|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
Samurai High School สปิริตซามูไรวัยทีน -Life is too short to be little-
Title : Samurai High School Episode: 9 Viewership ratings: 10.5 (Kanto) Screenwriter: Inoue Yumiko Director: Sato Toya (ep1,3,6,9), Inomata Ryuichi (ep2,4,7), Kariyama Shunsuke (ep5,8) Broadcast network: NTV 2009-Oct-17 to 2009-Dec-12 Theme song: Kodoku no Taiyo by monobright
นั่งเรียนแถวกลางหน้าสุด แต่ยังกล้าคอพับหลับคาโต๊ะ แถมยังบังอาจมั่ว ด้วยการบอกคุณครูว่าที่เผลอหลับไปน้ำลายไหลได้ฝันถึงสงครามฤดูร้อนโอซาก้า ทั้งที่กำลังเรียนอยู่ในชั่วโมงคณิตศาตร์ ไม่ใช่วิชาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นอย่างที่คว้าหนังสือมากล่าวอ้างถึงความอิน
ถ้าชอบประวัติศาสตร์ในชั่วโมงคณิตศาตร์นัก คุณครูขอให้รางวัล ไปเขียนมาเลย รายงานน่ะรายงาน สงครามฤดูร้อนที่โอซาก้า เขียนมาเลย 30 หน้า นั่นเป็นสาเหตุที่ โมจิซึกิ โคทาโร่ จำเป็นต้องแวะเวียนเข้าไป "ห้องสมุดประวัติศาสตร์ชิโนโนเมะ" ที่ก็น่าแปลกใจนิดหน่อยว่ามีห้องสมุดตั้งอยู่แถวนี้ด้วยหรือหว่า เขาได้พบกับบรรณาลักษณ์ "ฮิมิโกะ" ผู้ดูลึกลับและประหลาดคน เธอสวมใส่ชุดยูกาตะ พูดจาแปลกๆ เพราะเขาชื่อ โมจิซึกิ โคทาโร่ เธอจึงหยิบหนังสือโบราณเกี่ยวกับวีรชนในสมัยเซนโกกุเมื่อสี่ร้อยปีก่อนมาให้ หนังสือที่จัดอยู่ในประเภท "ห้ามยืม" แต่เธออยากให้เขายืมเพราะมันเหมาะกับเขา
โคทาโร่พบว่า วีรชนในหนังสือโบราณเล่มนี้มีนามว่า "โมจิซึกิ โคทาโร่" เช่นเดียวกับเขา แล้วยังมีอายุ 17 ปี เท่ากันอีกด้วย วีรชนในประวัติศาตร์ที่เหตุการณ์ในหนังสือมันช่างบังเอิญเหมือนกันเป๊ะกับเรื่องที่ฝันกลางวันในชั้นเรียน
โคทาโร่เล่าเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ให้พ่อของเขาฟัง พ่อเขาบอกว่า บางทีมันอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะเคยได้ยินจากคุณปู่ว่า บรรพบุรุษของเราเดิมทีมาจากนางาโนะ และเคยรับใช้ตระกูลซานาดะ นั่นหมายความว่า บางทีโคทาโร่อาจสืบเชื้อสายมาจากซามูไรผู้น่ายกย่องในหนังสือเล่มนี้ โมจิซึกิ โคทาโร่
และเป็นเพราะหนังสือเล่มนี้
เรือนกายของเจ้า ดวงจิตแห่งข้าจะครอบครอง เรือนใจของเจ้า จิตวิญญาณแห่งข้าจะครอบงำ
ข้า รอเวลานี้มานานแสนนาน ในที่สุดเวลานี้ที่ข้ารอคอยก็มาถึง
หรือถ้าจะไม่ต้องใช้คำเยิ่นเย้อเล่น นักเรียนโคทาโร่ ก็โดนวิญญาณซามูไรโคทาโร่เข้าสิงร่างซะแล้ว ชะเอิงเอย
ตอนจังหวะเข้าสิง แล้วลุกขึ้นผงาด
ก๊ากกกก ฮ่าฮ่าฮ่า มันฮาซะจริง สิงครั้งแรก ก็ซื้อใจกันเลย เป็นอันว่า ตกลงคบหาดูใจกับซีรีส์เรื่องนี้ ดูกันต่อไปไม่ทิ้งขว้างจนจบเรื่องได้แน่
Samurai High School เป็นซีรีส์ที่ก็แค่เคยชายตาแล เพราะดูจากหนังหน้าของซีรีส์ ( ภาพแบนเนอร์ , ชื่อเรื่อง และเรื่องย่อ) ก็คงเป็นซีรีส์ป่วยๆ ป่วนๆ ทั่วไป หลังจากพยายามจะหาซีรีส์ญี่ปุ่นดูสักเรื่องมาระยะหนึ่งก็ยังไม่พบเรื่องที่ฝักใฝ่อยากดูสักเรื่อง ทั้งที่เงื่อนไขก็ไม่ได้มีอะไรมากสักนิด แค่นักแสดงที่ชอบกับพลอตเรื่องที่โอเคแค่นั้นเอง ความจริงมีซีรีส์ที่อยากดูอยู่เหมือนกัน คือ Nankyoku Tairiku ของ ทาคุยะ คิมูระ แต่เรื่องนี้ยังไม่มีมาถึงมามือ ไม่อยากดูออนไลน์ทางเน็ตเพราะต้องการดูแอนตาร์กติกาอันขาวโพลนด้วยจอใหญ่ๆ ภาพสวยๆ Yokai Ningen Bem ของคาเมนาชิ คาซึยะ นี่ก็ยังไม่อยู่ในครอบครองเช่นกัน เคยเปิดดูทางเน็ตแล้ว เห็นสมควรต้องเลิกดูเพราะไม่เช่นนั้นคงไม่เป็นอันดู เพราะมัวแต่จะแคบหน้าหล่อๆ ตาสวยๆ กับการแสดงสีหน้าแววตาที่ไม่อยากละสายตาจากไป อาการเดียวกับที่เคยเห็นใน Just one love Run away ของ อิชิฮาระ ฮายาโตะ อยากดูสุดใจขาดดิ้น แต่ตัวละครเยอะบทพูดเยอะ ซับอังกฤษก็ไวดูแล้วปวดหัว ขอรอซับไทยอีกสักพัก ถ้ายังไม่มีคนทำ คงต้องจำใจดูด้วยการต่อสู้กับซับอิงเพื่อฮายาโตะอันเป็นที่รัก
จากนั้นจึงไปสำรวจนักแสดงอื่นๆ เล็งไปที่ มัตสึดะ โชตะ ใน Don Quixote กับ Meitantei no Okite เนื้อเรื่องยังไม่ดึงดูดใจเท่าไหร่ ไปลองดู โอการิ ชุน กับเรื่อง Juui Dolittle ดูท่าพระเอกจะรักหมารักแมวมากกว่านางเอกเยอะ เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่า แต่ถ้าเป็นเรื่อง Sayonara Aruma แม้ชุนจะไม่ใช่พระเอกกก็ยังอยากดูจัดด้วยพลอตเรื่องที่น่าสนใจ แต่หาดูไม่ได้เพราะไม่เห็นแม้แต่ซับอิง Lucky Seven กับสองพลังดึงดูด นากะ ริสะ และ เอตะ แต่ตอนนี้กลับยังไม่อยู่ในอารมณ์อยากดูซีรีส์แนว detective หันไปสำรวจ Voice สักนิด ไม่มี มัตสึโมโต้ จุน มาแย่งซีนเอตะเหมือน Lucky Seven แต่พอเห็นหน้าบึ้งๆ ของน้องหนู อิชิฮาระ ซาโตมิ ก็ไม่ไหวจะทน ไปดูอดีตหนุ่มๆ Tumbling กับบ้าง มิอุระ โชเฮ กับเรื่องเก่าไต้หวัน ญี่ปุ่นเอามาทำและเอามารีเมกใหม่อีกครั้ง Hanazakari no Kimitachi ก็ยังไม่อยู่ในอารมณ์อยากดูความโนเนะ ลองเช็ค ไดโตะ ชุนสุเกะ กับ ยามาโมโตะ ยูสุเกะ กับเรื่อง Ouran High School Host Club ก็ ...เฮ้อ หน่อมแน้มไปหน่อยยังไม่ไหวจะเคลียร์
ถ้าคิดอะไรไม่ออก บอกเขาคนนี้ โจ โอดากิริ มีแสดงตุนไว้ใหม่ๆ ในเรื่อง Shinya Shokudo ทั้ง 2 ภาค เขาว่ากันว่าซีรีส์เรื่องนี้ดีมาก ลองดูแล้ว มันเป็นซีรีส์อารมณ์ลุ่มลึกที่ต้องใช้เวลาว่างจัดจริงๆ จนสามารถนอนเกลือกกิ้งบนโซฟาหน้าจอทีวีได้ทั้งวัน แล้วค่อยๆ ซึมซับกับเนื้อหาแบบไม่ต้องห่วงว่าวันนี้มีธุระอะไรต้องรีบไปทำ อันจะเป็นการหลุดจังหวะขาดช่วง จนทำให้ไม่ซาบซึ้งในรสพระธรรมเท่าที่ควร ในภาวะคับขันอย่างนี้ที่ความติสท์ของโจเคยช่วยได้ ก็ไม่อาจจะช่วย จึงต้องมาลงเอยตรงนี้อย่างไม่มีปีมีขลุ่ย
Samurai High School
ดูแล้วมันก็ขำ โดยเฉพาะตอน "องค์ลง" ซามูไรโคทาโร่ท่านก็ผงาดขึ้นมาอย่างน่าเกรงขาม แต่..มันไม่ได้เข้ากันเล้ย กับสถานการณ์แวดล้อมและอาวุธที่ท่านจะหยิบจับขึ้นมาใช้สอยแทนดาบซามูไร
ไม่ถึงกับเป็นซีรีส์ที่ขำเรี่ยราดอยู่ตลอดจนจะพูดได้ว่ามันแสนสนุกสุดฮาหรอกนะคะ เพียงแต่เป็นคอมเมดี้ที่สอดแทรกความตลกและแง่คิดดีๆ เป็นระยะ ความแตกต่างของท่านซามูไรวัย 17 ผู้องอาจ สุดจะมาดแมน กับหนุ่มนักเรียน ม.ปลายวัย 17 ที่ไม่เอาไหน ผลการเรียนก็รั้งท้าย การสอบเข้ามหาวิทยาลัยยังเป็นเส้นทางที่มืดมน และตัวโคทาโร่เองก็ไม่มีความตั้งใจหรือเป้าหมายใดต่ออนาคตตัวเอง ยังไม่นับที่เป็นคนขี้ขลาดตาขาว แค่รักเฮฮาสนุก แต่ถ้ามีเรื่องมีราว ไม่เอ๊าไม่เอา เค้าไม่ยุ่ง พูดง่ายๆ คือ เขาเป็น จอมเห่ย เฝร่ยซะไม่มี
จนมาได้พบกับห้องสมุดน่าสงสัย บรรณารักษณ์แปลก และหนังสือประหลาดที่ทำให้มีบางสิ่งบางอย่างปะทุขึ้นในร่างกายและจิตใจของเขาอยู่เป็นระยะ
นั่นคือ "องค์ลง" หรือเรียกอีกทีให้ง่ายกว่าคือ "เข้าสิง" (แต่ใช้คำนี้เหมือนท่านซามูไรโคทาโร่เป็นผีร้ายยังไงก็ไม่รู้สินะ) เวลาที่โดนสิง โคทาโร่จะยังรู้ตัวเอง และรู้เห็นทุกคำพูดการกระทำของท่านซามูไรที่อยู่ในร่างตน เป็นสองวิญญาณในร่างเดียว เพียงแต่โคทาโร่จะแค่รับรู้ ทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้ เพราะผู้ครองร่างคือท่านซามูไร ซึ่งโคทาโร่ไม่สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นตัวเองเองได้
ท่านซามูไรโคทาโร่ ท่านก็ผลุบผลับ เข้าๆ ออกๆ แต่ยามท่านเข้า ท่านก็เข้ามาสิงอย่างมีสาระ(ของท่านเอง)เต็มที่ แม้สถานการณ์จะไม่ได้เป็นใจไปกับท่านที่เปี่ยมไปด้วยความจริงจังตั้งใจและใช้วิธีแก้ปัญหาตามแบบฉบับของเกียรติศักดิ์ชามูไรผู้เป็นชายชาตินักรบ (รบกับอะไรก็ได้ ตั้งแต่สงครามยันปัญหาขี้ปะติ๋วของเด็กนักเรียน ม.ปลาย)
อายุ 17 เท่ากัน คนหนึ่งมีภาระรับผิดชอบใหญ่หลวง เป็นซามูไรรับใช้บ้านเมือง ออกรบในสงครามและสังเวยเลือดเนื้อตามวิถีชายชาตินักรบที่อุทิศตนเพื่อชนรุ่นหลัง
ส่วนอีกคน ..เอ่อ ขอย้ำอีกครั้ง เห่ย! เฝร่ยซะไม่มีดี
แต่การครอบงำของท่านซามูไร จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงโคทาโร่จอมเห่ยให้เรียนรู้และเติบโต แม้คาแร็คเตอร์ของนักเรียนโคทาโร่ จะออกแนวการ์ตูนอยู่บ้าง แต่ก็จะเห็นได้ว่าตัวละครมีพัฒนาการไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นบทสรุปที่ว่า แท้จริงแล้วทั้งนักเรียนโคทาโร่และซามูไรโคทาโร่ ไม่ได้แตกต่างกันเลย ไม่ว่าจะแบบทะนงองอาจ หรือแบบขลาดกลัว โดยพื้นจิตใจมีความดีงามเหมือนกัน เพียงแต่ว่าของโคทาโร่นั้นมันอยู่ลึกไปหน่อย (5555) เพราะสังคม สภาพแวดล้อม การเรียนรู้ในยุคสมัยที่มีการแข่งขัน มีความเหลื่อมล้ำ มีความพลิกแพลงยอมรับสิ่งผิดกลายเป็นถูก หรืออะไรก็ตามแต่ที่ทำให้โคทาโร่ไม่เห็นว่ามีความสำคัญอะไรนักที่จะต้องต่อสู้กับมันให้ตนเองหรือคนอื่นๆ รอบตัวต้องเดือดร้อน
ดังนั้น ปรากฏการณ์องค์ลงของซามูไรโคทาโร่ จะช่วยขุดคุ้ยเอาตัวตนก้นบึ้งจิตใจของโคทาโร่ให้โผล่ขึ้นมาทีละนิด จากไอ้หนุ่มจอมแหย 'ความกล้า' ของโคทาโร่จะค่อยๆ งอกเงย เติบโต และผลิบาน
สาเหตุที่ทำให้ชอบซีรีส์เรื่องนี้ จึงเป็นเพราะมันเป็นซีรีส์ที่น่าจะไร้สาระ แต่เอาเข้าจริงมันไม่ไร้สาระนัก รู้สึกชอบตั้งแต่ ep แรกๆ ที่สื่อประเด็นออกมาชัดในเรื่องของการใช้ชีวิตอย่างกล้าหาญ มันอาจจะฟังดูเป็นคำพูดที่สวยหรูเกินไปเมื่อนำมาใช้กับชีวิตเล็กๆ ปัญหาเล็กๆ ของเด็กๆ มัธยม ที่ก็มีความเว่อร์ๆ ไปบ้างตามประสาซีรีส์วัยเรียนของญี่ปุ่นเขา แต่นั่นก็เป็นตัวอย่างที่ดี เพราะคนจะกล้าเผชิญหน้ากับเรื่องใหญ่ๆ ได้ ก็ต้องเริ่มที่จะกล้าเผชิญหน้ากับเรื่องเล็กๆ และสิ่งต่างๆ รอบตัวนี่แหละ ปลูกฝังความกล้าแต่เยาว์วัยเพื่อเติบใหญ่อย่างมีคุณภาพ คนญีปุ่นจึงเป็นคนที่ค่อนข้างจะน่าอิจฉา ที่อย่างน้อยบนหน้าจอโทรทัศน์ก็มีสื่อที่ช่วยกันกล่อมเกลา ไม่ใช่แค่เยาวชน คนเป็นพ่อเป็นแม่หรือครูเท่านั้น แต่เป็นคนทั่วๆ ไป ที่ได้ดู ได้รับรู้แง่คิดทัศนคติต่อชีวิต การกระทำตอบสนองอันเป็นแบบอย่างที่ดีๆ
มีบางครั้งที่คนเราต้องก้มหน้ายอมรับในสิ่งผิด บางทีใจเราไม่ได้ยอมรับ แต่เราก็เลือกจะปิดปาก เพราะรู้ไม่มีประโยชน์ที่จะโต้แย้งออกไปให้เป็นเรื่องเป็นราวไม่จบสิ้น มีบางครั้งที่เราไม่กล้าจะชี้ลงไปอย่างกล้าหาญว่าสิ่งนี้สิ่งนั้นมันไม่ถูกต้องนะและเราต้องหยุดมัน เพราะถ้าทำอย่างนั้น อาจมีคนที่ต้องเดือนร้อนหรือผิดใจกัน ถ้าโต้แย้งออกไปเหมือนปัญหามันจะยิ่งหนักขึ้น มีบางคราวที่เราต้องทำปิดหูปิดตาแล้วเงียบลง ถือซะว่าถ้ามันไม่เกี่ยวกับเรา ก็อย่าไปยุ่งกับเขา หน้าที่ใครหน้าที่มัน แม้ว่าภาพลักษณ์โดยรวมมันจะสุดย่ำแย่ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้นี่ หรือแม้แต่อะไรที่มันเกี่ยวกับเรา และเราต้องเดือดร้อน มันคงดีกว่า ถ้าเราจะอดทนแล้วพยายามก้มหน้าแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เพราะถ้าพูดออกไป ก็คงต้องผิดใจกัน แล้วจะอยู่ร่วมกันต่อไปในวันข้างหน้าได้อย่างไร เรื่องบางเรื่องแม้เราอยากต่อต้านเต็มแก่ แต่ก็รู้อยู่แล้วเหมือนเอาไม่ซีกไปงัดไม่ซุง สุดท้ายไม้ก็หักโดยที่ซุงไม่ได้ขยับเขยื้อนสักนิด แล้วเราจะทำอะไรได้นอกจากยอมแพ้ แล้วเหลือไว้แค่เพียงเสียงเล็กๆ ในใจฉัน ทำแบบนี้ได้ยังไง นี่มันไม่ถูกนะ ไม่ควรทำแบบนี้เลย ตามมาด้วยอารมณ์บูดและอารมณ์บ่น ฉอดๆๆ อีกเป็นกระบุงโกย จิตใจที่อัดแน่นไปด้วยความอึดอัดคับข้องในเหตุผลต่างๆ นานา ที่อยากจะโต้แย้งออกไป แต่ มันก็ยังเป็นแค่เสียงเล็กๆ เบาๆ ในใจฉัน หรือถ้าจะดังกว่านั้นหน่อยก็เป็นเสียงที่ก่นออกมาจากใจและพ่นออกมาจากปาก แต่ว่า ผู้รับฟัง คือเครื่องโทรศัพท์ไร้ชีวิตที่มันแน่นิ่งอยู่บนโต๊ะทำงาน ประหนึ่งโทรศัพท์กับคนที่วางสายไปแล้วเป็นบุคคลเดียวกัน ความในใจที่พูดออกไปกับคนไม่ได้ ได้พูดออกไปกับโทรศัพท์ก็ยังดี แบบว่า เก่งลับหลังตลอด มันก็เป็นเช่นนั้นแหละ เพราะถ้าดื้อแต่จะตรงไปตรงมาอย่างใจโดยไม่แลทิศทางลม ชีวิตพนักงานเล็กๆ อาจจะโดนฝนฟ้ากระหน่ำได้ ปะเหมาะเคราะห์ร้ายจะเจอสายฟ้าฟาดเข้าให้ด้วย
People will only listen to what the strong and intelligent people have to say. ผู้คนจะรับฟังคำพูดจากคนที่แข็งแกร่งและชาญฉลาด (ถ้าอยากให้ผู้คนรับฟัง ก็จงเป็นคนแข็งแกร่งและฉลาดซะ)
The strong will always continue to win and the weak will continue to get nothing. คนที่แข็งแกร่งจะชนะอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ และคนที่อ่อนแอจะไม่ได้อะไรอยู่เรื่อยไป
ในสังคมการทำงาน ผู้เขียนเองก็ได้เรียนรู้และมองเห็นความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ในปัจจุบัน มันเป็นสังคมที่อยู่ได้ยากขึ้น การแข่งขันสูง ระบบการประเมิณผลงานที่เข้มข้นในประสิทธิผลของการทำงานแต่เป็นเพียงส่วนประกอบจางๆ เมื่อถึงเวลาตัดเกรด เกมการเมืองเล่นกันแรง มันอาจไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณทำอะไรเสมอไป เพราะบางครั้งมันอยู่ที่ว่าคุณเป็นเด็กใคร เป็นเหมือนดาบสองคมที่ด้านหนึ่งก็ทำให้คนต้องกระตือรือร้นเป็นพวกไฟแรงสูงตลอดเวลา แต่อีกด้านหนึ่ง ก็ทำให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลต่อกันมีน้อยลง และผู้ที่แข็งแกร่งกว่าจะเป็นผู้ชนะเสมอ ผู้แข็งแกร่งที่จะชี้อะไรเป็นต้องได้อย่างนั้น ส่วนผู้อ่อนแอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะเป็นผู้ที่ต้องรับชะตากรรม เพราะบางครั้งมันไม่ได้สำคัญที่ว่าใครพูดอะไร แต่มันสำคัญอยู่ที่ใครเป็นคนพูด
คนฟังบางคนนั้น เมื่อเขารักที่จะฟังใคร ไม่ว่าพูดอะไรก็จะรับฟังเสมอและเชื่อเสมอ แต่ถ้าเขาไม่รักที่จะฟังใคร ไม่ว่าจะแหกปากพูดอะไรก็เปล่าประโยชน์ แม้ว่าสิ่งที่เขาเลือกฟังเลือกเชื่อ จะผิดพลาดขึ้นมาในภายหลัง คนที่ไม่ถูกฟังก็จะยังผิดอยู่ดีในข้อหาทำไมไม่รู้จักพูดให้มันชัดๆ กว่านี้ ก็หวังว่าคุณจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่โชคร้ายเช่นนั้น -สาธุ-
นอกเรื่องไปละ กลับมาว่ากันถึงซีรีส์เรื่องนี้ ที่ได้บอกกับผู้เขียนว่า
อย่ากลัว อย่ายอมแพ้ อย่าก้มหน้ายอมรับในสิ่งผิด อย่าตัดสินใจทำอะไรในสิ่งที่ตัวเราเองจะต้องเสียใจในภายหลัง
หลังจากนั้น เมื่อไม่กลัว ไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมรับในสิ่งผิด ก็จะต้องต่อสู้เพื่อความยุติธรรม สู้..เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ถูกต้อง
จริงอยู่ มันก็แค่ละคร ในโลกของความเป็นจริงมันไม่ได้ง่ายดายที่จะยึดติดกับอุดมการณ์บานฉ่ำพวกนี้นักหรอก แต่การได้รู้สึกถึงมันจากการดูละคร อย่างน้อยมันก็เกิดความจรรโลงใจบ้างล่ะน่า
ชีวิตควรจะเป็นอะไรที่สุขสงบและเรียบง่าย ดังนั้น โคทาโร่จึงไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยวกับอะไรที่จะทำให้ชีวิตต้องยุ่งยาก ถ้าหากเห็นเค้ารางๆ มันจะเป็นปัญหาก็แค่ยอมๆ ให้จบไป จะได้ไม่ต้องเดือดร้อน ส่วนกับคนที่เห็นอยู่ว่ากำลังเดือดร้อน ใจก็อยากช่วย แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปช่วย ถ้าไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่น ใครจะรู้ บางทีนั่นอาจจะทำให้เขาต้องเดือดร้อนมากกว่าเดิมก็ได้ ถ้าปล่อยให้มันเป็นไป บางทีมันก็แค่จบไป ถ้าอยากจะมีชีวิตเรียบง่าย ไม่ต้องเป็นลูกผู้ชายนักก็ได้ หงอบ้าง แหยบ้าง อะไรบ้าง จะเป็นไรไป
ซึ่งซามูไรโคทาโร่จะไม่ได้มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของโคท่าโร่คนเดียวเท่านั้น แต่ยังเผื่อแผ่ไปถึง เพื่อนๆ รอบตัวของโคทาโร่ โดยเฉพาะ นากามูระ ที่ก็แหยพอกันกับโคทาโร่นั่นแหละ ชิโรตะ ยู ผู้รับบทนี้ แรกๆ นั้นออกจะขัดหูขัดตาชอบกล กับผู้ชายตัวโตๆ ที่เล่นอยู่ในบทเหนียมๆ เจี๋ยมเจี้ยมและหงอสุดๆ แต่ดูไปดูมาก็เริ่มเคยชินกับคาแร็คเตอร์ของเขาและคิดว่ายูเล่นได้น่ารัก..ซะงั้น!
ไม่เฉพาะแต่นักเรียน ในหมู่คุณครูก็มีความแตกต่างในเรื่องทัศนคติ ที่จะใช้แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (มันคงเป็นสูตรของซีรีส์โรงเรียนสินะ) ก็เหมือนๆ กับโลกความเป็นจริงที่เพิ่งพล่ามไป มันไม่สำคัญว่าใครคิดอย่างไร มันสำคัญอยู่ที่ "ใครใหญ่" และมีอำนาจตัดสินใจ ซึ่งก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ท่าน ผอ. ที่เลือกนักแสดงมาอย่างเหมาะสม เห็นหน้าก็ไม่สบอารมณ์จอยแล้วล่ะ ป้าคนนี้เธอหน้าตาดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่ว่าในเรื่องเธอก็ไม่ได้ร้ายกาจอะไรมากมายหรอกนะคะ ก็แค่พอหอมปากหอมคอ
เรื่องยากของครูคนดี คือการที่ไม้ซีกลำพังคนเดียว มันงัดไม่ซุงอย่างท่าน ผอ. ไม่ไหว แล้วก็ต้องจำใจบอกกับนักเรียนให้ยอมรับในสิ่งที่ตัวครูเองก็เห็นว่ามันเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง และเป็นสิ่งที่ไม่สมควรยอมรับได้ ครูกับนักเรียนในซีรีส์โรงเรียนจะได้เรียนรู้ผิดถูกด้วยกันเสมอ และในที่สุดแล้วครูที่ดีก็จะมีสติและยืนหยัดเป็นที่พึ่งให้แก่นักเรียนได้ ดูเหมือนว่า "ความเชื่อใจ" จะถูกตั้งเป็นหลักยึดเหนี่ยวของคุณครูแสนดีในซีรีส์โรงเรียนเสมอ
ชอบคุณครูซายากะในเรื่องนี้มากๆ หน้าตาของเธอเข้ากันเหลือเกินกับการเป็นคุณครูที่ต้องอยู่ภายใต้ความกดดัน เพราะเด็กๆ ของเธอมักมีปัญหา และหนทางที่เธออยากแก้ปัญหาก็มักเป็นความเห็นโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางคณะครูที่ไม่ได้เห็นด้วยกับเธอนัก
คุณตำรวจโมโตยามะ ก็ชอบคุณครูหน้าเครียดคนนี้เหมือนกัน เพราะความปั่นป่วนวุ่นวายที่มาพร้อมกับท่านซามูไร ทำให้คุณตำรวจต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเด็กๆ และจับตามองคุณครูด้วยมีใจชะแว้บแอบปิ๊ง เป็นเรื่องกุ๊กกิ๊กอันเจือจางที่อย่างน้อยก็ช่วยสร้างความน่ารักในทางนี้ได้บ้าง เพราะระหว่างพระเอกโคทาโร่ กับนางเอกอาอิ ก็ไม่ได้มีอะไรแหววนัก
ซีรีส์ก็เว่อร์ๆ ไปตามน้ำ แต่ว่าไม่ขาดสาระที่สอดแทรก
Are you leaving behind any regrets ? เจ้ากำลังจะจากไปทั้งที่ยังมีอะไรเสียใจอยู่หรือเปล่า
Have you had full life ? เจ้าใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แล้วหรือยัง
I have lived my life always thinking about death right in front of me. My whole life will make sense in the honorable death with my greatest pride. ข้าใช้ชีวิตโดยคิดถึงว่าความตายมาอยู่ตรงหน้าข้าเสมอ ชั่วชีวิตของข้าจะเป็นไปในทางที่ข้าจะตายอย่างมีเกียรติ ด้วยความภาคภูมิใจยิ่งใหญ่
นี่ถ้าเป็นหนังสงครามสละชีพเพื่อแผ่นดิน พูดอย่างนี้อาจมีขนลุก แต่เมื่อมาอยู่ใน Samurai High School จะอะไรอื่นได้ นอกจากยิ้มขำให้กับความเอาจริงเอาจังของท่านซามูไรโคทาโร่
Life is too short to be little. ชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะเป็นคนเล็กๆ น้อยๆ
Life is too short , you dont have the time to worry about everthings Please give your best effort without avoiding confrontations until the end to win. ชีวิตมันสั้น พวกเธอไม่มีเวลาไปกังวลกับทุกๆ สิ่ง ,โปรดใช้ความพยายามที่ดีที่สุดของเธอโดยปราศจากความหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าไปจนถึงที่สุดที่พวกเธอจะชนะ
ชอบประโยคนี้มากๆ Life is too short to be little คมค่ะคม มีคนกล่าวไว้ว่า อย่าปล่อยให้ตัวเราต้องหงุดหงิดกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราควรจะละทิ้งหรือลืมมันไป อย่าเสียเวลาไปกังวลกับเรื่องไร้สาระที่มันไม่ได้ทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มันสำคัญจำเป็นกับชีวิตของเราดีกว่า เรื่องมีสาระที่มันจะมีผลดีๆ ต่อชีวิตของเรา โปรดจำไว้ว่า ชีวิตนั้นสั้นเกินกว่าจะ. . .เป็น อยู่ คือ ในเรื่องเล็กๆ (ประโยคแรกกับประโยคหลังนี่จำเขามา)
ท่านซามูไรวัยสิบเจ็ด ท่านมาอย่างไร มาเพื่ออะไร และจะจากไปอย่างไรนั้นเป็นที่น่าสงสัยอยู่ แต่ที่ไม่ต้องสงสัยคือท่านเป็นคนสุดดี ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า สุดแมนมว๊ากกก! เดินนี่ต้องอาดๆๆๆ อกผายไหล่กาง ตาขวาง เอาเรื่อง แต่ดูไปดูมา ดูเหมือนจะเป็นโรบอทหรือไม่ก็ผีดิบซามูไร มากกว่าจะเป็นซามูไรผู้องอาจน่ะนะ
ในส่วนที่เป็นบทบาทของโคทาโร่เจ้าของร่าง บอกตามตรงว่าไม่ชินกับฮารุมะในบทอย่างนี้เลย ไม่เคยเห็นเขาเล่นเป็นคนรั่วๆ ไร้สาระ ขี้ขลาดอีกต่างหาก (มีดีบ้างไหมเนี่ย) การแสดงคาแร็คเตอร์นี้ที่ต้องเว่อร์ๆ ในกริยา หัวเราะ ร้องไห้ สะดุ้งตกใจโหยง อะไรเทือกนี้ ในสายตาผู้เขียนเห็นว่าไม่ค่อยจะเข้ากันกับฮารุมะนัก อาจเป็นเพราะไม่ชินมั้งคะ นี่ถ้าได้ซาโต้ ทาเครุ เชื่อว่าคงจะโอเคกว่านี้มาก ( หุหุ ใช่ว่าฮารุมะหล่อมากแล้วจะไม่มีโอกาสถูกนอกใจ)
นอกจากข้อคิดดีๆ แล้ว สิ่งที่ชอบมากอีกอย่างในซีรีส์เรื่องนี้ คือ สาระครอบครัวของโคทาโร่
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นน่ารักมาก สังเกตเห็นอีกเรื่องแล้วเกี่ยวกับการอบรมสั่งสอนลูก แม้บางครั้งแม่อยากจะพูดใจจะขาด แต่ก็ต้องขอให้พ่อเป็นคนพูด พอพ่อพูดไม่ได้ดั่งใจแม่ก็จะหงุดหงิด น่ารักดีค่ะ แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นหรอก ประเด็นมันอยู่ที่ความรักความเข้าใจที่มันจะมีได้ก็ด้วยความใกล้ชิด โต๊ะกินข้าว เป็นจุดๆ หนึ่ง ของการบอกเล่าพูดคุยกันที่เรามักจะเห็นในซีรีส์ญี่ปุ่นเป็นปกติ
แต่ที่เห็นในซีรีส์เรื่องนี้มีมากกว่าโต๊ะกินข้าวคือ ฉากในห้องนอนของโคทาโร่ ที่คุณพ่อจะต้องแวะเวียนเข้ามาแล้วพูดคุยกันสองพ่อลูกเสมอเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวัน วันละนิดละหน่อย การแสดงออก การพูดคุย คุณพ่อรู้จักซักถามในแบบที่คนฟังคงไม่ลำบากใจเท่าไหร่ที่จะเล่า คุณพ่อที่ฟังและเคารพในความคิดเห็นของอีกฝ่าย จะบอกว่าไงดี คือเหมือนไม่มีเส้นแบ่งว่าเป็นความคิดผู้ใหญ่ความคิดเด็ก หรือฉันคือพ่อนะเธอเป็นลูก ทำนองนั้นน่ะค่ะ เหมือนเป็นเพื่อนเท่าเทียมกันมากกว่า แล้วคุณโกโร่ที่แสดงเป็นคุณพ่อก็ดูอบอุ่นใจดี เป็นคนแก่ที่หล่อและเท่มาก ยิ่งเมื่ออยู่ในคาแร็คเตอร์คุณพ่อลักษณะนี้ เขาเป็นคุณพ่อสุดเจ๋ง บ้านไหนมีคุณพ่อแบบนี้เป็นผู้นำ ครอบครัวคงร่มเย็นเป็นสุขน่าดู
แขกรับเชิญคุ้นหน้าคุ้นตาบ้าง คาคุหล่อดี ทรงผมนี้เข้ากัน หน้าตาเขาดูโดดเด่นดีนะ ทั้งที่ใน Tumbling ที่เป็นซีรีส์เรื่องต่อมา ผู้เขียนแทบไม่เห็นเขาเข้าตาเลย คงเป็นเพราะ Tumbling เต็มไปด้วยนักแสดงวัยรุ่น ทั้ง ยามาโมโต้ ยูสุเกะ , ไดโตะ ชุนสุเกะ , มิอุระ โชเฮ , เซโต้ โคจิ ฯลฯ แค่นี้ก็แย่งซีนไปกินหมดแล้ว ยังไล่ไปไม่ถึงรายชื่อนักแสดงลำดับที่แปดอย่างคาคุเลยด้วยซ้ำ
Unless you fight, you will never win. You must not give up until the very end. If you make a mistake, correct it. Do not blame to someone else for your fault. If you were born into this world, live your life fully with all your might.
เธอจะไม่มีวันชนะ เว้นแต่ว่าเธอจะต่อสู้ เธอต้องไม่ยอมแพ้ไปจนถึงที่สุด ถ้าเธอทำผิดพลาด แก้ไขมัน อย่าโทษคนอื่นสำหรับความผิดพลาดของตัวเธอเอง ถ้าเธอได้ถือกำเนิดมาในโลกนี้,ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ด้วยกำลังทั้งหมดของเธอ
You have a beautiful sward inside your heart. That is your kindness and thoughtfulness you have. Keep that sword inside your heart and keep on fighting.
เธอมีดาบที่สวยงามอยู่ในหัวใจของเธอ นั่นคือความกรุณาอาทรที่เธอมี รักษาดาบนั้นไว้ในหัวใจเธอและต่อสู้ต่อไป
ด้วยถ้อยคำอันสละสลวยความหมายสวยงาม (หมายถึงภาษาอังกฤษนะ ไม่ใช่ที่แปลเห่ย ) สำหรับผู้เขียนแล้ว จึงถือว่า Samurai High School เป็นซีรีส์น่ารักที่ดีใช้ได้เลยทีเดียว
ภาพและข้อมูล : Dramawiki
Create Date : 10 เมษายน 2555 |
Last Update : 12 เมษายน 2555 13:34:43 น. |
|
8 comments
|
Counter : 10498 Pageviews. |
|
|
|
โดย: meaw IP: 180.214.209.87 วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:0:43:38 น. |
|
|
|
โดย: Hotaru IP: 58.11.22.134 วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:1:52:03 น. |
|
|
|
โดย: prysang วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:7:57:09 น. |
|
|
|
โดย: dreaminem IP: 203.146.136.113 วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:14:43:46 น. |
|
|
|
โดย: louis vuitton borse IP: 94.23.252.21 วันที่: 12 สิงหาคม 2557 เวลา:12:56:00 น. |
|
|
|
โดย: ugg australia target market IP: 192.99.14.34 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2557 เวลา:23:00:19 น. |
|
|
|
โดย: uggs pantoffels maten IP: 192.99.14.34 วันที่: 3 ธันวาคม 2557 เวลา:8:43:29 น. |
|
|
|
|
|
|
จำนวนผู้ชม คน
: Users Online
|
|
|
|
|
|
|
ชอบตอนโคทาโรมัดจุกขึ้นไปแบบซามูไรน่าร๊าก เท่ด้วย ^ ^
แอน วาตานาเบ้ นางเอกหน้าตาแปลก ๆ ผอม ๆ ไงไม่รู้
รวม ๆ ชอบนะเรื่องนี้มีแง่คิดให้เราได้ด้วย