Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
9 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 

ท่องกรุงเทพฯสไตล์ญี่ปุ่น ที่ "เจแปนนิส ทาวน์"

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 เมษายน 2551 14:10 น.
โดย : หนุ่มลูกทุ่ง





เมืองไทยของเรานั้นมีการติดต่อค้าขายมีความสัมพันธ์กับหลายๆ ประเทศมาช้านาน บางประเทศนับย้อนไปได้หลายร้อยปี จนมาถึงปัจจุบันก็ยังคงรักษาความสัมพันธ์ในการเป็นมิตรที่ดีต่อกันไว้ ประเทศญี่ปุ่นก็เป็นอีกชาติหนึ่งที่เป็นเพื่อนกันกับประเทศไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยไม่เพียงแค่เป็นมิตรกันเท่านั้น แต่ก็ยังมีคนไทยจำนวนไม่น้อยเลยที่นิยมความเป็นญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น ดารานักร้องญี่ปุ่น หนังญี่ปุ่น เพลงญี่ปุ่น หรือเรียกรวมๆ ว่าเป็นผู้นิยม "เจ-ป๊อบ" (J-Pop) ก็นับว่ามีอยู่มากเหมือนกัน



หรือหากหนังสือยังช่วยคลายเหงาไม่ได้ ที่นี่ก็ยังมีร้านวีดีโอที่มีภาพยนตร์หรือละคร และรายการทีวีต่างๆ ของญี่ปุ่นให้ชาวญี่ปุ่นที่เป็นสมาชิกได้เช่ากลับไปดูที่บ้าน เสมือนว่ากำลังนอนดูทีวีอยู่ที่ประเทศของตัวเอง แต่จะมีรายการอะไรบ้างนั้นฉันก็ไม่รู้ เพราะร้านวีดีโอสองสามร้านที่เห็นอยู่นั้นส่วนใหญ่จะให้เฉพาะสมาชิกเข้าได้เท่านั้น

แม้ที่เจแปนนิส ทาวน์จะไม่ใหญ่โตเหมือนกับย่านชาวต่างชาติอื่นๆ ในกรุงเทพฯ แต่ก็เชื่อว่าหากคนญี่ปุ่นที่อยู่ไกลบ้านเกิดได้มาที่นี่ก็คงจะรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย รวมทั้งคนไทยที่แวะเวียนมาที่นี่ก็คงจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่นเล็กๆ กลับบ้านไปด้วยเช่นเดียวกัน



อีกทั้งเมืองที่มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่มากที่สุดก็คือในกรุงเทพมหานครนี่เอง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ในกรุงเทพฯจะมีมุมๆหนึ่งที่เรียกว่าเป็น "เจแปนนิส ทาวน์" (Japanese Town) หรือย่านคนญี่ปุ่นที่อยู่ในแถบสุขุมวิท เพราะเป็นย่านที่คนญี่ปุ่นในประเทศไทยนิยมมาพักอาศัยกัน เหมือนกับที่มีย่านคนจีนในไชน่าทาวน์เยาวราช มีลิตเติ้ลอินเดียในพาหุรัด และมีโคเรียน ทาวน์ที่สุขุมวิทพลาซ่า ที่เมื่อมีคนชาติเดียวกันมาอาศัยอยู่รวมกันมากๆ ก็มีคนคิดทำธุรกิจที่สนองตอบความต้องการของคนชาตินั้นๆ อย่างเช่นร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ

ฉันได้มาเยือนซอยสุขุมวิท 33/1 หรือที่ใครต่อใครเรียกว่าเป็นเจแปนนิส ทาวน์ในบ่ายวันหนึ่ง จากปากซอยมองเข้าไปก็เห็นว่าซอยไม่ลึกเท่าไรนัก ดูยังไง้...ยังไงก็เหมือนซอยธรรมดาๆ ในกรุงเทพฯ ซอยหนึ่ง แถมหน้าปากซอยยังมีร้านส้มตำขายเสียด้วยซ้ำ ยังไม่เห็นความเป็นญี่ปุ่นสักเท่าไร แต่เมื่อเดินเข้าไปด้านในซอยแล้ว ก็จะเริ่มเห็นบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่นมากขึ้นทีละนิดๆ จากร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีอยู่ไม่น้อยภายในซอยแห่งนี้



ร้านอาหารที่ว่านั้นก็มีทั้งร้านราเมน หรือก๋วยเตี๋ยวแบบญี่ปุ่น ร้านซูชิ ข้าวปั้น เบนโตะแบบญี่ปุ่น ทาโกะยากิหรือขนมครกไส้ปลาหมึกของญี่ปุ่นที่ทำให้เห็นกันหน้าร้าน หรือจะเป็นร้านเบเกอรี่ญี่ปุ่นก็มีให้เลือกชิมด้วยเช่นกัน สาวกอาหารญี่ปุ่นมาเห็นคงต้องชอบใจกันแน่นอน

กำลังมองร้านอาหารญี่ปุ่นน่ากินๆ อยู่ ก็พอดีหันไปเห็นร้านขายของจากประเทศญี่ปุ่น ที่ขายของใช้ในบ้าน รวมทั้งของแต่งบ้านน่ารักๆ มีขายกันในราคา 50, 60 และ 70 บาท ฉันก็เลยขอชะแว้บเข้าไปดูข้างในเสียหน่อย ในร้านนี้ขายของกระจุกกระจิกแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ จาน ชาม ช้อน ส้อม ตะเกียบ กล่องข้าวลายการ์ตูนน่ารักๆ หม้อ กระทะ ตะหลิว ทัพพีก็มีขายด้วยเช่นกัน อุปกรณ์สำนักงานอย่างคัตเตอร์ กรรไกร เทปกาว ที่หนีบกระดาษก็มีให้เลือกซื้อ กระเป๋าใส่ของร้อนเย็น อุปกรณ์ทำสวนเล็กๆน้อยๆ ถ้าอยากได้ที่นี่ก็มีขาย เดินเลือกหาของกันได้เต็มที่เพราะมีถึงสามชั้นด้วยกัน



ออกจากร้านขายของมาแล้วฉันก็เดินลึกเข้าไปในซอยอีกหน่อยหนึ่ง ก็จะพบกับยูเอฟเอ็ม ฟูจิซูเปอร์ ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ก็คล้ายกับซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป แต่ต่างกันที่ข้าวของด้านในที่จะมีของที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบประกอบอาหารทั้งของสดของแห้งอย่างเส้นโซบะ เส้นอุด้ง สาหร่ายแผ่น เครื่องปรุงรสอย่างซอส ซีอิ้วญี่ปุ่น เหล้าญี่ปุ่น ดังนั้นใครที่อยากทำอาหารญี่ปุ่นแต่ยังหาวัตถุดิบได้ไม่ครบก็ลองมาดูที่นี่ได้ แต่หากไม่อยากลงมือทำเองจะมาหาซื้ออาหารสำเร็จรูปในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ก็มีขาย อย่างเช่นข้าวปั้นห่อสาหร่ายชิ้นโต ข้าวกล่องหรือเบนโตะกล่องใหญ่น่ากิน นอกจากนั้นก็ยังมีขนมขบเคี้ยวจากญี่ปุ่นที่มีหีบห่อน่ารักๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งบางชิ้นก็น่าเก็บมากกว่าน่ากิน



ไม่เพียงแต่ข้าวของต่างๆ ที่ส่งมาจากประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่คนที่กำลังเลือกซื้อของอยู่ในร้านส่วนหนึ่งก็เป็นคนไทย และอีกส่วนหนึ่งก็เป็นแม่บ้านชาวญี่ปุ่นที่พาลูกสาวลูกชายมาช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้าน แม่บ้านบางคนก็ทักทายคนรู้จัก ส่งภาษาญี่ปุ่นกันโนะๆเนะๆแบบที่ฉันฟังไม่ออก แต่ก็ได้บรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นดี



ใครที่ช้อปปิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ตเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อเดินออกมาหน้าร้านก็คงจะสังเกตเห็นร้านหนังสือที่อยู่ตรงกันข้ามกับซูเปอร์ฯ ฉันได้แวะเข้าไปดูในร้านหนังสือนี้แล้วก็เสียดายที่อ่านหนังสือภาษาญี่ปุ่นไม่ออก ไม่อย่างนั้นก็คงจะได้อ่านหนังสือดีๆ สนุกๆ ของญี่ปุ่นที่มีอยู่ในร้านได้ โดยหนังสือเหล่านี้ก็มีทั้งหนังสือนำเที่ยวประเทศไทยเป็นภาษาญี่ปุ่น พ็อกเก็ตบุ๊คหลากหลายแนว หนังสือนิทานสำหรับเด็ก นิยาย การ์ตูนและนิตยสารของญี่ปุ่น แต่ก็มีบางเล่มเช่นนิทานของเด็กที่มีแปลเป็นภาษาไทยสำหรับผู้ที่เริ่มเรียนภาษาได้หัดอ่านหัดแปล ซึ่งร้านหนังสือเหล่านี้ก็คงจะสามารถเป็นเพื่อนแก้เหงาของคนญี่ปุ่นที่มาอยู่เมืองไทยได้เป็นอย่างดี

หรือหากหนังสือยังช่วยคลายเหงาไม่ได้ ที่นี่ก็ยังมีร้านวีดีโอที่มีภาพยนตร์หรือละคร และรายการทีวีต่างๆ ของญี่ปุ่นให้ชาวญี่ปุ่นที่เป็นสมาชิกได้เช่ากลับไปดูที่บ้าน เสมือนว่ากำลังนอนดูทีวีอยู่ที่ประเทศของตัวเอง แต่จะมีรายการอะไรบ้างนั้นฉันก็ไม่รู้ เพราะร้านวีดีโอสองสามร้านที่เห็นอยู่นั้นส่วนใหญ่จะให้เฉพาะสมาชิกเข้าได้เท่านั้น



แม้ที่เจแปนนิส ทาวน์จะไม่ใหญ่โตเหมือนกับย่านชาวต่างชาติอื่นๆ ในกรุงเทพฯ แต่ก็เชื่อว่าหากคนญี่ปุ่นที่อยู่ไกลบ้านเกิดได้มาที่นี่ก็คงจะรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย รวมทั้งคนไทยที่แวะเวียนมาที่นี่ก็คงจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่นเล็กๆ กลับบ้านไปด้วยเช่นเดียวกัน

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

"เจแปนนิส ทาวน์" ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 33/1 การเดินทาง สามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีพร้อมพงษ์ แล้วเดินลงมาทางฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรียม จากนั้นเดินย้อนไปทางสถานีอโศก ก็จะเห็นซอยสุขุมวิท 33/1 อยู่ทางขวามือ ตรงข้ามกับสวนสาธารณะเบญจศิริ หรือหากจะนั่งรถประจำทางมาก็มีรถประจำทางปรับอากาศสาย ปอ.1, 8, 11, 13, 16 และรถประจำทางสาย 2, 23, 25, 38, 40, 48, 98 ผ่าน


H O M E










 

Create Date : 09 พฤษภาคม 2551
3 comments
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 21:18:51 น.
Counter : 2833 Pageviews.

 


ต้องหาเวลาแวะไปมั่งแล้ววววว

และมาชวนไปเที่ยว



ด้วยกันครับ

คลิกดิ แล้วจะได้เข้ามาเที่ยวภูเก็ตด้วยกัน

คลิกที่ภาพเพื่อตามมาเที่ยวภูเก็ตด้วยกันเลยนะครับ

 

โดย: มิสเตอร์ฮอง 9 พฤษภาคม 2551 23:49:41 น.  

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ ค่ะ

 

โดย: minjung 24 พฤษภาคม 2551 14:04:52 น.  

 

ขอบคุณมากเลยครับ สำหรับข้อมูล ^_^

 

โดย: Under Man IP: 58.97.56.195 10 กรกฎาคม 2553 13:39:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.