ลำธารโออิระเสะ (Oirase Stream |奥入瀬渓流) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori | 青森) เส้นทางเดินป่าชมลำธารน้ำและใบไม้เปลี่ยนสี สวยที่สุดในโทโฮคุ ..อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Towada-Hachimantai จังหวัด Aomori เป็นเส้นทางเดินธรรมชาติเลียบลำธารน้ำที่ไหลแยกออกจากทะเลสาบ Towada ตรงจุดที่เรียกว่า Nenokuchi ไหลเข้าไปในป่าจนถึงจุดที่เรียกว่า Yakeyama ระยะทางยาวทั้งหมด 14 กิโลเมตรให้ชื่อว่าลำธารทอง .. ไม่น่าผิดเพราะฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่ ใบไม้จะเป็นสีเหลืองเป็นหลักจขบ. หมายมั่นปั้นมือที่จะมาเยือนที่นี่หลายครั้งหลายหน แต่มีเหตุให้ต้องเปลี่ยนแผนอยู่เนือง ๆทริปนี้จัดลงที่นี่ 4 พ.ย. 2024 ... ตามพยากรณ์ใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นเวปหนึ่ง ทำนายว่าที่นี่จะสวยสุดในวันที่ 4 พ.ย. 2024 นั่นแลการท่องเที่ยวที่นี่แบบไม่เช่ารถ ต้องอาศัยรถบัสของ JR Bus Tohoku ซึ่งรถบัสนี้จะวิ่งบนถนนเลียบลำธารโออิระเสะ ซึ่งผู้ที่มีบัตร JR Pass หรือ JR East Tohoku Pass สามารถโดยสารรถบัสได้ฟรี!! ไม่จำกัดจำนวนรอบโดยสาร โดยมี 2 เส้นทางคือเส้นทางจากสถานีอาโอโมริ (Aomori Station) / ชิน-อาโอโมริ (Shin-Aomori Station) ผ่านลำธารโออิระเสะ และไปสุดที่ทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake) เส้นทางนี้จะผ่าน Hakkoda Ropeway ด้วยเส้นทางจากสถานีฮะจิโนเฮะ (Hachinohe Station) ลำธารโออิระเสะ และไปสุดที่ทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake) สำหรับคนที่ไม่ได้ขึ้นเหนือไปถึงตัวเมืองอาโอโมริ ก็สามารถเริ่มต้นเที่ยวได้จากเมือง Hachinoheเดิมที จขบ.จองที่พักใน Hachinohe ไว้ แต่ตารางเที่ยวจะปรับเปลี่ยนใด ๆ ไม่ได้เลยถ้าสภาพอากาศเปลี่ยน เลยพักที่ Aomori เหมือนเดิม (ตามคาด จขบ.เปลี่ยนแผนอุตลุตตามความต้องการของบัดดี้ร่วมทริป)การขึ้นรถที่ Aomori ก็ขึ้นที่หน้าสถานี JR Aomori ซึ่งจะมี Information center อยู่ เราจะไปรถรอบแรกสุดของวัน 8.00 น. แต่ ณ เวลาที่มาถึงที่นี่ คือ 7.30 น. คิวรอขึ้นรถยาววววววววว แล้วแถมทำการบ้านมาไม่ดี คิดว่า JR East-South Hokkaido Rail Pass ของเราจะสามารถขึ้นรถได้ฟรี ... แต่ทว่า .. ไม่ใช่ค่ะที่ฟรี มีแค่ 2 Pass เท่านั้น คือ JR Pass ใหญ่ และ JR East Tohoku area pass เท่านั้นจะมี จนท. มาเตรียมความพร้อม เดินมาจัดคิว เดินมาถามว่ามีตั๋วรถหรือยัง ตั๋วก็ซื้อใน Information center นั่นแหละค่ะ มีตัวเหมาด้วย 2 วันด้วย Aomori/Hachinohe/Lake Towada Free Ticket ซึ่งเป็นตั๋วรถบัสแบบเหมา 2 วันขึ้นรถบัสได้ไม่จำกัด แต่มีช่วงเวลาจำกัด ซึ่งใครใช้ JR Pass ไม่ได้ ซื้อตัวนั้นจะคุ้มกว่า แต่เราซื้อไม่ทันแล้วการเข้าคิวรอขึ้นรถบัสที่ Aomori ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลเลยค่ะ ดีมาก ๆ จนท.เค้าจะนับคน และจัดรถเสริมมาให้ทุกคนได้ขึ้น แต่ว่า คนที่ขึ้นหลัง ๆ อาจได้นั่งเก้าอี้เสริมระหว่างเบาะสายขวาได้ ซึ่งอาจนั่งไม่ค่อยสบายขึ้นรถมา ถ้าจะจ่ายเป็นเงินสดบนรถ (เตรียมเงินให้พอดี ไม่มีทอนเงิน แต่มีตู้ให้แลกเงินได้ตอนจะลงรถ) เราต้องหยิบบัตรหมายเลขมาด้วย เมื่อก่อน ขึ้นมาเป็นกลุ่มหยิบใบเดียวได้ แต่ปัจจุบัน คนละใบไปเลย เค้าจะเอาไว้เช็คยอดเงินกับตั๋วหมายเลขเราขึ้นป้ายแรก ได้หมายเลข 0 เวลาจะลงก็เช็คราคาค่ารถกับจอมอนิเตอร์ ดูที่หมายเลขตรงกับของเรารถจะจอดพักรถที่แรก คือ Kayano Kogen 萱野高原 เป็นที่ตั้งแคมป์มีร้านอาหาร มีห้องน้ำ เราสามารถลงไปถ่ายภาพได้ แล้วกลับมาขึ้นรถอีกที ตามเวลาที่คนขับรถกำหนดใบไม้แดงของที่นี่ ค่อนข้างมีน้อย เน้นเหลือง ๆ ส้ม ๆ มากกว่าผ่าน Hakkoda Ropeway เราไม่ได้ลงค่ะ ที่นี่ เลย พึคแล้ว เพราะอยู่ที่สูงกว่าผ่าน Jigoku-numa Pond อยู่ติดริมถนนเลย ถ่ายภาพได้จากบนรถวิวระหว่างทางจุดจอดรถอีกจุดที่จอดรถค่อนข้างนาน ... คือ ที่ Yachi Onsenจอดค่อนข้างนานพอ ๆ กับที่จอดป้ายแรกเลยค่ะ ถ่ายรูปจนเบื่อ แต่ถ้าจะเข้าห้องน้ำ ก็พอดีกับเวลารอคิววิวระหว่างทางก็แบบเดิมค่ะ แต่พอเข้ามาลึก ๆ ใบก็เยอะกว่า (ยังไม่ร่วงเท่าช่วงแรก)ช่วงที่เรามา รถยนต์ส่วนตัวสามารถเข้าได้แล้วค่ะ ก็ไม่ถือว่ามีรถเยอะมากจนน่ารำคาญเส้นทางเดินยอดนิยมจะอยู่ระหว่าง Ishigedo Nenokuchi ระยะทาง 9 กิโลเมตร ทำได้โดยนั่ง JR Bus มาลงที่ป้าย Ishigedo จากนั้นเริ่มเดินทวนกระแสน้ำจาก Ishigedo ไปสุดที่ต้นน้ำริมทะเลสาบที่ป้าย Nenokuchi (ในทางกลับกันคือเดินตามกระแสน้ำจาก Nenokuchi Ishigedo) โดยตลอดเส้นทางเดินยาว 9 กิโลเมตร มีรถบัสให้บริการจอดรับส่งผู้โดยสารทั้งหมด 6 ป้ายก่อนจะถึงป้ายที่เค้าแนะนำให้ลง รถจะจอดนานอีกที่ คือที่ Tsuta Onsen เราเข้าห้องน้ำกักตุนที่ป้ายนี้ได้ค่ะแต่เราเชื่อคำรีวิว เราเลยลงที่ Ishigedo ... ทีแรกนึกว่าจะมีลานจอดรถ แต่ป่าวค่ะ เค้าเป็นร้านค้าริมทาง ที่ค่อนข้างใหญ่ มีห้องนั่งพัก มีร้านค้า มีห้องน้ำ และที่ให้เช่ารถจักรยานจะใช้เวลาเฉพาะที่นี่ก็ได้ค่ะ เช่าจักรยานปั่นไปกลับ หรือเดิน trial เล็ก ๆ แล้วกลับมาก ป้ายขากลับเข้า Aomori หรือ Hachinohe ตามนี้ค่ะเราจัดการตัวเอง เข้าห้องน้ำ หม่ำข้าวปั้นที่เตรียมมา ชิมน้ำแอปเปิ้ล ไอติม .. เรียบร้อยแล้วก็เริ่มต้นเดินเลียบลำธารค่ะเดินง่ายค่ะ ง่ายสุดในสามโลกแล้ว แต่ว่า เราไม่ได้ทำเวลาในการเดินใช้เวลาส่วนมากในการตั้งกล้องถ่ายภาพตัวลำธารอยู่เลียบถนนใหญ่ ใครขับรถไป แวะจอดถ่ายภาพแล้วไปต่อใครปั่นจักรยานก็เช่นกัน แต่ต้องระวังรถหน่อยส่วนใครเดิน ก็เดินไปเรื่อย ๆ ค่ะ ตามทางที่เค้าทำไว้ให้เดินง่าย สวยเหมือน ๆ กัน ยังไม่ถึงจุดไฮไลท์เหมาะสำหรับเบื่อบ้า ก็เดินเล่นในป่า จริง ๆเราเดินถ่ายภาพกันชิลล์จริง ๆ เวลาเดินช้า .. แต่ไม่เหมาะกับการจับรถบัสไปถึงป้าย Makadowa เราก็ต้องรอรถบัสแล้วค่ะ จะไปให้ถึงจุดไฮไลท์ คือป้ายน้ำตก Kamoi no taki และป้ายน้ำตก Chosi otaki ฝีเท้าเราก็ไปไม่ถึง รถบัสรอบที่จะเข้าไปถึงทะเลสาบ Towadaเรารอรถ รอบ 11.47 น. รถบัสเข้าป้ายช้ากว่าที่กำหนดไว้ 10 นาที เกือบตัดใจเดินต่อแล้วไปหิวข้าวตายในป่า .. เพราะรถรอบถัดไป ที่ป้ายหน้า ประมาณบ่ายโมงเกือบบ่าย 2น้ำตก Chosi ถ่ายจากบนรถรถบัสเข้าป้ายสุดท้ายที่ Lake Towada 12.29 ช้ากว่าปกติ 9 นาที สิริรวมค่ารถ จากป้ายที่เราขึ้นระหว่างทาง 1,120 เยนเช็ครอบรถขากลับ แล้วเที่ยวต่อเข้าไปในร้านค้าที่เป็นจุดจอดรถ .. ที่นี่มีขายตั๋วลงเรือล่องทะเลสาบ Towada ด้วยเช็ครอบเรือแล้ว ไปรอบ 13.30 น. ใช้เวลาล่องเรือ 45 นาที ค่าล่องเรือ 1,650 เยนก็จะกลับมาขึ้นรถบัสรอบสุดท้ายเข้า Aomori เวลา 15.00 น. แบบสบาย ๆ ถ้าตกรถรอบนี้ ก็ไปรอบ 16.00 น. เข้า Hachinohe แล้วนั่งรถไฟกลับเข้า Aomori ...ทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada / 十和田湖) ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติโทวาดะ-ฮาจิมันไต (Towada-Hachimantai National Park) โดยอยู่ระหว่างจังหวัดอาโอโมริ (Aomori) และจังหวัดอาคิตะ (Akita) เป็นทะเลสาบที่เกิดจากการประทุของภูเขาไฟเมื่อหลายหมื่นปีก่อน จนเกิดเป็นแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาด (Caldera) จากนั้นค่อยๆ สะสมของน้ำฝนปริมาณมากจนกลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ดังที่เห็นในปัจจุบันมีความลึกที่สุดเป็นอันดับ 3 ของทะเลสาบในประเทศญี่ปุ่นทะเลสาบโทวาดะยังมีฉายาว่า ทะเลสาบลึกลับ เพราะว่าทะเลสาบแห่งนี้แม้จะตั้งอยู่ในในราบสูงทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นพื้นที่ภูมิภาคที่มีอากาศหนาวมาก แต่น้ำในทะเลสาบช่วงฤดูหนาวจะไม่กลายเป็นน้ำแข็งกิจกรรมที่ทะเลสาบนี้ก็หนีไม่พ้นการนั่งเรือชมวิว .. เรือมาจอดนานแล้ว แต่ไม่เปิดให้ลงเรือสักที ลมก็แรงขึ้นหนาวขึ้น รอจนได้เวลาลงเรือก็ยังไม่เปิด เลยไปถาม จนท. เค้าบอกว่า .. ลมแรง .. ออกเรือไม่ได้ (เดจาวูกับตอนจะไปล่องทะเลสาบอาชิ ...) คืนเงินค่าตั๋วได้นะครับทั้งหมดคือถาม จนท.ที่ Information center ด้านหลังที่นี่ขายตั๋วลงเรือด้วย จนท. พูดภาษาอังกฤษได้ต้องไปรับเงินคืนจุดที่ซื้อตั๋วมา คุณตาที่ขายตั๋วให้พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่แกก็รู้ว่าเราจะคืนตั่ว ยื่นตั๋วให้ แกก็ยื่นเงินคืนให้เลยไปหาอะไรกินกันค่ะ ร้านอาหารแถวนี้มีเยอะ แต่ช่วงเที่ยง มีทัวร์ลง เราเลยยังไม่ไปกินเป็นเซ็ตอาหารเที่ยงง่าย ๆ ราคาไม่แรงถ่ายรูปเล่น แล้วไปเข้าห้องน้ำ พักให้ตัวอุ่น ๆ ใน Information center แล้วก็มารอคิวขึ้นบัสกลับ เรายืนเป็นคนแรก ๆ จากนั้นคิวก็ยาว จนเค้าต้องเรียกรถเสริมเช่นเคยระหว่างทางก็มีคนขึ้นรถมาเรื่อย ๆ ตามป้ายหลัก ๆ ที่เป็นที่เที่ยวไฮไลท์เก้าอี้เสริมถูกกางออก ... พอเก้าอี้หมดก็ต้องยืน ..ถึงจุดพักรถ เราไม่ลงไปไหนแล้วค่ะ เดี๋ยวไม่มีที่ให้นั่งพอคนลงแถว ๆ onsen ระหว่างทาง ก็จะพอมีที่ว่าง คันไหนว่างแล้ว ก็จอดไปถ่ายคนออกจากรถคันที่ยังมีคนยืนอยู่ คนขับรถเค้าประสานงานกันดีจริง ๆ ...เส้นทางเดินป่า พร้อมระยะเวลาการเดิน (แบบคนญี่ปุ่น คือเดินเร็ว) เราทำเวลาตามนั้นไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวที่มาภาพ : Japan Travelถ้าให้ตัวเองแนะนำ เส้นทางเดิน สำหรับคนที่เดินช้า เพราะมัวแชะภาพ มัวชมวิวถ่ายภาพ ...เข้าห้องน้ำกักตุนที่ป้ายก่อนถึง Ishigedo ที่เค้าจอดนาน ๆนั่งรถไปลงป้ายไฮไลท์เลย คือ Kumoi no Stream อันนั้นคือเดินเข้าไปในป่าอีกนิดนึง ไปดูน้ำตกที่ไหลลงมาจากที่สุูง เดินต่อไปน้ำตก โชชิ Chosi Otaki แล้วค่อยนั่งบัสไปลงทะเลสาบ ....ถึงจะไม่ได้แวะจุดไฮไลท์ แต่ก็มีความสุขกับเส้นทางนี้ค่ะ .. ไม่เปลืองแรงดี ...การเดินทางล่าใบไม้เปลี่ยนสี ยังไม่จบค่ะ .. โปรดติดตาม
สารบัญตอนที่ 1 Aomori & Hirosaki againตอนที่ 2 กองทัพเดินด้วยท้อง ที่ Aomori