เริ่มต้นด้วยภาพนี้ครับ แพ 500 ไร่จากมุมสูงท่ามกลางธรรมชาติทั้งทะเลสาบและภูเขาที่สวยงาม



การเดินทางมาจากสนาามบินสุราษฎร์ธานีด้วยรถตู้ของรีสอร์ท จะแวะเขื่อนรัชชประภาเป็นจุดแรกเพื่อให้ลงไปถ่ายภาพ



บรรยากาศบริเวณสันเขื่อน สวยมากๆ



แค่เริ่มต้นทริปก็ได้เห็นวิวสวยๆ ทั้งหมอก ทั้งภูเขาที่สลับซับซ้อน



ถ้าไปที่นี่ผมแนะนำให้บินไฟล์ทเช้าที่สุดเพื่อไปยังสนามบินสุราษฎร์ ไปถึงสันเขื่อนก็ยังเช้าอยู่ อากาศเย็นสบาย



จากนั้นก็ไปรอเรือเพื่อไปยังรีสอร์ท ท่าเรืออยู่ไม่ไกลจากสันเขื่อน



ใช้เวลาไม่นาน นั่งเรือชมวิวเพลินๆก็มาถึงแพ 500 ไร่



บรรยากาศของแพที่หันหน้าไปยังภูเขาที่สวยงาม เหมือนเป็นรีสอร์ทที่ถูกซ่อนอยู่กลางทะเลสาบ



ต่อไปผมจะพาไปชมบรรยากาศบนแพ



วิวสวยๆจากบนแพ จะเห็นวิวแบบนี้ไปตลอดช่วงเวลาเข้าพัก



สระว่ายน้ำส่วนกลางของรีสอร์ท เผื่อใครกลัวการลงเล่นน้ำในทะเลสาบ (ซึ่งน้ำลึกมากๆ) สามารถลงเล่นน้ำในสระแทน



จะพายเรือคายัก จะลงเล่นน้ำในสระ หรือชมวิวจากบริเวณรีสอร์ท มีกิจกรรมให้เลือก



ได้เล่นน้ำท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่สวยสุดๆ ที่นี่เป็นแพแห่งเดียวในเขื่อนที่มีสระว่ายน้ำครับ



ที่นั่งเล่นชมวิว จะเห็นห้องพักที่เรียงตัวโค้งสวยงาม



ใครที่เคยมาที่นี่มาก่อน จะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างแรกเลยครับ ก็คือห้องอาหารถูกปรับปรุงใหม่ เป็นสีขาวสวยสบายตา 



วิวจากบริเวณห้องพัก 



ทางเดินจะอยู่ด้านหลังของห้องพักเพื่อความเป็นส่วนตัว



ห้องพักทุกห้องจะมีเรือคายักที่หน้าห้อง  ให้แขกที่เข้าพักพายเล่น 



สามารถพายเรือเล่นรอบๆรีสอร์ท บรรยากาศดีสุดๆ



นอกจากนี้ยังมี Paddle Board ให้พายเล่น ในทะเลสาบแทบจะไม่มีคลื่น 



วิวรอบๆรีสอร์ทสวยมากๆ มาที่นี่ลืมความวุ่นวายในเมืองไปเลยครับ 



เหมาะกับการมาเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน กับครอบครัว หรือมากับคู่รัก


บรรยากาศในห้องอาหารที่ถูกปรับปรุงใหม่



ห้องอาหารสีขาวที่สวยงาม กับวิวสวยๆด้านนอก



มีเคาเตอร์สำหรับติดต่อสอบถามข้อมูลทุกๆอย่างขณะเข้าพักบนแพ



ต่อไปผมจะพาไปชมห้องพักบ้างครับ ห้องพักแบบแรกที่จะพาไปชม เป็นห้องพักแบบ Villa



บรรยากาศที่ระเบียงห้องของห้องพักแบบวิลลา



ทางขึ้นไปชั้นสอง และทางเข้าห้องน้ำของวิลลา



ที่นอนบนชั้นสองที่สามารถมองเห็นวิว



ห้องพักแบบ วิลลา จะเป็นหลังเดียวๆ มีทั้งหมด 6 วิลลาติดกัน



วิวสวยๆจากหน้าห้องพัก



สามารถนอนชมวิวจากบนเตียงนอนได้เลย บรรยากาศน่าพักมากๆ



แสงยามเช้าหน้าห้องพัก



ผมชอบบรรยากาศตอนเช้าของที่นี่มากที่สุด สดชื่นมากๆ



อากาศสดชื่นเย็นสบาย สงบ การได้มานั่งชมวิวตรงนี้ตอนเช้าๆเหมือนกับการได้ชาร์ตแบตให้กับชีวิต 



น้ำทะเลในทะเลสาบนิ่งสงบ แทบจะไม่มีคลื่น 



บรรยากาศในห้องนอนตอนกลางวัน 


กิรกรรมที่ไม่ควรพลาดในการเข้าพักที่นี่



บรรยากาศที่ห้องอาหารตอนเช้า 



 แสงยามเช้ากับหมอกบนยอดเขา บรรยากาศสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติที่หาได้ยากจากที่อื่น



บรรยากาศอย่างนี้ที่ทำอยากกลับไปที่นี่อยู่เสมอ



ใครมาที่นี่แนะนำให้ตื่นเช้าเลยครับ จะออกมาพายเรือหรือเดินเล่นชมวิว 



แสงสวยๆยามเช้า อากาศช่วงเช้าๆที่นี่สดชื่นมากๆ



มุมทานอาหารบรรยากาศดีๆ



ห้องอาหารถูกปรับปรุงใหม่ให้สวยงาม  วิวก็ยังคงสวยเหมือนเดิม



วิวจากห้องอาหารสวยมากๆ เป็นวิวที่ทำให้ใครหลายๆคนหลงเสน่ห์ที่นี่



มีปลาธรรมชาติให้ดูที่ท่าเรือและที่ห้องอาหาร



เรือหางยาวที่รับส่งแขกที่เข้าพักเป็นเรือของชาวบ้าน ทำให้เกิดการสร้างงานในท้องถิ่น



ต่อไปผมจะพาไปชมความงามของเขาสามเกลอ



มีผู้ร่วมทริปเป็นชาวญี่ปุ่นด้วยครับ 



เขาสามเกลอ เป็นยอดเขาเล็กๆ 3 ลูก ที่โผล่พ้นผิวน้ำในบริเวณใกล้ๆกัน แปลกและสวยดีครับ



มีโอกาสได้เห็นสัตว์ป่าช่วงที่ล่องเรือ



ถ้ามาเป็นกลุ่ม สามารถจัดบาร์เครื่องดื่มที่ลานหน้าห้องอาหาร 



ช่วงที่ผมไปมีทั้งช่วงอากาศดี และช่วงฝนตก จริงๆแล้วแอบชอบช่วงเวลาฝนตกเหมือนกัน บรรยากาศชุ่มฉ่ำ สดชื่นไปอีกแบบ ได้พายเรือเล่นกลางฝน เป็นอีกประสบการณ์ที่น่าประทับใจมากๆ



มาดูอาหารของที่นี่บ้างครับ 



ปกติอาหารที่นี่จะเป็นบุฟเฟต์ ที่อิ่มอร่อยทุกมื้อ แต่จะให้ทางรีสอร์ทจัดเป็นเซ็ตให้ก็ได้ครับ 



อาหารน่าทานทุกอย่าง 



อาหารอร่อยๆกับวิวสวยๆที่ห้องอาหาร



หรือถ้าใครอยากทานอาหารทะเล ที่นี่ก็มีบริการ



ได้ทานอาหารทะเลอร่อยๆในบรรยากาศธรรมชาติ



สุราษฎร์ธานีขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล 



รีสอร์ทได้เตรียมอาหารทะเล เผื่อแขกที่เข้าพักอยากทาน ไหนๆก็ลงใต้ทั้งที 



บรรยากาศที่รีสอร์ทช่วงแสงสุดท้ายก่อนจะมืด



พระจันทร์สวยๆที่สระว่ายน้ำ เป็นรีสอร์ทที่บรรยากาศดีทุกช่วงเวลา



ต่อไปผมจะพาไปชมห้องพักอีกแบบที่เป็นไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่



ห้องนี้เป็นห้องแบบ Honeymoon ซึ่งมีเพียงห้องเดียวของรีสอร์ท 



เป็นห้องพักที่นี่สระว่ายน้ำส่วนตัวหนึ่งเดียวในเขื่อน  หรูหราและสะดวกสบาย



ห้องพักจะแยกออกมาจากห้องพักอื่นๆของรีสอร์ท มีความเป็นส่วนตัวสูง



นอกจากสระว่ายน้ำส่วนตัวแล้ว ยังมีอ่าง Jacuzzi  ไว้แช่น้ำชมวิว 



แช่น้ำไปชมวิวไป สุดบรรยายเลยครับ คงมีไม่กี่ครั้งในชีวิตที่ได้แช่อ่าง Jacuzzi ท่ามกลางวิวสวยๆแบบนี้



มุมนั่งเล่นชมวิวสวยๆ 



ภายในห้องนอน เห็นวิวสวยยๆจากแทบทุกจุดในห้องพัก



ชอบมุมนั่งเล่นตรงนี้มากๆ บรรยากาศดีทุกเวลา



เงียบสงบ เป็นส่วนตัว เป็นห้องพักแบบ Pool Villa ที่วิวสวย บรรยากาศดี



โรแมนติกมากๆ 



มีบันไดวนขึ้นไปชมวิวด้านบนด้วยครับ ไปนอนดูดาว



บรรยากาศที่อ่าง jacuzzi เหมาะกับการให้รางวัลกับชีวิต



ห้องนี้มีห้องน้ำสองห้อง  มีเตียงนอนที่ชั้นบนใต้หลังคาอีกจุดหนึ่ง



ห้องนอนใต้หลังคาชั้นบน  



เป็นห้องที่มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น แต่ถ้าพัก 2 คน โรแมนติกสุดๆเลยครับ 



ห้องนั่งเล่นของห้องนี้ สามารถเปลี่ยนเป็นห้องทำสปาหรือห้องนวด



ห้องน้ำที่หรูหราน่าใช้ 



ช่วงเช้าๆ มีหมอกมาให้ชมตามยอดเขา 



ห้องพักจะอยู่ห่างจากห้องพักแบบอื่นๆของรีสอร์ท 



ถ้าใครทีงบสูงซักหน่อย แนะนำเลยครับห้องนี้ บรรยากาศดีจริงๆ



หลายๆคนกังวลว่า ห้องที่ตั้งอยู่เดี่ยวๆอย่างนี้ อาจจะเหมือนโดนขัง ไปไหนทีก็ต้องเรียกเรือของรีสอร์ท แต่จริงๆแล้วถ้าได้เข้าไปอยู่ในห้อง แทบจะไม่อยากออกไปไหนเลยครับ 



ภาพจากสระว่ายน้ำด้านหน้า 



กลางวันเล่นน้ำ แช่อ่าง กลางคืน นั่งเล่น ดูทะเลดาว 



นี่คือเรือสำหรับรับส่งแขกที่เข้าพักห้องนี้ สามารถเรียกใช้บริการได้ 24 ชม ในห้องจะมีโทรศัพท์สำหรับเรียกใช้บริการ 



ห้องพักห้องนี้เป็นอีกหนึ่งความประทับใจจากการเดินทางมาหลายปีของผม เป็นความหรูหราท่ามกลางธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์



ผืนน้ำที่นิ่งสงบบริเวณรีสอร์ท



ภาพมุมสูงที่ทำให้เห็นทำเลของรีสอร์ทท่ามกลางภูเขา



มีห้อง Honeymoon และ ห้องพักแบบ suite (Deluxe Suite และ Family Suite) ที่แยกออกมา



เป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยมากๆ บรรยากาศอย่างนี้คงหาได้ยากจากสถานที่อื่น



ที่นี่มีการลงทุนเพื่อกำจัดของเสียอย่างเป็นระบบ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม 



และเคยได้รับรางวัล Thailand Boutique Awards สาขา อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากการประกวดรีสอร์ททั่วประเทศ



น้ำนิ่งเหมือนเป็นแผ่นกระจกขนาดใหญ่



นี่คือวิวสวยๆที่จะได้เห็นตลอดช่วงเวลาที่เข้าพักที่นี่



ต่อไปผมพาไปชมห้องพักแบบอื่นๆบ้างครับ ห้องนี้เป็นห้อง Deluxe



ห้องนอนชั้นบนของห้องพักแบบ Deluxe



บรรยากาศที่ระเบียงห้อง ห้อง Deluxe เป็นห้องพักที่อยู่ใกล้ห้องอาหารที่สุด



ด้านหลังห้องพักที่มีบันไดขึ้นชั้นบน บันไดจะชันหน่อยนะครับ ขึ้นลงจะต้องระวัง



ต่อไปผมจะพาไปชมห้อง Family



ห้อง Family คือห้อง Deluxe 2 ห้อง ที่สามารถเชื่อมต่อกัน 



ระเบียงห้องจะกว้าง และมีประตูที่เชื่อมถึงกัน



บรรยากาศหน้าห้อง Family



ต่อไปผมจะพาไปชมห้องพักที่แยกออกไป อาคารนี้มีห้อง Deluxe Suite และ Family Suite



ห้อง Deluxe Suite มีจำนวน 2 ห้อง จะอยู่ด้านข้าง  ส่วนห้องตรงกลางคือ Family Suite



ภายในห้องนอนของห้องพักแบบ Deluxe Suite



ห้องนอนใต้หลังคา



ห้องนั่งเล่นของห้อง Deluxe Suite ที่สามารถเปลี่ยนเป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่ง



บรรยากาศและวิวหน้าห้อง



ห้องพักที่อยู่เดี๋ยวๆกลางน้ำแบบนี้ ต้องมันใจทำให้แขกรู้สึกว่าไม่โดนขัง โดยการทำให้ห้องพักน่าอยู่จนแขกที่เข้าพักไม่อยากออกไปไหน  ถ้ามาเปลี่ยนกลุ่มใหญ่สามารถเหมาทั้งอาคารนี้ได้เลยครับ รองรับได้ประมาณยี่สิบกว่าคน 



มาดูบรรยากาศภายในรีสอร์ทกันต่อ



กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในการมาพักที่นี่คือการพายเรือคายักบริเวณรีสอร์ท 



บรรยากาศอย่างนี้ที่ทำให้ใครๆก็อยากมาที่นี่ แขกที่นี่ส่วนมากเป็นแขกที่เคยมาแล้วและกลับมาพักซ้ำอีก



ถึงจะมาหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เบื่อวิวสวยๆอยางนี้



เป็นอีกรีสอร์ทที่ประทับใจมากๆ ที่นี่เป็นเหมือนสถานที่ที่ถูกซ่อนเอาไว้ท่ามกลางผืนน้ำและภูเขาที่สวยมากๆ 



แล้วก็ถึงวันที่ต้องเดินทางกลับ



การเดินทางมาที่นี่ทุกครั้ง ได้เห็นการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นทุกครั้ง และได้รับความประทับใจกลับไปมากมาย



ขณะเดินทางกลับก็ยังได้เห็นวิวสวยๆ



ใครที่ชอบธรรมชาติ อยากตื่นมาสูดอากาศสดชื่น เห็นวิวสวยๆตลอดทั้งวัน  ตัดขาดจากโทรศัพท์ ทีวีซักพัก แนะนำเลยครับที่นี่



   ห้องพักแบบ Honeymoon  ซึ่งเป็นห้องพักที่ผมประทับใจมากๆ เป็น Pool Villa หนึ่งเดียวของเชี่ยวหลาน  

และภาพจากปก คืนที่ดาวเต็มฟ้า บรรยากาศสุดโรแมนติกที่แพ 500 ไร่