|
|
ในอกเราซ่านเศร้า โศกศัลย์ โศกซึ่งเกินรำพัน เอ่ยถ้อย สุขพวยพุ่งดังควัน ลอยเลื่อน สุขเอย ทุกข์ต่อสุขเรียงร้อย ดั่งสร้อย เวียนวน
ทุกข์จนสุขหลั่งล้น หมุนไป สุขยิ่งยวดเพียงใด อย่ายั้ง สุขเต็มอิ่มเต็มใจ รอเริ่ม ทุกข์เอย ยามเปี่ยมทุกข์ไยรั้ง ปล่อยให้ เป็นไปนำเรื่องกลับมา ณ ลานประลองแห่งนครสัตตบรรณ
องค์เหนือหัวครุฑราชผู้ทรงคว้าชัยในการประลองที่ยังไม่สิ้นสุดทอดพระเนตรพระธิดาวิมานมาศในอ้อมกอดซึ่งเปียกชุ่มไปด้วยน้ำพระเนตรของพระมารดาบุหงารัมภา ทรงแน่พระทัยว่าพระธิดาแห่งอสุนครจำพระองค์ไม่ได้เนื่องจากทรงแปลงองค์เป็นมนุษย์และอำพรางปากครุฑสีดำอันน่าเกรงขามที่นางคุ้นเคย ท้าวครุฑราชทรงแสวงหาโอกาสต่อสู้กับพระโอรสทัณฑสารต่อเบื้องพระพักตร์พระธิดาวิมานมาศมานานแล้ว หลังจากเสด็จไปเข้าเฝ้าพระนางเนตรอัคคีเรื่องที่อสุรนครให้ที่พำนักแก่นางกินนรก็ทรงทราบข่าวการประลองครั้งนี้และเสด็จมาที่นครสัตตบรรณอย่างเร่งด่วน
พระราชประวัติของพระธิดาวิมานมาศและเรื่องราวความรักของมนุษย์กับนางฟ้าทำให้ท้าวครุฑราชทรงย้อนถึงความหลังครั้งเก่า ทั้งเรื่องที่พระมเหสีสิ้นพระชมน์ภายหลังการอภิเษกเพียงไม่กี่วัน พระคู่หมั้นที่หนีไป ตลอดจนนางกินนรอุรมาลีที่เลือกถูกกักขังแทนที่จะครองคู่อยู่กับพระองค์ ความทรงจำนำพาความโศกเศร้าให้แผ่ซ่านไปทั่วพระอุระจนไม่รู้จะใช้ถ้อยคำใดมารำพันบรรยาย ความสุขที่พวยพุ่งก็เปรียบดังควัน ไม่ทันไรก็ลอยเลื่อนเคลื่อนหายไป พระองค์ทรงมีความทุกข์และความสุขต่อเนื่องร้อยเรียงเวียนวนไปราวกับห่วงสร้อยไม่รู้จบ
“หม่อมชั้นจะไปตามพระโอรสทัณฑสารกับท่านอำมาตสหบาลแห่งอสุรนคร”
พระธิดาวิมานมาศทรงได้ยินผู้ชนะกราบทูลพระบิดาก่อนที่เค้าจะหายตัวไป ทรงแน่พระทัยในทันทีว่ามนุษย์ผู้มีน้ำใจต่ออสุรนครผู้นี้คือพญาครุฑที่ทรงรู้จัก หลังจากปลอบพระมารดาและพระขนิษฐาอยู่ครู่หนึ่งก็ทรงค่อยๆ ถอยห่างหมายจะเสด็จออกไปช่วยพระเชษฐา แต่ทว่า! พระมารดาทรงคว้าพระองค์ไว้แน่น พระโอรสอินทกานต์ทอดพระเนตรพระธิดาวิมานมาศรบเร้าเง้างอนอยู่นาน ในที่สุด ก็ทรงยื่นมือเข้าช่วยอีกตามเคย พระธิดาประทับนิ่งตามรับสั่งอย่างว่าง่ายพลางมองส่งพระโอรสเสด็จออกไป ยิ่งไปกว่านั้น ยังประทับรออยู่ที่นั่นจนกระทั่งทุกพระองค์กลับมาอย่างปลอดภัยในช่วงค่ำ
คืนนั้น ณ ท้องพระโรง
องค์เหนือหัวครุฑราชทรงประกาศอย่างเป็นทางการต่อหน้าธารกำนัลว่า “พระโอรสทัณฑสารทรงช่วยชีวิตหม่อมชั้น” นอกจากนั้นยังตรัสว่าพระโอรสแห่งอสุรนครคือผู้ชนะการประลองที่แท้จริง พระราชอาคันตุกะและบรรดาข้าราชการอำมาตในท้องพระโรงต่างแสดงความยินดีกันถ้วนหน้า ยกเว้นเพียงพระเชษฐาของพระธิดาวิมานมาศที่ไม่ทรงทราบเรื่องเนื่องด้วยไม่ได้เสด็จมาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ สิ่งที่อยู่ในพระทัยของพระโอรสทัณฑสารมีเพียงพระขนิษฐา พระมารดา และท้าวขัณฑุมารผู้ลั่นวาจาว่าจะยกทัพมาทำลายล้างอสุรนครให้วอดวาย
Create Date : 31 ตุลาคม 2562 |
|
6 comments |
Last Update : 31 ตุลาคม 2562 1:58:04 น. |
Counter : 698 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 31 ตุลาคม 2562 8:41:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 31 ตุลาคม 2562 11:35:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 1 พฤศจิกายน 2562 6:15:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 1 พฤศจิกายน 2562 20:33:42 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์ |
|
Rss Feed |
| ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
สวัสดีค่ะ รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ขอบคุณที่แวะมาทักทายและอ่านงานเขียนที่ Blog ซ่อนคำค่ะ
|
|
|
|
สวัสดียามเช้าครับคุณซ่อนคำ
เนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้นอีกครั้งแล้วนะครับ
ความเข้าใจผิดของท้าวขัณฑุมาร
อาจนำไปสู่ศึกสงคราม