บ่มีสโลแกนได้ก่อ
Group Blog
 
All blogs
 

^^^หลักการเลือกช่างภาพถ่ายรูปจากGuru^^^

1. การเลือกช่างภาพ
- อยากแนะนำว่าใช้เวลานิดนึง ดูงานที่ผ่านมาของช่างภาพแต่ละคน อย่าเอาแต่ประสบการณ์หรือจำนวนงานที่ผ่านมาคุยกันทางโทรศัพท์ บางคนบอกว่าถ่ายมาร้อยกว่างานแล้ว แต่ภาพออกมาแข็งๆ ทื่อๆ สู้คนรุ่นใหม่ที่ถ่ายมาสิบกว่างานไม่ได้ค่ะ
- ช่างภาพที่ถ่ายภาพวิวสวย ไม่จำเป็นว่าจะถ่ายภาพบุคคลสวย เพราะเป็นคนละศาสตร์กัน คือ Portrait กับ Lanscape / Macro / Architecture มันคนละอารมณ์กัน แม้ว่าจะเรียนมาด้วยหนังสือเล่มเดียวกัน แต่บางคนเขาก็มีความสามารถหลายด้าน แล้วแต่คนจริงๆ ค่ะ
- ช่างภาพที่ดีต้องตรงไปตรงมากับดีลที่เสนอ เช่น ค่าแรงเท่าไหร่ ค่าล้างอัดเท่าไหร่ ค่าจัดอัลบั้มเท่าไหร่ เพราะเห็นเพื่อนบางคน เลือกช่างภาพคนดัง ภาพออกมาก็สวยพอประมาณ แต่ค่าใช้จ่ายรวมกันเก้าหมื่นกว่า นี่แค่ถ่ายกับจัดอัลบั้มนะ ไม่ใช่สตูดิโอด้วย แค่วันงานวันเดียว แขกประมาณสองร้อยเองด้วย พูดไม่ออกไปเลย เวลาเจอเขาให้ถามให้ละเอียดตรงนี้
- ช่างภาพต้องตรงเวลา เพราะบางงาน จะสวมแหวนไปแล้วช่างภาพวิ่งทะเล่อทะล่ามาทีหลัง วทจส. ต้องขอเบอร์มือถือเขาไว้ โทรไปเตือนก่อนหนึ่งวัน และโทรตามถ้าเขามาช้า งานกลางคืนช่างภาพต้องมาเซทแสงไฟก่อนงานเริ่มประมาณหนึ่งชั่วโม งเป็นอย่างต่ำ บ่าวสาวควรถ่ายภาพคู่หน้างานก่อนแขกมาเพราะตอนนั้นหน้ายังไม่มั น ผมยังไม่ยุ่ง
- ช่างภาพต้องอารมณ์ดี เพราะงานแต่งนี่เป็นการถ่ายภาพที่เหนื่อยมาก ช่างภาพทุกคนต้องเตรียมหอบกล้องหอบเลนส์และแฟลช หนักมากค่ะ ไม่ต่ำกว่าสิบกิโล แบกทั้งวัน ยิ่งงานกลางแจ้งยิ่งยากมากๆ บางทีครอบครัวบ่าวสาวค่อนข้างจู้จี้ ช่างภาพจะเหนื่อยมาก พอเหนื่อยแล้วบางทีหงุดหงิด ภาพจะออกมาไม่สวย (เพราะช่างภาพบางคนจะสักแต่ถ่ายๆไป) เพื่อป้องกันช่างภาพหงุดหงิดเวลาถ่ายงานกลางแจ้ง ควรมีช่างภาพสองคนค่ะ และควรมีน้ำมีอาหารบริการช่างภาพด้วยค่ะ เวลาหิวๆ แล้วเหนื่อยนี่หงุดหงิดนะ ต้องเข้าใจค่ะ
- ช่างภาพต้องแต่งตัวดี เพราะงานเราเป็นงานสวย ช่างภาพที่ถ่ายงานแต่งงานส่วนมากใส่สูท แต่มีบางคนก็เซอร์มาเลย เวลาคุยก็บอกเขาตั้งแต่แรกว่าให้แต่งตัวอย่างไร ถ้ามีธีมงานเป็นสีอะไรเขาจะได้เตรียมแต่งตัว และอุปกรณ์ประกอบมาถูกค่ะ
- ช่างภาพต้องมีอุปกรณ์พร้อม ถามเขาว่ามีกล้องกี่ตัว เลนส์กี่ตัว แฟลชกี่ตัว แบตเตอรี่สำรองมีพอไหม เม็มโมรี่หรือฟีล์มมีมากแค่ไหน ที่ชาร์จมีกี่อัน มีไฟร่มไหม จัดแสงอย่างไร มีคนช่วยไหม ขาตั้งต้องมีนะคะ และต้องเป็นขาตั้งอันใหญ่ๆด้วย ขาตั้งเบาๆแบบอันละสามร้อยบาทนั้นมันไม่นิ่ง คนเตะก็กล้องล้ม เดินผ่านก็สั่นแล้ว จริงๆนะ ไม่ได้พูดเล่น งานแต่งงานคนยิ่งแยะๆอยู่ แขกเดินชนกล้องล้มพอดีไม่ต้องมีรูปกัน
- ช่างภาพต้องมีความคิดสร้างสรร - จะให้ภาพเราออกมาดูน่าประทับใจ ช่างภาพต้องมีมุมมอง ซึ่งอันนี้มันแล้วแต่บุคคล จะก้อปปี้กันก็ได้ เพราะเดี๋ยวนี้มีลงภาพบนเวบเยอะแยะ มุมภาพพอร์เทรตเลยออกมาคล้ายกันแยะ แต่ยังไงก็ให้มุมมองช่างภาพตรงตามที่เราต้องการ เพราะบางคนครีเอทเกินไป เช่นบังคับให้เจ้าสาวขี่คอเจ้าบ่าว แต่เจ้าบ่าวไม่ชอบแนวนี้ เดี๋ยวจะพาลทะเลาะกับช่างภาพไปเปล่าๆ พยายามอธิบายแนวที่ตัวเองชอบให้เขาฟังก่อนวันงานค่ะ

2. ฟีล์ม หรือ ดิจิตอล
- ถ่ายฟีล์ม ต้องเป็นฟีล์มสไลด์ ซึ่งมีข้อดีคือสีจะไม่เพี้ยน (ถ้าช่างภาพจัดแสงเก่งๆ) ส่วนฟีล์ม negative หรือฟีล์มสีที่เราถ่ายกันทั่วไปไม่แนะนำ (แต่ช่างภาพส่วนใหญ่ก็ใช้กันแยะเพราะเอาไปล้างอัดง่าย) เพราะถ่ายเก่งยังไงก็ขึ้นกับร้านที่ล้างรูปว่าใช้น้ำยาอะไร กระดาษอะไร เราคอนโทรลตรงนี้ไม่ได้ ช่างภาพส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ล้างอัดฟีล์มเอง ในที่สุดก็ขึ้นกั บร้านล้างอัดภาพอยู่ดี บางร้านทำฟีล์มเป็นรอยแล้วใช้คืนเป็นฟีล์มเปล่าให้.. เศร้าเลย หากคิดเอาฟีล์มไปแสกนให้เป็นดิจิตอลทีหลังภาพออกมาจะไม่ค ม ถ้าให้คมมากๆก็ได้แต่ค่าแสกนภาพละ 300 บาท
- ถ่ายดิจิตอล มีข้อดีคือเห็นภาพทันที แก้ไขถ่ายซ่อมได้ทันที วทจบ และ วทจส ที่ชอบหลับตาเวลาเจอแฟลช แนะนำให้เป็นดิจิตอลเลย คุณภาพของภาพปัจจุบันอัดขยายได้เท่าบานประตูแล้วสวยพอๆกับฟีล์ม แต่มีข้อแนะนำคือ กล้องที่ถ่ายต้องเป็นดิจิตอล SLR ซึ่งที่ช่างภาพนิยมใช้กันมี รุ่นต่างๆ ดังนี้ (นอกเหนือจากนี้ ไม่แนะนำค่ะ) รุ่นที่แนะนำนี้มีขนาดความละเอียดภาพ 6 megapixel ขึ้นไปถึง 12 megapixel เรียงตามราคาและคุณภาพในแต่ละยี่ห้อจากน้อยไปมากค่ะ
Nikon D70, D70s, D100, D200, D2X, D2Xs
Canon 300D, 350D, 10D, 20D, 30D, 5D, 1D, 1Ds, 1DsMarkII
FujiFilm S2Pro, S3Pro
ช่างภาพที่ใช้กล้องอื่นนอกจากนี้ อาจจะถ่ายภาพสวยก็ได้ แต่มิชชี่ไม่ถนัดค่ะ และไม่ค่อยเห็นเขาใช้กัน ยกเว้นจะยกกล้อง Medium format จากสตูดิโอมาแบบมีดิจิตอลแบ้ค ซึ่งมีน้อยเพราะถ่ายแต่ละภาพใช้เวลานาน กล้องสามยี่ห้อ 17 รุ่นด้านบนนี้ มีไฟล์ภาพที่เจ้าของงานพอใจได้เลยค่ะ
เวลาช่างภาพเก่งๆ ถ่ายดิจิตอลเขาจะถ่ายเป็น RAW file ซึ่งกล้องที่ว่าข้างบนนี้ถ่ายได้หมด มันอาจจะกิน memory มากหน่อยเพราะไฟล์ภาพจะเก็บ data ทั้งหมดไว้ แต่มีข้อดีคือหากสีหรือแสงเพี้ยนเราใช้ photoshop แก้เอาภายหลังได้ ถ้าให้ดีให้เขาเขียนใส่ซีดีหรือดีวีดีมาเลยก่อนหนึ่งก้อปปี้ตอน งานเลิก แล้วให้เขากลับไปแปลงไฟล์แล้วแต่งรูปมาให้เวลานัดส่งงานอีกที ถ้าช่างภาพทำไฟล์ไม่สวยแก้แสงไม่ถูกต้องก็เอาไฟล์ที่เป็น RAW มาให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำไฟล์ภาพ หรือ แต่งภาพด้วยโปรแกรมดิจิตอล ทำให้ อาจต้องเสียเงินเพิ่ม แต่อย่างน้อยทุกอย่างก็มีทางแก้ไข หากถ่ายเป็นไฟล์ .jpg การปรับแสงและสีจะทำให้คุณภาพของภาพลดลงค่ะ

3. เลนส์ที่ช่างภาพใช้
ส่วนมากงานถ่ายภาพบุคคลจะใช้เลนส์ช่วงกลาง-เลนส์กว้างค่ะ ขออนุญาตสรุปคร่าวๆไว้เป็นไอเดีย เผื่อเวลาถามช่างภาพว่ามีเลนส์ช่วงไหนบ้าง จะได้ทราบว่าเขามีพร้อมหรือไม่ และตรงตามที่วทจบ. + วทจส. ต้องการหรือไม่
- เลนส์ตาปลา (fisheye) อาทิ 10.5mm, 15mm, 16mm - ประเภทนี้ เป็นเลนส์โค้ง ถ่ายออกมาจะเก็บภาพได้เกือบทั้งห้อง ข้อเสียคือภาพโค้งค่ะ เวลาอยู่ใกล้ๆ ถ่ายหน้าเจ้าสาวจะออกมาแบบเดียวกับ "The Dog" คือจมูกโตๆ ตาโตๆ เอาไว้ถ่ายเล่นสนุกๆ ค่ะ แต่ไม่ควรใช้กับภาพสำคัญๆ เช่นตอนตัดเค้ก หรือถ่ายกับผู้ใหญ่ ทั้งนี้ทั้งนั้น แล้วแต่ชอบค่ะ
- เลนส์มุมกว้าง (wide angle) อาทิ 10-22mm, 12-24mm, 17-35mm, 18-35mm เป็นต้น เลนส์พวกนี้ใช้เก็บภาพมุมกว้าง เช่นบ่าวสาวอยู่บนเวทีแล้วเห็นแขกยืนเกือบทั้งงาน ภาพที่เราคุ้นๆกันก็คือภาพพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกสีหบัญชรแล้วม ีประชาชนเสื้อเหลืองๆ ยืนเป็นแสนๆคนข้างหน้า แบบนั้นใช้เลนส์มุมกว้างนี่แหละค่ะถ่าย
- เลนส์ช่วงกลาง (normal angle) อาทิ 24-120mm, 24-70mm, 24-85mm, 35mm, 50mm และอีกมากมาย ซึ่งใช้เก็บภาพบุคคลได้ดีในระยะกำลังพอดีค่ะ เป็นเลนส์ช่วงสำคัญที่ช่างภาพต้องมีแต่จะมีรุ่นไหนนั้นแล้วแต่ก ำลังทรัพย์และความถนัดของช่างภาพค่ะ
- เลนส์ซูม (telephoto) อาทิ 80-200mm, 80-400mm, 70-300mm, 200-400mm, 180mm, และอื่นๆอีกมากมาย เลนส์พวกนี้ไว้ถ่ายระยะไกลค่ะ ข้อดีคือฉากหลังจะเบลอกระจาย ข้อเสียคือช่างภาพต้องยืนห่างมากกกกก อาจมีอะไรตัดหน้าทำให้ภาพเสียไปได้ และเลนส์มันหนัก ควรมีขาตั้งกล้อง และควรใช้กับงาน outdoor เป็นหลัก
- เลนส์มาโคร (macro lense) อาทิ 60mm macro, 105mm macro เป็นต้น ใช้กับการถ่ายของกระจุกกระจิก เช่นถ่ายของชำร่วย ถ่ายแหวนหมั้น สินสอด เพราะจะทำให้ภาพชัดแค่จุดเดียวตรงที่โฟกัส ส่วนอื่นจะเบลอๆ ออกไป ภาพที่ออกมาจะซอฟต์ๆ บางทีใช้กับภาพบุคคลได้เหมือนกันเพราะทำให้ฉากหลังที่รบกวนสายต าเบลอออกไป ภาพที่ถ่ายจากเลนส์เดี่ยวมักจะสีสวยและคมชัด (ถ้าล้อคโฟกัสแม่นยำ)

4. จัดอัลบั้ม ทำไง
ถ้าเอาสะดวก ก็จ้างเหมารวมไปก็ได้ แต่ก็เสี่ยงว่าช่างภาพบางคนใช้อัลบั้มราคาถูก ภาพสวยๆของเราเลยดูเห่ยไปเลยก็มี ส่วนมากแนะนำให้บ่าวสาวจัดเอง คือ จ้างช่างภาพมาถ่ายดิจิตอลให้ เขียนไฟล์มา แล้วเราไปเลือกอัดเองตามขนาดที่เราพอใจ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง เอาการ์ด เอาจดหมาย เอาอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นความทรงจำของเราแปะใส่อัลบั้มด้วย การ์ดอวยพรจากเพื่อน ซองแดงจากพ่อแม่ ทำนองนี้ เราจัดเองมันภูมิใจกว่าอะนะ

5. ค่าใช้จ่าย
เท่าทีพอทราบ จะมีวิธีจ้างดังต่อไปนี้
- จ้างเป็นค่าแรง โดยเฉลี่ยวันละ 5,000 – 12,000 บาท ทั้งวันเช้าถึงเย็น บางคนมีลิมิตว่าถึงสามทุ่ม เกินกว่านั้นคิดรายชั่วโมง บางคนรวมอุปกรณ์ทุกอย่างแล้ว บางคนบอกว่าถ้าใช้ไฟร่มคิดต่างหาก อันนี้ขึ้นกับบุคคลจริงๆ จบงานหรือหลังงาน ช่างภาพจะเขียนซีดี หรือเอาฟีล์มที่ถ่ายแล้วแต่ยังไม่ล้างมาให้ เจ้าภาพต้องนำไป process ต่อเอง ข้อดีคือได้รูปเร็วเพราะเราอัดเอง (ให้ช่างภาพอัดให้ บางคนหายไปเป็นเดือนๆ กว่าจะส่งรูป) ข้อเสียคือเราต้องไปอัดรูปเอง เสียเวลาเลือกรูป ตาลายมากๆ เพราะแขกมางานแยะ
- จ้างเหมา ค่าถ่ายรูป อัดรูป จัดอัลบั้ม บางคนรวมแต่งหน้า ทำผมให้ด้วย ราคาเริ่มต้นที่ 10,000 บาท ขึ้นไปเป็นแสนก็มี พวกแพงๆนี่มักเป็นกล้องฟีล์มแล้วเขาคิดเป็นม้วน ม้วนละ 500-800 บาท อาจจะมีรวมอัดรูปยักษ์ใหญ่เป็น PVC ให้ ซึ่งจริงๆ ค่า print รูปขนาดเท่าประตูบ้านเนี่ย ราวๆ 3,000 - 5,000 บาท แต่บางคนอาจคิดเงินคุณเป็นหลายหมื่น แต่..ทุกอย่างก็ขึ้นกับความพอใจของวทจส. และวทจบ. ค่ะ


**วทจส.,วทจบ= ว่าที่เจ้าสาว,ว่าที่เจ้าบ่าวค่ะ

ข้าน้อยขอคารวะท่านGuru




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2550    
Last Update : 29 ธันวาคม 2550 15:05:28 น.
Counter : 1017 Pageviews.  

++ดูแบบพานไทยๆกันเต๊อะ++
















 

Create Date : 25 ธันวาคม 2550    
Last Update : 25 ธันวาคม 2550 18:46:49 น.
Counter : 1737 Pageviews.  

~~มาดูน้ำแข็งงานแต่งงานบ้างดีก่า~~














 

Create Date : 25 ธันวาคม 2550    
Last Update : 25 ธันวาคม 2550 17:55:12 น.
Counter : 1167 Pageviews.  

**สถานที่ที่คู่รักนิยมถ่ายภาพเก็บไว้..กิ้วๆ**

1. ซุ้มดอกไม้สด
เพราะว่าคู่รักกำลังมีความรักเบิกบาน
และดอกไม้ยังมีสีสันที่สดใสทำให้ภาพสวยได้

2.ชายทะเล/ชายหาด
เพราะว่าเป็นที่โรแมนติกมากในการที่จะเล่นท่าแปลกต่างๆ(โอ๊ะ..อย่าคิดลึก)
เช่น ขี่คอไง จับมือเหวี่ยงกัน นั่งเล่นทราย อะไรประมาณเนี่ย
แถมยังมีลมหนุนจากทะเล ทำให้ดูธรรมชาติสบายๆ
จะถ่ายด้วยชุดแต่งงาน หรือลำลองก้อสวยหมดเลย
แต่ว่าถ้าไปไม่ได้อาจเลือกเป็นแถวสระว่ายน้ำ ทะเลสาบก้อโอเค
แต่สระว่ายน้ำเอาแบบของโรงแรมจะสวยกว่าที่เป็นแบบสี่เหลี่ยมนะ

เราก้อเลือกสระว่ายน้ำแหละ คะยั้นคะยอจะถ่ายให้ได้
ประมาณว่าขอให้ในอัลบั้มมีสีฟ้าของน้ำสักใบเต๊อะ

3. คู่กับรถโบราณ
เช่น ออสติน มินิคูเปอร์ (แต่ไม่ได้ตบแย่งกันนะฮะ)
อันนี้ก้อเก๋ไปอีกแบบ อาจเปรียบกับว่าความรักคือการเดินทางที่ต้องใช้ชีวิตคู่ร่วมกันไป

4.ที่อื่นๆ
เช่นเซตฉากขึ้นมาเอง หรือจะไปตามบ้านสวยในฝัน ตามขั้นบันไดมหาวิทยาลัย
ตามโบสถ์ อะไรประมาณนั้นครับท่าน


แต่ถึงยังไงสถานที่จะสวยหรือไม่สวยก้อไม่เท่ากับความรักของคุณที่แสดงออกมาจากข้างในหรอกค่ะ
อุ้ย...เขินจัง




 

Create Date : 24 ธันวาคม 2550    
Last Update : 25 ธันวาคม 2550 17:17:01 น.
Counter : 533 Pageviews.  

~~~script ของพิธีกรงานแต่งงานนะคะ~~~

ลายตารึเปล่าเนี่ย
Script

(ช) สวัสดี ค่ะ/ครับ ขอต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมในงานมงคลสมรสระหว่าง คุณ........................และคุณ........ ................
(ญ) ในวันนี้กล่าวได้ว่าเป็นวันมงคลของทั้งสองท่านขอเชิญแขกผู้มีเก ียรติรับชมภาพแห่งความประทับใจของคู่บ่าว-สาวได้ ณ บัดนี้ค่ะ/ครับ
(เริ่มฉาย Side multi-vision ความยาวประมาณ 10-15 นาที )

(ช) ในโอกาสนี้ ดิฉัน/กระผมขอเรียนเชิญคู่บ่าว-สาว ขึ้นมาบนเวทีค่ะ/ครับ
( ดนตรีบรรเลงเพลงที่ได้ตกลงไว้หรืออาจจะเปิด CD เพลงที่ทางคู่บ่าว-สาวได้จัดเตรียมไว้..........................(close to you /b.Bacharach)
(คู่บ่าว-สาวเดินขึ้นเวที เมื่อขึ้นเรียบร้อยแล้วจึงค่อยดำเนินงานต่อ )
------- พอจบเพลง ……….เจ้าบ่าวเจ้าสาว เดินขึ้นเวที --------------

(ช) "วันนี้เจ้าบ่าว-เจ้าสาว สวยหล่อ เหมาะกันมากเลยนะครับเนี่ย"
(ญ) "เห็นด้วยค่ะ แต่ก่อนที่เราจะมาพูดคุยกับเจ้าบ่าว-เจ้าสาวเนี่ย ต้องขอเชิญประธานในพิธี ขึ้นกล่าวคำอวยพรให้กับคู่บ่าว-สาวที่น่ารักของเราในค่ำคืนนี้ด ้วยคะ"
ขอเรียนเชิญ ท่าน/คุณ..................................................... (ชื่อ และ ตำแหน่ง) ในฐานะที่ท่านเป็นบุคคลที่ทางฝ่ายเจ้าสาวให้ความเคารพเป็นอย่าง มาก ขึ้นคล้องพวงมาลัยและกล่าวคำอวยพร เพื่อเป็นศิริมงคลแด่คู่บ่าว-สาว ขอเรียนเชิญค่ะ
( ประธานคล้องพวงมาลัย+กล่าวคำอวยพร+ดื่มอวยพร หลังจากประธานเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านดื่มอวยพร ดนตรีบรรเลงเพลงมหาฤกษ์แบบย่อ )
ขอขอบคุณท่าน/คุณ............................................ ............เป็นอย่างสูงค่ะ

(ช) ขอเรียนเชิญ ท่าน/คุณ................................................. (ชื่อ และ ตำแหน่ง)ในฐานะที่ท่านเป็นบุคคลที่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวให้ความเคารพ เป็นอย่างมาก ขึ้นคล้องพวงมาลัยและกล่าวคำอวยพร เพื่อเป็นศิริมงคลแด่คู่บ่าว-สาว ขอเรียนเชิญครับ
( ประธานคล้องพวมาลัย+กล่าวคำอวยพร+ดื่มอวยพร หลังจากประธานเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านดื่มอวยพร ดนตรีบรรเลงเพลงมหาฤกษ์แบบย่อ )
ขอขอบคุณท่าน/คุณ............................................ ............เป็นอย่างสูงครับ

(ญ) ลำดับต่อไปขอเรียนเชิญคุณพ่อของฝ่ายเจ้าสาวขึ้นมากล่าวคำอวยพรเ พื่อเป็นศิริมงคลแด่คู่บ่าว-สาว ขอเรียนเชิญค่ะ………………………………….
ขอขอบคุณพ่อฝ่ายเจ้าสาว...................................... ..... เป็นอย่างสูงค่ะ
(ช) ลำดับต่อไปขอเรียนเชิญคุณพ่อของฝ่ายเจ้าบ่าวขึ้นมากล่าวคำอวยพร เพื่อเป็นศิริมงคลแด่คู่บ่าว-สาว ขอเรียนเชิญครับ……………………………....
ขอขอบคุณพ่อฝ่ายเจ้าบ่าว..................................... ........ เป็นอย่างสูงครับ

(ญ) ลำดับต่อไป ดิฉัน/กระผม อยากจะแนะนำประวัติคร่าวๆของเจ้าสาวและเจ้าบ่าว
โดยเริ่มจากทางฝ่ายเจ้าสาวก่อน…..

------- พูดคุยกับเจ้าบ่าว-เจ้าสาว-----------
(ช) "ตอนนี้เรามาพูดคุยกับ เจ้าบ่าว-เจ้าสาว บ้างดีกว่าครับ"
(ญ) "ค่ะ เจ้าบ่าว-เจ้าสาวเนี่ย รู้จักกันมาทั้งหมดก็ … ปีแล้ว นับว่านานมากเลยนะคะ อยากจะแอบถามเจ้าบ่าว ว่าเจอกันที่ไหนคะ" (เจ้าบ่าว) "ตอบคำถาม...."
(ช) "แล้วตอนนั้น ปิ๊ง อะไรในตัวเจ้าสาวครับ"
(เจ้าบ่าว) "ตอบคำถาม…………………………………………..."
(ญ) "ดิฉันแอบถามเจ้าสาวของดิฉันบ้างดีกว่า ทำไมถึงยอมตกลงเป็นแฟนกับเจ้าบ่าว ประทับใจเจ้าบ่าวตรงไหนคะ"
(เจ้าสาว) "ตอบคำถาม.…………………………………………..."
(ญ) ... ชวนเจ้าบ่าว-เจ้าสาวคุยเล็กน้อย เช่น เจ้าสาวทราบไม๊ว่า เจ้าบ่าวเนี่ย มีข้อเสียอย่างนึงคือ ไม่ชอบทำงานบ้าน
(ช) คุณว่าอะไรนะ เจ้าบ่าวไม่ชอบทำการบ้าน หรืองานบ้านนะ ผมฟังไม่ถนัด?
(ญ) งานบ้านค่ะ งานบ้าน แหมคุณก็ ฟังให้ดีๆ สิ
(ช) อ่อ ค่อยโล่งใจหน่อย ว่าไงครับ เจ้าสาว รับได้ไม๊ครับ เจอเจ้าบ่าวขี้เกียจแบบนี้
(เจ้าสาว) "รับได้ค่ะ .... ไม่งั้นจะไปเอาใจใครล่ะคะ ถ้าไม่เอาใจสามี" (แล้วแต่จะตอบ)
(ช) มาถึงเจ้าสาวบ้าง ... เจ้าสาวออกตัวว่า ไม่ชอบทำกับข้าวเลยย คุณเจ้าบ่าวคิดว่าไงครับ
(เจ้าบ่าว) "ผมว่า ถึงเค้าทำกับข้าวเก่งหรือไม่เก่ง ผมก็คงไม่รักเค้ามากไปกว่านี้ เพราะตอนนี้ ผมรักเค้ามากที่สุดแล้ว คงมากไปกว่านี้ไม่ได้" (แล้วแต่จะตอบ)
(ญ) "ขอเชิญเจ้าสาว กล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติในงาน" (เจ้าสาว) "ขอขอบคุณ...... " (เจ้าสาว กล่าว)
(ช) "ขอเชิญเจ้าบ่าว กล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติในงาน" (เจ้าบ่าว) "ขอขอบคุณ...... " (เจ้าบ่าว กล่าว)
(ญ) "เราก็ได้พูดคุยกันมาพอสมควรแล้ว จะเห็นได้ว่าคู่นี้เป็นคู่ที่น่าอิจฉาจริงๆ เลยนะคะ จากความรักที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น จนมาถึงวันเวลาที่บานสะพรั่ง จนกลายมาเป็นวันที่แสนหวาน เช่นวันนี้" และก็เป็นคำตอบที่ฟังแล้วประทับใจจริงๆค่ะ
(ช) ขอเสียงปรบมือเป็นเกียรติให้แก่คู่บ่าว-สาวด้วยค่ะ/ครับ บัดนี้ได้เวลาอันเป็นมงคลฤกษ์แล้ว พิธีการจากนี้ไป ขอเชิญคู่บ่าว-สาว จุดเทียนวิวาห์และตัดเค้กค่ะ/ครับ
( ดนตรีบรรเลงเพลงที่ได้ตกลงกันไว้ คู่บ่าว-สาว จุดเทียนวิวาห์และตัดเค้กและนำไปให้พ่อและแม่ของทั้งสองฝ่าย )--------เจ้าบ่าว-เจ้าสาว ตัดเค้ก---------

(ญ) สุดท้ายนี้ เราสองคนขอขอบคุณแขกผู้มีเกียร์ติ ทุกท่าน ที่ร่วมเป็นสักขีพยานให้กับคู่บ่าว -สาวของเราหากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และงานวันนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากบุคคลทั้งสองคนนี้ไม่รักกัน เพราะฉนั้น ต้องขอขอบคุณ "ความรัก" ที่ทำให้ เราได้ปลื้มปิติ ยินดีกับชีวิตคู่ของเค้าทั้งสองคน
(ช) สำหรับคู่บ่าวสาว ชีวิตกำลังเริ่มตันขึ้นค่ะ แต่สำหรับเราสองคน คงต้องจบหน้าที่พิธีกรเพียงเท่านี้ และช่วงเวลาต่อจากนี้ ขอเชิญท่านรับฟังเพลงจากทางวงดนตรี ได้ตามอัธยาศัยค่ะ/ครับ
ขอบคุณค่ะ/ครับ

เฮ้อกว่าจะจบ.... เอามาเปงตัวอย่างนะเนี่ย




 

Create Date : 24 ธันวาคม 2550    
Last Update : 24 ธันวาคม 2550 20:39:39 น.
Counter : 19810 Pageviews.  

1  2  

mak_ky
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




+++ยินดีต้อนรับคร้า...+++
จะพยายามทำให้ blog นี้มีสาระมากๆนะ
สู้ๆสู้ๆ
Friends' blogs
[Add mak_ky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.