|
|
ธ ทรงรีบคั่นไม้ ลงกลอน แลเบิ่งนางอรชร นิ่งอึ้ง ไฉนจึ่งมานอน เตียงตั่ง ของเรา จักสั่งสอนจนซึ้ง ที่กล้า อาจหาญ
เยาวมาลย์ตื่นรู้ บัดดล เหิมว่ากายมีมนต์ ซ่อนไว้ ธ ทรงไป่หลงกล พลันร่าย เวทย์คลาย พรแห่งอินทร์หนุนให้ พี่นี้ มองเห็นพระโอรสแห่งนครจันทรโกศลเสด็จกลับพระตำหนักหลังจากเข้าเฝ้า ‘เหนือหัวจักราช’ พระบิดา และ ‘พระมเหสีมณีรัตนะ’ พระมารดา ณ ท้องพระโรงเมื่อพระองค์ทรงก้าวเข้าไปในห้องบรรทมก็รับสั่งให้นางกำนัลที่เข้ามาถวายพระภูษาออกไปแทบจะทันที พระโอรสทรงรีบคั่นไม้ลงกลอนประตูห้องอย่างว่องไว ทรงนิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงหันไปทอดพระเนตรร่างบางอรชรกำลังนอนบนพระแท่นบรรทมอย่างสบายใจ พระโอรสทรงกริ้วอย่างหนักก่อนจะทอดถอนพระทัยรำพึงว่าเหตุใดนางจึงมานอนบนเตียงของเราเช่นนี้ ทรงตั้งมั่นว่าจะต้องสั่งสอนนางให้รู้ซึ้งถึงผลของความกล้าบ้าบิ่นครั้งนี้ให้จงได้
พระธิดาวิมานมาศทรงรู้สึกพระองค์และตื่นบรรทมทันทีแต่ยังทรงทำเฉยด้วยทะนงตนว่ามีมนต์คุ้มครองซ่อนองค์อยู่โดยมิทรงรู้ว่าเจ้าของห้องมีอิทธิฤทธิ์เหนือพระเวทย์กำบังอำพรางทั้งมวลด้วยพรของพระอินทร์ พระโอรสทรงร่ายมนต์คลายพระเวทย์กำบังของพระธิดาและดำเนินเข้าใกล้พระแท่นบรรทม เมื่อนางยังดื้อรั้นแสร้งทำไม่ใส่ใจพระโอรสจึงตรัสเรียกเจ้ายักษ์น้อยกลอยใจด้วยพระสุรเสียงหวานดังกังวานว่า
“เรามองเห็นเจ้านะ พระธิดาวิมานมาศ”
เจ้ายักษ์น้อยพลิกตัวหันขวับ!! ตาถลึงด้วยความฉงน??
‘อินทกานต์’ เพื่อนร่วมทางของพระองค์มาอยู่ในห้องบรรทมของเจ้านายได้อย่างไร?
นอกจากนี้ เค้ายังมองเห็นพระวรกายราวกับพระเวทย์กำบังที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมาจากท่านอำมาตไม่เกิดผล?
ถ้าเช่นนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาล่ะ เค้าคงมองเห็นอสุรนครและ...ความเป็นไปในสระอุรมาลีทั้งหมด!!!
พระธิดาวิมานมาศทรงหวั่นวิตกเรื่องพระเวทย์กำบังเป็นอันมากจนลืมนึกถึงเรื่องที่พระโอรสอินทกานต์เรียกพระองค์ว่า “พระธิดา” กว่าจะทรงคิดได้ก็ตอนที่ถูกลากไปเข้าเฝ้าองค์เหนือหัวและพระมเหสี ณ ที่ประทับในอุทยาน เมื่อพระมเหสีทรงทราบว่าพระธิดาแอบเสวยเครื่องหวานจนเผลอบรรทมหลับในพระดำหนักของพระโอรสก็ทรงตกพระทัยเป็นอันมาก ทรงเริ่มเทศนาวาระแห่งขัตติยนารียืดยาวจนพระธิดาพระศอ(คอ)ตก บทลงโทษที่พระสหายร่วมทางมอบให้เป็นของกำนัลช่างหนักหนาถึงขั้นที่พระโอรสอินทกานต์ทรงเวทนาลูกยักษ์ตาดำๆ ดังนั้น จึงทรงช่วยเบี่ยงประเด็นด้วยการขอพระราชทานอนุญาตให้พระธิดายักษ์เข้าร่วมงานฉลองต้อนรับพระองค์ในคืนนี้และพานางตระเวนเที่ยวรอบเมืองในวันรุ่งขึ้นเพื่อปลอบขวัญ
ขณะที่เรื่องกำลังจะลงเอยแบบสั้นๆ คุณท้าววาดกับนางกำนัลเวลาและพาณีกลับยกประเด็นยักษ์ขึ้นมาทูลทัดทานพระมเหสีโดยพร้อมเพรียง พระธิดาจึงทรงกราบทูลว่า “หม่อมชั้นเป็นมนุษย์เพคะ” เพื่อมิให้พระมเหสีทรงลำบากพระทัย
พระธิดาทรงเล่าเรื่องราวทั้งหมดโดยละเอียด ทั้งเรื่องที่ทรงเป็นพระธิดาบุญธรรม เรื่องแหวนทิพย์ เรื่องท่านพ่อเฉพาะกิจ ตลอดจนจุดหมายปลายทางของพระองค์ พระมเหสีทรงเอ็นดูความเปิดเผยและน้ำใจของพระธิดาน้อยผู้นี้ยิ่งนัก ทรงมีพระกระแสรับสั่งให้จัดเตรียมพระตำหนักรับรองพร้อมด้วยเครื่องหวานรสเลิศและพระภูษาสำหรับพระธิดาขณะประทับในพระราชวัง พระธิดาวิมานมาศทรงสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นแต่ในขณะเดียวกันก็สลดพระทัยอย่างสุดซึ้งที่ต้องสนองพระเมตตาด้วยการทรงเครื่องแบบ ‘ขัตติยนารี’ ตามพระประสงค์
ในคืนนั้น นางกำนัลเวลาและพาณีได้นำเสด็จพระธิดาออกสู่ท้องพระโรง ทรงฉลองพระองค์และพระภูษาไหมยกทองพระราชทานเพื่อให้สมพระเกียรติ บรรดาข้าราชบริพารต่างตกตะลึงในพระสิริโฉมงดงามตรึงตาตรึงใจประหนึ่งเทพอัปสรจำแลงกายลงมาถวายพระพรต้อนรับพระโอรสแห่งจันทรโกศลตอนหนึ่ง พระมเหสีทรงแย้มพระโอษฐ์พลางตรัสเสียงเบากับคุณท้าวว่า
“ชื่อช่างคล้องจองกันราวกับเทพสวรรค์บันดาล”
“อินทกานต์ วิมานมาศ”
Create Date : 25 ตุลาคม 2562 |
|
5 comments |
Last Update : 31 ตุลาคม 2562 10:15:19 น. |
Counter : 660 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 25 ตุลาคม 2562 19:46:42 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์ |
|
Rss Feed |
| ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
สวัสดีค่ะ รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ขอบคุณที่แวะมาทักทายและอ่านงานเขียนที่ Blog ซ่อนคำค่ะ
|
|
|
|
เป็นชื่อและคำที่คล้องจองไพเราะมากๆครับ
ความสวยงามของภาษาไทย คือ มีคำที่คล้องจองกัน
หรือเป็นคำที่ความหมายต่างกัน
แต่พอมาวางคู่กัน
กลับให้ความหมายที่กลมกลืนกันได้นะครับ