Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2560
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
29 กรกฏาคม 2560
 
All Blogs
 
O มุสาสมัย .. O









The LONER(GARY MOORE)
covered by Kelly SIMONZ



๑๙
O เรื่อทองทาบ-ช-ละ-พร่างระหว่าง-ติ-ณะ-ล-ดา-
วัลย์ - ย้ำจะอำลา - - - อรุณ
O พ่างเก็จแก้ว-ประ-ประกายละม้าย-รั-ศ-มิ-กุณ-
ฑล-พราววะวาวจุน - - - รุจี
O ฟากฟ้านั่น-ท-วิ-ผวนกระบวน -จ-ร-จะลี-
ลาศมุ่งอำรุงชี - - - วะชนม์

๑๔
O แผ่วพลิ้วระริ้วกุสุมะชาติ
ขณะวาตะผ่านวน
พู้นภาสะอาทิตยะพล
กระอุผละพร่างเพ็ญ
O ลมร่ำพะสัมผัสะกะเถา-
วัลย์เย้ากะรื่นเย็น
ฉาบหล้า, ชลาลัยะ, ก็ เห็น-
รุจะเต้นกระเพื่อมตาม
O ศัพท์ส่ำ ก็ สัมผัสะกะโสต
ะอุโฆษและคุกคาม
ผล, เหตุ, เภท, นยะปณาม
ระบุทราม – นะสร้างสม
O ไป่รู้จะชูธรรมะ ฤ โทษ
ก็ประโมทย์กะโสมม
เพียงรู้จะสู่รติภิรมย์
อธิคม ก็ ขวนขวาย
O ปีกกาง, ระหว่างรหัสะพจน์
พิเราะบทะรำบาย
ฟ้าแผ้ว, และแววนัยนะผาย-
นยะฉายะสั่งชี้
O ฝั่งฟ้า, วลาหกะเขยื้อน
พฤติเถื่อน ก็ เหมือนธีร
โวหาระปานประพิณะคี-
ตะกวีประจงกรอง
O ค้อนคำกระหน่ำสุภะประภาษ
ทุรชาติช่ำชอง
อำนาจและอาชญะผยอง
พิเราะร้อง จะสิ้นหรือ ?
O กี่ตรองจะมองกะเทาะกระทั้น-
ตละขั้น ผิ นั่นคือ-
คันธงนะบ่งระบุ, เถอะถือ-
นยะสื่อเสมอสาส์น
O เพ่งภาพ .. ก็ภาพศิระยะยอบ
ระยะนอบ สิ นิ่งนาน
เปือกบงกะปลงปทัสถาน
อปการะกอปรกิน !
O ฟ้าสูง สิ ฝูงสกุณะร่อน
วตะร้อนก็รวยริน
โลกต่ำกลัมพ-ระประทิน-
ก็ประพิณประไพพร้อม
O ค้อนคำกระหน่ำพละกระทบ
เถอะสยบ, เถอะพึงยอม
เอียงเท, ประเล่หะจะประนอม-
กฏะล้อม .. ขจัดเหลิง
O ฤาวาระอาวุธะพลัง
จะสะพรั่งประกายเพลิง ?
ปลื้มเปรม, เขษม, สุขะระเริง-
และประเทิง ฤ เทียบถึง
O เร้ารุมผชุมอัคนิเชื้อ
ฤ เพราะเพื่อจะพรั่นพรึง ?
ฤาเมาหะเขลาพิเคราะหะ, พึง-
กรรมะซึ้งจะตรึงสรวง ?
O ลมร่ำ, เพราะคัมภิระประพจน์,
ประจุบทะบำบวง
คล้อยเคลื่อนจะเตือนสุริยะดวง
เถอะนะล่วง .. เถอะรีบเลือน !
O ลมเห่ประเล่หะบริกรรม
สัทะธรรมะย้ำเตือน
กล่อมให้พิสัยทรรศนะเหมือน-
จะเขยื้อนขยับตอน
O เหลื่อมแสงเพราะแรงวตะกระหนาบ
และประภาพะอัมพร
ริ้วคลื่นและพื้นชละสะท้อน
ตละตอน ก็ สู่ตา
O เรื่องกล่าวจะป่าวและปริภาษ
ทุรชาติและบัญชา
เกลียวกลมผสม – ทะนุมุสา
กระแหนะหน้า สิ นับนาน !
O ใช่ปราชญ์ ก็ ปราดกระแดะแนะนำ
ปะเหลาะกรรม ก็ นำการณ์
ใช่เทียน ฤ เธียรวุฒิพิศาล
ฤ ประมาณประเมินรู้ ?
O ใช่ผู้จะสู่มติวิภาษ
ตรรกะศาสตระเชิดชู
รมย์เพียงเพราะเสียง .. ปะเหลาะเจาะหู-
กระแดะอยู่ นะ เช้าเย็น !






Create Date : 29 กรกฎาคม 2560
Last Update : 14 มิถุนายน 2566 18:30:13 น. 1 comments
Counter : 1723 Pageviews.

 
ประชาธิปไตยของกู ..
มึงไม่รู้นักหรอกจะบอกให้ ..
มันแล่นเลื่อนคำ-ความเอาตามใจ ..
จุดยืนมันเลื่อนไหลตามใจกู
.
เพื่อประชาชนผู้ทนทุกข์ ..
กรองทุกบท-กูปลุกให้ลุกสู้ ..
จารีตเก่าก็ตอกย้ำร่วมค้ำชู ..
สิทธิ์เสรีก็พล่ามอยู่ไม่รู้ลืม
.
กูไม่ซ้ายและไม่ขวา ..
แต่ประชาธิปไตยก็ไม่ปลื้ม ..
เพียงความดีที่กูรอ ถูกขอยืม ..
เอาไปดื่มแกล้มเหล้า - มันเศร้าใจ
.
กูแค่หมุนไปรอบๆหลักการ ..
แต่มันพาลหมุนหา มุสาได้
จึง-'เพื่อปวงชนเพื่อประชาธิปไตย'
ต้องสุมใส่ปากกู - ให้ดูดี !
.
หลักการของวันนี้และวันพรุ่ง
วันนี้มุ่งป้ายหน้าด้วยราศี
ไว้วันพรุ่งลิ้นปราชญ์ ค่อยวาดวี
ให้เหมือนที่ - ตัวกูที่ "อยู่เป็น"




โดย: สดายุ... วันที่: 7 สิงหาคม 2560 เวลา:20:49:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]









O สิ้นสวาดิ .. O





O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้
อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา
ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา
ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม

O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ
จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม
ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม
ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น
O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข
สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น
คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน
ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้
O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต
โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่
สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป
สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา
O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด
ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา
โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา
คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง
O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร
คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง
ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง
ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน
O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย
เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน
ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน
จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ?
O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น
เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา
แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา-
ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย
O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง
ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย
แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย
ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที

O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ
ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่
ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี
ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ !




Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.