Bloggang.com : weblog for you and your gang
sansook
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [
?
]
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
สรุป พ.ร.บ.
ความรู้ทั่วไป
ทักทาย
นานาสาระ
วิเคราะห์นะจ๊ะ
ดูดวงกันเถอะ
เก็บมาฝาก
สรุปภาษาไทย
ความรักแม่เอ๊ย
แนวข้อสอบ
แบบทดสอบจิตวิทยา
แนวคิด และมุมมอง
เรื่องเล่า
เคล็ดลับความสวย
เรียงร้อยเรื่องราว
กฎหมายน่ารู้
งาน งาน งาน
รักษาสุขภาพกันเถอะ
เคล็ดลับดีๆ
สรุปแนวข้อสอบหลักสูตรประถมศึกษา
เชิญชวนสู่ธรรมมะ
ฮวงจุ้ยน่ารู้
เมื่อจิตนาการบังเกิด
อสูรพ่ายรัก
แนะนำผลงาน
เรือนรัก - นางรอ
เงาแปร
บรรยากาศสละคาน
คลังข้อสอบ
ดวงไฟในมือมาร
เหลี่ยมรักทรชน
ยั่วรักพยัคฆ์ร้าย
สามนารี
นิยายชุด ภารกิจรัก เรื่องเหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน
เกี่ยวกับบริหารงานบุคคลท้องถิ่น
เล่ห์วิวาห์มาเฟีย
ละครเหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน
ทวงใจสุดปลายฟ้า
อีบุคสุดแซ่บ
เมษายน 2562
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
22 เมษายน 2562
บทที่ 2
All Blogs
บทที่ 5
บทที่ 4
บทที่ 3
บทที่ 2
บทที่ 1
บทนำ
Friends' blogs
sansook
Chulapinan
baby_15
ไร่ปลายตะวัน
lovers
ge-or-ge
โมกสีเงิน
tingnoy
พลังชีวิต
Mr.Terran
hangclub
nirin_18
คนผ่านทางมาเจอ
patra_vet
ซ่อนรอยยิ้ม
นิยายฝันหวาน
ป้ามด
รำเพย
นิชนันท์
วัตตรา
Insignia_Museum
Baan_Bualoy
ooseabubbleoo
literature
bigger
ใยไหมเจ้าค่ะ
super novel
นัทธ์
Webmaster - BlogGang
[Add sansook's blog to your web]
Links
BlogGang.com
บทที่ 2
เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน นิยายลำดับที่1 ซีรีย์ชุด ภารกิจรัก
อักษรา
www.mebmarket.com
ชีวิตของเขาได้อุทิศไว้เพื่อแผ่นดิน แต่หัวใจของเขาได้วางลงตรงแทบเท้าเธอ“นภัสชลยอดรัก...ครั้งหนึ่งผมเคยมอบดอกกล้วยไม้ให้กับคุณ แต่ไม่เคยเอ่ยความในใจ วันนี้ผมจึงไม่อาจเก็บความปลื้มเปรมที่คุณกรุณาตอบรักผู้ชายต่ำต้อยคนนี้ไว้กับตัวเองได้อีกต่อไป...เวลานี้จึงอยากประกาศให้ทุกคนรู้ว่าหัวใจของผมได้ถูกวางลงบนแทบเท้าของคุณแล้ว...และพร้อมที่จะรองรับกับทุกย่างก้าวของคุณและเดินเคียงคู่ไปตลอดกาล...ผมรักคุณ...”
บทที่
2
ชยินใช้เวลาถามตอบตัวเองอยู่หลายวัน ในที่สุดก็คิดได้ว่าการที่เขานั่งหวาดหวั่นกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึงนั้น นอกจากจะไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์เขายังเสียเวลาเปล่า เมื่อเห็นว่าควรทำอะไรให้ดีกว่าเดิม ชายหนุ่มจึงตัดสินใจลุกขึ้นเดินหน้าทวงหัวใจ โดยไม่คิดกังวลอีกต่อไปว่าเธอจะตอบรับหรือปฏิเสธ
ซาเยร์มองเจ้านายในชุดลำลองที่ดูดีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้วอมยิ้มน้อยๆ ...หล่อบาดใจขนาดนี้ถ้าแพทย์หญิงวริสาจะไม่ใจเต้นก็ให้มันรู้ไป คนที่เชียร์ให้ทั้งคู่ลงเอยกันสุดหัวใจบอกตัวเองอย่างชื่นชม
“ผู้กองจะให้ผมเข้าไปด้วยไหมครับ” ถามขณะเหลือบมองดอกไม้ช่อใหญ่ในมือของผู้เป็นนาย
“ไม่ต้อง แค่ขับรถไปส่งฉันก็พอ” ชายหนุ่มปฏิเสธ
“แน่ใจนะครับ” ถามย้ำอย่างไม่เชื่อมั่น
“ทำไมแกต้องทำเสียงเหมือนไม่เชื่อมั่นในตัวฉัน”
“ผมก็แค่เป็นห่วง กลัวผู้กองจะป๊อด” คำตอบนั้นทำเอาแข้งขาของอดีตผู้กองหน้าดุกระตุก แต่เพราะรู้ทางตีนกันมานมนานซาเยร์จึงกระโดดหลบทันอย่างฉิวเฉียด
“ไวเป็นลิงป่าเลยนะไอ้ซาเยร์” คนถีบพลาดชี้มือคาดโทษ
“ตั้งแต่เลิกเป็นทหารฝีตีนผู้กองตกไปเยอะเหมือนกันนะครับ” ซาเยร์พูดจบก็เผ่นแนบขึ้นไปนั่งประจำที่พลขับ เพราะรู้เท่าทันว่า หากยังชักช้าคนถูกปรามาสคงจัดฝ่าตีนลงบนร่างกายเป็นแน่
“ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่อนุญาตให้แกไปไหนมาไหนด้วย เดี๋ยวนี้ความคิดความอ่านชักล้ำหน้าใหญ่แล้ว” “คนเรามันก็ต้องมีการพัฒนาบ้างสิครับ ผู้กองจะให้ผมจมอยู่กับวิถีเดิมๆ ได้อย่างไร”
“ถ้าแกไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตในวิถีเดิมๆ ก็เลิกพล่าม...ออกรถได้แล้ว” ชายหนุ่มออกคำสั่งด้วยใบหน้าดุดันจนคนด้านข้างอดยิ้มให้กับประกายจริงจังในสีหน้านั้นไม่ได้
“เอ่อ...ผู้กองจะออกไปรบหรือครับ” คำถามกวนอารมณ์พร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มขึ้น ทำให้คนถูกถามหันไปมองคนสนิทแล้วนิ่วหน้าด้วยความงุนงงกับคำถาม
“ฉันแค่กำลังไปตามหาความรัก อะไรทำให้แกคิดว่าฉันกำลังออกรบเรอะ”
“ก็สีหน้าผู้กองตอนนี้มันดุดันเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นสุดๆ นะสิครับ เห็นแล้วบอกตรงๆ ว่ามันทำให้ผมอดนึกถึงวันที่ได้ออกไปลุยกับผู้กองอยู่ในสนามรบ”
“หน้าฉันมันบ่งบอกขนาดนั้นเลยหรือ” ถามพลางลูบหน้าตัวเอง
“บ่งบอกชนิดเหมือนกำลังตะโกนอยู่แนวหน้าเลยทีเดียว ผมว่าผู้กองลองทำหน้าตาแบบผ่อนคลายสบายอารมณ์ดีไหมครับ”
“หน้าตาฉันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิด และนี่มันก็เป็นความผ่อนคลายในแบบของฉัน”
“แน่ใจเหรอครับ...”
“ไอ้ซาเยร์...แกจะมายุ่งอะไรกับหน้าฉันหนักหนา มีหน้าที่ขับรถก็ขับไป” พอถูกกวนอารมณ์หนักเข้าชยินจึงตัดบท
“ผมเปล่ายุ่งนะครับ แต่ที่จำเป็นต้องพูดก็เพราะผมเกรงว่าถ้าผู้กองทำหน้าดุดันแบบนี้คุณหมอคนสวยจะตกใจ ก็เท่านั้น”
“ก็หน้าฉันมันเป็นแบบนี้แกจะให้ทำยังไงวะ” ถามอย่างเหลืออด
“ยิ้มไงครับ...ผู้กองต้องยิ้ม แบบนี้...” ซาเยร์สาธิตวิธียิ้มพิมพ์ใจให้เจ้านายดู
“แกจะบ้าเรอะ...อยู่ๆ จะให้ฉันยิ้มโดยไม่มีสาเหตุใครเห็นคงคิดว่าบ้า” ชายหนุ่มตะคอกอย่างไม่สบอารมณ์กับคำแนะนำนั้น “หุบปากไปเลย...เลิกยุ่งวุ่นวายกับหน้าฉันและทำหน้าที่ขับรถอย่าเดียวได้ไหมฉันชักรำคาญแล้ว”
“ใจคอผู้กองจะไปพบคุณหมอด้วยใบหน้าถมึงทึงแบบนี้จริงๆ เหรอครับ”
“ไอ้ซาเยร์ฉันชักจะหมดความอดทนกับแกแล้วนะ ถ้าแกยังเสือกยุ่งกับหน้าฉันวันนี้แกได้กลับเข้าป่าแน่ ขับรถไป”
“แต่...” ซาเยร์ที่กำลังอ้าปากจะแย้งรีบหุบฉับ เมื่อถูกสกัดด้วยน้ำเสียงดุดันเอาจริงของเจ้านายจุดเดือดต่ำ
“ยังอีก!...”
เมื่อเห็นว่าชยินไม่ได้สนใจทำตามคำแนะนำ คนหวังดีจึงยอมสงบปากสงบคำและขับรถไปตามเส้นทาง โดยไม่พูดอะไรนอกจากอมยิ้มน้อยๆ แล้วนึกถึงแพทย์หญิงวริสา ว่าเธอจะทำหน้าอย่างไร หากเจ้านายของเขายื่นดอกไม้ให้เธอในขณะการแสดงออกทางสีหน้าเย็นชาเป็นผีดิบ
ราวสามสิบนาทีรถที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วอย่างสม่ำเสมอก็ตีไฟ และเลี้ยวเข้าไปในโรงพยาบาล เมื่อเข้าเขตโรงพยาบาลชยินกวาดตามองไปรอบ ก่อนจะหลุบเปลือกตาลงเรียกสมาธิแล้วสูดลมหายใจเข้าปอด แม้รถจะหยุดสนิทอยู่ในลานจอดรถ แต่เขาก็ยังนั่งกอดดอกไม้อยู่ในรถอีกชั่วครู่
“โชคดีนะครับผู้กอง”
“ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าในชีวิตจะต้องมาทำอะไรแบบนี้” ก้มมองดอกไม้ช่อใหญ่ในมือสีหน้าลังเล
“คนเราถ้าลองตกลงไปในหุบเหวของความรัก มันยังมีสิ่งมหัศจรรย์ให้ทำอีกเยอะครับผู้กอง”
“ทำเป็นรู้ดี ทำอย่างกับว่าในชีวิตผ่านความรักมาอย่างโชกโชนอย่างนั้นแหละ”
“ถึงผมจะยังไม่มีครอบครัวเป็นตัวเป็นตน แต่หัวใจของผมก็ไม่ค่อยว่างนะครับผู้กอง” ซาเยร์ยืดอกอย่างอวดตัว
“หาเมียให้ได้เป็นตัวเป็นตนก่อนเถอะแล้วค่อยอวด ฉันไปละ”
“ผู้กองกล้าพนันกับผมไหมว่าใครจะมีเมียก่อนกัน” พอถูกดักคอคนที่คิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าจึงขอวางเดิมพัน
“เอาสิ...ฉันรับเดิมพัน”
“ถ้าชนะผมไม่ขออะไรมากหรอกครับ เอาแค่เงินขวัญถุงสักสามสี่ล้านก็พอ”
“ถ้าแกชนะฉันจะแถมบ้านพักตากอากาศพร้อมรถอีกคันก็ยังไหว” ชยินวางสิ่งของเดิมพันอย่างใจป้ำ
“ดูเหมือนผู้กองมั่นอกมั่นใจเหลือเกินนะครับว่าจะไม่กินแห้ว”
“แกคอยดูก็แล้วกัน” พูดจบก็เปิดประตูแล้วก้าวลงจากรถ
ซาเยร์มองตามร่างสูงใหญ่เดินประคองช่อดอกไม้เข้าไปในตัวอาคารแล้วกระตุกยิ้ม ด้วยเคยจีบหญิงมาหลายสนามจึงทำให้ชายหนุ่มรู้ดีว่า แค่ดอกไม้เพียงช่อเดียวมันไม่มีทางทำให้เส้นทางความรักโรยด้วยกลีบกุหลาบแน่...
โธ่เอ๋ย...ผู้กองผู้น่าสงสาร ริจะจีบผู้หญิงแต่ไม่รู้จักทำการบ้าน งานนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า มือที่หอบช่อดอกไม้อย่างมั่นอกมั่นใจนั่น จะต้องเปลี่ยนเป็นแบกเข่งแห้วกลับมาอย่างไม่ต้องสงสัย...
********
ร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์เรียบหรูผิดกับคนในพื้นที่กำลังเดินเข้าไปในโรงพยาบาลด้วยจังหวะมั่นคง กลายเป็นเป้าสายตาของคนจำนวนมากที่นั่งอยู่ในบริเวณนั้น สายตามากกว่าสามสิบคู่มองชายหนุ่มรูปงามหอบดอกไม้ช่อใหญ่ เดินไปหยุดอยู่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ อย่างสนใจว่าเป็นญาติของคนไข้คนไหน
แม้รู้สึกประหม่ากับสายตาอยากรู้อยากเห็นของเหล่าผู้คนที่มารอรับการรักษาที่พากันจ้องเอาๆ ราวกับเขาเป็นตัวประหลาด แต่ชายหนุ่มก็พยายามทำเป็นไม่สนใจ นอกจากแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเขาต้องการพบแพทย์หญิงวริสา พอแจ้งความประสงค์เจ้าหน้าที่เหลือบมองดอกไม้ช่อใหญ่แล้วอมยิ้ม...
“คุณหมอมะ...” พูดยังไม่ทันจบชายหนุ่มก็ตะโกนขึ้น
“หมอ! หมอครับ” ชยินที่จดจ่อกับคำตอบตะโกนขึ้น เมื่อเห็นใครคนหนึ่งกำลังเดินออกจากห้องตรวจ “ขอบคุณนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยคำขอบคุณทั้งอีกฝ่ายยังพูดไม่ทันจบ แล้วรีบผละไปหาหญิงสาวที่ยืนจ้องเขาอย่างตกตะลึงในทันที
“คุณ...ชยิน!” เจ้าของดวงตากลมโตอุทาน ขณะจ้องชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์เรียบหรูกำลังเดินตรงดิ่งเข้ามาด้วยความประหลาดใจ
“สวัสดีครับหมอ” ชายหนุ่มทักทายอย่างยินดี
“สวัสดีค่ะ...คุณมาเยี่ยมใครเหรอคะ” ถามพร้อมมองไปที่ดอกไม้ช่อใหญ่ในมือของเขา
“ผมเอ่อ...มาเยี่ยมหมอ” คำตอบนั้นทำให้หญิงสาวจ้องใบหน้าคมคายหากดุดันไม่เปลี่ยนแปลงแล้วนิ่วหน้าด้วยความประหลาดใจ
“มาเยี่ยมหมอ...” ถามย้ำพลางมองดอกไม้ช่องามอย่างไม่สบายใจ เพราะเกรงว่าหมอที่เขาต้องการมาเยี่ยมจะเป็นตนเอง ขณะรู้สึกอึดอัดกับการปรากฏตัวของบุคคลที่คาดไม่ถึง ด้านหน้าอาคารนายทหารหน้าเข้มก็กำลังเดินหน้าตึงตรงดิ่งเข้ามา
ภูริชมองภาพชายหนุ่มนิรนามกำลังยืนถือช่อดอกไม้พูดคุยกับภรรยาของเขาราวกับรู้จักกันมาก่อน อย่างไม่สบอารมณ์นัก เพราะจากภาพที่เห็นมันทำให้เข้าใจว่าเวลานี้ กำลังมีไอ้หนุ่มชะตาขาดคิดจะมาเลื่อยใบทะเบียนสมรสของเขา แม้ไม่พอใจแต่เขาก็มีวุฒิภาวะพอที่จะไม่แสดงความเกรี้ยวกราดจนสร้างความลำบากใจให้กับเธอ
“คุณมีธุระอะไรกับภรรยาของผมไม่ทราบ” คำถามห้วนสั้นและไม่เป็นมิตรที่ดังขึ้นทำให้ ชยินหันขวับไปทางต้นเสียงทันที
“มองเทร์! ไม่ใช่สิผู้กองภูริช...เอ่อผู้พัน...” ชยินทักทายอดีตคู่ปรับด้วยสรรพนามที่ยังไม่คุ้นนัก
“เรียกผมภูริชก็ได้”
“ครับคุณภูริช” คำเรียกขานเต็มไปด้วยความเกรงใจอยู่ในที ทำให้อดีตสายลับจอมกวนจ้องคนตรงหน้าอย่างพินิจ
“คุณมาทำอะไรที่นี่” ถามพลางเหลือบมองช่อดอกไม้อย่างไม่ไว้ใจ
“เราไปคุยกันที่ห้องพักของฉันดีกว่าไหมคะ” แพทย์หญิงนภัสชลเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่ามีสายตาของคนที่อยู่ในบริเวณมองมาบ่อยครั้ง เมื่อคนถูกชวนพนักหน้าเธอจึงเดินนำไปก่อน โดยมีภูริชเดินเคียงคู่อยู่ไม่ห่าง
ระหว่างเดินไปยังห้องพักของแพทย์หญิงนภัสชล ภาพภูริชที่แสดงออกถึงความรักและเอาใจใส่ต่อภรรยา กำลังทำให้คนที่ทำหัวใจหล่นหายมาหลายปี นึกอิจฉากับความรักที่งอกงามอยู่ในทุกย่างก้าวของพวกเขา จนอดตั้งคำถามกับตัวเองไม้ได้ว่า ตลอดหลายปีมานี้เขามัวทำอะไรอยู่...
...ชยินเอ๋ย...แกมันหน้าโง่จริงๆ...เมื่อตอบคำถามนั้นไม่ได้ เขาจึงก่นด่าตัวเองที่โง่เขลาอยู่กับความคิดอันคับแคบจนปล่อยให้เวลาล่วงเลยมานาน...
พอเข้าเขตส่วนตัว ภูริชเลื่อนเก้าอี้ให้กับอดีตคู่ปรับตามมารยาท แล้วเดินไปนั่งเก้ากี้ตัวที่ว่าง พอชยินนั่งลงเขาจึงมองไปยังดอกไม้ช่อใหญ่ที่อีกฝ่ายหอบอยู่ในวงแขนอย่างทะนุถนอม ราวกับมันเป็นสิ่งของล้ำค่าที่นำมากำนัลให้กับคนสำคัญ
“คุณหอบดอกไม้มาเยี่ยมใครเรอะ” นายทหารขี้หวงถามออกไปอย่างไม่อ้อมค้อม
“ผมมาเยี่ยมหมอ...”
“ที่โรงพยาบาลมีหมอป่วยด้วยเหรอครับ” เขาหันไปถามภรรยา
“ไม่นี่คะ”
“ผู้กองอย่าบอกนะว่าคุณหอบดอกไม้ช่อนั้นมาเยี่ยมเมียผม” คำถามนั้นทำให้ชยินก้มมองช่อดอกไม้ แล้วเงยขึ้นสบตากับคนถาม
“ถ้าผมจะหอบดอกไม้มาเยี่ยมเธอคุณมีปัญหาอะไรงั้นหรือ”
“มีสิ...ผมไม่ชอบให้ผู้ชายหน้าไหนซื้อดอกไม้ให้เมีย เพราะนั่นมันเป็นหน้าที่ของผม ” ภูริชตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง
“ใจเย็นๆ คุณภูริช” พอเห็นสีหน้าจริงจังของนายทหารหน้าเข้ม ชยินจึงรีบกางมือขึ้น
“ถ้าอยากให้ผมกินน้ำแข็งแทนน้ำเดือดคุณก็รีบบอกมาซะ ว่าไอ้ดอกไม้นั่นตั้งใจเอามาให้ใคร”
“ผมมาหาหมอลี” เพราะไม่อยากยั่วยุอารมณ์ของอีกฝ่าย ชยินจึงรีบบอกจุดประสงค์ของเขา
“หมอลี!” สองสามีภรรยาทวนชื่อบุคคลที่ชายหนุ่มต้องการพบขึ้นพร้อมกัน
“ใช่...ผมตั้งใจมาหาเธอ”
“หมายความว่ายังไงคะ” นภัสชลถามขณะหันไปทางสามี
“ผมรักหมอลี”
“อะไรนะ!” ทั้งสองอุทานขึ้นพร้อมกัน
“ทำไมพวกคุณต้องตกใจด้วย”
“คุณกำลังบอกว่ารักเพื่อนถ้าไม่ให้ฉันตกใจ แล้วจะให้ฉันทำยังไง” นภัสชลถามกลับทั้งยังไม่หายจากอาการตกใจ
“คุณก็ดีใจสิครับ” คนที่มองเห็นแต่ถนนสายความรักโรยด้วยกลีบกุหลาบตอบสีหน้าจริงจังอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
“เดี๋ยว! ผู้กองคุณไปรักหมอลีตอนไหน” ภูริชถามขึ้นบ้าง
“ก็ตั้งแต่ที่คุณพาหมอแยกไปนั่นแหละ ผมกับเธอผจญความเป็นความตายร่วมกันมา มันคงไม่แปลกใช่ไหมที่ความรักของผมมันจะเริ่มขึ้นท่ามกลางสมรภูมิรบ เพราะจะว่าไปความรักของพวกคุณก็คงเริ่มจากจุดนั้นเหมือนกัน”
“ความรักของผมเริ่มต้นจากความลึกซึ้ง และที่สำคัญมันเกิดมายาวนานกว่านั้น ผู้กองผมไม่รู้ว่าความรักของคุณเริ่มจากอะไร หากคุณคิดว่าเพียงแค่ได้ร่วมเป็นร่วมตายกับผู้หญิงคนหนึ่งแล้วทึกทักว่าคือความรัก บอกตรงๆ ว่ามันเชื่อยาก”
“ใช่ค่ะ...ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเหตุการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายนั่นจะทำให้คุณรักหมอลี อีกอย่างตั้งแต่วันนั้นจนกระทั้งวันนี้มันผ่านมาหลายปี คุณบอกว่ารักหมอลีแต่ไม่เคยโผล่มาให้เห็น...หรือว่าความจำเสื่อมเลยเพิ่งนึกได้คะ” นภัสชลมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่เชื่อถือ
“หมอพูดถูกคุณบอกว่ารักเธอแต่ตลอดหลายปีมานี้ไม่เคยแสดงตัว หรือทำอะไรที่แสดงออกถึงความรักที่มีต่อเธอ แล้วอยู่ๆ วันนี้ก็โผล่มาบอกรักพร้อมกับดอกไม้ช่อนี้เนี่ยนะ...ดูหนังโรแมนติกมากไปหรือเปล่าสหาย” และภูริชก็มีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกับภรรยา
“การที่ผมไม่เคยแสดงตัวนั่นเพราะผมยังไม่พร้อม คุณก็น่าจะรู้ว่าสถานการณ์ในตอนนั้นมันไม่เอื้ออำนวย และอีกอย่างเวลานั้นผมบาดเจ็บสาหัส หลังจากคุณพ่อยอมวางมือจากอำนาจ รัฐบาลได้เข้ามาบริหารจัดการอะไรหลายๆ อย่าง รวมถึงการใช้ประโยชน์จากเหมืองแร่ทองคำ และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจหลังจากรักษาตัวระยะหนึ่งผมกับเตโชจึงถูกส่งไปฝรั่งเศส แม้การไปของพวกเราจะไม่ใช่ในฐานะผู้ลี้ภัย แต่มันก็เป็นการไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในผืนแผ่นดินที่เราไม่คุ้นเคย” ชยินเล่าไปตามความเป็นจริง
“ผมพอทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนถ่ายอำนาจนั้น และผมก็ดีใจที่สถานการณ์ในผืนแผ่นดินของคุณเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น”
“ผมก็หวังว่ามันจะดีขึ้น ตลอดหลายปีมานี้ผมพยายามสร้างรากฐานให้กับตัวเองและผู้ใต้ปกครอง พวกเราละทิ้งถนนสายอุดมการณ์และวางอาวุธที่ใช้ห้ำหั่นกับคนชาติเดียวกันอย่างไร้ทิศทาง แล้วมุ่งเข้าสู่ถนนสายการค้าเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับอนาคตที่กำลังรออยู่ พวกเราต้องทำงานกันอย่างหนัก เวลาทุกวินาทีมันมีความสำคัญกับทุกชีวิตที่ผมต้องรับผิดชอบ แม้หมอจะมีความสำคัญแต่ผมก็ไม่อาจละทิ้งความรับผิดชอบเพื่อไปไขว่คว้าความสุขแห่งตน” คำบอกเล่านั้นทำให้คนที่ให้ความสำคัญกับภาระหน้าที่ในความรับผิดชอบเข้าใจได้ไม่ยาก
ด้วยเป็นบุคคลหนึ่งที่ได้ฝังจิตวิญญาณไว้ในแผ่นดิน ภูริชจึงมองอดีตคู่ปรับซึ่งเขารู้ซึ้งเป็นอย่างดีว่า ในหัวใจอันเข้มแข็งนั้นรักพวกพ้องพี่น้อง และแผ่นดินมากแค่ไหนด้วยความนับถือ... ชยินอย่างไรก็ยังเป็นชยิน...
“เพื่อพวกพ้องและแผ่นดิน ผมรู้ว่าคุณคงแบกภาระมาอย่างหนักหนาสาหัสเลยทีเดียว” ชายหนุ่มวางมือลงบนหัวไหล่บึกบึนแล้วตบเบาๆ อย่างเข้าใจ...
“มันใช่เรื่องง่ายเลยกับการสร้างฐานรากให้กับชีวิตที่เปลี่ยนไปจากเดิม พวกคุณอาจไม่เชื่อว่าผมจะรักหมอลีจริงๆ แต่ถ้าคุณเคยยืนอยู่ระหว่างความเป็นกับความตาย และในขณะที่นอนฟังลมหายใจผะแผ่วอย่างสิ้นหวัง แล้วอยู่ๆ มีใครสักคนตะโกนบอกให้คุณรักษาลมหายใจไว้ สำหรับหมอเมื่อฟังแล้วคงจะไม่รู้สึกอะไรเพราะสองมือนั่นคงรักษาชีวิตของคนมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่สำหรับคนที่กำลังสิ้นหวังสิ่งที่ยื่นเข้ามาจึงความหมายยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด คราแรกผมพยายามบอกตัวเองว่าสิ่งที่กำลังรู้สึกนั้นแท้จริงแล้วก็คือความรู้สึกผิดและการติดค้างบุญคุณ แต่เมื่อเวลาผ่านไปผมจึงเข้าใจว่า นั่นมันคือความรักต่างหาก...”
“กว่าจะเข้าใจคุณใช้เวลานานไปหรือเปล่าคะ”
“โธ่หมอ...คุณก็รู้ว่าเวลานั้นสถานะของผมและเธอแตกต่างกันมากมายขนาดไหน ความต่ำต้อยนั้นทำให้ผมต้องเจียมตัว”
“พวกคุณคิดกันได้แค่นี้เองเหรอคะ” หญิงสาวเหมารวมไปถึงคนที่เคยเจียมตัวจนน่าหมั่นไส้เข้าไปด้วย และคำพูดนั้นก็ทำให้ภูริชยิ้มน้อยๆ
“การที่ผมคิดแบบนั้นก็เพราะไม่อยากให้หมอลีรู้สึกน้อยหน้าใคร”
“ข้อนี้ผมเห็นด้วยกับผู้กองนะ” ภูริชสนับสนุนคำพูดของชยินเพราะตัวเขาเองก็เคยรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
“บางครั้งผู้หญิงก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าความรักที่มั่นคงหรอกนะคะ”
“แต่ในมุมมองของผมความรักที่มั่นคง ก็ต้องวางอยู่บนฐานของความมั่นคงอื่นๆ ด้วย และวันนี้ผมก็มีทุกอย่างพร้อมแล้ว”
“ฉันรู้สึกอยากจะดีใจกับหมอลีจังเลยนะคะที่กว่าคุณจะพร้อมก็ใช้เวลาหลายปีเลยทีเดียว” น้ำเสียงของหญิงสาวกึ่งประชด
“ผมก็พยายามสร้างมันอย่างเร็วที่สุดแล้วนะหมอ”
“ก็ดีไงคะเพราะอย่างน้อยมันก็ไม่ได้ใช้เวลาสร้างเท่ากับชั่วอายุขัยของคุณ” คำพูดสวนกลับนั้นทำให้ภูริชเหลือบไปมองผู้กองหน้าดุแล้วเลิกคิ้วขึ้น...เป็นไงผู้กองหน้าดุกับคำพูดอันคมกริบยิ่งกว่ามีดผ่าตัดของคุณเมีย ได้ยินแล้วเจ็บชนิดกรีดลึกไปถึงตับไตไส้พุงเผลอๆ ทะลุยันไส้ติ่งเลยไหมละ...
Create Date : 22 เมษายน 2562
Last Update : 22 เมษายน 2562 13:45:31 น.
0 comments
Counter : 457 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.