จุดเปลี่ยน # บทที่ 7 พักฟื้นร่างกาย
ผมกลับมาพักฟื้นร่างกายต่อที่บ้าน โดยมีแม่ดูแลอย่างใกล้ชิดและมีเฮียบัติ (พี่ชายคนโต) เป็นธุระในการพาผมไปหาหมอเมื่อถึงเวลานัดหมาย คุณหมอยังคงมีรอยยิ้มและท่าทีที่พึงพอใจกับผลการรักษา ซึ่งออกจะมีความแตกต่างกับผมอยู่บ้าง แขนผมงอได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น คุณหมอจับแขนแล้วออกแรงผลักให้แขนผมงอมากขึ้นเท่าไร ก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น ปวดมากถึงขั้นร้องออกมาเสียงดังจนแม่และเฮียบัติ ที่ยืนดูอยู่ใกล้ ๆ ออกอาการตกใจ อืมงอได้มากขึ้นนะ กี่อาทิตย์แล้วเนี่ย คุณหมอพอใจกับผลการรักษาและสอบถามถึงระยะเวลาการรักษาที่ผ่านมา 3 สัปดาห์ ครับ ผมจำได้แม่นเพราะเฝ้านับคืนวันที่ผ่านไปและตั้งความหวังให้แขนนั้นหายดี คุณหมอแนะนำให้พยายามทำกายภาพโดยการงอและเหยียดแขน แต่ถ้ามีอาการรู้สึกตึง เจ็บ ปวด ก็ให้หยุด อย่าหักโหม หรือรุนแรงมากนัก ผมตั้งอกตั้งใจฟังและน้อมรับคำแนะนำจากคุณหมอ แต่ก็คิดอยู่ในใจว่าเมื่อตะกี้นี้เองคุณหมอจับแขนผมโยกขึ้นโยกลง ถ้าผมไม่ร้องว่าเจ็บหมอคงไม่หยุดออกแรงแน่ ๆ ระหว่างการพักฟื้นบางครั้งก็มีอาการปวดแขนอยู่บ้าง อาจเป็นเพราะกระดูกที่ยังต่อกันไม่สนิทดีนักประกอบกับความพยายามที่จะทำกายภาพโดยการเหยียดงอแขนอยู่ตลอดเท่าที่จะทำได้ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบางครั้งเกิดขึ้นในขณะที่เรานอนหลับอยู่จนต้องรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพื่อให้รู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้นปวดมากจนบรรยายไม่ถูก ปวดจนตาลายเหมือนโลกหมุนไปหมุนมาเหมือนตัวลอยถึงไปในอากาศแล้ว ค่อย ๆ พลิกคว่ำลงมาตอนนั้นผมไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร ความรู้สึกเดียวที่มีอยู่คือความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเพียงเท่านั้น สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือพยายามข่มใจให้นอนหลับไปเท่านั้น ทุก ๆ ครั้งที่มาหาหมอ เฮียบัติก็มักจะพาผมและแม่ไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวเป็ด จนที่ร้านเริ่มจะจำหน้าได้แล้วและทราบดีถึงวิธีการกินก๋วยเตี๋ยวของผม คือเขาจะนำช้อนกับส้อมมาให้ผมอีกคู่หนึ่งเพราะด้วยการใช้มือซ้ายเพียงข้างเดียวนั้นการใช้ส้อมแทนตะเกียบสำหรับผมแล้วดูออกจะง่ายกว่า เฮียบัติยังคงให้กำลังใจอย่างต่อเนื่องบอกกับผมว่าผมนั้นสามารถฟื้นตัวได้รวดเร็วมาก และยังเป็นธุระในเรื่องประกันรถยนต์อีกเฮียบัติบอกว่าการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ความเสียหายทางทรัพย์สินนั้นมีไม่มาก เนื่องจากบริษัทประกันจะชดเชยให้ทั้งหมด รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลด้วย ที่สำคัญเราต้องดูแลรักษาตัวให้ดี ๆ ค่ารักษาพยาบาลยังคงครอบคลุมอยู่ถึงแม้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เฮียบัติยังเล่าให้ฟังอีกว่าโชคดีที่ในวันเกิดเหตุนั้นเฮียบัติได้เดินทางไปหาผมก่อนเพื่อให้รู้ว่าผมนั้นมีอาการปลอดภัยอยู่หรือไม่ ก่อนที่จะไปดูซากรถ เพราะสภาพรถที่เห็นนี้นมันพังยับเยินหน้ารถยับยู้เข้ามาถึงตัวคนขับพวงมาลัยก็หักพับลงมาเกียร์ก็หักบิด จากสภาพรถก็ไม่อาจเดาสภาพคนขับรถให้เป็นอย่างอื่นไปได้ การรอดชีวิตมาได้นั้นนับว่าเป็นเรื่องโชคดีมาก ผมเองเมื่อได้ฟังแล้วก็รู้สึกตกใจ เพราะว่าไปแล้วตั้งแต่เกิดเหตุผมก็ยังไม่เห็นสภาพรถเหมือนกันและเมื่อได้เดินทางไปเคลียร์คดีที่โรงพักโดยเสียค่าปรับในข้อหาขับรถโดยประมาทก็เลยถือโอกาสแวะเข้าไปดูซากรถที่ถูกลากมาเก็บไว้ที่โรงพัก พอได้เห็นสภาพรถแล้วก็เป็นจริงดังที่เฮียบัติเล่าให้ฟัง เละตุ้มเป๊ะ ช่วงเวลาที่พักฟื้นอยู่ที่บ้านนั้น ก็ยังมีบรรดาญาติสนิทมิตรสหาย ที่เพิ่งทราบข่าว ก็เดินทางมาเยี่ยมไต่ถามถึงอาการและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยความห่วงใย ในแต่ละวันผมจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการแขนงอขึ้นงอลง เจ็บบ้างปวดบ้าง ก็ทนเอาแต่ค่อย ๆ ทำเอาไม่ฝืนไม่รุนแรง ซึ่งก็มีความก้าวหน้าขึ้นมาเรื่อย ๆ เพียงแต่ว่ามันไม่ได้เห็นผลเพียงช่วงเวลาข้ามคืนถึงภายในวัน สองวัน ความเปลี่ยนแปลงในความก้าวหน้าเกิดขึ้นมาที่ละน้อย ที่ละน้อย ซึ่งผมเองมีความรู้สึกว่าพัฒนาการเป็นไปด้วยความล่าช้าเสียเหลือเกินเมื่อเปรียบเทียบกับความคาดหวังขอผม เมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือนผมสามารถงอแขนได้มากขึ้น หมุนข้อมือได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถบิดแขนได้ ยังพลิก หงาย ฝ่ามือไม่ได้ นิ้วโป้งและนิ้วชี้ก็ยังงอไม่ได้ เจ้เจี๊ยบซื้อยาทาเพื่อลบรอยแผลเป็นมาให้ใช้และเฮียทองก็สนับสนุนให้ใช้โดยการันตีว่าถ้าทาบ่อยๆรอยแผลเป็นต่าง ๆ จะจางหายลงไปได้ แต่ใจผมเองนั้นไม่ได้รู้สึกเป็นกังวลกับรอยแผลเป็นหรือตำหนิต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมากนัก สิ่งที่เป็นกังวลใจมากกว่าคือแขนที่หักนั้นจะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้มาน้อยขนาดไหน แต่ยาที่ทานั้นก็สามารถช่วยลดรอยช้ำรอยจ้ำเลือด และรอยแผลเป็นก็ต่อย ๆ ซีดจางลง ก็หมดยาไปหลายหลอด ผมมีความรู้สึกว่าหายใจได้ลำบากมากเหมือนมีอะไรอุดตันอยู่ในโพรงจมูก คงเป็นเพราะลิ่มเลือดที่แห้งแข็งตัวและตกค้างอยู่ข้างใน ผมพยายามใช้นิ้วมือแคะออกมาแต่ก็ไม่สามารถนำสิ่งที่อุดตันออกมาได้ รู้สึกว่ามันมีขนาดใหญ่และติดแน่นในโพรงจมูกเอามาก ๆ ผมตัดสินใจใช้แหนบพยายามดึงเอาสิ่งที่อุดตันออกมา โดยใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดก่อน จากนั้นก็สอดเข้าโพรงจมูกหนีบเจ้าก้อนแข็ง ๆ ที่ติดอยู่ในโพรงจมูกอยู่หลายครั้งจากนั้นก็ดึงออกมาด้วยความยากลำบากมันยึดติดอยู่แน่นมากใช้เวลาดึงอยู่นานพอสมควร เมื่อดึงออกมาได้แล้วก็ต้องตกใจในขนาดของก้อนลิ่มเลือดที่แข็งตัวมีขนาดใหญ่มาก นึกไม่ถึงเลยว่ามันจะฝังตัวอยู่ในโพรงจมูกของเราได้ แต่ตอนนี้โล่งจมูกแล้ว
|
|
|
|
|
|
Create Date : 14 มีนาคม 2550 |
|
3 comments |
Last Update : 18 มิถุนายน 2551 17:24:30 น. |
Counter : 364 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Nilz 21 มีนาคม 2550 8:27:25 น. |
|
|
|
|
|
|
ถั่วแปบคลุกมะพร้าวอ่อนโรยงาดำ
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|