Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
10 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
Shiroi Haru ฤดูใบไม้ผลิสีขาว ...




ชื่อซีรีย์ : 白い春 Shiroi Haru / White Spring
นักแสดง : Abe Hiroshi, Ohashi Nozomi
กำกับโดย : Miyake Yoshishige, Komatsu Takashi , Ueda Hisashi
จำนวนตอน : 11 ประเภท : Family
Written By : Ozaki Masaya
ออกอากาศ : 14 เม.ย. 2009 - 23 มิ.ย. 2009
Fuji TV ทุกวันอังคาร เวลา 22:00 น.




ช่างเป็นการดูซีรีย์ที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ตั้งใจจะไม่ซื้อแผ่น (งก) แต่พยายามดูซับอิงในเว็ปดูซีรีย์ออนไลน์แล้วภาพมันไม่ชัด เอาล่ะซื้อก็ซื้อ ซื้อมาดูไม่กี่ตอน ตอนขาดอีก มีตอนเลขคี่ ขาดตอนเลขคู่ ขอเคลมแผ่นไปใหม่อีกครั้งได้มาใหม่สองแผ่น แผ่นแรกมีซับ แผ่นที่สองซับไม่มี อ้าว .. สุดท้ายก็ต้องหันกลับมาดูในเว็ปด้วยซับอังกฤษตอนคู่ กลับไปดูแผ่นซับไทยตอนคี่ สับไปสับมาระหว่างซับไทยอังกฤษ วุ่นวายพิลึก แต่ก็ดูจบแล้ว(จนได้)

เรื่องไหนคนเขาบอกว่าดี ขอให้ได้ยิน ขอให้ได้อ่านเจอ ถ้าเลือกได้จะไม่ยอมพลาด เว้นแต่นักแสดงจะไม่เข้าตา เค้าโครงเนื้อหาจะไม่เข้าเป๊ก ก็ค่อยว่ากันไป




Shiroi Haru สิ่งดึงดูดใจแรกคงหนีไม่พ้นชื่อเรื่อง White Spring หรือ ฤดูใบไม้ผลิสีขาว ปกติเวลาเขียนบล็อกจะชอบยัดเยี่ยดหัวข้อเรื่องเป็นภาษาไทยตามใจฉัน แต่หากของเขาดีอยู่แล้ว เพราะพริ้งถูกใจอยู่แล้วก็จะคงเอาไว้ไม่ไปเปลี่ยนแปลงอะไร คำว่า 'ฤดูใบไม้ผลสีขาว' นี่แหละที่ทำให้จดจำซีรีย์เรื่องนี้ไว้ในใจมานาน แต่ที่รีๆ รอๆ ก็เพราะกลัวเรื่องจะเครียดและเรื่องจะเศร้า ก็ไม่รู้เป็นอะไรนักหนาที่จะต้องตั้งป้อมกีดกันซีรีย์ 'ดีๆ' ที่คนอื่นๆ เค้าพูดถึงกันไว้ก่อนเสมอ แต่สุดท้ายก็เอามาดูจนได้นั่นแหละ เข้าข่ายคนเกลียดปลาไหลชอบกินน้ำแกง ปากบอกว่าไม่อยากเครียดไม่อยากเศร้า แต่ใจก็ร่ำร้องอยากรู้ๆ



Shiroi Haru เรื่องของอดีตยากูซ่าฆ่าคน ต้องระเห็ดไปชดใช้กรรมอยู่ในคุกถึงแปดปีจึงพ้นโทษ หลังจากได้รับการปล่อยตัวออกมาจากคุก มันก็เป็นอีกกรรมหนึ่งของคนเคยผิด ที่สังคมไม่ยอมเปิดใจยอมรับง่ายๆ แม้ว่ายี่ห้อ 'คนขี้คุก' จะไม่ได้ตราติดอยู่บนหน้าผาก แต่หน้าตาโหดๆ ดูเป็นมหาอมิตรที่ส่อแววชักชวนให้คนคิดไปในทางผิดว่าอาจเป็นคนโฉดชั่วร้ายก็ดูจะเกินพอแล้วสำหรับพระเอก ไม่ต้องรอให้ใครมาสืบประวัติรู้ว่าเคยติดคุกมาก่อนเป็นเครื่องซ้ำเติมใบหน้านักหรอก

ซากุระ ฮารุโอะ อดีตยากูซ่าหน้าโฉดคนนี้ รับบทโดย อาเบะ ฮิโรชิ ที่ก็เหมาะเหม็งกับทั้งวัย ทั้งใบหน้าและบทบาทการแสดง ลองคิดเล่นๆ หากเป็นทาคุยะ คิมุระ ต่อให้เขาเป็นนักแสดงที่เก่ง มารับบทนี้มันก็คงจะไม่ใช่อยู่ดี เพราะบางบทบาทนั้นนอกจากต้องอาศัยฝีมือแล้วยังควรต้องสงวนไว้เพื่อคนที่มีบุคลิกหน้าตาเหมาะสมกับบทเท่านั้น หล่อดีและโด่งดังดีบางครั้งมันก็ไม่ช่วยอะไร



อดีตยากูซ่าหน้าเหี้ยม ออกมาจากคุกก็เข้าไปหาอะไรยาไส้ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง สงสัยกรรมเก่ายังไม่ถูกปลดระวางไปซะหมด เพราะยังไม่ทันไรฮารุโอะก็โดนเชิดเงินที่มีทั้งหมดไปตอนที่เขาลุกไปเข้าห้องน้ำ (บื้อนะเนี่ย สงสัยเป็นเพราะติดคุกนานไป ก็คนสมัยนี้ใครเค้าวางข้าวของมีค่าไว้อย่างนั้นกัน มันต้องอยู่ติดตัวเข้าไว้ ) เมื่อซองเงินถูกเชิดไป ไม่มีเงินจ่ายค่าอาหาร ฮารุโอะจะทำอย่างไรได้ ก็ หนึ่ง สอง สาม วึ่บ! ชิ่งสิคะ จะรอช้าอยู่ไยให้เจ้าของร้านมาเฉ่ง

ช่วงที่เตร็ดเตร่อยู่นอกคุกอย่างไร้ทางไปนั้น ฮารุโอะยังได้รู้ข่าวคราวสำคัญเกี่ยวกับคนรักเก่าในอดีต ทาคามุระ มาริโกะ ( Konno Mahiru ) หลังจากฮารุโอะไปเอาดีในคุก เธอก็มีผู้ชายคนใหม่ เธอเสียชีวิต และผู้ชายคนนั้นก็ไปเปิดร้านเบเกอร์รี่อยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งและมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน เงินค่ารักษามาริโกะแปดล้านเยนที่หายไป กับการเปิดร้านเบเกอร์รี่ที่ดูดีมีความมั่นคง มันน่าสงสัยว่าเงินเปิดร้านนั่นใช่เงินก้อนเดียวกันหรือเปล่า

แต่แท้จริงผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แม่ เป็นเพียงคุณน้า และผู้ชายคนนั้น คนรักเก่าของมาริโกะแม้จะเป็นพ่อ แต่ก็ไม่ใช่พ่อแท้จริง

เมื่อฮารุโอะรู้ความจริง เด็กหญิง มุราคามิ ซาจิ เป็นลูกของมาริโกะ และถ้า มุราคามิ โคจิ (Endo Kenichi) ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ก็ต้องคิดออกได้ไม่ยากว่าเด็กหญิงซาจิ ควรจะเป็นลูกของใคร




ซาจิ (รับบทโดยหนูน้อย Ohashi Nozomi) หนูน้อยน่ารักคนนี้เป็นคนจิตใจดี มีน้ำใจบริสุทธิ์สมเป็นเด็กน้อย ขึ้นชื่อว่าเด็กนั้นอย่าได้หลงว่าจะเป็นเช่นนี้เสมอไปหากคุณไม่เคยมีประสบการณ์กับเด็กจอมวายร้าย ประเภทหกล้มเองแล้ววิ่งโร่ไปฟ้องผู้ใหญ่ว่าถูกใครอีกคนกระทำ หรือเด็กที่รับมาพากินพาเที่ยวสองคืนสามวันแต่ตำหนิคุณว่าเป็นผู้ใหญ่ขี้เหนียวเพียงเพราะคุณไม่ยอมตามใจซื้อเกมราคาแพงให้และคุณเป็นคนนิสัยไม่ดีที่ชอบหลอกเด็กว่าเกมมันมีราคาแพง โอ้ กอซซซซ โดนทั้งขึ้นทั้งล่องแบบนี้ คุณจะต้องไม่เชื่อแน่ว่าเด็กนั้นบริสุทธิ์ผุดผ่องกันทุกคน




แต่หนูน้อยซาจินั้นหัวใจเจ้างามยิ่ง กับ 'คุณลุง' หน้าโหดที่เพื่อนๆ ต่างหวาดหวั่น ถึงขั้นกดสัญญาณฉุกเฉินเรียกขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยจากใบหน้าและท่าทางของชายวัยกลางคนแปลกหน้าที่หน้าตาน่ากั๊วน่ากลัว แต่ซาจิกลับชอบคุณลุงคนนั้น ชอบไม่ชอบเปล่า ยังเห็นปีกเทวดางอกมาจากหลังของคนหน้าซาตานอีกด้วย ซาจิวาดภาพคุณลุงที่เธอพบเจอในสวนสาธารณะลงบนสมุดวาดเขียนของเธอ คุณลุงหน้าตาดุดันสวมชุดดำแต่มีปีกสีขาวกางโดดเด่นเป็นสง่าอยู่เบื้องหลัง และคุณลุงคนนี้ก็ติดอยู่ในความคิดคำนึงของเด็กหญิงโดยที่เธอสื่อความคิดในใจออกมาเป็นภาพวาดในหลายๆ ภาพ

จะเป็นเพราะสายเลือดหรือสัญชาตญาณของเด็กที่สัมผัสรับรู้ได้ว่าใครดีใครเลวก็สุดจะรู้ รู้อยู่อย่างเดียวเด็กหญิงซาจิชอบคุณลุงหน้าเหี้ยมในสวนเป็นหนักหนา ถึงกับสัญญามาพบเอาขนมจากร้านเบเกอร์รี่ของพ่อมาให้แก่คุณลุงที่ท่าทางอดอยากหิวโซ ทั้งที่คุณลุงก็ไม่ได้พูดจาดีๆ หรืออ่อนโยนกับเธอนัก แม้จะเป็นเพียงเด็ก แต่สัญญาต้องเป็นสัญญา คำพูด...พูดแล้วต้องรักษา ซาจิเป็นเด็กหญิงที่พยายามรักษาคำพูดของตัวเอง เป็นเพื่อนคนแรกของฮารุโอะที่หยิบยื่นความอาทรมาให้หลังจากที่เขาออกมาจากคุก (หากฮารุโอะจะยอมรับว่าเด็กหญิงซาจิเป็นเพื่อนน่ะนะ)




ความลับไม่มีในโลก วันหนึ่งฮารุโอะก็รู้เข้าจนได้แหละว่า ซาจิเป็นลูกของมาริโกะและเป็นลูกของเขาเอง

พ่อแท้ๆ คนหนึ่งที่เคยเป็นยากูซ่า เคยฆ่าคน เคยติดคุก

และพ่ออีกคนหนึ่งแม้ไม่ใช่พ่อผู้ให้กำเนิดมาจากเลือดเนื้อเชื้อไข แต่ก็เลี้ยงดูมาตั้งแต่ลืมตาดูโลก ที่สำคัญคือ เขาเป็นคุณพ่อแสนดีที่น่ายกย่องและภาคภูมิใจ

เมื่อ ฮารุโอะ พ่อแท้ๆ ได้พบกับ โคจิ พ่อแสนดี มันน่าสนใจตรงความรู้สึกของคนทั้งสองคน




ลูกของใครใครก็รัก

พ่อคนหนึ่งมีสิทธิ์ของการเป็นพ่อแท้ๆ แต่อดีตมือเปื้อนเลือดอันไม่โสภาและอนาคตที่ยังมืดมน ใครจะกล้าไปทวงสิทธิ์คืน แค่จะสัมผัสถูกตัวลูกยังต้องชะงักงัน เพราะสำนึกได้ว่ามือของตัวนั้นสกปรกเคยเป็นมือที่ฆ่าคน ไม่สมควรที่เอื้อมออกไปแตะต้องลูกผู้เป็นผ้าขาวสุดสะอาด

พ่ออีกคนหนึ่งมีสิทธิ์ของการเป็นพ่อที่เลี้ยงดูอุ้มชูมาด้วยความรักไม่ต่างกับเป็นลูกในไส้ของตัวเอง ความจริงที่ว่าเขาไม่ใช่พ่อแท้ๆ จึงไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย หากพ่อตัวจริงของลูกจะไม่ปรากฏตัวขึ้นมา ความที่ตัวเองไม่ใช่พ่อแท้ๆ นี่แหละมันกลายเป็นปัญหาที่ต้องกังวลอยู่ลึกๆ แม้แน่ใจตัวเองจะไม่มีวันยอมยกคืนให้ แต่ก็อดไม่ได้หรอกกับความรู้สึกกลัวที่จะสูญเสียลูกไปให้กับคนที่เขาเป็นพ่อแท้ๆ

แต่คุณพ่อโคจิ เจ้าของร้านเบเกอร์รี่ก็ใจกว๊างกว้าง ที่ยอมให้ฮารุโอะมาทำงานในร้าน เพราะความเป็นยอดชายนายแสนดีและความจริงที่รู้อยู่แก่ใจทำให้โคจิไม่ถึงกับกีดกันฮารุโอะให้ออกห่างจากซาจิเท่าที่ควรจะเป็นอย่างเด็ดขาด เขาคิดอะไรอยู่ ดูแปลกๆ ก็จริง แต่มันก็พอเป็นที่เข้าใจในความเป็นสุภาพบุรุษผู้ใจกว้างอย่างนั้นได้

ส่วนคุณพ่อฮารุโอะ ก็ไม่ได้คิดแย่งชิง แค่เห็นลูกได้รับความอบอุ่นเป็นที่รักของครอบครัวและคนรอบข้าง ฮารุโอะก็พอใจแล้ว คนขี้คุกอย่างเขาไม่มีอะไรดีพอที่จะเสนอหน้าไปเป็นพ่อของหนูน้อยซาจิ แค่รู้ว่าเขามีซาจิเป็นลูก ชีวิตที่ว่างเปล่าก็มีค่ามีความหมายมากพอแล้ว ซาจิทำให้ฮารุโอะมีความมุ่งมั่นที่จะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีมากยิ่งกว่าเดิมเสียอีก คงอย่างคำที่โคจิพูดไว้ หากฮารุโอะกลับไปมีชีวิตอย่างเดิมที่เคยเป็น เขาก็ไม่มีสิทธิจะได้มาเข้าใกล้ซาจิอีกเลย เหมือนเป็นกฏเหล็กลูกผู้ชายที่โคจิเตือนฮารุโอะอยู่กรายๆ ว่าอย่าได้คิดทำเรื่องไม่ดีเป็นอันขาด



การเข้าไปทำงานในร้านเบเกอร์รี่ได้พบเห็นความเป็นครอบครัว ความเป็นพ่อลูกของโคจิและซาจิ สภาพแวดล้อมต่างๆ ภายในบ้านที่ซาจิเติบโตขึ้นมา เป็นความเศร้าปวดใจชวนเรียกน้ำตาซึมๆ ออกมาได้ แม้ว่าตัวละครฮารุโอะจะไม่ได้อยู่ในอาการร้องไห้น้ำตาไหลพรากก็ตาม (ขออ่อนไหวสักนิด ก็มันเศร้าน่ะ)

ใช่ว่าจะมีคุณพ่อฮารุโอะเท่านั้นที่ปวดใจ คุณพ่อโคจิก็ต้องประสบอาการนี้ด้วยเช่นกัน เมื่อเห็นความรักความสนิทสนมที่ซาจิมอบให้กับคุณลุงฮารุโอะ สายเลือดที่ทำให้ปราศจากกำแพงใดๆ ในการที่จะเข้าใจกันได้ง่าย และซาจิก็เปิดเผยความในใจบอกเล่าปัญหาแบบเด็กๆ ให้ฮารุโอะฟังด้วยความไว้วางใจยิ่งกว่าพ่ออย่างโคจิซะอีก มันน่าช้ำใจไหมล่ะที่โคจิเป็นพ่อ เลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่ออก ทว่าไม้ได้เข้าใจจิตใจลึกๆ ของซาจิเลย โคจิที่ยุ่งกับการทำงานหามรุ่งหามค่ำกับการทำขนมปังค้าขายในร้านเบเกอร์รี่เพื่อซาจิก็จริง แต่ในวัยเล็กๆ ของเด็กก็ย่อมโหยหาความเอาใจใส่ใกล้ชิด ซึ่งบางเรื่องผู้ใหญ่ก็อาจมองข้ามไปเพราะเห็นว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของเด็ก กับพ่อโคจิที่ยุ่งตลอดเวลา ซาจิพยายามจะเป็นเด็กว่าง่าย และพึ่งพาตัวเอง ไม่กล้าบอกเล่าว่าถูกเพื่อนแกล้งที่โรงเรียน ไม่กล้าบอกอยากจัดปาร์ตี้กับเพื่อนที่บ้าน ไม่กล้าบอกว่าสอบได้คะแนนน้อย ไม่กล้าเล่าว่าโหนบาร์ไม่ได้ คูณเลขไม่เป็น และอยากให้พ่อช่วยสอน แต่เรื่องเหล่านี้เด็กหญิงกลับเปิดใจกับลุงฮารุโอะทุกอย่าง ความสัมพันธ์ที่ไร้เครื่องกีดขวางแบบนี้ย่อมทำให้คุณพ่อโคจิซึมไปได้เหมือนกัน



จะเป็นพ่อแท้ๆ หรือพ่อที่เลี้ยงดู ก็มีหัวใจเดียวกัน คือรักลูกสาวซาจิ แม้ซาจิจะบอกว่า "เหมือนหนูมีพ่อสองคนเลย" แต่เพื่อป้องกันความซับซ้อนที่ไม่สมควรต้องมาอธิบายกับเด็กได้ว่าทำไมคนที่เป็นพ่อไม่ใช่พ่อ คนที่ไม่ใช่พ่อคือพ่อ ดังนั้น ตำแหน่งนี้ควรมีแค่คนเดียว และกลายเป็นเรื่องตัดสินใจลำบากเลยทีเดียวว่าตำแหน่งนี้ใครสมควรได้รับ

คุณคิดยังไงล่ะ

มันยุติธรรมไหม หากโคจิจะไม่มีวันยอมยกซาจิให้แก่อดีตคนเคยคุกอย่างฮารุโอะ แม้เขาจะเป็นพ่อแท้ๆ แม้จะพิสูจน์ให้เห็นว่าโดยเนื้อแท้ฮารุโอะไม่ใช่คนเลวและเหตุผลที่เขาต้องฆ่าคนนั้นก็เพราะความจำเป็นเพื่อเงินที่ต้องใช้รักษาอาการป่วยเป็นโรคร้ายของมาริโกะ (โรคอะไรก็ไม่รู้นะ) มันยุติธรรมไหมถ้าจะคืนสิทธิ์ให้ฮารุโอะไป ในเมื่อเขาเองก็เป็นพ่อ เป็นคนเลี้ยงซาจิมากับมือ

มันยุติธรรมไหม หากฮารุโอะคิดจะทวงสิทธิ์ของตัวเอง ในเมื่อเขาไม่เคยอุ้มชูเด็กหญิงมาเลยสักครั้ง และไม่รู้ว่าหากมีโอกาสนั้น ฮารุโอะจะเลี้ยงซาจิให้เป็นเด็กดีที่น่ารักและมีความสุขเหมือนอย่างที่โคจิเลี้ยงมาหรือเปล่า แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นพ่อของเธอ สมควรที่เขาจะได้รับสิทธิ์ของการเป็นพ่อหรือเปล่า



อืม ประเด็นนี้น่าสนใจ

โคจิ อยากเป็นพ่อตลอดไป แม้ไม่ได้เป็นพ่อแท้ๆ แต่ก็ไม่คิดจะยกซาจิให้แน่นอน เทียบกันแล้วเป็นลูกของโคจิย่อมมีเส้นทางอนาคตที่ดีกว่า

ฮารุโอะ อยากเป็นพ่อของลูกจริงๆ นะเอย แต่เมื่อไม่ได้เลี้ยงดูมา ประกอบกับอดีตที่ไม่ดีของตัวเองและอนาคตก็ยังมองไม่เห็น จะมีหน้าไปทวงสิทธิ์ของการเป็นพ่อได้อย่างไร

ก็น่าจะโอเค ลงตัว แต่มันไม่ลงตัว ปัญหาคือนางเอกตัวน้อยรักพ่อทั้งสองคน (แม้ไม่รู้ลุงฮารุโอะเป็นพ่อ) แล้วพระเอกรุ่นใหญ่ทั้งสองคน พ่อโคจิ กับพ่อฮารุโอะก็มีคุณสมบัติของการเป็นพ่อกึ่งดีกึ่งเสียพอๆ กัน

ในความคิดผู้เขียน ถ้าผู้เขียนเป็นฮารุโอะ ก็คงคิดอย่างเดียวกัน เมื่อไม่ได้เลี้ยง ไม่ได้เป็นพ่อแต่แรกเริ่ม หากเขาไม่ยกให้เอง ใครล่ะ จะกล้าเอ่ยปากขอ แต่หากผู้เขียนเป็นโคจิ ก็คงไม่กล้ากีดกัน แต่ความจริงกับเด็กหญิงตัวแค่นั้นเป็นเรื่องยากจะอธิบายและเปลี่ยนแปลงอะไรไปจากเดิม ( เปลี่ยนพ่อทั้งคน มันคงชวนสับสนไม่น้อย) แต่เมื่อไหร่ที่ซาจิโตกว่านี้ โตพอจะเข้าใจได้ คงจะต้องบอกความจริงแก่ลูกไป เชื่อว่าความเป็นพ่อลูกระหว่างโคจิและซาจินั้นจะไม่เปลี่ยนแปลง และการไม่กีดกันสิทธิที่ซาจิควรจะได้รับรู้ว่าใครเป็นพ่อแท้ๆ ของตัวเองก็ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ความจริงนี่ก็เป็นแค่ละคร จะคิดจริงจังไปทำไมมากมายก็ไม่รู้เนี่ย คงอย่างที่บอกค่ะมันน่าสนใจชวนให้ขบคิด

แต่ดูเหมือนว่าการหาทางออกอันเป็นบทสรุปของผู้เขียนบทนั้นมันง่ายกว่าที่คิดแฮะ ถ้าหากนี่เป็นละครเกาหลีจะไม่แปลกใจเลย และคงเดาได้แต่แรก วิธีการหาทางออกอย่างง่าย เมื่อมันไม่ง่ายที่จะจัดสรรความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลให้ลงตัว จัดการกับใครสักคนอย่างนั้นแหละ เกาหลีใช่เลย แต่เมื่อนี่เป็นละครญี่ปุ่น ก็เลยไม่เฉลียวใจคิดอะไรไปในแนวนั้น แต่จะว่าไปแล้วมันก็เป็นวิธีที่ใช้ได้ เป็นบทสรุปแบบนิยาย แล้วมันก็ลงตัว ไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องอึดอัด ไม่ต้องยุ่งยากกันอีกต่อไป ลงเอยด้วยดี แฮปปี้มีฟามสุขกันไปถ้วนหน้า



ตัวละครที่โดดเด่นก็นี่แหละค่ะ รักสามเส้าเราสามคน(พ่อลูก) นอกนั้นก็เป็นตัวประกอบให้เรื่องดำเนินไป



ทาคามุระ คานาโกะ (Shiraishi Miho) เป็นน้องสาวของมาริโกะ หลังจากพี่สาวเสียชีวิตเธอมาอาศัยอยู่กับโคจิผู้มีฐานะเป็นพี่เขย เพื่อช่วยเลี้ยงดูซาจิและแบ่งเบาภาระด้วยการช่วยทำงานในร้านเบเกอร์รี่ ตอนแรกเธอพยายามกีดกันไม่ให้ฮารุโอะมาทำงานที่ร้าน แต่ตอนหลังเป็นเธอเองที่ใจอ่อนต่อความรักของพ่อที่ปรากฏในการกระทำ และความดีของจิตใจที่ซ่อนอยู่ค่อนข้างลึกภายใต้ใบหน้าโหดๆ ดูเหมือนคานาโกะจะแอบมีใจให้พี่เขยมาเนิ่นนาน เพียงแต่ความสัมพันธ์ยังไม่เคยก้าวข้ามผ่านกำแพงเครือญาติเธอจึงยังเป็นเพียงคุณน้าของลูกสาวที่ทำงานร้านเบเกอร์รี่ด้วยกันเท่านั้น ตำแหน่ง 'แม่' ของซาจิเหมือนจะเป็นของตายแต่ก็ยังไม่ถูกแต่งตั้งซะที



นิชิดะ ชิโอริ ( Yoshitaka Yuriko ) เด็กมีปัญหาที่รู้สึกชอบฮารุโอะตั้งแต่แรกพบกันในโรงแรม โรงแรมที่ว่านี้เป็นโรงแรมแบบช่องนอน คือกั้นเป็นช่องๆ มีคอมพิวเตอร์ให้ใช้อินเตอร์เน็ต มี่เหลือที่ให้ซุกหัวนอนแค่ระยะคนดิ้นตายเท่านั้น การพบกันจึงไม่ใช่เรื่องอะไรอย่างว่า แต่เป็นการที่ฮารุโอะขอความช่วยเหลือจากคนข้างช่องให้มาช่วยสอนการเสิร์ชหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต

โคจิมะ ยูกิ ( Endo Yuya ) ชื่อยูยะ นี้สำคัญไฉน แต่ไปลองเสิร์ชกูดูแล้วก็ไม่น่าจะเป็นคนสลักสำคัญอะไรนักเหมือนกับบทบาทของยูกิในเรื่องนี้แหละ เพราะในเว็ป my soju ก็มีนักแสดงชื่อยูยะอยู่ตั้ง 7 คน มันก็เลยรู้สึกว่าคุ้น และที่คุ้นกว่าใครก็คงเป็น เทโกชิ ยูยะ สมาชิกวง News นั่นเอง




ยูกิเป็นเพื่อนคู่หูทำมาหากินของชิโอริ สองคนมีความเป็นมาอย่างไรไม่เป็นที่แน่ชัดแต่สภาพคล้ายเด็กบ้านแตกที่ตัดสินใจออกจากบ้านมาเร่ร่อนเลี้ยงชีพด้วยตนเอง แม้ยูกิจะพยายามเลื่อนฐานะมาเป็นคู่ใจแต่ชิโอริก็ไม่มีเออออโดยง่าย เพราะใจชิโอริดันไปปักหลักสับสนกับคุณลุงฮารุโอะ ที่ไม่รู้มีความสำคัญอย่างไหนกันแน่ ระหว่างชอบอย่างชายคนหนึ่งหรือเห็นเป็นตัวแทนของพ่อที่ขาดหายไปในชีวิต ชิโอริชวนคนไร้ที่ไปอย่างฮารุโอะมาอยู่ด้วยกันที่ห้องบนดาดฟ้าของตึกแห่งหนึ่งซึ่งยูกิเป็นคนหามาได้และสามคนใช้อยู่อาศัยร่วมกัน จะว่าไปก็คล้ายครอบครัวลุงโสดวัยกลางคนกับหลานวัยรุ่นสองคน

ฮารุโอะจำต้องมาอยู่กับเด็กทั้งสองเพราะไม่รู้จะไปซุกหัวนอนที่ไหน การเพิ่งออกจากคุกหลังจากติดอยู่ยาวนานทำให้ฮารุโอะไม่สันทัดต่อการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้คนสักเท่าไร จึงไม่ได้ใส่ใจกับเด็กสองคนนัก แต่คนมันอยู่ด้วยกัน ชิโอริกับยูกิต่างก็ห่วงใยฮารุโอะอยู่เสมอ เมื่อเด็กสองคนมีปัญหา ฮารุโอะก็ไม่ใช่คนใจจืดใจดำ (ถึงหน้าตาจะเป็นใจก็เถอะ) มีตามองดู มีหูรับฟัง แม้ไม่แสดงออก แต่ถึงคราวจำเป็นก็ต้องห่วงใยและให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว

ยูริโกะผู้รับบทชิโอริเป็นสาวร่างเล็กที่มีใบหน้าสะสวยน่ารัก ชอบเธอมากเอาการในเรื่อง Love Shuffle และ Tokyo Dogs เรื่องหลังนี้ได้เป็นนางเอกเต็มตัวคู่กับ โอกุริ ชุน แต่ใน Shiroi Haru ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก เพราะโดนหนูน้อยโนโซมิผู้รับบทซาจิจังแย่งซีนแย่งใจไปซะหมด ก็น้องหนูเค้าน่ารักเป็นหนักหนา ยูริโกะต้องยอมๆ ให้น้องเค้าไป ในฐานะวัยที่แก่กว่าย่อมต้องเสียสละให้ผู้อ่อนอาวุโส





สาเหตุการเข้าคุกของฮารุโอะนั้นค่อนข้างดูดี เพื่อเงินที่จะใช้รักษาโรคร้ายของมาริโกะ จะว่าฮารุโอะเป็นคนเลวที่คิดกลับใจหลังออกจากคุกก็ไม่ค่อยเต็มปากนัก เพราะไม่ได้มีใจใฝ่เลวคิดฆ่าคนมาจากก้นบึ้งของใจแต่แรก เพียงแต่สถานการณ์มันบีบบังคับ ส่วนความเป็นนายแสนดีของโคจินั่นก็ประหนึ่งพระรองเกาหลีที่ให้ทุกอย่างได้แม้ไม่เคยได้อะไรคืนกลับมา นอกจากภาระการเลี้ยงดูลูกน้อยที่โคจิก็ไม่ได้ถือเป็นภาระแต่ถือเป็นของขวัญในชีวิตซะอีก การที่เด็กหญิงซาจิป่วยเป็นโรคอันตรายนี่ก็ใจตุ้มๆ ต้อมๆ เพราะถ้าจะเลือกเอาจังหวะนี้เป็นทางออกของพ่อสองคนก็ดูจะใช้ได้เหมือนกัน เพียงแต่มันจะทำคนดูหัวใจสลาย จบเรื่องราวเร็วเกินไป และรับรองได้ คนเขียนบทต้องถูกประนามในข้อหาทรยศต่อตัวละครและคนดูโดยพรากเอาชีวิตผู้เยาว์อันบริสุทธิ์สดใสไปอย่างไม่สมเหตุสมผล ความจริงแล้วนี่อาจเป็นบทละครธรรมดาทั่วไป ตามประสาเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้โดยธรรมดา หนูน้อยซาจิจะป่วยไข้ 'บ้าง'ก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่อิทธิพลซีรีย์เกาหลีคงจะครอบงำจิตใจอยู่ไม้น้อย พอมีใครป่วยปุ๊บ เป็นต้องกังวลปั๊บ เฮ้ย! จะตายป่าวหว่า ? ก็โนโซมิน่ารักขนาดนั้น ใครจะไปทำใจได้ถ้าเธอต้องป่วยตาย



คำว่า ทรยศต่อตัวละครเนี่ย เป็นคำพูดหรูๆ ที่ไม่ได้คิดเองหรอกค่ะ จำมาจาก เจ.เค. โรว์ลิ่ง ผู้เขียนมหัศจรย์วรรณกรรมเยาวชนเรื่อง Harry Potter เมื่อเธอถูกตั้งคำถามถึงการเขียนให้มี 'การตาย' เกิดขึ้นกับตัวละครสำคัญในเรื่อง เจ.เค.โรว์ลิ่ง ตอบไว้ว่า "อย่าลืมว่า เรื่องราวของแฮร์รี่ พอตเตอร์ เริ่มขึ้นจากการตายของพ่อแม่ของเขา หากจะต้องมีใครเสียชีวิตอีก ก็เพราะมันต้องเป็นอย่างนั้น ฉันไม่สามารถทรยศตัวละครของฉันได้......." อันที่จริงคงไม่ค่อยเข้าใจความหมายของการทรยศตัวละครได้ชัดเจนนัก แต่หลังจากดู ละครเกาหลี East of Eden จึงพอจะเข้าใจมันจริงๆ เมื่อผู้เขียนบทพยายามจะให้นางเอกที่เป็นรักแรกของพระเอกตรอมใจจากการพลัดพรากจนป่วยโซ เพื่อจะส่งต่อบทนางเอกให้กับนางเอกคนดังขึ้นมาแทน แต่ดูท่ามันจะไม่สำเร็จโดยง่าย เพราะมันไม่ควรจะเป็นไปอย่างนั้น บทมันก็เลยก้ำๆ กึ่งๆ หาจุดยืนไม่ได้ สุดท้ายนางเอกคนดังจึงประกาศถอนตัวจากละครกลางคัน บทของเธอจึงต้องถูกเขียนให้หมดไปจากเรื่องเพื่อรองรับการถอนตัว แล้วนางเอกรักแรก (ตอนนั้นเธอยังไม่ดัง เป็นนางเอกหน้าใหม่ และก็ดังจากเรื่องนี้แหละ) ก็ได้รอดชีวิตจากอาการป่วยหนักและได้เป็นนางเอกจนจบเรื่อง 56 ตอน เรื่องนี้ไม่มีคำยืนยันจากที่ไหนหรอกนะคะ เป็นความคิดความเข้าใจของผู้เขียนเองว่าการริเริ่มให้นางเอกป่วยนั้นมันเหมือนเป็นการจงใจพยายามหาเรื่องตายให้เธอ มันรับไม่ได้ เพราะเธอไม่สมควรที่จะป่วยและตายไปดื้อๆ เพื่อเปิดทางให้นางเอกอีกคน ถ้าตอนนั้นเธอต้องตายจริงๆ แล้วคนมาทีหลังได้เป็นนางเอกคู่ใจกับพระเอกล่ะก็ นั่นแหละถือเป็นการทรยศตัวละครชัดๆ เลยล่ะ นี่ดีนะที่เขาแค่ส่อแววยังไม่ได้ทรยศจริงๆ จะเป็นการตั้งใจเขียนอย่างนั้น หรือเป็นการพลาดไปแล้วกลับลำเพราะไม่เป็นที่ยอมรับก็ไม่ทราบได้ แต่ที่แน่ๆ การที่นางเอกคนดังถอนตัวจากละครกลางคัน ก็ทำเอาเจ็บตัวกันไปไม่น้อย ดีทีเนื้อหายังคงสนุกและคนก็ตามติดมาแล้วตั้งครึ่งเรื่องละครจึงยังอยู่รอดปลอดภัยในเรตติ้งที่สวยงาม



ลองคิด(อีก)เล่นๆ หากหนูน้อยซาจิ ในเรื่องนี้ถูกเขียนบทให้ป่วยตายด้วยโรคเดียวกันกับแม่แล้วล่ะก็ ...ใครจะคิดอย่างไรไม่ทราบได้ แต่ส่วนตัวจะขอตราหน้าผู้เขียนบท โอซากิ มาซายะว่าเป็นจอมทรยศที่ให้อภัยไม่ได้ แม้จะยังยกย่องในผลงานประทับใจอย่าง Kekkon Dekinai Otoko ที่ก็ได้ ฮิโรชิ อาเบะ คนหน้าโหดคนเดียวกันนี้แหละในการรับบทโสดขวางโลกทำตัวมีปัญหาหน้าตาบอกบุญไม่รับเอาไว้อย่างน่าชมมาแล้ว (แบบว่า ค่อนข้างอ่อนไหวกับการตายของตัวละครน่ะค่ะ )

การจบอย่างที่จบนั้นถือว่าโอเค ถึงไม่ชอบใจแต่ก็พอรับเหตุผลได้ แม้จะรู้สึกเจ็บๆ ที่หลังก็แค่หลังเดาะไม่ถึงกับหักหลังกันดังเป๊าะ! อย่างเต็มๆ และอย่างที่บอก...นั่นเป็นทางออกที่สุดลงตัว

ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มีใครเขียนบทเพื่อจัดสรรความลงตัวในลักษณะนั้นบ่อย .. มันเฮิร์ต

แต่หากถามหาความซึ้งแล้วล่ะก็ แนวสายเลือดพันผูก-พ่อลูกผูกพันเช่นนี้ น้ำตา? จะเหลือเหรอคะ










ขอบคุณข้อมูลละครจาก

//www.belike.net




Create Date : 10 กรกฎาคม 2554
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2558 8:55:07 น. 3 comments
Counter : 2637 Pageviews.

 
ตกลงได้ดูชีโระฮารุแล้วสินะครับ
ดูจะไม่ให้เครดิตกับลุงเอนโด้ เคนอิชิ
ในฐานะพ่ออีกคนเลยนะครับ
จริงๆก็ไม่ค่อยอยากแนะนำให้ใครดูหนัง
เรื่องนี้ เพราะกลัวจะมีหลายคน
แย่งความรักจากหนูโนโซมิไป
ตอนนี้กำลังดูซีรีย์ใหม่ที่หนูเขาเล่น
บทไม่เด่นเท่าเรื่องนี้อยู่ดี


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 10 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:19:09 น.  

 
คุณprysangเจออุปสรรคเยอะเหมือนกันนะคะกว่าจะได้ดู
แต่ถ้าไม่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ คุณprysang ต้องเสียดายแย่เลยค่ะ
ที่ต้องพลาดซีรีส์ดีๆไปเรื่องหนึ่ง มะนาวนะคะอ่านที่คุณprysang รีวิว
อ่านไปน้ำตาไหลไป นึกถึงฉากต่างๆที่คุณprysang บรรยายไว้
แล้วก็ต้องเบรคต้องหัวเราะพรืด ตอนที่บอกว่า
ใช่ว่าเด็กทุกคนจะบริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนกันหมด 555 ฝังใจเลยสินะคะ
ตอนที่มะนาวดูเรื่องนี้ชอบหลายอย่างเลยค่ะ
อย่างแรกคือเนื้อเรื่องซึ่งซาบซึ้ง กินใจ
อย่างที่สองคือชอบการแสดงของAbe Hiroshi
แม้ว่าจะชอบอาเบะมากจากการแสดงเรื่อง Kekkon Dekinai Otoko
แต่เรื่องนี้อาเบะแสดงได้อย่างน่าสงสาร แบบรู้สึกสงสารจับใจ
อย่างตอนที่จะช่วยหนูน้อยซาจิตีลังกาบนบาร์โหน
แต่ไม่กล้าใช้มือแตะถูกตัวซาจิ เพราะรู้สึกว่าตัวเองมือเปื้อนเลือดมาก่อน
ดูแล้วสงสารฮารุโอะจับใจ และสุดจะเห็นใจ
อยากแตะต้องตัวลูกแต่ทำไม่ได้
ดูฉากนี้แล้วเรียกว่าน้ำตาไหลแบบกลั้นไม่อยู่เลยค่ะ
และฉากที่เรียกว่าทำนบน้ำตาพังทลาย
ก็คือฉากที่ฮารุโอะและโคจิต่อสู้กับคนร้ายที่ร้านขนมปัง
แล้วฮารุโอะบอกผู้ร้ายอย่างระล่ำระลักว่า
อย่าทำร้ายโคจิเพราะเขาเป็นพ่อของซาจัง
เรียกว่าฉากนี้ก้อนสะอื้นมาจุกอยู่ที่คอเลยค่ะ
รับรู้ได้เลยว่าฮารุโอะยอมรับแล้วว่าโคจิ
เหมาะที่จะเป็นพ่อของซาจิมากกว่าตัวเอง และยอมใช้ชีวิตตัวเองเข้าแลก
เพื่อปกป้องพ่อคนนี้ไว้ให้ซาจัง เรียกว่าน้ำตาไหลปนสะอื้นกันทีเดียว
มะนาวได้รู้จักYoshitaka Yuriko ครั้งแรกจากเรื่องนี้ล่ะค่ะ
ยังคิดเลยว่าสาวเจ้าคนนี้หน้าตาน่ารักจัง
และรู้สึกว่าเธอจะน่ารักกว่าเรื่อง TOKYO DOGS อีกค่ะ
คือมะนาวชอบหน้าตาและการแต่งตัวของเธอในเรื่องนี้มากกว่าค่ะ
และชอบการนำเสนอให้เห็นความรู้สึกของซาจังต่อคุณลุงฮารุโอะ
ที่ให้ซาจังวาดรูปคุณลุงฮารุโอะให้มีปีกแบบนางฟ้า
เป็นการนำเสนอที่แยบยลมาก ที่ให้คนดูได้รับรู้ว่า
สายใยของความสัมพันธ์ระหว่างสายเลือดมันสื่อถึงกันได้
ยังคิดเลยว่าคนเขียนบทเจ๋งจริงๆ แล้วก็มาอ๋อ เมื่อคุณprysang บอกว่า
เป็นคนเดียวกับที่เขียน Kekkon Dekinai Otoko มิน่าฝีมือถึงได้ฉกาจนัก
ถ้าจะไม่ชื่นชมการแสดงของหนูน้อยโนโซมิก็กลัวว่าจะตกเทรนด์
ก็ต้องบอกว่าหนูน้อยแสดงได้สมกับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมล่ะค่ะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 182.53.39.87 วันที่: 11 กรกฎาคม 2554 เวลา:0:26:11 น.  

 
hermes uk tel no Shiroi Haru ฤดูใบไม้ผลิสีขาว ...
hermes birkin fake //romler.dk/how-to-spot-a-well-made-hermes-birkin-fake-purse.asp


โดย: hermes birkin fake IP: 192.99.14.34 วันที่: 12 มีนาคม 2557 เวลา:10:27:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.