★ ดาวหางเหนือทางรถไฟ : ทรงกลด บางยี่ขัน
ดาวหางเหนือทางรถไฟ ผู้เขียน : ทรงกลด บางยี่ขัน สำนักพิมพ์ : a book, สนพ. จำนวน : 448 หน้า พิมพ์ครั้งแรก : ตุลาคม 2552 เมฆ หมอก หนังสือพี่น้องสองเล่มนี้ยังยืนหันข้างให้อยู่บนชั้นเบียดกับแฝดไม่เหมือนอย่าง ต้นไม้ใต้โลก และ ดอกไม้ใต้โลก 2 คู่นี้มีความต่างตรงที่ผู้ซื้ออ่านคู่หลังจบแล้ว หากแต่คู่แรกเพียงแค่หยิบจับมาเปิดกดบัตรคิวแล้ว..รอ... หนังสือทั้ง 4 เล่มเป็นผลงานของ ทรงกลด บางยี่ขัน ตอนที่ซื้อหาก็ไม่ได้ติดที่ว่าเพราะเป็นคนนี้เล่าคนนี้เขียน เนื้อหาและเรื่องราวที่บรรจุอยู่ภายในต่างหากที่ทำหน้าที่เป็นนางกวัก(หรือนายกวัก) รวมทั้งปกที่ออกแบบแบบแต่น้อย ดูเรียบง่ายก็น่าสนใจ ในบ่ายวันหนึ่งสบโอกาสได้ไปกวาดสายตาหาหนังสือ~อะไรก็ได้ที่เห็นแล้วถูกใจถูกชะตา สักเล่มสองเล่มติดมือกลับบ้านไม่ให้เสียเที่ยวว่ามาร้านหนังสือแล้วเดินตัวปลิวออกจากร้าน พลันสายตาก็ประสานเข้ากับปกหนังสือเล่มหนึ่ง หน้าปกที่หันมาโชว์หรา (ขณะเล่มอื่นยังยืนหันข้าง) เป็นรูปหน้าตรงของหัวรถไฟที่เข้าขั้นโบราณ สีแดงตุ่นๆ แปะข้างกับสีดำมะเมื่อมช่างสวยจริงๆ วินาทีถัดมา สถานีคิงส์ครอส! ฮอกวอตส์! ...แฮรี่ พอตเตอร์! ไม่ใช่ทั้งแฟนพันธุ์แท้และพันธุ์ทางของพ่อมดน้อยแฮรี่ พอตเตอร์แต่อย่างใดค่ะ เพียงแต่นั่นคงเป็นการเรียกภาพจำโดยอัตโนมัติของสมองที่ทำงานช้ากว่าสายตากวาดเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด (น่าจะผ่าหนึ่งนะจึงจะเร็ว) ดูจากภาพปกแล้วถ้าเป็นหนังสือแนวเกร็ดความรู้เกี่ยวกับรถไฟโบราณก็น่าสนใจ เกี่ยวกับรถไฟในแฮรี่ พอตเตอร์ก็น่าสนใจ เห็นมีดาวแดงอยู่หน้ารถด้วย นี่ถ้าเกี่ยวกับรถไฟในรัสเซียแล้วล่ะก็..เยี่ยมเลย แผนผังการเชื่อมโยง = ดาวแดง > คอมมิวนิสต์ > สตาลิน > รัสเซีย ว่าแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบหนังสือหมายมาดูใกล้ๆ ให้ชัดให้รู้จักว่าจริงๆ แล้วเจ้าเป็นอะไรกันแน่ ความหนาของเล่มอยู่ราวๆ หนึ่งนิ้วฟุต (ยังขาดทักษะการกะด้วยสายตาออกมาให้เป็นจำนวนหน้า) น้ำหนักไม่หนักมือ กึ่งนั่งกึ่งนอนอ่านก็คงจะไม่ปวดกล้ามเนื้อต้นแขน..ก่อนที่จะคิดไปใดอื่น ความทรงจำเหนือทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย (ฮ้าาาาา- จขบ.) จากปักกิ่งผ่านมองโกเลียสู่มอสโคว์ (ฮ้าาาาา x 2 ยกกำลังสอง- จขบ.) นี่มัน..นี่มันความฝันของฉันนี่!!!!!!!... ข้อความแบบเต็ม สั้น ง่าย เร้าใจ ที่โปรยอยู่บนหัวปกคือ ความทรงจำเหนือทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย จากปักกิ่งผ่านมองโกเลียสู่มอสโคว์ ส่วนหนึ่งของทางรถไฟที่ยาวที่สุด คลาสสิกที่สุด และโรแมนติกที่สุดในโลก แค่รู้ตัวเองว่า..ชอบนั่งรถในฐานะผู้โดยสาร ไปไหนก็ได้ นั่งไปเรื่อยๆ ดูวิวสองข้างทาง แล้วคิดไปต่างๆ นาๆ ถึงจุดหมายก็ยังไม่อยากลง... การได้นั่งรถไฟที่ยาวพาดผ่าน 3 ประเทศ ยาวข้ามทวีป นั่งกันสิบวันยี่สิบวัน ทริปรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียจึงเป็นการเดินทางที่ถูกท้าทายและช่างท้าทาย ความฝันของใครก็ของใคร แต่วันนี้วันที่เจอหนังสือเล่มนี้ ฉันขอวิ่งตามความฝันชนิดแปะข้างตัวหนังสือจากงานเขียนในเล่มนี้ไปก่อนพลางๆ สิริรวม ๑๙ วันบางๆ (คือการอ่านเป็นบางวัน) นับจากวันที่ซื้อหนังสือแล้วอ่านในวันนั้นจนถึงวันที่ปิดท้ายเล่ม ภาพประกอบเรื่องอยู่ในสัดส่วน ๑ ต่อ ๔ ทำให้อ่านได้แบบเพลินสุดๆ รวมทั้งการเล่าเรื่องที่แทรกความคิดแบบต่อยอดของผู้เขียน ก็ทำให้คนอ่านได้..เอ้อออ..จริง....เอ้อออ..เหรอ ไปด้วย ไม่ใช่นักเสพข้อมูลระดับนักวิชาการแต่การได้รับรู้เรื่องที่ไม่เคยรู้ก็ทำให้สายตาถ่างออก รอยหยักในสมองถี่ขึ้นแถมส่วนใหญ่ได้เพิ่มการออกกำลังกายกล้ามเนื้อมุมปากอีกเสียด้วย ยิ้มแบบไม่มีเพลามือเพลาปากเลยทีเดียว เขาว่ากันว่า You are What You Read แล้วหากเป็น You are What You Write นี้พอจะนำมาใช้ด้วยได้ไหม น่าจะพอไหวนะเพราะดู(อ่าน) จากบันทึกการเดินทางด้วยรถไฟสายยาวเกือบค่อนโลกของทรงกลดนี้แล้ว ไม่เพียงแต่ราวกับเห็นตึกรามร้านรวง ผู้คนยวดยาน ในระยะประชิด รู้จักรู้เห็นหน้าค่าตาของพี่ๆ คนจีนในปักกิ่ง พี่ๆ ที่มองโกเลียรวมทั้งพี่ๆ ที่รัสเซีย ผ่านมุมมองของผู้มีประสบการณ์การเดินทางมากไมล์ หากยังทำให้คนอ่าน(บางคน อยาก)รู้จักคนเขียนจากการถ่ายทอดผ่านตัวอักษรนาๆ เหล่านั้นเพิ่มขึ้นด้วย กำลังสงสัยว่าเขาเป็นแฟนฟุตบอลทีมลิเวอร์พูลหรือเปล่า จากตอน หนึ่งปีนานแค่ไหนเราก็อยู่ไกลกันแค่นั้น - - -สมาชิกที่อาศัยอยู่ในห้องนี้เป็นชาวรัสเซีย 3 คน พ่อ แม่ ลูก ครอบครัวสุขสันต์มาก พ่อเป็นคนหนุ่มที่หน้าตาและศีรษะละม้ายคล้าย โฆเซ่ เรน่า ผู้รักษาประตูของทีมฟุตบอลระดับสุดยอดของโลก... - - - การเอ่ยชื่อถึง โฆเซ่ เรน่า อาจเป็นเพียงการยกมาเปรียบเทียบ ใช่จะมั่นใจได้ว่าเป็นพลพรรครักหงส์แดง แต่กับประโยคต่อมา เชื่อว่าไม่มีแฟนบอลทีมไหนจะใช้คำยกย่องผู้รักษาประตูทีมอื่นๆ ว่าอยู่ในระดับสุดยอดของโลกถ้าไม่ใช่ทีมที่ตัวเองรัก (หากเดาผิดก็ขออภัย) และมีตัวอย่างซึ่งเป็นเรื่องราวที่อ่านแล้วก็ได้แต่ยิ้มในความรู้รอบตัวและช่างเปรียบเทียบ..ช่างคิด จากตอน SU 40 องศา - - -อุณหภูมิในสกุลเซลเซียสและฟาเรนไฮต์บอกความหนาวในระดับเดียวกันด้วยตัวเลขที่ไม่เท่ากัน เช่น 0 องศาเซลเซียสมีค่าเท่ากับ 32 องศาฟาเรนไฮต์ ดังนั้นทุกครั้งที่บอกเกล่าถึงตัวเลขอุณหภูมิเราจำเป็นต้องเติมนามสกุลต่อท้ายว่าตัวเลขนั้นมันมีความหมายในดีกรี C หรือ F แต่ที่อุณหภูมิ -40 องศา เป็นความเย็นเพียงจุดเดียวที่ตัวเลขในฟากเซลเซียสมีค่าเท่ากับฝั่งฟาเรนไฮต์พอดีเป๊ะ นั่นหมายความว่า -40 องศาเซลเซียส มีค่าเท่ากับ -40 องศาฟาเรนไฮต์ เขียนแค่ -40 องศาก็เป็นที่เข้าใจได้ เป็นความมหัศจรรย์ในแง่วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ในแง่สังคมก็น่าสนใจ ถ้าเซลเซียสคือตัวแทนวัฒนธรรมจากซีกโลกตะวันออก และฟาเรนไฮต์คือตัวแทนวัฒนธรรมจากซีกโลกตะวันตก อุณหภูมิ -40 องศา คงหมายถึงจุดที่ไม่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมของทั้งสองขั้ว อุณหภูมิ -40 องศา อยู่ที่ประเทศมองโกเลีย ประเทศที่อยู่กึ่งกลางระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกของจีนกับวัฒนธรรมตะวันตกของรัศเซีย ก็คือมองโกเลีย อะไรมันจะพอเหมาะพอเจาะขนาดนั้น - - - ส่วนเรื่องราวที่เรียกรอยยิ้มนั้นมีหลายตอน แต่นี่คือตอนที่ชอบที่สุด จากตอน บรรพบุรุษบนรถไฟ - - -คุณรู้จัก แมมมอธ ไหม ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะรู้จักศัพท์คำว่าแมมมอธหรือเปล่า เพราะเขารู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษไม่มากนัก เขาส่ายหน้า มันเป็นช้างที่อยู่ในยุคเดียวกับไดโนเสาร์ ขนยาวๆ ศีรษะเขาเปลี่ยนมาผงกแทน คุณรู้ไหมว่าไซท์ที่มีแมมมอธมันอยู่ที่ไหนบ้าง ผมอยากไปดูมาก ศีรษะของเขายังผงก หน้าตาผมน่าจะดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ สีหน้าของคุณหมอศัลยกรรมดูแปลกๆ จะตอบก็ไม่ตอบ ท่าทางอึกอักกระอักกระอ่วน ผมพยายามหาข้อมูลมาตลอดเลยนะว่าไซท์ที่มีแมมมอธมันอยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่มีใครรู้สักที จนได้มาเจอคุณนี่แหละ ว่าไงมันอยู่ที่ไหนเหรอ พูดเสร็จผมก็ส่งแผนที่รัสเซียให้เขา เขาเงยหน้ามองผมแล้วตอบช้าๆ แบบเดียวกับที่คุณหมอพูดกับญาติคนไข้ที่รออยู่หน้าห้องผ่าตัด สีหน้าของเขาจริงจังมาก เหมือนมีข่าวร้ายจะแจ้ง พวกมันตายหมดแล้ว - - -. . การออกเดินทาง การได้เดินทาง ไม่ว่าไกลใกล้ล้วนประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งรูปธรรมเช่นกระดาษที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย หรือนามธรรมอย่างเช่น เวลา จังหวะ โอกาสขณะที่ยังไม่รู้ว่าองค์ประกอบรูปธรรมและนามธรรมจะมารวมตัวกันได้เมื่อไหร่ อย่างน้อยหลายวันที่ผ่านมาการอ่านหนังสือเล่มนี้ก็เสมือนดั่งได้ก้าวขาออกเดินทางไกลนับพันไมล์ไปแล้ว
Create Date : 12 ธันวาคม 2552
22 comments
Last Update : 12 ธันวาคม 2552 21:16:18 น.
Counter : 3356 Pageviews.
โดย: ไก่กุ๊ก IP: 124.157.129.103 12 ธันวาคม 2552 19:19:49 น.
โดย: McMurphy IP: 118.173.69.156 13 ธันวาคม 2552 19:18:50 น.
โดย: JewNid 13 ธันวาคม 2552 21:44:59 น.
โดย: navagan 14 ธันวาคม 2552 0:42:12 น.
โดย: Seam - C IP: 58.9.194.166 16 ธันวาคม 2552 18:42:22 น.
โดย: Ghoeby 16 ธันวาคม 2552 21:12:31 น.
โดย: คนขับช้า 21 ธันวาคม 2552 23:47:22 น.
โดย: Ghoeby 29 ธันวาคม 2552 8:42:06 น.
โดย: navagan 1 มกราคม 2553 1:16:59 น.
โดย: BdMd IP: 203.144.144.165 23 มกราคม 2553 13:27:46 น.
.Just wait until night
then switch the light off
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ เด็ก ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30 31