก็บเกี่ยวพืชผล พวกเขาชุมนุมกัน อ่านหนังสือ และศึกษากฎ และ สวดร่วมกัน


Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 1 พฤษภาคม 2551 11:39:05 น.  

 

The ROMAN Conquest


Caesarea Palaestina, also called Caesarea Maritima, a town built by Herod the Great about 25 --13 BC, lies on the sea-coast of Israel about halfway between Tel Aviv and Haifa, on the site of a place previously called Pyrgos Stratonos ("Strato" or "Straton's Tower," in Latin Turris Stratonis). Caesarea Palaestina should not be confused with other cities named to flatter the Caesar, Caesarea Philippi, also in Israel, or Caesarea Mazaca in Anatolian Cappadocia.

Herod the palace-builder did not neglect his new city: his palace at Caesarea was built on a promontory that jutted out into the sea, with a decorative pool surrounded by stoas. The civil life of the new city began in 13 BC, when Caesarea was made the civil and military capital of Judaea, and the official residence of the Roman procurators and governors, Pontius Pilatus, praefectus and Felix. The city was described in detail by the Jewish historian Josephus (Jewish Antiquities XV.331ff; Jewish War I.408ff).

Remains of all the principal buildings erected by Herod existed down to the end of the 19th century. Remains of the medieval town are also visible, consisting of the walls (one-tenth the area of the Roman city), the castle, the

The Roman aqueduct in Caesarea, on the Mediterranean coast of modern israel, built by Herod the Great between 22 B.C.E. and 10 B.C.E.

ารปกครองของ Hasmoneans เกือบร้อยปี ในปี 76ก่อนคริสตกาล ในเวลา 104/3-76 B.C.E. King Alexander Jannaeus ได้สิ้นพระชนม์ ทำให้Salome Alexandra เป็นม่าย 76-67B.C.E ปกครองประเทศค่อนข้างจะ ให้อำนาจพระโอรสองค์โตปกครอง Hyracanus IIพระนาง มีไหวพริบให้พระ โอรสเป็นพระสมณะชั้นสูง ก่อนที่พระนางสิ้นพระชนม์ Alexander แนะนำสนับสนุนภารยาเขาแต่งตั้ง ในคณะ Pharisee ฟารีสี ของราชสำนัก เน้นถึงการเติบโตของการถือพรรคถือพวกภายใต้ความหลอกลวงที่ถูกต้องตามกฎหมายของ Hasmoneansในเยรูซาเล็ม กองกำลังที่มีแบบแผนอยู่ในมือของพระสมณะ ในส่วนประกอบของความใหญ่โตหัวหน้าพระสมณะ มีข้าราชการพระสมณะ และแผนก Levitical เป็นผู้ช่วย ซึ่งดูแลระบบเกี่ยวกับพิธีกรรมในการนมัสการทางศาสนาในลานหน้าอาคารพระวิหาร ภายใต้การปกครองของ Hasmonean พระสมณะ ได้มี สมาคมกับกลุ่มเพิ่มอย่างมากขึ้น ที่รู้จักกันดีคือ The Sadducees สดุสี(Tzdoqim in Hebrew) ผู้ซึ่งเรียกร้องให้รูปแบบของผู้นำอนุรักษ์นิยมที่ร่ำรวยของการสืบทอดสืบเชื้อสายของพระสมณะชั้นสูง Zadok และชนชั้นสูงชาวยิว นั้นคือจะต้อนรับ อาณาจักรโรมัน ยึดครอง ยูดาห์ ในปีที่มาถึง

โดยให้เห็ฯเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่าง ชาวฟารีสี Pharisees ที่สันนิฐานว่าไม่ใช่กลุ่มเกี่ยวกับงานศาสนา แต่การรวมเป็นหนึ่งเดียวในความ เป็น ฆราวาส (ไม่ใช่สงฆ์)ที่เคร่งครัดทางศาสนา พวกเขา ละเอียดลออยินยอมทำตาม (ทางกฎหมายหรือประเพณี) กฎพระบัญญัติแห่งพันธสัญญา และ ทำให้เห็นความแตกต่างของพวกเขากับชาว สดุสีSadducees

ชาวสดุสีเหล่านั้นให้เหตุผลสำหรับพิธีกรรมทางศาสนา เป็นเพียงแค่ความพอใจ สำหรับมนุษย์และการนมัสการ พระเจ้า มากว่าชาวฟารีสี ที่พุ่งประเด็นไปที่ ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาไม่มีมลทิล ในขอบเขตของประสบการณ์ของชาวยูดาห์ อย่างแท้จริงยอมรับในทุกๆๆวัน ของชีวิต

ในปี67 B.C.E. Salome Alexandra สิ้นพระชนม์ และกองกำลังต่อสู้มีผลมาจากระหว่างHyrcanus และ น้องของพระองค์ Aristobulus II ุ67-63 B.C.E. อย่างไรกะตาม Hycanusขาดแคลนกองกำลังทหารที่ซื่อสัตย์ และพระองค์ไม่มีอำนาจพลังในการงัดใช้กำลังบังคับเรียกร้องราชวงค์ของพระองค์ และHyrcanus ร้องขอผู้ปกครองที่ Edom ให้ช่วย ในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ เคยพิชิต โดยประชาการ Arab รู้จักกันคือ Nabataeans (ปกครองเหนือ ภูมิภาค ซึ่งเหมือนกันกับ the Negev และทางตอนใต้ของจอร์แดนในวันนี้) King Aretas III ในปี 87-62 B.C.E. ตกลงกับ Hyrcanus ต้องการและก่อตั้งโจมตีต่อต้านเยรูซาเล็มใน ปี 66B.C.E.



ชาวฟารีสี คือ ชาวยิวกลุ่มหนึ่งในสมัยพระเยซูเจ้า มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเกี่ยวกับธรรมบัญญัติและศาสนา เป็นผู้เคร่งครัดในการปฎิบัติธรรมบัญญัติทั้งที่มีบันทึกไว้เป็นลักษณ์อักษรในพระคัมภีร์ และที่เป็ฯเพียงธรรมประเพณีที่ปฎิบัติและสอนกันต่อๆๆมาโดยคิดว่าธรรมประเพณีที่เขากำหนดขึ้นจากการตีความบทบัญญัตินั้นมีความสำคัญเท่าเที่ยมกับตัวธรรมบัญญัติที่พระเจ้าทรงดลใจให้บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ พระเยซูเจ้าทรงประนามพวกนี้อย่างรุนแรง ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนเคร่งครัดในการถือศาสนา แต่พระเข้าเป็นคนไม่จริงใจ ปฎิบัติศาสนาแต่เพียงภายนอกเท่านั้น (มธ 23)

ชาวสดุสีคือ เป็นกลุ่มชนชั้นผู้นำในสังคมชาวยิวสมัยพระเยซูเจ้า ส่วนใหญ่เป็นคนในตะกูลสมณะชาวยิว มีอำนาจทางการเมือง คบค้ากับชาวโรมัน ควบคุมศาลสูงของชาวยิว คือสภา ซันเฮดริน

พวกนี้ไม่เชื่อเรื่องการกลับคืนชีพของร่างกาย (มก 12:18) และไม่เชื่อว่ามีทูตสวรรค์และจิต(กจ 23:8)จึงเป็นอริกับชาวฟาริสีและเป็นอริกับคำสอนของพระเยซูเจ้าด้วย

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 2 พฤษภาคม 2551 14:13:47 น.  

 

Pompey Invades Judea
Pompey the Great Invades JUDEAH


กองกำลังต่อสู้ ประจวบกัน (เหตุการณ์)กับการตัดสินใจโดยสมาชิกสภาสูงของดโรม ขยายอิทธิพลอาณาจักรโรมันในทางตะวันออกการเสียไปของอาณาจักร Seleucidอย่างโซเซ เขาเลือกผู้นำทัพหลากหลายใน ทักษะความสามารถที่ดีที่สุด ที่เห็ฯๆๆ Gnaeus Pompeius หลังจากนั้น เราเรียกกันว่า Pompey the Great ในปี 106-48 ก่อนคริสตกาล

เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการรณรงค์ทำสงครามอีกครั้งหนึ่ง โดย Mithradates VI เกี่ยวกับKing of Pontus (ปกครองภูมิภาคทางตอนใต้ชายฝั่งทะเลของตุรกีใหม่ในตอนนี้) Pompey ทำให้ศตรูของโรมพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว และสถาปณาเมือง Damascus ในปี 63 ก่อนคริสตกาล แม่ทัพโรมันไปเยือนอย่างทันทีทันการ โดยแบ่งคณะผู้แทนออกเป็น 3 ส่วนจากเยรูซาเล็ม แต่ละคน หนึ่งกลุ่มผู้รณรงค์หาเสียงสนับสนุนเกี่ยวกับนิติบัญญัติของโรม the Aristobulus กลุ่มที่มีเสียงส่วนน้อย the Hyracanus กลุ่มผู้มีเสียงส่วนน้อย และ ชาวฟารีสี ผู้ซึ่งผลักดัน โรมันและกำจัดทำลายรากเหง้า the Hasmoneans จนหมดสิ้น

ในเยรูซาเล็มได้รับแจ้งเรื่องเกี่ยวกับ กองกำลังต่อสู้ของPompey Pompeyเปลี่ยนแปลงกองทัพของพระองค์รอบๆๆ และตัดสินใจเสนอการปกครองในยูดาห์ ใกล้ๆชายแดนอียิปต์ ในปีเดียวกัน Pompey ยึดเยรูซาเล็ม และยุติ ระงับ ความรู้สึกความรุนแรงความลุกเป็นไฟในอิสระภาพของชาวยิว นั้นคือ ความริบหรี่ แทบไม่มีทางสู้ของศตวรรษ Hyrcanus ฟื้นฟูตำแหน่งพระสมณะชั้นสูงแต่ โดนลดบทบาทฐานะในรัฐ ภายใต้การปกครองอาณาจักรโรม

กลยุทธ์การจัดทัพ ระหว่างPompey และ Hyrcanus จากการสังเกตการณ์การ โดยคนหนุ่มคนหนึ่งชื่อ Herodที่มีไหวพริบ ความหลักแหลม ผู้ซึ่งมาจาก
Idumaea ในทางตอนใต้ของยูดาห์ ภูมิภาคนี้เคย เป็นของ Edomites (ชื่อเป็นทางการ "Idumaean") หลังจากพิชิต Edom โดย Nabataens พระบิดาของ Herod,หัวหน้าเผ่า Antipater ผู้ร่ำรวยมั่งคั่ง แต่งงานกับลูกสาวของ คนชั้นสูง Nabataean

ระหว่างรัชสมัยของ Hasmonean King John Hyrcanus 135-104 ก่อนคริสตกาล Idumaea เคยผนวกกับอาณาจักรยูดาห์ครั้งหนึ่ง และ อาศัยอยู่เคยต่อสู้ไม่มากก็น้อย และเปลี่ยนความเชื่อเปลี่ยนศาสนายูดาห์ ซึ่งออกจากภูมิภาคนี้

และเป็นผลจากแม้ว่า สายเลือด Arabไหลเข้ามาในอารมณ์ของ Herod ชายหนุ่มเติบโตในครอบครัวนั้น และที่สำคัญน้อยที่สุด เค้าเปลี่ยนความเชื่อศาสนายูดาห์ เหมือนกับ Hasmonean Herod เต็มใจนำวิถีวัฒนธรรมประเพณีของชาว Hellenistic มาใช้

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 3 พฤษภาคม 2551 10:01:38 น.  

 

King Herod - Behind the Myth 1-5


พระบิดาของ Herod, Antipater สังเกตการณ์ การต่อสู้ของกองกำลังโรมัน และตัดสินใจอย่างระมัดระวัง กับโรม เมื่อPompey มาถึงในยูดาห์ Antipater เร่งรีบสัญญาว่าจะจงรักภักดี สนับสนุนต่อแม่ทัพ หวังว่า Pompey จะนำความช่วยเหลือครอบครัวในความทะเยอทะยานของเขา

เกี่ยวกับความหวัง Antipater ไม่ได้รับความผิดหวัง ก่อนเวลาที่ผ่านไป Antipater และพระโอรส Herod ได้รับการต้อนรับจากมณทลของPompey กงศุลใหญ่มีนามว่า Julius Caesar

นี้คือประเด็น Herod เริ่มมีความสนิทสัมพันธ์กับ Mark Antony หนึ่งในคนสำคัญของซีซาห์ที่สนับสนุนที่สำคัญที่สุด สงครามกลางเมืองในโรมันเกิดขึ้น อย่างไรกะตาม จูเรียส ซีซาห์ บังคับไล่ตามปอมเปย์ไปอียิปต์ สถานที่ซึ่งเพื่อนเก่าและสัมพันธมิตรได้ถูกฆ่า ต่อจากนั้น Antipaterผู้ชาญฉลาดเปลี่ยนแปลงความสวามิภักดิ์ไปอยู่กับซีซาห์ เขาได้รับรางวัลของการแสดงออก โดยได้เป็นผู้แทนของยูดาห์ ในปี 47 ก่อนคริสตกาล Antipater ได้รับเกียรติ์เป็ฯพิเศษโดยเป็นพลเมืองของชาวโรมัน

การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วรวมกันเป็ฯปึกแผ่นในตำแหน่งของครอบครัว Idumaean Antipater มอบหมายให้ลูกชาย Phasael ผู้ว่าราชการของยูดาห์ และ Perea และ Herod ผู้ว่าราชการใน กาลิลี 7 ปีต่อมา ความสงบสุขอย่างต่อเนื่องของรัฐ เหตุการณ์ความสับสนอลหม่าน เมื่อ Parthians ปกครองเปอร์เซีย บุกรุกยูดาห์ ในการสนับสนุนผู้หลอกลวงชื่อ Antigous พระโอรสของ Aristobulus II

การประสบความสำเร็จของผู้นำทัพเยรูซาเล็ม ที่ซึ่ง Antigous ได้ตัดหู Hyrcanusทำให้พิการ นั้นคือ ทำให้เขามีคุณสมบัติในการเป็นพระสมณะชั้นสูง ครอบครัว Harodได้ถูกโค้นล้มอำนาจ Phasael ได้ฆ่าตัวตาย และ Herod หลบหนีโดยริบทรัพย์โดยเสแสร้งว่าเป็นจริงในความปลอดภัยของ Hasmonean ป้อมปราการที่รู้จักกันคือ Masada ซึ่งตั้งอยู่บนหินที่ราบสูงใกล้ทางตอนใต้ของทะเลตาย

Herod ไปโรม ที่ซึ่งเขาให้เหตุผล นั้นคือ Parthianบุกรุกคุกคาม อำนาจของกษัตริย์โรมันในทางตะวันออก เชิญชวนสภาSenateของโรมัน Herod พูดด้วยโวหารคมคาย และโน้มน้าว นั้นคือ สภาซีเนต Senate ประกาศอย่างเป็นทางการให้ Herod เป็น king of Judea

อย่างแน่นอน เป็นเรื่องที่เป็ฯเกียรติ์ สำหรับยูดาห์ อยู่ในมือของ Parthians สภาซีเนต Senateออกเสียงให้ Herod นำกองทัพโรมันไปช่วยเขา ยึดภูมิภาคเขากลับคืน

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 3 พฤษภาคม 2551 11:18:55 น.  

 

The Politics of Herod

The Herodium about seven miles south of Jerusalem was built by Herod the great between 24-25 B.C.E. to Serve as his palace and mausoleum.

การเริ่มการครองราชย์รัชสมัย ของHerod the Great ในปี 37-4 B.C.E. เวลาแห่งสันติสุขและที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนความรุ่งเรืองสำเร็จระหว่างนั้น Herod ผู้ซึ่งเปลี่ยน โฉมหน้าของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ Holy Land

ซึ่งมีชีวิตดีเสมอมาระหว่างประชากรชาวยิวมีความสงบ และRomanผู้เป็นใหญ่ โดยภายใต้(กฎหมาย)การเหยียดหยามดูถูก พระองค์ไม่ได้เกิดจากยิว Herod ปฎิบัติ ภายใต้กับความยิ่งใหญ่ระมัดระวังอย่างรอบคอบ ระหว่างการครองราชย์ เหรียญกษาปณ์ในยูดาห์ สำหรับตัวอย่าง ไม่โชว์รูปking ในความแตกต่างของชาวยิวเป็ฯการประนามต่อต้านรูปเคารพ

แม้ว่า Herod แต่งงานแล้ว เขาเอาใจจดจ่อความถูกต้องตามกฎหมายของเขา นั้นคือ ความปรารถนาเป็นไปได้มากแรงจูงใจ กับการแต่งงานกับการแต่งงานกับเจ้าหญิง Hasmonean ปู่ของMariamne Aristobulus II ในปี 38 ก่อนคริสตกาล Herodได้เจ้าหญิงเป็นภารยาคนที่สอง แต่พระองค์เคยวิตกกับการทำให้ชาวยิวสงบ ซึ่งการมีคู่สมรสเพียงคนเดียว การแต่งงานของ Mariame การคาดการณ์ว่าเป็ฯการตัดทอนความทะเยอทะยานของน้องชายเจ้าหญิง Aristobulus III ทายาทผู้สืบสกุลตามด้วยชอบด้วยกฏหมายของราชวงค์ Hasmonean


Herod's sanctuary platform buitl 20B.C.E. to C.E.62 Surrounded the Second Temple. This reconstruction envisions it's appearance from the Southwest.

ภายใต้ความกดดันจากภารยาใหม่ของHerod ได้สถาปณา Aristobulus เป็นพระสมณะชั้นสูง แม้ว่าเขาอายุเพียง 17 ปี 1ปีหลังจากนั้นระหว่าง งานเลี้ยงฉลอง Aristobulus ได้จมน้ำอย่างน่าสงสัยในเหตุการณ์ แม้ว่าพวกเข้าเหล่านั้นไม่มีข้อสรุปหลักฐานประเด็นของHerodผู้กระทำผิด สิ่งที่กระทำผิดโยกย้ายHerod ซึ่งยากแก่การจัดการ จากเหตุการณ์นี้ การขจัดที่อาจเกิดขึ้นได้ การคุกคามของบันลังค์ อย่างไรกะตาม ความหวาดระแวงของHerod ได้เพิ่มขึ้น กับความแคลงใจของผู้ที่ใกล้ตัวมากที่สุดของพระองค์

อีกสิ่งหนึ่งอุปสรรคกษัตริย์Herodเกิดขึ้นเมื่อ Octavian หลานของพระองค์และ ทายาทของจูเรียส ซีซาห์ ความพ่ายแพ้ของเพื่อนHerod และการรวมตัวกัน Mark Antony ที่สมรภูมิ Actium ในปี 31 ก่อนคริสตกาล ในความพยายาม ต่อต้านการเป็นกษัตริย์ของพระองค์ Herod ทำให้ Octavianรีบร้อนในอาณาเขตกองบัญชาการ ที่ Rhodes และสัญญา ความจงรักภักดี สถานการณ์ความถ่อมตัวของking Octavianยืนยันให้ Herod คือkingของJudea ต่อจากนั้น Herodผู้ชาญฉลาด ยังคงอยู่ข้างเดียวกับ Octavian ขณะที่ไล่ตาม Mark Antonyกลับไปอียิปต์ สถานที่คนรักของพระองค์ พระราชินีราชวงค์ Ptolemaic Queen Cleopatra ฆ่าตัวตายในปี 30 ก่อนคริสตกาล

แม้ว่าตอนนี้ กองกำลังที่เหนือกว่า Herod มีความหวาดระแวงอย่างต่อเนื่องกับพวกกบฎ ที่ซึ่งในปี 30ก่อนคริสตกาลพระองค์สั่งประหารชีวิต Hyrcanus II แม้ว่า พระองค์อายุ ใกล้ 80ปีกะตาม ปีต่อมา ความคลางแคลงใจกับภารยาผู้เป็นที่รัก Mariamne ตอนนี้เป็นพระมารดาของลูก 5 คน Mariamne ถูกตัดสินว่ามีความผิดท้ายสุด ถูกดำเนินการประหารชีวิต Herodกลับไปโกรธแค้นแม่ของMariamne Alexandra ผู้ซึ่งถูกประหารชีวิตในปี 28 ก่อนคริสตกาล ตามด้วย Kostobar น้องเขย Herod หลายคนในสมาชิกครอบครัวถูกสังหารในปีนั้น

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 3 พฤษภาคม 2551 13:04:04 น.  

 

Herod's Achievements



ถึงอย่างไรกะตาม ความสับสนอลม่านภายในบ้านของพระองค์ Herod the Great นักสร้างและผู้ก่อตั้งที่ยิ่งใหญ่ ระหว่างภาวะข้าวยากหมากแพง ความอดหยาก ขาดแคลนอาหาร ในปี 25 ก่อนคริสศตวรรษ Herod จัดตั้งโปรแกรมช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ นำเข้าเมล็ดข้าวจากอียิปต์ ไปที่สะมาเรียเมืองหลวงเก่าอาณาจักรตอนเหนือ และเป็นสถานที่ซึ่งพระองค์แต่งงานกับ Mariamne ตั้งแต่ 11 ปีมาแล้ว Herod สร้าง Greco-Roman ที่ยิ่งใหญ่ เมืองบริวาร สร้างบนพระราชวังโบราณของ Omri และ พระโอรส Ahab ก่อน kings of Israel

กี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ชาวยิวเล็กน้อย คนพื้นเมืองชาวสะมาเรียผู้ซึ่งมีความละเอียดละอ่อน Samaria ได้ตั้งชื่อใหม่เพื่อเป็ฯเกียรติ์แก่ Octavian คือ Sebaste ตั้งแต่ปี 27 ก่อนคริสตกาล ผู้ที่เรารู้จักกันดีภายใต้ชื่อใหม่ว่า Caesar Augustus (หรือ Sebastos ในภาษากรีก) และพระวิหารใหม่ได้ถูกสร้างและ พอๆๆกันกับอาณาจักรแรกของโรม

จากประเด็นเศรษฐกิจในทัศนะคติ Herod ตระหนักใจนั้นคือยูเดียไม่สามารถสร้างกำไรตามสมควร จาก การให้ผลตอบแทนจาการค้าขายขนส่งทางทะเล ระหว่างโรม และ ไกลจากอาณาจักร เท่าที่อาณาจักร ไม่มีท่าเรือใหญ่ด้านนอก ท่าเรือJoppaกะพอประมาณ ในปี 22 ฺB.C.E. พระองค์เริ่มปฎิบัติการ ความทะเยอทะยานอย่างสูง และเทคนิคซับซ้อนความอุตสาหะสร้างเมืองท่าจอดเรือ ในชายฝั่งเมดิเตอเรเนียน พระองค์ให้ชื่อว่า Caesarea เพื่อเป็นเกียรติ์แก่ Caesa Augustus.

กุญแจสำคัญ การปฎิวัติการออกแบบการสร้าง ที่มหึมาเพื่อหยุดน้ำ ซึ่งเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ของ Flavius Josephus "จัดเตรียมและพื้นที่กลับไปยังดินแดน นั้นคือเรือที่ใหญ่โต จะวางอยู่อย่างปลอดภัย"ตึกที่ทำด้วยหินใหญ่โต ความยาว50เมตร ความกว้างไม่น้อยกว่า 18 และ ความลึก 9 ใช้กั้นความลึกของน้ำ 20 fathoms" ในที่สุดเมื่อเรียบร้อยแล้วได้ท่าจอดเรืออย่างสมบรูณ์ (เรียกว่า Sebastos) เริ่มเป็ฯที่อิจฉาในแถบ Mediterraneanทั้งหมด แม้ว่าวันนี้นักท่องเที่ยวไปยืนบน ชายหาดทรายสีขาว จนกระทั้งเห็น ส่วนที่เหลือใหญ่โตของHerod ระบบกั้นน้ำ และกักน้ำไว้ข้างล่างต่ำกว่าระดับน้ำของทะเลเมดิเตอเรเนียน

สัญญาลักษณ์ของHerod สำหรับการก่อสร้างโครงการที่ยิ่งใหญ่ การสร้างป้อมปราการทหาร ซึ่งป้องกันได้รอบๆอาณาจักรของพระองค์ ที่มีชื่อเสียงที่สุดและยังคงอยู่ คือ Herodium ที่ใหญ่โตในทะเลทรายยูเดียน และพระราชวังที่งดงาม ป้อมปราการที่ Masada มองลงไปเห็นทะเลDead sea ยิ่งไปกว่านั้น พระองค์ สร้างโครงสร้างกองกำลังทหารใหม่ การจุคลังสรรพวุธ และค่ายโรงทหาร ที่รู้จักคือ Antonia ป้อมปราการ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ตรงมุมของ the Second Templeในเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นจุดแสดงให้เห็นอย่างรวดเร็วของกบฎในอนาคต จาก Antonia ทหารโรมันสามารถ โอมล้อมถึงพื้นที่พระวิหารซึ่งละเอียดออ่อน ภายในไม่กี่นาที อย่างไม่น่าสงสัย อย่างไรกะตาม Herod the Great ประสบความสำเร็จ กับ อาณาเขตThe Second Temple พระองค์กลับกลายเป็นชาวยิวสร้างเขตสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่งดงาม บนหลักการอย่างมีศีลธรรมจรรยา และสถานปนิกที่มาตฐานสูงสุดของชาว Hellenistic โครงการนี้ ริเริ่ม ใน ปี 20 ก่อนคริสตกาล ยังไม่เสร็จเรียบร้อย จนกระทั้งประมาณ ปีที่ 62ของคริสตกาล

พระวิหารดั้งเดิม และ ลานหน้าอาคารได้ฟื้นฟูหลังจาก เนรเทศไปเป็นเชลยที่บาบิโลน ตอนนี้ด้านหน้า ลานข้างหน้าเป็นที่รู้จักกันคือ Court of the Women โครงสร้างนี้ ในทางกลับกัน รอบๆๆพื้นที่โล่งๆๆยาวๆที่ใหญ่โต รวมถึง ไม่น้อยกว่า หนึ่งในหกของเมือง สามารถเข้าไปถึงได้ ผ่านทางเรือมีบันไดทอดหนึ่งทางตะวันตก อีกอันซึ่งทางเดินใต้ประตูรูปโค้ง แบ่งเป็นส่วนเล็กๆ ของทางเดินใต้ประตูรูปโค้ง เป็นที่รู้จักกันคือ Robinson Arch ยังสามารถเห็นได้ชัดจนทุกวันนี้ บันไดที่ใหญ่โตนั้นคือทาง the Double Gate ทางตอนใต้

Josephus ผู้ซึ่งมาเยี่ยม พระวิหารก่อน ถูกทำลายในปีที่ 70ของคริสตกาล

อธิบายการสร้าง "หินสีขาวที่ละเอียดตัด ความยาวประมาณ 25cubits ขณะทางเดินมีหลังคาโค้งที่ใหญ่โตช่องลึก ประมาณ 4 ใจกลางรูปแบบที่กำลังนิยม ใน Corinthian ซึ่งอัศจรรย์สำหรับนักท่องเที่ยว กับความสง่างามเหล่านั้น เข้าไปดาดฟ้าชานชาลาที่ใหญ่โตซึ่ง เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่สำคัญ ไม่เอาใจใส่โดยมองข้ามไป หลายๆๆอย่างนั้นคือการสร้างบนสถานที่นี้ ทางตะวันตก ส่วนหนึ่งนี้คือ ดาดฟ้าชานชาลาขนาดใหญ่ รู้จักกันทางตะวันตก หรือ กำแพงร้องให้ Wailling Wall ยังคงอยู่ทุกวันนี้

และในทศวรรษสุดท้ายก่อนการเริ่มต้นของยุคสมัย Herod the Great เพ่งมองเหนือดินแดนนั้นคือพระองค์เอาใจใส่ที่จะเปลี่ยนอย่างเหนือกว่า (แสดงถึงขอบเขต, ข้อจำกัด) ชาวยิวได้ก่อตั้งถิ่นฐาน และเคยรับช่วงเมืองที่สง่างาม ถนนใหม่ตัดสลับกัน ในประเทศ และการป้องกันความปลอดภัยโดยมักเกิดขึ้นเสมอโดย มีผู้ตรวจสอบทหารโรมัน ความว่องไวเรือรบแบบใช้พายสมัยโบราณ เบียดกัน ในอย่างงดงามล้อมรอบที่ท่าเรือ Gaesarea

ภายใต้สังคมชั้นสูงของชาวHellenisticที่หลอกลวง อย่างไรกะตาม ความกลโหล วุ่นวายของประเทศกับสถานการณ์ไม่สงบ Herod จุดประกายระบบเศรษฐกิจ พระองค์ริเริ่มความคิด กลุ่มชั้นสูงเล็กๆชาวHellenize ครอบครัวยิว นั้นคือ การยึดครองของโรม และพระสมณะ ผู้ซึ่งมั่งมีและอำนาจ ขยายผลทำให้เพิ่งมากขึ้น โดยพระวิหารใหม่ของHerod

แต่ชาวยิวส่วนใหญ่ แม้ว่าพวกเขาช่วย ริเริ่มความมั่งคั่งใหม่ โดยถูกบีบเข้าไป

ในการทำงานของกองโจรโปรเจ็ค Herod ความหายนะโดยความเลวร้าย

Herodใช้จ่ายครั้งล่าสุด ในความอ่อนกำลัง ความเจ็บปวด และสิ้นพระชมน์ในปีที่ 4ของคริสตกาล และอาณาจักร Herodian ที่ริ่เริ่มได้แก่ ความชั่วร้าย เสียหาย แบ่งแยก ระหว่าง ความอยู่รอดของพระโอรส 3 พระองค์ Archelausองค์โต,ได้รับเป็นผู้มีตำแหน่งสูงสุด รับผิดชอบร่วมกับ ethnatch(ปกครองโดยประชาชน) ของยูเดีย Idumaea และ สะมาเรีย Philip tetrarch(A roman governor of forth part province) ของ Gaulanitis (the Golan) และ Antipas (ตอนหลังรู้จักกันใน Herod Antipas "tetrarch of Galilee" แะ Transjordan และพื้นที่รู้จักกันดีคือ Perea.

และในปีเดียวกัน ทารกได้กำเนิดจากผู้หญิงใน Nazareth เพิ่งจะเริ่มดำเนินชีวิต

Source:THE BIBLICAL WORLD: AN ILLUSTRATED ATLAS
National Geographic ISBN 9784 4262 01387
New Jersulam Bible อะ Source: //www.catholic.org/bible/
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม สารระบบสอง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
NAB Bible and KJV Bible

 

โดย: Bernadette 3 พฤษภาคม 2551 23:25:04 น.  

 

Emperors of world.





History - Hannibal 1-10 มะได้เกี่ยวกะไบเบิ้ลอะ แต่ฮันนิบอล กะช่วงๆๆ The Seleucids KingAntiochus III

ฮันนิบอลเป็นนักรบหนึ่งในดวงใจของนโปแลนด์จากเจ็ดคนอะ การรบของฮันนิบอล โรมันยังกลัวเลยอะ วิธีรบ เอาช้างมารบ ทีนี้โรมันแก้ปัญหาการบ โดยการ ฆ่าม้าศึกเยอะๆๆ ให้ได้กลิ่นคาวเลือด และช้างกะกลัวกลิ่นคาวเลือดเยอะๆๆอะ


กลยุทธ์ ยุทธวิธีการรบ ของฮันนิบอล มหาวิทยาลัยเกี่ยวกับการบของอเมริกานำมาใช้สอนประกอบวิชาอะ

และยุทธวิธีการบของ ฮันนิบอล อเมริกา ใช้รบจริงในช่วงสงครามโลก และสงครามต่างๆๆ มาจนถึงปัจจุบันนี้อะ

After the war he successfully ran for the office of shofet. He enacted political and financial reforms to enable the payment of the war indemnity imposed by Rome. However, his reforms were unpopular with members of the upper Roman class forcing Hannibal to go into exile. During his exile, he lived at the Seleucid court, where he acted as military advisor to Antiochus III in his war against Rome. After Antiochus III met defeat and was forced to accept their terms, Hannibal fled again, making a stop in Armenia, where he worked as a planner for the new capital. His flight ended in the court of Bithynia where he may have achieved an outstanding naval victory by means of biological warfare and was afterwards betrayed to the Romans.

Hannibal is universally ranked as one of the greatest military commanders and tacticians in history.[citation needed] Military historian Theodore Ayrault Dodge once famously called Hannibal the "father of strategy", because his greatest enemy, Rome, came to adopt elements of his military tactics in its own strategic arsenal. This praise has earned him a strong reputation in the modern world and he was regarded as a "gifted strategist" by men like Napoleon Bonaparte, the Duke of Wellington and Fieldmarshal Erwin Rommel.

 

โดย: Bernadette 5 พฤษภาคม 2551 9:07:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Bernadette
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




In the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit

The Ave Maria asks Mary to "pray for us sinners."

Amen

PaPa for all Father W e pray year of priests.



Card Michael Michai Kitbunchu, Archbishop of Bangkok, is the first member of the College of Cardinals from Thailand.

source :http://www.asianews.it/news-en/Michai-Kitbunchu,-first-cardinal-from-Thailand-3038.html

พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คณะเชนต์ปอล part1

ฺBishop ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พิธีรับPallium Metropolitans Bangkok Thailand >

สารคดี เทศกาลแห่ดาว สกลนคร Welcome
Sakonnakorn Christmas Thailand
Metropolitans Tarae Sakornakorn Thailand


Orchestra and four vocal Choir - *Latin* Recorded for the Anniversary of the Pope Benedict XVI April 19 This is the Anthem of the Vatican City. The Songs are called Inno e Marcia Pontificale ...

We are Catholic.

หน้าเฟส อัพรูป หาที่อัพรูปใหม่อยู่ http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3


MusicPlaylist
MySpace Music Playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add Bernadette's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.