<<
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
6 พฤศจิกายน 2552
 
 

ชินยุนบก ตอนที่ 16

ตอนที่ 16
“งั้นหรือ แต่เรื่องบางอย่างไม่ใช่แค่ความไว้ใจก็จะสำเร็จได้หรอกนะ ข้าเป็นห่วงความวู่วามของเจ้าด้วยความที่ยังหนุ่มเกินไป เกิดโชคร้าย ไม่เป็นอย่างที่คิดอาจทำให้เจ้าเสื่อม เสียก็ได้”

“ขอบพระทัยที่ทรงเตือน หม่อมฉันมีความคิดของตัวเอง ทรงวางพระทัยได้”

“กลัวแต่ว่าถ้าผิดพลาดจริง เจ้าจะรับผิดชอบไหวหรือเปล่า เพราะเป็นเรื่องใหญ่นัก”

“เรื่องนี้หม่อมฉัน เข้าใจดีพ่ะย่ะค่ะ”

ด้านใต้เท้าชางได้ให้คนนำสีจากเสฉวนมาเก็บไว้ที่ห้องเตรียมสี หลังจากนั้นเมื่อไม่มีใคร อยู่ก็มีคนแอบนำสีไปผสมในโหลสีแดง ก่อนที่ จะถูกคิมฮงโด และซินยุนบกนำไปใช้

วันรุ่งขึ้น คิมฮงโด และซินยุนบกได้ ทูลพระราชาจองโจว่าวันนี้ จะเริ่มลงสีภาพจาก นั้นก็ตั้งใจทำงานจนการลงสีเสร็จเรียบร้อย

“ทังวอน...ข้ามีเรื่องอย่างหนึ่ง เป็นความลับที่ไม่เคยบอกใครมาก่อน เฝ้าหวังว่าซักวันหนึ่ง ความจริงจะเปิดเผยให้ทุกคนได้รู้ บางครั้งข้าอยากหาเพื่อนพูดคุยระบายให้เขาฟัง ถ้าเป็นท่าน เวลาจะพูดเรื่องความลับ ท่านจะทำไงก่อน” พระราชาจองโจ ตรัส

“รับสั่งว่าเป็นความลับหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“เป็นความลับสำคัญ ที่ห้ามบอกให้ใคร รู้เด็ดขาด” พระราชาจองโจตรัส จากนั้นก็นึกถึง คำตรัสของพระเจ้ายองโจ ซึ่งเป็นปู่ ว่า วันหน้า ถ้ามีโอกาส ให้ไปหาภาพเขียนที่สูญหายไป เพื่อ ล้างมลทินให้พ่อของตน ซึ่งภาพที่ตรัสถึงก็คือภาพขององค์รัชทายาทองค์ชายซาโต ที่เป็นบิดา ของพระราชาจองโจนั่นเอง

“ความลับที่ต้องเปิดเผยให้ได้” คำตรัส ของพระราชาจองโจ ทำให้คิมฮงโดนึกถึงซอจิน ขึ้นมา เพราะทั้งสองมีความสงสัยถึงการตายของ อาจารย์เหมือน ๆ กัน
ระหว่างที่ใต้เท้าชางกำลังคิดว่าหากฝ่าบาททรงโปรดปรานคิมฮงโดนัก งานเขียนพระรูปเสร็จเมื่อไหร่ คงทรงมีปูนบำเหน็จให้อย่างงาม อาจให้เขาเป็นหัวหน้าศูนย์ศิลปะ หรือไม่ก็ให้อยู่ เมืองหลวงตลอดไป ก็มีช่างเขียนของศูนย์ศิลปะ คนหนึ่งมาเข้าพบ

“มาแล้วหรือ งานเป็นไงบ้าง ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า”

“ครับใต้เท้า เรียบร้อยไม่มีปัญหา”

“อ้อ...ดีมาก ถ้าเป็นไปตามที่คิด อีกไม่นานจะมีการเลือกช่างเขียนส่วนพระองค์คนใหม่ ถึงตอนนั้นข้าจะสนับสนุนเจ้า ให้ไปเขียนพระรูปของฝ่าบาทแทน เฮ่อ ๆ ๆ ใครที่มีโอกาส...ได้ทำงานใหญ่ขนาดนี้ จะถูกจารึกไปชั่วลูกชั่วหลาน รู้มั้ย”

“ข้าก็หวังพึ่งท่านนี่แหละครับ” ช่างเขียน กล่าว

ซินยอนบกตั้งหน้าตั้งตาผลิตสี จนร่างกาย เริ่มผิดปกติ ด้านคิมฮงโด หลังจากที่เขียนภาพ เสร็จ ก็เห็นเงาสะท้อนของซินยุนบกในภาพคล้าย กับผู้หญิง

“เจ้าคงไม่ใช่...เจ้าเป็นผู้ชายจริงหรือเปล่า ทำไมไม่ตอบคำถามของอาจารย์ล่ะ”

“นั่นเป็นเพราะ...สิ่งที่ท่านถามมันไร้สาระ ไม่จำเป็นต้องตอบ” ซินยุนบก กล่าว

“แต่ทำไมเงาของเจ้า ดูคล้ายผู้หญิงมาก กว่า”

“ภาพเงาสะท้อน เห็นเค้าว่า...มันเป็นภาพลวงตาไม่ใช่หรือครับ...ข้าก็เห็นเงาของอาจารย์ เหมือนคางคกยังไงก็ไม่รู้”

“เงาคือสิ่งสะท้อนความเป็นจริงต่างหาก หรือเจ้าว่าไม่ใช่?...ต้องมีวัตถุจริง ถึงมีเงาให้เห็น” คิมฮงโด กล่าว

“แต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นวัตถุ หรือเงาสะท้อน ของวัตถุนั้น ๆ ไม่แน่ว่า มันอาจไม่ใช่ของจริงเสมอไป”

“แล้วความจริงคืออะไร มันจะอยู่ตรงไหน”

“ความจริงหรือ...คงมีแต่อยู่ในใจ ข้าวางตรงแล้วใช่ไหมอาจารย์ ถือว่าเสร็จงานขั้นแรกซะที ...ท่านเป็นไรหรือครับ”

“ตั้งแต่พรุ่งนี้ เราจะเริ่มการลงสี ต้องตั้งใจ หน่อยนะ”

“ครับ อาจารย์” ซินยุนบก กล่าว

เมื่อเสร็จงาน ทั้งสองพากันกลับบ้าน คิมฮงโดกำชับให้ซินยุนบกรีบเข้านอน แต่ก็ยัง ไม่ลืมที่จะถามว่า หากมีการปูนบำเหน็จ ซินยุนบก จะทูลขอให้ฝ่าบาทปล่อยซินยอนบกกลับมาจริงหรือ

“ใช่” ซินยุนบก กล่าว

“ข้าดูเจ้ากับเขา ยังไงก็ไม่เหมือนพี่น้องจริง ๆ”

“พูดแบบนี้หมายความว่าไงน่ะครับอาจารย์”

“เหมือนจะรักกันเกินเหตุ ปกติพี่น้องต้อง มีทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง แต่ทำไมพวกเจ้า...เจ้านี่ ยิ่งดูก็ยิ่งแปลก” คิมฮงโด กล่าว

“แหม...พี่น้องรักกันไม่ดีหรือครับ ท่านต่างหากที่แปลก นอนซะ อย่าฟุ้งซ่าน”

เมื่อถึงขั้นตอนการลงสี ทั้งคิมฮงโดและซินยุนบกต่างก็ต้องตกใจ เมื่อสีที่เตรียมไว้กลับกลายเป็นสีดำ

“อาจารย์....ทำไมเปลี่ยนเป็นสีดำล่ะครับ ...เมื่อคืนเราไปตรวจดู มันยังเป็นสีแดงอยู่ไม่ใช่หรือ โถนี้ ข้าจำได้ว่าเป็นสีแดงนี่นา...หา...ทำไงดีล่ะครับ เราจะทำไงดี”

“อย่าเพิ่งลน ใจเย็นไว้”

“หึ...อาจารย์” ซินยุนบก กล่าว จากนั้นคิมฮงโดดูโหลใส่สี พบผงสีเงินอยู่ด้านใน

“อะไรหรือครับอาจารย์” ซินยุนบก ถาม

“มันเป็นผงเงิน”

“อะไรคือผงเงินน่ะ”

“ชาดที่รวมกับผงเงิน ผ่านไปหนึ่งวันจะกลายเป็นสีดำ”

“หา...แล้ว...เราจะทำไงดีครับ เราจะระบาย สียังไงดี หึ...อาจารย์ครับ”

“เงียบก่อน...ใครนะที่ทำแบบนี้...ข้าจะไม่ ยอมถูกแกล้งง่าย ๆ หรอก”

“เอ่อ...ท่านจะไปไหนครับ”

“หาสีอื่นมาแทน ดีกว่านั่งเฉย ๆ น่ะสิ”

“ถ้าไปหาข้างนอกตอนนี้จะทันหรือ... ระหว่างที่เขียนพระรูป เราห้ามออกไปไหน ท่าน ก็รู้...”

“เจ้าฟังข้าให้ดี เจ้าอยู่นี่ ห้ามไปไหนทั้งนั้น”

“หึ...อาจารย์ ข้ามีทางหาสีได้”

“เจ้าจะมีวิธีอะไร”

“ใช้สีของพี่ข้าแทนมั้ยล่ะ”

“อะไรนะ”

“ท่านเคยเห็นสีพวกนั้นแล้วนี่ สีแดงที่ใช้ สำหรับฉลองพระองค์ของฝ่าบาท เป็นสีที่พี่ข้าคิดเองน่ะครับ”

“เจ้าเสียสติแล้วหรือไง การใช้สีจากข้างนอก จะมีความผิดยิ่งกว่าใช้สีแดงที่กลายเป็นสีดำ ซะอีก”

“ไม่งั้นงานเราก็ต้องหยุดไปนานนะครับ... อาจารย์”

จากนั้นซินยุนบกก็รีบไปหาซินยอนบก ที่โรงผลิตสี เพื่อบอกความต้องการ ในขณะที่ ซินยุนบกไม่รู้เลยว่า การผลิตสีทีละมาก ๆ จะทำให้ซินยอนบกได้รับสารพิษ จนทำให้ร่างกายเริ่ม ผิดปกติ

คิมฮงโดและซินยุนบกร้อนใจ เกรงว่า ซินยอนบกจะนำสีมาให้ไม่ทันเวลา แต่ท้ายที่สุด ซินยอนบกก็นำสีมาให้ทันก่อนที่พระเจ้าจองโจจะ เสด็จมาจนได้

“ไม่น่าเชื่อว่าแค่ลายเส้น ก็ทำให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาได้แล้ว หึ ๆ...ทังวอน” พระเจ้าจองโจ กล่าว

“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”

“หลังจากลงสีเรียบร้อยก็ถึงคราวแสดงผลงาน ยังไม่รู้ว่าพวกขุนนางจะหาข้อติเตียนอะไร บ้าง ถึงตอนนั้นไม่แน่ว่า ไม่เพียงข้าคนเดียว แม้แต่ท่านกับลูกศิษย์ก็อาจมีปัญหาตามมาได้ ถึงตอน นั้น ท่านยังจะเชื่อข้า ทำงานนี้ให้สำเร็จลุล่วงหรือ เปล่า”

“ฝ่าบาท ผู้ที่เป็นช่างเขียน มีแต่เชื่อมั่น ฝีมือตัวเอง เรื่องอื่นไม่จำเป็นต้องคิด และไม่อยาก คิดด้วยพ่ะย่ะค่ะ...พระรูปองค์นี้ จะแสดงถึงพระจิต วิญญาณได้หรือไม่ นี่คือสิ่งที่พวกเรา...ต้องคำนึงมากกว่า”

“งั้นขอถามช่างเขียนหนุ่มคนนี้หน่อย... จะรับความกดดันไหวมั้ย”

“พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉัน...มีหน้าที่แค่ตามอาจารย์เท่านั้น” ซินยุนบก กล่าว

ระหว่างนั้น พระเจ้าจองโจสังเกตเห็นสีแดงที่ซินยุนบกและคิมฮงโดใช้ในการลงสี

“สีนี้สดกว่าแดงทั่วไป แต่ก็ดูไม่แสบตามาก เป็นสีที่สว่าง แต่ไม่ฉูดฉาดเกินไป ไปเอามา จากไหนน่ะ”

“พ่ะย่ะค่ะ มาจากพี่ชายหม่อมฉัน ที่คราว ก่อนถูกลงโทษ ให้ไปอยู่โรงผลิตสี ทรงจำได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าจำเขาได้” พระเจ้าจองโจ กล่าว

“พี่ชายหม่อมฉัน ทำงานที่นั่น ใช้สีจาก ดอกไม้ สกัดเป็นสีที่มีเฉพาะในโชซอนเท่านั้น”

“เป็นสีเฉพาะหรือ...ตอนนี้ ถึงเวลาที่ต้อง ลงสีให้เสร็จแล้วสิ”

ใต้เท้าชางได้รับรายงานว่า คิมฮงโดและซินยุนบกเริ่มลงสีแล้ว ก็ไม่พอใจ

“อะไรนะ เริ่มลงสีหรือ” ใต้เท้าชาง ถาม

“ครับ”

“ทำไมถึงได้...เพราะอะไร ใครบังอาจเอา สีไปให้พวกเขา” ใต้เท้าชาง กล่าว

โฮอุ๊กเริ่มสงสัยว่าซินยอนบกเป็นอะไร วัน ๆ ชอบดูคนผิด เหมือนตาจะมีปัญหา

“มือก็ค่อย ๆ อ่อนแรงลง ไม่มีใคร เรียกแต่ได้ยินเสียงเหมือนหูแว่วใช่ไหม” แผ่กเป ถาม

“ท่านปู่ ท่านรู้สาเหตุหรือคะ เขาเป็นอะไรน่ะ”

“อาการของคนถูกพิษ”

“ท่านบอกว่าถูกพิษหรือ” โฮอุ๊ก ถาม

“ผลจากการผลิตสีอย่างเร่งรีบและจำนวน มาก...ต้องบอกให้เขาอยู่ห่างพวกสีซักระยะหนึ่ง คอยดูอาการให้ดี เผลอ ๆ ในที่สุดอาจเกิดภาพหลอนก็เป็นได้” แผ่กเป กล่าว

ระหว่างนั้นใต้เท้าชางเข้ามายังโรงผลิตสี ถามเหล่าคนงานว่า มีช่างเขียนที่กำลังเขียนพระรูป เข้ามาเบิกของที่เกินกว่าความต้องการหรือไม่ เมื่อ รู้ว่าไม่มีใครมาเบิกอะไร ก็รีบกลับออกไป

“แสดงว่า มีการใช้สีจากที่อื่น ไประบายในส่วนของฉลองพระองค์แน่นอน” ใต้เท้าชาง กล่าว

“ถ้าอย่างงั้น ก็ตรงกับที่พระอัยยิการับสั่ง ทันทีที่การเขียนพระรูปเสร็จสิ้น ความผิดของพวก เขา ก็จะถูกเผยออกมาโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย” เสนาขวา กล่าว

“ถูกต้อง” ขุนนาง กล่าว

“การเขียนพระรูปคราวนี้ เราต้องขวางไม่ ให้เจ้าทังวอน ทำงานสำเร็จตามที่คิด”

“ถ้าไง ข้าจะไปคุยกับขุนนางที่มีส่วนในการพิจารณาพระรูปให้พวกเขาเข้าใจ” ขุนนาง กล่าว

“อึม...”

“เราต้องแสดงบางอย่าง ให้ฝ่าบาทที่ชอบ เข้าข้างคนผิดได้รู้บ้างว่า อย่าทรงมองข้ามพวกเรามากนัก”

“แน่นอน เราต้องสั่งสอนอยู่แล้ว ให้ รู้ว่าฝ่าบาทก็ทำตามพระทัยไม่ได้” เสนาขวา กล่าว

“อึม...”

“วิธีนี้ จะทำให้ฝ่าบาททรงรู้ว่า อำนาจก็มีขอบเขต จริงหรือเปล่า”

“ใช่ครับท่าน” ขุนนาง กล่าว

สีที่ใช้เขียนฉลองพระองค์ยังขาดอีก 7 ชั่งครึ่ง ทำให้ซินยอนบกต้องลุกมาทำเพิ่มอีก ทั้งที่ร่างกายไม่เอื้ออำนวย แม้โฮอุ๊กจะห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง

“หึ...น้องคนนี้สำคัญอะไรนัก เจ้าถึงยอม เสี่ยงเพื่อเขาขนาดนี้” โฮอุ๊ก ถาม

“น้องคนนี้...สำคัญมาก” ซินยอนบก กล่าว

“หมายความว่าไงน่ะ”

“ทุกครั้งที่เขาหัวเราะ ข้าจะดีใจตาม ถ้าเขาร้องไห้ ข้าก็จะเสียใจ ฉะนั้นถือว่าเห็นแก่ตัวเอง ข้าเลยจะช่วยเขาทุกอย่าง หึ...”

ซินยุนบกเข้ามาเอาสี จึงสังเกตเห็นหน้าของซินยอนบกเริ่มซีด

“หึ...อาจเพราะหลายวันนี้ทำงานหนักมั้ง พักผ่อนก็คงหาย เจ้าก็เหมือนกัน อย่าห่วงแต่ทำงาน ต้องกินข้าวบ้าง รู้หรือเปล่า” ซินยอนบก กล่าว

“อึม...ขอบคุณมากนะพี่ใหญ่” ซินยุนบก กล่าว และคิดว่าอีกไม่นาน เมื่อเขียนรูปเสร็จแล้ว จะพาซินยอนบกกลับไปอยู่ที่ศูนย์ศิลปะอีกครั้ง

“เจ้าต้อง...ตั้งใจทำงานให้ดีล่ะ” ซินยอน บก กล่าว

“อึม...”

“ไปเร็วเข้า”

เมื่อต้องลงสี คิมฮงโดจึงอยากให้ซิน ยุนบกเป็นคนลงสีคนแรก

“ให้เจ้าลงสีก่อน” คิมฮงโด กล่าว

“ท่านบอกว่าให้ข้าลงก่อนหรือ”

“เพราะนี่เป็น...สีที่พี่ชายเจ้าทำให้โดยเฉพาะ จึงอยากให้เจ้าระบายสี...ฉลองพระองค์ของฝ่าบาท...ด้วยมือตัวเองก่อน”

“อาจารย์”

อาการของซินยอนบกหนักขึ้นเรื่อย ๆ ขณะขึ้นไปเขียนรูปบนนั่งร้าน เกิดมองเห็นว่า ซินยุนบกมาหาและเดินจากไป ซินยอนบกพยายามที่จะเรียกน้องไว้ จึงทำให้ตกจากนั่งร้านลงมาต่อหน้าต่อตาโฮอุ๊ก

คิมฮงโดและซินยุนบก ช่วยกันลงสีจนเสร็จหมดเรียบร้อย

“เอ่อ...เดี๋ยวก่อนครับ ข้าว่าเหมือนยังขาดอะไรนิดนึง” ซินยุนบก กล่าว แต่ยังไม่ทัน ได้พูดอะไรก็สลบไป

“หึ ๆ ๆ....อ้าว...ยุนบก ๆ ๆ ๆ”

หมอหลวงเข้ามาดูอาการของซินยุนบก แล้วเห็นว่าไม่เป็นไรมาก พักผ่อนหน่อยก็คงดีขึ้น พร้อมกำชับว่า เมื่อซินยุนบกรู้สึกตัวให้ยาทานก่อน ระหว่างนั้น ราชเลขาเข้ามาดูอาการของซินยุนบก

“อาการเขาเป็นไงบ้าง”

“หมอบอกว่าไม่ได้เป็นไรมาก” คิมฮงโด กล่าว

“ปกติการเขียนพระรูป มักทำให้ช่างเขียนเครียดจนป่วย แต่ก็ถือว่าเสร็จงานใหญ่ ที่น่าภาคภูมิ ตอนนี้ออกจากวังได้แล้ว ไป พักผ่อนพื้นฟูกำลัง แล้วค่อยกลับมาฟังการพิจารณา”

“ข้าเข้าใจครับ งานนี้ช่างลำบากเจ้า จริง ๆ”

ระหว่างที่ซินยุนบกหลับนั้น ในฝันได้ เห็นซินยอนบกมานั่งอยู่ข้าง ๆ

“พี่ใหญ่ใช่ไหม”

“เจ้าตื่นแล้วหรือ ไม่นอนอีกหน่อยล่ะ”

“ท่านจะไปไหน”

“นอนต่อเถอะนะ”

“ข้าไปด้วยคนสิ”

“เจ้าน่ะหรือ ตามมาไม่ได้หรอก”

“แล้วท่านจะไปไหน”

“ลาก่อนนะ” ซินยอนบก กล่าว

“พี่ใหญ่...”
คนงานที่โรงผลิตสีมาหาอิกแจ เพื่อบอกข่าวการตายของซินยอนบก เมื่อทราบข่าวอิกแจและเมียได้เดินทางมาที่โรงผลิตสี เพื่อดูลูกชาย

“ฮือ....ทำไมลูกชายข้า อยู่ดี ๆ ถึงตก ลงมาได้ล่ะ หา....” เมียของอิกแจ กล่าว

“เพราะเรื่องสีน่ะค่ะ”

“เรื่องสีอะไรกัน” อิกแจ ถาม

“น้องชายเขาที่ไปเขียนพระรูปในวัง, จู่ ๆ ต้องใช้สีมากมาย ทำให้เขาถูกสารพิษในระหว่างผสมสีน่ะค่ะ” โฮดุ๊ก กล่าว

“หา....”

“ฮือ....เพราะท่านคนเดียว ท่านฆ่าลูกเราแท้ ๆ ฮือ ๆ”

“ฮือ ๆ ๆ ลืมตามองพ่อหน่อยสิลูก ลืมตาขึ้นมาเดี๋ยวนี้ได้ยินมั้ย ฮือ ๆ ๆ”

ด้านซินยุนบก เมื่อตื่นขึ้นมาก็จะรีบไปหาซินยอนบกทันที เพื่อจะบอกพี่ชายว่า ตอนนี้เขาเขียนรูปเสร็จแล้ว

“โบราณว่าความรักของพี่น้อง เป็นสิ่งมีค่ายากจะหาใดเปรียบ...แต่ทำไมพวกเจ้าไม่ค่อยเหมือนพี่น้อง มันดันคล้ายกับ....” คิมฮงโด กล่าว

“อาจารย์นี่ก็สงสัยอะไรอีกล่ะ ไม่เหมือน พี่น้อง แล้วจะเหมือนอะไร”

“หึ ๆ ถึงจะเป็นไปไม่ได้ก็เถอะ แต่ดูแล้วเหมือนคนรักมากกว่า”

“คนรักหรือ หึ ๆ พูดอะไรก็ไม่รู้ จะเป็นไปได้ไงกัน เชอะ....ข้ากับพี่ใหญ่น่ะหรือ” ซินยุนบก กล่าว

“แปลกจริง ผ้าห่มนี่ ใครมาคลุมตั้งแต่เมื่อไหร่”

ขณะที่กำลังคุยกันอยู่นั้น มหาดเล็กได้นำจดหมายที่อิกแจเขียนแจ้งการตายของซินยอนบก มาให้ โดยสั่งว่าให้ช่วยปิดเป็นความลับก่อน หากซินยุนบกรู้เข้า เกรงว่าจะเสียใจจนระงับสติไม่อยู่

“ถ้าอย่างงั้น ข้าขอตัวกลับก่อนนะครับ” ซินยุนบก กล่าว

“ยุนบก”

“ครับ มีอะไรหรือครับอาจารย์”

“คือว่า....ตอนนี้เจ้ายังไม่หายป่วยดีนัก จะถือว่าเป็นเหตุผลข้อหนึ่งก็ได้ ถ้ายังไงอย่าเพิ่งออกจากวังเลย นอนพักฟื้นให้หายก่อนดีมั้ย” คิมฮงโด กล่าว

“แต่ข้าไม่เป็นไรแล้วนี่ครับ อีกอย่างเมื่อคืนข้าฝันแปลก ๆ มีลางสังหรณ์ว่าพี่ใหญ่จะเกิดเรื่องหรือเปล่าไม่รู้ เลยอยากกลับไปดูให้สบายใจ หึ....”

“พรุ่งนี้จะมีการตัดสินภาพ ถ้าเราไม่มีคำตอบให้พวกขุนนางที่มาซักไซ้ละก็ ไม่แน่ชีวิตเราสองคนอาจจะไม่รอด แล้วตอนนี้ เจ้ายังห่วงเรื่องอะไรนักหนา พี่ชาย? ความฝันหรือ ยังมีแก่ใจห่วงเรื่องพวกนี้อีก”

“อาจารย์”

“งานนี้ไม่บอกก็รู้ว่าจะมีการแสดงความเห็นหลากหลายระหว่างฝ่าบาทกับเหล่าขุนนางแน่ แล้วทำไมฝ่าบาทถึงทรงผิดจารีตที่มีมาแต่อดีต ให้เราเขียนพระรูปโดยยื่นพระหัตถ์ออกมา ยิ้มเห็นพระทนต์ ผินพระพักตร์ไปอีกข้าง ที่สำคัญเราไม่ใช้ชาดระบายฉลองพระองค์ เหล่านี้ถ้าไม่มีคำตอบ....สรุปคือแค่หาเหตุผลก็แทบไม่มีเวลาแล้ว” คิมฮงโด กล่าว

“อาจารย์”

“ฝ่าบาททรงตั้งความหวังกับเราสองคน....ไว้สูงมากแค่ไหน ไม่ว่ายังไง เราก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี”

“ครับ อาจารย์” ซินยุนบก รับคำ

เมื่อรู้ว่าภาพของคิมฮงโดและซินยุนบก เขียนเสร็จแล้ว เหล่าขุนนางจึงคิดที่จะหาวิธีขัดขวางไม่ให้ภาพนั้นส่งไปถึงยังท้องพระโรงได้ โดยมีช่างแก่ร่วมมือด้วย

พระเจ้าจองโจมีรับสั่งให้คิมฮงโด เข้าเฝ้า

“นี่เป็นพู่กัน....ที่ข้าเคยใช้เขียนรูปตอนหัดใหม่ ๆ เสด็จปู่ประทานให้ข้าต่อหน้าขุนนาง ทั้งที่ตอนนั้นข้ากลัวจนขาสั่น แต่ก็รับไว้ เสด็จพ่อก็เลยทรงตั้งชื่อให้ว่าพู่กันไม่ต้องกลัว ถือมันไว้แล้ว ถึงเจอขุนนางก็ไม่กลัวอีก แม้ว่าตอนเด็กจะเคยถูกพวกเขาสบประมาท ข้าก็ไม่เคยกลัว แม้ว่าหลังจากนั้นจะมีใครตั้งคำถามที่ลึกซึ้งมาลองภูมิข้า แต่ข้ามีคำตอบอยู่ในใจแล้ว เลยไม่เคยกลัวใคร เสด็จพ่อสอนข้ามาอย่างงั้น เพราะฉะนั้น วันนี้ข้าขอส่งต่อพู่กันให้ท่านบ้าง ถือไว้แล้วพรุ่งนี้เช้า ไม่ว่าใครจะตั้งคำถามกดดันยังไง ก็ให้คิดว่าไม่เป็นไร ทุกอย่างจะต้องผ่านไป ขอเป็นกำลังใจให้ท่านผ่านพ้นด้วยดี” พระเจ้าจองโจ กล่าว

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”

ซินยุนบกมาที่ศูนย์ศิลปะได้ยินเพื่อน ๆ คุยกันถึงการตายของซินยอนบก ทำให้รู้ความจริงที่เกิดขึ้น

“ไม่จริงหรอก ฮือ....ไม่เป็นความจริง ต้องไม่ใช่อย่างงั้น”

“เพราะข้าปากไม่ดีเอง เผลอพูดจนได้ ปากเสียนัก ปากเสีย”

“พอแล้วน่า เลิกโทษตัวเองซะที”

“ช่างเถอะ ๆ ไหน ๆ เรื่องก็เกิดแล้ว”

“พวกเจ้าโวยวายอะไรกัน” คิมฮงโด กล่าว

“อาจารย์ทังวอน”

“เอ่อ....ขอโทษครับ ข้าผิดไปแล้ว”

“ใครทำอะไรผิด”

“เมื่อกี้ ยุน...ยุนบก....โอ๊ะ....”

“ยุนบกมาที่นี่หรือ”

“เอ่อ....”

“พวกเจ้าพูดเรื่องยอนบกให้ฟังหรือ” คิมฮงโด ถาม

“เอ่อ....”

ซินยุนบกกลับมาที่บ้าน โดยมีคิมฮงโด ตามมา

“เจ้ากลับมาได้ไงนี่” อิกแจถาม

“ยุนบก....” คิมฮงโด กล่าว

“ข้าสั่งไว้ว่าอย่าเพิ่งบอกเขาไงล่ะ กลับไปเดี๋ยวนี้ ไปทำงานต่อซะ จนกว่าการเขียนพระรูปจะเสร็จสิ้น ห้ามเจ้ามาเหยียบบ้านแม้แต่ก้าวเดียว เข้าใจหรือเปล่า”

“ฮือ ๆ ๆ พี่ใหญ่ตายแล้ว ฮือ....การเขียนพระรูป จะมีความหมายอะไรอีก ฮือ....ไม่มีความหมายอีกแล้ว ฮือ ๆ ๆ”

“แล้วพี่ชายเจ้า....เขาตายเพราะใครรู้หรือเปล่า เขาตายเพราะใคร” อิกแจ ถาม

“ท่านพ่อ”

“ไปเดี๋ยวนี้ เจ้าต้องไป....ทำหน้าที่เกี่ยวกับพระรูปให้เสร็จก่อน มีแต่ทางนี้เท่านั้น ถึงเป็นการตอบแทนพี่เจ้าอย่างแท้จริง”

“ไม่ได้หรอกครับท่านพ่อ ข้าทำไม่ได้อีกแล้ว” ซินยุนบก กล่าว

“ต้องไปเดี๋ยวนี้ ไปซี่”

“ข้าจะอยู่กับพี่ใหญ่ไม่ไปไหน ฮือ ๆ ๆ”

“กลับไปเถอะ” อิกแจ กล่าว

“ข้าไม่ไป”

“ข้าสั่งให้ออกไป”

“ข้าไม่ไป ฮือ....ฮือ ๆ ๆ ทำไมไม่บอกให้ข้ารู้ก่อน หึ....ในเมื่อพี่ใหญ่กลายเป็นแบบนี้ ทำไมไม่มีใครบอกข้าซักคน ฮือ....”

“ที่ข้าไม่ได้บอกเจ้า เพราะพ่อเจ้าสั่งเอาไว้”

“ฮือ....เพื่อให้พี่ใหญ่ได้กลับมาอีกครั้ง ฮือ....ข้าถึงมุ่งมั่นขนาดนี้....ทั้งที่ข้าไม่รู้อะไรเลย สุดท้ายกลับเป็นเพราะข้า ฮือ....ทำให้พี่ใหญ่.... ต้องกลายเป็นแบบนี้”

“ถ้าเจ้าเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟาย แล้วมันจะช่วยอะไรได้บ้าง....สามารถเปลี่ยนเหตุการณ์ที่เกิดได้ไหม ช่วยให้พี่เจ้าฟื้นคืนชีพได้หรือเปล่า....นึกว่าการเป็นช่างเขียนเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายหรือ ดีใจก็สุขจนล้น เสียใจก็เศร้าจนหดหู่ ปล่อยให้อารมณ์เป็นใหญ่แล้วจะเป็นช่างเขียนที่ดีได้ยังไง”

จบตอนที่ 16
เครดิต //www.dailynews.co.th




 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2552
2 comments
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2552 12:44:01 น.
Counter : 295 Pageviews.

 

ขอบคุณค่ะ

ยอนบกน่าสงสารจังเลย...

 

โดย: หมีหมอน IP: 125.25.123.61 7 พฤศจิกายน 2552 21:28:21 น.  

 

ขอให้มีวีดีโอมั่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

โดย: mai IP: 114.128.39.87 16 พฤศจิกายน 2552 20:07:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com