Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
27 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
It's Okay Daddy's Girl ไม่เป็นไรนะ ลูกสาวของพ่อ


แค่ชื่อเรื่องก็เรียกร้องความสนใจได้เป็นอย่างดี ประกอบกับเนื้อหาที่ได้อ่านสั้นๆ จาก //www.series8-fc.com ก็ดูจะเป็นเนื้อหาที่ดีดึงดูดความสนใจอย่างมาก "อึนแชรยองลูกสาวคนเล็กสุดขอบครอบครัวอึน ถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจ เธอจะมักทำอะไรแบบเด็กๆ และต้องพึ่งพิงผู้เป็นพ่อของเธอโดยตลอด จู่ๆ วันหนึ่งพ่อของเธอประสบอุบัติเหตุ เธอกลับพบว่าเธอนั้นต้องประสบปัญหามากมายในชีวิตจริง และเธอถูกทุกอย่างรอบตัวบังคับให้เธอต้องรู้จักเติบโต และเป็นคนที่รู้จักพึ่งพาตัวเอง...."

เป็นเช่นนั้นค่ะ และขอเล่าต่อเอง อึนกีฮวานพ่อของแชรยอง (Park In Hwan) เป็นรองประธานบริษัทยักษ์ใหญ่และถือได้ว่าเป็นคนที่มานะบากบั่นในการสร้างเนื้อสร้างตัวจนมีฐานะดีเพียงพอในการเลี้ยงดูสมาชิกครอบครัวทุกคนให้มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย

อึนเอรยอง (Lee Hee Jin) ลูกสาวคนโต สวย เก่ง เรียบร้อย จิตใจดีและเป็นคนที่มีความเข้มแข็งในจิตใจ เป็นผู้หญิงดีๆ คนหนึ่งเท่าที่พ่อแม่จะเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมาดีอย่างเพียบพร้อมได้ อึนโฮรยอง (Kang Won ) ลูกชายคนรอง เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพ่อแม่และอยู่ในระหว่างเข้าประจำการเป็นทหาร อึนแชรยอง (Moon Chae Won ) ลูกสาวคนเล็กของพ่อแม่ น้องสาวคนเล็กของพี่ๆ แชรยองจึงเป็นลูกแหง่ขี้อ้อน เอาแต่ใจตัวเอง นอกจากทำอะไรไม่เป็น ( ป็นแต่แบมือขอเงิน) แชรยองยังดูเป็นคนหยิ่งถือตัวอีกด้วย เฮียวซุกฮี (Kim Hye Ok ) ภรรยาของอึนกีฮวาน ที่ไม่ทำงานอะไรแต่ถนัดใช้เงิน สิ่งที่สนใจทำมีอยู่เรื่องเดียวคือการหาสามีสวยๆ ให้ลูกสาว เฮียวมันซู (Yoo Seung Mok ) น้องชายของเฮียวซุกฮีที่อาศัยอยู่ร่วมในครอบครัว เป็นคนไม่เอาไหนเท่าที่คนๆ หนึ่งจะเป็นได้ ทำอะไรก็ล้มเหลว ทำอะไรก็กลายเป็นเรื่องเดือดร้อนมาสู่ครอบครัว

เป็นลูกสาวคนเล็กที่พ่อแม่รักและตามใจ แชรยองจึงได้ไปเรียนต่อไกลถึงต่างประเทศ เมื่อถึงกำหนดเดินทางกลับเกากลี ก่อนกลับแชรยองอ้อนพ่อขอซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบหนึ่งที่มีราคาแพงมาก อึนกีฮวานไม่ยอมตามใจง่ายๆ ไม่ว่าแชรยองจะงัดไม้ไหนมาใช้กับพ่อก็ตาม แชรยองมีเพื่อนเกาหลี 2 คนที่เรียนด้วยกัน คือ ปาร์คจางซุก (Jun Tae Soo ) และโบรา จางซุกชอบพอแชรยอง และเสนอจะซื้อกระเป๋าใบนั้นให้เธอเอง แต่แชรยองปฏิเสธเพราะเธอไม่ได้คิดจะคบหากับเขาในฐานะแฟน แม้ไม่ได้กระเป๋าแต่แชรยองก็ยอมเดินทางกลับเกาหลีมาพบหน้าพ่อด้วยอาการกระเง้ากระงอดเพราะงอนพ่อเรื่องกระเป๋า (นิสัยนะ มันน่าไม้เรียวสักสี่ห้าหวด) กลับมาไม่กี่วัน เห็นลูกหน้างอทุกวันอึนกีฮวานก็ทนไม่ไหว ยอมตามใจซื้อให้ในที่สุด

โบราเพื่อนของแชรยองแอบหลงรักจางซุก และตั้งใจจะสารภาพรัก สองสาวจึงตกลงใจตามคำชักชวนของจางซุกตามเขาไปดื่มที่ผับแห่งหนึ่ง เพื่อหาโอกาสให้โบราได้เปิดเผยความรู้สึก (ที่ผับเนี่ยนะ?) แต่จางซุกมีเจตนาไม่ดีตั้งแต่แรก เขาจ้างวานเชวด๊อกกี (Shin Min Soo) เพื่อวางแผนนำตัวแชรยองมารวบหัวรวบหาง แชรยองอยากเปิดโอกาสให้โบราอยู่กับจางซุกตามลำพังจึงโทรให้พ่อของเธอมารับและแยกตัวออกมา ที่หน้าผับ ด๊อกกีเข้ามาคุกคามเพื่อจะฉวยโอกาสนำตัวเธอไป แชรยองสัมผัสถึงอันตรายรีบโทรศัพท์หาพ่อและร้องให้ช่วย อึนกีฮวานมาถึงผับทันเวลา พบด๊อกกีกำลังลากตัวแชรยองไป เขาโกรธมากที่ด๊อกกีคิดทำร้ายลูกสาวของตนจนเกิดการใช้กำลังกันขึ้น อึนกีฮวานผลักด๊อกกีล้มหัวไปฟาดกำแพง ก่อนคนแก่และคนหนุ่มจะเจ็บตัวมากกว่านั้น ก็มีชายหนุ่มสามคนเข้ามาช่วยหย่าศึกเสียก่อน
อึนกีฮวานแจ้งความ ที่สถานีตำรวจเขากระชากคอเสื้อดุกกี หัวอกของคนเป็นพ่อได้เค้นเอาความรู้สึกจากส่วนลึกของใจที่ทั้งรักทั้งหวงแหนลูกสาว คำพูดทุกคำของอึนกีที่ทั้งตักเตือนและข่มขู่ด๊อกกีไม่ให้คิดมาทำร้ายลูกสาวตนอีก มันกระทบใจด๊อกกีอย่างไรก็สุดรู้ รู้แต่ว่าไอ้หนุ่มอันธพาลด๊อกกีหลั่งน้ำตาร้องไห้ อึนกีฮวานไม่เข้าใจนักแต่ขู่จะเอาชีวิตด๊อกกีหากกล้าดีมาทำร้ายลูกสาวของตนอีก หลังจากนั้นไม่กี่วัน ด๊อกกีก็เสียชีวิตลง หมอชันสูตรศพแล้วระบุสาเหตุการตายว่าเกิดจากเลือดออกในสมอง อึนกีฮวานตกเป็นผู้ต้องหาทันทีเพราะเขาเป็นคนทำร้ายด๊อกกีล้มหัวฟาดตามที่มีรายงานไว้ในคดีคดีคุกคามทางเพศที่มีแชรยองเป็นผู้เสียหาย

หนุ่มเชวด๊อกกีนั้นสำคัญไฉน?


สำคัญ เพราะการตายของด๊อกกีทำให้แชรยองกำลังจะกลายเป็นนางฟ้าตกสวรรค์ สำคัญ เพราะด๊อกกีเป็นปมการฆาตกรรมชวนติดตามเนื่องจากผู้ชมจะรู้อยู่แล้วว่าใคร และฆ่าอย่างไร แต่ว่าในละครฆาตรกรยังลอยนวล และสำคัญ เพราะด๊อกกีเป็นตัวเชื่อมโยงให้สองพี่น้องครอบครัวเชวและครอบครัวอึนมาพบกันในฐานะ ครอบครัวผู้ต้องหา และครอบครัวผู้เสียชีวิต

ครอบครัวเชวประกอบด้วยพ่อแม่และสามพี่น้องดังนี้ เชวฮยอกกี (Choi Jin Hyuk) พี่ชายคนโต เชวด๊อกกี (ผู้ตาย) น้องชายคนรอง เชววุกกี (Lee Dong Hae) น้องชายคนเล็ก

อุดหูหน่อย แม่ยก Super Junior ยกทัพมากรี๊ด เพราะดงเฮเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงที่ถือได้ว่าป๊อบปูล่าไม่น้อยหน้าใครและ It's Okay Daddy's girl คือผลงานการแสดงเรื่องแรกของดงเฮที่ดูจะจงใจเขียนบทส่งเสริมผลักดันกันเหลือเกิน ทั้งที่ จะว่าไปแล้วบทของวุกกีไม่ต้องมีก็ได้จะช่วยประหยัดงบประมาณค่าตัวไปเยอะเลย มีแค่พี่ชายคนโตคนเดียวก็เหลือกินเหลือใช้ แต่อย่างว่าล่ะนะ การมีดงเฮอาจช่วยฉุดกระชากลากดึงเรตติ้งให้สูงขึ้นได้มากกว่าปกติ (แต่คิดจริงๆ นะ ว่าบทนี้ไม่มีก็ไม่ทำให้เนื้อเรื่องเสียหาย) หากมองในแง่ดี นี่คือบทส่งเสริมให้ฮยอกกีดูดีมีสง่าราศีของ "ฮยอง" (พี่ชาย) ได้เท่อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น


สองครอบครัวนี้มีความแต่งต่าง ครอบครัวอึนมีฐานะดี ลูกๆ ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีทนุถนอม ส่วนครอบครัวเชวฐานะยากจนและมีพ่อแม่ก็เหมือนไม่มี ละครไม่ได้ใส่รายละเอียดมากนักแค่พอให้เข้าใจได้ว่า พวกเขาสักแต่เป็นผู้ให้กำเนิด เลี้ยงดูขึ้นมาตามยถากรรมแค่ให้รู้ความพอดูแลตัวเองได้ ที่เหลือจากนั้น ลูกๆ ครอบครัวเชวเติบโตขึ้นมาด้วยลำแข้งของตัวเองอย่างยากลำบาก ทั้งพ่อแม่ขี้เมาหยำเปยังคอยทุบตีและรีดไถ ฮยอกกีพี่ชายคนโตจึงเป็นหลักยึดเพียงหนึ่งเดียวที่น้องได้พึ่งพิงและอุ่นใจได้

แต่ฮยอกกีถูกเกณฑ์ทหารและต้องเข้าประจำการกองทัพขณะกำลังศึกษาวิชากฏหมายไม่ทันจบและต้องดรอปการเรียนเอาไว้ (เกาหลีเขาไม่ให้เลื่อนการเกณฑ์หรือ ?) ด๊อกกีเป็นคนอารมณ์ร้อนและมีความอดทนกับพฤติกรรมของพ่อแม่ได้น้อยที่สุดจึงหนีออกจากบ้านไปตามทางของตัวเอง วุกกีจำต้องออกจากโรงเรียนเพื่อทำงานหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องพ่อแม่และตัวเขาเอง มุมานะทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อเก็บเงินไว้เรียนต่อ หลังจากพี่ชายได้รับการปลดประจำการ


ลึกๆ แล้วด๊อกีไม่ใช่คนเลวนัก เพียงแต่รีบร้อนจะหาเงินจึงเลือกหนทางเดินที่ไม่ดี น้ำตาของด๊อกกีที่ร้องไห้กับคำพูดของอึนกีฮวานก่อนหน้านั้นเป็นอันหายข้องใจ เพราะเขาได้เห็นความแตกต่างในความรักความห่วงใยที่ด๊อกกีไม่เคยได้รับจากผู้ให้กำเนิด เมื่อฮยอกกีไม่อยู่ ด๊อกกีอยากจะหาเงินให้ได้มากและเร็วที่สุดเพื่อให้วุกกีได้กลับไปเรียนหนังสือ แต่ก็นั่นแหละเมื่อเลือกทางเดินที่ไม่ดีจะได้ดีสมใจมันคงเป็นไปได้ยาก ด๊อกกีจึงจบชีวิตลง ทิ้งปัญหาและความเศร้าโศกไว้ให้กับกีอีกสองพี่น้องผู้อยู่เบื้องหลัง นางเอกเป็นสมาชิกครอบครัวผู้ต้องหา ส่วนพระเอกเป็นสมาชิกครอบครัวของเหยื่อผู้เสียชีวิต ตอนแรกเข้าใจว่าจะไหลเข้าสูตร 'รักไปแค้นไป' แต่ไม่ยักใช่แฮะ


วุกกีมารับศพพี่ชายด๊อกกี ที่ห้องเก็บศพเขาพบลุงแก่ๆ อึนกีฮวานกำลังคุกเข่าคารวะฟุบหน้าลงกับพื้นร่ำไห้เพื่อขอขมาต่อร่างไร้วิญญาณของพี่ชายต้องอธิบายกันก่อนว่าวุกกีนั้นเป็นคนดีราวกับจะดีมาตั้งแต่เกิดมาพบกับอึนกีฮวานพ่อพระที่ชีวิตนี้เกิดมาเพื่อเป็นผู้ให้ คนหัวใจเทวดาย่อมสัมผัสถึงเทวดาด้วยกันได้

เมื่อฮยอกกีกลับมา วุกกีจึงบอกกับพี่ชายคนโต เขาไม่เชื่อว่าลุงคนนั้นจะเป็นคนทำให้ด๊อกกีตาย "เขาเหมือนกระดาษบางๆ ที่จุ่มน้ำ" "ผมคิดว่าชายคนนั้นถูกกล่าวหา" ฮยอกกีไม่ว่าอะไรหากวุกกีจะแสดงความรู้สึกเช่นนั้นเพราะด๊อกกีไปก่อเรื่องกับลูกสาวเขาก่อน แต่ความเป็นคนสุขุมและจิตใจหนักแหน่นจึงไม่ได้ปักใจเชื่อตามน้องชายนัก ฮยอกกีใคร่ครวญเหตุผลและเงื่อนงำหลายอย่าง ทั้งรายงานในดคีคุกคามทางเพศของตำรวจ คำบอกเล่าของพยานชายหนุ่มทั้งสามที่พบเห็นเหตุการณ์และให้การช่วยเหลือ หนึ่งในนั้นคือ ซอนดู เพื่อนสนิทสมัยเรียนที่รู้จักด๊อกกีที่ทำงานในผับ (แต่ไม่รู้ว่าเป็นน้องชายของเพื่อน) และที่สำคัญอกประเด็นหนึ่ง ครั้งสุดท้ายที่เขาได้พบด๊อกกี คือวันที่น้องชายฟกช้ำดำเขียวกลับมาบ้านพร้อมกับกระเป๋าถือใบหนึ่งที่ดูมีราคาแพงและกระเป๋าใบนั้นบรรจุเงินเอาไว้เป็นจำนวนมาก ด๊อกกีบอกกับพี่ชายว่าเขาบาดเจ็บเพราะถูกรถชน วุกกีน้องเล็กที่ไม่ค่อยชอบใจวิธีการใช้ชีวิตของพี่ชายคนรองนักตั้งข้อสงสัยว่าด๊อกกีตั้งใจให้รถชนเพื่อรีดไถเงินคนอื่นมาหรือเปล่า ด๊อกกีปฏิเสธและพูดจาแปลกๆ ว่า เขายอมให้คนอื่นตีเพื่อเพื่อแลกกับการได้เก็บเงินที่หว่านลงพื้นไม่ดีกว่าเหรอ ฮยอกไปที่บริษัทอึนกีฮวาน (สงสัยคิดจะไปพบและสังเกตโหงวเฮ้งลุงด้วยตัวเองว่ามีรังสีอำมหิตหรือไม่) แต่ไม่ทันได้พบเพราะที่หน้าบริษัทลูกสาวของอึนกีฮวานทั้งสองคนอยู่ที่นั่นและคนหนึ่งกำลังร้องไห้โวยวายดิ้นอยู่ในอ้อมอกของพ่อที่พยายามกอดรั้งลูกสาวเอาไว้ไม่ให้อาละวาด เพราะหลังจากถูกตำรวจตั้งข้อหาดำเนินคดี อึนกีฮวานถูกขอร้องให้ลาออกจากตำแหน่งรองประธานกรรมการบริษัท ที่ประธานฯ ผู้ขอก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล เป็นเพื่อนสนิทที่ร่วมก่อร่างสร้างบริษัทด้วยกันมาและอึนกีฮวานก็เหมือนเป็นเจ้าของด้วยกันครึ่งหนึ่งนั่นเอง นั่นคือครั้งแรกที่ฮยอกกีได้เห็นลูกสาวของอึนกีฮวานจากด้านหลังไกลๆ


ว่ากันถึงผู้ร้ายตัวจริง ( เป็นที่เปิดเผยได้เพราะคนดูจะรู้อยู่แล้วว่าใครทำ) จางซุกเพื่อนไม่สนิทแอบคิดร้ายหวังจะได้ตัวแชรยองเมื่อจ้างวานด๊อกกีแล้วแผนไม่สำเร็จจึงระบายอารมณ์โกรธกับด๊อกกีไปซะเต็มที่ ข่าวการตายของด๊อกกี จางซุกมั่นใจว่าเป็นเพราะน้ำมือของตัวเองแน่ จึงรีบขอให้พ่อกับแม่ที่เป็นถึงทนายชื่อดังของเกาหลีให้เตรียมการช่วยหาทางกลบเกลื่อนก่อนที่ตำรวจจะสืบสวนโยงใยมาใกล้ตัวได้ เมื่อลูกเลวพ่อกับแม่ก็คงเขี่ยลูกไม้ไปไม่ไกลต้นนัก (เลวพอกัน) เพื่อปกป้องลูกให้พ้นผิด ต่อให้เป็นลูกที่ไม่ได้ดั่งใจทำให้ผิดหวังแค่ไหนคนเป็นพ่อแม่ก็ยังหลับหูหลับตาปกป้องลูกอยู่นั่นเอง

จางซุกเป็นเพื่อน ดังนั้นแชรยองและครอบครัวจึงหวังพึ่งพาด้วยการให้พ่อแม่ของจางซุกมาเป็นทนายในการสู้คดีให้ แม่ของแชรยองเองก็หวังจะได้จางซุกมาเป็นเขยเพื่อเกี่ยวดองกับครอบครัวนักกฏหมายที่ร่ำรวย ขณะเดียวกันก็กำลังขับเคี่ยวการดูตัวลูกสาวคนโตให้ได้แต่งงานกับลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลมานินที่มีเครือข่ายกิจการเป็นตระกูลมั่งคั่งอันดับต้นๆ ของวงสังคมไฮโซ


พ่อแม่จากซุกจึงปะเหมาะโอกาสในการจัดการทุกอย่างให้ลงล็อคและลงตัว ยิ่งพบว่าพ่อแม่ของด๊อกกีเป็นพวกเหลือขอที่ยากจนและเห็นแก่ได้ ทุกอย่างยิ่งง่ายเข้า พวกเขาอ้างการจ่ายเงินชดเชยจะทำให้เรื่องบรรเทาลงและเรียกเงิน 500 ล้านวอนจากครอบครัวของแชรยองเป็นค่าชดเชย ด้วยเงินจำนวนนี้หากอยากได้และไม่อยากจ่ายคืนทีหลัง พ่อแม่ของด๊อกกีต้องเห็นพ้องตรงกันกับกับทางทนายปาร์คทุกอย่างโดยไม่พูดมากและปราศจากข้อสงสัย รูปคดีมุ่งชี้ตัวผู้ต้องหาไปยังพ่อของแชรยองในแบบที่ยากจะชนะคดีได้

พ่อแม่ของด๊อกกีก็นึกกลัวอยู่เหมือนกันว่าอึนกีฮวานจะไม่ใช่คนผิด จึงกระทำพฤติกรรมอย่างร้ายด้วยการหอบเงินทั้งหมดหนีหายไปพร้อมกระเป๋าใบนั้นที่พอจะเป็นหลักฐานได้หากการสืบสวนจะโยงใยไปถึง เหลือทิ้งแค่กระดาษโน๊ตใบน้อยๆ ให้ลูกชายตาดำๆ สองคนไว้ดูต่างหน้า กับประโยคสั้นๆ ได้ใจความสุดปวดใจ พ่อกับแม่ขอนำเงินพวกนี้จากไป หากสุดท้ายแล้วพิสูจน์ได้ว่าอึนกีฮวานไม่ใช่ฆาตกรตัวจริง พวกแกสองคนก็หาเงิน 500 ล้านไปคืนอึนกีฮวานซะ (ช่างเป็นพ่อแม่ที่อกตัญญูต่อลูกเสียจริง)

พ่อแม่ทิ้งไป พร้อมกับเงินก้อนใหญ่ที่กีสองพี่น้องค่อนข้างจะแน่ใจได้ว่าเป็นก้อนหนี้ที่ต้องจ่ายคืนอึนกีฮวานในไม่ช้าไม่นาน เงินไม่มี แถมยังไร้ที่ซุกหัวนอนขึ้นมาแบบกระทันหันเพราะพ่อแม่ได้บอกคืนห้องเช่าเอาเงินมัดจำคืนแล้วหอบไปพร้อมกับ 500 ล้านด้วย คนเป็นพ่อแม่ยังไม่สนใจลูก แล้วเจ้าของห้องเช่าไยต้องเมตตาผ่อนผันให้พี่น้องกีด้วยละ ไล่ออกทันทีเมื่อมีผู้เช่ารายใหม่ที่พร้อมจ่ายเงิน ฮยอกกียังไม่พ้นการเป็นทหารเขาต้องกลับเข้าประจำการ ดังนั้นจึงพาน้องชายไปฝากไว้กับซอนดู

อย่างที่บอกไปก่อนหน้า ซอนดูเป็นเพื่อนสนิทของฮยอกกี และมีเพื่อนรุ่นน้องคนสนิทอีกสองคนคือดองโบกับยุนดู สามสหายนี่เองที่เห็นเหตุการณ์ด๊อกกีพยายามทำร้ายแชรยองและเกิดการต่อสู้ทำร้ายกันกับอึนกีฮวาน ซอนดูบอกกับฮยอกกีว่าแรงอันน้อยนิดของอึนกีฮวานที่ทำให้ด๊อกกีถลาล้มแล้วหัวไปชนกำแพงเจ็บแค่นั้น เขาเชื่อว่ามันไม่ถึงขั้นทำให้เกิดอาการเลือดออกในสมองได้


ความตึงเครียดความกดดันหลายอย่างที่รุมเร้า ทำให้อึนกีฮวานล้มป่วยและต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองก่อนที่ตำรวจจะได้ทันนำตัวขึ้นศาลเพื่อดำเนินคดี

อาการป่วยของอึนกีฮวานมีผลกระทบมาจากจิตใจและคนที่เขาเพ้อหาก็คือหนุ่มวุกกี น้องชายผู้สูญเสียและโศกเศร้า เพราะอยากให้พ่อมีอาการดีขึ้นเอรยองตัดสินใจติดต่อวุกกีขอให้มาพบและพูดคุยกับพ่อ หนุ่มวุกกีกับคนแก่อึนกีฮวานเริ่มมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน รวมทั้งกับเอรยองลูกสาวคนโตที่วุกกีรู้สึกนับถือ เป็นความรู้สึกชื่นชมที่มิใช่ชอบพอเพราะวุกกีรู้ดีว่าเอรยองแก่กว่าตนตั้งหลายปี


เมื่อเสาหลักของครอบครัวล้มลง ก็เหมือนขาดสิ่งค้ำจุ้นและปกป้อง ปัญหามากมายประเดประดังเข้ามารุมล้อม การรักษาพยาบาลที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ธุรกิจของมันซู (น้องภรรยาของอึนกีฮวาน)ที่หลงไปทำธุรกิจของปลอมจนกลายเป็นเรื่องเดือดดร้อน การลงทุนที่ล้มเหลวและถูกหลอก ทุกสิ่งอย่างรอบตัวแชรยองทยอยพังครืน เพียงแค่ชั่วระยะเวลาสั้นๆ ชีวิตพลิกผันจากคนเคยมีพร้อมทุกอย่าง กลับกลายเป็นไม่เหลืออะไรสักอย่างแม้แต่บ้านหลังงามที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่เล็กจนโต


แชรยองปักใจว่าด๊อกกีและครอบครัวเชวเป็นต้นเหตุนำพาความหายนะมาสู่ครอบครัวตน แม้ลึกๆ ภายในใจแชรยองปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเธอเองนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุ เพราะเธอเลือกไปในสถานที่อโคจร พ่อจึงต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่การโทษด๊อกกีคงช่วยทำให้แชรยองรู้สึกผิดน้อยลง พ่อต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะเชวด๊อกกี ทุกอย่างพังทลายก็เพราะเงินค่าชดเชยที่ต้งจ่ายไป แต่เมื่อวุกกีทำให้อาการของพ่อดีขึ้น แชรยองจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพบกับน้องชายของด๊อกกี

ขณะที่พ่อป่วยแชรยองก็ปิ่มจะขาดใจทำให้ป่วยตามพ่อไปด้วย เพราะไม่มีแก่ใจคิดถึงอะไรนอกจากร้องไห้ไปวันๆ ในท่ามกลางปัญหาสารพันคนที่รับบทหนักคือเอรยอง พี่สาวคนโตที่ไม่ใช่แค่ต้องเข้มแข็งกว่าคนอื่นๆ เพื่อรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้า แต่เอรยองต้องใคร่ครวญถึงอนาคตและชีวิตจากนี้ต่อไป พ่อที่ยังนอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล และจะไม่สามารถเดินได้หลังผ่าตัดการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายที่ต้องใช้เวลาอีกยาวนานไปถึงเมื่อไหร่แม้แต่หมอก็บอกไม่ได้

จองจินกู(Kang Sung) ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลคู่ดูตัวของเอรยองป็นเพลย์บอยตัวเอ้ในสังคม ไม่เอาอ่าว ไม่เอาถ่าน ไม่ทำการทำงาน ไม่มีอะไรให้ผู้หญิงดีๆ อย่างเอรยองจะเป็นปลื้มได้ เหตุผลที่จินกูหาผู้หญิงมาเป็นคู่แต่งงานก็ออกจะพิลึกพิลั่น เขาก็แค่เป็นลูกชายที่ไม่เป็นที่ยอมรับของครอบครัว ถูกงดถูกระงับการผลาญเงินจนกว่าจะหาผู้หญิงสักคนยอมมาแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาด้วยได้ (พ่อแม่ของจินกูคงมีความเชื่อว่าการแต่งงานจะทำให้คนดีขึ้นมั้ง ไม่เข้าใจประเด็นนี้เหมือนกัน) จินกูเป็นลูกคนรวย แต่ก็ต้องแต่งงานเพื่อเงินเหมือนกันนั่นแหละ เอรยองเป็นผู้หญิงที่รักในศักดิ์ศรีและภูมิใจในตัวเอง กับจินกูในตอนแรก ไม่ว่าแม่ของเธอจะพยายามแค่ไหนจึงไม่เป็นผล แต่คำพูดของแชรยองที่คะยั้นคะยอให้พี่สาวยอมรับการแต่งงานเพื่อให้พ่อได้อยู่รักษาในโรงพยาบาลดีๆ โดยไม่ต้องกังวลกับเงินค่ารักษาอีกต่อไปนั้นกดดันต่อความรับผิดชอบของเอรยองในฐานะลูกคนโต ท้ายที่สุดเธอก็ตัดสินใจเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอจินกูให้แต่งงานกับเธอด้วยเหตุผลและความรู้สึกที่แสนซื่อตรง ( สงสารเอรยองมากๆ ) มันไม่สำคัญหรอกว่าเอรยองแต่งงานกับเขาเพื่อเงิน เพราะสำหรับจินกูเขาก็แต่งงานเพราะต้องการเงินเหมือนกัน แค่เอรยองยอมโอเคด้วยจินกูก็ร้องไชโยแล้ว

อยู่กันมาแต่เล็กจนโต ไม่รู้หรือว่าพี่สาวเป็นคนอย่างไร ยัยน้องเล็กแชรยองถึงได้กล้าเอ่ยปากขอให้พี่สาวแต่งงานด้วยเหตุผลนี้ นอกจากจะเห็นแก่ตัวแล้วยังไม่เห็นแก่ความสุขของใครอย่างหน้าไม่อาย รังเกียจนิสัยนางเอกจริงๆ นอกจากหล่อนจะเป็นคนไร้สาระ ยังเป็นคนไร้ค่าอีกด้วย ไม่หยิบ ไม่จับ ไม่คิดทำอะไรสักอย่าง เอาแต่คร่ำครวญไปวันๆ และครั้งหนึ่งในการคร่ำครวญที่หล่อนไม่สามารถทนรับชีวิตตกต่ำได้ ต่อหน้าพ่อที่นอนป่วย ขอให้พ่อหาย ขอให้พ่อช่วย อึนกีฮวานรับรู้ถึงความลำบากของลูกและหนึ่งในภาระความลำบากนั้นก็คือตัวเขาเอง จนถึงกับคิดฆ่าตัวตาย โฮรยองก็แย่มากพอๆ กับแชรยองนั่นแหละ ด่าว่าพี่สาวว่าขายศักดิ์ศรียอมแต่งงานเพื่อเงิน ทั้งที่ตัวเองก็ยังเป็นทหารและช่วยอะไรใครไม่ได้เลย(นอกจากปากเสีย)เรื่องหาเงินยิ่งไม่ต้องพูดถึง เอรยองที่ขื่นขมพออยู่แล้วยังต้องมาเจ็บช้ำกับคำพูดของน้องชายอีก ฉากที่เอรยองตอกหน้าน้องชายถึงเหตุผลความจำเป็นที่เธอต้องแต่งงานกับจินกูเป็นฉากอารมณ์ที่ทำให้ชอบเอรยองมากๆ เพราะเธอกร้าวแกร่งสมเป็นพี่สาวคนโตจริงๆ

และแล้ว ก็ถึงเวลาของพี่ชายคนโตบ้าง




เมื่อเขาคนนี้ถึงเวลาปลดประจำการ (ซะที) หลบหน่อยพระเอกมา ดีใจสุดๆ เมื่อฮยอกกลับมาทำหน้าที่พระเอกแบบเต็มๆ หลังจากที่บทบางเบาเหลือเกินในช่วงต้นเรื่อง และเขาก็มาพร้อมกับเรตติ้งในใจส่วนตนที่พุ่งทะยานสูงขึ้นพรวดจากที่ไม่ได้รู้สึกอินังขังขอบอะไรกับเขามากนักในช่วงแรกๆ

เมื่อกลับมาทำหน้าที่ (พระเอก) เขาไม่ได้มาตัวเปล่าๆ ปลี้ๆ แต่มาพร้อมกับคุณลักษณะของความหนักแน่นมั่นคง (บอกไม่ถูกเหมือนกันทำไมรู้สึกอย่างนั้น) ดูแล้วร่มเย็นเป็นที่พึ่งให้อุ่นใจได้ ยิ่งความดีในหัวใจยิ่งไม่ต้องหาใคร(ในเรื่อง)มาเปรียบ ก็ถ้าหากวุกกีผู้น้องยังดีขนาดนั้นและฮยอกกีผู้พี่ที่เลี้ยงดูเป็นแบบอย่างกันมาจะดีกว่าสักแค่ไหน (วู้ นานๆ ที ขอลืมพระเอกแนว bad boy แล้วหันมาเชิดชู good boy กันบ้างเถอะ) ด้วยจิตสำนึกในความเกี่ยวพันกันกับชีวิตผกผันของครอบครัวอึน (รวมถึงการเป็นลูกหนี้ 500 ล้านที่ดี) ฮยอกกีมาเยี่ยมอึนกีฮวานและได้ช่วยเหลือลุงเอาไว้ตอนตกจากเตียงด้วยพยายามจะกระเสือกระสนไปงานแต่งงานของเอรยอง หัวอกของพ่อกับสัญญาที่เคยให้ไว้จะจูงมือลูกเข้าสู่ประตูวิวาห์เพื่อส่งมอบให้กับผู้ชายคนใหม่ที่ดีพอจะอยู่เคียงข้างเธอแทนพ่อตลอดไป อึนกีฮวานอ้อนวอนให้หนุ่มแปลกหน้าฮยอกกีพาเขาไปที่งานแต่ง ฮยอกกีเห็นใจแต่สิ่งที่เขาต้องทำคือเรียกหมอเพราะอึนกีฮวานมีอาการทรุดลง

เป็นคุณพ่ออึนกีฮวานอีกแล้ว ที่ได้พบลูกชายคนโตของครอบครัวเชวเป็นคนแรก แต่อึนกีฮวานยังไม่รู้ว่าฮยอกกีเป็นใคร ที่หน้าห้องผู้ป่วยฮยอกกีแนะนำตัวกับโฮรยองที่กลับมาจากงานแต่งของเอรยองว่าเขาคือพี่ชายของเชวด๊อกกี โฮรยองไม่พอใจมากและเข้าใจว่าฮยอกกีมารีดไถเงินค่าชดเชยเพิ่ม จึงพูดจาดูถูกฮยอกกี และพูดอะไรหลายอย่างที่ทำให้ฮยอกกีได้รู้ว่าครอบครัวอึนกำลังตกระกำลำบากอย่างถึงขีดสุด แต่การคืนเงิน 500 ล้านเป็นเรื่องที่ฮยอกกีไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ แม้แต่ตัวเขากับน้องชายยังต้องไปอาศัยอยู่กับซอนดูชั่วคราวเพื่อหาทางตั้งหลัก แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาคืนให้

พระเอกเรื่องนี้ ไม่ได้เริ่ดรวยมาจากไหน ธรรมด๊านี่แหละ แต่น้ำใจ ความช่วยเหลือ ช่วยแบ่งเบาภาระและหาทางออก จากน้ำใสใจจริงของคนธรรมดาที่หยิบยื่นให้ทั้งที่ไม่ได้มีอะไรเพียบพร้อมจะให้นี่แหละ โดนใจมั่ก!

ให้กับใครล่ะ ให้กับครอบครัวอึนนี่แหละ หากว่าเรื่องนี้พระเอกเป็นแฟนนางเอก การกระทำจะไม่ได้ใจแบบนี้เพราะถือเป็นคนรักกันย่อมต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว แต่สองคนเป็นคนไม่รู้จัก ก็แค่คนแปลกหน้าที่โชคชะตาลิขิตมาพบกันในท่ามกลางวิกฤตปัญหาที่ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับพระเอกนักหรอกเพราะลำบากอยู่แล้วแต่ดั้งเดิม (ชิน) เป็นวิกฤตของนางเอกต่างหากในฐานะ นางฟ้าสวรรค์ล่ม




ต่อไปนี้เป็นเนื้อความจากอีเมลที่ส่งถึงเพื่อน ณ จังหวะอารมณ์สดใหม่ตอนดูละครเรื่องนี้ (ในฐานะคนรักละครเหมือนกัน เช่นนั้นจึงเมลเมาท์ละครกันเป็นครั้งคราวไป ตามแต่เรื่องไหนจะติดใจอยากแนะนำให้อีกฝ่ายได้ดู )

๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓

"It’s ok daddy’s girl กำลังติดเลย (แต่ดูได้แค่วันละไม่ถึงสองตอน ฮือ เศร้า) เรื่องนี้ชอบพระเอกอย่างแรงงง ปกติชอบแนว bad boy นะ แต่พระเอกเรื่องนี้ สงบนิ่ง สุภาพ แมน และแสนดี .................. เรื่องนี้สนุกชวนติดตาม ชอบ!"

๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ข้อความจากเมลของเพื่อนเมาท์มาเรื่อง Secret Garden

".....กรี๊ดๆๆๆ ฮยอนบิน น่ารักมากมาย เมื่อวานเลิกงานกลับไปรีบอาบน้ำสระผมเพื่อนั่งดูซีรีย์ ดูไปยิ้มไป ทำไมฮยอนบินของเค้าน่ารักอย่างนี้ ถึงแม้เรื่องนี้จะผอมจนโหนกแก้มสูงไปนิดแต่ก้อชอบมากมายเหมือนเดิม เฮ้อ อยากให้เลิกงานไวๆจะได้กลับไปดูต่อ อิอิ"

เมลตอบเพื่อน (นังบ้าสองคนเมลกัน)
"กำลังสปีดสุดชีวิตเช่นกัน เพราะชอบพระเอก daddy’s girl แบบมากถึงมากที่สุด หน้าตาเกาหลีแท้ ตอนแรกคิดว่าหน้าตาแปลกๆ ต้องใช้ความเคยชินอยู่นาน แต่พอชอบบทบาทในเรื่องนะ พระเอกก็หน้าตาดีขึ้นเรื่อยๆ (ซะงั้น) สงบ นิ่ง เย็น และการกระทำแต่ละอย่างมันจึ๊ก จึ๊ก! จึ๊ก! ศรรักปักอกฉัน เรื่องนี้พ่อนางเอกป่วยไง และนางเอกก็เคยเป็นแต่ลูกแหง่คนเล็กที่ทำอะไรไม่เป็น ยังเอาแต่เสียใจรับไม่ได้กับชีวิตตกอับและอยู่ในช่วงปรับตัวจนบางทีก็ลืมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับพ่อ แต่พระเอกเป็นคนอื่นกลับทำให้ลุงแก่ๆ คนหนึ่งยิ่งกว่าตัวลูกชายที่เป็นพี่ชายของนางเอกซะอีก ใส่ใจในรายละเอียดที่คนอื่นไม่ได้นึกถึง อย่างเช่น.................. (แล้วนางเอกก็ต้องรักพระเอกเพราะเหตุนี้แหละ ไม่รักก็บ้าแล้ว คนอะไรจะดีขนาดนี้) เมื่อคืนพระเอกกอดปลอบนางเอกที่กำลังร้องไห้ด้วยล่ะ เพราะมันไม่ใช่ซีรีย์กุ๊กกิ๊กที่จะสวีทวิ๊ดวิ้วกันเรื่อยๆ ไง พอพระเอกใส่ความรู้สึกทั้งหมดที่มีให้นางเอกด้วยกอดนี้ มันเลยดู อบอุ่น จริงใจ ปรารถนาดี และดูเป็นกอดที่มีค่ามั่กๆ โอ๊ย เห็นแล้วทำเอาเพ้อไปเลย ชีวิตนี้อยากมีใครสักคนให้กอดมั่ง 555555"
จริงๆ เลยนะคะ ว่าไหม คนอะไรจะบ้าละครกันขนาดนั้น ถึงว่าเป็นเพื่อนกันได้ อิอิ


พูดถึงพระเอกเนี่ย ความดีงามของเขาน่ะนะมันชวนตกหลุมรักจริงๆ ลองจินตนาการตัวเองเป็นนางเอกสิคะ กับพ่อที่ป่วยนอนแช่เป็นผักอยู่ที่เตียง วันหนึ่งเปิดประตูเข้ามาเจอผู้ชายคนหนึ่งที่ยังเป็นแค่คนแปลกหน้า เพิ่งจะได้รเห็นหน้าค่าตาและรู้จักชื่อกัน เขาคนนั้น..อาบน้ำให้ เช็ดตัวพ่อที่นั่งอยู่บนรถเข็นอย่างอ่อนโยน แต่งตัวผูกเสื้อให้ อุ้มขึ้นเตียงอย่างระวังเอาใจใส่ แม้ว่านี่จะทำให้ใจของแชรยองพุ่งปั๊ดไปที่ฮยอกกีด้วยอารมณ์ขัดเคือง อิจฉาในสิ่งที่ตัวเองทำให้พ่อไม่ได้ ที่จริงแล้วไม่เคยนึกถึงด้วยซ้ำ คิดว่าคนป่วยแค่มีพยาบาลคอยเช็ดตัวให้ก็โอเคแล้ว แต่ฮยอกกีกลับมองเห็นและใส่ใจคนป่วยคงอยากจะสดชื่นบ้าง เขาเป็นคนอื่นแต่ก็ทำเรื่องแบบนั้นให้พ่ออย่างไม่เคอะเขินหรือรังเกียจ กับคนน้องวุกกีที่อายุเท่ากันแชรยองไม่มีอะไร แต่กับอีกคนที่พ่อบอกให้นับเขาเป็น "พี่" เพราะความอาวุโสกว่าแชรยองเกิดความรู้สึกต่อต้านเล็กๆ และถ้าผู้หญิงต่อต้านใคร โดยทั่วไป (ในละคร) 'สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก' มักจะก่อตัวไปด้วยกันตรงนั้นแหละ

คนแปลกหน้าที่เพิ่งกลายมาเป็น 'คนรู้จัก' คนเดียวกันนี้แหละ เขาเข็นรถเข็นของพ่อออกมาเดินเล่นในสวน สิ่งที่แชรยองหรือโฮรยองไม่เคยนึกทำเพราะมัวแต่วิตกกังวลกับภาวะตกอับจนไม่มีใจนึกถึงอะไรอื่น แต่ฮยอกกีคนนั้นย่อเข่าลงกับพื้นเพื่อแบกพ่อใส่หลังและพาร่างเล็กๆของพ่อเดินเล่นเอื่อยๆ ในสวน เสียงหัวเราะครื้นเครงของเพื่อนพ้องพี่น้องกีที่เดินห้อมล้อมและสีหน้าที่แสนสุขใจของพ่อ ทำให้นางเอกของเราถึงกับน้ำตาคลอเบ้าเมื่อมาพบเห็น พวกเขาช่างต่างกันสุดขั้วกับตัวเธอเองที่เอาแต่คร่ำครวญความลำบากให้พ่อคอยเป็นกังวล

แชรยองที่รู้ความจริงว่าเงิน 500 ล้าน (วอนนะคะ) ไม่ได้กระทบฐานะการเงินครอบครัวนัก แต่อะไรหลายอย่างที่มีสาเหตุมาจากแม่และน้าชายของเธอเองต่างหากที่ทำให้ครอบครัวต้องล่มจม แต่ก็ไม่คิดว่านางเอกจะร้ายกาจถึงขั้นไล่แม่และน้าออกจากบ้านด้วยถ้อยคำขาด "ห้ามกลับมา จนกว่าแม่จะตามเอาเงินกลับคืนมาได้" หือ.. อยากจะด่าจริงๆ ก็รู้ล่ะว่าปัญหาที่แม่และน้าก่อมันยิ่งทำให้ครอบครัวตกต่ำยากจะฟื้นคืนแต่นั่นก็แม่และน้านะ นางเอกนี่ใจแคบมาก

ความน้อยใจลูก แม่จึงพาน้าชายระเห็ดออกไปจากบ้านเพื่อตามหาคนที่เชิดโกงเงินไป โฮรยองก็ยังเป็นทหาร แชรยองจึงต้องอาศัยอยู่คนเดียวอย่างลำบาก แต่ก็ใช่ว่าจะยอมสำนึกง่ายๆ หล่อนไม่เคยยอมรับแม้แต่สักนิดว่าชีวิตได้เปลี่ยนไปแล้วและไม่มีทางจะหวนคืน ยังคงฝันว่าพ่อจะหายดีโดยเร็วและทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม คงเพราะเชื่ออย่างนั้น แชรยองจึงไม่คิดจะทำงานอะไร ได้แต่เที่ยวขอยืมเงินคนไปทั่วเพื่อมาแก้ขัดไประยะนึงก่อนในช่วงที่พ่อป่วย คนหยิ่งๆ อย่างแชรยอง ต้องตากหน้าไปยืมเงินคนอื่น ไม่เลือกแม้แต่กับจางซุกคนที่แชรยองเคยเชิดใส่อย่างถือตัว สุดท้ายก็ ทั้งเจ็บ ทั้งอาย แต่แชรยองก็ยังหน้าทน

แบกหน้าไปขอยืมเงินจากสองพี่น้องกี เพราะถือดีว่าฝ่ายตัวเป็นครอบครัวที่ได้รับความเสียหาย เมื่อฮยอกกี วุกกีเชื่อว่าพ่อไม่ได้ทำผิด เขาก็ควรจะมีส่วนรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น แชรยองได้รับการปฏิเสธด้วยวิธีการนุ่มนวลที่สุดแล้วเท่าที่ลูกผู้ชายนายฮยอกกีจะปฏิเสธออกไปว่าเขาไม่มีเงินจะให้เธอ และยังทำให้แชรยองได้เห็น กีสองพี่น้องต้องทำงานหนักตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตเพื่อให้ได้เงินมาดำรงชีพกันอย่างไร ทว่ายัยอึนแชรยองก็ยังไม่สำนึกอีก ทั้งที่ครอบครัวก็ไม่ได้ร่ำรวยล้นฟ้า แค่พ่อเป็นรองประธานบริษัทเงินเดือนสูงพอให้มีฐานะดีที่จะครอบคลุมการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยของสมาชิกครอบครัวแต่ละคน แล้วทำไมยัยแชรยองถึงได้หยิบโหย่งนัก เปรียบกับเอรยองพี่สาวช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว ( สุดๆ ค่ะ หล่อนสุดๆ)


แต่มันต้องมีจุดพีคเสมอ และจุดพีคของแชรยองก็เป็นคำพูดโดนๆ ที่กระชากใจในความเป็นจุดเปลี่ยน กระตุกแชรยองให้ตื่นขึ้นมาจากความฝันลมๆ แล้งๆ กับชีวิตสวยหรูที่เคยเป็น และจะกลับมาเป็น หวังว่าเพื่อนของพ่อจะช่วยด้วยการให้ยืมเงินสักก้อน พูดเหตุผลชักแม่น้ำความเดือดร้อนทั้งห้าไม่ทันจบก็โดนขัดคอซะก่อน

"เธอนี่ก็ยังต้องการไม่เคยพอ พ่อของเธอมีเพื่อนที่ดี แต่ทำไมเขาถึงเลี้ยงดูเธอแบบนี้ ลูกของฉันมีชีวิตที่ดีกว่าเธอ พวกเขาเรียนหนักกว่าเธอ พวกเขาไม่ได้ไปเรียนต่างประเทศด้วยเงินมรดกอย่างเธอ พวกเขาไม่เคยแม้แต่จะซื้อของที่ต้องมีป้ายชื่อนักออกแบบ ...เธอไม่เข้าใจเหรอว่าฉันกำลังพูดอะไร"

แชรยองที่เอ๋อรับประทานตอบงึมงำออกไป "ฉัน..ไม่แน่ใจค่ะ"

"ฉันไม่มีเงินจะช่วยเธอ แบบนั้นจะทำให้เธอเจ็บน้อยที่สุด เงินที่เธอต้องการเธอต้องไปหาเอง เธอต้องทำงานเพื่อเงิน หยุดไปยืมเงินคนอื่นได้แล้ว ขอเงินคนอื่นเหมือนคนที่ขายศักดิ์ศรีตัวเอง หยุดมันทั้งหมดเถอะ ทำไมเธอถึงได้เหมือนแม่เธอขนาดนี้ หล่อนไม่เคยทำงานเลยสักครั้งในชีวิต เอาแต่ขอเงินจากญาติพี่น้อง เธอเอาแบบอย่างมาจากแม่ของเธออย่างนั้นเหรอ ขอพ่อทุกๆ อย่าง พอพ่อเธอไม่มี ถ้างั้นก็เลยมาขอจากคนรอบๆ พ่อเธองั้นสิ ทำไมเธอถึงยังทำตัวแบบนั้นได้ ถ้ายังเป็นแบบนั้นอยู่ล่ะก็เธอไม่อายบ้างรึไง"

ใช่! 'เธอไม่อายบ้างหรือไง' ป้าแกเหน็บพ่อด่าแม่ (เลี้ยงลูกยังไงกัน) โดนทุกดอก ทำเอาน้างฟ้าแชรยองถึงกับปีกหักเซซังเดินไม่ตรงทางไปเลย สมน้ำหน้าโดยพลัน อย่าว่าป้าแกใจร้าย เพราะป้าทำถูกแล้ว ถ้าแชรยองได้คิดช่วยเหลือตัวเองมาก่อนบ้างจะไม่ว่าสักคำ แต่นี่อะไร้ นี่มันล้ำครึ่งเรื่องแล้วสถานการณ์ก็ยิ่งกว่าจนตรอก หล่อนก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง คิดถึงแต่เงิน แต่ไม่เคยคิดถึงคำว่างานแม้สักครั้งเดียว สมควรให้เขาด่าไหมล่ะนั่น คุณพ่ออึนกีฮวานนั่นแหละตัวดี เลี้ยงลูกแบบนี้สงสัยไม่เคยดูรายการ "รักลูกให้ถูกทาง" (เกิดทันด้วยล่ะ) วันหนึ่งพ่อแม่ไม่อยู่ก็ทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้ แชรยองที่ไม่เคยถูพื้นสักครั้งในชีวิตเพราะพ่อกลัวหัวเข่าลูกจะดำ มือที่ไม่เคยหยิบจับงานบ้านสักหนเพราะพ่อกลัวมือลูกจะด้านไม่นุ่มสวยสมเป็นมือผู้หญิง แล้วไงล่ะ แชรยองนางฟ้าของพ่อเลยสะกดคำว่า ง-า-น ไม่เป็น ข้าวของแบรนด์เนมเกลื่อนบ้าน แล้วไงกัน ในเมื่อมันช่วยอะไรไม่ได้เลยกับการโละขายออกไปเพื่อแลกคืนกลับมากับเงินอันน้อยนิด ส่วนต่างราคาห่างกันลิ่วกับตอนซื้อมาเพียงแค่อารมณ์อยากได้

อย่างว่าแหละคนที่ไม่เคยทำงานไยจะรู้จักคุณค่าของเงิน และเมื่อนางเอกของเราเริ่มต้นทำงาน จึงเพิ่งรู้ว่าเงินนั้นใช่ว่าจะหากันมาได้ง่ายๆ หยาดเหงื่อ น้ำพักน้ำแรง ความอดทนอดกลั้นที่บนสวรรค์ของแชรยองไม่เคยรับรู้ถึงสิ่งเหล่านี้มาก่อน เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีอยู่ตอนหนึ่งที่เพื่อนของเอรยองช่วยหางานให้เธอ

"นั่นอาจเป็นเหตุผลให้เธอล้างจานได้ในบาร์แจสตอนเช้ามืดนะ"
"บาร์แจ๊สที่ไหน" เอรยองถามเพื่อนของเธอ
"ชานไท"
"อ่า มันเป็นของเธอเหรอ"
"มันเป็นของแม่น่ะ ไม่ใช่ของฉัน" (ชอบประโยคของเพื่อนตรงนี้แหละ และก็ชอบนิสัยของเพื่อนด้วย)
"ก็นั่นแหละ" สำหรับเอรยอง มันต่างกันตรงไหนล่ะ ?
"มันจะเหมือนกันได้ยังไง งั้นทำไมฉันถึงบอกว่าเป็นของแม่ฉัน"

นั่นน่ะสิยะ มันจะเหมือนกันได้ยังไง เพื่อนก็บอกอยู่แล้วว่าของๆ แม่ ไม่ใช่ของฉัน ความหมายมันก็บอกอยู่แล้วว่าคนละส่วนกัน แชรยองที่เป็นคนประเภท 'ทั้งหมดของพ่อคือของฉัน' จึงมีสีหน้าอึ้งๆ กับประโยคง่ายๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจสั่งสอน แต่ก็สอนสั่ง

ไม่กี่เหตุผลที่ชอบซีรีย์เกาหลีเรื่องนี้แบบเป็นเอามาก

*การผูกปมของเรื่องไว้กับการตายของเชวด๊อกกีและฆาตกรจางซุกทำให้เนื้อเรื่องดูสนุกชวนติดตาม เหมือนเป็นหินตกกระทบน้ำแล้วสะเทือนวงกว้างไปยังทุกๆ คน ครอบครัวอึน ครอบครัวเชว ครอบครัวจินกู (สามีเอรยอง) ครอบครัวจางซุก คู่นอนจางซุก เพื่อนแชรยอง เพื่อนพ้องพี่น้องกี มีส่วนร่วมทุกคน นอกจากนี้ยังมีปมปัญหาของครอบครัวจินกูที่ถูกหมกเม็ดไว้เป็นเบื้องลึกเบื้องลับของครอบครัวเหมือนกับเป็นกล่อแพนโดร่าที่รอวันเปิดขึ้นมาให้ครอบครัวแตก ยิ่งดู..ยิ่งชวนสงสัยติดตาม

*ตัวละครเยอะดี หลากหลายคาแร็คเตอร์เป็นสีสัน โดยเฉพาะเพื่อนๆ ของพี่น้องกี จริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ แต่ก็ใส่เข้ามาเยอะแยะให้มีผู้ช่วยพระเอกนางเอกเต็มจอ แต่ว่ากันตามพิจารณาจากบท มีซอนดูคนเดียวน่าจะพอแล้ว น้องสาวซอนดู เพื่อนรุ่นน้องสองคนของซอนดูตัดทิ้งได้เลย จะมีทำไม คนเยอะแต่ว่าพระเอกก็โดดเด่นในใจแต่เพียงผู้เดียว ดงเฮต่ำเตี้ยไปเลยเมื่อยืนอยู่ข้างพี่ชาย โดยตัวของบทบาทเองฮยอกกีก็เป็นพี่ชายคนโต และนอกจากซอนดู ที่เหลือก็เป็นน้องๆ ไม่ต้องบอกก็รู้มาดใครจะเหนือกว่า มันก็ต้องเป็น'พี่ใหญ่'ที่เป็นพระเอกอยู่แล้ว

*ถูกใจอย่างแรงกับนิสัยลูกเขยและว่าที่ลูกเขยของอึนกีฮวาน ( จินกู และ ฮยอกกี)




*ความรัก ในเรื่องนี้ไม่กุ๊กกิ๊กหวานฉ่ำเหมือนซีรีย์เกาหลีทั่วไปหรอกนะคะ แค่น่ารักพอหอมปากหอมคอ

ฮยอกกี Smiley แชรยอง
ฮยอกกียิ่งกว่ามาถูกทาง การที่เขาดีกับพ่อ และหยิบยื่นน้ำใจต่อมาถึงลูกสาว ในยามไม่มีใครยังอุ่นใจว่าเขาคนนี้จะคอยช่วยเหลือและอยู่เคียงข้าง ตอนพ่อจะออกจากโรงพยาบาล แชรยองคิดแค่ว่าต้องพาพอกลับไปบ้านรับความหดหูกับบ้านหลังใหม่ที่ย้ายไปอยู่ในความเก่าโทรม ไม่ทันนึกถึงเรื่องรถเข็นของพ่อที่ต้องมี ต้องใช้ และเมื่อเพิ่งนึกได้เงินก็มีไม่พอจะซื้อรถเข็นดีๆ แต่ 'ดีๆ' ที่แชรยองอยากได้ถูกซื้อเตรียมไว้แล้ว จากสองพี่น้องกีที่ใส่ใจมาตั้งแต่ต้นและเตรียมเก็บเงินสำหรับค่ารถเข็นเอาไว้มาแต่เนิ่นๆ แชรยองละอายใจเพราะเธอเป็นลูกแต่กลับลืมเรื่องสำคัญแบบนี้ไปสนิทใจ ฮยอกกีเป็นคนอื่นแต่กลับเต็มไปด้วยความใส่ใจแม้ในรายละเอียดปลีกย่อยที่คนอื่นทั่วไปมองไม่เห็น ข้าวของในบ้านที่ต้องย้ายเพื่อให้ห้องของคนป่วยปลอดโปร่ง เตียงนอนที่ต้องปรับ พื้นภายในบ้านที่ต้องซ่อมเพื่อให้สะดวกสำหรับล้อรถเข็น



ครั้งหนึ่งเอรยองพี่สาวคนโตเคยตั้งคำถามกับพ่อและแชรยองแอบได้ยิน

"พ่อคะ คนแบบไหนที่พ่อต้องการให้หนูแต่งงานด้วยคะ"
"คนที่คิดว่าเอรยองเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตพวกเขา สำหรับลูกสาวพ่อเขาต้องอดทนทุกอย่าง และถ้าเขามีลูก มันจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาต้องการในชีวิต"
"ไม่มีผู้ชายแบบนั้นบนโลกนี้หรอกค่ะ ผู้ชายสมัยนี้เห็นแก่ตัวทั้งนั้น"
"ถ้าเข้าไม่ได้ตามมาตรฐานของพ่อ พ่อก็ไม่สามารถมอบลูกสาวให้กับเขาได้ เพราะลูกสาวของพ่อมีค่ามาก"
"หนูหวังเพียงอย่างเดียว คือ ผู้ชายที่จะดีกับพ่อ ถ้าเป็นผู้ชายที่ดีกับพ่อ หนูคิดว่าเขาจะดูแลหนูเหมือนกับที่พ่อดูแลหนู"

ฮยอกกีนี่ไงล่ะ คนที่พ่อรู้สึกนับถือชื่นชม และเป็นคนที่ทำให้พ่อมีความสุข ผู้ชายที่จะดีกับพ่อ และเขาคนนี้จะดูแลแชรยองเหมือนที่พ่อเคยดูแล

"เวลาที่ฉันมองเขา ฉันนึกถึงพ่อ ตอนพ่อยังหนุ่ม พ่อบอกว่าท่านยากจน แต่ท่านพยายามที่จะมีชีวิตที่ดี ท่านทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ แต่เป็นเพราะท่านยากจนท่านมักจะได้รับการปฏิเสธและไม่ยอมรับ เมื่อฉันเห็นเขา ฉันรู้สึกเหมือนฉันเห็นพ่อเมื่อตอนท่านยังหนุ่ม นี่แหละ ฉันถึงเชื่อใจเขา"

นั่นน่ะสิ จึงต้องขอย้ำอีกที ผู้ชายแบบนี้ไม่รักก็บ้าแล้ว

จินกู Smiley เอรยอง


จองจินกู หนุ่มคนนี้หน้าตาไม่ใช่เสป็คแต่เขาซื้อใจกันไปได้ง่ายๆ ตั้งแต่แรก กับตอนที่แฟนเก่าของเอรยองมาดักรอเธอหน้าบ้านของจินกูหลังจากวันแต่งงาน แฟนของเอรยองคนนี้รักกันมานาน แต่ผู้ชายก็ยื้อเรื่องแต่งงานเอาไว้เพราะยังอยากมองหาผู้หญิงที่ดีกว่า จินกู นอกจากไม่มีอะไรนึกติดใจหรือคิดตำหนิเอรยองแล้ว ยังออกหน้าจัดการกับแฟนเอรยองอย่างไม่มีไว้หน้า

"ทำไมคุณทำแบบนี้ล่ะ ในเมื่อคุณสองคนแค่สัญญากันเท่านั้น คุณแค่สัญญา..แต่ไม่แต่งงาน คุณประเมินผิดไปหรือเปล่า ? ผู้หญิงคนหนึ่งคนที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม คนที่คุณเจอหลังจากเอรยอง เพราะเหตุผลนั้น หรือไม่ใช่ ? ถ้าไม่ใช่ ดังนั้น ถ้าเธอมีพ่อที่ป่วย พ่อแม่ของคุณจะปฏิเสธเธอไหม? ตรองดูหน่อยเถอะ"

แฟนเก่าของเอรยองไม่พอใจจินกูที่รู้ทัน

"คุณไม่คิดว่า คำพูดของคุณกำลังล้ำเส้นอยู่หรือไง"

"ผมคิดว่าคุณต่างหากกำลังล้ำเส้น อายุขนาดนี้คุณยังจะสัญญาที่จะแต่งงานกับใครได้อีกหรือ และถ้าคุณไม่แต่งงานมันก็จบ แล้วทำไมคุณถึงมายืนอยู่หน้าบ้านสามีแฟนเก่าคุณล่ะ ถ้าตอนนี้ ผมบอกให้คุณเอาเธอไป คุณจะทำไหม คุณก็ไม่ แล้วคุณมาที่นี่เพื่อขัดขวางงั้นหรือ คุณทิ้งผม แต่ผมลืมไม่ได้งั้นเหรอ ? เสียใจที่ทิ้งผมไป? อย่าอยู่อย่างเป็นสุขเลยงั้นหรือ ?"

จินกูบอกให้เอรยองกลับขึ้นรถ แฟนเก่าของเธอตะโกนใส่
"คุณมีคนอื่นแต่ดูคูณทำตอนที่ผมเจอกับลูกสาวของเดนลีสิ!" เขาจะโผมาหาแต่จินกูเอามือกันไว้

"อ๋า คุณคิดผิดแล้วเรื่องลูกสาวของเคนลี มหาวิทยาลัยเดนใช่ไหม ไม่ว่ามันจะใหญ่สักแค่ไหนก็เถอะ พ่อสามีของเอรยองเป็นประธานและเจ้าของโรงพยาบาลมานิน แม่สามีของเธอเป็นเจ้าของ Manin Development และศูนย์ศิลปะมานิน ลูกพี่ลูกน้องของแม่สามีเอรยอง เป็นเจ้าของตึกมานิน และเป็นเจ้าของหุ้นมานิน และผู้สืบทอดกิจการทั้งหมดคือสามีของเอรยอง, ผม!"

5555 เขามีเอาเรื่องแบบนี้มาข่มกันด้วยเหรอคะจินกู แต่ว่านะ มันได้ผลดีนักแล แฟนเก่าของเอรยองถึงกับเจื่อน เจื่อย เปื่อยไปเลย

" ผมชอบเอรยองมากกว่าลูกสาวของเดน หรือใครก็ตามที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมมากว่านี้ ทำไมคุณถึงเลือกลูกสาวของเดน แล้วทิ้งเอรยองล่ะ ถ้าคุณคิดว่าของพวกนั้นมันน่าสมเพชนัก ถ้างั้นลองเปรียบเทียบดูสิ ตัวต่อตัว ผมบอกว่า "แต่งงานกับผมนะ" แล้วผมก็ทำ และคุณเสนอว่า "แต่งงานกับผมนะ" เป็นร้อยครั้ง เทียบกันแล้วผมดีกว่าคุณ เอรยองเลือกได้ถูกคนแล้ว อย่าเสียใจหากคุณจะจากไปตอนนี้"

จินกูแสดงฉากนี้ ทั้งสีหน้า สายตา น้ำเสียงคำแต่ละประโยคที่เน้นๆ เนื้อๆ หนักย้ำ เย้ยถึงความเหนือกว่า ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีอะไร ก็แค่เอาพ่อแม่ญาติพี่น้องมาอวดแต่ก็เท่มากเลยนะ 5555



เขาและเธออาจเริ่มต้นกันมาด้วยความ "ไม่ได้รัก" แต่ต่างคนต่างยอมแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง จินกูออกปากอย่างชัดเจนตั้งแต่ตอนดูตัวว่า ผู้หญิงอย่างเอรยองไม่ใช่เสป็คอย่างแน่นอน แต่การวางตัวของเธอก็ผูกใจเขาไว้ ถ้าเขาต้องการใครสักคนมาร่วมเป็นชีวิตคู่ที่ปราศจากความรัก สำหรับจินกูแล้วเขาหวังอยากให้เป็นเอรยองคนนี้แหละ แต่เธอก็ไม่มีท่าทีต่อเขาสักนิด จนกระทั่งเธอหมดหนทางแก้ปัญหาเรื่องพ่อถึงยอมเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอเขาแต่งงาน จินกูรู้ดีว่าเอรยองต้องการแต่งงานกับเขาเพราะอะไร แต่เพราะเขาก็อยากแต่งกับเธอ จึงปกปิดปัญหาของครอบครัวเอรยองเอาไว้ไม่ให้ครอบครัวของตนรู้

มันก็แค่การรักษาฟรีในโรงพยาบาลมานินในฐานะเครือญาติ อื่นใดเหนือจากนั้นเอรยองเก็บงำไม่เคยรบกวนจินกู ไม่เคยปริปากความเดือดร้อนใจกับใคร ก้มหน้าทำหน้าที่สะใภ้ดูแลพ่อแม่และน้องสาวของสามี คอยออกหน้าออกตาในสังคม จนไม่มีเวลาปลีกตัวไปเยี่ยมพ่อตัวเอง เพราะแม่สามีคอยจับตาดูและกีดกันอยู่กรายๆ ชีวิตในครอบครัวของจินกูไม่ง่ายสำหรับเอรยองเลยสักนิด ถึงแม้พ่อสามีจะเมตตาต่อเธอมาก แต่ความเมมตตานั้นยิ่งทำให้เธอวางตัวลำบากยิ่งขึ้นเมื่อน้องสาวจินกูไม่พอใจ แม่สามีก็หมั่นไส้

สำหรับเอรยอง จินกูอาจดูเป็นคนไม่เอาไหน แต่การที่เขายอมรับเธอไว้ทั้งที่รู้ว่าครอบครัวเธอมีปัญหา นั่นเป็นสิ่งที่เอรยองซาบซึ้งใจ ยิ่งไปกว่านั้นเขายกย่อง ให้เกียรติและเข้าใจสถานการณ์ในบ้าน คอยปกป้องเธอเสมอเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ในฐานะของการเป็นสามีที่ดี เอรยองยังมองเห็นน้ำใจเนื้อแท้ที่ซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกของการเป็นไอ้หนุ่มเสเพล และความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันวันละเล็กละน้อยก็ก่อเกิดเป็นความผูกพันโดยไม่ต้องเอ่ยปาก


ไม่เคยมีใครเอ่ยถึงคำว่ารัก ต่อให้มีความสัมพันธ์ต่อกันดีอย่างไร ก็ไม่ได้คิดไปถึงว่าอีกฝ่ายจะรักตน จนกระทั่งวันหนึ่งท่ามกลางหิมะตกและปัญหาที่สร้างอีกปัญหาขึ้นมา

"ฉันให้สัญญากับพ่อคุณไว้ในงานแต่งงาน ว่ามีอะไรฉันจะบอกท่าน ฉันอยากรักษาสัญญานั้นไว้ ฉันถึงจะได้อยู่กับคุณต่อไป"

ถ้อยคำท้ายประโยคของเอรยองสะดุดหูจินกู และเขาก็สุดแสนตื่นเต้นกับสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากปากของเธอมาก่อน

"นั่นหมายความว่า คุณอยากอยู่กับผมใช่ไหม คุณถึงต้องการจะไปใช่ไหม
ตอนหน้าสิ่วหน้าขวาน นาทีนี้ คุณไม่ได้ห่วงพ่อคุณ แต่ห่วงผมหรือ คุณกลัวว่า เพราะเรื่องนี้เราต้องเลิกกันหรือ"

ท่าทีดีใจของจินกูทำให้เอรยองเพิ่งรู้ตัวในสิ่งที่พูดออกไปเช่นกัน เมื่อมันเป็นคำพูดที่ออกมาจากความรู้สึก เธอก็ปฏิเสธไม่ออก อาการอึกอักของเธอทำให้จินกูแทบหัวเราะทั้งน้ำตา

"โฮว้ ผมคิดว่าผมคงบ้าไปแล้ว ทำไมผมรู้สึกเหมือนกับ ผมได้ทุกอย่างในโลกนี้เลย ไปด้วยกันเถอะ ทำแบบนี้ด้วยกันตลอดไปเลย ไปไหนไปกัน เหมือนเราขาดกันและกันไม่ได้ โอ้ เมียของผม ตลอดทั้งชีวิตคุณไปอยู่ไหนมา"

ชอบประโยคนี้จังเลย 'ตลอดทั้งชีวิตคุณไปอยู่ไหนมา' ซึ้งกว่ากว่าคำว่า 'ผมรักคุณ' เสียอีกนะ เมื่อสองคนจับมือฟันฝ่าปัญหาไปด้วยกัน ความสัมพันธ์ยิ่งมั่นคง และเมื่อมีคนมาพยายามทำลายมัน เอรยองก็หนักแน่นพอจะใช้หัวใจตัวเองนำทาง

"ฉันจะไม่ลังเล ฉันไม่รู้ว่าคุณรู้จักจินกูมากแค่ไหน และฉันไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของคุณกับเขาดียังไง สิ่งเหล่านี้ เหตุผลที่ทำไมฉันยังอยู่ที่นี่ เพราะจินกูเป็นคนที่น่าสงสาร ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะพูดยังไง สำหรับฉัน เขาขอให้ฉันยกโทษให้สำหรับสิ่งที่ฉันไม่อาจยอมรับได้ ในขณะเดียวกัน เขาเป็นคนดี และเป็นคนที่มีบุญคุณกับฉันมากๆ เพราะฉะนั้น ถ้านั่นเป็นความต้องการของจินกู ฉันจะไม่ลังเล ไม่สำคัญว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่สำคัญว่าอะไรจะเคยเกิดขึ้นในอดีต ฉันจะอยู่ในที่ที่ฉันควรจะอยู่เสมอ และนั่นคือ อยู่ข้างเขา
เพราะในความคิดของฉัน จินกูเป็น ...แค่เป็นตัวเขา ฉันเชื่อในตัวเขา"
นี่แหละ เอรยองและจินกู คู่ที่ชอบมากที่สุดในเรื่องนี้เลย



วุกกี Smiley ....................(หุหุ ขอละไว้เป็นปริศนา)


คู่ของวุกกี เป็นใครไม่บอก เพราะสถานการณ์ค่อนข้างคลุมเครือ แต่ผลลัพธ์ถูกใจมาก เพราะเธอคือคนที่เลือกไว้อยู่ในใจ ตั้งแต่โผล่หน้ามาครั้งแรกก็ถูกใจถึงแม้จะสวยสู้คนอื่นไม่ได้แต่นิสัยน่ารัก ตอนแรกไม่นึกเลยว่าจะกลายมาเป็นคนสนิทใจของวุกกีได้ เป็นเหมือนม้าตีนปลายที่สุดท้ายดันเกิดทะยานเป็นม้ามืด (หากว่าไม่ใช่คนนี้แต่เป็นอีกคน จะต้องขอโกรธคนเขียนบทกันเลยทีเดียว)

ทิ้งท้ายด้วยหนึ่งคำคมที่พบเห็นในละครเรื่องนี้ "พ่อแม่เป็นบุคคลที่เราไม่สามารถเลือกได้" คำคมประโยคนี้เอ่ยออกจากปากของวุกกีลูกที่ตกอยู่ในสถานะพ่อแม่รังแกฉัน เพราะไม่ว่าอย่างไรพ่อแม่ก็เป็นผู้ให้กำเนิด และความจริงข้อนี้เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ดังนั้น ไม่ว่าพ่อแม่จะเป็นคนแบบไหน พวกเขาก็เป็นพ่อแม่ที่สุดแล้วแต่ลูกจะเลือกปฏิเสธแล้วกล่าวโทษหรือเลือกจะยอมรับด้วยหัวใจกตัญญู

ความยาวของละครเรื่องนี้มี 17 ตอน นะคะ ดูแล้วเสียดายไม่อยากให้จบ เพราะยังไม่อิ่มใจ ด้วยรู้สึกว่าเรื่องราวถูกเร่งรัดในช่วงปลาย เพราะมัวไปเอื่อยเฉื่อยในช่วงต้น (คิดดูละกันกว่าพระเอกจะได้ออกหน้าเต็มตัวก็ตอนหกตอนเจ็ดเข้าไปแล้ว)

Best Actress ตำแหน่งนี้ขอยกให้อึนเอรยอง นอกจากแสดงดีแล้วยังแสดงหนักกว่าใครเพื่อน บทก็เยอะ ฉากอารมณ์ก็เยอะ หากจะถือว่าเอรยองกับจินกูเป็นพระเอกนางเอกเรื่องนี้ก็เป็นที่ยอมรับได้ Best Actor ขอเลียนแบบเจ๊ม้าอรนภาแห่ง The Star ร้องดีไม่ดีไม่ว่าขอหน้าตาดีไว้ก่อน นั่นก็คือแสดงดีมากน้อยหรือเปล่าไม่แคร์เพราะบทที่ได้แสดงนั้นเป็นคนที่ดีจริงๆ แล้วจะยกตำแหน่งให้ใครอื่นไปได้นอกจากคุณพระเอกฮยอกกี หนุ่มแสนดีที่สุดที่เลือกแล้ว (ชอบตรงที่การกระทำแต่ละอย่างของพระเอกมักเป็นการทำ 'ลับหลัง' แล้วนางเอกบังเอิญมาเจอเข้า นั่นจะให้ความรู้สึกต่างกันกับการคิดทำขึ้นมาตอนอยู่ต่อหน้าต่อตากัน)

ชอบฉากอารมณ์คับแค้นใจกับความอยุติธรรมที่ได้รับจนพระเอกของเราถึงกับร้องได้ น้องชายตายก็ใจสลายไปครึ่งแต่การที่เอาคนผิดมาลงโทษให้เขาไม่ได้ ฮยอกกีเจ็บปวดยิ่งกว่า และมันน่าซึมเสียนี่กระไรที่คนกอดปลอบใจไม่ใช่นางเอก แต่ดันเป็นอึนกีฮวานพ่อของนางเอกที่ฉกฉวยโอกาสดีๆ นี้ไป


เพราะรักฮยอกกีของเราขนาดนี้ เมื่อครั้งแอบจับได้ถึงสายตาของแชรยองยามจ้องมองไปยังฮยอกกี สีหน้าของพ่อจึงสุด Happy เพราะสำหรับผู้ชายคนนี้ พ่อบอกได้เลยว่า He's very ok for Daddy's girl.


Thank you very much for :

//www.series8-fc.com
//video.mthai.com by Suyong



Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2558 8:58:23 น. 6 comments
Counter : 11858 Pageviews.

 
ชอบเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ


โดย: s_dreamhigh IP: 118.173.67.236 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:20:55 น.  

 
ชอบคุณหมอฮงในเรื่องน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าชื่ออะไรเหมือนกัน หล่อดี ฮิๆ แต่ดูเรื่องนี้แล้วน้ำตาไหลพรากๆๆๆ คิดอะไรใหม่ๆได้หลายอย่างเลยค่ะ อยากให้น้องๆได้ดูเหลือเกิน


โดย: เพียง IP: 223.206.228.180 วันที่: 5 เมษายน 2554 เวลา:18:51:50 น.  

 
รีวิวได้น่าสนใจมากค่ะ จนคิดอยากจะหามาดูซะแล้ว ชอบที่คุณเขียนบทพูดสั้นๆ ยกมาจากละครซีรีย์เรื่องนี้ เอามาให้ได้อ่านกันด้วย แค่อ่านก็รู้สึกซาบซึ้งไปด้วย โดยเฉพาะความรักระหว่างพ่อกับลูก อ่านแล้วก็เลยทำให้อยากดูซะแล้วจิ หุหุ


โดย: อาตี้เจ้าเก่ามาบุกแล้ว IP: 119.46.167.30 วันที่: 21 เมษายน 2554 เวลา:15:00:38 น.  

 
ชอบเรื่องนี้มาก รักเว่อๆๆๆ
อ๊ากน่าร๊ากกกกกกกกกกกอ่ะ


โดย: Proud :) IP: 125.24.182.57 วันที่: 10 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:13:38 น.  

 
ซีรีย์เรื่องนี้ค่อนข้างซีเรียส ถ้าไม่ได้ตัวละครนิสัยติ๊งต๊องไม่เอาถ่าน และตัวประกอบสุดหล่อมาช่วยเพิ่มสีสัน ก็คงเป็นอะไรที่เครียดสุดๆ

จุดเด่นของตัวละครในเรื่องนี้ เป็นละครที่พล๊อตเรื่องหาได้ยากคือ พระเอกและนางเอกไม่ใช่คนรวย เป็นท่านชายเจ้าหญิง แต่เป็นคนพื้นๆ ที่มีอยู่ในสังคมทั่วไป

จุดเด่นของปมเรื่อง เพียงเพราะความใคร่ของคนๆ เดียว นั่นก็คือ จางซุก ที่บังเอิญเขาจิตไม่ปกติ กับกระเป๋าถือมีสไตล์ใบหนึ่งที่นางเอกต้องการมันเท่านั้น

เพียงแค่กระเป๋าใบเดียว กลายเป็นปมให้คนๆ หนึ่งเจ็บจนต้องจบชีวิตลงข้างถนน และอีกคนถูกใส่ร้ายว่าเป็นฆาตกร ทั้งๆ ที่เป็นเพียงคนสูงอายุที่มีสภาพร่างกายเหมือนทิชชูเปียกน้ำ (จะมีแรงและศักยภาพแค่ไหนที่จะฆ่าคนให้ตายได้)
แต่อย่าดูถูกคนแก่คนนี้ไป ปรัชญาในตัวของเขานั้นสุดยอด

ครอบครัวของนางเอก เป็นอะไรที่มีพ่อไว้เปรียบเสมือนโคกระบือ คือเป็นทั้งพ่อผู้หาเงินเลี้ยงคนในบ้านถึง 5 ชีวิต รวมไปถึงอีกหลายชีวิตที่ต่างมาพึ่งพิง ไม่ว่าจะเป็นพ่อแฟนของลูกชาย ที่มาขอยืมเงินมากมายไปส่งดอกเบี้ยบ้านตัวเอง หรือแม้แต่ลูกน้องพนักงานของพ่อ ก็มาพึ่งพิง

คนแก่คนนี้เปรียบไปก็เหมือนต้นไม้ เป็นที่เกาะของนกของกา นานวันเข้าต้นไม้แบกรับพวกมันไว้แทบจะไม่ไหว แต่ก็ยังคงพยายามฝืน เท่านั้นยังไม่พอ เขายังตอนตักข้าวให้ลูกทุกคนในบ้าน คอยดูแลลูกทุกคนยามพวกเขาหลับ คอยรีดเสื้อผ้าให้ ทั้งๆ ที่คนแก่คนนี้ทำงานหนักและเหนื่อยจากที่ทำงานมาทุกวัน
แต่พอกลับบ้าน กลับไม่มีใครดูแลเขาสักคน เขาต่างหากที่ยังต้องดูแลทุกคนให้กินดีมีสุข

จะด้วยเหตุผลนี้หรือเหตุผลใดก็ตาม ทำให้ลูกสาวคนเล็กไม่เคยเห็นค่าของใคร หรือของสิ่งใดมากเท่าความต้องการและความรู้สึกของตัวเอง นี่คือนิสัยนางเอกของเรื่องนี้ เลวร้ายได้สุดๆ

จริงๆ ต้นเหตุของเรื่องคือความต้องการกระเป๋าของนางเอก และการไปเที่ยวยามค่ำคืนอย่างคนที่หาเงินเองยังไม่ได้ หาเงินเองยังไม่เป็น แต่ริอาจไปเที่ยวบาร์

กะอีแค่เที่ยวคงไม่เป็นไร ถ้าเรื่องมันไม่ลุกลามไปไกลถึงทำให้พ่อของเธอกลายเป็นบุคคลต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกร และครอบครัวต้องล้มละลาย โดยที่เธอยังไม่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองด้วยความตระหนักรู้

แต่ข้อเสียของเธอก็ทำให้บทบาทตัวละครของ เอรยอง ผู้เป็นพี่สาวโดดเด่นมาก เธอยอมเสียสละชีวิตที่เหลือเพื่อแต่งงานกับคนที่สามารถช่วยพ่อเธอไว้ได้ นั่้นก็คือครอบครัวของจองจินกู ผู้มีนิสัยไม่ต่างจากน้องสาว คือ ใช้สตางค์เก่ง แต่เพราะว่าฉันรวย เขานอกจากจะไม่เอาถ่านอะไรทั้งสิ้น ยังเจ้าชู้ ดูๆ ไปแล้วอาจไม่มีข้อดีอะไรเลย แต่เบื้องลึกกลับเป็นคนที่น่ารักมากๆ
เราอาตี้ชอบตัวละครนี้นะคะ น้องที่ทำงานบอกว่า ไม่มีผู้ชายในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซนต์หรอก แต่เพียง 80 ก็หรูแล้ว หาคนที่รักเรานั่นแหละดีที่สุด จองจินกู ก็เป็นคนอย่างนั้น

แล้วผู้หญิงคนไหนจะกล้าฝากชีวิตไว้กับคนไม่เอาถ่านอย่าง จองจินกู ที่เอาแต่ใช้เงินของพ่อแม่ไปวันๆ ได้ ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงเข้าตาจนอย่าง เอรยอง ตอนแรกเราอาตี้ก็คิดว่า เธอคิดผิดมาก และคงต้องตกนรกทั้งชีวิตแน่หากต้องมาใช้ชีวิตกับผู้ชายคนนี้ แต่คนเขียนบทเขียนได้ดีมาก เขาเขียนให้ตัวละครตัวนี้มีทั้งด้านเลวและด้านดี ชนิดดีใจหายอย่างไม่น่าเชื่อ

จองจินกู แม้ไม่เอาถ่าน แต่สามารถปกป้อง เอรยอง และครอบครัวของเธอได้ครั้งแล้วครั้งเล่า อีกทั้งเขายังมีลูกอ้อนที่ใช้ได้กับแม่ แต่ไม่สามารถใช้ได้กับพ่อ เขาก็เอามาใช้เอาใจคนป่วยอย่างพ่อตาของเขาได้อย่างน่ารัก สร้างรอยยิ้มให้กับครอบครัวที่กำลังทุกข์ใจสุดๆ อย่างครอบครัวของนางเอกได้เป็นอย่างดี แถมยังดูแลเอรยอง อย่างดีมาก

เอรยองเองตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะรัก จองจินกู เพียงแต่รู้สึกขอบคุณทุกครั้งที่เขาปกป้องเธอ อย่างที่ไม่คิดว่าคนไม่เอาไหนอย่างเขาจะสามารถทำเพื่อเธอได้ และค่อยๆ กลายเป็นความเชื่อใจชายคนหนึ่งที่ใครๆ ต่างมองว่าเหยี่ยบขี้ไม่ฝ่อ
นั่นเพราะอะไร??

คำตอบคือ (คนเขียนบทเก่ง) ถึงสามารถสร้างบทให้ จองจินกู ได้แสดงการปกป้องเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วสุดท้ายใครจะไม่ยอมรับรักผู้ชายแบบนี้ หุหุ ว่าไปนั่น

แน่ล่ะที่ เอรยอง มีผลประโยชน์ให้กับ จองจินกู ด้วยเหมือนกัน จองจินกูมองเห็นว่า เธอประสบความสำเร็จในการเรียน และการทำงาน ที่เขาไม่มี และไม่อาจสร้างความภูมิใจให้กับพ่อ และแม่ของเขาได้ โดยเฉพาะกับแม่ที่ไม่สามารถเอาสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาอวดเพื่อนๆ ได้ แต่พอเขาแต่งงานกับ เอรยอง แม่ของเขาก็ยิ้มหน้าบานที่บัดนี้เธอสามารถหาเรื่องเอาไปอวดเพื่อนๆ ได้แล้วว่าเธอมีสะใภ้สุดยอดแค่ไหน

ทั้ง จองจินกู ยังภูมิใจในตัวภรรยาที่ทำให้พ่อของเขาหันมายิ้มให้กับเขา แม้จริงๆ พ่อจะยิ้มให้ เอรยอง ที่เป็นสะใภ้ แต่ในเมื่อเขายืนอยู่ข้างๆ ภรรยา ก็เหมือนกับยิ้มให้เขาด้วย ซึ่งมันแทบไม่เคยเกิดขึ้นกับเขาเลย รวมไปถึงคำตอบรับต่างๆ ที่พ่อของเขายอมตกลงง่ายๆ เพียงแค่ให้ เอรยอง ภรรยาของเขาเอ่ยปากกับพ่อ แล้วอย่างนี้เขาจะปล่อยเธอไปได้อย่างไร

สรุปเรื่องนี้ความจริงแล้วบทไม่ต้องไปถึงพระเอกกับนางเอกอย่างเชวด๊อกกี และแชรยอง หรอกค่ะ เอาแค่ตัวประกอบอย่าง จองจินกู และเอรยอง เพียงคู่เดียวก็แหล่มแล้ว

แต่ก็อย่างว่าหน่ะค่ะ เรื่องนี้พระเอกกับนางเอกไม่ใช่คนรวย มีบทพระเอกกับนางเอกแบบนี้ไว้ประดับละครบ้างก็ดี อะไรๆ จะให้หล่อและรวยตลอด ไกลความเป็นจริงของชีวิตซะทุกครั้งจริงไหมคะ?


โดย: อาตี้เจ้าเก่ามาบุกซ้ำ IP: 119.46.167.30 วันที่: 28 มิถุนายน 2554 เวลา:15:15:27 น.  

 
หลังจากได้ดูซีรีส์เรื่อง 판다양과 고슴도치 (Panda and Hedgehog) มาหลายรอบ เพราะติดใจในผู้เขียนซีรีส์ Panda and Hedgehog ว่าสามารถเอาชื่อสัตว์อย่างเม่นและแพนด้ามาล้อเป็นชือตัวละคร และรวมถึงเป็นมุขขำขันของตัวละครด้วย ทำให้ต่อมาก็ได้นั่งพิจารณาตัวละครในภายหลัง พบว่าทั้งเซทของนักแสดงตัวหลัก มาจากเรื่อง It's Okay Daddy's girl โดยเฉพาะการกลับมาเจอกันของพี่น้องตระกูลชเว ระหว่างพระเอกฮยอกกี และน้องชายวุกกี กลับมาแสดงซีรีส์ร่วมกันอีก แต่คราวนี้ทั้งสองคนได้สลับตำแหน่งการแสดงกัน โดยผู้น้องมาเป็นพระเอก ส่วนพระเอกกลายมาเป็นพี่ชายซะ หุหุ

ทั้งนี้เพราะบทบาทการแสดงของวุกกีน้องชายในเรื่อง It's Okay Daddy's girl ที่ได้ อี ทงแฮ จากวงซูเปอร์จูเนียร์มาแสดงนั่นเอง ซึ่งจากบทบาทการแสดงในเรื่องนี้ เป็นที่วิจารณ์ในข่าวเกาหลี และการโพสจัดหนักว่า อี ทงแฮ สามารถร้องไห้ในบทบาทได้สะเทือนอารมณ์คนดูมาก และแสดงออกได้อย่างอบอุ่น ตามนิสัยจริงๆ ของเขาที่ชอบช่วยเหลือและเข้าใจผู้สูงอายุ โดยเป็นที่รู้กันในหมู่เพื่อนๆ วงซูเปอร์จูเนียร์ ว่าพ่อแม่ของพวกเขามักโทรศัพท์มาถามสารทุกข์สุขดิบของลูกๆ ผ่านทางทงแฮ มากกว่าตัวลูกๆ เองโดยตรงซะอีก

กระแสตอบรับจากซีรีส์ It's Okay Daddy's girl ที่ ทงแฮ แสดงได้อบอุ่นนั้นเข้าตากรรมการ และผู้ชม กับสองพี่น้องที่สนิทสนมน่ารัก ดังนั้นอาจเป็นผลให้มีการนำทั้งสองคนกลับมาแสดงละครร่วมกัน รวมถึงตัวประกอบบางตัว ก็ได้หวนกลับมาแสดงร่วมกันด้วย เบื้องหลังการถ่ายทำ จึงเป็นอะไรที่เฮฮาสนิทสนม และสนุกสนาน จนทำให้ซีรีส์ Panda and Hedgehog ที่เริ่มต้นเรื่องอาจดูไม่ค่อยมีอะไร เริ่มมีอะไรมากขึ้นหลังจากดูไปสักพัก โดยเฉพาะเทคนิคการล้อชื่อตัวละครของผู้เขียนดังกล่าวนั่นเอง

และที่สำคัญ พัฒนาการแสดงของ อี ทงแฮ แสดงได้ดีขึ้นมาก และใสมากจนเกิดอาการอยากกินเด็ก ซึ่งจากการแสดงซีรีส์เรื่อง It's Okay Daddy's girl ทงแฮแสดงได้เข้าตากรรมการอย่างเราอาตี้มากอยู่แล้ว พอมาถึงซีรีส์เรื่อง Panda and Hedgehog จึงยิ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจเราเป็นอย่างยิ่งยวด

แต่ขอแนะนำว่า ควรดูซับเกาหลีจะดีกว่าพากษ์ไทย โดยเฉพาะถ้าใครพอจะฟังภาษาเกาหลีออกบ้าง ก็จะยิ่งเข้าใจอรรถรสที่ผู้เขียนพยายามจัดวางเอาไว้อย่างมีชั้น จะเรียกว่าตลกฝรั่งก็ว่าได้ ที่เราดูแล้วเขาใจว่าตรงนี้ฝรั่งเขาคงต้องขำแต่เราคนไทยไม่เห็นขำนั่นแหละค่ะ แต่นี่มันก็ซ้อนซ้อนมุขตลกเกาหลี ที่คนฟังเกาหลีและพอรู้วัฒนธรรมของเขามาพอสมควรดูแล้วคงจะเข้าใจไม่อยาก แต่ถึงจะรู้หรือไม่ ยังไงเรื่องนี้ก็สนุกค่ะ

ถ้าคุณชอบสองพี่น้องจากซีรีส์ It's Okay Daddy's girl เรื่องนี้ เราก็อยากขอแนะนำให้ดูเรื่อง Panda and Hedgehog ต่อเลยค่ะ ได้ความสมหวังของน้องชายพระเอกอะนะคะ น่ารักจัดหนักค่ะ


โดย: อาตี้เจ้าเก่ามาบุกซ้ำ IP: 203.146.156.55 วันที่: 26 มิถุนายน 2556 เวลา:18:11:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.