จะไม่ลืม ทริปนี้....ที่สตูล ตอนที่ 3 ...ผมคงคิดถึงตะรุเตาไปอีกนาน...
ตอนนี้ขอเอาใจคนชอบทะเลโดยเฉพาะครับ จากที่ได้ไปเยี่ยมแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆของสตูลมาบ้างแล้ว คราวนี้มาดูแหล่งท่องเที่ยวหลักที่ทำให้สตูลเป็นจุดหมายที่สำคัญในใจของใครหลายๆคน อุทยานแห่งชาติตะรุเตา อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศครับ ที่นี่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสะพรึงกลัว แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนสภาพเป็นสวรรค์น้อยๆของเหล่านักเดินทางท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาแสนไกล เนื่องจากที่นี่เป็นแหล่งดำผิวน้ำที่สวยเป็นอันดับต้นๆของประเทศ การเดินทางไปตะรุเตาของผมเหมือนกับคนอื่นๆ เริ่มต้นที่นี่ครับ ท่าเรือปากบารา ซึ่งใกล้กับอุทยานมากที่สุด
เรือสวยๆที่ท่าเรือปากบาราครับ
นี่คือเรือที่จะพาผมไปยังเกาะต่างๆในอุทยาน เนื่องจากคณะของผมไปกันหลายคน เราเลยสามารถเหมาเรือทั้งลำเพื่อความเป็นส่วนตัว โดยเรือลำนี้จะพาเรายังตะรุเตา หลีเป๊ะ หรือจุดหมายอื่นๆตามที่ต้องการ และจะพาไปดำน้ำดูปะการังในวันรุ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีไกด์ประจำเรือ คอยอธิบายประวัติต่างๆ และลูกเรือที่คอยพาชมปะการัง ค่าเรือหารกันแล้วตกคนละเกือบ 2000บาท รวมค่าหน้ากาก ชูชีพ เรือเล็กที่รับส่งระหว่างเรือใหญ่กับรีสอร์ท สำหรับผมถือว่าคุ้มครับ เพราะตอนที่อยู่บนเรือ สนุกกันมากครับเป็นเรือสองชั้น เป็นส่วนตัว มีห้องน้ำพร้อม แต่จะไปช้าๆไม่เร็วเหมือนสปีดโบท จะไปไหน กลับเวลาไหน อยากอยู่ที่ไหนนานๆบอกไกด์เขาได้เลยครับ
เรือออกจากท่าประมาณสิบโมงเช้า จุดหมายแรกของเราคือเกาะตะรุเตาครับ ที่นี่ไกด์ของเราพาไปชมพิพิธภัณฑ์ อธิบายความเป็นมาของเกาะ
จากนั้นก็ไปต่อที่เกาะไข่ครับ ซุ้มประตูหินอันโด่งดังที่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด ทุกคนต่างตะลึงกับความใสของน้ำทะเลที่นี่ครับ
ที่นี่ไกด์ของเราแวะนานเป็นพิเศษเพื่อให้ฝึกการใช้หน้ากากและท่อหายใจ ผมเลยสบายครับถ่ายรูปไปเรื่อยๆไม่ต้องรีบ แต่ก็ยังตะลึงกับน้ำทะเลทั้งใสและสีสวย
ซุ้มประตูหินอีกมุมหนึ่งครับ
บรรยากาศบนเกาะไข่
ชิงช้าเล็กๆครับ ไว้นั่งชมความมหัศจรรย์ของซุ้มประตูหิน
บรรยากาศบนเกาะไข่อีกภาพครับ
หลังจากอยู่ที่นี่จนหนำใจ ก็ได้เวลาเดินทางต่อ จุดหมายต่อไปคือเกาะหลีเป๊ะครับ
ระหว่างทางเจออะไรตื่นเต้นเล็กน้อย พายุหมุนครับ ที่จริงมันอยู่ไกลมาก ผมซูมสุดๆ ลูกเรือเขาเรียกว่า พายุงวงช้าง หรือหางหนู คล้ายๆทอร์นาโดขนาดจิ๋ว แปลกตาดี แต่เห็นแป๊บเดียวมันก็หายไป
จากนั้นก็ไปที่หลีเป๊ะเลยครับ ตอนแรกว่าจะไปดูปะการังก่อน แต่เย็นวันนั้นน้ำไหลแรงครับ เลยเข้าไป check in ที่ mountain resort บรรยากาศที่นี่ดีครับ สมคำล่ำลือ ถึงผมจะมาที่นี่ครั้งแรก แต่มุมนี้รู้สึกมันคุ้นเคยเหมือนเคยเห็นมาแล้วเป็นสิบๆครั้ง หลายคนในนี้คงเป็นเหมือนกัน มุมยอดฮิตครับ
โต๊ะทานข้าวตอนเย็นๆ บรรยากาศดี
ที่รีสอร์ทมีบันได 2 จุดลงไปหาดข้างล่าง ภาพนี้บันไดอีกจุดนึงอยู่ข้างๆรีสอร์ท การขึ้นลงบันไดที่นี่ไม่เหนื่อยอย่างที่คิด อาจเป็นเพราะเพิ่งเจอที่เหนื่อยกว่าตอนขึ้นถ้ำ แต่ขั้นบันไดที่นี่เขาทำไว้เตี้ยๆครับ ไม่ชัน
ทำเลของรีสอร์ท ดีมากครับ จนผมอยากมานอนเล่นที่นี่ซักอาทิตย์ เพื่อนๆที่มาด้วยก็ชอบที่นี่กันทุกคน ระเบียงห้องที่ผมพัก
ภาพท้องฟ้าหลังพระอาทิตย์ตก
ผมตื่นมาตอนตีห้าครึ่งเพื่อรอเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้น ท้องฟ้าตอนเช้าวันนั้นสวยมากครับ ภาพนี้จากหน้าห้องพัก
มุมใกล้ๆกันอีกรูปครับ
ห้องที่ผมพักตอนสายหน่อย เห็นวิวดีมากครับ
จากนั้นก็ไปดำน้ำดูปะการัง ผมจะแยกรีวิว โลกใต้น้ำตอนต่อไปไว้ครับ ตอนนี้จะเป็นภาพวิว จุดแรกที่ไปคือร่องน้ำจาบังครับ วันนี้จะมีเรือหางยาวตามเรือใหญ่มาด้วยตลอดครับ เพื่อถ่ายคนไปยังเกาะต่างๆเพราะเรือใหญ่เข้าไปไม่ได้ ลองถ่ายย้อนแสงดูครับ
จากนั้นก็ไปเกาะหินงาม หินที่นี่งามสมชื่อ
บรรยากาศบนเกาะหินงาม
จากนั้นมุ่งหน้าไปเกาะหินซ้อนครับ เพื่อดูปะการังเจ็ดสีอีกจุดนึง
เรือจะวนชมความงามและความแปลกของหินซ้อนก่อนที่พาไปชมปะการัง
จากนั้นก็ทานข้าวกล่องกันบนเรือ แล้วไปเล่นน้ำที่นี่ครับ เกาะรอกอย ที่นี่น้ำใส สวย แต่แตนทะเลก็เยอะอยู่เหมือนกัน
บรรยากาศการเล่นน้ำที่เกาะ ตอนผมไปเป็นวันธรรมดาครับไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น เป็นส่วนตัวดี
จากนั้นก็ไปดำน้ำอีก 2-3 จุดครับ ก่อนที่จะไปเกาะราวี ผมและเพื่อนๆ ชอบเกาะนี้เป็นที่สุดครับ น้ำใส มีหาดทรายขาวให้นอนเล่น มีส้มตำให้ทาน มีน้ำจืดให้อาบ และที่สำคัญมีประการังสวยๆให้ดู ครบสูตรทุกอย่างครับ เราเลยอยู่ที่นี่กันจนเย็น
กิ่งไม้รูปหัวม้าครับ
ที่นี่น้ำใส ทรายสวย และส่วนตัวสุดๆครับ
ทุกคนต่างหามุมของตัวเองอยู่บนเกาะราวีแห่งนี้ บรรยากาศตอนนั้นผ่อนคลายมากๆครับ อยากกลับไปที่นี่อีก
กิ่งไม้รูปหัวม้าอีกมุมหนึ่งครับ จะเห็นเรือที่พาเรามา
ชิงช้าผูกกับกิ่งไม้ในทะเล คือสัญลักษณ์อีกอย่างของที่นี่
ภาพหาดทรายขาวๆ น้ำใสๆบนเกาะราวีอีกภาพครับ
เรือหางยาวที่พาเรามาครับ ผมยังติดใจกับความใสของน้ำทะเล ที่นี่ หลังจากที่ทุกคนสนุกสนาน ก็ถึงเวลาต้องอำลาเกาะราวีครับ เพื่อนผมบอกว่าคราวหน้าอยากมาอยู่เกาะนี้ทั้งวัน
จากนั้นเราก็มุ่งหน้ากลับหลีเป๊ะ พร้อมพาความสุขความประทับใจกลับไปครับ
เย็นวันนั้นเราก็ต่างมาพูดคุยถึงความประทับใจ ความสนุกสนานที่เพิ่งผ่านไป และผมก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย แต่อิ่มอกอิ่มใจกับความสุขจากการเที่ยวในครั้งนี้ พอตอนเช้าเราตื่นสายกันได้ครับ เพราะนัดเรือเอาไว้ตอน 11 โมง ผมเลยมีเวลาดำน้ำหน้ารีสอร์ทถ่ายรูปปลานีโม่ และมาเก็บรูปร้านอาหารที่ mountain ตอนสายๆ
ผมชอบบรรยากาศร้านอาหารที่นี่มากครับ อยู่บนที่สูง มองเห็นวิวสวยดี
อีกมุมหนึ่งครับ
บรรยากาศร้านอาหารที่นี่วิวสวยดีครับ เห็นน้ำทะเลสีเขียว ใส
เห็นภาพแล้วก็อยากกลับไปอีก
วันนี้แดดดีครับเหมือนวันก่อนๆ คลื่นก็ไม่แรงครับ ผมละชอบบรรยากาศอย่างนี้จริงๆ
ร้านอาหารรูปสุดท้ายครับ
วัฏจักรของการท่องเที่ยว กลุ่มเก่าจะไป กลุ่มใหม่กำลังจะมา
เวิ้งอ่าวหน้า mountain resort ครับ ผมโชคดีมากที่ทริป ยังไม่เจอฝนตอนกลางวันเลยครับ มีฝนตกมาหน่อยนึงตอนกลางคืน เลยทำให้ทริปนี้ เป็นทริปที่สุดยอดอีกทริปหนึ่งของผม
ผมอำลาตอนนี้ด้วยภาพนี้ครับ หาดทรายหน้ารีสอร์ท ผมคงคิดถึงที่นี่ไปอีกนาน เจอกันตอนหน้าซึ่งเป็นตอนจบครับ โลกใต้น้ำอันลือชื่อแห่งอุทยานแห่งชาติตะรุเตา
Create Date : 02 พฤษภาคม 2550 |
|
22 comments |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2552 13:36:03 น. |
Counter : 5783 Pageviews. |
|
|
|
...
อยากนั่งชิงช้าตัวนั้นค่ะ
อยากนั่งกินข้าวร้านที่มองเห็นทะเลไกลสุดตานั่นด้วย