ชุด Spies in love, ชุดหอหลอนรัก และ เหลี่ยมเสน่หา เป็นธรรมดาที่เมื่อได้กลับบ้าน ก็ต้องแวะเวียนไปหาหนังสืออ่าน ช่วงเวลาสามวัน อ่านมาได้ 6 เล่ม ก็เลยขอเขียนรีวิวไว้ พอเป็นกระสัยหน่อยแล้วกันค่ะ Free TextEditor เหลี่ยมเสน่หา : อุธิยา ใจจริงไม่สนใจเรื่องนี้เลยล่ะ เพราะ 1) นักเขียนชื่อไม่คุ้น และโครงการ New Star ก็ทำเราผิดหวังมาหกลายหนแล้ว 2) อ่านคำโปรยข้างหลังแล้วมึนตึ้บ เพราะเป็นคน 4 คนมาเกี่ยวพันกัน อ่านแล้วเข้าใจว่าเป็นสลับรักอะไรประมาณนั้น และ 3) พี่ที่ร้านไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย :P แต่ด้วยความที่ไม่รู้จะอ่านอะไร นิยายหน้าปกการ์ตูนไม่เหมาะกับเราจริงๆค่ะ ส่วนเล่มที่พี่เขาแนะนำ เราก็ซื้อมาอ่านแล้วเพราะชอบนักเขียนคนนั้น (และจะกล่าวถึงในโอกาสถัดไป) เราก็เลย หยิบเรื่องนี้มาอ่านแล้วกัน เหมือนเคย ไม่หวังมาก แต่พออ่านแล้ว ... สนุกดีแฮะ เนื้อเรื่องน้ำเน่าเคล้าเงาจันทร์มาก เป็นความรักวุ่นวายของคน 4 คน ตามปกหลังเลย ทำแผนผังตัวละครคงสนุกดี เริ่มต้นที่ อคิน ถูกจับหมั้นหมายกับ แพรวา ถ้าถามว่าเขารักเธอไหม เขาคงตอบว่าไม่ แต่ถ้าถามว่าต้องการแต่งด้วยมั้ง เขาตอบได้แน่นอนว่าตกลง แพรวา จะทำให้ธุรกิจของเขาเจริญก้าวหน้าขึ้น เธอมีประโยชน์แค่นั้น ส่วนแพรวา เธอคือสาวน้อยใสซื่อ ชีวิตถูกจูงให้เดินโดยมือของแม่และยาย แต่เธอมีคนรักอยู่แล้วคือ โชติก เมื่อถูกบังคับให้แต่งงาน สิ่งที่สาวน้อยแสนหวานในสายตาของใครๆตัดสินใจทำก็คือ หนีวิวาห์ เธอก้าวออกจากกรงทอง ติดปีกโบยบินไปพร้อมกับโชติก และทิ้งพี่สาวนอกไส้ หลานที่ไม่เป็นที่ต้องการของบ้าน กริการ์ ให้รับหน้าไว้ ภายนอก กริการ์ คือสาวสวย เปรี้ยว เก่ง ทำงานเป็นมัณฑนากรฝีมือดี แต่ภายในใจ เธอมีปม และเมื่อต้องจับพลัดจับผลูมาเป็นเจ้าสาวแทนน้องสาวที่ไม่ได้ผูกพัน เพราะใครๆเข้าใจว่าเธอคือผู้ที่ปล่อยให้เจ้าสาวหนีงาน เธอจึงต้องชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ แต่กริการ์ก็ยอมรับมัน เพราะเจ้าบ่าวที่ชื่ออคินนั้น คือผู้ชายคนเดียวที่อยู่ในใจเธอตลอดมา เนื้อเรื่องดำเนินอยู่ในช่วงเวลาตั้งแต่งานแต่งงาน กินเวลาที่เรื่องรางวุ่นวายไปอีก 3-4 เดือน แม้ตัวละครจะเยอะมาก...ก เพราะแค่คู่หลักก็สี่คน ยังมี คุณยาย คุณแม่ พ่อแม่โชติก พี่รุ่งกับพี่รัฐ เพื่อนสนิทกริการ์ที่ชื่อตติย เพื่อนสนิทพระเอก พ่อกับแม่เลี้ยงพระเอก โอ๊ย วุ่นวายยุ่งเหยิงกันไปหมด อ่านไปก็น้ำเน่าไป แต่ละตัวละครนี่ขยันสร้างเรื่องจริงๆ แต่อ่านแล้ววางไม่ลง เหมือนกับผูกพันกับตัวละครไปแล้วล่ะ เวลาอินๆ อ่านบทเศร้าๆทีไรจะชอบขนลุก แล้วเรื่องนี้ทำขนลุกได้หลายครั้งเลยทีเดียว จุดที่ชอบอีกอย่างคงเป็นสำนวนการเขียน ใช้ภาษาง่ายๆ ไม่ค่อยพรรณนาเท่าไร แต่ว่าอ่านแล้วชัดเจน ตรงประเด็นดี ชอบอ่านภาษาอย่างนี้ไปซะแล้ว เพราะถ้าเขียนดี เราก็อินได้ไม่ต่างกับการพรรณาเลย ส่วนเรื่องพล็อต มันก็เหมือนพล็อตนิยายทั่วไป แต่ว่าปมที่สลับซับซ้อนมีการซ่อนไว้ดี พอเฉลยตอนท้ายก็ พอรับได้ และโอเคอยู่ค่ะ หอหลอนรัก : ร้อนลุ้นรัก - ร้ายเร้นรัก - ร้ายคืนรัก เป็นงานที่อ่านแล้ว อืม...ม แอบหลอน แต่ว่า ผิดแนวแจ่มใสไปนิดนะเนี่ย เป็นนิยายสามเล่มต่อกัน มีตัวเอกแต่ละเล่ม คาบเกี่ยวกัน เล่มแรก นางเอกเป็นพริตตี้ พระเอกคือเจ้าของหอพัก เล่มที่สอง นางเอกเป็นลูกคุณหนูที่หนีออกจากบ้านเพราะถูกบังคับให้แต่งงาน แต่ก็มาเจอกับยาจกขี่มอไซค์ห้องข้างๆ แล้วรักกัน ส่วนเล่มสุดท้าย นางเอกเป็นสาวซกมกจากบ้านนา ที่หนีกรรมของตัวเอง มาป๊ะกับพี่รปภ.รูปหล่อกล้ามฟิต ทั้งสามนางต้องทำภารกิจร่วมกันคือหาของรักของหวงของวิญญาณที่สิงสู่อยู่ในหอพักแห่งนี้ การตามหาของว่ายากแล้ว กาที่ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับความตายที่น่าสงสารของผีคุณป้า (อุ๊บส์ ไม่ได้ๆ เค้าเป็นผีรักสวยรักงาม) รายนี้ ยิ่งทำใจให้เชื่อได้ยากกว่า ส่วนตัวอ่านแล้วคิดว่า ประเด็นที่แอบซ่อนแฝงอยู่เนียนๆคือเรื่องของกรรม ซึ่งเห็นชัดเจนในเล่มแรกและเล่มสุดท้าย ส่วนเล่มที่สองมองไม่ค่อยเห็น ถ้าถามว่าชอบเล่มไหนที่สุด กลับต้องตอบว่าเล่มที่สองแฮะ แม้ว่า เรื่องราวตีมหลักที่ว่าต้องหาของให้ผีที่สิงอยู่ในหอพักจะด้อย และอ่อนกว่าเล่มแรกและเล่มสุดท้ายก็ตาม ซึ่งถ้าถามในแง่ของตีม เล่มที่สองอาจจะสอบตก 555 แต่ถ้าถามความสนุก เล่มที่สองกลับแพรวพราวและมีลูกเล่นเยอะกว่า เรียกว่าออกแนวคอมเมดี้เล็กๆด้วยมั้ง ก็เลยอ่านเพลินกว่าเล่มแรกที่เป็นปมดราม่า และเล่มสุดท้าย ที่ดราม่ารุนแรงกว่า ด้วยตัวเอกก็พาดราม่า แล้วยังเป็นเล่มที่ต้องเฉลยเรื่องราวทั้งหมดอีกด้วย ดราม่ากันให้สุดๆไปเลย ถ้าชอบอ่านแนวสืบสวน คาดว่าเดาตัวคนร้ายได้ตั้งแต่ต้นแน่นอน เพราะเดาไม่ยากเลย แต่ว่าบทเฉลยออกมาก็ทำให้เราสงสารตัวคนร้ายได้เลยอ่ะ เหมือนกำลังอ่านคินดะอิจิอยู่ คือ โกรธไม่ลง ได้แต่เศร้าใจกับชีวิตของตัวละครที่ผันเวียน อ่านแล้วชอบประเด็นที่นำเสนอนะ เรื่องของกรรม ไม่ค่อยมีคนพูดถึงกันแล้ว แต่ว่า มันก็ทำให้เราย้อนกลับมาคิดอีกว่า นี่คือกรรมที่เป็นผลจากการกระทำในชาตินี้ หรือชาติไหนกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่มีใครหลีกหนีกรรมของตัวเองได้พ้นจริงๆ ที่ว่าผิดแนวของแจ่มใส คงจะเป็นเล่มสุดท้าย ที่อ่านแล้วก็ ห๊า ฮ่า เอาจริงอ่ะ ขมวดคิ้วตลอดเวลา ซึ่งเราสังเกตดูว่า งานแนวแจ่มใสช่วงหลังๆ มักจะมีฉากหวือหวาขึ้นนิดหน่อย คือ พระเอกกับนางเอกจะแสดงความรักต่อกันแบบเปิดเผยมากขึ้น แต่ก็จะยับยั้งชั่งใจและหยุดลงได้ คือ เพิ่มความวาบหวามให้คนอ่านนิดนึงน่ะ ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนที่แทบไม่มี หรือถึงมี ก็ไม่บรรยายซะวาบหวาม แต่กับเล่มสุดท้ายในชุดนี้ นางเอกกับพระเอกฟีทเจอริ่งกัน (ตั้งสองครั้ง) แถมพระเอกยังสูบบุหรี่จัดอีกด้วย เล่นเอาเหวอไปเลย แต่ไม่ได้มีบทบรรยายอะไรนะคะ แค่แสดงให้เห็นเฉยๆว่าเขาผูกพันกันทั้งทางกายและทางใจจริงๆ ก็แหม รักมั่นคงกันมานานนี่นะ เรียกว่างานชุดนี้เป็นชุดที่เราผิดคาดเล็กน้อย แต่อ่านสนุก ไม่หนีแนวแจ่มใสมากเท่าไรค่ะ Spies in Love : สายลับทะเลทราย - สายลับล่าหัวใจ - สายลับรุกฆาต เราคิดว่าเรียงลำดับการอ่านตามชื่อที่เราเขียนจะถูกต้องกว่า เพราะถึงแม้แต่ละเรื่อง พระนางจะแยกกันเป็นเอกเทศ ไม่ได้เกี่ยวพันแบบร้อยเปอร์เซนต์เหมือนในชุดอื่นๆ แต่ก็ยังคงต้องอ่านตามลำดับแล้วจะได้อรรถรสกว่า แต่เราอ่านแบบย้อนค่ะ คือได้อ่านสายลับรุกฆาตก่อน (ตั้งแต่กลับบ้านคราวก่อนนู้น) แล้วก็มาสายลับล่าหัวใจ จบด้วยสายลับทะเลทราย ก่อนขึ้นเครื่องกลับมาทำงานนี่แหละ ถ้าถามว่าชอบเล่มไหนที่สุด ก็คงเรียงลำดับตามการอ่านของเราเลย สายลับรุกฆาตถูกจริตเราที่สุด รองลงมาคือ สายลับล่าหัวใจ และสายลับทะเลทราย เป็นลำดับสุดท้าย สายลับรุกฆาต เคยเขียนบอกไปแล้ว ว่าชอบอะไร ยังไง มาถึงสายลับล่าหัวใจ ซึ่งเป็นเรื่องราวก่อนที่ตัวเอกในสายลับรุกฆาตจะเข้ามาในองค์กรอินเทลลิเจนท์ชาร์ก (มีกล่าวถึงพระเอกนางเอกของเรื่องนี้แว้บๆ) ตัวเอกคือสายลับที่ทำงานในองค์กรนี้ เขาต้องเข้าไปพัวพันกับโครงการวิจัยยาต้านเชื้อเอชไอวี และตกหลุมรักกับดอกเตอร์นักวิจัยสาว ในขณะเดียวกัน เขาก็พบกับโครงการลึกลับที่ชื่อแองเจิลฮาร์ตโพรเจคส์ ซึ่งทำให้ตัวเองต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับนักสิทธิมนุษยชนสาวคนหนึ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นรักสามเส้า เราสามคน ซึ่งนำมาด้วยคราบน้ำตา จุดแรกที่ไม่ชอบเลยคือ เรารับพวกเรื่องแบบนี้ไม่ได้ พระเอกในเรื่องนี้หว่านเสน่ห์ไปทั่ว เขาไม่เข้าใจความรัก และก็ทำให้ผู้หญิงถึงสองคนต้องเสียใจ ในขณะที่คนหนึ่งหลงรักและมอบชีวิตให้ อีกคนก็รักแต่พยายามถอยห่างเพราะรู้ว่ามันไม่ถูก แต่พระเอกก็ยังเป็นห่วงเป็นใย แสดงออกมาในแบบที่ใครมองก็รู้ว่ารัก โอ๊ย เศร้า แล้วนิสัยผู้หญิงอีกคนก็ดีแสนดี ชีวิตบัดซบเกินไปด้วย อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเป็นเราจะทำไงวะเนี่ย อ่านไปเพลงของดา เอนโดฟินก็ลอยมาในหัว ไม่ต้องขอก็จะทำให้ อารมณ์ประมาณนั้นเลย เนื้อเรื่องสลับซับซ้อนใช้ได้ค่ะ วางปมไปเล่มต่อไปได้ดี มีปมหลักปมย่อย ปมรองพอพลิกผัน อ่านได้เพลินๆดี เล่มสุดท้ายที่อ่าน สายลับทะเลทราย เล่มนี้จับวางๆอยู่หลายรอบเพราะไม่ชอบทะเลทราย แต่อ่านสองเล่มที่เหลือแล้วโอเคไง ก็เลยต้องอ่านอีกเล่มให้ครบ แล้วก็พบว่า ไม่ชอบทะเลทรายจริงๆ เรื่องนี้ทำให้เรานึกถึงพวกนิยายแนวทะเลทรายทั่วไป มองไม่ออกว่าสายลับเด่นตรงไหน อาจจะเพราะตัวเอกในเรื่องเป็นสายลับที่ทำงานเชิงบุ๋น ไม่ได้เข้าสายบู๊เหมือนอีกสองเล่มนั้น งานที่ทำเลยเป็นพวก เดินข่าวสาร ชิงไหวชิงพริบมากกว่า ตัวละครก็เยอะวนเวียน นับเอาเป็นคู่เหมือนจะมีคู่รักเกิดขึ้นในเรื่องตั้ง 4 คู่แหนะ เยอะได้อีก มัวแต่บุ๋นกันอยู่ เราเลยพาลจะวางได้ง่ายๆเอา ช่วงบุ๋นแรกๆก็สนุกดีอยู่ค่ะ ชิงไหวชิงพริบดี แต่พอบุ๋นเสร็จ ภารกิจเริ่มคลี่คลาย เหลือปมสุดท้ายคือทำไงให้นางเอกหนี แล้วเผอิญพระเอกก็ดันหลงรักนางเอกอยู่แล้ว ก็เลยจับตัวไปเลย อันนี้เริ่มออกแนวตบจูบแล้ว แล้วหลังจากนี้ ก็เป็นบทอัศจรรย์ของนางเอกกับพระเอก (รวมถึงคู่รองอีกคู่) จนเกือบจะจบแหนะ เป็นเล่มที่เขียนบทแนวนี้ด้วยวิธีการบรรยายที่เยอะที่สุด อ่านแล้วก็ งืม...ม รักกันเสียให้พอใจ ช่วงท้ายๆของเรื่องเลยทำให้เราไม่ค่อยชอบเล่มนี้เท่าไร การแสดงความรักมันไม่ได้น่าเกลียดหรอกค่ะ แต่บางครั้ง อะไรที่มันมากไป และดูเหมือนไร้เหตุผลนิดๆ ก็ทำให้เรารู้สึกแย่ได้เหมือนกัน   Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2555 3 comments Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2555 22:52:34 น. Counter : 2148 Pageviews. Share Tweet

โดย: สาวพิษณุโลก** 9 กุมภาพันธ์ 2555 19:21:53 น.

เหลี่ยมเสน่หา >> ไม่ค่อยชอบเรื่องที่มีตัวละครเยอะค่ะ กลัวปวดหัว แต่อ่านรีวิวแล้วน่าสนใจดีค่ะ   โดย: สารพัดช่าง 10 กุมภาพันธ์ 2555 20:42:21 น.

ได้อ่านเหลี่ยมเสน่หาแล้ว เราว่าพล๊อตและสำนวนการเขียนใช้ได้เลย แต่รีบอ่านรีบคืน เลยไม่ได้หยิบมารีวิว   โดย: นัทธ์ 19 สิงหาคม 2555 17:46:13 น.