มูโรโด (Murodo Station) แห่งเส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ
มูโรโด ดุจแดนสรวง ที่ความสูง 2,450 เมตร
ในที่สุด Tateyama Highland Bus ก็พอเราคดเคี้ยวเลี้ยวลดมาจากสถานีบิโจไดระ .. มาถึงสถานีมูโรโด ในเวลาประมาณ 10.30 น.
มูโรโดถือเป็นสถานีที่มีทางรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่น เป็นสถานที่ใหญ่ที่สุดของเส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route) ไม่ว่าคุณจะมาในฤดูใด...ฤดูชมกำแพงหิมะ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี หรือฤดูสกีที่เค้าเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาได้ .. คุณต้องมาที่นี่เสมอ
มีจุดให้เดินชมวิวที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย อาทิ อ่างน้ำมิกุริกะ (ปากปล่องภูเขาไฟ) บ่อน้ำพุร้อน หุบเขานรกที่เต็มไปด้วยพิษร้อนภูเขาไฟ ทิวเขาสูงแนวต่อแนว พืชพันธุ์ไม้นานาพันธุ์ นกขึ้นชื่อของแถบนี้ ...
เรามาชดเชยสถานีที่เราพลาดการเข้าไปเยี่ยมชมอย่างใกล้ชิด ... มาให้ที่นี่ .. มูโรโดแดนสรวง.. แทน ตามมาเลยค่ะ คำเตือน รูปอาจเยอะมาก..
บ่อน้ำพุใต้ดิน .. อยู่ตรงหน้าสถานีมูโรโดนี่เอง เป็นน้ำที่ออกมาจากอุโมงค์ใต้ภูเขาทาเตยามะ จากความลึก 2,500 เมตร แล้วยังไหลเป็นทางยาวไปถึง 3,000 เมตรบนเขาโอยามะ (Oyama) ภูเขาอีกลูกที่อยู่ข้างเคียง
น้ำจากน้ำพุใต้ดิน ดื่มได้ .. น้ำเย็นเจี๊ยบชื่นใจ นักท่องเที่ยวจะเอาภาชนะมารองน้ำไปดื่มระหว่างทาง .. ตัวเองก็ทำเหมือนกันค่ะ ... ประหยัดค่าน้ำดื่ม บนเขาแบบนี้ น้ำดื่มธรรมดา จากขวดละ 108 เยน ขยับขึ้นไปเป็น 150 เยน (แต่ก็เท่ากันกับที่หมู่บ้านมรดกโลกนะคะ .. )
เส้นทางเดินชมธรรมชาติจะวนเป็นวงกลม กลมเล็ก กลมใหญ่ แล้วแต่กำลังขา มีซอกซอยทะลุถึงกัน (สำหรับคนขี้โกงระยะทาง แต่อาจพลาดจุดสำคัญที่สวยงาม)
ไม่ต้องคิดอะไรเลยค่ะ ... เราเดินในทิศที่หนีนักท่องเทียวทั้งมาเอง และเป็นกรุ๊ปทัวร์ ... สุดท้ายแล้ว เราก็จะได้เห็นอะไรครบถ้วนเท่าที่เราอยากจะเห็น (ถ้าเรามีเวลาพอ... )
เริ่มเลยนะคะ ...
กติกามารยาทในการเที่ยวชมที่นี่ ก็คือเดินในทางที่เค้าทำไว้ให้ ไม่ออกนอกเส้นทาง ไม่เก็บดอกไม้ ต้นไม้บนเขา ไม่ไล่จับนกขึ้้นชื่อ ไม่ทิ้งขยะ ...
เราเริ่มต้นเดินเวียนซ้าย .. (เพราะกรุ๊ปทัวร์พานักท่องเทียวเดินเวียนขวา .. แค่เห็นก็เวียนหัวค่ะ .. ยิ่งได้ยินเสียง ยิ่งเวียนหัวใหญ่เลย)
เก็บภาพกันค่ะ .. ถ้าอยากได้ภาพคุณภาพดี ก็ต้องพกขาตั้งกล้องมาด้วย (แต่ไม่เคยทำได้สักที ขี้เกียจถือ .. เลยได้ภาพมาแบบนี้ล่ะค่ะ ... )
มองเห็นกลุ่มอาคารของ Tateyama Murodo Senso เป็นโรงแรมขนาดจุได้ 200 คน มีห้องแบบญี่ปุ่น 37 ห้อง ทุกห้องไม่มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำในตัว แต่จะมีห้องอาบน้ำรวม เปิดให้บริการช่วงกลางเดือน เม.ย. ถึงกลางเดือน พ.ย. เท่านั้น นอกนั้นการเดินทางสาธารณะทุกอย่างบนเส้นทางนี้จะปิดหมด เพราะหิมะเริ่มหนาแล้ว (แต่เราไม่ได้พักที่นี่)
ชมวิวไปเรื่อย ๆ ... ไม่นานก็พบกับบึงมิโดริงะ (Midoriga-ike) เป็นบึงที่เกิดจากปล่องภูเขาไฟ .. ข่าวไม่ได้แจ้งว่า ดับแล้วหรือยัง .. (เดินไปแบบไม่กลัวอะไรเลย)
มียอดเขา Dainichidake เป็น background ด้านหลัง ... น้ำไม่ลึกค่ะ แต่ไม่ใครลงไปเล่นนะคะ
พืชพันธุ์ไม้ริมน้ำ น่ารักเชียวค่ะ
ต้นไม้เล็ก ๆ ที่ทำให้เราเห็นเป็นพื้นแดง ๆ มาจากเจ้าตัวจิ๋วนี่ ที่แอบเปลี่ยนสีก่อนไม้ใหญ่
ดอกไม้ที่เห็นกันมากในแถบนี้ ช่วงนี้ .. คือเจ้านี่ .. ยังหาชื่อไม่เจอค่ะ แว๊บไปแว๊บมา
แต่เรื่องสีสดใส ต้องยกให้ต้นนี้ค่ะ นานากะมะโดะ (Japanese Rowan) เป็นไม้เผาไหม้ยาก ว่ากันว่าถ้าใช้เป็นฟืนหุงข้าว 7 หน ก็ยังไหม้ไม่หมด ในหน้าร้อน จะออกดอกเล็ก ๆ สีขาวเต็มไปหมด แต่ในฤดูใบไม้ร่วง ผลและใบจะเป็นสีแดงสด
เอาให้ชัด ๆ .. ก็แบบนี้ ค่ะ ..
ชมพืชแล้ว .. ชมวิวต่อ ... เดินไปไหนก็เจอแต่ภูเขา
และ .. คน
คนแก่ญี่ปุ่น ... แก่ยังไงก็ยังเดินป่า ปีนเขา เดินเที่ยวไกล ๆ .. ได้สบาย ๆ ...
เดินบ้าง พักบ้าง... สบาย ๆ เรามีเวลาเหลือเฟือค่ะ
เพราะเรานอนที่นี่ ... นู่นเห็นมั้ยคะ Raichoso ที่พักของเรา ... (ตอนจองคิดอย่างเดียวว่า ใกล้ ๆ ไม่ตื่นเต้น จองไกล ๆ จะได้เดินชมวิวข้าง ๆ ไปด้วย)
วิวสวยใช่มั้ยล่ะ .. แล้วเดินไกลแค่ไหน .. ตามมา
เจ้าหลุมแห้ง ๆ นั่น คือบึง Chi-no-ike ไม่มีน้ำ ..
เห็นประชากรแบกเป้ คลุมเสื้อกันฝนเดินเรียงแถวมานั่นมั้ยคะ (กันทำไม .. แดดออกจะจ้า..) เค้าเดินกลับจากที่พัก Raichoso นั่นแหละค่ะ ที่นั่นฝนน่าจะตก
เห็นป้ายบอกทางไปที่พักแล้วค่ะ .. เดินแยกขวาจากจุดชมวิว อิมมาได Enmadai (เป็นศูนย์ควบคุมและแจ้งเตือนก๊าซภูเขาไฟ อยู่ริมหุบเขานรก จิโกกุดานิ
แต่เรายังไม่ไปที่พักค่ะ จะไปเที่ยวที่อื่น ๆ ก่อน เย็น ๆ ค่อยกลับมา ...
เลี้ยวซ้ายไปก็จะเจอโรงแรมและบ่ออาบน้ำแร่ริมบึงมิกุริกะ (Mikuriga-ike Onsen) โดนคุณน้องขาต่อว่า เจ้ทำไมไม่จองที่พักที่นี่ เดินไม่ไกล วิวก็สวย เบื้องหน้าเป็นหุบเขานรก เยื้องด้านซ้ายเป็นบึงมิกุริกะ .. แสนสวย
จะรู้มั้ยเนี่ย.. ในเวปเค้าไม่ได้บอกชื่อแต่ละที่เป็นภาษาอังกฤษชัด ๆ แบบนี้ ไม่รู้จะเอาคำไหนไปใส่ google search
หุบเขานรกจิโกกุดานิ (Jigokudani) เป็นโซนอันตรายที่มีแก๊สภูเขาไฟพวยพุ่งขึ้นมาได้ตลอดเวลา ปัจจุบันเค้าไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินลงไปชมใกล้ ๆ แล้ว ให้ชมอยู่ห่าง ๆ ..
ไปเดินชมบึงมิกุริกะ (Mikurika-ike) ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ดีกว่า ...
ความงดงามของที่นี่เป็นตัวแทนของมูโรโด ปล่องภูเขาไฟแห่งนี้ พอพ้นเดือน มิ.ย. ไป น้ำในบึงจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม สะท้อนเงาภูเขาทาเตยามะ อย่างสวยงาม (ตอนนี้แดดเที่ยงวัน .. สะท้อนได้ไม่สวยเท่าไหร่)
บึงสวย ยามเย็น ช่วงที่เรากลับจากเที่ยว จะเข้าที่พักที่ Raichoso
น้ำจากบ่อนี้ เดิมทีใช้นำไปปรุงอาหารเพื่อถวายเทพเจ้าในป่าสน ถือเป็นครัวของเทพเจ้า เป็นที่ที่อุดมสมบูรณ์ มีนกไรโจ (Raicho หรือนกสายฟ้า) อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
ตัวนี้จากภาพถ่ายในสถานีบิโจไดระ
ส่วนตัวจริง เจอวันกลับ .. ที่ฝนตกจนยกกล้องใหญ่มาถ่ายไม่ได้ ถ่ายได้ด้วย iphone ..
นกไรโจ หรือนกสายฟ้า (Ptermigan) จะอาศัยอยู่เฉพาะแถบภูเขา สมัยก่อนถือเป็นนกส่งสารของเทพเจ้า แม้คนจะเข้าไปใกล้ นกก็จะไม่หนี จะผลัดขนสีต่าง ๆ กันโดยสิ้นเชิงในฤดูร้อนกับฤดูหนาว แถบนี้มีนกชนิดนี้อาศัยอยู่ประมาณ 240 ตัว ได้เห็นตัวหนึ่งก็เป็นบุญตาแล้ว
มาเดินบนเขา ใส่เสื้อสีสด ๆ มานะคะ .. เวลามีอะไร หน่วยกู้ภัยจะได้หาเราเจอ..
เดินกลับไปสถานีมูโรโด ชุมทางเดินทาง มีโรงแรมทาเตยามะอยู่ใกล้ ๆ ... (จองแล้วค่ะ แต่จ่ายตังค์ไม่ไหว แพงไปสำหรับข้าพเจ้า..อิอิ)
เตรียมไปเที่ยวต่อนะคะ ยังเหลืออีกหลายสถานี .. นี่แค่บ่ายกว่า ๆ เอง .. (บอกแล้วเอาให้คุ้ม)
ตอนแรก : ภารกิจพิชิต Tateyama Alpine Route ต้นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
ตอนที่ 2 : ไปให้ถึงทางเริ่มต้นเส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ
ตอนที่ 3 : จากสถานีต้นทางเลยไปถึงทุ่งชุ่มน้ำมิดางะฮาระ
ตอนที่ 4 : มูโรโด (Murodo Station) แห่งเส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ
ตอนที่ 5 : นั่งกระเช้าไฟฟ้าชมเขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) ตอนที่ 6 : นอนค้างกลางเขา .. ทาเตยามะ .. ที่ไรโจโซ Raichoso
ตอนที่ 7 : Tateyama - Toyama - Himi ... เส้นทางชิล ๆ ... เดินทางเพลิน ๆ
Create Date : 08 ตุลาคม 2559 |
|
4 comments |
Last Update : 29 ตุลาคม 2559 13:48:02 น. |
Counter : 5148 Pageviews. |
|
|
|