Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
17 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 

คน คน คน

เมื่อเดือน-สองเดือนก่อน...ปอยเกิดสำนึกในความเป็นพี่เป็นน้อง เป็นน้าเป็นอา
จำต้องไปเยี่ยมคุณอาที่โรงพยาบาลศิริราช...แกเป็นมะเง็ง(มะเร็ง)ในต่อมน้ำเหลือง
เนื่องมาจาก กินอาหาร อย่างเดียวซ้ำๆๆๆๆๆ..มากไปเป็นเวลานานเนิ่น
....
โรงพยาบาลศิริราชเปลี่ยนไปมากมายก่ายกอง...สะอาดสะอ้าน กลิ่นหอม การตกแต่งดูทันสมัยประดุจดั่งโรงพยาบาลเอกชน
คุณพยาบาลมีจิตใจเมตตากว่าเมื่อก่อนมาก...จำได้ว่าสมัยที่คุณย่าป่วยเข้ามารักษาที่นี่
ปอยเข้าใจผิด คิดว่านางพยาบาล เป็น นางพยามารซะอีก..ขนลุกขนพอง เห็นทีไรสยองทีนั้น
....
ชั้นล่างของโรงพยาบาล มีทั้ง เอสแอนด์พี,สตาร์บัค โอ้โหเยอะ
(นี่ตรูไม่ได้มานานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย)
....
ในส่วนของอนุสาวรีย์พระชนก ก็มีประชาชนที่มาเฝ้าพระอาการ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
บ้างจุดธูปขอพร..บ้างนั่งๆนอนๆ..บ้างคุยๆๆ
มีหลายคนั่งสมาธิ ประมาณว่าจะส่งกระแสจิตไปช่วยพระองค์ท่าน(อันนี้ปอยคิดเอาเอง)
....
ปอยเดินผ่านจุดที่เค้าจัดไว้ให้ลงนาม ถวายพระพร
ในใจนึก เราจะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมถวายพระพรด้วยวิธีนี้ ดีมั๊ย
อีกใจนึก แล้วพระเจ้าอยู่หัวจะได้พักผ่อนมั๊ย ถ้ามัวแต่มาอ่านชื่อพสกนิกร ผู้จงรักภักดิ์ดีทั้งหลาย
....
เอาเป็นว่า เรารักในหลวงเหมือนกัน แต่มีวิธีการแสดงออกต่างกัน เจตนาดีเหมือนๆกันทุกหมู่เหล่า
ปอยตัดสินใจ ไม่เดินเข้าไปลงนามเหมือนคนอื่นๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า
พระเจ้าอยู่หัวท่าน จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลามาอ่านชื่อปอย อย่างน้อยท่านก็ได้พักผ่อนเพิ่มขึ้นอีก 2 วินาที
มีค่ามากมาย...ในใจนึก ขอให้ท่านหายประชวรเร็วๆ
คิดได้ไงเนี่ย ปอยอลิน....
....
มีคนคนหนึ่ง บอกว่า ปอยนอกจากโก๊ะแล้ว ยังบ้าด้วย
ปอยไม่เถียงเค้าสักคำ เถียงไม่ขึ้นค่ะ ต้องยอมจำนน
....
ปอยเดินออกไปทางด้านข้างของโรงพยาบาล เพื่อที่จะไปลงเรือข้ามไปต่อรถที่สนามหลวง เพื่อกลับบ้าน
ขณะนั้นเป็นเวลา เกือบๆจะสามทุ่มแล้ว เรือมีตลอดคืน ค่าเรือขึ้นแล้วแฮะ 3 บาทแน่ะ
....
ปอยข้ามเรือไปลงที่ท่าช้างวังหลัง โผล่ขึ้นมาที่ท่าช้างเวลานี้ พ่อค้าแม่ขายกำลังทะยอยเก็บร้าน ทีละร้าน สองร้าน
แต่ถ้าเราเดินไปที่สนามหลวง จะเจอกับการกระทำตรงกันข้าม
เพราะจะมีพ่อค้าแม่ขาย ทะยอยกันตั้งร้าน ทีละร้าน สองร้าน
....
ปอยเดินจากท่าช้าง มุ่งหน้าไปที่สนามหลวง เดินไปเรื่อยๆ ผ่านวัง ผ่านมหาวิทยาลัยศิลปากร
ผ่านร้านเหล้า (แหมน่านั่งวุ๊ย)ข้ามทางม้าลาย เดินผ่านเข้าไปในสวนฯ
....
โอวมายก๊อด....หนูไม่ได้ตั้งใจนะ..ขอโทษที ขอโทษที
สองสามี-ภรรยา(รึเปล่า)เค้ากำลังจ๊วบจ๊าบกัน ท่ามกลางแมกไม้นานาพันธ์และสรรพสัตว์ทั้งหลายในสากลโลก
นังปอยก็ดันเดินๆๆ ไม่ดูตาม้าตาเรือ ฝ่าวงเข้าไปไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเล้ยยยยยย....
....
ปอยรีบเดินออกไปจากที่ตรงนั้น แล้วก็สังเกตุว่า สนามหลวงวันนี้ คนมันมาจากไหน มากมายก่ายกอง
ทั้งคนขาย คนซื้อ ยุ่บยับกันไปหมด....
แต่ก่อนที่ปอยจะไปสนใจชาวบ้าน ปอยคงต้องสนใจตัวเองก่อน เพราะตอนนี้ ปอยหาป้ายรถเมล์ที่จะขึ้นกลับบ้านไม่เจอ
แง๊ววววววว ........
....
ทำไงดีล่ะเนี่ย เค้าขึ้นกันตรงไหน มองดูคนที่ยืนอยู่เป็นกระจุกๆ ตรงนั้นน่าจะเป็นป้ายก็ไม่ใช่
ปอยเดินๆๆ และเดิน เดินจนรอบสนามหลวง เดินแบบใจเย็นเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย สักอย่าง

ตัดสินใจถามแม่ค้าขายน้ำอ้อย พี่คะ หนูจะไปอนุสาวรีย์ ต้องขึ้นรถตรงไหนคะพี่
"อ๋อ...สาวรีย์เรอะ..ยืนอยู่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวมันก็มา ขึ้นสาย....นะหนู"
(ขออภัยที่บอกสายรถเมล์ไม่ได้ เพราะตอนนี้ปอยลืมแล้ว)

รอรถเมล์ยังไม่มาสักที เลยคุยกะพี่น้ำอ้อยไปพลางๆก่อน

"วันนี้คนเยอะ เนอะพี่เนอะ..ท่าจะขายดีนะน้ำอ้อยพี่เนี่ย"
"อืม ขายดี ขายดีแบบนี้ทุกวันก็ดีแหละ"
"พี่แล้วพี่บ้านอยู่ไหนคะ มาขายตรงเนี้ย เข็นรถมาไกลมั๊ย"
(เจือกกะเค้าอีกตรู)

พี่น้ำอ้อยบอกว่า บ้านแกอยู่ไม่ไกล อยู่แค่วัดดอกไม้นี่เอง เวนกำ วัดดอกไม้เนี่ย ถ้าเป็นชาวฝั่งธนฯ จะรูว่ามันคือ
วัดบุปผาราม ไกลนะเฟ้ย ไม่ใช่ของหยอกน้อง...ปอยนับถือ แกเดินมาได้ยังไง
....
พี่น้ำอ้อยบอกว่า เดินมาขายที่นี่ ยังดีกว่าขายที่อื่น ที่นี่ขายได้ทั้งคืน ยังไงไก่มันต้องหิวน้ำ
จริงของแก เพราะปอยสังเกตุเห็น คุณไก่ในคราบหมดดู หมดนวดฝ่าเท้า เต็มสนามหลวง
ปูเสื่อรับนวดรับดูลายมือกัน เป็นระยะ ระยะ
....
ถ้าเราไปเดินที่หัวลำโพง เราจะเจอแม่ค้าส้มตำ ที่เปลี่ยนมือตำ ครกเดียวไม่เสร็จสักที
ถ้าเราไปเดินวงเวียน 22 เราจะเจอแม่บ้าน ถือถุงกระดาษยืนคอยแฟน แฟนไม่มาสักที
แต่มาที่สนามหลวง เราเจอหมดดูแฮะ ระหว่างดูลายมือไป เราก็ได้ดูดัชมิลล์ของหมอด้วย
....
เฮ้อออ..ว่าไม่ได้นะคะ มันเป็นเรื่องของปากท้อง และความเคยชิน
ปอยเคารพนับถือ คนที่ตั้งใจทำมาหากินอย่างสุจริต ทุกประเภท แม้แต่อาชีพขายของสงวน แบบนี้
ถ้าจะมีคนบอกว่า ผู้หญิงขายบริการน่ารังเกียจ และไม่น่ายกย่องนับถือ
ปอยอยากจะบอกคนเหล่านั้นว่า เค้าไปขายกันบนที่สวมหมวกคุณเหรอคะ

ปอยว่าคนเหล้านี้ ทำอาชีพที่เหล่าผู้ชายทั้งหลาย น่าที่จะก้มลงกราบ แล้วพูดว่า
"ขอบคุณครับ ที่ปลดเปลื้อง อารมณ์หงุดเงี้ยวให้กับพวกผม"
....
ถ้าเราเดินไปอีกสักหน่อย ถัดจากคุณพี่ผู้หญิง พวกนั้น เราจะเห็นคนเดินทาง ไร้ที่นอน
จับจองโคนต้นไม้ ป้ายรถเมล์ อาศัยนอนกันแดด กันลม
มีทั้งผู้หญิง ผู้ชายเต็มไปหมด
....
ทุกอย่างมันผสมปนเปกันอยู่ ในที่ที่เดียว
รถเข็น คนขายของ คนซื้อ หมดดู คนทำงานรีบกลับบ้าน และคนจรนอนหลับ
แต่ละชีวิต คืบคลานไปเรื่อยๆ ตามเส้นชีวิตของตัวเอง
ไม่ก้าวก่าย ไม่สนใจซึ่งกันและกัน

ปอยเคยไปถาม ลุงคนหนึ่งที่แกมานอนที่ป้ายรถเมล์ ที่ครั้งหนึ่งเมื่อ10กว่าปีที่แล้ว
ที่ปอยก็เคยต้องนอนที่ป้ายรถเมล์ เพราะความจำเป็นบังคับ
ลุงแกมีผมสีดอกเลา ใส่เสื้อยืดของแถมของกระทิงแดง ใส่กางเกงผ้าต่วนสีมอซอ

ถามได้ความว่า แกมาจากสุรินทร์ ที่นาแกโดนยึดไปแล้ว เพราะเอาไปจำนองจ่ายค่าเล่าเรียนลูก
ทีนี้เค้าจะเอาคืนแกไม่มีเงินให้เค้า ก้ต้องโดนยึดไปตามระเบียบ อ้อเมียแกตายแล้วหละค่ะ
ไอ้ลูกหัวแก้ว พอเรียนไม่ทันเสร็จมันก็ไปเชิดลูกสาวชาวบ้านเค้าหนีไป พ่อเค้าตามยิงตามฟันอยู่ทุกวี่วัน

สุดท้ายหายเข้ากลีบเมฆ ไม่ได้มาดูหัวดูหางพ่อมัน ว่ายังอยู่ครบหรือไม่
ไอ้ลูกเลวววววววววววววววว....เลี้ยงมันเสียนาเปล่าๆ

ลุงแกอยู่ไม่ได้ เพราะเป็นหนี้เป็นสินเค้าทั่วไปหมด ไม่รู้จะทำไง เลยโดดขึ้นรถไฟหนีเค้ามา
อ้าวววว ซะงั้น...และแล้วลุงแกก็หนีหนี้มาค่ะ

แกไม่มีเงิน แกว่ามากรุงเทพ อย่างน้อยก็ยังก๊อกๆแก๊กๆ ทำนู่นทำนี่ได้ เก็บเงินได้ค่อยไปใช้เค้า เวลาง่วงนอน
ก็นอนมันตรงป้ายรถเมล์นี่แหละ อาบน้ำก็มีแม่น้ำตั้งกว้าง คนเรามันไม่ตายเพราะอดข้าวหร๊อก
แต่มันจะตาย เพราะความกลัดกลุ้มในสมองตัวเอง

ลุงแกรับจ้างลับมีด แกเล่าไป ก็มองปอยไป หนูมีมีดให้ลุงลับมั๊ยล่ะ โธ่ลุงตะเกียบยังไม่มีจะใช้เลย
จะเอามีดที่ไหนมาล่ะ ก็เพราะไอ้เรื่องมีดนี่แหละ หนูถึงต้องมานั่งคุยกะลุงอยู่เนี่ย

ลุงแกถามปอยว่า หนูรู้มั๊ย ว่าคำว่าคนที่เรียกพวกเราอยู่เนี่ย มาจากอะไร

ปอยตอบว่า คนก็มาจาก การคนไงลุง (พูดพร้อมกับทำท่าเหมือนคนแกงในหม้อให้ลุงดู)
เอาหลายๆอย่างมาผสมกัน แล้วก็คน คน คน
คนเรามันถึงได้มีเลวมั่ง ดีมั่ง อยู่ในตัวคนๆเดียวไงลุง

เพื่อนปอยหันมามองหน้า ว่า จริงเหรอวะไอ้บ๊อง....

อืมใช่ ลุงบอกหยิบของดีเอามาใส่ ก็เป็นคนดี หยิบของเลวเอามาใส่ ก็เป็นคนเลว
พยายามหยิบแต่ของดีดีเอามาใส่นะหนู โลกเราจะได้มีคนดีดี เยอะๆ....
....
....
ปอยพยายามแล้วลุง พยายามหยิบแต่ของดีดีอย่างที่ลุงบอกแล้วหละ...ได้แค่นี้ จริงๆ
....





 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2550
4 comments
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2550 16:47:48 น.
Counter : 486 Pageviews.

 

อ่านแล้วได้ข้อคิดมากมายเลยค่ะ

ชีวิตแต่ละคนก็แต่ละแบบนะ

ท้ายที่สุด ทุกคนอยากหยิบสิ่งดี และอยากได้ผลตอบแทนที่ดี

แต่ที่เป็นอยู่ก็ไม่รู้มันดีเพียงไหน

สุขสันต์วันอาทิตย์ค่ะ

 

โดย: Batgirl 2001 17 พฤศจิกายน 2550 16:45:43 น.  

 

สวัสดีครับคุณปอย ตามมาจากซิโด้ครับ
ในเมลได้อ่านบ้าง รอดสายตาไปบ้าง (เมลเก่าค้างเยอะ)

เป็นนักเขียนไปแล้วเหรอครับ
ฝีมือระดับเทพอย่างคุณปอย
น่าจะเขียนภาพประกอบเนื้อเรื่องด้วยนะครับ

ท่าทางจะน่าดูมากๆเลยครับ


ป.ล. ในนี้มีคำผิดมีบ้างนิดหน่อยครับ ไม่เป็นไรเพราะผมไม่ใช่พี่ว่าน อิอิ

 

โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก 21 พฤศจิกายน 2550 19:13:25 น.  

 

น่าสนใจ เขียนได้น่าอ่าน
มีมุมมองที่ละเมียดละไม
เย้ แต่ของพี่กู่ ไม่ค่อยอัพ เลยน้อง

 

โดย: shadow-of-art 23 พฤศจิกายน 2550 11:19:27 น.  

 

ขอบคุณพี่กู่...ขอบคุณ คุณทุเรียนกวน(มันอ้วนนะอย่ากินมาก)
....
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน พร้อมกับคำวิจารณ์ ดีดีค่ะ
....
....
เย้ๆๆๆ...มีกำลังใจจัง

 

โดย: poyalin 24 พฤศจิกายน 2550 9:38:49 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ลูกคนเล็กของแม่ละเอียด
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ระหว่างโซ่ กับ อากาศ
โซ่ ... คล้องคอ พันธนาการ และ เป็น ภาระ
อากาศ...มองไม่เห็น เย็นสบาย และ เอาไว้ หายใจ
ระหว่าง โซ่ กับ อากาศ คุณอยากเป็นอะไร
....
ฉัน เป็นอากาศ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add ลูกคนเล็กของแม่ละเอียด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.