สอบใบขับขี่ครั้งแรก แม่เจ้า!! ยากชะมัด
ตั้งแต่เปลี่ยนงานอะไรๆ ก็ต้องเปลี่ยนไป ไม่เคยคิดจะขับรถเลยในชีวิตนี้ ก็ต้องมาหัดขับให้เป็น และสิ่งที่ต้องทำประการแรกคือ ไปเรียนขับรถ จริงๆ มีแต่คนบอกว่าไปเรียนไมวะ เปลื้องตังค์เปล่าๆ แต่ยังไม่เด็ดเท่ากับมีเพื่อนตัวแสบคนหนึ่งบอกว่า " โห เรียนไปก็เหมือนปล่อยควายบนถนนอีกตัว" น่าน ซะงั้น
แต่ก็นะสิบปากว่าไม่เท่าลองดู ก็เลยไปลงเรียนมา ๑๐ ชั่วโมง ก็มีความรู้และทักษะเพิ่มมาอีกหน่อย (หรือจะเหมือนที่เพื่อนมันว่าล่ะเนี่ย) เอานะก็ดีกว่าสอนกันเอง แต่ก็เข้าใจอะไรเยอะขึ้นดีนะ จากคนที่ไม่สนใจเรื่องรถเอาเสียเลย แบบว่าไม่คิดจะขับด้วยซ้ำ แต่เมื่อวันหนึ่งที่ "รถ" เข้ามามีบทบาทในชีวิตก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
และเมื่อเวลามีจำกัดเรียนขับรถมา ๕ วันก็ต้องลงสนามสอบแล้วล่ะ เพราะความที่ต้องขับรถให้เป็นในเวลาค่อนข้างจำกัด ก็เลยวัดดวงสอบเลยให้มันรู้แล้วรู้รอดไป แล้ววันสอบใบขับขี่ก็มาถึง
วันนั้นไปตั้งแต่แปดโมงเลย อาคาร ๔ เดินขึ้นมาชั้น ๒ เข้ายื่นเอกสารเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง เอกสารประกอบด้วย ใบรับรองแพทย์ สำเนาบัตรประชาชน จากนั้นก็ไปต่อแถวรับบัตรคิว เพื่อรับเอกสารเตรียมตัวสอบสภาพสายตา
มาเข้าแถวต่อตรงนี้เค้าจะถามว่าเอาแบบเก่าหรือแบบใหม่ อะไรวะนึกว่าบังคับทำบัตรใหม่ ดันให้เลือกบัตรเก่าด้วย เอาไงดีหว่า แต่สุดท้ายก็เลือกบัตรเก่าด้วยเหตุผลว่า บัตรเก่าน่าจะหาข้อมูลได้ยาก (คิดได้ไงฟ่ะช้านนน)
จากนั้นก็เดินขึ้นไปชั้น ๓ เพื่อดำเนินการทดสอบจุดแรกคือ ทดสอบเรื่องตาบอดสี จากนั้นก็ทดสอบความไวของสายตา โดยจำลองสถานการณ์ไฟจราจร หากเป็นสีเขียวก็ให้เหยียบคันเร่ง หากเป็นสีแดงก็ให้เหยียบเบรค ตรงจุดนี้ต้องเหยียบให้ไว จากนั้นก็ไปจุดต่อไป กาวัดสายตาด้านกว้างโดยการเอาจมูกวางตรงจุดที่กำหนด เค้าจะเปิดไฟเขียวไฟแดงให้เรามองแล้วตอบว่าไฟอะไร ขั้นตอนการตรวจสายตาเป็นไปด้วยดี
หลังจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงการอบรมความรู้เกี่ยวกับการขับขี่ ไอ้เราก็กังวลว่าจะสอบข้อเขียนตกก็อ่านหนังสือใหญ่เลย แต่ที่ไหนได้ไม่ต้องอ่านแค่ฟังวิทยากรก็ทำข้อสอบได้แล้ว วิทยากรคนนี้เก่งมากอธิบายเรื่องยากให้เข้าใจและจำได้ง่ายล่ะ
เมื่อจบการบรรยายก็เข้าสู่การทำข้อสอบ E-exem ไฮเทคดีจัง แค่กดคำตอบในคอมพิวเตอร์ แล้วก็กดส่งข้อสอบดูสถานะคือผลที่เราทำได้ งานนี้พลาดไปสองข้อ แต่ก็ผ่านเพราะเค้าไม่ให้ผิดเกิน ๗ ข้อ ข้อสอบก็ตามที่วิทยากรบอกนั่นล่ะ
แต่รู้สึกไม่ค่อยดีก็ตอนกรมขนส่งทางน้ำมาดูงาน ในขณะที่พวกเราทำข้อสอบ ไม่อยากจะบอกว่าเสียงดังมาก รบกวนสมาธิเป็นยิ่งนักดีนะที่ทำเสร็จแล้วเหลือแต่ตรวจทาน ไม่งั้นมีตบโต๊ะแน่ๆ คนจะใช้สมาธิดันมาเสียงดังอยู่ได้
เมื่อรู้ผลสอบหากไม่ผ่านก็กลับบ้าน หากผ่านก็ไปต่อยังการทดสอบปฏิบัติ ซึ่งต้องบอกว่า "ลุ้นโครตๆ" ยังกะมาจับใบดำใบแดงเกณณ์ทหารเลยล่ะ แต่ละคนก็ลุ้นคันที่สอบว่าจะสอบผ่านหรือเปล่า กดดันเป็นที่สุดดีนะอยู่ในกระจกทืบ ไม่เห็นคนข้างใน
และเมื่อเวลาสอบ แม่เจ้า ทำไมมันเครียดแบบนี้ฟ่ะ ตื่่นเต้นชะมัดหัดขับเกียร์ธรรมดา แต่ตอนสอบใช้เกียร์ออโต้ เพราะดูแล้วหากใช้เกียร์ธรรมดาขับมีหวังตกตั้งแต่ด่านแรกแน่ๆ ซึ่งเกียร์ออโต้ขับง่ายกว่าเยอะ
ตอนแรกคิดว่าวันนี้จะโชคดีได้เลข ๙ ตลอดเลย บัตรคิว ๑๓๙ บัตรคิวก็ ๑๙ เอาวะวันนี้โชคดีแน่ๆ พอถึงเวลาสอบจุดที่ ๑ ผ่านฉลุย จุดที่ ๒ ผ่านฉลุย แต่จุดที่ ๓ นี่สิ ดันลืมชิดขอบทางกับจอดตรงกรรมการ สุดท้ายตกขับพี่น้อง
แต่ไม่เป็นไรมีสอบซ่อมได้ หากไม่ผ่านก็มีสิทธิ์มาสอบซ่อมภายในสามเดือน ไอ้เราก็มาแต่เช้าเลยกลัวไม่ได้สอบ พอเวลาสอบจริงๆ ลุ้นแทบแย่ และก็สอบผ่าน แล้วชั้นก็ได้ใบขับขี่มาครอบครองแล้วล่ะ
Create Date : 11 มิถุนายน 2552 |
|
7 comments |
Last Update : 17 กรกฎาคม 2554 16:36:18 น. |
Counter : 1407 Pageviews. |
|
|
|
แหม อย่างงี้เขาเรียกว่า คนแน่จริง ๆ
เรียนไม่ทันไร ก็สอบผ่านแล้ว เก่งมาก ๆค่ะ
ยินดีด้วยนะค่ะ ว่าแต่ว่า ...มีฉลองด้วยปะ (เด๋วไปร่วมด้วย อิอิ )